สามีข้า คือพรานป่า 314 ความในใจของจ้าวเมืองหลง

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 314 ความในใจของจ้าวเมืองหลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 314 ความในใจของจ้าวเมืองหลง

จ้าวเมืองหลงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เจ้านี่ช่างตาแหลมยิ่งนัก! มิสู้บอกออกมาว่าข้าคิดเช่นไรเลยเล่า?”

“หรือท่านคิดเป็นปรปักษ์กับนายของตนเพราะรู้สึกผิดกับหยุนจิงเอ๋อ เช่นนั้นแล้วเหตุใดท่านจึงเดินทางมาที่เมืองนี้เล่า? ท่านไม่ได้มาตามหาเบาะแสของแม่ข้าหรอกหรือ?”

จ้าวเมืองหลงถึงกับคิดไม่ตก เขาพินิจมองดวงหน้าหยุนเถียนเถียนที่ชวนให้คิดถึงหญิงสาวที่คล้ายคลึงกันเหลือเกิน

“บางคราวการรู้มากไปก็มิใช่สิ่งที่ดีนัก ข้าเองก็เจ็บปวดเพราะมันมากเหลือเกิน และไม่ว่าข้าจะคิดเช่นไรก็ไม่อาจป่าวประกาศให้ใครรู้ได้ด้วยเกรงว่าจะสร้างมลทินให้หยุนจิงเอ๋อ โชคร้ายที่ข้า มาช้าไปเพียงก้าวเดียว แม่ของเจ้าจึงไม่อาจทําใจให้ผ่านพ้นเรื่องราวไปได้”

“วันนี้ข้าเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังเพราะข้ารู้เรื่องบางอย่างมา ตัวตนของหยุนเคอ บุรุษที่อยู่ข้างกาย เจ้านั้นไม่ธรรมดา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นองค์ชายรุ่ยมู่หรงหยุนเคอที่หายตัวไปในตอนนั้น”

“ฮองเฮามีโอรสอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นองค์ชายองค์ปัจจุบัน ส่วนอีกคนเป็นองค์ชายหยุนเคอที่อายุอานามพอ ๆ กับองค์ชาย เขากับองค์ชายมิใช่เพียงแค่ชื่อคล้ายกัน หากแต่ยังมีความสัมพันธ์กับจึงเฉิงมานานหลายปี เขาปรากฏตัวขึ้นในช่วงที่องค์ชายรุ่ยหายตัวไปอย่างเหมาะเจาะ แต่สิ่งสําคัญก็คือรูปร่างหน้าตาของเขาที่ไม่อาจปิดบังชาติกําเนิดของเขาได้ต่างหากเล่า”

จ้าวเมืองหลงว่าพลางหยิบภาพเหมือนบนผืนผ้าไหมออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนกางลงบนโต๊ะ บุรุษในภาพดูเหมือนกับหยุนเคอมมีผิด!

ต่างแต่เพียงมุมปากขององค์ชายมู่หรงหยุนเคอในภาพเหมือนนั้นปรากฎรอยยิ้มบางให้เห็น แม้จะดูมีท่าทีเฉยเมยทว่าเมื่อเทียบกับความเย็นชาของหยุนเคอในตอนนี้ก็นับว่าผิดกันลิบลับ

เหมือนทั้งความมั่งคั่งและหน้าตาสมชายชาตรี

หยุนเถียนเถียนยกยิ้มขมขึ้น “ดูเหมือนข้าจะทําพลาดครั้งใหญ่ลงไปเสียแล้ว ใครเล่าจะรู้ว่าข้าจะบังเอิญแต่งงานกับพี่ชายแท้ ๆ ของตน โชคดียิ่งนักที่เรื่องร้ายแรงกว่านั้นยังไม่เกิดขึ้น”

หัวใจของนางเจ็บปวดขึ้นมาครั้นคิดว่าหยนเคอเป็นพี่ชายของตน

ทว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาดําเนินมาจนบัดนี้แล้ว จะแก้ไขเรื่องราวให้ถูกต้องตามทํานองคลองธรรมได้อย่างไรกัน? ควรบอกกล่าวให้หยุนเคอรู้ไปตามตรงดีหรือไม่?

จ้าวเมืองหลงรู้ดีว่าต่อให้สตรีตรงหน้าจะเข้มแข็งเพียงใด หากแต่เมื่อเจอเรื่องเช่นนี้คงยากจะทําใจได้

“เงียบเอาไว้ก่อนเถิด แล้วค่อยหาหนทางแก้ไขเรื่องนี้กันภายหลัง ข้ายังอยู่คอยช่วยเหลือเจ้าที่นี่อีกหลายวัน เจ้าต้องการสิ่งใดก็จะจัดหาให้ หากฮองเฮามีส่วนข้องเกี่ยวกับเจ้าจริง ไม่ช้าคงส่งคนมาหาเจ้าแน่ ฉะนั้นจงจําไว้ให้ดีว่าห้ามไว้ใจเสนาตระกูลหยุนและองค์ชายอวี่หยางเด็ดขาด!”

“แม้ว่าคนผู้นั้นอาจเป็นพ่อของเจ้าโดยสายเลือด แต่เขาก็ไม่อาจวางใจได้ หากวันหนึ่งเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา จงแสร้างเป็นลูกสาวของเขาเสีย มันเป็นหนทางที่อาจช่วยให้เจ้ารอดชีวิตได้ แม่ในความคิดเห็นของข้าจะคิดว่าเจ้าน่าจะเป็นลูกสาวขององค์จักรพรรดิมากกว่าก็ตาม”

จ้าวเมืองหลงจากไปหลังกล่าวจบ หยุนเถียนเถียนไม่ได้ลุกไปส่งอีกฝ่ายด้วยบัดนี้นางยังคงอยู่ในอารามตกใจ

ภาพหยุนเถียนเถียนจดจ้องที่พื้นด้วยท่าที่คาดเดายากปรากฏต่อสายตาหยุนเคอทันที่ที่เขามาถึง ราวกับสติของนางได้หลุดลอยไปที่อื่นแล้ว กระทั่งเขาโน้มกายเข้าไปใกล้นางก็ยังไม่ตอบโต้กลับแม้แต่น้อย

“เถียนเถียน!”

หยุนเถียนเถียนสะดุ้งสุดตัวก่อนผละกายออกจากหยุนเคอ เมื่อเห็นว่าตนอยู่ห่างจากอีกฝ่าย แล้วจึงหยุดขาที่ถอยหนีราวกับกระต่าย

“หยุดอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา! ข้ามีเรื่องต้องพูดกล่าวกับเจ้า!”

หยุนเคอตกอยู่ในอาการงงงันและนึกเศร้าในใจเล็กน้อย นางรังเกียจเขาจนถึงขั้นถอยห่างตั้งแต่เมื่อใดกัน?

“เถียนเถียน ข้าไม่ได้อยู่เคียงข้างและปล่อยให้เจ้าต้องเผลิญหน้ากับอันตรายเพราะเรื่องสําคัญจริง ๆ ต่อจากนี้ไปข้าจะจัดเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อปกป้องเจ้าในยามที่ข้าต้องออกไปทําทําธุระข้างนอก เจ้าให้อภัยข้าได้หรือไม่?”

หยุนเถียนเถียนแย้มยิ้มแฝงความเจ็บปวด “หยุนเคอ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าได้ทําเรื่องผิดพลาดร้ายแรงลงไปเสียแล้ว? ความผิดพลาดที่ไม่อาจให้อภัยได้!”

หยุนเคอใจหล่นวูบก่อนเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียงนัก “ไม่ว่าเจ้าจะทําผิดอะไรข้าก็ให้อภัยเจ้า ขอเพียงแค่เจ้าไม่ปิดบังข้าได้หรือไม่?”

“ไม่ได้ ๆ ไม่ได้เด็ดขาด!” นางกระชับสองมือของตนด้วยกันแน่นด้วยท่าที่สับสนเต็มที่ “อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้จะเป็นการดีกว่า เราต้องใจเย็นกันกว่านี้”

หยุนเคอนิ่งค้างไปพร้อมอารมณ์ฉายแววอ้างว้าง ทําให้หยุนเกียนเถียนทนแทบไม่ไหว หากแต่เมื่อนึกถึงคําว่าพี่น้อง นางก็กัดฟันหันหน้าหนีไม่ยอมสบตาอีกฝ่าย

“หยุนเคอ ท่านบอกว่าแม่ของข้าอาจเป็นเมียรองของเสนาหยุน แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าพ่อของข้าคือใคร?”

เขาส่ายหน้า “ตอนที่เกิดเรื่องข้ายังอายุน้อยเกินไป จึงไม่อาจรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ชัดเจนดีนัก”

หยุนเถียนเถียนยกยิ้มเย้ยหยัน “ใช่สิ! ตอนนั้นท่านเป็นองค์ชาย จะมีใครคิดเล่าเรื่องส่วนตัวในตระกูลพรรค์นี้ให้ท่านฟังกันเล่า?”

หยุนเคอถึงกับชะงัก นางรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาได้อย่างไรกัน? เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเผลอแสดงพิรุธออกไป?

“ใช่! ท่านคงจะตกใจว่าทําไมข้าถึงรู้ตัวตนของท่าน ท่านมีความลับแต่ข้าเองก็มีความลับเช่นกัน ข้าจึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไม่พอใจท่านได้ใช่หรือไม่? ฝ่าบาท!”

หยุนเคอเผยสีหน้าเฉยชาอย่างไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขาคิดเช่นไรอยู่

“เถียนเถียน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

“หยุนเคอ ข้าขอบอกตามตรงว่าข้าเองก็ไม่รู้ว่าพ่อของข้าเป็นใคร แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเราคงไม่พ้นต้องมาใคร่ครวญกันใหม่ ท่านกับข้ามิควรเป็นสามีภรรยากัน เราหย่ากันดีหรือไม่?

“เจ้าว่าเช่นไรกัน? รู้ตัวหรือไม่ว่าเอ่ยสิ่งใดออกมา? รู้หรือไม่ว่าหากหย่าภรรยาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ข้ามีบางอย่างปิดบังเจ้าจริง แต่ข้าไม่เคยคิดร้ายกับเจ้าแม้แต่น้อย เจ้าพูดกับข้าเยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน?”

หยุนเถียนเถียนน้ําตาเอ่อคลอเบ้าราวกับจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ “ไม่ใช่! ทั้งท่านและข้ามิมีใครเป็นคนผิด! แต่เรื่องระหว่างเราไม่อาจเป็นไปได้ หยุนเคอ เดี๋ยวท่านเองก็เข้าใจ ต่อให้ข้าอยู่กับท่านต่อไป พอข้ากลับไปก็คงไม่มีใครให้อภัยข้าแน่”

“ความสัมพันธ์ของเรานั้นถูกลิขิตไว้แล้ว ท่านทําเรื่องหย่าเถิด!”

ใบหน้าหยุนเคอฉายแววหม่นหมอง “ไม่มีทาง! หยุนเถียนเถียน เจ้าทําให้ข้าปวดใจเหลือเกิน”

ความรู้สึกโศกเศร้าเริ่มก่อตัวขึ้นในใจหยุนเคอ แม่นางน้อยผู้นี้อ่อนไหวและคิดขุ่นเคืองใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เหตุใดนางถึงหัวแข็งเช่นนี้? ข้าไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุเสียด้วยซ้ํา แล้วจะให้ข้าหย่ากับนางได้อย่างไรกัน?!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 314 ความในใจของจ้าวเมืองหลง

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 314 ความในใจของจ้าวเมืองหลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 314 ความในใจของจ้าวเมืองหลง

จ้าวเมืองหลงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เจ้านี่ช่างตาแหลมยิ่งนัก! มิสู้บอกออกมาว่าข้าคิดเช่นไรเลยเล่า?”

“หรือท่านคิดเป็นปรปักษ์กับนายของตนเพราะรู้สึกผิดกับหยุนจิงเอ๋อ เช่นนั้นแล้วเหตุใดท่านจึงเดินทางมาที่เมืองนี้เล่า? ท่านไม่ได้มาตามหาเบาะแสของแม่ข้าหรอกหรือ?”

จ้าวเมืองหลงถึงกับคิดไม่ตก เขาพินิจมองดวงหน้าหยุนเถียนเถียนที่ชวนให้คิดถึงหญิงสาวที่คล้ายคลึงกันเหลือเกิน

“บางคราวการรู้มากไปก็มิใช่สิ่งที่ดีนัก ข้าเองก็เจ็บปวดเพราะมันมากเหลือเกิน และไม่ว่าข้าจะคิดเช่นไรก็ไม่อาจป่าวประกาศให้ใครรู้ได้ด้วยเกรงว่าจะสร้างมลทินให้หยุนจิงเอ๋อ โชคร้ายที่ข้า มาช้าไปเพียงก้าวเดียว แม่ของเจ้าจึงไม่อาจทําใจให้ผ่านพ้นเรื่องราวไปได้”

“วันนี้ข้าเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังเพราะข้ารู้เรื่องบางอย่างมา ตัวตนของหยุนเคอ บุรุษที่อยู่ข้างกาย เจ้านั้นไม่ธรรมดา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นองค์ชายรุ่ยมู่หรงหยุนเคอที่หายตัวไปในตอนนั้น”

“ฮองเฮามีโอรสอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นองค์ชายองค์ปัจจุบัน ส่วนอีกคนเป็นองค์ชายหยุนเคอที่อายุอานามพอ ๆ กับองค์ชาย เขากับองค์ชายมิใช่เพียงแค่ชื่อคล้ายกัน หากแต่ยังมีความสัมพันธ์กับจึงเฉิงมานานหลายปี เขาปรากฏตัวขึ้นในช่วงที่องค์ชายรุ่ยหายตัวไปอย่างเหมาะเจาะ แต่สิ่งสําคัญก็คือรูปร่างหน้าตาของเขาที่ไม่อาจปิดบังชาติกําเนิดของเขาได้ต่างหากเล่า”

จ้าวเมืองหลงว่าพลางหยิบภาพเหมือนบนผืนผ้าไหมออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนกางลงบนโต๊ะ บุรุษในภาพดูเหมือนกับหยุนเคอมมีผิด!

ต่างแต่เพียงมุมปากขององค์ชายมู่หรงหยุนเคอในภาพเหมือนนั้นปรากฎรอยยิ้มบางให้เห็น แม้จะดูมีท่าทีเฉยเมยทว่าเมื่อเทียบกับความเย็นชาของหยุนเคอในตอนนี้ก็นับว่าผิดกันลิบลับ

เหมือนทั้งความมั่งคั่งและหน้าตาสมชายชาตรี

หยุนเถียนเถียนยกยิ้มขมขึ้น “ดูเหมือนข้าจะทําพลาดครั้งใหญ่ลงไปเสียแล้ว ใครเล่าจะรู้ว่าข้าจะบังเอิญแต่งงานกับพี่ชายแท้ ๆ ของตน โชคดียิ่งนักที่เรื่องร้ายแรงกว่านั้นยังไม่เกิดขึ้น”

หัวใจของนางเจ็บปวดขึ้นมาครั้นคิดว่าหยนเคอเป็นพี่ชายของตน

ทว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาดําเนินมาจนบัดนี้แล้ว จะแก้ไขเรื่องราวให้ถูกต้องตามทํานองคลองธรรมได้อย่างไรกัน? ควรบอกกล่าวให้หยุนเคอรู้ไปตามตรงดีหรือไม่?

จ้าวเมืองหลงรู้ดีว่าต่อให้สตรีตรงหน้าจะเข้มแข็งเพียงใด หากแต่เมื่อเจอเรื่องเช่นนี้คงยากจะทําใจได้

“เงียบเอาไว้ก่อนเถิด แล้วค่อยหาหนทางแก้ไขเรื่องนี้กันภายหลัง ข้ายังอยู่คอยช่วยเหลือเจ้าที่นี่อีกหลายวัน เจ้าต้องการสิ่งใดก็จะจัดหาให้ หากฮองเฮามีส่วนข้องเกี่ยวกับเจ้าจริง ไม่ช้าคงส่งคนมาหาเจ้าแน่ ฉะนั้นจงจําไว้ให้ดีว่าห้ามไว้ใจเสนาตระกูลหยุนและองค์ชายอวี่หยางเด็ดขาด!”

“แม้ว่าคนผู้นั้นอาจเป็นพ่อของเจ้าโดยสายเลือด แต่เขาก็ไม่อาจวางใจได้ หากวันหนึ่งเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา จงแสร้างเป็นลูกสาวของเขาเสีย มันเป็นหนทางที่อาจช่วยให้เจ้ารอดชีวิตได้ แม่ในความคิดเห็นของข้าจะคิดว่าเจ้าน่าจะเป็นลูกสาวขององค์จักรพรรดิมากกว่าก็ตาม”

จ้าวเมืองหลงจากไปหลังกล่าวจบ หยุนเถียนเถียนไม่ได้ลุกไปส่งอีกฝ่ายด้วยบัดนี้นางยังคงอยู่ในอารามตกใจ

ภาพหยุนเถียนเถียนจดจ้องที่พื้นด้วยท่าที่คาดเดายากปรากฏต่อสายตาหยุนเคอทันที่ที่เขามาถึง ราวกับสติของนางได้หลุดลอยไปที่อื่นแล้ว กระทั่งเขาโน้มกายเข้าไปใกล้นางก็ยังไม่ตอบโต้กลับแม้แต่น้อย

“เถียนเถียน!”

หยุนเถียนเถียนสะดุ้งสุดตัวก่อนผละกายออกจากหยุนเคอ เมื่อเห็นว่าตนอยู่ห่างจากอีกฝ่าย แล้วจึงหยุดขาที่ถอยหนีราวกับกระต่าย

“หยุดอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา! ข้ามีเรื่องต้องพูดกล่าวกับเจ้า!”

หยุนเคอตกอยู่ในอาการงงงันและนึกเศร้าในใจเล็กน้อย นางรังเกียจเขาจนถึงขั้นถอยห่างตั้งแต่เมื่อใดกัน?

“เถียนเถียน ข้าไม่ได้อยู่เคียงข้างและปล่อยให้เจ้าต้องเผลิญหน้ากับอันตรายเพราะเรื่องสําคัญจริง ๆ ต่อจากนี้ไปข้าจะจัดเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อปกป้องเจ้าในยามที่ข้าต้องออกไปทําทําธุระข้างนอก เจ้าให้อภัยข้าได้หรือไม่?”

หยุนเถียนเถียนแย้มยิ้มแฝงความเจ็บปวด “หยุนเคอ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าได้ทําเรื่องผิดพลาดร้ายแรงลงไปเสียแล้ว? ความผิดพลาดที่ไม่อาจให้อภัยได้!”

หยุนเคอใจหล่นวูบก่อนเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียงนัก “ไม่ว่าเจ้าจะทําผิดอะไรข้าก็ให้อภัยเจ้า ขอเพียงแค่เจ้าไม่ปิดบังข้าได้หรือไม่?”

“ไม่ได้ ๆ ไม่ได้เด็ดขาด!” นางกระชับสองมือของตนด้วยกันแน่นด้วยท่าที่สับสนเต็มที่ “อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้จะเป็นการดีกว่า เราต้องใจเย็นกันกว่านี้”

หยุนเคอนิ่งค้างไปพร้อมอารมณ์ฉายแววอ้างว้าง ทําให้หยุนเกียนเถียนทนแทบไม่ไหว หากแต่เมื่อนึกถึงคําว่าพี่น้อง นางก็กัดฟันหันหน้าหนีไม่ยอมสบตาอีกฝ่าย

“หยุนเคอ ท่านบอกว่าแม่ของข้าอาจเป็นเมียรองของเสนาหยุน แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าพ่อของข้าคือใคร?”

เขาส่ายหน้า “ตอนที่เกิดเรื่องข้ายังอายุน้อยเกินไป จึงไม่อาจรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ชัดเจนดีนัก”

หยุนเถียนเถียนยกยิ้มเย้ยหยัน “ใช่สิ! ตอนนั้นท่านเป็นองค์ชาย จะมีใครคิดเล่าเรื่องส่วนตัวในตระกูลพรรค์นี้ให้ท่านฟังกันเล่า?”

หยุนเคอถึงกับชะงัก นางรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาได้อย่างไรกัน? เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเผลอแสดงพิรุธออกไป?

“ใช่! ท่านคงจะตกใจว่าทําไมข้าถึงรู้ตัวตนของท่าน ท่านมีความลับแต่ข้าเองก็มีความลับเช่นกัน ข้าจึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไม่พอใจท่านได้ใช่หรือไม่? ฝ่าบาท!”

หยุนเคอเผยสีหน้าเฉยชาอย่างไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขาคิดเช่นไรอยู่

“เถียนเถียน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

“หยุนเคอ ข้าขอบอกตามตรงว่าข้าเองก็ไม่รู้ว่าพ่อของข้าเป็นใคร แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเราคงไม่พ้นต้องมาใคร่ครวญกันใหม่ ท่านกับข้ามิควรเป็นสามีภรรยากัน เราหย่ากันดีหรือไม่?

“เจ้าว่าเช่นไรกัน? รู้ตัวหรือไม่ว่าเอ่ยสิ่งใดออกมา? รู้หรือไม่ว่าหากหย่าภรรยาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ข้ามีบางอย่างปิดบังเจ้าจริง แต่ข้าไม่เคยคิดร้ายกับเจ้าแม้แต่น้อย เจ้าพูดกับข้าเยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน?”

หยุนเถียนเถียนน้ําตาเอ่อคลอเบ้าราวกับจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ “ไม่ใช่! ทั้งท่านและข้ามิมีใครเป็นคนผิด! แต่เรื่องระหว่างเราไม่อาจเป็นไปได้ หยุนเคอ เดี๋ยวท่านเองก็เข้าใจ ต่อให้ข้าอยู่กับท่านต่อไป พอข้ากลับไปก็คงไม่มีใครให้อภัยข้าแน่”

“ความสัมพันธ์ของเรานั้นถูกลิขิตไว้แล้ว ท่านทําเรื่องหย่าเถิด!”

ใบหน้าหยุนเคอฉายแววหม่นหมอง “ไม่มีทาง! หยุนเถียนเถียน เจ้าทําให้ข้าปวดใจเหลือเกิน”

ความรู้สึกโศกเศร้าเริ่มก่อตัวขึ้นในใจหยุนเคอ แม่นางน้อยผู้นี้อ่อนไหวและคิดขุ่นเคืองใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เหตุใดนางถึงหัวแข็งเช่นนี้? ข้าไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุเสียด้วยซ้ํา แล้วจะให้ข้าหย่ากับนางได้อย่างไรกัน?!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+