สามีข้า คือพรานป่า 326 ความเกลียดชัง

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 326 ความเกลียดชัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 326 ความเกลียดชัง

“แม่นางหยุน เจ้าไม่ได้กลับหมู่บ้านนานนักทว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน… ตอนนี้เฉินไฉ่อีผู้เคยเป็นศัตรูกับเจ้าได้รับการลงโทษอย่างสาสมแล้ว! สามีของนางที่เป็นบัณฑิตถูกใครบางคนทําร้ายเสียปางตาย บัดนี้เขาไม่อาจเดินเหินได้อีกนอกเสียจากนอนติดเตียงเท่านั้น”

“นั่นยังไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เจ้าคงไม่รู้ว่าแม่ผัวของนางโหดร้ายมากเพียงใด นางเป็นคนร้ายกาจ จึงทําให้ลูกชายของนางเป็นคนเช่นนี้ไปด้วย ไม่ว่าผู้ใดต่างก็รู้ถึงกิตติศัพท์นางทั้งนั้น… ลูกชายของนางมักมากในตัณหา เขาชอบลวนลามสตรีทุกคนที่ขวางหน้าจึงเป็นสาเหตุให้ขาของเขาใช้การไม่ได้เช่นนี้ ถ้าให้พูดตามตรงข้าก็คิดว่าเขาโดนเช่นนี้ก็สาสมแล้วกับการกระทําสัปดนเช่นนั้น!”

“แม้ว่าสามีของนางจะเป็นบัณฑิตทว่าก็เป็นคนเกรี้ยวกราดรุนแรง ข้าเคยได้ยินมาว่านางทําให้เขาโมโหเพราะทําความสะอาดไม่ได้ดั่งใจจึงถูกทุบตีเสียจนแท้งลูก! นางต้องวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลกลับไปบ้านด้วยเท้าเปล่า เพราะไม่มีแม้แต่รองเท้าจะสวม ข้าคิดว่านางน่าจะไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไป…”

“แม้ว่าเฉินซึ่งจะเคยเป็นหัวหน้าหมู่บ้านมาหลายปี ทว่าเขากลับไม่สนใจคิดจะทําอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้… ใครจะเชื่อว่าตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวเลย โชคดีที่ เฉินเต่ออันยังคงช่วยเหลือนางอยู่”

“นางหวงที่คอยข่มเหงรังแกนางนึกกลัวความล่าบากขึ้นมา เลยนําเกวียนมารับเฉินไฉ่อีกลับไป ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่าจะตัดขาดกันแล้วทว่าข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมารับกลับไปเช่นนี้ หากในอนาคตหลินหูต้องการมีลูก เขาจะต้องมีอนุภรรยาแล้วลูกที่เกิดมานั้นจะได้ชื่อว่าเป็นลูก ของเฉินไฉ่อี”

เหล่าหญิงชาวบ้านต่างซุบซิบนินทากันไม่หยุดปาก ทว่าแม้จะไม่มีใครพูดขึ้นมาเหตุการณ์ทุก อย่างก็ชัดเจนอยู่แล้ว

แม่หม้ายเยวส่ายหัวอย่างหมดคําจะกล่าว แม้นางจะไม่พอใจกับคําติฉันไม่สุภาพเช่นนี้เท่าใดนัก ทว่าเฉินไฉ่อีก็เป็นสตรีที่ร้ายกาจเกินกว่าจะหาข้อแก้ต่างให้นางได้

หยุนเถียนเถียนได้ฟังเรื่องราวจากพวกหญิงชาวบ้านไปตลอดทางกลับหมู่บ้านเทพธิดา

เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้าน จู่ๆ หญิงชาวบ้านคนหนึ่งก็กล่าวขึ้น “แม่นางหยุน เจ้าจเฉินเจียวเจียวได้หรือไม่… ก็สตรีที่เคยร้องห่มร้องไห้อยากจะแต่งงานกับหยุนเคอสามีเจ้าอย่างไรเล่า ตอนนั้น นางเสนอตัวเป็นอนุภรรยาของนายหัวหลี่เพราะหวังความมั่งคั่ง ทว่าข้าได้ยินมาว่าตอนนี้นางเป็นได้แค่นางบําเรอปลายแถวเท่านั้น”

“นางกลับมาเยี่ยมครอบครัวเมื่อไม่กี่วันก่อน ท้องโตขนาดนั้นข้าคิดว่านางน่าจะตั้งครรภ์ได้ราวสี่ห้าเดือนแล้ว นางบอกแก่ผู้เป็นแม่ว่าถึงจะไม่ได้เคียงข้างชายที่ตนรัก ทว่ามีเงินทองใช้ก็เพียงพอแล้ว นางยังบอกอีกว่าหากนางให้กําเนิดลูกชาย นางจะได้เป็นอนุภรรยาของหลี่เฟิงแล้วมีชีวิตสุขสบายในบ้านใหญ่โตด้วย”

“จากสายตาของข้าแล้ว ข้าไม่คิดว่าหลี่เพิ่งจะจริงจังกับสตรีเช่นนางหรอก มิฉะนั้นเมื่อนางกลับมาหมู่บ้านนานขนาดนี้ก็คงจะต้องส่งคนมาคอยดูแลนางแล้ว ทว่ากลับไม่มีใครติดตามมาด้วยเลยสักคน”

หยุนเถียนเถียนเพียงยกยิ้มไม่ได้กล่าวคําใด เพียงแต่คิดในใจว่าเฉินเจียวเจียวคงไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกแน่

เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้นนายน้อยหลี่ยังไม่ได้จัดการสืบสาวมาจนถึงตัวนาง ทว่านางไม่กล้าพบหน้าเขา ไม่ใช่เพราะกลัวทว่าไม่ต้องการสร้างปัญหา

ถึงที่สุดแล้วเมื่อแผนการของหลี่เพิ่งถูกเปิดเผย หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาดตอนนี้เขาคงจะต้องอยู่ในเรือนจํา เพื่อรอการเนรเทศออกจากเมืองไปไกลกว่าสามพันลี้!

ส่วนนางหลี่ผู้ยังดูงดงามเยาว์วัยก็จะต้องถูกลงโทษด้วยการสักหมึกบนใบหน้าพร้อมถูกโบยอีกแปดสิบยก ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คงหนีการเนรเทศไม่พ้นเช่นเดียวกัน

เช่นนี้แล้วเหตุใดผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างเฉินเจียวเจียวยังคงอยู่รอดปลอดภัย? แม้หยุนเถียนเถียนจะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ทว่าก็คาดการณ์ได้ว่าชะตากรรมของสตรีผู้นั้นคงจบไม่สวยเป็นแน่!

ฉ่เกินฮูหยินเป็นคนเช่นไรกัน? ทุกวันนี้ลูกสาวไม่ได้พึ่งพานางอีกต่อไป ทว่าตั้งแต่เรื่องบาดหมางคราวนั้นก็ทําให้เกิดช่องว่างระหว่างนางกับเฉินเจียวเจียว ทําให้จนถึงตอนนี้นางก็ยังคงมีนตึงใส่ลูกสาวอยู่บ้าง

คนอย่างเฉินเจียวเจียวรู้ดีอยู่แล้วว่าครอบครัวนางโลภมาก การที่นางได้เป็นอนุภรรยาของนายหัวหลีก็จะช่วยให้ครอบครัวของนางสบายไปด้วย นางคิดว่านายหัวหลจะต้องกลับมารับตนแน่ หลังจากที่ให้กําเนิดบุตรแก่เขา

ความเชื่อมั่นเช่นนี้ทําให้เฉินเจียวเจียวไม่คิดเผื่อใจไว้แม้แต่น้อยจึงใช้เงินอย่างมือเติบ ซึ่งแน่นอนว่าวันใดที่เงินนั้นหมดลง ฉ่เกินฮูหยินคงมองหน้านางไม่ติดแน่

แน่นอนว่าในฐานะผู้รับชม หยุนเถียนเถียนมีความสุขยิ่งที่ได้ดูการแสดงชั้นเลิศเช่นนี้ นางจึงไม่เอ่ยสิ่งใดขัดจังหวะเลย เพียงแค่หัวเราะอย่างสาแก่ใจนัก!

เมื่อรถมาจอดสนิท หญิงชาวบ้านเหล่านั้นยังต้องการนินทาเรื่องอื่นให้ฟังอีก ทว่าหยุนเถียนเถียนรู้ข่าวที่ตนต้องการแล้วจึงไม่มีความอดทนพอที่จะฟังต่อได้

พวกนางมองหยุนเถียนเถียนกระโดดลงรถมาก่อนจะเดินไปตามลานกว้าง แล้วรถมาก็แล่นไปตามถนนอีกครั้งเพื่อนําตัวหวงจือไปส่งที่สํานักงานเขต

หยุนเถียนเถียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจไปบ้านสกุลหลิน ที่อยู่หมู่บ้านถัดไปก่อนนางหวงจะกลับมา นางต้องการพบเฉินไฉ่อีเพื่อจัดการบางอย่าง

เฉินไฉ่อีต้องการจะสร้างความเจ็บปวดให้กับสกุลหลินอย่างสาสม ด้วยความที่นางมีครอบครัวคอยหนุนหลังอยู่จึงไม่เกรงกลัวอีกต่อไป ตอนนี้นางจึงนั่งยกขาผ่อนอารมณ์อยู่หน้าบ้านพลางแทะกินเมล็ดแตงโมอย่างสบายใจ

ส่วนหลินหูก็ตะโกนเรียกจนเสียงแหบแห้ง เพราะรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อต้องอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล กระนั้นก็ไม่มีใครใส่ใจเหลียวแลเขาเลย

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เฉินไฉ่อีก็ถ่มเมล็ดแตงโมทิ้งก่อนจะยืนขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูอย่างแช่มช้า ทว่าเมื่อเปิดออกนางก็พบกับบุคคลที่นางไม่คิดอยากเจอเลยแม้แต่น้อย

หากต้องเจอศัตรูในวันที่ชีวิตมีความสุขก็คงจะเป็นเรื่องดี ทว่าเมื่อต้องเจอศัตรูในวันที่ชีวิตตกต่ำก็นับว่าเป็นหายนะได้เลยทีเดียว

เฉินไฉ่อีคิดเช่นนั้นจึงแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีหยุนเถียนเถียน นางไม่ต้องการให้ศัตรูตัวฉกาจได้เห็นความน่าสังเวชของตัวเองในตอนนี้!

“เจ้ามาทําอะไรที่นี่? จะมาหัวเราะเยาะข้าอย่างนั้นหรือ?”

ใบหน้าของหยุนเถียนเถียนเฉยเมย “คิดว่าข้าว่างมาถึงที่นี่เพียงเพื่อเยาะเย้ยเจ้าเท่านั้นหรือ? คิดว่าเจ้าสําคัญกับข้ามากขนาดนั้นเชียวเหรอ?”

“ถึงอย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้นข้าก็มีส่วนผิด ส่วนเจ้าก็ยังคงเป็นสตรีชั่วช้า เลวทรามและโง่เขลาอยู่เช่นเดิม! เช่นนี้ข้าจะหัวเราะเยาะเจ้าไปเพื่อประโยชน์ใดกัน? หากข้าหัวเราะแล้วเงินทองเพิ่มขึ้นเช่นนั้นก็ว่าไปอย่าง!”

เฉินไฉ่อีรู้สึกราวกับว่าหัวใจของตนเจ็บปวดจนด้านช้าไปเสียแล้ว นางมองว่าหยุนเถียนเถียนเป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่สุดในชีวิต ทว่านางกลับไม่มีค่าพอที่จะมีตัวตนในสายตาของอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ํา เมื่อนึกถึงสภาพอันน่าสมเพชในตอนนี้แล้วก็อดแค่นหัวเราะเยาะตัวเองออกมาไม่ได้ ช่างน่าสังเวชนัก!

“ถ้าเช่นนั้นเจ้ามาทําอะไรที่นี่เล่า?”

หยุนเถียนเถียนยกยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ารู้หนังสือและเป็นคนมีเหตุผล ทว่าเหตุไฉนจึงดูไม่ฉลาดเช่นนี้… หวงฉือทําร้ายเจ้าถึงเพียงนี้ ในหัวใจของเจ้าไม่เคยมีความเกลียดชังเคืองแค้นนางบ้างเลยหรือ? เจ้าไม่คิดว่านางสมควรชดใช้ให้แก่ลูกของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

ใบหน้าของเฉินไฉ่อีเต็มไปด้วยความระแวง “เจ้าต้องการอะไร? ไม่ว่าข้าต้องการจะทําเช่นไร มันก็เป็นเรื่องของข้า เช่นนั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าเล่า?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 326 ความเกลียดชัง

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 326 ความเกลียดชัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 326 ความเกลียดชัง

“แม่นางหยุน เจ้าไม่ได้กลับหมู่บ้านนานนักทว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน… ตอนนี้เฉินไฉ่อีผู้เคยเป็นศัตรูกับเจ้าได้รับการลงโทษอย่างสาสมแล้ว! สามีของนางที่เป็นบัณฑิตถูกใครบางคนทําร้ายเสียปางตาย บัดนี้เขาไม่อาจเดินเหินได้อีกนอกเสียจากนอนติดเตียงเท่านั้น”

“นั่นยังไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เจ้าคงไม่รู้ว่าแม่ผัวของนางโหดร้ายมากเพียงใด นางเป็นคนร้ายกาจ จึงทําให้ลูกชายของนางเป็นคนเช่นนี้ไปด้วย ไม่ว่าผู้ใดต่างก็รู้ถึงกิตติศัพท์นางทั้งนั้น… ลูกชายของนางมักมากในตัณหา เขาชอบลวนลามสตรีทุกคนที่ขวางหน้าจึงเป็นสาเหตุให้ขาของเขาใช้การไม่ได้เช่นนี้ ถ้าให้พูดตามตรงข้าก็คิดว่าเขาโดนเช่นนี้ก็สาสมแล้วกับการกระทําสัปดนเช่นนั้น!”

“แม้ว่าสามีของนางจะเป็นบัณฑิตทว่าก็เป็นคนเกรี้ยวกราดรุนแรง ข้าเคยได้ยินมาว่านางทําให้เขาโมโหเพราะทําความสะอาดไม่ได้ดั่งใจจึงถูกทุบตีเสียจนแท้งลูก! นางต้องวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลกลับไปบ้านด้วยเท้าเปล่า เพราะไม่มีแม้แต่รองเท้าจะสวม ข้าคิดว่านางน่าจะไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไป…”

“แม้ว่าเฉินซึ่งจะเคยเป็นหัวหน้าหมู่บ้านมาหลายปี ทว่าเขากลับไม่สนใจคิดจะทําอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้… ใครจะเชื่อว่าตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวเลย โชคดีที่ เฉินเต่ออันยังคงช่วยเหลือนางอยู่”

“นางหวงที่คอยข่มเหงรังแกนางนึกกลัวความล่าบากขึ้นมา เลยนําเกวียนมารับเฉินไฉ่อีกลับไป ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่าจะตัดขาดกันแล้วทว่าข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมารับกลับไปเช่นนี้ หากในอนาคตหลินหูต้องการมีลูก เขาจะต้องมีอนุภรรยาแล้วลูกที่เกิดมานั้นจะได้ชื่อว่าเป็นลูก ของเฉินไฉ่อี”

เหล่าหญิงชาวบ้านต่างซุบซิบนินทากันไม่หยุดปาก ทว่าแม้จะไม่มีใครพูดขึ้นมาเหตุการณ์ทุก อย่างก็ชัดเจนอยู่แล้ว

แม่หม้ายเยวส่ายหัวอย่างหมดคําจะกล่าว แม้นางจะไม่พอใจกับคําติฉันไม่สุภาพเช่นนี้เท่าใดนัก ทว่าเฉินไฉ่อีก็เป็นสตรีที่ร้ายกาจเกินกว่าจะหาข้อแก้ต่างให้นางได้

หยุนเถียนเถียนได้ฟังเรื่องราวจากพวกหญิงชาวบ้านไปตลอดทางกลับหมู่บ้านเทพธิดา

เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้าน จู่ๆ หญิงชาวบ้านคนหนึ่งก็กล่าวขึ้น “แม่นางหยุน เจ้าจเฉินเจียวเจียวได้หรือไม่… ก็สตรีที่เคยร้องห่มร้องไห้อยากจะแต่งงานกับหยุนเคอสามีเจ้าอย่างไรเล่า ตอนนั้น นางเสนอตัวเป็นอนุภรรยาของนายหัวหลี่เพราะหวังความมั่งคั่ง ทว่าข้าได้ยินมาว่าตอนนี้นางเป็นได้แค่นางบําเรอปลายแถวเท่านั้น”

“นางกลับมาเยี่ยมครอบครัวเมื่อไม่กี่วันก่อน ท้องโตขนาดนั้นข้าคิดว่านางน่าจะตั้งครรภ์ได้ราวสี่ห้าเดือนแล้ว นางบอกแก่ผู้เป็นแม่ว่าถึงจะไม่ได้เคียงข้างชายที่ตนรัก ทว่ามีเงินทองใช้ก็เพียงพอแล้ว นางยังบอกอีกว่าหากนางให้กําเนิดลูกชาย นางจะได้เป็นอนุภรรยาของหลี่เฟิงแล้วมีชีวิตสุขสบายในบ้านใหญ่โตด้วย”

“จากสายตาของข้าแล้ว ข้าไม่คิดว่าหลี่เพิ่งจะจริงจังกับสตรีเช่นนางหรอก มิฉะนั้นเมื่อนางกลับมาหมู่บ้านนานขนาดนี้ก็คงจะต้องส่งคนมาคอยดูแลนางแล้ว ทว่ากลับไม่มีใครติดตามมาด้วยเลยสักคน”

หยุนเถียนเถียนเพียงยกยิ้มไม่ได้กล่าวคําใด เพียงแต่คิดในใจว่าเฉินเจียวเจียวคงไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกแน่

เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้นนายน้อยหลี่ยังไม่ได้จัดการสืบสาวมาจนถึงตัวนาง ทว่านางไม่กล้าพบหน้าเขา ไม่ใช่เพราะกลัวทว่าไม่ต้องการสร้างปัญหา

ถึงที่สุดแล้วเมื่อแผนการของหลี่เพิ่งถูกเปิดเผย หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาดตอนนี้เขาคงจะต้องอยู่ในเรือนจํา เพื่อรอการเนรเทศออกจากเมืองไปไกลกว่าสามพันลี้!

ส่วนนางหลี่ผู้ยังดูงดงามเยาว์วัยก็จะต้องถูกลงโทษด้วยการสักหมึกบนใบหน้าพร้อมถูกโบยอีกแปดสิบยก ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คงหนีการเนรเทศไม่พ้นเช่นเดียวกัน

เช่นนี้แล้วเหตุใดผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างเฉินเจียวเจียวยังคงอยู่รอดปลอดภัย? แม้หยุนเถียนเถียนจะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ทว่าก็คาดการณ์ได้ว่าชะตากรรมของสตรีผู้นั้นคงจบไม่สวยเป็นแน่!

ฉ่เกินฮูหยินเป็นคนเช่นไรกัน? ทุกวันนี้ลูกสาวไม่ได้พึ่งพานางอีกต่อไป ทว่าตั้งแต่เรื่องบาดหมางคราวนั้นก็ทําให้เกิดช่องว่างระหว่างนางกับเฉินเจียวเจียว ทําให้จนถึงตอนนี้นางก็ยังคงมีนตึงใส่ลูกสาวอยู่บ้าง

คนอย่างเฉินเจียวเจียวรู้ดีอยู่แล้วว่าครอบครัวนางโลภมาก การที่นางได้เป็นอนุภรรยาของนายหัวหลีก็จะช่วยให้ครอบครัวของนางสบายไปด้วย นางคิดว่านายหัวหลจะต้องกลับมารับตนแน่ หลังจากที่ให้กําเนิดบุตรแก่เขา

ความเชื่อมั่นเช่นนี้ทําให้เฉินเจียวเจียวไม่คิดเผื่อใจไว้แม้แต่น้อยจึงใช้เงินอย่างมือเติบ ซึ่งแน่นอนว่าวันใดที่เงินนั้นหมดลง ฉ่เกินฮูหยินคงมองหน้านางไม่ติดแน่

แน่นอนว่าในฐานะผู้รับชม หยุนเถียนเถียนมีความสุขยิ่งที่ได้ดูการแสดงชั้นเลิศเช่นนี้ นางจึงไม่เอ่ยสิ่งใดขัดจังหวะเลย เพียงแค่หัวเราะอย่างสาแก่ใจนัก!

เมื่อรถมาจอดสนิท หญิงชาวบ้านเหล่านั้นยังต้องการนินทาเรื่องอื่นให้ฟังอีก ทว่าหยุนเถียนเถียนรู้ข่าวที่ตนต้องการแล้วจึงไม่มีความอดทนพอที่จะฟังต่อได้

พวกนางมองหยุนเถียนเถียนกระโดดลงรถมาก่อนจะเดินไปตามลานกว้าง แล้วรถมาก็แล่นไปตามถนนอีกครั้งเพื่อนําตัวหวงจือไปส่งที่สํานักงานเขต

หยุนเถียนเถียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจไปบ้านสกุลหลิน ที่อยู่หมู่บ้านถัดไปก่อนนางหวงจะกลับมา นางต้องการพบเฉินไฉ่อีเพื่อจัดการบางอย่าง

เฉินไฉ่อีต้องการจะสร้างความเจ็บปวดให้กับสกุลหลินอย่างสาสม ด้วยความที่นางมีครอบครัวคอยหนุนหลังอยู่จึงไม่เกรงกลัวอีกต่อไป ตอนนี้นางจึงนั่งยกขาผ่อนอารมณ์อยู่หน้าบ้านพลางแทะกินเมล็ดแตงโมอย่างสบายใจ

ส่วนหลินหูก็ตะโกนเรียกจนเสียงแหบแห้ง เพราะรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อต้องอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล กระนั้นก็ไม่มีใครใส่ใจเหลียวแลเขาเลย

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เฉินไฉ่อีก็ถ่มเมล็ดแตงโมทิ้งก่อนจะยืนขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูอย่างแช่มช้า ทว่าเมื่อเปิดออกนางก็พบกับบุคคลที่นางไม่คิดอยากเจอเลยแม้แต่น้อย

หากต้องเจอศัตรูในวันที่ชีวิตมีความสุขก็คงจะเป็นเรื่องดี ทว่าเมื่อต้องเจอศัตรูในวันที่ชีวิตตกต่ำก็นับว่าเป็นหายนะได้เลยทีเดียว

เฉินไฉ่อีคิดเช่นนั้นจึงแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีหยุนเถียนเถียน นางไม่ต้องการให้ศัตรูตัวฉกาจได้เห็นความน่าสังเวชของตัวเองในตอนนี้!

“เจ้ามาทําอะไรที่นี่? จะมาหัวเราะเยาะข้าอย่างนั้นหรือ?”

ใบหน้าของหยุนเถียนเถียนเฉยเมย “คิดว่าข้าว่างมาถึงที่นี่เพียงเพื่อเยาะเย้ยเจ้าเท่านั้นหรือ? คิดว่าเจ้าสําคัญกับข้ามากขนาดนั้นเชียวเหรอ?”

“ถึงอย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้นข้าก็มีส่วนผิด ส่วนเจ้าก็ยังคงเป็นสตรีชั่วช้า เลวทรามและโง่เขลาอยู่เช่นเดิม! เช่นนี้ข้าจะหัวเราะเยาะเจ้าไปเพื่อประโยชน์ใดกัน? หากข้าหัวเราะแล้วเงินทองเพิ่มขึ้นเช่นนั้นก็ว่าไปอย่าง!”

เฉินไฉ่อีรู้สึกราวกับว่าหัวใจของตนเจ็บปวดจนด้านช้าไปเสียแล้ว นางมองว่าหยุนเถียนเถียนเป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่สุดในชีวิต ทว่านางกลับไม่มีค่าพอที่จะมีตัวตนในสายตาของอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ํา เมื่อนึกถึงสภาพอันน่าสมเพชในตอนนี้แล้วก็อดแค่นหัวเราะเยาะตัวเองออกมาไม่ได้ ช่างน่าสังเวชนัก!

“ถ้าเช่นนั้นเจ้ามาทําอะไรที่นี่เล่า?”

หยุนเถียนเถียนยกยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ารู้หนังสือและเป็นคนมีเหตุผล ทว่าเหตุไฉนจึงดูไม่ฉลาดเช่นนี้… หวงฉือทําร้ายเจ้าถึงเพียงนี้ ในหัวใจของเจ้าไม่เคยมีความเกลียดชังเคืองแค้นนางบ้างเลยหรือ? เจ้าไม่คิดว่านางสมควรชดใช้ให้แก่ลูกของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

ใบหน้าของเฉินไฉ่อีเต็มไปด้วยความระแวง “เจ้าต้องการอะไร? ไม่ว่าข้าต้องการจะทําเช่นไร มันก็เป็นเรื่องของข้า เช่นนั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าเล่า?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+