สามีข้า คือพรานป่า 142 โรงงาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 142 โรงงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 142 โรงงาน

 

เนื้อตากแห้งงั้นหรือ?

 

หัวหน้าหมู่บ้านถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

 

“หัวหน้าหมู่บ้านวางใจได้ ข้ารู้วิธีทําเนื้อตากแห้งและข้าก็จะให้คนในหมู่บ้านทําด้วย”

 

หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกไม่สบายใจนัก แต่ก็ยังถามต่อพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ข้าไม่รู้ว่าวิธีการเป็นอย่างไร?”

 

หยุนเถียนเถียนยิ้มหวาน “เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะบอกวิธีการผลิตทั้งหมด แต่ข้าให้คนในหมู่บ้านช่วยทํางานและสร้างโรงงานให้ข้า ด้วยวิธีนี้ชาวบ้านสามารถหารายได้โดยไม่ต้องออกจากหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านคิดอย่างไร? “

 

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้า การช่วยทํางานและได้รับค่าแรงวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ง่ายมากและไม่ต้องกลัวเสียเงินด้วย!

 

“เจ้าเป็นแค่เด็กตัวน้อยแต่รีบร้อนจ้างคนมาทํางาน แน่ใจแล้วหรือ?”

 

“แม้ไม่แน่ใจว่าข้าอาจจะขาดทุน แต่หัวหน้าหมู่บ้านไม่ต้องกังวล ข้าสามารถจ่ายค่าแรงได้แน่!”

 

“อืม! เช่นนั้นก็ดี แต่เจ้าจะจ้างใครบ้าง? ต้องทํางานอะไร? ต้องบอกให้ชัดเจน ข้าจะได้เลือกคนในหมู่บ้านที่ทํางานได้จริงให้!”

 

หยุนเถียนเถียนพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้น ข้ากําลังมองหาผู้ที่สามารถซื้อเนื้อหมูและไก่ให้ข้า ไม่ว่าเขาจะหามาได้ในราคาเท่าไหร่ ข้าจะเพิ่มให้พิเศษอีกยี่สิบเหวินจากราคาที่พวกเขาซื้อมา ข้าต้องการมากที่สุดเท่าที่จะหาได้”

 

คุ้มค่ายิ่งนักสําหรับราคานี้! แม้ว่าจะได้เพิ่มอีกแค่ยี่สิบเหวินจากราคาในท้องตลาด แต่ทั้งหมดก็ขายได้ จะเปรียบเทียบกับการซื้อจํานวนมากของที่นี่ได้อย่างไร?

 

“แต่คุณภาพของเนื้อต้องดี เนื้อต้องสด! เรื่องนี้ต้องชัดเจน จะมากล่าวหาว่าข้าไม่ชัดเจน แล้วเอาเนื้อเก่ามาหลอกขายให้ข้าไม่ได้”

 

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ต้องเป็นเช่นนั้น!”

 

หยุนเถียนเถียนคิดอย่างรอบคอบก่อนจะกล่าวขึ้น “ในการทําเนื้อตากแห้ง ต้องใช้ฟืนเป็นจํานวนมาก ชาวบ้านสามารถตัดฟื้นมาขายให้ข้าได้ในราคามัดละสองเหวิน แต่ฟืนต้องขึ้น อย่าปล่อยให้แห้ง ข้ายังพวกรับรําข้าวและธัญพืชไร้ประโยชน์จากในหมู่บ้านด้วย ท่านก็รู้ว่าของพวกนี้ไร้ค่า แต่ข้าให้ราคาสองเหวินต่อหนึ่งร้อยจิน”

 

ของพวกนี้ไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง ชาวบ้านมักจะเอาสิ่งเหล่านี้ไปเลี้ยงหมู เมื่อหมูกินไม่หมด ก็เอามาโยนลงดินเป็นปุ๋ย

 

หากเปลี่ยนเป็นเงินได้ย่อมดีกว่าแน่

 

“นอกจากนี้ ข้าต้องหาคนงานสองคนที่อายุน้อยและแข็งแรงมาทํางานที่บ้าน ค่าจ้างวันละสิบเหวิน ข้าไม่มีอาหารให้พวกเขาต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน แต่ข้ามีค่าอาหารเพิ่มให้อีกสองเหวิน”

 

ในช่วงเวลาว่างจากการทําเกษตรกรรม มักจะมีผู้ชายที่ขยันขันแข็งออกไปหางานทํา ไม่ใช่แค่ในเมืองและไม่ใช่ทุกคนที่จะหางานทําได้ ถึงมีงานทําแต่ค่าแรงสิบเหวินต่อวัน เป็นไปไม่ได้ว่าจะหาเงินได้มากมายขนาดนี้จากในหมู่บ้าน หลายคนย่อมยินดีที่จะได้รับค่าจ้างราคานี้

 

“หากต้องการสร้างโรงงาน ต้องมีที่ดิน บ้านของข้าที่ถูกไฟไหม้ต้องซ่อมใหม่ เรื่องนี้หัวหน้าหมู่บ้านได้โปรดช่วยข้าด้วย”

 

หัวหน้าหมู่บ้านตกปากรับคําครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็ทิ้งเงินไว้ให้สามสิบตําลึงและขอให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยซ่อมแซมบ้านที่ถูกไฟไหม้ หยุนเถียนเถียนรู้สึกโล่งใจที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี เช่นนี้นางจึงเดินทางกลับบ้านอย่างสบายใจ

 

หลี่ซื่อฮวานั่งรถม้าเข้ามาในหมู่บ้าน ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของชาวบ้านทุกคน รถม้าคันดังกล่าวหยุดอยู่ตรงลานหน้าบ้านของหยุนเคออย่างเหมาะเจาะ

 

จากนั้นทุกคนก็เห็นกับตาว่าเนื้อตากแห้งรมควันสีเหลือง กลิ่นหอมฟุ้งถูกขนเข้าไปในรถม้า จากนั้นมันก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว!

 

ในขณะที่ทุกคนกําลังสงสัยอยู่นั้น หัวหน้าหมู่บ้านก็เรียกให้ไปรวมตัวกันที่โถงบรรพบุรุษเพื่อประชุม

 

เมื่อไปถึงที่นั่นทุกคนจึงได้ทราบว่าตระกูลหลี่รับซื้อเนื้อตากแห้งของหยุนเถียนเถียนในราคาสูง

 

ต่อไปไม่ว่าหยุนเทียนเถียนจะทําอะไรผู้คนก็ไม่สงสัย ในที่สุดเงินของนางก็มีที่มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

แล้วหัวหน้าหมู่บ้านจัดประชุมอย่างไร? เขาอธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าอย่างไรนั้น หยุนเถียนเถียนไม่ได้สนใจ

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันรุ่งสางก็เริ่มมีผู้คนมาทํางานในบริเวณบ้านที่ถูกไฟไหม้ พวกเขาซื้อซากปรักหักพังและสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่อย่างเชี่ยวชาญ

 

ไม่มีใครมารบกวนหยุนเถียนเถียนเนื่องจากได้รับคําอธิบายจากหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้จึงทําให้นางมีความสุขมาก

 

สําหรับเฉินผิงอันนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจหยุนเถียนเถียนมากนัก แต่ก็ได้ยินข่าวจากที่นั่นเข้าหูเป็นระยะ

 

เฉินผิงอันไม่ได้สร้างบ้านขึ้นใหม่ เนื่องจากบ้านเดิมเป็นบ้านอิฐซึ่งค่อนข้างแข็งแรง แม้ว่าคานหลังคาจะถูกไฟไหม้ แต่ภายในสองวันเฉินผิงอันก็ขอให้ใครสักคนมาช่วยทําความสะอาด ถือว่ายังพออยู่ได้

 

ไม่มีใครรับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในบ้านหลังนี้

 

ตอนนี้แม้เฉินผิงอันจะไม่ติดการพนันอีกต่อไปแล้ว แต่เขากลับจมดิ่งลงสู่นรกขุมอื่น

 

หลินชวนฮวาพาเฉินเฉิงเยี่ยออกไปแล้ว และมรดกทั้งหมดยกให้ลูกชายคนโต เฉินผิงอันจึงอยู่คนเดียวและไม่เหลืออะไร

 

หลังจากดื่มสุราจนเมามาย เขาก็หลงใหลในรสชาติแห่งการถูกมอมเมา

 

เมื่อเห็นโรงงานที่สร้างขึ้นเสร็จแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านก็จัดการให้เงินไปลูกชายของเขาช่วยไปจัดการซื้อหมู ซึ่งมันน่าจะเป็นงานง่ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้ไม่แปลกเลยเพราะหัวหน้าหมู่บ้านย่อมให้ความสําคัญของคนในครอบครัวก่อน

 

นางหวังภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านก็เป็นคนเฉลียวฉลาด เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ จะไม่รีบเกาะนางไว้ให้แน่นได้หรือ?

 

แม้ว่าตอนนี้จะทําได้เพียงแค่ช่วยหญิงผู้นี้ทํางาน แต่ตราบใดที่ยังยืนหยัดและทํางานได้ยาวนาน ยังจะต้องกลัวหญิงสาวไม่เห็นความสําคัญอีกหรือ?

 

นางหวังพาเฉินหลิงผู้เป็นสะใภ้ใหญ่มาช่วยหมักหมูใส่เกลือ คอยรับเนื้อดิบที่เหมาะสําหรับรมควันจากมือหยุนเถียนเถียนและช่วยรมควันเนื้อตากแห้ง

 

ผู้ใหญ่บ้านรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อคนในหมู่บ้าน เพื่อให้ทํางานสําเร็จลุล่วง เขาจึงไม่ไปรบกวนให้ผู้อื่นไม่สบายใจ

 

เฉินช่งซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนั้น มีน้องชายผู้หนึ่งทันที ที่เกวียนของเขาว่าง เขามักจะไปเรี่ยไรช่วยขนสินค้าให้หยุนเถียนเถียน ดังนั้นเขาจึงหาเงินได้มากมาย

 

ส่วนผู้รับผลประโยชน์รายอื่น ๆ มีเพียงป่าหวางและลูก สะใภ้

 

ป้าหวางเคยช่วยหยุนเทียนเถียนบ้างเล็กน้อย ดังนั้นหยุนเถียนเถียนจึงสามารถพูดกับหัวหน้าหมู่บ้านได้เกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านขอให้ป่าหวางช่วย ชาวบ้านหลายคนต่างคัดค้าน แต่เมื่อได้ยินว่าแม่นางหยุนออกปากให้ ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดมากนัก

 

แล้วทั้งหมู่บ้านก็เริ่มคึกคัก ไม่มีใครคิดว่าไม่ต้องแบกฟื้นบนภูเขาเข้าไปขายถึงในเมือง แค่เพียงขายในหมู่บ้านก็ได้ราคาดีแล้ว

 

มัดละสองเหวิน วันละสิบเหวินก็สามารถทําได้สบาย!

 

แต่คนอื่นในโรงงานยังบอกว่าหามาได้อีกเท่าที่ต้องการเพราะความต้องการนั้นไม่มีที่สิ้นสุด!

 

ด้วยการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพของโรงงาน เนื้อสัตว์จากหมู่บ้านใกล้เคียงหลายแห่งจึงถูกส่งมายังโรงงานนี้ ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เพียงพอสําหรับส่งขายล็อตแรกสองพันจิน

 

หยุนเถียนเถียนกังวลเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจจะเปิดพื้นที่รกร้างใกล้ ๆ เพื่อเลี้ยงสัตว์เอง

 

แต่หยุนเคอยับยั้งจินตนาการของนางในทันที “เจ้านี่คิดสิ่งใด ก็จะทําสิ่งนั้นให้ได้เลยงั้นหรือ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 142 โรงงาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 142 โรงงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 142 โรงงาน

 

เนื้อตากแห้งงั้นหรือ?

 

หัวหน้าหมู่บ้านถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

 

“หัวหน้าหมู่บ้านวางใจได้ ข้ารู้วิธีทําเนื้อตากแห้งและข้าก็จะให้คนในหมู่บ้านทําด้วย”

 

หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกไม่สบายใจนัก แต่ก็ยังถามต่อพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ข้าไม่รู้ว่าวิธีการเป็นอย่างไร?”

 

หยุนเถียนเถียนยิ้มหวาน “เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะบอกวิธีการผลิตทั้งหมด แต่ข้าให้คนในหมู่บ้านช่วยทํางานและสร้างโรงงานให้ข้า ด้วยวิธีนี้ชาวบ้านสามารถหารายได้โดยไม่ต้องออกจากหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านคิดอย่างไร? “

 

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้า การช่วยทํางานและได้รับค่าแรงวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ง่ายมากและไม่ต้องกลัวเสียเงินด้วย!

 

“เจ้าเป็นแค่เด็กตัวน้อยแต่รีบร้อนจ้างคนมาทํางาน แน่ใจแล้วหรือ?”

 

“แม้ไม่แน่ใจว่าข้าอาจจะขาดทุน แต่หัวหน้าหมู่บ้านไม่ต้องกังวล ข้าสามารถจ่ายค่าแรงได้แน่!”

 

“อืม! เช่นนั้นก็ดี แต่เจ้าจะจ้างใครบ้าง? ต้องทํางานอะไร? ต้องบอกให้ชัดเจน ข้าจะได้เลือกคนในหมู่บ้านที่ทํางานได้จริงให้!”

 

หยุนเถียนเถียนพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้น ข้ากําลังมองหาผู้ที่สามารถซื้อเนื้อหมูและไก่ให้ข้า ไม่ว่าเขาจะหามาได้ในราคาเท่าไหร่ ข้าจะเพิ่มให้พิเศษอีกยี่สิบเหวินจากราคาที่พวกเขาซื้อมา ข้าต้องการมากที่สุดเท่าที่จะหาได้”

 

คุ้มค่ายิ่งนักสําหรับราคานี้! แม้ว่าจะได้เพิ่มอีกแค่ยี่สิบเหวินจากราคาในท้องตลาด แต่ทั้งหมดก็ขายได้ จะเปรียบเทียบกับการซื้อจํานวนมากของที่นี่ได้อย่างไร?

 

“แต่คุณภาพของเนื้อต้องดี เนื้อต้องสด! เรื่องนี้ต้องชัดเจน จะมากล่าวหาว่าข้าไม่ชัดเจน แล้วเอาเนื้อเก่ามาหลอกขายให้ข้าไม่ได้”

 

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ต้องเป็นเช่นนั้น!”

 

หยุนเถียนเถียนคิดอย่างรอบคอบก่อนจะกล่าวขึ้น “ในการทําเนื้อตากแห้ง ต้องใช้ฟืนเป็นจํานวนมาก ชาวบ้านสามารถตัดฟื้นมาขายให้ข้าได้ในราคามัดละสองเหวิน แต่ฟืนต้องขึ้น อย่าปล่อยให้แห้ง ข้ายังพวกรับรําข้าวและธัญพืชไร้ประโยชน์จากในหมู่บ้านด้วย ท่านก็รู้ว่าของพวกนี้ไร้ค่า แต่ข้าให้ราคาสองเหวินต่อหนึ่งร้อยจิน”

 

ของพวกนี้ไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง ชาวบ้านมักจะเอาสิ่งเหล่านี้ไปเลี้ยงหมู เมื่อหมูกินไม่หมด ก็เอามาโยนลงดินเป็นปุ๋ย

 

หากเปลี่ยนเป็นเงินได้ย่อมดีกว่าแน่

 

“นอกจากนี้ ข้าต้องหาคนงานสองคนที่อายุน้อยและแข็งแรงมาทํางานที่บ้าน ค่าจ้างวันละสิบเหวิน ข้าไม่มีอาหารให้พวกเขาต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน แต่ข้ามีค่าอาหารเพิ่มให้อีกสองเหวิน”

 

ในช่วงเวลาว่างจากการทําเกษตรกรรม มักจะมีผู้ชายที่ขยันขันแข็งออกไปหางานทํา ไม่ใช่แค่ในเมืองและไม่ใช่ทุกคนที่จะหางานทําได้ ถึงมีงานทําแต่ค่าแรงสิบเหวินต่อวัน เป็นไปไม่ได้ว่าจะหาเงินได้มากมายขนาดนี้จากในหมู่บ้าน หลายคนย่อมยินดีที่จะได้รับค่าจ้างราคานี้

 

“หากต้องการสร้างโรงงาน ต้องมีที่ดิน บ้านของข้าที่ถูกไฟไหม้ต้องซ่อมใหม่ เรื่องนี้หัวหน้าหมู่บ้านได้โปรดช่วยข้าด้วย”

 

หัวหน้าหมู่บ้านตกปากรับคําครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็ทิ้งเงินไว้ให้สามสิบตําลึงและขอให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยซ่อมแซมบ้านที่ถูกไฟไหม้ หยุนเถียนเถียนรู้สึกโล่งใจที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี เช่นนี้นางจึงเดินทางกลับบ้านอย่างสบายใจ

 

หลี่ซื่อฮวานั่งรถม้าเข้ามาในหมู่บ้าน ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของชาวบ้านทุกคน รถม้าคันดังกล่าวหยุดอยู่ตรงลานหน้าบ้านของหยุนเคออย่างเหมาะเจาะ

 

จากนั้นทุกคนก็เห็นกับตาว่าเนื้อตากแห้งรมควันสีเหลือง กลิ่นหอมฟุ้งถูกขนเข้าไปในรถม้า จากนั้นมันก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว!

 

ในขณะที่ทุกคนกําลังสงสัยอยู่นั้น หัวหน้าหมู่บ้านก็เรียกให้ไปรวมตัวกันที่โถงบรรพบุรุษเพื่อประชุม

 

เมื่อไปถึงที่นั่นทุกคนจึงได้ทราบว่าตระกูลหลี่รับซื้อเนื้อตากแห้งของหยุนเถียนเถียนในราคาสูง

 

ต่อไปไม่ว่าหยุนเทียนเถียนจะทําอะไรผู้คนก็ไม่สงสัย ในที่สุดเงินของนางก็มีที่มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

แล้วหัวหน้าหมู่บ้านจัดประชุมอย่างไร? เขาอธิบายให้ชาวบ้านฟังว่าอย่างไรนั้น หยุนเถียนเถียนไม่ได้สนใจ

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันรุ่งสางก็เริ่มมีผู้คนมาทํางานในบริเวณบ้านที่ถูกไฟไหม้ พวกเขาซื้อซากปรักหักพังและสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่อย่างเชี่ยวชาญ

 

ไม่มีใครมารบกวนหยุนเถียนเถียนเนื่องจากได้รับคําอธิบายจากหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้จึงทําให้นางมีความสุขมาก

 

สําหรับเฉินผิงอันนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจหยุนเถียนเถียนมากนัก แต่ก็ได้ยินข่าวจากที่นั่นเข้าหูเป็นระยะ

 

เฉินผิงอันไม่ได้สร้างบ้านขึ้นใหม่ เนื่องจากบ้านเดิมเป็นบ้านอิฐซึ่งค่อนข้างแข็งแรง แม้ว่าคานหลังคาจะถูกไฟไหม้ แต่ภายในสองวันเฉินผิงอันก็ขอให้ใครสักคนมาช่วยทําความสะอาด ถือว่ายังพออยู่ได้

 

ไม่มีใครรับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในบ้านหลังนี้

 

ตอนนี้แม้เฉินผิงอันจะไม่ติดการพนันอีกต่อไปแล้ว แต่เขากลับจมดิ่งลงสู่นรกขุมอื่น

 

หลินชวนฮวาพาเฉินเฉิงเยี่ยออกไปแล้ว และมรดกทั้งหมดยกให้ลูกชายคนโต เฉินผิงอันจึงอยู่คนเดียวและไม่เหลืออะไร

 

หลังจากดื่มสุราจนเมามาย เขาก็หลงใหลในรสชาติแห่งการถูกมอมเมา

 

เมื่อเห็นโรงงานที่สร้างขึ้นเสร็จแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านก็จัดการให้เงินไปลูกชายของเขาช่วยไปจัดการซื้อหมู ซึ่งมันน่าจะเป็นงานง่ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้ไม่แปลกเลยเพราะหัวหน้าหมู่บ้านย่อมให้ความสําคัญของคนในครอบครัวก่อน

 

นางหวังภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านก็เป็นคนเฉลียวฉลาด เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ จะไม่รีบเกาะนางไว้ให้แน่นได้หรือ?

 

แม้ว่าตอนนี้จะทําได้เพียงแค่ช่วยหญิงผู้นี้ทํางาน แต่ตราบใดที่ยังยืนหยัดและทํางานได้ยาวนาน ยังจะต้องกลัวหญิงสาวไม่เห็นความสําคัญอีกหรือ?

 

นางหวังพาเฉินหลิงผู้เป็นสะใภ้ใหญ่มาช่วยหมักหมูใส่เกลือ คอยรับเนื้อดิบที่เหมาะสําหรับรมควันจากมือหยุนเถียนเถียนและช่วยรมควันเนื้อตากแห้ง

 

ผู้ใหญ่บ้านรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อคนในหมู่บ้าน เพื่อให้ทํางานสําเร็จลุล่วง เขาจึงไม่ไปรบกวนให้ผู้อื่นไม่สบายใจ

 

เฉินช่งซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนั้น มีน้องชายผู้หนึ่งทันที ที่เกวียนของเขาว่าง เขามักจะไปเรี่ยไรช่วยขนสินค้าให้หยุนเถียนเถียน ดังนั้นเขาจึงหาเงินได้มากมาย

 

ส่วนผู้รับผลประโยชน์รายอื่น ๆ มีเพียงป่าหวางและลูก สะใภ้

 

ป้าหวางเคยช่วยหยุนเทียนเถียนบ้างเล็กน้อย ดังนั้นหยุนเถียนเถียนจึงสามารถพูดกับหัวหน้าหมู่บ้านได้เกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านขอให้ป่าหวางช่วย ชาวบ้านหลายคนต่างคัดค้าน แต่เมื่อได้ยินว่าแม่นางหยุนออกปากให้ ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดมากนัก

 

แล้วทั้งหมู่บ้านก็เริ่มคึกคัก ไม่มีใครคิดว่าไม่ต้องแบกฟื้นบนภูเขาเข้าไปขายถึงในเมือง แค่เพียงขายในหมู่บ้านก็ได้ราคาดีแล้ว

 

มัดละสองเหวิน วันละสิบเหวินก็สามารถทําได้สบาย!

 

แต่คนอื่นในโรงงานยังบอกว่าหามาได้อีกเท่าที่ต้องการเพราะความต้องการนั้นไม่มีที่สิ้นสุด!

 

ด้วยการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพของโรงงาน เนื้อสัตว์จากหมู่บ้านใกล้เคียงหลายแห่งจึงถูกส่งมายังโรงงานนี้ ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เพียงพอสําหรับส่งขายล็อตแรกสองพันจิน

 

หยุนเถียนเถียนกังวลเรื่องนี้อยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจจะเปิดพื้นที่รกร้างใกล้ ๆ เพื่อเลี้ยงสัตว์เอง

 

แต่หยุนเคอยับยั้งจินตนาการของนางในทันที “เจ้านี่คิดสิ่งใด ก็จะทําสิ่งนั้นให้ได้เลยงั้นหรือ!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+