สามีข้า คือพรานป่า 390 คําอธิบาย

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 390 คําอธิบาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 390 คําอธิบาย

หนิวสื่อยังคงกล่าวด้วยท่าทีราวกับกําลังจะสิ้นใจ “ทําไมแม่นางจะไม่รู้จักข้า? ข้ายังทราบเลย ว่าบนไหล่ของคุณหนูสามมีไผ่สีแดงอยู่หนึ่งเม็ด!”

แม้ว่าข้าหลวงหยิงจะมั่นใจว่าบุตรสาวของตนไม่มีทางทําเรื่องเช่นนี้แน่นอน ทว่าหลักฐานตรง

หน้ากลับชัดเจนยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาอยู่ต่อหน้าหยุนเถียนเถียนจึงต้องรีบอธิบาย!

หากต้องใช้บุตรสาวผู้ไร้ประโยชน์ของตนเองแลกกับความสบายใจของหยุนเถียนเถียน! ข้าหลวงหยิงนับว่าการค้าขายครั้งนี้คุ้มค่ามาก!

“แม่นางหยุนวางใจได! แม้เป็นบุตรของข้า แต่หากท่าเรื่องไม่ดี ตัวข้าย่อมให้ความยุติธรรมกับแม่นางอยู่แล้ว! ข้าจะกลับไปจัดการลูกไม่เอาไหนของข้าเอง แม่นางโปรดรอติดตามข่าวจากเรือนขาได!”

หยุนเถียนเถียนไม่กล่าวอะไร เพราะข้าหลวงหยิงจะจัดการอย่างไรก็เรื่องของเขา แม้จะลงไม้ลงมือหรือถึงขั้นฆ่ากันก็สุดแล้วแต่ เพราะอย่างไรนางก็คือบุตรแท้ ๆ ของข้าหลวงหยิง! ทั้งคําหลอกลวงทั้งหมดสามารถทําลายได้ด้วยการสะกิดเพียงครั้งเดียวและข้าหลวงหยิงก็จะทราบว่าเรื่องนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!

แต่ต่อให้รู้ว่ามีเล่ห์เหลี่ยมแฝงอยู่ ข้าหลวงหยิงก็ตัดสินใจละทิ้งบุตรสาวคนนี้อยู่ดี! หากจะประโยชน์เช่นนี้!

โทษก็ต้องโทษหยิงซื่อเอ๋อที่ชะตาชีวิตไม่ดีจึงถูกกําหนดให้เป็นบุตรของบิดาที่เห็นแต่เรื่องผล

เมื่อข้าหลวงหยิงจากไป หยุนเถียนเถียนจึงหันหน้าไปพูดกับพ่อของจู๋สื่อว่า “ในเมื่อหนิวสื่อฆ่าคนตายไปแล้ว สิ่งที่รอเขาอยู่ภายหน้าคือโทษประหารชีวิตแน่นอน! บัดนี้พวกเจ้าจงกลับไป

ทํางานของตนเองตามเดิมได้แล้วล่ะ ส่วนหนิวสื่อก็ปล่อยให้เหล่าขุนนางจัดการเสีย!”

บิดาและมารดาของจู้สื่อเห็นทุกอย่างกับตาตนเอง แม่นางหยุนไม่แม้แต่ทําอันใดให้เป็นการ

เสียหน้าข้าหลวงหยิง ฝ่ายข้าหลวงหญิงก็ยอมถึงขั้นขายหน้าลูกสาวเพื่อเอาใจแม่นางหยุน…

เมื่อบิดามารดาของจู้สื่อเริ่มมีสติไตร่ตรองจึงตระหนักได้ว่าแม่นางหยุนมีฐานะสูงส่งไม่น้อย
ยิ่งนัก!

เมื่อนึกถึงพฤติกรรมที่ตนเองขวางประตูเรือนก่อนหน้านี้ บิดาของจู้สื่อรู้สึกว่าแม่นางหยุนมีเมตตา

แม้แม่ของจู้สื่อยังไม่หายโล่งใจ ทว่าถูกบิดาของจู้สื่อดึงตัวไปเสียก่อน!

เมื่อหยุนเถียนเถียนเผชิญหน้ากับหนิวสื่อเพียงลําพังจึงค่อย ๆ หัวเราะอย่างไร้ความเกรงกลัว!

“หนิวสื่อ วาจาของเจ้าอาจหลอกคนอื่นได้ แต่จงรู้ไว้ว่าเจ้าไม่มีทางหลอกข้าได้! บัดนี้พวกเขาไปกันหมดแล้วไหนเจ้าบอกความจริงข่ามาซิ!”

หนิวสื่อยังคงมึนงงราวกับว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่หยุนเถียนเถียนพูด!

“หนิวสื่อ ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังเป็นแพะรับบาปให้ใครบางคนอยู่! แม้กระทั่งเอาเจ้าไปเกี่ยวพันกับคนในตระกูลของข้าหลวงหยิง! นี่เจ้าไม่นึกเกลียดเขาบ้างรึ? ชายคนนั้นหลอกใช้เจ้าเหมือนหุ่นเชิด ทั้งยังฆ่าหลานชายแท้ ๆ ของเจ้าอย่างไร้ปรานี!”

หนิวสื่อเคลื่อนสายตาไปมา อย่างน้อยก็ไม่นิ่งเฉยราวกับน้ําไม่มีคลื่น!

“ถ้าเจ้าเกลียดก็แค่พูดออกมา เพราะอย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่แล้ว! ต่อให้ข้าปล่อยเจ้าไป คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่มีทางยอมให้เจ้ารอดไปได้แน่! นี่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ความจริงรึ? เพื่อสักวันทุกคนจะได้ให้อภัยกับความผิดพลาดของเจ้าครั้งนี้อย่างไรเล่า!”

“ข้าได้ยินจากปากพ่อของจู้สื่อว่าเจ้าเป็นลูกกตัญญู หากมารดาของเจ้ารู้ว่าเจ้าฆ่าหลานชายคนโตของนาง เจ้าไม่คิดบ้างว่านางจะทนไม่ไหวจนเสียสติไปแล้ว? แล้วไหนจะพี่สะใภ้ที่พาลโกรธมารดาของเจ้า เพราะลูกชายของตนดันไปฆ่าลูกชายนางอีก!”

“พูดความจริงออกมาเสียแต่ตอนนี้ ดีกว่าให้ทุกคนเข้าใจผิดจนถึงวินาทีที่เจ้าถูกฝังศพไปแล้ว! ถึงแม้ข้าจะให้ความยุติธรรมกับเจ้าไม่ได้ แต่อย่างน้อยเจ้าก็ควรทําให้คนบนโลกนี้รู้ความจริง! ถูกไหม?”

หนิวสื่อเงยหน้าเล็กน้อย และเห็นว่ามีคนรับใช้สองคนตามหลังหยุนเถียนเถียนอยู่ เขาจึงก้ม
หัวลงทันที!

หยุนเถียนเถียนหันหน้าไปสั่งให้คนรับใช้สงบปากสงบคําและออกไปก่อน ทว่าเซิ่นสิงยังรู้สึกระแวงอยู่บ้าง แต่หยุนเถียนเถียนกล่าวขัดขึ้นว่า “หากเป็นจอมยุทธยอดฝีมือจริง ๆ ข้าอาจทําอะไร เขาไม่ได้ แต่นี่เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ข้าคงไม่เป็นไรเพราะน้ํามือเขาหรอก!” เซิ่นสิงเผยท่าทีราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกจิ่นเหยียนดึงไว้และเดินจากไปพร้อมกัน

“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าอยู่เพียงลําพังแล้ว เจ้าสามารถพูดความจริงได้ และแน่นอนว่าเจ้ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่พูดก็ได้ ข้าจะไม่บังคับเจ้า! ที่จริงข้าก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ขนาดนั้น อย่างไรแล้วน้องชายข้ายังเด็กอยู่ ต่อให้ต้องรออีกสามปีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! มิหนําซ้ําพอถึงเวลานั้น โอกาสที่เขาจะสอบเข้ารับตําแหน่งกลับมากขึ้นอีกด้วย!”

ดวงตาหนิวสื่อแดงก่ําภายในเสี้ยววินาที “ข้าจะทําอะไรได้ ข้าติดหนี้พนันกับบ่อนมหาอํานาจ! ผู้คุมบ่อนคนนั้นสั่งให้ข้าทําอะไรข้าก็ต้องทํา แม้เขาสั่งให้ลวงจู๋สื่อออกมา ข้าก็ต้องทํา!”

“ข้าคิดแค่ว่านี่เป็นเพียงชีวิตเด็กธรรมดา ๆ และชีวิตของเขาคงไม่มีประโยชน์อะไรกับตระกูลที่รับซื้อเขาไปหรอก! ก็จริงอยู่ที่ข้าหลอกเขาออกมา แต่ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ ผู้คุมบ่อนคนนั้นจะเอามีดบังคับให้ข้าฆ่าจู้สื่อทันทีที่เห็น!”

ก่อนหนิวสื่อจะพูดต่อ เขาสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “ข้ารู้ดีว่าหากตอนนั้นไม่ฆ่าจู้สื่อก็คงเป็นข้าเองที่ถูกผู้คุมบ่อนฆ่าตาย! ข้าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมสังเวยจู่สื่อให้พวกมันไปเพียงคนเดียว!” “ส่วนเรื่องวางยาที่หลังเรือนแม่นาง ผู้คุมไม่ได้สั่งให้ข้าทํา แต่ให้คนอื่นทําแทน! เพราะตั้งแต่นั้นมาข้าถูกขังอยู่ในบ่อนพนันนั่น!”

“เมื่อวานผู้คุมบ่อนเข้าพบข้าเพื่อบอกให้ข้ายอมรับผิดทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าท่านแม่ของข้า! แม่ของข้าตามใจข้ามาตั้งแต่ยังเด็ก แม้ว่าพี่ชายจะแต่งงานแล้ว แต่ท่านแม่ก็ยังให้เงิน

และเลี้ยงดูข้ามาโดยตลอด! ทั้งพี่ชายข้าเป็นคนซื่อสัตย์ เขายอมขายลูกชายตนเองเพื่อใช้หนี้พนันให้บ้า! ข้า…”

หยุนเถียนเถียนพอทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นมาบ้างแล้ว “ดังนั้นเพื่อปกป้องแม่ของเจ้า เจ้าจึงยอมรับโทษทั้งหมดแทน!”

“จริง ๆ ก็สมควรแล้วล่ะ ในโลกนี้จะมีคนติดพนันอยู่สักกี่คนที่มีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างปลอดภัย และสงบสุข? เอาเถอะ รอข้าหลวงหยิงนําตัวเจ้าไปรับโทษล่ะกัน และเจ้าจงยอมทําตามเขาอย่างว่าง่ายเสีย เพราะข้าไม่สามารถช่วยชีวิตเจ้าได๋! ”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง! ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องพูดเรื่องนี้แน่ ถือว่าวันนี้ข้าได้ทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าจนสิ้นแล้ว!”

สิ่งที่หยุนเถียนเถียนต้องการเป็นเพียงตัวชี้วัดสมมติฐานของนางเท่านั้น ส่วนหลักฐานอะไรนั่น นางไม่คิดสนใจแต่แรกอยู่แล้ว เพราะการรับมือกับคนอย่างเจ้าเมืองหลงหลักฐานเช่นนี้เรียกได้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย!

หลังหยุนเถียนเถียนเดินจากไป ยังไม่ทันที่ข้าหลวงหยิงจะมารับตัวหนิวสื่อ เขาก็สิ้นชีวิตโดยการนําหัวโขกกําแพงจนขาดใจตายเสียแล้ว!

เมื่อพ่อของจู้สื่อรู้ว่าน้องชายตนเองลงมือฆ่าตัวตาย ขอบตาเขาก็เริ่มแดงก่ําอีกครั้ง! แม่ของจู้สื่อยังคงบ่นพึมพําไม่หยุด นางเกลียดพ่อของจู้สื่อที่มักตามใจน้องชายของตนเองเช่นนี้! สองสามีภรรยาคู่นี้ยังคงตะโกนด่าทอไปพลางเดินออกจากเรือนหยุนเถียนเถียนราวกับเรื่องนี้จบสิ้นลงเสียที! ทว่ามีเพียงหยุนเถียนเถียนเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องนี้ยังห่างไกลจากจุดจบนัก!

นางไม่เคยรู้สึกซาบซึ้งใจที่เจ้าเมืองหลงไม่คิดถึงขั้นวางยาพิษ! ทว่าในใจกลับระแวดระวังมากขึ้น เพราะหากเขาทําเรื่องเช่นนี้แสดงว่าต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน!

รุ่นพี่อาวุโสที่มีแต่ความปรารถนาดีและเต็มไปด้วยมิตรภาพนั้นกลับกลายเป็นเงามืดในใจที่

คอยจ้องทําร้ายนางมาโดยตลอด!

ครั้งนี้หรือไม่?

คําอธิบายที่ข้าหลวงส่งข่าวมากล่าวเพียงว่า หยิงซื่อเอ๋อฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ! หยุ นเถียนเถียนตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ หากนางบอกความจริงไป หยิงซื่อเอ๋อจะรอดจากความตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 390 คําอธิบาย

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 390 คําอธิบาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 390 คําอธิบาย

หนิวสื่อยังคงกล่าวด้วยท่าทีราวกับกําลังจะสิ้นใจ “ทําไมแม่นางจะไม่รู้จักข้า? ข้ายังทราบเลย ว่าบนไหล่ของคุณหนูสามมีไผ่สีแดงอยู่หนึ่งเม็ด!”

แม้ว่าข้าหลวงหยิงจะมั่นใจว่าบุตรสาวของตนไม่มีทางทําเรื่องเช่นนี้แน่นอน ทว่าหลักฐานตรง

หน้ากลับชัดเจนยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาอยู่ต่อหน้าหยุนเถียนเถียนจึงต้องรีบอธิบาย!

หากต้องใช้บุตรสาวผู้ไร้ประโยชน์ของตนเองแลกกับความสบายใจของหยุนเถียนเถียน! ข้าหลวงหยิงนับว่าการค้าขายครั้งนี้คุ้มค่ามาก!

“แม่นางหยุนวางใจได! แม้เป็นบุตรของข้า แต่หากท่าเรื่องไม่ดี ตัวข้าย่อมให้ความยุติธรรมกับแม่นางอยู่แล้ว! ข้าจะกลับไปจัดการลูกไม่เอาไหนของข้าเอง แม่นางโปรดรอติดตามข่าวจากเรือนขาได!”

หยุนเถียนเถียนไม่กล่าวอะไร เพราะข้าหลวงหยิงจะจัดการอย่างไรก็เรื่องของเขา แม้จะลงไม้ลงมือหรือถึงขั้นฆ่ากันก็สุดแล้วแต่ เพราะอย่างไรนางก็คือบุตรแท้ ๆ ของข้าหลวงหยิง! ทั้งคําหลอกลวงทั้งหมดสามารถทําลายได้ด้วยการสะกิดเพียงครั้งเดียวและข้าหลวงหยิงก็จะทราบว่าเรื่องนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!

แต่ต่อให้รู้ว่ามีเล่ห์เหลี่ยมแฝงอยู่ ข้าหลวงหยิงก็ตัดสินใจละทิ้งบุตรสาวคนนี้อยู่ดี! หากจะประโยชน์เช่นนี้!

โทษก็ต้องโทษหยิงซื่อเอ๋อที่ชะตาชีวิตไม่ดีจึงถูกกําหนดให้เป็นบุตรของบิดาที่เห็นแต่เรื่องผล

เมื่อข้าหลวงหยิงจากไป หยุนเถียนเถียนจึงหันหน้าไปพูดกับพ่อของจู๋สื่อว่า “ในเมื่อหนิวสื่อฆ่าคนตายไปแล้ว สิ่งที่รอเขาอยู่ภายหน้าคือโทษประหารชีวิตแน่นอน! บัดนี้พวกเจ้าจงกลับไป

ทํางานของตนเองตามเดิมได้แล้วล่ะ ส่วนหนิวสื่อก็ปล่อยให้เหล่าขุนนางจัดการเสีย!”

บิดาและมารดาของจู้สื่อเห็นทุกอย่างกับตาตนเอง แม่นางหยุนไม่แม้แต่ทําอันใดให้เป็นการ

เสียหน้าข้าหลวงหยิง ฝ่ายข้าหลวงหญิงก็ยอมถึงขั้นขายหน้าลูกสาวเพื่อเอาใจแม่นางหยุน…

เมื่อบิดามารดาของจู้สื่อเริ่มมีสติไตร่ตรองจึงตระหนักได้ว่าแม่นางหยุนมีฐานะสูงส่งไม่น้อย
ยิ่งนัก!

เมื่อนึกถึงพฤติกรรมที่ตนเองขวางประตูเรือนก่อนหน้านี้ บิดาของจู้สื่อรู้สึกว่าแม่นางหยุนมีเมตตา

แม้แม่ของจู้สื่อยังไม่หายโล่งใจ ทว่าถูกบิดาของจู้สื่อดึงตัวไปเสียก่อน!

เมื่อหยุนเถียนเถียนเผชิญหน้ากับหนิวสื่อเพียงลําพังจึงค่อย ๆ หัวเราะอย่างไร้ความเกรงกลัว!

“หนิวสื่อ วาจาของเจ้าอาจหลอกคนอื่นได้ แต่จงรู้ไว้ว่าเจ้าไม่มีทางหลอกข้าได้! บัดนี้พวกเขาไปกันหมดแล้วไหนเจ้าบอกความจริงข่ามาซิ!”

หนิวสื่อยังคงมึนงงราวกับว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่หยุนเถียนเถียนพูด!

“หนิวสื่อ ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังเป็นแพะรับบาปให้ใครบางคนอยู่! แม้กระทั่งเอาเจ้าไปเกี่ยวพันกับคนในตระกูลของข้าหลวงหยิง! นี่เจ้าไม่นึกเกลียดเขาบ้างรึ? ชายคนนั้นหลอกใช้เจ้าเหมือนหุ่นเชิด ทั้งยังฆ่าหลานชายแท้ ๆ ของเจ้าอย่างไร้ปรานี!”

หนิวสื่อเคลื่อนสายตาไปมา อย่างน้อยก็ไม่นิ่งเฉยราวกับน้ําไม่มีคลื่น!

“ถ้าเจ้าเกลียดก็แค่พูดออกมา เพราะอย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่แล้ว! ต่อให้ข้าปล่อยเจ้าไป คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่มีทางยอมให้เจ้ารอดไปได้แน่! นี่เจ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ความจริงรึ? เพื่อสักวันทุกคนจะได้ให้อภัยกับความผิดพลาดของเจ้าครั้งนี้อย่างไรเล่า!”

“ข้าได้ยินจากปากพ่อของจู้สื่อว่าเจ้าเป็นลูกกตัญญู หากมารดาของเจ้ารู้ว่าเจ้าฆ่าหลานชายคนโตของนาง เจ้าไม่คิดบ้างว่านางจะทนไม่ไหวจนเสียสติไปแล้ว? แล้วไหนจะพี่สะใภ้ที่พาลโกรธมารดาของเจ้า เพราะลูกชายของตนดันไปฆ่าลูกชายนางอีก!”

“พูดความจริงออกมาเสียแต่ตอนนี้ ดีกว่าให้ทุกคนเข้าใจผิดจนถึงวินาทีที่เจ้าถูกฝังศพไปแล้ว! ถึงแม้ข้าจะให้ความยุติธรรมกับเจ้าไม่ได้ แต่อย่างน้อยเจ้าก็ควรทําให้คนบนโลกนี้รู้ความจริง! ถูกไหม?”

หนิวสื่อเงยหน้าเล็กน้อย และเห็นว่ามีคนรับใช้สองคนตามหลังหยุนเถียนเถียนอยู่ เขาจึงก้ม
หัวลงทันที!

หยุนเถียนเถียนหันหน้าไปสั่งให้คนรับใช้สงบปากสงบคําและออกไปก่อน ทว่าเซิ่นสิงยังรู้สึกระแวงอยู่บ้าง แต่หยุนเถียนเถียนกล่าวขัดขึ้นว่า “หากเป็นจอมยุทธยอดฝีมือจริง ๆ ข้าอาจทําอะไร เขาไม่ได้ แต่นี่เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ข้าคงไม่เป็นไรเพราะน้ํามือเขาหรอก!” เซิ่นสิงเผยท่าทีราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกจิ่นเหยียนดึงไว้และเดินจากไปพร้อมกัน

“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าอยู่เพียงลําพังแล้ว เจ้าสามารถพูดความจริงได้ และแน่นอนว่าเจ้ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่พูดก็ได้ ข้าจะไม่บังคับเจ้า! ที่จริงข้าก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ขนาดนั้น อย่างไรแล้วน้องชายข้ายังเด็กอยู่ ต่อให้ต้องรออีกสามปีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! มิหนําซ้ําพอถึงเวลานั้น โอกาสที่เขาจะสอบเข้ารับตําแหน่งกลับมากขึ้นอีกด้วย!”

ดวงตาหนิวสื่อแดงก่ําภายในเสี้ยววินาที “ข้าจะทําอะไรได้ ข้าติดหนี้พนันกับบ่อนมหาอํานาจ! ผู้คุมบ่อนคนนั้นสั่งให้ข้าทําอะไรข้าก็ต้องทํา แม้เขาสั่งให้ลวงจู๋สื่อออกมา ข้าก็ต้องทํา!”

“ข้าคิดแค่ว่านี่เป็นเพียงชีวิตเด็กธรรมดา ๆ และชีวิตของเขาคงไม่มีประโยชน์อะไรกับตระกูลที่รับซื้อเขาไปหรอก! ก็จริงอยู่ที่ข้าหลอกเขาออกมา แต่ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ ผู้คุมบ่อนคนนั้นจะเอามีดบังคับให้ข้าฆ่าจู้สื่อทันทีที่เห็น!”

ก่อนหนิวสื่อจะพูดต่อ เขาสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “ข้ารู้ดีว่าหากตอนนั้นไม่ฆ่าจู้สื่อก็คงเป็นข้าเองที่ถูกผู้คุมบ่อนฆ่าตาย! ข้าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมสังเวยจู่สื่อให้พวกมันไปเพียงคนเดียว!” “ส่วนเรื่องวางยาที่หลังเรือนแม่นาง ผู้คุมไม่ได้สั่งให้ข้าทํา แต่ให้คนอื่นทําแทน! เพราะตั้งแต่นั้นมาข้าถูกขังอยู่ในบ่อนพนันนั่น!”

“เมื่อวานผู้คุมบ่อนเข้าพบข้าเพื่อบอกให้ข้ายอมรับผิดทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าท่านแม่ของข้า! แม่ของข้าตามใจข้ามาตั้งแต่ยังเด็ก แม้ว่าพี่ชายจะแต่งงานแล้ว แต่ท่านแม่ก็ยังให้เงิน

และเลี้ยงดูข้ามาโดยตลอด! ทั้งพี่ชายข้าเป็นคนซื่อสัตย์ เขายอมขายลูกชายตนเองเพื่อใช้หนี้พนันให้บ้า! ข้า…”

หยุนเถียนเถียนพอทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นมาบ้างแล้ว “ดังนั้นเพื่อปกป้องแม่ของเจ้า เจ้าจึงยอมรับโทษทั้งหมดแทน!”

“จริง ๆ ก็สมควรแล้วล่ะ ในโลกนี้จะมีคนติดพนันอยู่สักกี่คนที่มีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างปลอดภัย และสงบสุข? เอาเถอะ รอข้าหลวงหยิงนําตัวเจ้าไปรับโทษล่ะกัน และเจ้าจงยอมทําตามเขาอย่างว่าง่ายเสีย เพราะข้าไม่สามารถช่วยชีวิตเจ้าได๋! ”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง! ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องพูดเรื่องนี้แน่ ถือว่าวันนี้ข้าได้ทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าจนสิ้นแล้ว!”

สิ่งที่หยุนเถียนเถียนต้องการเป็นเพียงตัวชี้วัดสมมติฐานของนางเท่านั้น ส่วนหลักฐานอะไรนั่น นางไม่คิดสนใจแต่แรกอยู่แล้ว เพราะการรับมือกับคนอย่างเจ้าเมืองหลงหลักฐานเช่นนี้เรียกได้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย!

หลังหยุนเถียนเถียนเดินจากไป ยังไม่ทันที่ข้าหลวงหยิงจะมารับตัวหนิวสื่อ เขาก็สิ้นชีวิตโดยการนําหัวโขกกําแพงจนขาดใจตายเสียแล้ว!

เมื่อพ่อของจู้สื่อรู้ว่าน้องชายตนเองลงมือฆ่าตัวตาย ขอบตาเขาก็เริ่มแดงก่ําอีกครั้ง! แม่ของจู้สื่อยังคงบ่นพึมพําไม่หยุด นางเกลียดพ่อของจู้สื่อที่มักตามใจน้องชายของตนเองเช่นนี้! สองสามีภรรยาคู่นี้ยังคงตะโกนด่าทอไปพลางเดินออกจากเรือนหยุนเถียนเถียนราวกับเรื่องนี้จบสิ้นลงเสียที! ทว่ามีเพียงหยุนเถียนเถียนเท่านั้นที่รู้ว่าเรื่องนี้ยังห่างไกลจากจุดจบนัก!

นางไม่เคยรู้สึกซาบซึ้งใจที่เจ้าเมืองหลงไม่คิดถึงขั้นวางยาพิษ! ทว่าในใจกลับระแวดระวังมากขึ้น เพราะหากเขาทําเรื่องเช่นนี้แสดงว่าต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน!

รุ่นพี่อาวุโสที่มีแต่ความปรารถนาดีและเต็มไปด้วยมิตรภาพนั้นกลับกลายเป็นเงามืดในใจที่

คอยจ้องทําร้ายนางมาโดยตลอด!

ครั้งนี้หรือไม่?

คําอธิบายที่ข้าหลวงส่งข่าวมากล่าวเพียงว่า หยิงซื่อเอ๋อฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ! หยุ นเถียนเถียนตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ หากนางบอกความจริงไป หยิงซื่อเอ๋อจะรอดจากความตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+