สามีข้า คือพรานป่า 57 ความลับ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 57 ความลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แม้เจ้าจะรู้คำศัพท์เหล่านี้ แต่ก็จงอย่าอวดอ้างให้แม่ของเจ้ารู้ พ่อก็ไม่ได้เช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น… ห้ามบอกว่าข้าเป็นคนสอนหนังสือเจ้าเด็ดขาด”

“หากเจ้าเล่าให้พวกเขาฟัง แน่นอนว่าพ่อกับแม่จะไม่ยอมให้เจ้ามาเจอข้าอีก และข้าก็จะไม่มีโอกาสได้สอนเจ้าอีกเช่นกัน เป็นไปได้มากว่าข้าอาจถูกพวกเขาเผาจนตาย!”

คำพูดของเฉินเถียนเถียนนั้นหนักแน่นและจริงจังมากจนทำให้เฉินเฉินกลัวจนตัวสั่น

เด็กน้อยเฉินเฉินรวบรวมความกล้าและถามว่า “เพราะเหตุใดเล่า?”

เฉินเถียนเถียนมองเด็กชายและกล่าวตอบ “เจ้าคิดว่าพี่สาวของเจ้าที่ถูกขังให้อยู่ในบ้านมาโดยตลอดจะอ่านหนังสือออกได้อย่างไร? อันที่จริงการที่ข้าสอนเจ้าก็นับว่าเสี่ยงมากพอแล้ว เพียงแต่เจ้าไม่เคยเห็นข้าต้องอดทนต่อการถูกแม่ทำร้ายมาก่อน!”

เฉินเฉินดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ในไม่ช้าความสงสัยอื่นก็เข้ามาในหัวของเขา!

“แล้วทำไมจู่ ๆ พี่สาวจึงอ่านออกเขียนได้เล่า?”

เฉินเถียนเถียนก้มศีรษะมองน้องชายที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นจึงนั่งลงและตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ทุกคนย่อมมีความลับของตนเอง แล้วข้าจะมีความลับบ้างไม่ได้หรือ? เจ้าคิดว่าพี่สาวของเจ้าจะยอมอดทนอยู่ในบ้านหลังนั้นโดยไม่รู้ว่าจะถูกแม่ใช้เป็นสินค้าเมื่อไหร่อย่างนั้นหรือ? การกระทำเช่นนั้นอาจเป็นเรื่องดีสำหรับคนอื่นแต่ไม่ใช่ข้า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีนัก ดังนั้นข้าควรต้องพยายามต่อสู้ดิ้นรนให้หนักเพื่อจะได้เอาตัวรอด เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

เฉินเฉินส่ายหัว เขาไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูดเลยแม้แต่น้อย!

“กระต่ายจะกัดคนก็ต่อเมื่อพวกมันทนไม่ไหวแล้ว เพราะพี่สาวของเจ้าถูกแม่บังคับขู่เข็ญจึงเรียนรู้ที่จะต่อต้าน แต่ไม่ว่าอย่างไร เจ้ากับข้าก็มีพ่อเดียวกัน ดังนั้นข้าจึงยอมสอนเจ้าแบบลับ ๆ จงอย่าบอกใครเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”

“อีกไม่นานพี่ชายใหญ่จะบอกพ่อว่าเจ้าไม่เชื่อฟัง และหากเจ้าไม่เชื่อฟังจริง ๆ เจ้าจะต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด! จงอดทน! จนถึงวันที่เจ้าได้ขึ้นไปอยู่จุดเดียวกันกับเฉินเฉิงเยี่ยแล้วจึงเปิดเผยความสามารถและความลับที่เจ้ามี เจ้าต้องจำไว้ว่า… ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น*”

*มาจากตำราว่าด้วยเรื่องชะตาชีวิต หมายถึง ต้นไม้ที่เติบใหญ่เกินออกมาจากไม้ทั้งมวลในป่า สุดท้ายก็จะถูกลมพัดจนหักไป เปรียบเปรยคนที่กระทำการแตกต่างจากผู้อื่น สุดท้ายก็จะถูกคนอื่นเล่นงานจนต้องพ่ายแพ้

“ถึงแม้ความชาญฉลาดของเจ้าจะไม่ใช่สิ่งผิด แต่ในสายตาของคนที่เกลียดหรืออิจฉาเจ้า มันจะกลายเป็นสิ่งผิดทันที และพวกเขาจะหาทางทำร้ายเจ้าจนได้!”

เฉินเฉินรับคำเหล่านี้ไว้อย่างมั่นคงในใจ แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่เข้าใจแต่เขาก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะเข้าใจ!

“เอาล่ะ พรุ่งนี้เช้าให้มารอข้าที่เดิม ข้าจะสอนบทต่อไป แล้วข้าต้องพักผ่อนต่อในตอนบ่าย! เพราะเนื้อที่เจ้ากินกับข้าเมื่อวันก่อน ได้มาจากการออกล่าสัตว์ในตอนกลางคืน! เรื่องนี้ก็เป็นความลับเช่นกัน เจ้าจงอย่าบอกใคร เข้าใจไหม? ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่สอนหนังสือเจ้าอีก”

เฉินเฉินพยักหน้ารับ เนื่องจากพี่สาวตั้งใจสอนเขาอย่างอดทน ขณะที่พี่ชายคอยแต่ทุบตี! ดังนั้นเมื่อเทียบดูแล้วเฉินเฉินรู้ดีว่าควรเชื่อฟังใคร!

เฉินเถียนเถียนลูบหัวเขาและยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นทั้งสองเดินกลับบ้านพร้อมกัน

เฉินถียนเถียนเข้าไปในโรงเก็บไม้และเฉินเฉินซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนตามปกติ

เฉินเถียนเถียนยังย้ำเตือนกับเฉินเฉินว่าควรเรียนรู้ที่จะรักษาตัวเองให้ดี เพราะในอนาคตเขาอาจได้อาศัยในบ้านหลังใหญ่นี้กับพี่สาว ดังนั้นตอนนี้เขาต้องรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองไว้ ไม่เช่นนั้นแม่อาจหงุดหงิดและไม่พอใจมาก!

เมื่อหลินชวนฮวากลับมาถึงบ้านก็พลันร้อนใจ จนกระทั่งตอนนี้นางยังหาใครที่จะรับเฉินเฉิงเยี่ยเป็นศิษย์ไม่ได้เลย ดังนั้นแล้ว แม้ว่านางจะได้ดื่มด่ำกับชายอื่นแต่ก็ยังไม่สุขใจอยู่ดี… และเมื่อเห็นบ้านรกก็ยิ่งอารมณ์เสียมากกว่าเดิม

จากนั้นนางจึงเดินไปถีบประตูโรงเก็บไม้พลางตะคอกเสียงดัง “อีขี้ครอก! บ้านรกเป็นรังหมู ทำไมไม่รู้จักทำความสะอาด จะให้ข้าทำหรืออย่างไร?!”

เฉินเถียนเถียนลุกขึ้นจากกองไม้ด้วยความสะลืมสะลือ

“แม่… ข้าขอโทษจริง ๆ ก็ข้าไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว จึงไม่มีแรงถือไม้กวาด”

หลินชวนฮวาพูดไม่ออก แม่เด็กหญิงผู้นี้จะบอกว่าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว แต่เหตุใดจึงดูมีน้ำมีนวลขึ้น แถมผิวพรรณยังดูเปล่งปลั่งอีกด้วย แปลกจริง… เป็นไปได้ไหมที่จะมีคนแอบเอาอาหารมาให้นาง?

หากไม่ใช่จี๋ชื่อ ใครจะทำเรื่องน่าเบื่อเช่นนี้ได้?

แต่เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว หลินชวนฮวาก็คิดคว้าผลประโยชน์นี้เอาไว้ แม้จะเกลียดชังจี๋ซื่อ แต่ก็ไม่อาจโวยวายได้ เพราะหากผู้เฒ่ารู้ว่าพวกเขาไม่ได้ดูแลเด็กสาวคนนี้ ตระกูลเฉินทั้งหมดคงต้องตกที่นั่งลำบากแน่

แต่หากเด็กขี้ครอกคนนี้ยังอยู่ในบ้านก็ยิ่งเป็นที่น่ารำคาญตา ดังนั้นหลินชวนฮวาจึงคิดหาทางส่งเฉินเถียนเถียนออกไปให้เร็วที่สุด!

“เด็กขี้ครอกอย่ากล่าวโทษแม่เลยที่ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ชื่อเสียงของเจ้าก็เสียหายไปแล้ว จะไม่มีทางแต่งงานกับครอบครัวที่ดีได้ แต่บังเอิญว่าครอบครัวของข้ามีหลานชายและเขาก็คู่ควรกับเจ้ามาก เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

แม้แต่คนโง่ก็ดูออกว่า ปฏิกิริยาของหลินชวนฮวานั้นแปลกไปจากเดิมราวกับพลิกฝ่ามือ

“แม่มีหลานชายด้วยหรือ? เขาเป็นลูกของใครกัน? เคยมาบ้านเราหรือไม่?”

หลินชวนฮวายิ้มด้วยความพอใจ แม้เด็กสาวคนนี้ไม่เคยพบหน้าเขา แต่นางก็ยังลองถามดู เช่นนี้เฉินเถียนเถียนก็คงคิดเรื่องนี้อยู่เช่นกันใช่หรือไม่?

ดูเหมือนว่าเฉินเถียนเถียนจะถูกผลักดันไปสู่ความสิ้นหวัง เป็นไปไม่ได้แน่ที่จี๋ชื่อจะเลี้ยงดูนางได้ตลอดชีวิตและดูเหมือนว่าเฉินเถียนเถียนก็กำลังหาทางออกให้ตัวเองเช่นกัน ซึ่งง่ายและดีกว่ามาก!

“เขาเคยมาที่นี่แล้ว เป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สามของเจ้า… มาจากบ้านของพี่เขยข้า”

“ครอบครัวของพวกเขามีลูกชายเพียงคนเดียวและทุกอย่างในอนาคตจะเป็นของเจ้า น่าสนใจหรือไม่?”

โชคดีที่เฉินเถียนเถียนฉลาดและหัวไว เมื่อหลินชวนฮวาบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สามของนาง เฉินเถียนเถียนรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นชายปัญญาอ่อน เขายังพูดไม่ชัดเลยแม้จะโตแล้วก็ตาม!

“ข้าไม่สนใจ! หลินชวนฮวา… เจ้าช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่คิดวางแผนให้ข้าแต่งงานกับคนปัญญาอ่อน! ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมายุ่ง ข้าจะตัดสินและเลือกทางเดินชีวิตของข้าเอง ไม่ต้องพยายามเข้ามายุ่งหรือแทรกแซงชีวิตข้า!”

จากนั้นหลินชวนฮวาถุยน้ำลายพร้อมดวงตาปูดโปน นางตะเบ็งเสียงด้วยความโมโห “เอาล่ะ! ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะมีปัญญาไปทำอะไรได้ ลองคิดดูก็แล้วกัน ผู้เฒ่าเองก็ให้เวลาเจ้าไม่นาน… หากเจ้าไม่แต่งงานก็จะได้อยู่ในสำนักชีไปตลอดชีวิต!”

“ก็ดีกว่าต้องแต่งงานกับคนปัญญาอ่อน! นอกจากนี้พี่เขยของท่านก็ไม่ใช่คนเรียบง่ายสักนิด เขาทั้งเรื่องมากและสร้างปัญหา! หากต้องอยู่บ้านเดียวกับเขา ข้าขอบวชชีเสียยังดีกว่า หลินชวนฮวา… ไม่เป็นไรหากท่านจะไม่ให้ข้ากินอาหาร ข้าจะไม่ฟ้องผู้เฒ่าด้วย แต่ท่านต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของข้าอีก…”

การแสดงออกของเฉินเถียนเถียนเต็มไปด้วยความมั่นใจและกล้าหาญยิ่ง หลินชวนฮวาไม่กล้าอวดดีต่อนางเลยแม้แต่น้อยและนี่เป็นวิธีที่ทำให้หลินชวนฮวาสงบปากสงบคำลง

“เอาล่ะ งั้นข้าจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว หวังว่าเจ้าจะไปถึงวันนั้นได้จริง ๆ ก็แล้วกัน”

เฉินเถียนเถียยกยิ้มเย้ยหยันและนั่นทำให้หลินชวนฮวาโกรธจัดจนอกแทบจะระเบิดออก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 57 ความลับ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 57 ความลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แม้เจ้าจะรู้คำศัพท์เหล่านี้ แต่ก็จงอย่าอวดอ้างให้แม่ของเจ้ารู้ พ่อก็ไม่ได้เช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น… ห้ามบอกว่าข้าเป็นคนสอนหนังสือเจ้าเด็ดขาด”

“หากเจ้าเล่าให้พวกเขาฟัง แน่นอนว่าพ่อกับแม่จะไม่ยอมให้เจ้ามาเจอข้าอีก และข้าก็จะไม่มีโอกาสได้สอนเจ้าอีกเช่นกัน เป็นไปได้มากว่าข้าอาจถูกพวกเขาเผาจนตาย!”

คำพูดของเฉินเถียนเถียนนั้นหนักแน่นและจริงจังมากจนทำให้เฉินเฉินกลัวจนตัวสั่น

เด็กน้อยเฉินเฉินรวบรวมความกล้าและถามว่า “เพราะเหตุใดเล่า?”

เฉินเถียนเถียนมองเด็กชายและกล่าวตอบ “เจ้าคิดว่าพี่สาวของเจ้าที่ถูกขังให้อยู่ในบ้านมาโดยตลอดจะอ่านหนังสือออกได้อย่างไร? อันที่จริงการที่ข้าสอนเจ้าก็นับว่าเสี่ยงมากพอแล้ว เพียงแต่เจ้าไม่เคยเห็นข้าต้องอดทนต่อการถูกแม่ทำร้ายมาก่อน!”

เฉินเฉินดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ในไม่ช้าความสงสัยอื่นก็เข้ามาในหัวของเขา!

“แล้วทำไมจู่ ๆ พี่สาวจึงอ่านออกเขียนได้เล่า?”

เฉินเถียนเถียนก้มศีรษะมองน้องชายที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นจึงนั่งลงและตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ทุกคนย่อมมีความลับของตนเอง แล้วข้าจะมีความลับบ้างไม่ได้หรือ? เจ้าคิดว่าพี่สาวของเจ้าจะยอมอดทนอยู่ในบ้านหลังนั้นโดยไม่รู้ว่าจะถูกแม่ใช้เป็นสินค้าเมื่อไหร่อย่างนั้นหรือ? การกระทำเช่นนั้นอาจเป็นเรื่องดีสำหรับคนอื่นแต่ไม่ใช่ข้า หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีนัก ดังนั้นข้าควรต้องพยายามต่อสู้ดิ้นรนให้หนักเพื่อจะได้เอาตัวรอด เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

เฉินเฉินส่ายหัว เขาไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูดเลยแม้แต่น้อย!

“กระต่ายจะกัดคนก็ต่อเมื่อพวกมันทนไม่ไหวแล้ว เพราะพี่สาวของเจ้าถูกแม่บังคับขู่เข็ญจึงเรียนรู้ที่จะต่อต้าน แต่ไม่ว่าอย่างไร เจ้ากับข้าก็มีพ่อเดียวกัน ดังนั้นข้าจึงยอมสอนเจ้าแบบลับ ๆ จงอย่าบอกใครเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”

“อีกไม่นานพี่ชายใหญ่จะบอกพ่อว่าเจ้าไม่เชื่อฟัง และหากเจ้าไม่เชื่อฟังจริง ๆ เจ้าจะต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด! จงอดทน! จนถึงวันที่เจ้าได้ขึ้นไปอยู่จุดเดียวกันกับเฉินเฉิงเยี่ยแล้วจึงเปิดเผยความสามารถและความลับที่เจ้ามี เจ้าต้องจำไว้ว่า… ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น*”

*มาจากตำราว่าด้วยเรื่องชะตาชีวิต หมายถึง ต้นไม้ที่เติบใหญ่เกินออกมาจากไม้ทั้งมวลในป่า สุดท้ายก็จะถูกลมพัดจนหักไป เปรียบเปรยคนที่กระทำการแตกต่างจากผู้อื่น สุดท้ายก็จะถูกคนอื่นเล่นงานจนต้องพ่ายแพ้

“ถึงแม้ความชาญฉลาดของเจ้าจะไม่ใช่สิ่งผิด แต่ในสายตาของคนที่เกลียดหรืออิจฉาเจ้า มันจะกลายเป็นสิ่งผิดทันที และพวกเขาจะหาทางทำร้ายเจ้าจนได้!”

เฉินเฉินรับคำเหล่านี้ไว้อย่างมั่นคงในใจ แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่เข้าใจแต่เขาก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะเข้าใจ!

“เอาล่ะ พรุ่งนี้เช้าให้มารอข้าที่เดิม ข้าจะสอนบทต่อไป แล้วข้าต้องพักผ่อนต่อในตอนบ่าย! เพราะเนื้อที่เจ้ากินกับข้าเมื่อวันก่อน ได้มาจากการออกล่าสัตว์ในตอนกลางคืน! เรื่องนี้ก็เป็นความลับเช่นกัน เจ้าจงอย่าบอกใคร เข้าใจไหม? ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่สอนหนังสือเจ้าอีก”

เฉินเฉินพยักหน้ารับ เนื่องจากพี่สาวตั้งใจสอนเขาอย่างอดทน ขณะที่พี่ชายคอยแต่ทุบตี! ดังนั้นเมื่อเทียบดูแล้วเฉินเฉินรู้ดีว่าควรเชื่อฟังใคร!

เฉินเถียนเถียนลูบหัวเขาและยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นทั้งสองเดินกลับบ้านพร้อมกัน

เฉินถียนเถียนเข้าไปในโรงเก็บไม้และเฉินเฉินซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนตามปกติ

เฉินเถียนเถียนยังย้ำเตือนกับเฉินเฉินว่าควรเรียนรู้ที่จะรักษาตัวเองให้ดี เพราะในอนาคตเขาอาจได้อาศัยในบ้านหลังใหญ่นี้กับพี่สาว ดังนั้นตอนนี้เขาต้องรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองไว้ ไม่เช่นนั้นแม่อาจหงุดหงิดและไม่พอใจมาก!

เมื่อหลินชวนฮวากลับมาถึงบ้านก็พลันร้อนใจ จนกระทั่งตอนนี้นางยังหาใครที่จะรับเฉินเฉิงเยี่ยเป็นศิษย์ไม่ได้เลย ดังนั้นแล้ว แม้ว่านางจะได้ดื่มด่ำกับชายอื่นแต่ก็ยังไม่สุขใจอยู่ดี… และเมื่อเห็นบ้านรกก็ยิ่งอารมณ์เสียมากกว่าเดิม

จากนั้นนางจึงเดินไปถีบประตูโรงเก็บไม้พลางตะคอกเสียงดัง “อีขี้ครอก! บ้านรกเป็นรังหมู ทำไมไม่รู้จักทำความสะอาด จะให้ข้าทำหรืออย่างไร?!”

เฉินเถียนเถียนลุกขึ้นจากกองไม้ด้วยความสะลืมสะลือ

“แม่… ข้าขอโทษจริง ๆ ก็ข้าไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว จึงไม่มีแรงถือไม้กวาด”

หลินชวนฮวาพูดไม่ออก แม่เด็กหญิงผู้นี้จะบอกว่าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว แต่เหตุใดจึงดูมีน้ำมีนวลขึ้น แถมผิวพรรณยังดูเปล่งปลั่งอีกด้วย แปลกจริง… เป็นไปได้ไหมที่จะมีคนแอบเอาอาหารมาให้นาง?

หากไม่ใช่จี๋ชื่อ ใครจะทำเรื่องน่าเบื่อเช่นนี้ได้?

แต่เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว หลินชวนฮวาก็คิดคว้าผลประโยชน์นี้เอาไว้ แม้จะเกลียดชังจี๋ซื่อ แต่ก็ไม่อาจโวยวายได้ เพราะหากผู้เฒ่ารู้ว่าพวกเขาไม่ได้ดูแลเด็กสาวคนนี้ ตระกูลเฉินทั้งหมดคงต้องตกที่นั่งลำบากแน่

แต่หากเด็กขี้ครอกคนนี้ยังอยู่ในบ้านก็ยิ่งเป็นที่น่ารำคาญตา ดังนั้นหลินชวนฮวาจึงคิดหาทางส่งเฉินเถียนเถียนออกไปให้เร็วที่สุด!

“เด็กขี้ครอกอย่ากล่าวโทษแม่เลยที่ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ชื่อเสียงของเจ้าก็เสียหายไปแล้ว จะไม่มีทางแต่งงานกับครอบครัวที่ดีได้ แต่บังเอิญว่าครอบครัวของข้ามีหลานชายและเขาก็คู่ควรกับเจ้ามาก เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

แม้แต่คนโง่ก็ดูออกว่า ปฏิกิริยาของหลินชวนฮวานั้นแปลกไปจากเดิมราวกับพลิกฝ่ามือ

“แม่มีหลานชายด้วยหรือ? เขาเป็นลูกของใครกัน? เคยมาบ้านเราหรือไม่?”

หลินชวนฮวายิ้มด้วยความพอใจ แม้เด็กสาวคนนี้ไม่เคยพบหน้าเขา แต่นางก็ยังลองถามดู เช่นนี้เฉินเถียนเถียนก็คงคิดเรื่องนี้อยู่เช่นกันใช่หรือไม่?

ดูเหมือนว่าเฉินเถียนเถียนจะถูกผลักดันไปสู่ความสิ้นหวัง เป็นไปไม่ได้แน่ที่จี๋ชื่อจะเลี้ยงดูนางได้ตลอดชีวิตและดูเหมือนว่าเฉินเถียนเถียนก็กำลังหาทางออกให้ตัวเองเช่นกัน ซึ่งง่ายและดีกว่ามาก!

“เขาเคยมาที่นี่แล้ว เป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สามของเจ้า… มาจากบ้านของพี่เขยข้า”

“ครอบครัวของพวกเขามีลูกชายเพียงคนเดียวและทุกอย่างในอนาคตจะเป็นของเจ้า น่าสนใจหรือไม่?”

โชคดีที่เฉินเถียนเถียนฉลาดและหัวไว เมื่อหลินชวนฮวาบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สามของนาง เฉินเถียนเถียนรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นชายปัญญาอ่อน เขายังพูดไม่ชัดเลยแม้จะโตแล้วก็ตาม!

“ข้าไม่สนใจ! หลินชวนฮวา… เจ้าช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่คิดวางแผนให้ข้าแต่งงานกับคนปัญญาอ่อน! ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมายุ่ง ข้าจะตัดสินและเลือกทางเดินชีวิตของข้าเอง ไม่ต้องพยายามเข้ามายุ่งหรือแทรกแซงชีวิตข้า!”

จากนั้นหลินชวนฮวาถุยน้ำลายพร้อมดวงตาปูดโปน นางตะเบ็งเสียงด้วยความโมโห “เอาล่ะ! ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะมีปัญญาไปทำอะไรได้ ลองคิดดูก็แล้วกัน ผู้เฒ่าเองก็ให้เวลาเจ้าไม่นาน… หากเจ้าไม่แต่งงานก็จะได้อยู่ในสำนักชีไปตลอดชีวิต!”

“ก็ดีกว่าต้องแต่งงานกับคนปัญญาอ่อน! นอกจากนี้พี่เขยของท่านก็ไม่ใช่คนเรียบง่ายสักนิด เขาทั้งเรื่องมากและสร้างปัญหา! หากต้องอยู่บ้านเดียวกับเขา ข้าขอบวชชีเสียยังดีกว่า หลินชวนฮวา… ไม่เป็นไรหากท่านจะไม่ให้ข้ากินอาหาร ข้าจะไม่ฟ้องผู้เฒ่าด้วย แต่ท่านต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของข้าอีก…”

การแสดงออกของเฉินเถียนเถียนเต็มไปด้วยความมั่นใจและกล้าหาญยิ่ง หลินชวนฮวาไม่กล้าอวดดีต่อนางเลยแม้แต่น้อยและนี่เป็นวิธีที่ทำให้หลินชวนฮวาสงบปากสงบคำลง

“เอาล่ะ งั้นข้าจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว หวังว่าเจ้าจะไปถึงวันนั้นได้จริง ๆ ก็แล้วกัน”

เฉินเถียนเถียยกยิ้มเย้ยหยันและนั่นทำให้หลินชวนฮวาโกรธจัดจนอกแทบจะระเบิดออก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+