Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 333 หลิวหรูเยวที่จะเป็น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 333 หลิวหรูเยวที่จะเป็น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 333 หลิวหรูเยวที่จะเป็น

“นี่มีทั้งฟมดสามหมื่นแต้มสะสม โปรดนับ” พนักงานกล่าวด้วยอย่างอิจฉาแม้ว่าเขาจะทํางานอยู่ที่โถงคุณความชอบมาหลายปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนได้รับแต้มสะสมมากมายขนาดนี้ในครั้งเดียว

เซียวเฉินรับมาและกล่าวขอบคุณ หลังจากนั้น

ผู้ดูแลที่อยู่ด้านหลังของเขาก็กล่าวขึ้น “เย่เฉิน,ผู้อาวุโสหนึ่งกล่าว่าให้หาเวลาไปพบเขาหลังจากที่เจ้ากลับมา”

เซี่ยวเฉินหยุดมือและหันกลับไป เขาถามขึ้น “เร่งด่วยหรือไม่?”

ผู้ดูแลคนนั้นกล่าว “ก็ไม่เชิง เขาสั่งข้าให้บอกให้ไปหาในตอนที่เจ้ามีเวลา หากเจ้ายังไม่พร้อม,เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”

ขณะที่ผู้ดูแลคนนั้นกล่าว,เขามองไปที่เซียวเฉินด้วยความอิจฉา ทุกคนรู้ว่าผู้อาวุโสหนึ่งคือผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจที่แท้จริงของศาลากระบี่สวรรค์

ผู้ดูแลคนนี้ไม่เคยเห็นว่าผู้อาวุโสหนึ่งจะมีอัธยาศัยเช่นนี้มาก่อน เขาสามารถกล่าวได้เพียงว่าศักยภาพของเซียวเฉินถูกมองเอาไว้สูง

เซี่ยวเฉินพยักหน้าเบาๆและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เขาสามารถเดาได้ไม่มากก็นายว่าทําไมผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อถึงได้มองหาเขาในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน,เช่นนั้นเขาก็พักมันเอาไว้ก่อ นในตอนนี้

หลังจากที่เซี่ยวเฉินส่งภารกิจเสร็จ,เขามุ่งหน้าไปที่ยอดเขาจึงหยุนในทันที ในทั่วทั้งศาลากระบี่สวรรค์, ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่เดียวที่เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ว่าเป็นบ้าน

ขณะที่เซียวเฉินค่อยๆก้าวขึ้นบันไดของยอดเขาจึงหยุน,เขามองไปยังฉากรอบตัวที่คุ้นเคยเขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาเป็นเวลานาน

เมื่อเสี่ยวไป,ผู้ที่กําลังรออยู่ในหยกวิญญาณสีเลือด,รู้สึกถึงสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย,มันกระโดดอกมาทันที มันกระโดดขึ้นมาบนไหล่ของเซี่ยวเฉินและยืดแขนขาทั้งสี่ข้างของมัน;มันดูน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ

“พี่ใหญ่เย่เฉิน,ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ช่าวหยางและเสี่ยวเมิง,ผู้ที่กําลังเตรียมตัวจะลงจากยอดเขา, ทันใดนั้นก็เห็นตัวเซียวเฉิน พวกเขาวิ่งเข้ามาอย่างยินดี

เสี่ยวไปก็สนิทสนมกับช่าวหยางและเสี่ยวเมิง ในตอนที่มันเห็นพวกเขาทั้งสอง,มันก็ลุกยืนขึ้นบนไหล่ของเขาและส่งเสียง ยี่ ย่า ยีย่า” ทักทายพวกเขา

นี่ทําให้พวกเขาทั้งสองต่างหัวเราะขบขัน เซี่ยวเฉินอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้และอุ้มเสียวไปิลงวางกับพื้นเขาพยักหน้าและกล่าว“ข้าเพิ่งจะมาถึงอาการบาดเจ็บของพี่สาวหรูเยว่เป็นเช่นไรบ้างแล้ว?”

เสี่ยวเพิ่งกําลังเล่นอยู่กับเสี่ยวไป,เมื่อนางได้ยินคําถามของเซี่ยวเฉิน,นางมองขึ้นมาและยิ้ม “เจ้าจะรู้เองในตอนที่เจ้าไปดูด้วยตัวเอง เจ้าจะต้องประหลาดใจตอนนี้ช่าวหยางและข้าต้องลง จากภูเขา”

จากน้ําเสียงของเสี่ยวเพิ่ง,ดูเหมือนว่าอาการเส้นปราณบาดเจ็บของหลิวหรูเยวจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินสังสัยอย่างยิ่งตรงที่บอกว่าเจ้าจะต้แงประหลาดใจ

ช่าวหยาง,ผู้ที่กําลังยืนอยู่ด้านขาง,ยิ้มและกล่าวขึ้น “พี่ใหญ่เย่เฉิน,เจ้าควรไปได้แล้วในตอนลที่พี่สาวหรเยว่พบเจ้า,นางจะต้องมีความสุขเป็นอย่างมากแน่นอนนางอยู่ที่ลานฝึกฝนในตลอดสองสามวันที่ผ่านมา”

เซี่ยวเฉินพยักหน้าเบาๆและกล่าวลากับทั้งสอง จากนั้นเขาก็เพิ่มความเร็วและเคลื่อนที่มุ่งหน้าไปยังลานใกฝนอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะได้เข้าใกล้ลานฝึกฝน,เขาสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่แข็งแกร่งนอกจากนี้ย,เขายังคุ้นเคยกับกระแสพลังนี้

เซียวเฉินหยุดเท้าลงที่ด้านนอกของลานฝึกฝนและพึมพํา “นี่คือกระแสพลังของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ นอกจากนั้น มันยังบริสุทธิ์ถึงขีดสุด หรือพี่สาวหรูเยวจะทะลวงขอบเขตพลัง?”

ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ก็เพียงเพียงเส้นบางๆที่กั้นหรูเยว่กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ตอนนี้นางถูกฟื้นฟูโดยบุปผาสกัดเย็น,นางน่าจะทําการทะลวงระดับพลัง

นอกจากนั้นประสบการณ์นี้จะผลักดันให้นางขึ้นสู่ยอดสุดของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้น ต้นโดยตรง แม้แต่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธบางคนก็ไม่ใช่คู่มือของนาง

เป็นเวลานานมากแล้ว,หนึ่งในเหตุผลที่ไม่มีผู้ใดยินดีที่จะเข้ามร่วมยอดเขาฉิงหยุนเป็นเพราะไม่มีระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธค่อยอุ้มชูมันเอาไว้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว

เซี่ยวเฉินรู้สึกยินดีอยู่ในใจ เขารีบก้าวเข้ามาในลานฝึกฝนอย่างรวดเร็ว

“บูม! บูม! บูม!”

ภายในลายฝึกฝน,คลื่นพลังงานระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลิวสุยเฟิงและหลิวหรูเยว่กําลังแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากัน อย่างไรก็ตาม,หลิวสุยเฟิงดูเหมือนเขาจะต้องอยู่ในสภาพน่าสมเพช หากกล่าวให้ดีหน่อย,เขาเหมือนจะยิ่งกว่าเป็นกระสอบทราย

“พี่สาว,ไม่จําเป็นต้องหนักมือถึงเพียงนี้ ข้าเป็นพี่น้องเจ้านะ!” หลิวสุยเฟิงอ้อนวอนขณะที่เขากําลังหลบเลี่ยงการโจมตีของหลิวหรูเยว่

หลิวหรูเยว่กล่าวอย่างเยือกเย็น “หากหยอกไม่ถูกเจียระไน,มันก็ไร้ประโยชน์หากเจ้าอดทนเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่ได้,ข้าจะมอบยอดเขาจึงหยุนให้กับเจ้าในอนาคตได้เช่นไร?”

หลิวหรูเยว่กวัดแกว่งผักกระบี่ของนางและปัดกระบี่ของหลิวสุยเฟิง ฝึกกระบี่ปาดเข้าที่ข้อมือ ของหลิวสุยเฟิงอย่างแรง,ทําให้เขาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ทันใดนั้น,หลิวสุยเฟิงก็เหลือบไปเห็นเซี่ยวเฉินที่ยืนอยู่ด้านนอก ดวงตาของเขาเป็นประกายพร้อมกับร้องขึ้น“พี่สาว,เย่เฉินมาแล้ว เจ้าหยุดมือได้แล้ว”

หลิวหรูเยวยิ้มบางเบาและซัดเข้าที่หน้าอกของหลิวสุยเฟิง “เจ้าใช้ลูกไม้นี้กับข้าอีกแล้วพยายามจะหาจังหวะ…ไร้ประโยชน์”

เป็นเป็นบ้า,หลิวสุยเฟิงไม่อาจทนได้ เขากระแอมออกมาสองสามครั้งและกล่าว “พี่สาว,ครั้งนี้ เรื่องจริง มองไปด้านนอก!”

แม้ว่าหลิวหรูเยวจะไม่เชื่อ,แต่นางก็อดที่จะหันไปดูไม่ได้นางมองเห็นเซียวเฉินที่กําลังยืนนิ่งอยู่ที่ด้านนอกในทันที การเคลื่อนไหวมือของนางหยุดลงในทันที

หลิวสยเพิ่งใช้จังหวะนี้ผละตัวออกจากการต่อสู้,วิ่งตรงไปที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว

“เย่เฉิน ในที่สุดเจ้าก็กลับมา หากเจ้ากลับมาช้ากว่านี้บางทีพี่สาวอาจจะทุบตีข้าจนตาย”หลิวสยเฟิงกล่าวอย่างขมขึ้นและตบลงไปที่บ่าของเซียวเฉิน

เซียวเฉินถูกผลักถอยหลังไปสามก้าวโดยฝ่ามือของหลิวสุยเฟิงนี่แสดงให้เห็นว่าเขากระตือรือร้นแค่ไหนเซี่ยวเฉินทรงตัวและกล่าวยิ้มๆ“เจ้าน่าจะจัดการฉลงแทน ดูส,ความแข็งแกร่งของ เจ้าพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน

หลิวสุยเฟิงยิ้มอย่างอับอายและกล่าวอย่างมีเลศนัย “ก็งั้นงั้น ข้ายังห่างไกลเมื่อเทียบกับเจ้าข้าขอตัวก่อน,เจ้าจะต้องประหลาดใจ”

เซี่ยวเฉินรู้สึกแปลก,ทําไมทุกคนพูดถึงแต่เจ้าจะต้องประหลาดใจ? ประหลาดใจอะไรกัน?

หลิวหรูเยว่กระโดดเบาๆลงมาจากเวทีในลานฝึกฝน ชุดคลุมรัดรูปสีแดงของนางแนบติดกับรูปร่างอะนเย้ายวนพร้อมกับนางเดินตรงมาทางเซี่ยวเฉินอย่างไม่เร่งรีบ

ใบหน้าอันสง่างามของหลิวหรูเยวมีความขวยเขิน นางมีสีหน้ากังวลใจ แต่อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่านางจะได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้วขณะที่นางเดินมาทางเซียวเฉิน

ก่อนที่เซียวเฉินจะได้ทันตั้งตัว ริมฝีปากอ่อนนุ่มของหลิวหรูเยว่ก็จบลงที่ด้านข้างปากของเขาอย่างนวดเร็ว ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว,ราวกับแมลงปอสัมผัสผิวน้ํา

ที่ด้านนอกลานฝึกฝน,หลิวสุยเฟิง,ช่าวหยางและเสี่ยวเพิ่ง,เหล่าผู้ทําทีท่าว่าจากออกไปแล้ว,ได้มารวมตัวกันตรงนี้ พวกเขามองดูฉากที่กําลังเกิดขึ้นโดยไม่กระพริบตา

“ฮ่าฮ่า, พี่สาวของข้าช่างกล้า อย่างไรก็ตาม,นางก็ทําอย่างที่นางได้กล่าวเอาไว้!ข้าชอบ!” หลิ วสุยฟังหัวเราะอยู่ด้านข้าง

เสียวเพิ่งหัวเราะคิกคักและกล่าว “อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนางจะไม่มีประสบการณ์อะไรเลยนั้นมันเป็นแค่จุบเบาๆและไม่มีอะไรอื่น”

ช่าวหยางหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า! นางจะไปมีประสบการณ์ได้อย่างไร? นี่เป็นครั้งแรกของนางในครั้งแรกของนาง,เยู่เฉินต้องเป็นคนนํา พวกเราควรไปได้แล้วมิฉะนั้น,เดียวพี่สาวหรูเยว่จะมาไล่ฆ่าพวกเรา”

เสี่ยวไป,ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาทั้งสาม,กําลังจ้องมองไปยังสองคนที่อยู่ในลานฝึกฝนดวงตาของมันเต็มไปด้วยความรุนงง

ในตอนที่ช่าวหยางกล่าวจบ,หลิวสุยเฟิงและเสี่ยวเพิ่งก็ขยับ เสี่ยวเพิ่งอุ้มเสี่ยวไปที่กําลังจุนงงขึ้นมาและรีบวิ่งออกไป

หรือนี่จะคือที่ว่าเจ้าจะต้องประหลาดใจ? เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของเขาแดงขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ใช้ครั้งแรกที่เขาจุบหลิวหรูเยว่แต่เขาไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร

ครั้งแรกโดนอ่าวเจียวควบคุมร่างอยู่เพื่อใครลืมครับ

ในตอนก่อนหน้านี้,พวกเขาทั้งสองเป็นฝ่ายที่ไม่ได้ทําอะไรเลย มันต่างออกไปจากครั้งนี้ ในครั้งนี้ หลิวหรูเยว่เป็นคนเริ่มเข้าหาก่อน

เกิดละลอกคลื่นในหัวใจของเขาที่ปกติจะไม่ไหวนิ่ง เซียวเฉินกล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก“พี่สาวหรูเยว่,เจ้าทําอะไร?”

ในตอนที่หลิวหรูเยว่เห็นเซี่ยวเฉินที่เขินอายอย่างมาก,สิหน้าที่ขวยเขินของนางก็ยิ่งเตลิดนางหัวเราะเสียงดังและกล่าว “นี่เป็นรางวัลแก่เจ้า ขอบคุณสําหรับบุปผาสกัดเอ็นของเจ้าหากไม่ใช่ เพราะบุปผาสกัดเอ็น,ข้าก็ยังคงพิการถึงวันนี้ข้าจะไม่สามารถทะลวงขึ้นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ”

นี่เป็นเพียงแค่การขอบคุณ? เซียวเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ เขากล่าวเสียงเบา “ข้าก็คาดไม่ถึงเช่นกัน มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ข้าได้บปผาสกัดเอ็นดอกนั้นมา”

เจ้าหมอนี้ไม่มีไหวพริบเอาเสียเลย,หลิวหรูเยว่ครุ่นคิดรันทด ไม่เป็นไร,ความหัวทึบของเขาคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

หลิวหรูเยว่กุมมือของเซียวเฉินและกล่าวเสียงเบาๆ “อย่างเพิ่งกล่าวอะไร ให้ข้าพาเจ้าไปดูอะไรก่อน”

เซี่ยวเฉินตามนางไปอย่างไคลรู้ พวกเขาเดินไปที่มุมของพื้นที่ลานฝึกฝนและหลิวหรูเยว่ก็ปล่อยมือของเซี่ยวเฉิน นางกล่าว “นี่ไง,ลองดูสิ”

มีกระบี่มากมายปักอยู่บนพื้น กระบี่พวกนี้มีกระแสพลังโบราณไหลออกมา กระบี่นับพันถูกจัดเรียงเป็นค่ายกลที่ลึกล้ําและซับซ้อน

กระแสพลังโบราณของกระบี่พวกนี้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เมื่อเซี่ยวเฉินยืนอยู่ข้างหน้าและหลับตาลงเพื่อสัมผัสถึงมัน,กองทัพขนาดหมื่นม้าพันคนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาฉีฆ่าฟันของพวกเขาพลุ่งพล่าน,ไหลเข้ามาที่เขา

ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!

บัลลังก์สีแดงที่ระหว่างคิ้วของเขาสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและกล่าวอย่างตกตะลึง “นี่มันค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณขนาดย่อย อย่างไรก็ตาม,ทําไมข้ารู้สึกว่ามันแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อน?กระแสพลังโลราณหนาแน่นขึ้น”

“ฉีฆ่าฟันที่บรรจุอยู่ภายในพวกมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อก่อนหน้านี้”

หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มพึงพอใจ นางกล่าว “เจ้าคาดเดาถูกแล้ว กระบี่แต่ละเล่มในที่นี้มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งพันปีพวกมันเป็นอาวุธโบราณอย่างแท้จริงการก่อตัวของค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณในครั้งนี้จะช่วยให้เจ้าเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันอย่างแน่นอน”

เซี่ยวเฉินรู้สึกยินดีอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ในใจ สําหรับหลิวหรูเยวที่รวบรวมกระบโบราณมาได้มากมายเช่นนี้ย,นางจะต้องพยายามอย่างมาก

เซียวเฉินรู้จากหลิวสุยเฟิงว่าหลิวหรูเยว่ต้องติดหนี้ลู่เฉินอย่างมากในตอนที่นางหยิบยืมกระบี่โบราณมาในครั้งก่อนในตอนนี้,นางได้รับอาวุธโบราณมากมายที่ล้ําค่ายิ่งขึ้นไปอีก,ราคาที่นางจ่ายไปจะต้องสูงขึ้นไปอีก
อันที่จริง,หลิวหรเยวรู้ว่าในตอนที่เซียวเฉินเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและส่สารกับมัน.นั้นจะเป็นสัญญาณว่าเขาจะออกจากยอดเขาฉิงหยุน

ถึงกระนั้น,หลิวหรเยว่ก็ช่วยเหลือเขาโดยไม่ได้ขออะไรตอบแทน เซียวเฉินรู้สึกว่ามันยากที่จะรับเอาไว้ เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างจริงใจ “หรูเยว่,ขอบคุณข้าสัญญากับเจ้า,ไม่ว่าอะไร,ข้าจะคว้าอันดับสูงสุดในสงครามการจัดอันดับศิษย์ชั้นในของสิ้นปีนี้”

สงครามจัดอันดับสิ้นปี…นี่จะเป็นจริงสุดท้ายที่เขาจะทําให้กับยอดเขาฉิงหยุนขณะที่เขายังอยู่ที่ศาลากระปสวรรค์ มีเพียงทางนี้เท่านั้นที่เขาจะสามารถช่วยหลิวหรูเยาฟื้นฟูยอดเขาจึงหยุน

ร่องรอยความตกอกตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวหรูเยว่ดูเหมือนว่านางจะถึงกับไม่ได้ยินสิ่งที่เซียวเฉินกล่าวในตอนท้าย ใบหน้าอันสง่างามของนางเห็นชัดว่าประหลาดใจอย่างน่ายินดีนางกล่าว “เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไร?”

เซี่ยวเฉินนึกถึงสิ่งที่เขากล่าวออกไป เขากล่าว “ขออภัย,ข้ากล่าวผิดไป พี่สาวหรูเยว”

หลิวหรูเยวีระเบิดเสียงหัวเราะออกมา นางกล่าว “โอย,ข้ามันนาากลัวถึงเพียงนั้น? เจ้าถึงกับขอโทษขอโพย,เจ้าไม่ได้กล่าวอะไรผิด ข้าให้เจ้าเรียกข้าว่าหรูเยว่จําเอาไว้อย่าได้เรียกข้าเป็นอย่างอื่น”

เซี่ยวเฉินรู้สึกขะเป็นเล็กน้อยพร้อมกับกล่าว “ได้,พี่สาวหรูเยว่ ไม่ใช่…หรูเยว”

เซี่ยวเฉินเรียกออกไปตามความเคยชิน เมื่อเขาเห็นหลิวหรูเยวสีหน้าเปลี่ยน,เขารีบแก้คําพูดอย่างรวดเร็วจากนั้นรอยยิ้มพึงพอใจของหรูเยว่ก็กลับมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 333 หลิวหรูเยวที่จะเป็น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 333 หลิวหรูเยวที่จะเป็น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 333 หลิวหรูเยวที่จะเป็น

“นี่มีทั้งฟมดสามหมื่นแต้มสะสม โปรดนับ” พนักงานกล่าวด้วยอย่างอิจฉาแม้ว่าเขาจะทํางานอยู่ที่โถงคุณความชอบมาหลายปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนได้รับแต้มสะสมมากมายขนาดนี้ในครั้งเดียว

เซียวเฉินรับมาและกล่าวขอบคุณ หลังจากนั้น

ผู้ดูแลที่อยู่ด้านหลังของเขาก็กล่าวขึ้น “เย่เฉิน,ผู้อาวุโสหนึ่งกล่าว่าให้หาเวลาไปพบเขาหลังจากที่เจ้ากลับมา”

เซี่ยวเฉินหยุดมือและหันกลับไป เขาถามขึ้น “เร่งด่วยหรือไม่?”

ผู้ดูแลคนนั้นกล่าว “ก็ไม่เชิง เขาสั่งข้าให้บอกให้ไปหาในตอนที่เจ้ามีเวลา หากเจ้ายังไม่พร้อม,เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”

ขณะที่ผู้ดูแลคนนั้นกล่าว,เขามองไปที่เซียวเฉินด้วยความอิจฉา ทุกคนรู้ว่าผู้อาวุโสหนึ่งคือผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจที่แท้จริงของศาลากระบี่สวรรค์

ผู้ดูแลคนนี้ไม่เคยเห็นว่าผู้อาวุโสหนึ่งจะมีอัธยาศัยเช่นนี้มาก่อน เขาสามารถกล่าวได้เพียงว่าศักยภาพของเซียวเฉินถูกมองเอาไว้สูง

เซี่ยวเฉินพยักหน้าเบาๆและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เขาสามารถเดาได้ไม่มากก็นายว่าทําไมผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อถึงได้มองหาเขาในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน,เช่นนั้นเขาก็พักมันเอาไว้ก่อ นในตอนนี้

หลังจากที่เซี่ยวเฉินส่งภารกิจเสร็จ,เขามุ่งหน้าไปที่ยอดเขาจึงหยุนในทันที ในทั่วทั้งศาลากระบี่สวรรค์, ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่เดียวที่เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ว่าเป็นบ้าน

ขณะที่เซียวเฉินค่อยๆก้าวขึ้นบันไดของยอดเขาจึงหยุน,เขามองไปยังฉากรอบตัวที่คุ้นเคยเขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาเป็นเวลานาน

เมื่อเสี่ยวไป,ผู้ที่กําลังรออยู่ในหยกวิญญาณสีเลือด,รู้สึกถึงสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย,มันกระโดดอกมาทันที มันกระโดดขึ้นมาบนไหล่ของเซี่ยวเฉินและยืดแขนขาทั้งสี่ข้างของมัน;มันดูน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ

“พี่ใหญ่เย่เฉิน,ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ช่าวหยางและเสี่ยวเมิง,ผู้ที่กําลังเตรียมตัวจะลงจากยอดเขา, ทันใดนั้นก็เห็นตัวเซียวเฉิน พวกเขาวิ่งเข้ามาอย่างยินดี

เสี่ยวไปก็สนิทสนมกับช่าวหยางและเสี่ยวเมิง ในตอนที่มันเห็นพวกเขาทั้งสอง,มันก็ลุกยืนขึ้นบนไหล่ของเขาและส่งเสียง ยี่ ย่า ยีย่า” ทักทายพวกเขา

นี่ทําให้พวกเขาทั้งสองต่างหัวเราะขบขัน เซี่ยวเฉินอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้และอุ้มเสียวไปิลงวางกับพื้นเขาพยักหน้าและกล่าว“ข้าเพิ่งจะมาถึงอาการบาดเจ็บของพี่สาวหรูเยว่เป็นเช่นไรบ้างแล้ว?”

เสี่ยวเพิ่งกําลังเล่นอยู่กับเสี่ยวไป,เมื่อนางได้ยินคําถามของเซี่ยวเฉิน,นางมองขึ้นมาและยิ้ม “เจ้าจะรู้เองในตอนที่เจ้าไปดูด้วยตัวเอง เจ้าจะต้องประหลาดใจตอนนี้ช่าวหยางและข้าต้องลง จากภูเขา”

จากน้ําเสียงของเสี่ยวเพิ่ง,ดูเหมือนว่าอาการเส้นปราณบาดเจ็บของหลิวหรูเยวจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินสังสัยอย่างยิ่งตรงที่บอกว่าเจ้าจะต้แงประหลาดใจ

ช่าวหยาง,ผู้ที่กําลังยืนอยู่ด้านขาง,ยิ้มและกล่าวขึ้น “พี่ใหญ่เย่เฉิน,เจ้าควรไปได้แล้วในตอนลที่พี่สาวหรเยว่พบเจ้า,นางจะต้องมีความสุขเป็นอย่างมากแน่นอนนางอยู่ที่ลานฝึกฝนในตลอดสองสามวันที่ผ่านมา”

เซี่ยวเฉินพยักหน้าเบาๆและกล่าวลากับทั้งสอง จากนั้นเขาก็เพิ่มความเร็วและเคลื่อนที่มุ่งหน้าไปยังลานใกฝนอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะได้เข้าใกล้ลานฝึกฝน,เขาสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่แข็งแกร่งนอกจากนี้ย,เขายังคุ้นเคยกับกระแสพลังนี้

เซียวเฉินหยุดเท้าลงที่ด้านนอกของลานฝึกฝนและพึมพํา “นี่คือกระแสพลังของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ นอกจากนั้น มันยังบริสุทธิ์ถึงขีดสุด หรือพี่สาวหรูเยวจะทะลวงขอบเขตพลัง?”

ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ก็เพียงเพียงเส้นบางๆที่กั้นหรูเยว่กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ตอนนี้นางถูกฟื้นฟูโดยบุปผาสกัดเย็น,นางน่าจะทําการทะลวงระดับพลัง

นอกจากนั้นประสบการณ์นี้จะผลักดันให้นางขึ้นสู่ยอดสุดของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้น ต้นโดยตรง แม้แต่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธบางคนก็ไม่ใช่คู่มือของนาง

เป็นเวลานานมากแล้ว,หนึ่งในเหตุผลที่ไม่มีผู้ใดยินดีที่จะเข้ามร่วมยอดเขาฉิงหยุนเป็นเพราะไม่มีระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธค่อยอุ้มชูมันเอาไว้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว

เซี่ยวเฉินรู้สึกยินดีอยู่ในใจ เขารีบก้าวเข้ามาในลานฝึกฝนอย่างรวดเร็ว

“บูม! บูม! บูม!”

ภายในลายฝึกฝน,คลื่นพลังงานระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลิวสุยเฟิงและหลิวหรูเยว่กําลังแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากัน อย่างไรก็ตาม,หลิวสุยเฟิงดูเหมือนเขาจะต้องอยู่ในสภาพน่าสมเพช หากกล่าวให้ดีหน่อย,เขาเหมือนจะยิ่งกว่าเป็นกระสอบทราย

“พี่สาว,ไม่จําเป็นต้องหนักมือถึงเพียงนี้ ข้าเป็นพี่น้องเจ้านะ!” หลิวสุยเฟิงอ้อนวอนขณะที่เขากําลังหลบเลี่ยงการโจมตีของหลิวหรูเยว่

หลิวหรูเยว่กล่าวอย่างเยือกเย็น “หากหยอกไม่ถูกเจียระไน,มันก็ไร้ประโยชน์หากเจ้าอดทนเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่ได้,ข้าจะมอบยอดเขาจึงหยุนให้กับเจ้าในอนาคตได้เช่นไร?”

หลิวหรูเยว่กวัดแกว่งผักกระบี่ของนางและปัดกระบี่ของหลิวสุยเฟิง ฝึกกระบี่ปาดเข้าที่ข้อมือ ของหลิวสุยเฟิงอย่างแรง,ทําให้เขาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ทันใดนั้น,หลิวสุยเฟิงก็เหลือบไปเห็นเซี่ยวเฉินที่ยืนอยู่ด้านนอก ดวงตาของเขาเป็นประกายพร้อมกับร้องขึ้น“พี่สาว,เย่เฉินมาแล้ว เจ้าหยุดมือได้แล้ว”

หลิวหรูเยวยิ้มบางเบาและซัดเข้าที่หน้าอกของหลิวสุยเฟิง “เจ้าใช้ลูกไม้นี้กับข้าอีกแล้วพยายามจะหาจังหวะ…ไร้ประโยชน์”

เป็นเป็นบ้า,หลิวสุยเฟิงไม่อาจทนได้ เขากระแอมออกมาสองสามครั้งและกล่าว “พี่สาว,ครั้งนี้ เรื่องจริง มองไปด้านนอก!”

แม้ว่าหลิวหรูเยวจะไม่เชื่อ,แต่นางก็อดที่จะหันไปดูไม่ได้นางมองเห็นเซียวเฉินที่กําลังยืนนิ่งอยู่ที่ด้านนอกในทันที การเคลื่อนไหวมือของนางหยุดลงในทันที

หลิวสยเพิ่งใช้จังหวะนี้ผละตัวออกจากการต่อสู้,วิ่งตรงไปที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว

“เย่เฉิน ในที่สุดเจ้าก็กลับมา หากเจ้ากลับมาช้ากว่านี้บางทีพี่สาวอาจจะทุบตีข้าจนตาย”หลิวสยเฟิงกล่าวอย่างขมขึ้นและตบลงไปที่บ่าของเซียวเฉิน

เซียวเฉินถูกผลักถอยหลังไปสามก้าวโดยฝ่ามือของหลิวสุยเฟิงนี่แสดงให้เห็นว่าเขากระตือรือร้นแค่ไหนเซี่ยวเฉินทรงตัวและกล่าวยิ้มๆ“เจ้าน่าจะจัดการฉลงแทน ดูส,ความแข็งแกร่งของ เจ้าพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน

หลิวสุยเฟิงยิ้มอย่างอับอายและกล่าวอย่างมีเลศนัย “ก็งั้นงั้น ข้ายังห่างไกลเมื่อเทียบกับเจ้าข้าขอตัวก่อน,เจ้าจะต้องประหลาดใจ”

เซี่ยวเฉินรู้สึกแปลก,ทําไมทุกคนพูดถึงแต่เจ้าจะต้องประหลาดใจ? ประหลาดใจอะไรกัน?

หลิวหรูเยว่กระโดดเบาๆลงมาจากเวทีในลานฝึกฝน ชุดคลุมรัดรูปสีแดงของนางแนบติดกับรูปร่างอะนเย้ายวนพร้อมกับนางเดินตรงมาทางเซี่ยวเฉินอย่างไม่เร่งรีบ

ใบหน้าอันสง่างามของหลิวหรูเยวมีความขวยเขิน นางมีสีหน้ากังวลใจ แต่อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่านางจะได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้วขณะที่นางเดินมาทางเซียวเฉิน

ก่อนที่เซียวเฉินจะได้ทันตั้งตัว ริมฝีปากอ่อนนุ่มของหลิวหรูเยว่ก็จบลงที่ด้านข้างปากของเขาอย่างนวดเร็ว ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว,ราวกับแมลงปอสัมผัสผิวน้ํา

ที่ด้านนอกลานฝึกฝน,หลิวสุยเฟิง,ช่าวหยางและเสี่ยวเพิ่ง,เหล่าผู้ทําทีท่าว่าจากออกไปแล้ว,ได้มารวมตัวกันตรงนี้ พวกเขามองดูฉากที่กําลังเกิดขึ้นโดยไม่กระพริบตา

“ฮ่าฮ่า, พี่สาวของข้าช่างกล้า อย่างไรก็ตาม,นางก็ทําอย่างที่นางได้กล่าวเอาไว้!ข้าชอบ!” หลิ วสุยฟังหัวเราะอยู่ด้านข้าง

เสียวเพิ่งหัวเราะคิกคักและกล่าว “อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนางจะไม่มีประสบการณ์อะไรเลยนั้นมันเป็นแค่จุบเบาๆและไม่มีอะไรอื่น”

ช่าวหยางหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า! นางจะไปมีประสบการณ์ได้อย่างไร? นี่เป็นครั้งแรกของนางในครั้งแรกของนาง,เยู่เฉินต้องเป็นคนนํา พวกเราควรไปได้แล้วมิฉะนั้น,เดียวพี่สาวหรูเยว่จะมาไล่ฆ่าพวกเรา”

เสี่ยวไป,ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาทั้งสาม,กําลังจ้องมองไปยังสองคนที่อยู่ในลานฝึกฝนดวงตาของมันเต็มไปด้วยความรุนงง

ในตอนที่ช่าวหยางกล่าวจบ,หลิวสุยเฟิงและเสี่ยวเพิ่งก็ขยับ เสี่ยวเพิ่งอุ้มเสี่ยวไปที่กําลังจุนงงขึ้นมาและรีบวิ่งออกไป

หรือนี่จะคือที่ว่าเจ้าจะต้องประหลาดใจ? เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของเขาแดงขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ใช้ครั้งแรกที่เขาจุบหลิวหรูเยว่แต่เขาไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร

ครั้งแรกโดนอ่าวเจียวควบคุมร่างอยู่เพื่อใครลืมครับ

ในตอนก่อนหน้านี้,พวกเขาทั้งสองเป็นฝ่ายที่ไม่ได้ทําอะไรเลย มันต่างออกไปจากครั้งนี้ ในครั้งนี้ หลิวหรูเยว่เป็นคนเริ่มเข้าหาก่อน

เกิดละลอกคลื่นในหัวใจของเขาที่ปกติจะไม่ไหวนิ่ง เซียวเฉินกล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก“พี่สาวหรูเยว่,เจ้าทําอะไร?”

ในตอนที่หลิวหรูเยว่เห็นเซี่ยวเฉินที่เขินอายอย่างมาก,สิหน้าที่ขวยเขินของนางก็ยิ่งเตลิดนางหัวเราะเสียงดังและกล่าว “นี่เป็นรางวัลแก่เจ้า ขอบคุณสําหรับบุปผาสกัดเอ็นของเจ้าหากไม่ใช่ เพราะบุปผาสกัดเอ็น,ข้าก็ยังคงพิการถึงวันนี้ข้าจะไม่สามารถทะลวงขึ้นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ”

นี่เป็นเพียงแค่การขอบคุณ? เซียวเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ เขากล่าวเสียงเบา “ข้าก็คาดไม่ถึงเช่นกัน มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ข้าได้บปผาสกัดเอ็นดอกนั้นมา”

เจ้าหมอนี้ไม่มีไหวพริบเอาเสียเลย,หลิวหรูเยว่ครุ่นคิดรันทด ไม่เป็นไร,ความหัวทึบของเขาคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

หลิวหรูเยว่กุมมือของเซียวเฉินและกล่าวเสียงเบาๆ “อย่างเพิ่งกล่าวอะไร ให้ข้าพาเจ้าไปดูอะไรก่อน”

เซี่ยวเฉินตามนางไปอย่างไคลรู้ พวกเขาเดินไปที่มุมของพื้นที่ลานฝึกฝนและหลิวหรูเยว่ก็ปล่อยมือของเซี่ยวเฉิน นางกล่าว “นี่ไง,ลองดูสิ”

มีกระบี่มากมายปักอยู่บนพื้น กระบี่พวกนี้มีกระแสพลังโบราณไหลออกมา กระบี่นับพันถูกจัดเรียงเป็นค่ายกลที่ลึกล้ําและซับซ้อน

กระแสพลังโบราณของกระบี่พวกนี้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เมื่อเซี่ยวเฉินยืนอยู่ข้างหน้าและหลับตาลงเพื่อสัมผัสถึงมัน,กองทัพขนาดหมื่นม้าพันคนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาฉีฆ่าฟันของพวกเขาพลุ่งพล่าน,ไหลเข้ามาที่เขา

ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!

บัลลังก์สีแดงที่ระหว่างคิ้วของเขาสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและกล่าวอย่างตกตะลึง “นี่มันค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณขนาดย่อย อย่างไรก็ตาม,ทําไมข้ารู้สึกว่ามันแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อน?กระแสพลังโลราณหนาแน่นขึ้น”

“ฉีฆ่าฟันที่บรรจุอยู่ภายในพวกมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อก่อนหน้านี้”

หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มพึงพอใจ นางกล่าว “เจ้าคาดเดาถูกแล้ว กระบี่แต่ละเล่มในที่นี้มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งพันปีพวกมันเป็นอาวุธโบราณอย่างแท้จริงการก่อตัวของค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณในครั้งนี้จะช่วยให้เจ้าเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันอย่างแน่นอน”

เซี่ยวเฉินรู้สึกยินดีอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ในใจ สําหรับหลิวหรูเยวที่รวบรวมกระบโบราณมาได้มากมายเช่นนี้ย,นางจะต้องพยายามอย่างมาก

เซียวเฉินรู้จากหลิวสุยเฟิงว่าหลิวหรูเยว่ต้องติดหนี้ลู่เฉินอย่างมากในตอนที่นางหยิบยืมกระบี่โบราณมาในครั้งก่อนในตอนนี้,นางได้รับอาวุธโบราณมากมายที่ล้ําค่ายิ่งขึ้นไปอีก,ราคาที่นางจ่ายไปจะต้องสูงขึ้นไปอีก
อันที่จริง,หลิวหรเยวรู้ว่าในตอนที่เซียวเฉินเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและส่สารกับมัน.นั้นจะเป็นสัญญาณว่าเขาจะออกจากยอดเขาฉิงหยุน

ถึงกระนั้น,หลิวหรเยว่ก็ช่วยเหลือเขาโดยไม่ได้ขออะไรตอบแทน เซียวเฉินรู้สึกว่ามันยากที่จะรับเอาไว้ เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างจริงใจ “หรูเยว่,ขอบคุณข้าสัญญากับเจ้า,ไม่ว่าอะไร,ข้าจะคว้าอันดับสูงสุดในสงครามการจัดอันดับศิษย์ชั้นในของสิ้นปีนี้”

สงครามจัดอันดับสิ้นปี…นี่จะเป็นจริงสุดท้ายที่เขาจะทําให้กับยอดเขาฉิงหยุนขณะที่เขายังอยู่ที่ศาลากระปสวรรค์ มีเพียงทางนี้เท่านั้นที่เขาจะสามารถช่วยหลิวหรูเยาฟื้นฟูยอดเขาจึงหยุน

ร่องรอยความตกอกตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวหรูเยว่ดูเหมือนว่านางจะถึงกับไม่ได้ยินสิ่งที่เซียวเฉินกล่าวในตอนท้าย ใบหน้าอันสง่างามของนางเห็นชัดว่าประหลาดใจอย่างน่ายินดีนางกล่าว “เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไร?”

เซี่ยวเฉินนึกถึงสิ่งที่เขากล่าวออกไป เขากล่าว “ขออภัย,ข้ากล่าวผิดไป พี่สาวหรูเยว”

หลิวหรูเยวีระเบิดเสียงหัวเราะออกมา นางกล่าว “โอย,ข้ามันนาากลัวถึงเพียงนั้น? เจ้าถึงกับขอโทษขอโพย,เจ้าไม่ได้กล่าวอะไรผิด ข้าให้เจ้าเรียกข้าว่าหรูเยว่จําเอาไว้อย่าได้เรียกข้าเป็นอย่างอื่น”

เซี่ยวเฉินรู้สึกขะเป็นเล็กน้อยพร้อมกับกล่าว “ได้,พี่สาวหรูเยว่ ไม่ใช่…หรูเยว”

เซี่ยวเฉินเรียกออกไปตามความเคยชิน เมื่อเขาเห็นหลิวหรูเยวสีหน้าเปลี่ยน,เขารีบแก้คําพูดอย่างรวดเร็วจากนั้นรอยยิ้มพึงพอใจของหรูเยว่ก็กลับมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+