สามีข้า คือพรานป่า 358 ซื่อเอ่อ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 358 ซื่อเอ่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 358 ซื่อเอ่อ

หยิงซื่อเอ่อเองก็ไม่ประมาทเช่นกัน แม้นางจะตกหลุมรักบุรุษผู้หนึ่งในคืนนี้ กระนั้นนางก็หลักแหลมพอจะไม่รีบเร่งที่จะเข้าหาเขาในทันที

ด้วยที่นางได้เห็นกรณีที่หญิงผู้หนึ่งได้เป็นฝ่ายเริ่มชักชวนสนทนาแล้ว ซึ่งแม้ว่าหญิงผู้นั้นจะปรากฏกายต่อหน้าบุรุษเป็นครั้งแรก กระนั้นก็ดูเป็นการไม่เคารพให้เกียรติตนและผู้อื่นเลยในสายตาอีกฝั่ง

เดิมที่แขกสามคนนี้เป็นคนที่ต้องพึงสํารวมระวังมากที่สุด แม้จะเป็นหยิงชื่อเอ่อผู้จืดจางไร้ตัวตนกระนั้นนางก็มองออกว่าเขาคงเป็นหนึ่งในบรรดาแขกสามคนนั้น

สิ่งสําคัญที่สุดคือนางได้ยินว่าเขาเป็นเพียงพรานป่าเท่านั้น แต่ด้วยเป็นที่โปรดพระทัยขององค์รัฐทายาทเขาจึงได้มาร่วมงานในจวนข้าหลวงแห่งนี้

หยิงซื่อเอ่อรู้สึกเสียใจอยู่พักหนึ่งด้วยที่อีกฝ่ายเป็นเพียงพรานป่าเท่านั้น เพราะผู้เป็นบิดาคงไม่มีทางยอมให้นางได้แต่งงานกับชายผู้นั้นเป็นแน่แม้นางจะเป็นเพียงนางสนมเท่านั้น เพราะข้าหลวงหยิงคงจะยอมให้นางแต่งก็ต่อเมื่อเขาต้องการสานสัมพันธ์กับคนใหญ่คนโตเท่านั้น

ทว่าหยิ่งซื้อเอ๋อก็ไม่เต็มใจนัก นางเดินตามผู้เป็นบิดาไปก่อนได้ยินบทสนทนาของเขากับภรรยา

ดังนั้นหยิ่งซื้อเอ๋อจึงรวบรวมความกล้าครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตตนแล้วกล่าว กับบุพการี

“ท่านพ่อ! ท่านแม่! ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งที่นอกจากจะไม่ทําให้ท่านรัฐทายาท เคืองใจแล้วยังสามารถซื้อใจท่านรัฐทายาทได้ด้วย และที่สําคัญอุบายนี้ช่างแนบเนียนนักด้วย!”

เดิมที่ข้าหลวงหยิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรลูกสาวผู้นี้มากถึงขั้นจาชื่อนางได้เพียงรางๆ เท่านั้นจนเหมือนหยิงซื่อเอ่อเป็นเพียงอากาศธาตุในตระกูล

ทว่าสิ่งที่นางพูดมานั้นช่างนาสนใจเสียเหลือเกิน

“เช่นนั้นเจ้าก็ว่ามาเถิด!”

หยิงฮูหยินจองไปยังลูกสาวทันทีด้วยสายตาจ้องจะกินเลือดกินเนื้อ เพราะลูกสาวที่แทบจะไร้ตัวตนผู้นี้กลับกล้าเสนอตัวออกมาพูดทั้งที่ควรตระหนักได้ว่าอย่าทําอะไรเกินหน้าเกินตา

เมื่อเห็นแววตาของฮูหยินแล้ว หยิ่งซื้อเอ่อก็รู้สึกหวั่นกลัวนัก ว่าตามจริงแล้วนางก็เป็นเพียงลูกสาวอนที่อยู่ใต้โอวาทของของผู้เป็นแม่เท่านั้น

แต่กลัวก็ส่วนกลัว เพราะไม่มีเหตุขัดข้องอันใดระหว่างสิ่งที่นางต้องการจะทํากับความสนใจของฮูหยิน

“ท่านพ่อ! หากท่านไม่อาจซื้อใจท่านรัฐทายาทได้ก็จงซื้อใจคนรอบตัวเขา เป็นตนว่าเพื่อนพ้องน้องพี่ของเขาประการหนึ่ง! วันนี้ตัวข้าเองก็ได้พบคุณชายหยุนด้วย! แม้เขาจะเป็นเพียงพรานป่าแต่เขาก็เป็นยอดคนผู้หนึ่ง! ข้า…”

หยิงซื่อเอ๋อหน้าแดงอย่างเอียงอายเป็นที่โล่งใจแก่ฮูหยินผู้เป็นมารดา

กลายเป็นว่านางได้ตกหลุมนายพรานธรรมดา ๆ ถือได้ว่าลูกสาวผู้นี้ช่างตระหนักรู้ในตัวเองดี แม้ว่าการแต่งงานกับพรานป่าอาจไม่ได้มีชีวิตที่ดี แต่อย่างน้อยนางก็จะได้เป็นเมียเอกของเขา

เมื่อฮูหยินคิดได้ดังนั้นก็ตอบกลับว่า “เจ้าเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่กลับมีความคิดความอ่านดีนัก! ท่านพี่…เราเองก็เอาอกเอาใจท่านรัฐทายาทในระดับหนึ่งแล้ว ไยจะไม่เดินหน้าต่อเล่า!”

“หากลูกสาวผู้งดงามจิตใจดีของเราแต่งงานกับพรานป่าผู้นั้นเราคงเสียเปรียบ! และหากพรานป่าผู้นั้นเป็นฝ่ายคิดขอแต่งงานละก็ แม้เราจะให้เกียรติสัญญากับท่านรัฐทายาทแล้ว เขาคงไม่มีทางเมินเฉยหรอก?”

ข้าหลวงหยิงไม่เห็นด้วยว่านั้นเป็นอุบายที่ดี หากต้องแลกลูกสาวกับการเข้าใกล์คนใหญ่คนโตนั้นยังนับว่ามีค่าทว่าเมื่อเป็นพรานป่าที่ไม่มีผลประโยชน์อันใดแล้วข้าหลวงหยิ่งก็ไม่สู้เต็มใจยอมนัก

“เจ้าเป็นอะไรไปลูกข้า? เจ้าอยากลุ่มจมนักหรือถึงได้คิดแต่งงานกับนายพรานนั่น?”

หยิงซื่อเอ่อรู้ว่าบิดาของตนไม่ใช่คนชอบมองการณ์ไกลในตอนนี้ เมื่อเขาคิดว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์กับนายน้อยหยุนน้ําตาก็เริ่มคลอขึ้นในเบ้า

แน่นอนว่าตัวฮูหยินก็ต้องการอยู่อย่างสุขสบาย นางจึงยอมสลัดภาพฮูหยินผู้มีเมตตาในความรับรู้ของสามี และแลกบุตรสาวตนกับชื่อเสียงเผื่อว่าพรานผู้นั้นจะเป็นคนมีวาสนาจริงก็ถือว่านางไม่ได้ทําลายอนาคตตัวเอง

“ท่านพี่…ซื่อเอ่อเป็นเด็กดีที่นอบน้อมเชื่อฟัง โอกาสน้อยนักที่นางจะกล้าแสดงออกเช่นนี้! ข้าว่าเราปล่อยนางไปเสียจะดีกว่าเรายังมีลูกสาวอีกมากมายนัก”

“คุณชายหยุนที่ซื่อเอ๋อชื่นชอบนั้นไม่ใช่คนธรรมดาในยามแรกเห็น แม้บัดนี้เขาจะเป็นเพียงพรานป่า แต่ใครจะรู้หากเขาได้มีโอกาสเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต”

แม้ข้าหลวงหยิงจะไม่สบอารมณ์นัก ทว่าเมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าตนยังมีลูกสาวจํานวนมากให้ใช้งานในอนาคต ซื้อเอ่อนี้นับว่ามีความคิดของเป็นตัวเองจริง ๆ ไม่ต้องนึกเลยว่านางคงเป็นที่โปรดปรานของรัฐทายาทเป็นแน่

ดังนั้นเขาจึงกล่าวรับลูก “ชื่อเอ่อ… อย่าหาว่าพ่อของใจร้ายเลยนะไม่มีทางที่พ่อจะยอมจัดงานสมรสให้กับเจ้า! เว้นแต่หากเจ้ามีวิธีทําให้คุณชายหยุนไปร้องขอพ่อของเขาว่าต้องการแต่งงานกับเจ้าพ่อของเขาคงยอมแต่โดยดี!”

เมื่อหยิ่งซื้อเอ่อบรรลุเป้าหมายของตนแล้วนางก็ตื่นเต้นยินดีจนน้ําตาไหลด้วยความปิติ

“ขอบคุณท่านพ่อ แม้ข้าไม่อาจละเลยเพิกต่อฐานะลูกสาวของตระกูลและไล่ตามคุณชายหยุน แต่แม่นางหยุนเถียนเถียนน้องสาวเขาก็อยู่ที่นี่ หากเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแม่นางได้อนาคตเราย่อมมีโอกาส!”

ข้าหลวงหยิ่งพยักหน้าเบา ๆ “เจ้านึกเช่นนี้ได้ก็ดีแล้ว!”

หยังฮูหยินไม่ได้ใส่ใจว่าสามีตนจะไปอยู่กับนางอนุคนไหนและรู้อยู่แก่ใจดีว่าไม่อาจมัดใจสามีของตนได้ แต่ตราบใดที่นางจิ้งจอกพวกนั้นไม่ได้รับอนุญาตข้ามหน้าข้ามตาตนเองได้นางก็ไม่จําเป็นต้องสนใจ

และโชคดีที่นางก็เป็นผู้ให้กําเนิดบุตรชายคนโตของข้าหลวงหยิ่ง ดังนั้นแม่ในภายภาคหน้านางอนคนอื่นจะประสบความสําเร็จอย่างไรก็ไม่อาจเทียบบารมีนางได้อยู่ดี

กับอีแค่ลูกสาวคนหนึ่ง คิดถึงลูกสาวที่ทุกข์ยากคนนี้ คุณหญิงยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นไม่ได้

หยิงอิงเอ๋อไม่มีอะไรที่จะทําได้อีกแล้วจึงอาละวาดพังข้าวของอยู่อย่างนั้น

คราวนี้หยิงฮูหยินเลิกวางท่าที่สุภาพแล้วนางถีบประตูจนเปิดก่อนตบโต๊ะดังฉาดด้วยความหัวเสีย

“ตัวเจ้าช่างดูน่าสิ้นหวังขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้ว! อยู่ข้างนอกเจ้าก็ไม่มีปัญญาจะทําสิ่งใด อยู่ข้างในก็ทําได้เพียงตบตีสาวใช้อยู่อย่างนั้นเอาล่ะ สําหรับเรื่องท่านรัฐทายาท… จากนี้เจ้าจงอยู่ใต้โอวาทของข้าอยู่ที่นี่เสียจนกว่าพ่อของเจ้จะหาชายมาแต่งให้เจ้าออกเรือนไปเถอะ!”

หยิงอิงเอ๋อทวีความข้องใจขึ้นเรื่อย ๆ “หมายความว่าอย่างไรกันท่านแม่… ไยท่านจึงอยากให้ข้าแต่งไปอยู่เรือนเล็ก ๆ เช่นนั้น! ข้าเป็นลูกสาวของท่านนะ! หากไม่ช่วยข้าแล้วท่านจะช่วยผู้ใดอีก”

หยังฮูหยินยิ่งปวดใจเมื่อระลึกถึงประเด็นนี้ “เจ้ายังจะพูดอีก! ตามสบายเถิด… เจ้าคงยังพูดไม่จบใช่ไหม เจ้าพูดเรื่องอะไร? นี่ใช่ธุระที่คนอย่างเจ้าควรพูดถึงร?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 358 ซื่อเอ่อ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 358 ซื่อเอ่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 358 ซื่อเอ่อ

หยิงซื่อเอ่อเองก็ไม่ประมาทเช่นกัน แม้นางจะตกหลุมรักบุรุษผู้หนึ่งในคืนนี้ กระนั้นนางก็หลักแหลมพอจะไม่รีบเร่งที่จะเข้าหาเขาในทันที

ด้วยที่นางได้เห็นกรณีที่หญิงผู้หนึ่งได้เป็นฝ่ายเริ่มชักชวนสนทนาแล้ว ซึ่งแม้ว่าหญิงผู้นั้นจะปรากฏกายต่อหน้าบุรุษเป็นครั้งแรก กระนั้นก็ดูเป็นการไม่เคารพให้เกียรติตนและผู้อื่นเลยในสายตาอีกฝั่ง

เดิมที่แขกสามคนนี้เป็นคนที่ต้องพึงสํารวมระวังมากที่สุด แม้จะเป็นหยิงชื่อเอ่อผู้จืดจางไร้ตัวตนกระนั้นนางก็มองออกว่าเขาคงเป็นหนึ่งในบรรดาแขกสามคนนั้น

สิ่งสําคัญที่สุดคือนางได้ยินว่าเขาเป็นเพียงพรานป่าเท่านั้น แต่ด้วยเป็นที่โปรดพระทัยขององค์รัฐทายาทเขาจึงได้มาร่วมงานในจวนข้าหลวงแห่งนี้

หยิงซื่อเอ่อรู้สึกเสียใจอยู่พักหนึ่งด้วยที่อีกฝ่ายเป็นเพียงพรานป่าเท่านั้น เพราะผู้เป็นบิดาคงไม่มีทางยอมให้นางได้แต่งงานกับชายผู้นั้นเป็นแน่แม้นางจะเป็นเพียงนางสนมเท่านั้น เพราะข้าหลวงหยิงคงจะยอมให้นางแต่งก็ต่อเมื่อเขาต้องการสานสัมพันธ์กับคนใหญ่คนโตเท่านั้น

ทว่าหยิ่งซื้อเอ๋อก็ไม่เต็มใจนัก นางเดินตามผู้เป็นบิดาไปก่อนได้ยินบทสนทนาของเขากับภรรยา

ดังนั้นหยิ่งซื้อเอ๋อจึงรวบรวมความกล้าครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตตนแล้วกล่าว กับบุพการี

“ท่านพ่อ! ท่านแม่! ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งที่นอกจากจะไม่ทําให้ท่านรัฐทายาท เคืองใจแล้วยังสามารถซื้อใจท่านรัฐทายาทได้ด้วย และที่สําคัญอุบายนี้ช่างแนบเนียนนักด้วย!”

เดิมที่ข้าหลวงหยิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรลูกสาวผู้นี้มากถึงขั้นจาชื่อนางได้เพียงรางๆ เท่านั้นจนเหมือนหยิงซื่อเอ่อเป็นเพียงอากาศธาตุในตระกูล

ทว่าสิ่งที่นางพูดมานั้นช่างนาสนใจเสียเหลือเกิน

“เช่นนั้นเจ้าก็ว่ามาเถิด!”

หยิงฮูหยินจองไปยังลูกสาวทันทีด้วยสายตาจ้องจะกินเลือดกินเนื้อ เพราะลูกสาวที่แทบจะไร้ตัวตนผู้นี้กลับกล้าเสนอตัวออกมาพูดทั้งที่ควรตระหนักได้ว่าอย่าทําอะไรเกินหน้าเกินตา

เมื่อเห็นแววตาของฮูหยินแล้ว หยิ่งซื้อเอ่อก็รู้สึกหวั่นกลัวนัก ว่าตามจริงแล้วนางก็เป็นเพียงลูกสาวอนที่อยู่ใต้โอวาทของของผู้เป็นแม่เท่านั้น

แต่กลัวก็ส่วนกลัว เพราะไม่มีเหตุขัดข้องอันใดระหว่างสิ่งที่นางต้องการจะทํากับความสนใจของฮูหยิน

“ท่านพ่อ! หากท่านไม่อาจซื้อใจท่านรัฐทายาทได้ก็จงซื้อใจคนรอบตัวเขา เป็นตนว่าเพื่อนพ้องน้องพี่ของเขาประการหนึ่ง! วันนี้ตัวข้าเองก็ได้พบคุณชายหยุนด้วย! แม้เขาจะเป็นเพียงพรานป่าแต่เขาก็เป็นยอดคนผู้หนึ่ง! ข้า…”

หยิงซื่อเอ๋อหน้าแดงอย่างเอียงอายเป็นที่โล่งใจแก่ฮูหยินผู้เป็นมารดา

กลายเป็นว่านางได้ตกหลุมนายพรานธรรมดา ๆ ถือได้ว่าลูกสาวผู้นี้ช่างตระหนักรู้ในตัวเองดี แม้ว่าการแต่งงานกับพรานป่าอาจไม่ได้มีชีวิตที่ดี แต่อย่างน้อยนางก็จะได้เป็นเมียเอกของเขา

เมื่อฮูหยินคิดได้ดังนั้นก็ตอบกลับว่า “เจ้าเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่กลับมีความคิดความอ่านดีนัก! ท่านพี่…เราเองก็เอาอกเอาใจท่านรัฐทายาทในระดับหนึ่งแล้ว ไยจะไม่เดินหน้าต่อเล่า!”

“หากลูกสาวผู้งดงามจิตใจดีของเราแต่งงานกับพรานป่าผู้นั้นเราคงเสียเปรียบ! และหากพรานป่าผู้นั้นเป็นฝ่ายคิดขอแต่งงานละก็ แม้เราจะให้เกียรติสัญญากับท่านรัฐทายาทแล้ว เขาคงไม่มีทางเมินเฉยหรอก?”

ข้าหลวงหยิงไม่เห็นด้วยว่านั้นเป็นอุบายที่ดี หากต้องแลกลูกสาวกับการเข้าใกล์คนใหญ่คนโตนั้นยังนับว่ามีค่าทว่าเมื่อเป็นพรานป่าที่ไม่มีผลประโยชน์อันใดแล้วข้าหลวงหยิ่งก็ไม่สู้เต็มใจยอมนัก

“เจ้าเป็นอะไรไปลูกข้า? เจ้าอยากลุ่มจมนักหรือถึงได้คิดแต่งงานกับนายพรานนั่น?”

หยิงซื่อเอ่อรู้ว่าบิดาของตนไม่ใช่คนชอบมองการณ์ไกลในตอนนี้ เมื่อเขาคิดว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์กับนายน้อยหยุนน้ําตาก็เริ่มคลอขึ้นในเบ้า

แน่นอนว่าตัวฮูหยินก็ต้องการอยู่อย่างสุขสบาย นางจึงยอมสลัดภาพฮูหยินผู้มีเมตตาในความรับรู้ของสามี และแลกบุตรสาวตนกับชื่อเสียงเผื่อว่าพรานผู้นั้นจะเป็นคนมีวาสนาจริงก็ถือว่านางไม่ได้ทําลายอนาคตตัวเอง

“ท่านพี่…ซื่อเอ่อเป็นเด็กดีที่นอบน้อมเชื่อฟัง โอกาสน้อยนักที่นางจะกล้าแสดงออกเช่นนี้! ข้าว่าเราปล่อยนางไปเสียจะดีกว่าเรายังมีลูกสาวอีกมากมายนัก”

“คุณชายหยุนที่ซื่อเอ๋อชื่นชอบนั้นไม่ใช่คนธรรมดาในยามแรกเห็น แม้บัดนี้เขาจะเป็นเพียงพรานป่า แต่ใครจะรู้หากเขาได้มีโอกาสเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต”

แม้ข้าหลวงหยิงจะไม่สบอารมณ์นัก ทว่าเมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าตนยังมีลูกสาวจํานวนมากให้ใช้งานในอนาคต ซื้อเอ่อนี้นับว่ามีความคิดของเป็นตัวเองจริง ๆ ไม่ต้องนึกเลยว่านางคงเป็นที่โปรดปรานของรัฐทายาทเป็นแน่

ดังนั้นเขาจึงกล่าวรับลูก “ชื่อเอ่อ… อย่าหาว่าพ่อของใจร้ายเลยนะไม่มีทางที่พ่อจะยอมจัดงานสมรสให้กับเจ้า! เว้นแต่หากเจ้ามีวิธีทําให้คุณชายหยุนไปร้องขอพ่อของเขาว่าต้องการแต่งงานกับเจ้าพ่อของเขาคงยอมแต่โดยดี!”

เมื่อหยิ่งซื้อเอ่อบรรลุเป้าหมายของตนแล้วนางก็ตื่นเต้นยินดีจนน้ําตาไหลด้วยความปิติ

“ขอบคุณท่านพ่อ แม้ข้าไม่อาจละเลยเพิกต่อฐานะลูกสาวของตระกูลและไล่ตามคุณชายหยุน แต่แม่นางหยุนเถียนเถียนน้องสาวเขาก็อยู่ที่นี่ หากเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแม่นางได้อนาคตเราย่อมมีโอกาส!”

ข้าหลวงหยิ่งพยักหน้าเบา ๆ “เจ้านึกเช่นนี้ได้ก็ดีแล้ว!”

หยังฮูหยินไม่ได้ใส่ใจว่าสามีตนจะไปอยู่กับนางอนุคนไหนและรู้อยู่แก่ใจดีว่าไม่อาจมัดใจสามีของตนได้ แต่ตราบใดที่นางจิ้งจอกพวกนั้นไม่ได้รับอนุญาตข้ามหน้าข้ามตาตนเองได้นางก็ไม่จําเป็นต้องสนใจ

และโชคดีที่นางก็เป็นผู้ให้กําเนิดบุตรชายคนโตของข้าหลวงหยิ่ง ดังนั้นแม่ในภายภาคหน้านางอนคนอื่นจะประสบความสําเร็จอย่างไรก็ไม่อาจเทียบบารมีนางได้อยู่ดี

กับอีแค่ลูกสาวคนหนึ่ง คิดถึงลูกสาวที่ทุกข์ยากคนนี้ คุณหญิงยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นไม่ได้

หยิงอิงเอ๋อไม่มีอะไรที่จะทําได้อีกแล้วจึงอาละวาดพังข้าวของอยู่อย่างนั้น

คราวนี้หยิงฮูหยินเลิกวางท่าที่สุภาพแล้วนางถีบประตูจนเปิดก่อนตบโต๊ะดังฉาดด้วยความหัวเสีย

“ตัวเจ้าช่างดูน่าสิ้นหวังขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้ว! อยู่ข้างนอกเจ้าก็ไม่มีปัญญาจะทําสิ่งใด อยู่ข้างในก็ทําได้เพียงตบตีสาวใช้อยู่อย่างนั้นเอาล่ะ สําหรับเรื่องท่านรัฐทายาท… จากนี้เจ้าจงอยู่ใต้โอวาทของข้าอยู่ที่นี่เสียจนกว่าพ่อของเจ้จะหาชายมาแต่งให้เจ้าออกเรือนไปเถอะ!”

หยิงอิงเอ๋อทวีความข้องใจขึ้นเรื่อย ๆ “หมายความว่าอย่างไรกันท่านแม่… ไยท่านจึงอยากให้ข้าแต่งไปอยู่เรือนเล็ก ๆ เช่นนั้น! ข้าเป็นลูกสาวของท่านนะ! หากไม่ช่วยข้าแล้วท่านจะช่วยผู้ใดอีก”

หยังฮูหยินยิ่งปวดใจเมื่อระลึกถึงประเด็นนี้ “เจ้ายังจะพูดอีก! ตามสบายเถิด… เจ้าคงยังพูดไม่จบใช่ไหม เจ้าพูดเรื่องอะไร? นี่ใช่ธุระที่คนอย่างเจ้าควรพูดถึงร?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+