สามีข้า คือพรานป่า 392 จิตสังหาร

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 392 จิตสังหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 392 จิตสังหาร

หารู้ไม่ว่าเมื่อจักรพรรดิแห่งอวหยางได้ยินคําพูดนี้กลับมีรอยยิ้มขมขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก! “ใช่ ข้าคงสุขใจยิ่งนัก! ทว่าเจ้าอย่าบังคับองค์หญิงเชียวล่ะ! เพราะบัดนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับองค์ หญิงทั้งนั้น และในฐานะพี่ชาย เจ้าควรดูแลและปกป้ององค์หญิงให้ดี!”

มู่หรงปื่อรู้สึกแปลกใจนัก เนื่องด้วยตามนิสัยของพระบิดาแล้ว หากมีเหตุการณ์เช่นนี้ท่านต้องเร่งนําคนพานางกลับมาไม่ใช่หรือ? แต่ทําไมจู่ ๆ ครั้งนี้ถึงยอมอย่างง่ายดาย?

“เสด็จพ่อ ความจริงแล้วกระหม่อมแก่กว่าน้องไม่กี่เดือนเองไม่ใช่หรือ? เหตุใดช่างต่างจากที่พระบิดาตรัสไว้ก่อนหน้านัก?”

ดวงตาของจักรพรรดิแห่งอวีหยางเป็นประกาย “นี่ยังสงสัยว่าข้าพูดเท็จอยู่อีกงั้นรึ? ข้าเคยกล่าวไปแล้วว่าเจ้าคลอดก่อนกําหนด ดังนั้นจึงแก่กว่าองค์หญิงอย่างไรเล่า! พอเถอะ! ข้าต้องการพักผ่อน เจ้าออกไปได้แล้ว!”

แม้ว่ามู่หรงป๋อจะยังสงสัยอยู่บ้าง ทว่าก็ยอมเดินออกจากห้องที่จักรพรรดิแห่งอวหยางใช้พักฟื้นแต่โดยดี!

ส่วนอีกมุมหนึ่งที่องค์ชายมองไม่เห็นนั้น มีสตรีสวมชุดหรูหราด้วยสีหน้าดูแคลนกําลังเหวี่ยงเสื้อพลางเดินจากไป!

“มเหสี! นั่นเป็นเพียงคนตายเพค่ะ อย่างไรก็ไม่มีทางสู้พระนางได้ แล้วเหตุใดถึง…”

ความจริงแล้วสตรีผู้สวมชุดหรูหรานางนี้คือพระมเหสีของจักรพรรดิแห่งอวหยางนั่นเอง ซึ่งมีพระนามว่าหยุนเพียนเพียนพระนางเป็นพี่สาวของหยุนจึงเอ่อ!

“ท่านแม่ กล่าวตามตรง ก่อนหน้านี้ข้าพอใจฝ่าบาทยิ่งนัก เช่นนั้นข้าจึงไม่สนใจว่าฝ่าบาทจะยังมีหยุนจึงเอ๋ออยู่ในพระทัยหรือไม่! ทว่าหลายปีมานี้ ข้าและฝ่าบาทอยู่ด้วยกันแทบทั้งวันทั้งคืน! ข้าจึงตระหนักว่าจักรพรรดิคงลืมไปนานแล้ว!”

“ทว่าความจริงในพระทัยของฝ่าบาทยังจดจําเพียงหยุนจึงเอ่อ! ช่างน่าอิจฉาเสียจริง ทั้งที่น้องสาวข้าจากไปตั้งหลายปี แต่ยังสามารถครองใจฝ่าบาทได้จนถึงบัดนี้ ท่านแม่ดูสิ! นางเป็นเพียงเด็กสาวชาวบ้านทว่าฝ่าบาทกลับเห็นนางราวกับสมบัติล่าค่า!”

“ไม่จริงเพคะ ท่านไม่ควรปล่อยไปเช่นนี้ เราต้องเรียกองค์รักษ์ลับของพี่ชายข้าให้ไปสังหารผู้หญิงคนนั้นแทน ในครานั้นเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงน้องสาวของท่าน เช่นนั้นท่านจึงไม่กล้าออกคําสั่งเอง แต่วันนี้เป็นเพียงเด็กสาวไม่มีหัวนอนปลายเท้า พระมเหสีไม่ควรพ่ายแพ้ให้กับนางเด็ดขาดเพคะ!”

แม่ของหยุนเพียนเพียนกล่าวอย่างทนไม่ได้ ฝ่ายหยุนเพียนเพียนจึงทําเพียงพยักหน้าตกลง!

หยุนเถียนเถียนที่อยู่ไกลจากฟูเฉิงไม่รู้ตัวเลยว่า เธอจะต้องถูกลอบสังหารในไม่ช้า…

บัดนี้เธอกลัวเพียงว่าเฉินเฉินจะยังวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น หยุนเถียนเถียนจึงเรียกหยางยู่หรงและจางชิงเฟิงมาร่วมสังสรรค์กัน

แม้จางชิงเฟิงจะผ่านการสอบแต่เขาก็ยังโศกเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวเฉินเฉินไปไม่น้อยนั่นไม่ใช่เพราะเรื่องที่เสี่ยวเฉินเฉินถูกกระทํา แต่เป็นเพราะเขาไม่มีโอกาสได้แข่งขันกับเด็กคนนี้ต่างหาก!

เฉินเฉินฟื้นคืนสติกลับมาได้จากการสูญเสียครั้งนี้ เขาเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา แม้จะได้ยินที่จางชิงเฟิงกล่าวทั้งหมดแต่ก็ยังไม่แสดงสีหน้าใดโต้ตอบ

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฉินเฉินจึงทําให้หยุนเถียนเตียนโล่งใจขึ้นมาทันที ฉากนั้นสื่อให้เห็นว่าเขาเติบโตขึ้นมาก!

“เฉินเฮ่อ ยังมีเวลาอีกตั้งสามปี! เจ้าพร้อมจะอยู่ในสํานักแห่งฟูเฉิงตลอดเวลาแล้วหรือไม่? ”

เฉินเฉินก้มหัวลงพลางพูด “หากพี่สาวมีสิ่งที่ต้องทําก็ทําเถอะ ไม่ต้องห่วงข้าหรอก! ขอเพียงมีตําราให้เล่าเรียนก็พอแล้ว ถ้ามีปัญหาหรือไม่เข้าใจจริง ๆ ข้ารอพี่ว่างและค่อยไปถามอาจารย์ก็ได้ นี่!”

หยุนเถียนเถียนยื่นมือลูบหัวเฉินเฉิน “ข้ารู้ว่าเจ้าทําได้ แต่พี่คิดว่าคนสนิทในเมืองนี้ช่างน้อย นักจึงเกรงว่าเจ้าจะหมดสนุกน่ะสิ! แม้ข้าจะซื้อที่ดินใกล้หมู่บ้านเทพธิดาเพื่อสร้างเรือนและ เตรียมคนรับใช้ไว้กลุ่มหนึ่งแล้วก็เถอะ! แต่อย่างไรข้าก็ไม่สบายใจอยู่ดี!”

“ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากพาเจ้าไปค้างแรมในหมู่บ้านสักพักหนึ่ง! หากเจ้าไม่เข้าใจตาราเรียนค่อยเข้าฟเฉิงมาหาอาจารย์ที่สํานักนาน ๆ ครั้งก็ได้! เจ้าคิดว่าเช่นนี้ดีหรือไม่?”

“ดีเสียยิ่งกว่าดีสักอีก เพราะพี่ชิงเฟิงและพี่ฝหรงสอบผ่านแล้ว อีกไม่นานก็คงต้องออกจากสำนักและกลับบ้านตนเอง! เมื่อถึงเวลานั้นพี่สาวข้าก็คงต้องอยู่ตามล่าพัง พี่คงอึดอัดมากแน่ ๆ เรากลับไปอยู่หมู่บ้านกันสักพักย่อมดีที่สุด!”

“แล้วพี่เขย..”

หยุนเวียนเถียนยิ้มเจื่อน “ข้าเพิ่งคิดเรื่องนี้ได้เมื่อครู่ แน่นอนว่ายังไม่ได้บอกพี่เขยของเจ้า! แต่เขายังมีเรื่องสําคัญต้องจัดการอีกมากคงไม่ว่างกลับหมู่บ้านกับเราหรอก! ”

จางชิงเฟิงและหยางยู่หรงต่างมองหน้ากัน เนื่องจากตัวตนของทั้งคู่ลึกลับมาก! แม้ว่าหยางฝูหรงจะทราบอยู่แล้วว่าหยุนเคอคืออ๋องล่วย แต่นางไม่รู้ว่าหยุนเกียนเถียนมีฐานะเช่นไร!

ทั้งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ช่างดูซับซ้อนยิ่งนัก แม้ทั้งสองจะบอกว่าเป็นสามีภรรยากัน ทว่าดูไปดูมาแล้วเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น! เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นสามีภรรยาคู่ไหนแยกกันนอนสักคู่! แต่จะว่าไปแล้วหากไม่ใช่สามีภรรยากัน เหตุใดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงเข้ากันได้ดีเช่นนี้เล่า?!

ทั้งสองคิดเหมือนกันทุกประการ แต่หากไม่รู้เรื่องภายในเรือนของผู้อื่นก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง! ด้วย เหตุนี้จึงทําให้ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไร!

เฉินเฉินยิ้มอย่างจนปัญญา “ก็ดี! ถ้าพี่เขยปฏิบัติตนไม่ดีกับท่าน ต่อไปในอนาคตท่านค่อยคอยตามติดข้าก็ได้ ข้าไม่ถือสาหรอก!”

หยุนเสียนเถียนใช้นิ้วยันหัวเฉินเฉินอย่างอารมณ์เสีย “เจ้าเด็กน้อย คิดไกลเกินไปแล้ว! พี่สาวอย่างข้าจะหาเลี้ยงตนเองไม่ได้เชียวรึ?”

ทว่าก่อนออกจากเมืองหลวง ทั้งคู่ตระหนักว่าควรกล่าวอําลาหลีฮือฮวาเสียก่อน!

หยุนเถียนเถียนพาเฉินเฉินนั่งรถม้ามาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลี่ ในขณะเดียวกันหลี่ซื่อฮวาที่ กําลังวุ่นอยู่กับการจัดของในห้องหนังสือด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยถากถางเมื่อได้ยินเสียงใครบางคน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที!

“ในที่สุดนายน้อยหลี่ของเราก็จริงจังอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองยิ่งนัก!”

หลี่ซื่อฮวาเงยหน้าขึ้นมองคนรักด้วยรอยยิ้มสดใส “แม่นางที่นี่คับแคบไปงั้นรึ?! เจ้าเป็นหญิง สาวที่มักเอาแต่เก็บตัว ทว่าเหตุใดจู่ ๆ แม่นางถึงมาหาข้าได้เล่า?”

หยนเถียนเถียนหยิบผลไม้บนโต๊ะขึ้นกิน ถึงกระนั้นก็ไม่ลืมที่จะคว้าผลไม่โยนให้เฉินเฉินที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“ข้ามาที่นี่เพื่อบอกลาท่าน! ข้าอยู่ในเมืองหลวงนี้มานานมากแล้ว! ครั้งนี้เฉินเอ่อบังเอิญไม่ได้เข้าร่วมทดสอบฤดูใบไม้ร่วง และข้าไม่มีความอดทนพอที่จะรออยู่ที่นี่ถึงสามปีหรอก! ข้าจึงคิดว่าควรกลับเสียดีกว่า!”

หลี่ซื่อฮวารีบลุกขึ้นทันที แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะอยู่ในเมืองหลวง แต่โดยปกติแล้วการพบเจอกันช่างเป็นเรื่องยากเย็นนัก แล้วหากนางกลับชนบท เขาเกรงว่าตนไม่มีทางได้พบนางอีกเป็นแน่!

“เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในฟูเฉิงงั้นหรือ? เมืองทุรกันดารเช่นนั้นมีสิ่งใดดึงดูดเจ้านักหนา?”

หยุนเถียนเถียนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “เดิมที่การอยู่ในเมืองหลวงเช่นนี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก แต่ที่สําคัญกว่าคือจู่ ๆ ข้าก็นึกธุรกิจชั้นยอดขึ้นได้! ถ้าท่านทําได้ดี ข้าจะยอมร่วมมือกับท่านอีกครั้ง! ท่านคิดว่าดีหรือไม่?”

หลี่ซื่อฮวายิ้มอย่างขมขื่น แม้จะไม่พอใจที่สาวน้อยคนนี้กําลังจะจากไป ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถเผยความรู้สึกให้เธอรับรู้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องพยายามควบคุมอาการให้ได้มากที่สุด!

“ดี! หากได้เงินย่อมเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว! แล้วแม่นางจะไปเมื่อใด? หรือจะให้ข้าตามไปดูในเมืองด้วยดีหรือไม่? แต่ถึงอย่างไรแล้วธุรกิจนี้ก็มีเสี่ยวซื้อคอยดูอยู่แล้วคงไม่ต่างกันนัก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 392 จิตสังหาร

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 392 จิตสังหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 392 จิตสังหาร

หารู้ไม่ว่าเมื่อจักรพรรดิแห่งอวหยางได้ยินคําพูดนี้กลับมีรอยยิ้มขมขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก! “ใช่ ข้าคงสุขใจยิ่งนัก! ทว่าเจ้าอย่าบังคับองค์หญิงเชียวล่ะ! เพราะบัดนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับองค์ หญิงทั้งนั้น และในฐานะพี่ชาย เจ้าควรดูแลและปกป้ององค์หญิงให้ดี!”

มู่หรงปื่อรู้สึกแปลกใจนัก เนื่องด้วยตามนิสัยของพระบิดาแล้ว หากมีเหตุการณ์เช่นนี้ท่านต้องเร่งนําคนพานางกลับมาไม่ใช่หรือ? แต่ทําไมจู่ ๆ ครั้งนี้ถึงยอมอย่างง่ายดาย?

“เสด็จพ่อ ความจริงแล้วกระหม่อมแก่กว่าน้องไม่กี่เดือนเองไม่ใช่หรือ? เหตุใดช่างต่างจากที่พระบิดาตรัสไว้ก่อนหน้านัก?”

ดวงตาของจักรพรรดิแห่งอวีหยางเป็นประกาย “นี่ยังสงสัยว่าข้าพูดเท็จอยู่อีกงั้นรึ? ข้าเคยกล่าวไปแล้วว่าเจ้าคลอดก่อนกําหนด ดังนั้นจึงแก่กว่าองค์หญิงอย่างไรเล่า! พอเถอะ! ข้าต้องการพักผ่อน เจ้าออกไปได้แล้ว!”

แม้ว่ามู่หรงป๋อจะยังสงสัยอยู่บ้าง ทว่าก็ยอมเดินออกจากห้องที่จักรพรรดิแห่งอวหยางใช้พักฟื้นแต่โดยดี!

ส่วนอีกมุมหนึ่งที่องค์ชายมองไม่เห็นนั้น มีสตรีสวมชุดหรูหราด้วยสีหน้าดูแคลนกําลังเหวี่ยงเสื้อพลางเดินจากไป!

“มเหสี! นั่นเป็นเพียงคนตายเพค่ะ อย่างไรก็ไม่มีทางสู้พระนางได้ แล้วเหตุใดถึง…”

ความจริงแล้วสตรีผู้สวมชุดหรูหรานางนี้คือพระมเหสีของจักรพรรดิแห่งอวหยางนั่นเอง ซึ่งมีพระนามว่าหยุนเพียนเพียนพระนางเป็นพี่สาวของหยุนจึงเอ่อ!

“ท่านแม่ กล่าวตามตรง ก่อนหน้านี้ข้าพอใจฝ่าบาทยิ่งนัก เช่นนั้นข้าจึงไม่สนใจว่าฝ่าบาทจะยังมีหยุนจึงเอ๋ออยู่ในพระทัยหรือไม่! ทว่าหลายปีมานี้ ข้าและฝ่าบาทอยู่ด้วยกันแทบทั้งวันทั้งคืน! ข้าจึงตระหนักว่าจักรพรรดิคงลืมไปนานแล้ว!”

“ทว่าความจริงในพระทัยของฝ่าบาทยังจดจําเพียงหยุนจึงเอ่อ! ช่างน่าอิจฉาเสียจริง ทั้งที่น้องสาวข้าจากไปตั้งหลายปี แต่ยังสามารถครองใจฝ่าบาทได้จนถึงบัดนี้ ท่านแม่ดูสิ! นางเป็นเพียงเด็กสาวชาวบ้านทว่าฝ่าบาทกลับเห็นนางราวกับสมบัติล่าค่า!”

“ไม่จริงเพคะ ท่านไม่ควรปล่อยไปเช่นนี้ เราต้องเรียกองค์รักษ์ลับของพี่ชายข้าให้ไปสังหารผู้หญิงคนนั้นแทน ในครานั้นเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงน้องสาวของท่าน เช่นนั้นท่านจึงไม่กล้าออกคําสั่งเอง แต่วันนี้เป็นเพียงเด็กสาวไม่มีหัวนอนปลายเท้า พระมเหสีไม่ควรพ่ายแพ้ให้กับนางเด็ดขาดเพคะ!”

แม่ของหยุนเพียนเพียนกล่าวอย่างทนไม่ได้ ฝ่ายหยุนเพียนเพียนจึงทําเพียงพยักหน้าตกลง!

หยุนเถียนเถียนที่อยู่ไกลจากฟูเฉิงไม่รู้ตัวเลยว่า เธอจะต้องถูกลอบสังหารในไม่ช้า…

บัดนี้เธอกลัวเพียงว่าเฉินเฉินจะยังวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น หยุนเถียนเถียนจึงเรียกหยางยู่หรงและจางชิงเฟิงมาร่วมสังสรรค์กัน

แม้จางชิงเฟิงจะผ่านการสอบแต่เขาก็ยังโศกเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวเฉินเฉินไปไม่น้อยนั่นไม่ใช่เพราะเรื่องที่เสี่ยวเฉินเฉินถูกกระทํา แต่เป็นเพราะเขาไม่มีโอกาสได้แข่งขันกับเด็กคนนี้ต่างหาก!

เฉินเฉินฟื้นคืนสติกลับมาได้จากการสูญเสียครั้งนี้ เขาเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา แม้จะได้ยินที่จางชิงเฟิงกล่าวทั้งหมดแต่ก็ยังไม่แสดงสีหน้าใดโต้ตอบ

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฉินเฉินจึงทําให้หยุนเถียนเตียนโล่งใจขึ้นมาทันที ฉากนั้นสื่อให้เห็นว่าเขาเติบโตขึ้นมาก!

“เฉินเฮ่อ ยังมีเวลาอีกตั้งสามปี! เจ้าพร้อมจะอยู่ในสํานักแห่งฟูเฉิงตลอดเวลาแล้วหรือไม่? ”

เฉินเฉินก้มหัวลงพลางพูด “หากพี่สาวมีสิ่งที่ต้องทําก็ทําเถอะ ไม่ต้องห่วงข้าหรอก! ขอเพียงมีตําราให้เล่าเรียนก็พอแล้ว ถ้ามีปัญหาหรือไม่เข้าใจจริง ๆ ข้ารอพี่ว่างและค่อยไปถามอาจารย์ก็ได้ นี่!”

หยุนเถียนเถียนยื่นมือลูบหัวเฉินเฉิน “ข้ารู้ว่าเจ้าทําได้ แต่พี่คิดว่าคนสนิทในเมืองนี้ช่างน้อย นักจึงเกรงว่าเจ้าจะหมดสนุกน่ะสิ! แม้ข้าจะซื้อที่ดินใกล้หมู่บ้านเทพธิดาเพื่อสร้างเรือนและ เตรียมคนรับใช้ไว้กลุ่มหนึ่งแล้วก็เถอะ! แต่อย่างไรข้าก็ไม่สบายใจอยู่ดี!”

“ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากพาเจ้าไปค้างแรมในหมู่บ้านสักพักหนึ่ง! หากเจ้าไม่เข้าใจตาราเรียนค่อยเข้าฟเฉิงมาหาอาจารย์ที่สํานักนาน ๆ ครั้งก็ได้! เจ้าคิดว่าเช่นนี้ดีหรือไม่?”

“ดีเสียยิ่งกว่าดีสักอีก เพราะพี่ชิงเฟิงและพี่ฝหรงสอบผ่านแล้ว อีกไม่นานก็คงต้องออกจากสำนักและกลับบ้านตนเอง! เมื่อถึงเวลานั้นพี่สาวข้าก็คงต้องอยู่ตามล่าพัง พี่คงอึดอัดมากแน่ ๆ เรากลับไปอยู่หมู่บ้านกันสักพักย่อมดีที่สุด!”

“แล้วพี่เขย..”

หยุนเวียนเถียนยิ้มเจื่อน “ข้าเพิ่งคิดเรื่องนี้ได้เมื่อครู่ แน่นอนว่ายังไม่ได้บอกพี่เขยของเจ้า! แต่เขายังมีเรื่องสําคัญต้องจัดการอีกมากคงไม่ว่างกลับหมู่บ้านกับเราหรอก! ”

จางชิงเฟิงและหยางยู่หรงต่างมองหน้ากัน เนื่องจากตัวตนของทั้งคู่ลึกลับมาก! แม้ว่าหยางฝูหรงจะทราบอยู่แล้วว่าหยุนเคอคืออ๋องล่วย แต่นางไม่รู้ว่าหยุนเกียนเถียนมีฐานะเช่นไร!

ทั้งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ช่างดูซับซ้อนยิ่งนัก แม้ทั้งสองจะบอกว่าเป็นสามีภรรยากัน ทว่าดูไปดูมาแล้วเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น! เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นสามีภรรยาคู่ไหนแยกกันนอนสักคู่! แต่จะว่าไปแล้วหากไม่ใช่สามีภรรยากัน เหตุใดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงเข้ากันได้ดีเช่นนี้เล่า?!

ทั้งสองคิดเหมือนกันทุกประการ แต่หากไม่รู้เรื่องภายในเรือนของผู้อื่นก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง! ด้วย เหตุนี้จึงทําให้ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไร!

เฉินเฉินยิ้มอย่างจนปัญญา “ก็ดี! ถ้าพี่เขยปฏิบัติตนไม่ดีกับท่าน ต่อไปในอนาคตท่านค่อยคอยตามติดข้าก็ได้ ข้าไม่ถือสาหรอก!”

หยุนเสียนเถียนใช้นิ้วยันหัวเฉินเฉินอย่างอารมณ์เสีย “เจ้าเด็กน้อย คิดไกลเกินไปแล้ว! พี่สาวอย่างข้าจะหาเลี้ยงตนเองไม่ได้เชียวรึ?”

ทว่าก่อนออกจากเมืองหลวง ทั้งคู่ตระหนักว่าควรกล่าวอําลาหลีฮือฮวาเสียก่อน!

หยุนเถียนเถียนพาเฉินเฉินนั่งรถม้ามาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลี่ ในขณะเดียวกันหลี่ซื่อฮวาที่ กําลังวุ่นอยู่กับการจัดของในห้องหนังสือด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยถากถางเมื่อได้ยินเสียงใครบางคน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที!

“ในที่สุดนายน้อยหลี่ของเราก็จริงจังอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองยิ่งนัก!”

หลี่ซื่อฮวาเงยหน้าขึ้นมองคนรักด้วยรอยยิ้มสดใส “แม่นางที่นี่คับแคบไปงั้นรึ?! เจ้าเป็นหญิง สาวที่มักเอาแต่เก็บตัว ทว่าเหตุใดจู่ ๆ แม่นางถึงมาหาข้าได้เล่า?”

หยนเถียนเถียนหยิบผลไม้บนโต๊ะขึ้นกิน ถึงกระนั้นก็ไม่ลืมที่จะคว้าผลไม่โยนให้เฉินเฉินที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“ข้ามาที่นี่เพื่อบอกลาท่าน! ข้าอยู่ในเมืองหลวงนี้มานานมากแล้ว! ครั้งนี้เฉินเอ่อบังเอิญไม่ได้เข้าร่วมทดสอบฤดูใบไม้ร่วง และข้าไม่มีความอดทนพอที่จะรออยู่ที่นี่ถึงสามปีหรอก! ข้าจึงคิดว่าควรกลับเสียดีกว่า!”

หลี่ซื่อฮวารีบลุกขึ้นทันที แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะอยู่ในเมืองหลวง แต่โดยปกติแล้วการพบเจอกันช่างเป็นเรื่องยากเย็นนัก แล้วหากนางกลับชนบท เขาเกรงว่าตนไม่มีทางได้พบนางอีกเป็นแน่!

“เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในฟูเฉิงงั้นหรือ? เมืองทุรกันดารเช่นนั้นมีสิ่งใดดึงดูดเจ้านักหนา?”

หยุนเถียนเถียนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “เดิมที่การอยู่ในเมืองหลวงเช่นนี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก แต่ที่สําคัญกว่าคือจู่ ๆ ข้าก็นึกธุรกิจชั้นยอดขึ้นได้! ถ้าท่านทําได้ดี ข้าจะยอมร่วมมือกับท่านอีกครั้ง! ท่านคิดว่าดีหรือไม่?”

หลี่ซื่อฮวายิ้มอย่างขมขื่น แม้จะไม่พอใจที่สาวน้อยคนนี้กําลังจะจากไป ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถเผยความรู้สึกให้เธอรับรู้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องพยายามควบคุมอาการให้ได้มากที่สุด!

“ดี! หากได้เงินย่อมเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว! แล้วแม่นางจะไปเมื่อใด? หรือจะให้ข้าตามไปดูในเมืองด้วยดีหรือไม่? แต่ถึงอย่างไรแล้วธุรกิจนี้ก็มีเสี่ยวซื้อคอยดูอยู่แล้วคงไม่ต่างกันนัก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+