จอมนักรบท้าโลก 829 บุญคุณอันใหญ่หลวง

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 829 บุญคุณอันใหญ่หลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากยืนนิ่งอยู่สักพัก โหวหยังไม่รู้จะพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงกล่าวลากับเจียงชื่อ

“คือว่า วันนี้ผมตั้งใจจะมาขอบคุณคุณนะครับ”

“ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เจียงชื่อนั่งเงียบๆ บนเก้าอี้ จากนั้นเงยหน้าเล็กน้อยแล้วมองไปที่โหวหยัง

ชายตรงหน้าคนนี้ดูเศร้าเหลือเกิน

ก่อนที่โหวหยังจะเดินออกไปจากประตูออฟฟิศ เจียงชื่อก็หยุดเขาไว้ “รอก่อน”

โหวหยังหยุดเดินแล้วหันกลับมา “หืม? คุณเจียงมีอะไรเหรอครับ?”

เจียงชื่อมองไปที่เขาแล้วพูดว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด ครั้งก่อนคุณมาหาผมก็เพื่อจะเซ็นสัญญาไม่ใช่เหรอ?”

โหวหยังยิ้มอย่างขมขื่น

“คุณเจียงอย่าล้อเลียนผมเลยครับ”

“ผมรู้สึกผิดมาก ไม่มีหน้ามาขอเซ็นสัญญากับคุณอีกแล้วครับ”

“อีกอย่าง ตอนนี้ผมถูกเครื่องประดับม่อเป่ยไล่ออกแล้ว ต่อจากนี้ผมคงอยู่ในวงการอาชีพนี้ไม่ได้แล้วครับ ดังนั้น ผมจะเซ็นสัญญาอะไรกับคุณอีก?”

เจียงชื่อพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้คุณไปบอกกับประธานบริษัทเครื่องประดับม่อเป่ยซูชิ่งเลี่ยงที เจียงชื่อคนนี้จะเซ็นสัญญากับเขาใหม่ แล้วราคาทุกอย่างยังคงเท่าเดิม ไม่เปลี่ยน”

“หา?” โหวหยังถึงกับตะลึงงันและไม่เข้าใจว่าเจียงชื่อคิดจะมาไม้ไหนอีก

“แต่ว่า ผมมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง” เจียงชื่อพูด

โหวหยังถามว่า “เงื่อนไขอะไรครับ?”

การที่เจียงชื่อยอมถอยขนาดนี้ แค่คิดก็รู้ว่าเงื่อนไขต้องสูงอย่างแน่นอน แต่ด้วยความจริงนั้น ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับโหวหยังอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ใช่คนของเครื่องประดับม่อเป่ยอีก

เจียงชื่อเงียบไปสักพักแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณกลับไปบอกเขานะ เจียงชื่อจะเซ็นสัญญากับโหวหยัง ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเครื่องประดับม่อเป่ยคนเดียวเท่านั้น ถ้าให้คนอื่นมา ผมจะไม่เซ็น”

หือ!!!

ทันใดนั้น น้ำตาของโหวหยังก็ร่วงหล่นลงมา

ในขณะนี้ เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต็มไปด้วยแสงแดด และเจียงชื่อก็คือดวงอาทิตย์ที่อบอุ่นนั้น ทำให้น้ำแข็งที่เย็นเยือกในหัวใจเขาละลายลง

ยอมเซ็นสัญญากับโหวหยัง ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเครื่องประดับม่อเป่ยเพียงคนเดียว

ประโยคนี้คือการหาทางออกให้กับโหวหยัง

ถ้าซูชิ่งเลี่ยงต้องการเซ็นสัญญากับเจียงชื่อและต้องการอยู่รอดต่อไปในอุตสาหกรรมเครื่องประดับนี้ เขารู้ดีว่าควรเลือกปฏิบัติอย่างไร

ซึ่งประโยคนี้ของเจียงชื่อก็เหมือนการโยนเชือกให้กับโหวหยังที่กำลังติดอยู่ในบ่อโคลนและช่วยเขาออกมา

“ขอบคุณ ขอบคุณครับ!”

โหวหยังซาบซึ้งใจจนหยุดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

จนกระทั่งตอนนี้ เขาถึงรู้ว่าเจียงชื่อเป็นคนดีแค่ไหน เขารู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของเขามา เขาเคยคิดว่าเจียงชื่อจะทำลายอาชีพการงานของเขา เหอะๆ เขาต่างหากที่เอาจิตใจคับแคบของตนไปวัดกับคนที่มีจิตใจกว้างขวาง

ในขณะนี้ เจียงชื่อสำหรับโหวหยังแล้วก็เหมือนนักบุญคนหนึ่ง!

ขาของเขาอ่อนแรงและเขากำลังจะคุกเข่าลง

แต่เจียงชื่อพูดอย่างเด็ดขาดว่า “ผมไม่ชอบผู้ชายอ่อนแอ คุณกลับไปเถอะ”

และประโยคนี้ก็ได้รักษาศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของโหวหยัง

เพราะใต้หัวเข่าของผู้ชายนั้นก็คือศักดิ์ศรี

คุณ ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า

โหวหยังพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร จากนั้นปาดน้ำตาแล้วหันเดินจากไป

เขารู้ว่าถึงพูดให้มากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะบุญคุณของเจียงชื่อนั้นมันกว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร มันไม่สามารถจะตอบแทนได้ด้วยคำ ‘ขอบคุณ’ เท่านั้น

และบุญคุณอันใหญ่หลวงนี้โหวหยังจะจดจำไว้ อนาคตเมื่อมีโอกาส เขาจะตอบแทนบุญคุณนี้อย่างแน่นอน!

หลังออกจากเครื่องประดับดาวฤกษ์ โหวหยังก็กลับไปที่เครื่องประดับม่อเป่ย และได้เข้าไปหาประธานบริษัทซูชิ่งเลี่ยงแล้วเล่าเรื่องของเจียงชื่อให้เขาฟัง

ซูชิ่งเลี่ยงเป็นคนฉลาด

ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าโหวหยังเกลี้ยกล่อมเจียงชื่อด้วยวิธีไหน แต่มันไม่สำคัญ ขอแค่เจียงชื่อยอมเซ็นสัญญากับเขาก็พอ

ดังนั้นซูชิ่งเลี่ยงจึงจ้างโหวหยังทำงานอีกครั้งโดยไม่ลังเล

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบท้าโลก 829 บุญคุณอันใหญ่หลวง

Now you are reading จอมนักรบท้าโลก Chapter 829 บุญคุณอันใหญ่หลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากยืนนิ่งอยู่สักพัก โหวหยังไม่รู้จะพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงกล่าวลากับเจียงชื่อ

“คือว่า วันนี้ผมตั้งใจจะมาขอบคุณคุณนะครับ”

“ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เจียงชื่อนั่งเงียบๆ บนเก้าอี้ จากนั้นเงยหน้าเล็กน้อยแล้วมองไปที่โหวหยัง

ชายตรงหน้าคนนี้ดูเศร้าเหลือเกิน

ก่อนที่โหวหยังจะเดินออกไปจากประตูออฟฟิศ เจียงชื่อก็หยุดเขาไว้ “รอก่อน”

โหวหยังหยุดเดินแล้วหันกลับมา “หืม? คุณเจียงมีอะไรเหรอครับ?”

เจียงชื่อมองไปที่เขาแล้วพูดว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด ครั้งก่อนคุณมาหาผมก็เพื่อจะเซ็นสัญญาไม่ใช่เหรอ?”

โหวหยังยิ้มอย่างขมขื่น

“คุณเจียงอย่าล้อเลียนผมเลยครับ”

“ผมรู้สึกผิดมาก ไม่มีหน้ามาขอเซ็นสัญญากับคุณอีกแล้วครับ”

“อีกอย่าง ตอนนี้ผมถูกเครื่องประดับม่อเป่ยไล่ออกแล้ว ต่อจากนี้ผมคงอยู่ในวงการอาชีพนี้ไม่ได้แล้วครับ ดังนั้น ผมจะเซ็นสัญญาอะไรกับคุณอีก?”

เจียงชื่อพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้คุณไปบอกกับประธานบริษัทเครื่องประดับม่อเป่ยซูชิ่งเลี่ยงที เจียงชื่อคนนี้จะเซ็นสัญญากับเขาใหม่ แล้วราคาทุกอย่างยังคงเท่าเดิม ไม่เปลี่ยน”

“หา?” โหวหยังถึงกับตะลึงงันและไม่เข้าใจว่าเจียงชื่อคิดจะมาไม้ไหนอีก

“แต่ว่า ผมมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง” เจียงชื่อพูด

โหวหยังถามว่า “เงื่อนไขอะไรครับ?”

การที่เจียงชื่อยอมถอยขนาดนี้ แค่คิดก็รู้ว่าเงื่อนไขต้องสูงอย่างแน่นอน แต่ด้วยความจริงนั้น ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับโหวหยังอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ใช่คนของเครื่องประดับม่อเป่ยอีก

เจียงชื่อเงียบไปสักพักแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณกลับไปบอกเขานะ เจียงชื่อจะเซ็นสัญญากับโหวหยัง ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเครื่องประดับม่อเป่ยคนเดียวเท่านั้น ถ้าให้คนอื่นมา ผมจะไม่เซ็น”

หือ!!!

ทันใดนั้น น้ำตาของโหวหยังก็ร่วงหล่นลงมา

ในขณะนี้ เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต็มไปด้วยแสงแดด และเจียงชื่อก็คือดวงอาทิตย์ที่อบอุ่นนั้น ทำให้น้ำแข็งที่เย็นเยือกในหัวใจเขาละลายลง

ยอมเซ็นสัญญากับโหวหยัง ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเครื่องประดับม่อเป่ยเพียงคนเดียว

ประโยคนี้คือการหาทางออกให้กับโหวหยัง

ถ้าซูชิ่งเลี่ยงต้องการเซ็นสัญญากับเจียงชื่อและต้องการอยู่รอดต่อไปในอุตสาหกรรมเครื่องประดับนี้ เขารู้ดีว่าควรเลือกปฏิบัติอย่างไร

ซึ่งประโยคนี้ของเจียงชื่อก็เหมือนการโยนเชือกให้กับโหวหยังที่กำลังติดอยู่ในบ่อโคลนและช่วยเขาออกมา

“ขอบคุณ ขอบคุณครับ!”

โหวหยังซาบซึ้งใจจนหยุดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

จนกระทั่งตอนนี้ เขาถึงรู้ว่าเจียงชื่อเป็นคนดีแค่ไหน เขารู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของเขามา เขาเคยคิดว่าเจียงชื่อจะทำลายอาชีพการงานของเขา เหอะๆ เขาต่างหากที่เอาจิตใจคับแคบของตนไปวัดกับคนที่มีจิตใจกว้างขวาง

ในขณะนี้ เจียงชื่อสำหรับโหวหยังแล้วก็เหมือนนักบุญคนหนึ่ง!

ขาของเขาอ่อนแรงและเขากำลังจะคุกเข่าลง

แต่เจียงชื่อพูดอย่างเด็ดขาดว่า “ผมไม่ชอบผู้ชายอ่อนแอ คุณกลับไปเถอะ”

และประโยคนี้ก็ได้รักษาศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของโหวหยัง

เพราะใต้หัวเข่าของผู้ชายนั้นก็คือศักดิ์ศรี

คุณ ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า

โหวหยังพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร จากนั้นปาดน้ำตาแล้วหันเดินจากไป

เขารู้ว่าถึงพูดให้มากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะบุญคุณของเจียงชื่อนั้นมันกว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร มันไม่สามารถจะตอบแทนได้ด้วยคำ ‘ขอบคุณ’ เท่านั้น

และบุญคุณอันใหญ่หลวงนี้โหวหยังจะจดจำไว้ อนาคตเมื่อมีโอกาส เขาจะตอบแทนบุญคุณนี้อย่างแน่นอน!

หลังออกจากเครื่องประดับดาวฤกษ์ โหวหยังก็กลับไปที่เครื่องประดับม่อเป่ย และได้เข้าไปหาประธานบริษัทซูชิ่งเลี่ยงแล้วเล่าเรื่องของเจียงชื่อให้เขาฟัง

ซูชิ่งเลี่ยงเป็นคนฉลาด

ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าโหวหยังเกลี้ยกล่อมเจียงชื่อด้วยวิธีไหน แต่มันไม่สำคัญ ขอแค่เจียงชื่อยอมเซ็นสัญญากับเขาก็พอ

ดังนั้นซูชิ่งเลี่ยงจึงจ้างโหวหยังทำงานอีกครั้งโดยไม่ลังเล

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+