สามีข้า คือพรานป่า 128 ยอมถอย

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 128 ยอมถอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 128 ยอมถอย

 

“เช่นนั้นงั้นหรือ… แล้วต้องทําเช่นไรนางจึงจะยอมร่างจดหมายนั้น?”

 

เฉินเฉิงเยี่ยพยายามระงับความตื่นเต้นพร้อมเผยสีหน้า เกลียดชังออก “ ง่ายดายยิ่ง แค่เจ้าปล่อยข้ากับแม่ไป.. แล้วข้าจะกลับไปเรียนหนังสือเพื่อสอบเป็นขุนนางให้ได้ วันหนึ่งเมื่อข้าทําสําเร็จ เจ้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผู้ใดเรียกร้องหาผลประโยชน์จากเฉินเฉิน!”

 

“สําหรับเย่วชิงไฉ… เขาเป็นฆาตกรจึงต้องชดใช้และรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด เพราะหากพ้นโทษออกไปในอนาคต ข้าไม่ต้องการให้ใครเรียกหาข้าว่าลูกชายฆาตกรแหกคุก!”

 

เพราะเฉินเฉิงเยี่ยเป็นคนเห็นแก่ตัวและรักแม่มาก เช่นนั้นแล้วจึงไม่น่าแปลกใจหากเขาจะละทิ้งผู้เป็นพ่อได้อย่างง่ายดาย!

 

“หืม นั่นคือบิดาผู้ให้กําเนิด.. เจ้าแน่ใจแล้วหรือ?”

 

เฉินเฉิงเยี่ยเริ่มใส่อารมณ์ “ข้าแน่ใจ! เมื่อยังเยาว์ ข้าเกือบจะมีอนาคตที่สดใส แต่เขากลับทิ้งภรรยาซึ่งกําลังตั้งครรภ์และไปซื้อบริการโสเภณี ก่อนจะพลั้งมือฆ่านางโดยไม่ ตั้งใจ แม่ของข้าทุกข์ใจมาก จึงต้องมาแต่งงานกับเฉินผิงอันเพื่อข้า!”

 

“ทั้งหมดเป็นเพราะเขา ชีวิตที่ราบรื่นของข้าถูกทําลายโดยเขา! เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านของเฉินผิงอัน ข้าเองก็เกลียดเขาไม่น้อยเพราะเขาทั้งกดขี่และข่มเหงแม่! แต่เมื่อข้ากําลังจะได้สอบขุนนางในปีหน้า เย่วชิวไฉกลับโผล่มา! ความลับของข้าที่ปกปิดมาโดยตลอดถูกเปิดเผยและทุกคนต่างหัวเราะเยาะข้าอีกครั้ง!”

 

“เช่นนี้แล้วเจ้าจะบอกว่าข้าไม่ควรเกลียดเขาอย่างนั้นหรือ? จริงอยู่ที่เขาเป็นพ่อผู้ให้กําเนิด ทว่าตั้งแต่ที่ข้าเกิดมาเขาก็เอาแต่ใช้ชีวิตในซ่องกับหญิงโสเภณีและไม่สนใจข้าเลย! เช่นนี้แล้วเหตุใดข้าต้องสนใจพ่อเช่นนี้ด้วย?”

 

หยุนเถียนเถียนยิ้ม “เย่วชิวไฉก่ออาชญากรรมร้ายแรง ต่อให้ข้าจะอยากปล่อยเขาไปแต่พวกเจ้าคงไม่ยอมเป็นแน่! และแม้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปโดยไม่ให้เจ้าหน้าที่สอบสวน แต่เฉินผิงอันจะเห็นด้วยหรือไม่นั้นข้าคงรับรองไม่ได้”

 

“เฉินผิงอันเป็นคนขี้ขลาด เขาไม่กล้าแม้แต่จะไปสํานักราชการ นับประสาอะไรกับยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้พิพากษา! หากได้พบหน้าเย่วชิงไฉและแม่ของข้าอย่างมากที่สุด เขาก็ทําได้เพียงแสดงอาการไม่พอใจ เขาไม่เหมือนกับเจ้า เช่นนั้นแล้วชีวิตและความตายของข้าแขวนอยู่ในมือของเจ้าเพียงผู้เดียว!”

 

หยุนเถียนเถียนไม่ได้ถามอะไรต่อ แม้จะเคยถูกเฉินเฉิงเยี่ยรังแก แต่นั่นก็เป็นเถียนเถียนคนก่อนไม่ใช่นาง สําหรับหยุนเถียนเถียนคนปัจจุบันนั้นเปี่ยมไปด้วยความยุ ติธรรม แม้จะรู้สึกไม่สบายใจก็ตาม… ยิ่งไปกว่านั้น เงื่อนไขที่เขาเสนอมาก็น่าสนใจไม่น้อย!

 

“เอาล่ะ รุ่งสางของวันพรุ่งนี้ข้าต้องได้จดหมายการก่ออาชญากรรมจากแม่ของเจ้า หากอ่านดูแล้วรู้สึกพอใจก็จะปล่อยพวกเจ้าไป! แต่หากยังรู้สึกไม่พอใจก็อย่าได้กล่าวโทษข้า เพราะสําหรับขุนนางเช่นเจ้าการเขียนหลักฐานพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร! อ้อ พวกเจ้าจะต้องเขียนหนังสือโอนที่ดินคืนให้ข้าด้วย!”

 

หยุนเถียนเถียนหันหลังกลับและจากไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะทั้งหมดนี้ล้วนแต่ส่งผลดีกับตัวนาง

 

สําหรับเฉินเฉิน จะเกิดอะไรขึ้นหากพบว่าแม่ผู้ใจร้ายของเขาถูกทิ้งไว้ด้านหลัง? แต่ด้วยหลักฐานที่มีในมือย่อมไม่ใช่ปัญหาอะไร!

 

สิ่งที่สําคัญที่สุดคือในยุคนี้ผู้คนมักเชื่อในการอุปทานหมู่ ดังนั้นเพียงแค่หยุนเถียนเถียนใช้หลักฐานนี้ในการจูงใจชาวบ้าน ก็จะทําให้พวกเขาเชื่อและคิดว่าทุกอย่างสมเหตุสมผล!

 

เช่นนั้นแล้วหยุนเถียนเถียนจึงตอบตกลงกับเฉินเฉิงเยี่ยไป เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครยอมให้บ้านถูกไฟไหม้โดนเปล่าประโยชน์!

 

หยุนเทียนเถียนขอให้คนส่งกระดาษ ปากกาและหมึกให้เฉินเฉิงเยี่ย ก่อนจะสั่งให้เจ้าหน้าที่คุ้มกันปลดเชือกของเขาออกเพื่อให้เขียนได้สะดวก

 

จริงอยู่ที่เฉินเฉิงเยี่ยเป็นนักปราชญ์แต่เขาก็ไม่สามารถลักไก่หลบหนี้ได้ เพราะเจ้าหน้าที่คุ้มกันได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจึงไม่มีทางที่เขาจะหนี!

 

เฉินเฉิงเยี่ยใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการเขียนจดหมาย และเตรียมหลักฐานทางอาญาต่าง ๆ มากมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่คุ้มกันทั้งสองคนก็มัดมือเขาอีกครั้ง ก่อนจะส่ง หลักฐานให้หลินชวนฮวาประทับลายนิ้วมือ

 

เมื่อหลินชวนฮวาเห็นว่าลูกชายของตนถูกกระทําจึงพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นช่วยเขา แต่เพราะถูกมัดอยู่นางจึงไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะทําอะไร

 

“เฉิงเยี่ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

 

เดิมที่เฉินเฉิงเยี่ยเป็นห่วงและต้องการปกป้องแม่เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นสิ่งที่นางทําในตอนนี้เขาก็แสยะยิ้มออกมาอย่างประชดประชัน!

 

“แม่คิดถึงแต่ฆาตกรผู้นั้นไม่ใช่หรือ? ยังห่วงใยและรักลูกชายเช่นข้าด้วยหรือไร?!”

 

หลินชวนฮวาร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด “เฉิงเยี่ย… เจ้าคิดว่าแม่ไม่รักได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะทําเพื่อเจ้า แม่จะแต่งงานกับคนเช่นเฉินผิงอันและยอมให้เขาทารุณเพื่อสิ่งใด?! ทุกอย่างที่แม่ทําก็เพื่อเจ้า!”

 

“ทําเพื่อข้างั้นหรือ? แม่ทําเพื่อตนเองและชายผู้นี้ที่ท่านรักมากกว่า! หากจะบอกว่าทําเพื่อลูก ในตอนที่ข้ากําลังมีอนาคตที่สดใส เหตุใดแม่จึงไปคบชู้กับชายผู้นั้น?! ข้ากําลังจะได้เป็นขุนนาง แต่กลับโดนทําลายจนหมดสิ้น!”

 

เฉินเฉิงเยี่ยกล่าวออกอย่างเจ็บปวดพร้อมกับน้ําตาคลอเบ้า

 

หลินชวนฮวารู้สึกผิดและคิดว่าหากไม่ใช่เพราะความโลภของนางที่อยากได้เงินของเฉินผิงอัน หรือความแค้นที่มีต่อหยุนเถียนเถียนจนทําไปสู่การก่ออาชญากรรม ลูกชายของนางคงไม่ได้รับผลกระทบเช่นนี้

 

“เฉิงเยี่ย”

 

จู่ ๆ เฉินเฉิงเยี่ยก็ตั้งสติได้และนึกถึงสิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้

 

“ท่านแม่! หากข้าขอร้องท่านครานี้ ท่านจะช่วยลูกชายของท่านหรือไม่?”

 

หลินชวนฮวาพยายามดิ้นรนออกจากพันธนาการที่ผูกมัดอย่างแน่นหนา แต่ก็ไม่สามารถทําได้

 

“เฉิงเยี่ย… ตอนนี้แม่ถูกมัดอยู่ จะช่วยเจ้าได้อย่างไร?”

 

เฉินเฉิงเยี่ยเห็นว่าแม่ของเขาตั้งใจจะช่วยเขาจึงรีบคลานไปหานางทันที

 

“แม่! ข้าต่อรองกับอีขี้ครอกว่าจะเขียนหลักฐานการก่อ อาชญากรรมให้นางเพื่อแลกกับการปล่อยตัวเราสองคน!”

 

หลินชวนฮวาถามด้วยความไม่เชื่อ “นางสารเลวนั่นจะใจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”

 

“นางทําเพื่อเฉินเฉิน แม้จะไม่เต็มใจแต่ในอนาคตหากเฉินเฉินเข้าโรงเรียน ชื่อเสียงของเขาจะมีความสําคัญเป็นอย่างมาก! จะไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเขาคือใครหรือเคยก่ออาชญากรรมร้ายแรงอย่างไร และจะทําให้ชีวิตของเด็กน้อยราบรื่นขึ้น!”

 

แววตาของหลินชวนฮวาเปล่งประกายทันที “หากเป็นเช่นนั้นนางก็ต้องจ่ายส่วยให้เราเป็นการตอบแทน… ไปเอาเงินกับนางกันเถิด!”

 

เฉินเฉิงเยี่ยมองมารดาผู้โง่เขลาพลางถอนหายใจ “การที่นางประนีประนอมให้เราขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว! หากเราขอมากเกินไปนางอาจไม่พอใจได้! อีกอย่างนางสามารถหาครอบครัวอื่นที่จะอุปถัมภ์และลงนามเป็นแม่บุญธรรมของเฉินเฉินได้! การทําเช่นนั้นคงจะดีกว่า!”

 

“ท่านแม่ นี่เป็นทางออกเดียวสําหรับเราสองคน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 128 ยอมถอย

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 128 ยอมถอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 128 ยอมถอย

 

“เช่นนั้นงั้นหรือ… แล้วต้องทําเช่นไรนางจึงจะยอมร่างจดหมายนั้น?”

 

เฉินเฉิงเยี่ยพยายามระงับความตื่นเต้นพร้อมเผยสีหน้า เกลียดชังออก “ ง่ายดายยิ่ง แค่เจ้าปล่อยข้ากับแม่ไป.. แล้วข้าจะกลับไปเรียนหนังสือเพื่อสอบเป็นขุนนางให้ได้ วันหนึ่งเมื่อข้าทําสําเร็จ เจ้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผู้ใดเรียกร้องหาผลประโยชน์จากเฉินเฉิน!”

 

“สําหรับเย่วชิงไฉ… เขาเป็นฆาตกรจึงต้องชดใช้และรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด เพราะหากพ้นโทษออกไปในอนาคต ข้าไม่ต้องการให้ใครเรียกหาข้าว่าลูกชายฆาตกรแหกคุก!”

 

เพราะเฉินเฉิงเยี่ยเป็นคนเห็นแก่ตัวและรักแม่มาก เช่นนั้นแล้วจึงไม่น่าแปลกใจหากเขาจะละทิ้งผู้เป็นพ่อได้อย่างง่ายดาย!

 

“หืม นั่นคือบิดาผู้ให้กําเนิด.. เจ้าแน่ใจแล้วหรือ?”

 

เฉินเฉิงเยี่ยเริ่มใส่อารมณ์ “ข้าแน่ใจ! เมื่อยังเยาว์ ข้าเกือบจะมีอนาคตที่สดใส แต่เขากลับทิ้งภรรยาซึ่งกําลังตั้งครรภ์และไปซื้อบริการโสเภณี ก่อนจะพลั้งมือฆ่านางโดยไม่ ตั้งใจ แม่ของข้าทุกข์ใจมาก จึงต้องมาแต่งงานกับเฉินผิงอันเพื่อข้า!”

 

“ทั้งหมดเป็นเพราะเขา ชีวิตที่ราบรื่นของข้าถูกทําลายโดยเขา! เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้านของเฉินผิงอัน ข้าเองก็เกลียดเขาไม่น้อยเพราะเขาทั้งกดขี่และข่มเหงแม่! แต่เมื่อข้ากําลังจะได้สอบขุนนางในปีหน้า เย่วชิวไฉกลับโผล่มา! ความลับของข้าที่ปกปิดมาโดยตลอดถูกเปิดเผยและทุกคนต่างหัวเราะเยาะข้าอีกครั้ง!”

 

“เช่นนี้แล้วเจ้าจะบอกว่าข้าไม่ควรเกลียดเขาอย่างนั้นหรือ? จริงอยู่ที่เขาเป็นพ่อผู้ให้กําเนิด ทว่าตั้งแต่ที่ข้าเกิดมาเขาก็เอาแต่ใช้ชีวิตในซ่องกับหญิงโสเภณีและไม่สนใจข้าเลย! เช่นนี้แล้วเหตุใดข้าต้องสนใจพ่อเช่นนี้ด้วย?”

 

หยุนเถียนเถียนยิ้ม “เย่วชิวไฉก่ออาชญากรรมร้ายแรง ต่อให้ข้าจะอยากปล่อยเขาไปแต่พวกเจ้าคงไม่ยอมเป็นแน่! และแม้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปโดยไม่ให้เจ้าหน้าที่สอบสวน แต่เฉินผิงอันจะเห็นด้วยหรือไม่นั้นข้าคงรับรองไม่ได้”

 

“เฉินผิงอันเป็นคนขี้ขลาด เขาไม่กล้าแม้แต่จะไปสํานักราชการ นับประสาอะไรกับยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้พิพากษา! หากได้พบหน้าเย่วชิงไฉและแม่ของข้าอย่างมากที่สุด เขาก็ทําได้เพียงแสดงอาการไม่พอใจ เขาไม่เหมือนกับเจ้า เช่นนั้นแล้วชีวิตและความตายของข้าแขวนอยู่ในมือของเจ้าเพียงผู้เดียว!”

 

หยุนเถียนเถียนไม่ได้ถามอะไรต่อ แม้จะเคยถูกเฉินเฉิงเยี่ยรังแก แต่นั่นก็เป็นเถียนเถียนคนก่อนไม่ใช่นาง สําหรับหยุนเถียนเถียนคนปัจจุบันนั้นเปี่ยมไปด้วยความยุ ติธรรม แม้จะรู้สึกไม่สบายใจก็ตาม… ยิ่งไปกว่านั้น เงื่อนไขที่เขาเสนอมาก็น่าสนใจไม่น้อย!

 

“เอาล่ะ รุ่งสางของวันพรุ่งนี้ข้าต้องได้จดหมายการก่ออาชญากรรมจากแม่ของเจ้า หากอ่านดูแล้วรู้สึกพอใจก็จะปล่อยพวกเจ้าไป! แต่หากยังรู้สึกไม่พอใจก็อย่าได้กล่าวโทษข้า เพราะสําหรับขุนนางเช่นเจ้าการเขียนหลักฐานพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร! อ้อ พวกเจ้าจะต้องเขียนหนังสือโอนที่ดินคืนให้ข้าด้วย!”

 

หยุนเถียนเถียนหันหลังกลับและจากไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะทั้งหมดนี้ล้วนแต่ส่งผลดีกับตัวนาง

 

สําหรับเฉินเฉิน จะเกิดอะไรขึ้นหากพบว่าแม่ผู้ใจร้ายของเขาถูกทิ้งไว้ด้านหลัง? แต่ด้วยหลักฐานที่มีในมือย่อมไม่ใช่ปัญหาอะไร!

 

สิ่งที่สําคัญที่สุดคือในยุคนี้ผู้คนมักเชื่อในการอุปทานหมู่ ดังนั้นเพียงแค่หยุนเถียนเถียนใช้หลักฐานนี้ในการจูงใจชาวบ้าน ก็จะทําให้พวกเขาเชื่อและคิดว่าทุกอย่างสมเหตุสมผล!

 

เช่นนั้นแล้วหยุนเถียนเถียนจึงตอบตกลงกับเฉินเฉิงเยี่ยไป เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครยอมให้บ้านถูกไฟไหม้โดนเปล่าประโยชน์!

 

หยุนเทียนเถียนขอให้คนส่งกระดาษ ปากกาและหมึกให้เฉินเฉิงเยี่ย ก่อนจะสั่งให้เจ้าหน้าที่คุ้มกันปลดเชือกของเขาออกเพื่อให้เขียนได้สะดวก

 

จริงอยู่ที่เฉินเฉิงเยี่ยเป็นนักปราชญ์แต่เขาก็ไม่สามารถลักไก่หลบหนี้ได้ เพราะเจ้าหน้าที่คุ้มกันได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจึงไม่มีทางที่เขาจะหนี!

 

เฉินเฉิงเยี่ยใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการเขียนจดหมาย และเตรียมหลักฐานทางอาญาต่าง ๆ มากมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่คุ้มกันทั้งสองคนก็มัดมือเขาอีกครั้ง ก่อนจะส่ง หลักฐานให้หลินชวนฮวาประทับลายนิ้วมือ

 

เมื่อหลินชวนฮวาเห็นว่าลูกชายของตนถูกกระทําจึงพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นช่วยเขา แต่เพราะถูกมัดอยู่นางจึงไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะทําอะไร

 

“เฉิงเยี่ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

 

เดิมที่เฉินเฉิงเยี่ยเป็นห่วงและต้องการปกป้องแม่เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นสิ่งที่นางทําในตอนนี้เขาก็แสยะยิ้มออกมาอย่างประชดประชัน!

 

“แม่คิดถึงแต่ฆาตกรผู้นั้นไม่ใช่หรือ? ยังห่วงใยและรักลูกชายเช่นข้าด้วยหรือไร?!”

 

หลินชวนฮวาร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด “เฉิงเยี่ย… เจ้าคิดว่าแม่ไม่รักได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะทําเพื่อเจ้า แม่จะแต่งงานกับคนเช่นเฉินผิงอันและยอมให้เขาทารุณเพื่อสิ่งใด?! ทุกอย่างที่แม่ทําก็เพื่อเจ้า!”

 

“ทําเพื่อข้างั้นหรือ? แม่ทําเพื่อตนเองและชายผู้นี้ที่ท่านรักมากกว่า! หากจะบอกว่าทําเพื่อลูก ในตอนที่ข้ากําลังมีอนาคตที่สดใส เหตุใดแม่จึงไปคบชู้กับชายผู้นั้น?! ข้ากําลังจะได้เป็นขุนนาง แต่กลับโดนทําลายจนหมดสิ้น!”

 

เฉินเฉิงเยี่ยกล่าวออกอย่างเจ็บปวดพร้อมกับน้ําตาคลอเบ้า

 

หลินชวนฮวารู้สึกผิดและคิดว่าหากไม่ใช่เพราะความโลภของนางที่อยากได้เงินของเฉินผิงอัน หรือความแค้นที่มีต่อหยุนเถียนเถียนจนทําไปสู่การก่ออาชญากรรม ลูกชายของนางคงไม่ได้รับผลกระทบเช่นนี้

 

“เฉิงเยี่ย”

 

จู่ ๆ เฉินเฉิงเยี่ยก็ตั้งสติได้และนึกถึงสิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้

 

“ท่านแม่! หากข้าขอร้องท่านครานี้ ท่านจะช่วยลูกชายของท่านหรือไม่?”

 

หลินชวนฮวาพยายามดิ้นรนออกจากพันธนาการที่ผูกมัดอย่างแน่นหนา แต่ก็ไม่สามารถทําได้

 

“เฉิงเยี่ย… ตอนนี้แม่ถูกมัดอยู่ จะช่วยเจ้าได้อย่างไร?”

 

เฉินเฉิงเยี่ยเห็นว่าแม่ของเขาตั้งใจจะช่วยเขาจึงรีบคลานไปหานางทันที

 

“แม่! ข้าต่อรองกับอีขี้ครอกว่าจะเขียนหลักฐานการก่อ อาชญากรรมให้นางเพื่อแลกกับการปล่อยตัวเราสองคน!”

 

หลินชวนฮวาถามด้วยความไม่เชื่อ “นางสารเลวนั่นจะใจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”

 

“นางทําเพื่อเฉินเฉิน แม้จะไม่เต็มใจแต่ในอนาคตหากเฉินเฉินเข้าโรงเรียน ชื่อเสียงของเขาจะมีความสําคัญเป็นอย่างมาก! จะไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเขาคือใครหรือเคยก่ออาชญากรรมร้ายแรงอย่างไร และจะทําให้ชีวิตของเด็กน้อยราบรื่นขึ้น!”

 

แววตาของหลินชวนฮวาเปล่งประกายทันที “หากเป็นเช่นนั้นนางก็ต้องจ่ายส่วยให้เราเป็นการตอบแทน… ไปเอาเงินกับนางกันเถิด!”

 

เฉินเฉิงเยี่ยมองมารดาผู้โง่เขลาพลางถอนหายใจ “การที่นางประนีประนอมให้เราขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว! หากเราขอมากเกินไปนางอาจไม่พอใจได้! อีกอย่างนางสามารถหาครอบครัวอื่นที่จะอุปถัมภ์และลงนามเป็นแม่บุญธรรมของเฉินเฉินได้! การทําเช่นนั้นคงจะดีกว่า!”

 

“ท่านแม่ นี่เป็นทางออกเดียวสําหรับเราสองคน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+