สามีข้า คือพรานป่า 39 สอนล่าสัตว์

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 39 สอนล่าสัตว์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉินเถียนเถียนซ่อนตัวอยู่ในโรงเก็บไม้โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!

นางนอนกลิ้งไปมาบนกองไม้ด้วยความกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก

ความจริงแล้ววันนี้ก็ไม่ถือว่านายพ่ายแพ้อะไร แม่เลี้ยงก็เสื่อมเสีย ส่วนเฉิงเยี่ยก็ไม่ต่างกัน!

ในเมื่อไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่ การยกห้องนอนให้น้องชายก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย นางหวังเพียงว่าเด็กชายจะพอจดจำความดีของนางได้บ้าง… หวังว่าทั้งสองจะเข้าใจกันในสักวัน

แน่นอนว่าเฉินเถียนเถียนไม่อาจหลับลงได้เพราะนางหิวยิ่งนัก… เฉินเถียนเถียนรอให้ทุกคนในบ้านเข้านอนหมดเพื่อจะหาโอกาสขึ้นไปบนภูเขา…

เพราะหยุนเคอชอบออกล่าสัตว์ในตอนกลางคืน เช่นนี้นางก็น่าจะหาอะไรกินได้บ้าง!

หลังจากนั้นไม่นานเฉิงผิงอันและหลินชวนฮวาก็หลับสนิท เรื่องราวตลอดทั้งวันทำให้ทั้งสองเหนื่อยล้าจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

เฉินเถียนเถียนย่องออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ภูเขาเทพธิดา

ความมืดปกคลุมทั่วบริเวณแต่คราวนี้เฉินเถียนเถียนไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะนางเคยมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น!

นางเดินขึ้นไปบนภูเขาอย่างราบรื่น แต่การล่าสัตว์กลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิดไว้!

เถียนเถียนได้ยินเสียงของไก่ป่าวิ่งไปมา แต่เมื่อนางพุ่งตัวเข้าใกล้กลับไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ!

ยิ่งไปกว่านั้นการพุ่งเข้าไปอย่างเร่งรีบทำให้นางสะดุดล้มจนนอนกลิ้งไปบนกองหญ้า… กว่าจะหยุดลงก็เหนื่อยหอบเสียแล้ว!

เถียนเถียนพ่นวัชพืชต่าง ๆ ออกจากปากและเสียงนั้นดังก้องในความมืด อย่างไรซะสภาพของนางในตอนนี้แทบจะดูไม่ได้อีกต่อไป

ผมเผ้ายุ่งเหยิงพร้อมกับเศษหญ้าที่เปรอะเปื้อน แขนเสื้อขาดรุ่ย… เถียนเถียนก่นด่าสาปแช่งไม่หยุดหย่อน เพียงแค่ไก่ป่าตัวเดียวทำให้นางต้องตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้เชียวหรือ?

เด็กสาวลุกขึ้นด้วยความอับอายและเดินต่อขึ้นไปบนภูเขา แม้ว่าจะไม่มีสัตว์ป่าใดแต่ผลไม้ป่าก็น่าจะทดแทนได้

นางเริ่มหากิ่งไม้ยาว ๆ เพื่อเอาไว้ใช้สอยผลไม้ เด็กสาวหยุดยืนอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ แสงจันทราสาดส่องพอให้มองเห็นบ้าง แม้ว่ามันจะยังไม่สุกดีแต่ก็มีบางผลที่กินได้!

เถียนเถียนทิ้งไม้ยาวในมือก่อนจะเริ่มปีนต้นไม้!

แม้นางจะไม่เก่งกาจในด้านการล่า แต่เรื่องปีนต้นไม้นางไม่แพ้ใครแน่นอน!

ถึงผลไม้จะยังเขียว ๆ นิดหน่อยแต่มันสามารถทำให้อิ่มท้องได้ เฉินเถียนเถียนนั่งกระดิกเท้าพร้อมแทะผลไม้ในมืออย่างมีความสุข

แต่ผลไม้รสเปรี้ยวนี้ช่างประหลาด ยิ่งกินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหิวมากขึ้นเท่านั้น ท้องของนางเริ่มร้องระงมโครกครากไม่หยุดหย่อน!

มือน้อย ๆ ลูบไปที่พุงอย่างกระสับกระสาย ขณะที่นางกำลังจะเอื้อมมือไปเด็ดผลไม้อีกลูกกลับพลาดท่าลื่นและร่วงหล่นจากต้นไม้ทันที!

นางรู้สึกขอบคุณที่ตอนนี้คือเวลากลางคืน หากมีใครพบเห็นคงต้องอับอายจนแทรกแผ่นดินหนี… โชคดีนักที่ไม่มีใครอยู่บนภูเขาลูกนี้

ขณะที่กำลังพร่ำบ่นกับตนเอง จู่ ๆ พลันเกิดเสียงกร็อบแกร็บจากพุ่มไม้ใกล้ ๆ

ความตื่นตระหนกครอบงำทันที แม้ไม่มีสัตว์เล็กวิ่งผ่านให้พบเจอ แต่มีเสียงหมาป่าหอนดังไปทั่วภูเขา

การพบเจอหมาป่าในตอนนี้คือความโชคดีหรือโชคร้าย?

เฉินเถียนเถียนสังเกตเห็นวัตถุชิ้นหนึ่งกำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง นางรับรู้ได้ถึงอันตรายจึงรีบหมอบลงอย่างรวดเร็ว

ลูกศรยาวเฉียดเส้นผมของนางไปเพียงนิด!

หากก้มลงช้ากว่านี้อีกสักวินาที มันอาจจะปักเข้าที่ลำคอแล้วเป็นแน่!

เฉินเถียนเถียนตื่นตระหนกพร้อมกับพิงต้นไม้ใหญ่ด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านจากความหวาดกลัว

ใครกันที่หมายมั่นจะสังหารนาง? หลินชวนฮวาก็ไม่น่าจะรู้จักนักฆ่าที่ไหน…

เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นนายน้อยหลี่… เขาเพียงหลอกล่อว่าจะปล่อยนางไปแต่ความจริงแล้วกลับหาโอกาสสังหารทีหลัง!?

“ออกมา!”

เสียงทุ้มต่ำของชายนิรนามดังขึ้น!

เป็นหยุนเคอ! นางจดจำเสียงนั้นได้ทันที…

“หยุนเคอ… เป็นข้าเอง ข้าหิวยิ่งนักเลยเดินขึ้นมาหาอะไรกินบนภูเขาน่ะ มันอาจจะเป็นเขตแดนของเจ้าแต่อย่าถือโทษโกรธข้าเลยได้ไหม?”

หยุนเคอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นเฉินเถียนเถียน… แต่ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใด

“เจ้าอีกแล้วงั้นหรือ?”

“คนที่สามารถวิ่งขึ้นมาบนภูเขากลางดึกเช่นนี้จะเป็นใครได้อีกหากไม่ใช่ข้า?”

หยุนเคอนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะเดินจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดตอบ

แต่ด้วยสายตาคมหลาบของเฉินเถียนเถียน นางเห็นไก่ป่า กระต่ายและอื่น ๆ อีกมากมายห้อยอยู่ที่เอวของเขา!

หยุนเคอหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อรับรู้ได้พลังออร่าแห่งความหิว… แต่อย่างไรเขาก็ไม่ได้หันหลังกลับ เฉินเถียนเถียนกัดฟันแน่นอย่างอึดอัดใจ โดยปกติแล้วเขาจะต้องหันกลับมาและถามไถ่นางมิใช่หรือ?

หากภูเขาไม่เคลื่อนเข้ามา ข้าก็จะเคลื่อนตัวเข้าหาภูเขาเองแล้วกัน!

“หยุนเค่อ… ช่วยสอนข้าล่าสัตว์หน่อยได้ไหม?”

หยุนเคอเพียงเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตา เขาไม่ได้กล่าวตอบแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

“ความจริงแล้วข้าก็มิใช่อ่อนแอ หยุนเคอ… เจ้าเก่งมากก็จริงแต่ไม่สามารถแกะรอยของสัตว์ได้ แต่ข้าทำได้นะ! หากสัตว์ตัวนั้นเคยวิ่งผ่านแถวนี้ ข้าสามารถตามจนพบตัวมันและพวกเราก็จะได้รับสัตว์ป่าจำนวนมากขึ้นไงล่ะ… ดีไหม?”

เฉินเถียนเถียนพยายามโน้มน้าวชายร่างใหญ่อย่างเต็มที่ หากเขายินยอม นางก็ไม่ต้องทนหิวโหยอีกต่อไป!

หยุนเคอพลันนึกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นบุคคลที่กล้าหาญและช่างดื้อรั้นยิ่ง นางสามารถหาหนทางเอาชีวิตรอดด้วยตนเองเสมอ

นางไม่น่าจะโกหก…

“ได้!”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น เถียนเถียนยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

“ถ้าเช่นนั้น… ข้าขอยืมเหยื่อที่เจ้าล่ามาก่อนได้หรือไม่ ยังไงซะข้าต้องอิ่มก่อนจึงจะทำงานได้…”

หยุนเคอหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ในตอนนี้เถียนเถียนเริ่มสงสัยอยู่บ้าง นางไม่รู้เลยว่าเหตุใดหยุนเคอที่ไม่เคยให้ความร่วมมือในตอนแรกจึงตอบตกลงกับนางอย่างง่ายดายในภายหลัง?

การจะหอบหิ้วสตรีไปด้วยตลอดทางมันคือภาระมิใช่หรือ?

“หลังจากข้าเรียนรู้วิธีล่าสัตว์ได้แล้ว ข้าย่อมตอบแทนเจ้าแน่นอน อย่าได้ตระหนี่ถี่เหนียวเลยหน่า”

ตระหนี่?

หยุนเคอเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

เมื่อเห็นว่าชายตรงหน้าไม่เห็นด้วย เถียนเถียนกลอกตาไปมาและนึกถึงสิ่งที่เคยทำเงินมากโขให้กับนางในครั้งยังเป็นตำรวจ… แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้ตำรวจลำบากใจมากที่สุด!

การสร้างสถานการณ์ว่าโดนรถชนเพื่อเรียกค่าเสียหาย!

หากเป็นการทำเช่นนี้นางค่อนข้างจะถนัด…

“ก็ดูเจ้าสิ… ลูกธนูนี้เกือบทำให้ข้าตายตกไปแล้ว ข้ามิควรชดใช้งั้นหรือ?”

หยุนเคอจับจ้องหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแต่ก็ไม่เห็นว่านางจะหวาดกลัว!

ตอนนี้เถียนเถียนเข้าใจความคิดของหยุนเคออย่างรวดเร็ว

“ก็ถูกของเจ้า… เพราะข้าน่ะกล้าหาญจึงไม่กลัว แต่ในยามที่ข้าเอ่ยปากว่าหวาดกลัว ก็แสดงว่าข้ากลัวจริง ๆ! เจ้าไม่คิดจะขอโทษข้าสักหน่อยหรือ? อีกอย่างข้าก็ไม่ได้ต้องการอะไรมาก ไก่ป่าสักตัวก็พอ…”

‘เอาล่ะ… เจ้าลงเรือลำเดียวกับข้าแล้ว แค่ขอหยิบยืมสักนิดมันจะไม่ได้เชียวหรือ?’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 39 สอนล่าสัตว์

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 39 สอนล่าสัตว์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉินเถียนเถียนซ่อนตัวอยู่ในโรงเก็บไม้โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!

นางนอนกลิ้งไปมาบนกองไม้ด้วยความกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก

ความจริงแล้ววันนี้ก็ไม่ถือว่านายพ่ายแพ้อะไร แม่เลี้ยงก็เสื่อมเสีย ส่วนเฉิงเยี่ยก็ไม่ต่างกัน!

ในเมื่อไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่ การยกห้องนอนให้น้องชายก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย นางหวังเพียงว่าเด็กชายจะพอจดจำความดีของนางได้บ้าง… หวังว่าทั้งสองจะเข้าใจกันในสักวัน

แน่นอนว่าเฉินเถียนเถียนไม่อาจหลับลงได้เพราะนางหิวยิ่งนัก… เฉินเถียนเถียนรอให้ทุกคนในบ้านเข้านอนหมดเพื่อจะหาโอกาสขึ้นไปบนภูเขา…

เพราะหยุนเคอชอบออกล่าสัตว์ในตอนกลางคืน เช่นนี้นางก็น่าจะหาอะไรกินได้บ้าง!

หลังจากนั้นไม่นานเฉิงผิงอันและหลินชวนฮวาก็หลับสนิท เรื่องราวตลอดทั้งวันทำให้ทั้งสองเหนื่อยล้าจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

เฉินเถียนเถียนย่องออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ภูเขาเทพธิดา

ความมืดปกคลุมทั่วบริเวณแต่คราวนี้เฉินเถียนเถียนไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะนางเคยมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและรู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น!

นางเดินขึ้นไปบนภูเขาอย่างราบรื่น แต่การล่าสัตว์กลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิดไว้!

เถียนเถียนได้ยินเสียงของไก่ป่าวิ่งไปมา แต่เมื่อนางพุ่งตัวเข้าใกล้กลับไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ!

ยิ่งไปกว่านั้นการพุ่งเข้าไปอย่างเร่งรีบทำให้นางสะดุดล้มจนนอนกลิ้งไปบนกองหญ้า… กว่าจะหยุดลงก็เหนื่อยหอบเสียแล้ว!

เถียนเถียนพ่นวัชพืชต่าง ๆ ออกจากปากและเสียงนั้นดังก้องในความมืด อย่างไรซะสภาพของนางในตอนนี้แทบจะดูไม่ได้อีกต่อไป

ผมเผ้ายุ่งเหยิงพร้อมกับเศษหญ้าที่เปรอะเปื้อน แขนเสื้อขาดรุ่ย… เถียนเถียนก่นด่าสาปแช่งไม่หยุดหย่อน เพียงแค่ไก่ป่าตัวเดียวทำให้นางต้องตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้เชียวหรือ?

เด็กสาวลุกขึ้นด้วยความอับอายและเดินต่อขึ้นไปบนภูเขา แม้ว่าจะไม่มีสัตว์ป่าใดแต่ผลไม้ป่าก็น่าจะทดแทนได้

นางเริ่มหากิ่งไม้ยาว ๆ เพื่อเอาไว้ใช้สอยผลไม้ เด็กสาวหยุดยืนอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ แสงจันทราสาดส่องพอให้มองเห็นบ้าง แม้ว่ามันจะยังไม่สุกดีแต่ก็มีบางผลที่กินได้!

เถียนเถียนทิ้งไม้ยาวในมือก่อนจะเริ่มปีนต้นไม้!

แม้นางจะไม่เก่งกาจในด้านการล่า แต่เรื่องปีนต้นไม้นางไม่แพ้ใครแน่นอน!

ถึงผลไม้จะยังเขียว ๆ นิดหน่อยแต่มันสามารถทำให้อิ่มท้องได้ เฉินเถียนเถียนนั่งกระดิกเท้าพร้อมแทะผลไม้ในมืออย่างมีความสุข

แต่ผลไม้รสเปรี้ยวนี้ช่างประหลาด ยิ่งกินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหิวมากขึ้นเท่านั้น ท้องของนางเริ่มร้องระงมโครกครากไม่หยุดหย่อน!

มือน้อย ๆ ลูบไปที่พุงอย่างกระสับกระสาย ขณะที่นางกำลังจะเอื้อมมือไปเด็ดผลไม้อีกลูกกลับพลาดท่าลื่นและร่วงหล่นจากต้นไม้ทันที!

นางรู้สึกขอบคุณที่ตอนนี้คือเวลากลางคืน หากมีใครพบเห็นคงต้องอับอายจนแทรกแผ่นดินหนี… โชคดีนักที่ไม่มีใครอยู่บนภูเขาลูกนี้

ขณะที่กำลังพร่ำบ่นกับตนเอง จู่ ๆ พลันเกิดเสียงกร็อบแกร็บจากพุ่มไม้ใกล้ ๆ

ความตื่นตระหนกครอบงำทันที แม้ไม่มีสัตว์เล็กวิ่งผ่านให้พบเจอ แต่มีเสียงหมาป่าหอนดังไปทั่วภูเขา

การพบเจอหมาป่าในตอนนี้คือความโชคดีหรือโชคร้าย?

เฉินเถียนเถียนสังเกตเห็นวัตถุชิ้นหนึ่งกำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง นางรับรู้ได้ถึงอันตรายจึงรีบหมอบลงอย่างรวดเร็ว

ลูกศรยาวเฉียดเส้นผมของนางไปเพียงนิด!

หากก้มลงช้ากว่านี้อีกสักวินาที มันอาจจะปักเข้าที่ลำคอแล้วเป็นแน่!

เฉินเถียนเถียนตื่นตระหนกพร้อมกับพิงต้นไม้ใหญ่ด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านจากความหวาดกลัว

ใครกันที่หมายมั่นจะสังหารนาง? หลินชวนฮวาก็ไม่น่าจะรู้จักนักฆ่าที่ไหน…

เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นนายน้อยหลี่… เขาเพียงหลอกล่อว่าจะปล่อยนางไปแต่ความจริงแล้วกลับหาโอกาสสังหารทีหลัง!?

“ออกมา!”

เสียงทุ้มต่ำของชายนิรนามดังขึ้น!

เป็นหยุนเคอ! นางจดจำเสียงนั้นได้ทันที…

“หยุนเคอ… เป็นข้าเอง ข้าหิวยิ่งนักเลยเดินขึ้นมาหาอะไรกินบนภูเขาน่ะ มันอาจจะเป็นเขตแดนของเจ้าแต่อย่าถือโทษโกรธข้าเลยได้ไหม?”

หยุนเคอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นเฉินเถียนเถียน… แต่ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใด

“เจ้าอีกแล้วงั้นหรือ?”

“คนที่สามารถวิ่งขึ้นมาบนภูเขากลางดึกเช่นนี้จะเป็นใครได้อีกหากไม่ใช่ข้า?”

หยุนเคอนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะเดินจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดตอบ

แต่ด้วยสายตาคมหลาบของเฉินเถียนเถียน นางเห็นไก่ป่า กระต่ายและอื่น ๆ อีกมากมายห้อยอยู่ที่เอวของเขา!

หยุนเคอหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อรับรู้ได้พลังออร่าแห่งความหิว… แต่อย่างไรเขาก็ไม่ได้หันหลังกลับ เฉินเถียนเถียนกัดฟันแน่นอย่างอึดอัดใจ โดยปกติแล้วเขาจะต้องหันกลับมาและถามไถ่นางมิใช่หรือ?

หากภูเขาไม่เคลื่อนเข้ามา ข้าก็จะเคลื่อนตัวเข้าหาภูเขาเองแล้วกัน!

“หยุนเค่อ… ช่วยสอนข้าล่าสัตว์หน่อยได้ไหม?”

หยุนเคอเพียงเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตา เขาไม่ได้กล่าวตอบแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

“ความจริงแล้วข้าก็มิใช่อ่อนแอ หยุนเคอ… เจ้าเก่งมากก็จริงแต่ไม่สามารถแกะรอยของสัตว์ได้ แต่ข้าทำได้นะ! หากสัตว์ตัวนั้นเคยวิ่งผ่านแถวนี้ ข้าสามารถตามจนพบตัวมันและพวกเราก็จะได้รับสัตว์ป่าจำนวนมากขึ้นไงล่ะ… ดีไหม?”

เฉินเถียนเถียนพยายามโน้มน้าวชายร่างใหญ่อย่างเต็มที่ หากเขายินยอม นางก็ไม่ต้องทนหิวโหยอีกต่อไป!

หยุนเคอพลันนึกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นบุคคลที่กล้าหาญและช่างดื้อรั้นยิ่ง นางสามารถหาหนทางเอาชีวิตรอดด้วยตนเองเสมอ

นางไม่น่าจะโกหก…

“ได้!”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น เถียนเถียนยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

“ถ้าเช่นนั้น… ข้าขอยืมเหยื่อที่เจ้าล่ามาก่อนได้หรือไม่ ยังไงซะข้าต้องอิ่มก่อนจึงจะทำงานได้…”

หยุนเคอหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ในตอนนี้เถียนเถียนเริ่มสงสัยอยู่บ้าง นางไม่รู้เลยว่าเหตุใดหยุนเคอที่ไม่เคยให้ความร่วมมือในตอนแรกจึงตอบตกลงกับนางอย่างง่ายดายในภายหลัง?

การจะหอบหิ้วสตรีไปด้วยตลอดทางมันคือภาระมิใช่หรือ?

“หลังจากข้าเรียนรู้วิธีล่าสัตว์ได้แล้ว ข้าย่อมตอบแทนเจ้าแน่นอน อย่าได้ตระหนี่ถี่เหนียวเลยหน่า”

ตระหนี่?

หยุนเคอเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

เมื่อเห็นว่าชายตรงหน้าไม่เห็นด้วย เถียนเถียนกลอกตาไปมาและนึกถึงสิ่งที่เคยทำเงินมากโขให้กับนางในครั้งยังเป็นตำรวจ… แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้ตำรวจลำบากใจมากที่สุด!

การสร้างสถานการณ์ว่าโดนรถชนเพื่อเรียกค่าเสียหาย!

หากเป็นการทำเช่นนี้นางค่อนข้างจะถนัด…

“ก็ดูเจ้าสิ… ลูกธนูนี้เกือบทำให้ข้าตายตกไปแล้ว ข้ามิควรชดใช้งั้นหรือ?”

หยุนเคอจับจ้องหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแต่ก็ไม่เห็นว่านางจะหวาดกลัว!

ตอนนี้เถียนเถียนเข้าใจความคิดของหยุนเคออย่างรวดเร็ว

“ก็ถูกของเจ้า… เพราะข้าน่ะกล้าหาญจึงไม่กลัว แต่ในยามที่ข้าเอ่ยปากว่าหวาดกลัว ก็แสดงว่าข้ากลัวจริง ๆ! เจ้าไม่คิดจะขอโทษข้าสักหน่อยหรือ? อีกอย่างข้าก็ไม่ได้ต้องการอะไรมาก ไก่ป่าสักตัวก็พอ…”

‘เอาล่ะ… เจ้าลงเรือลำเดียวกับข้าแล้ว แค่ขอหยิบยืมสักนิดมันจะไม่ได้เชียวหรือ?’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+