Immortal and Martial Dual Cultivation 150 ศิษย์พี่หญิงหรืออาจารย์สาว?

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 150 ศิษย์พี่หญิงหรืออาจารย์สาว? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 150 ศิษย์พี่หญิงหรืออาจารย์สาว?

 

ด้านบนของหลังคา อาวุธของทุกคนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านขึ้นมา เซี่ยวเฉินใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้กระบี่เงาจันทร์ดิ้นหลุดออกจากมือ

 

เขาคิดด้วยความประหลาดใจ ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน… ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันอีกครั้ง นี่เป็นบุคคลที่สองที่เซี่ยวเฉินพบในแคว้นซีเหอที่เข้าใจกระบีในดินแดนแห่งนี้

 

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนการฟังเสียงของดาบและสี่อสารกับมันของหลิวหรูเยว่ แข็งแกร่งยิ่งกว่าของเหลิ่งหลิวชู ย้อนกลับไปตอนที่เขาสู้กับเหลิ่งหลิวซู อาวุธของเขาไม่ได้ตอบสนองรุนแรงเช่นนี้

 

ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ประหลาดใจ ร่างของหลิวหรูเยว่กระพริบไหว และมาอยู่เบื้องหน้าของเซี่ยวเฉิน กระบี่ของนางสับลงไปทางเซี่ยวเฉินอย่างไร้ปราณี

 

“เคร้ง! เคร้ง! เครั้ง!”

 

เซี่ยวเฉินกวัดแกว่งกระบี่ของเขาป้องกันการโจมตี เสียงโลหะปะทะกันดังออกมาอย่างต่อเนื่อง หลิวหรูเยว่เร่งความเร็ว เร็วขึ้นและยิ่งเร็วขึ้น ไม่ช้าเซี่ยวเฉินก็ตกอยู่ในจุดที่เขาสามารถเห็นรูปร่างกระบีเป็นเลือนลางเท่านั้น เขาพึ่งพาได้เพียงความรู้สึกเท่านั้น และใช้ออกด้วยการวาดกระบี่อย่างต่อเนื่อง

 

เป็นกระบี่ที่เร็วอะไรเช่นนี้! เซี่ยวเฉินคิดด้วยความประหลาดใจ นี่ควรจะเป็นผลของการที่หลิวหรูเยว่ข่มความแข็งแกร่งเอาไว้ ความรุนแรงในกระบี่ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่เซี่ยวเฉินรับมือไหว

 

เซี่ยวเฉินไม่เคยพบเห็นการใช้กระบี่ที่รวดเร็วมาก่อน อีกฝ่ายไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่อะไรที่ซับซ้อน นางใช้รูปแบบธรรมดาในการกวาด, ฟัน, รุก, เฉือน, เสย, กวัดแกว่ง, สับ, และแทง

เหล่านี้คือท่วงท่าพื้นฐานในการใช้กระบี่ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทําให้เซี่ยวเฉินตอบโต้กลับไม่ได้เลย ที่เขาทําได้ทั้งหมดคือการวาดกระบี่เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะใช้ออกวาดกระบี่ เขาจะต้องคอยมุ่งงสมาธิคอยช่วงเวลาเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แต่ละครั้งที่เขาใช้การวาดกระบี่,แรงส่งที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นมา ถูกทําลายลงในทันที นี่เป็นจุดอ่อนของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน

 

สถานการณ์เช่นนี้ เซี่ยวเฉินกําลังสูญเสียพละกําลังอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลิวหรูเยว่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย กระบี่ในมือของนางไม่เคยหยุดลงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

 

“เฟี๊ยว!”

 

จากนั้นไม่นาน หลิวหรูเยว่เก็บกระบี่ของนางและยืนตัวตรง ใบหน้าที่งดงามของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจ นางกล่าว “ตอบสนองรวดเร็วดี แต่พื้นฐานยังไม่มั่นคงพอ ข้าบอกได้ว่าเขามีประสบการณ์

 

หลังจากกล่าว นางเดินไปหาเซี่ยวเฉิน มือสีขาวดอกลิลลี่ของนางยืนไปที่ใบหน้าของเซี่ยวเฉินเพื่อจะหยิก เซี่ยวเฉินเหนื่อยเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารวบรวมพลังจากที่ไหนไม่รู้ และถอยหลังไปด้วยก้าวขนาดใหญ่

 

เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก ซึ่งไม่เหมือนว่าเขาเหนื่อยเลย ลู่เฉินและถังยิ่งเทียนที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก

 

มา ลู่เฉินรีบกล่าว “น้องชายเย่เฉิน อย่ากังวล ศิษย์พี่หญิง เพียงแค่จะทดสอบอายุไขกระดูกเจ้าเท่านั้น”

 

การทดสอบอายุไขกระดูกเป็นสิ่งที่หลายนิกายกระทํา เหตุผลหลักก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้ใครบางคนแจ้งอายุปลอมและหลอกลวงนิกาย เซี่ยวเฉินเหงื่อออกหนัก รู้ว่าเขาทํา จริงจังเกินไปใครก็ตามที่เห็นมันจะต้องหัวเราะเยาะเขา

 

แสงประกายขึ้นในดวงตาของหลิวหรูเยว่ นางไม่สนใจท่าทางของเซี่ยวเฉินและเดินเข้าไปหาอีกครั้ง คราวนี้เมื่อนางลองทดสอบอายุไขกระดูกของเขา เขาไม่เคลื่อนไหวเขาเพียงแค่ยืนอยู่บนจุดเดิมของตน และปล่อยให้นางทําตามต้องการ

 

มือของหลิวหรูเยว่เริ่มขยับไปสัมผัสตามกระดูกในร่างกายส่วนบนของเซี่ยวเฉินในลักษณะปกติ

 

ด้วยระยะใกล้เช่นนี้ กลิ่นจางๆของหญิงสาวถูกสุดเข้าจมูกของเซี่ยวเฉิน สิ่งนี้ทําให้สภาพจิตใจของเซี่ยวเฉินกลายเป็นยุ่งเหยิง และเขาไม่กล้าที่จะสูดลมหายใจ

 

จากนั้นไม่นาน หลิวหรูเยว่ถอนมือกลับ เผยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของนาง “เขาอายุสิบหกปีจริงๆ ปรมจารย์ยุทธอายุสิบหกปี – ด้อยกว่าข้าเล็กน้อยในตอนที่ข้าอายุเท่าเจ้า เย่เฉินใช่มั้ย? เรียกข้าว่าอาจารย์!”

 

หัวของเซี่ยวเฉินกลายเป็นมึนงงพร้อมเหงื่อเย็นไหลออก มาในขณะที่เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์ เขาต้องรับการฝึกฝนจนเป็นปรมาจารย์ อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างแก่กว่าเขาไม่มาก

 

เมื่อเห็นว่าเซี่ยวเฉินพูดไม่ออก หลิวหรูเยว่ขมวดคิ้ว นางกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก “เจ้าไม่เต็มใจ? เนื่องจากเจ้าไม่เต็มใจ งั้นก็ไม่ต้องมายังยอดเขาฉิงหยุนของข้า ผลที่ทําให้ข้าต้องออกมาเสียเที่ยวนั้นค่อนข้างหนักหนา และแม้แต่เฟิงเฟยเสวี่ยก็ปกป้องเจ้าไม่ได้”

 

มือขวาของหลิวหรูเยว่อยู่บนด้ามจับกระบี่ของนาง ใบหน้าของนางเผยให้เห็นจิตสังหาร นางพร้อมที่จะชักกระบี่ทุกเมื่อ เซี่ยวเฉินพูดไม่ออก หญิงสาวผู้นี้เอาแต่ใจเกินไปแล้ว

 

มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของลู่เฉินในขณะที่เขาค่อยๆเดินเข้ามาและกล่าว “เย่เฉิน เจ้าไม่ต้องกังวล หากเจ้าเข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุน ผลประโยชน์ที่เจ้าได้รับจะไม่น้อยไปกว่ายอดเขาอื่น นอกจากนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หรูเยว่ มันไม่ควรจะมีปัญหาในการที่นางจะสั่งสอนเจ้า

 

“ในอนาคต หากเจ้ากลายเป็นศิษย์หลัก เจ้าเองก็สามารถเข้าสู่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ที่สําคัญที่สุดคือศิษย์พี่หญิงหรูเยว่ผู้นี้เป็นรักษาการแทนเจ้าแห่งยอดเขา หากเจ้ากลายเป็นศิษย์ของนาง ในแง่ของตําแหน่ง เจ้าจะเทียบเท่ากับพี่น้องถัง”

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขมให้กับตนเอง คิดว่ามันมีผลประโยชน์ที่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม มันรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ

 

หลิวหรูเยว่ผู้นี้มีอายุมากกว่าข้าเพียงไม่กี่ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาพบว่ามันค่อนข้างยากที่จะยอมรับ

 

เขาอดไม่ได้ที่จะก้มหัวลง เมื่อเขาทําเช่นนั้น เขาเห็นกระบี่เงาจันทร์จากมุมของสายตา หน้าอกของเขากลายเป็นหนักแน่นขณะที่คิดกับตนเอง ข้าได้ออกจากเมืองม่อเหอมาประมาณครึ่งปีแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ข้าได้จากไปก็เพื่อที่ข้าจะได้ปลดผนึกของอ๋าวเจียว นี่เป็นโอกาสที่ดี และแถมหลิวหรูเยว่ยังเข้าใจเสียงแห่งดาบและสื่อสารกับมันได้ การยอมรับนางเป็นอาจารย์ของข้าถือเป็นนทางเลือกที่ดี

่ ่

หลังจากที่เซียวเฉินคิดเรื่องนี้ เขาคุกเข่าลงบนพื้นหนึ่งข้าง และปฏิญาณอย่างเด็ดขาด “ศิษย์เย่เฉินขอยอมรับเจ้าแห่งยอดเขานิ่งหยุน หลิวหรูเยว่ เป็นอาจารย์ของตนด้วยความสัตย์ ท่านอาจารย์ยอมรับข้าหรือไม่?”

 

ที่จริง เซี่ยวเฉินมีแผนอยู่ในใจ ตั้งแต่ที่เขาใช้ตัวตนปลอมๆ และเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง เขาสามารถปฏิเสธทุกสิ่งได้ตลอดเวลาเมื่อเขาต้องการและเปลี่ยนรูปลักษณ์กลับเช่นเดิม

 

จิตสังหารที่อยู่บนใบหน้างดงามของของหลิวหรูเยว่หายไปอย่างเชื่องช้า จากผ่อนคลายกลายเป็นรอยยิ้มอบอุ่น การแสดงออกของนางกลายเป็นเคร่งขรึมขณะที่กล่าวออกไป “ข้า หลิวหรูเยว่ในฐานะผู้รักษาการเจ้ายอดเขาฉิงหยุน ยอมรับเจ้า เย่เฉิน ในฐานะศิษย์ของข้า ข้าจะกระทําให้ดีที่สุดเพื่อสอนสั่งและแนะนําเข้าอย่างจริงจังและดีที่สุด”

 

หลังจากนางกล่าว หลิวหรูเยว่ช่วยเซียวเฉินลุกขึ้นยืน จากนั้นนางมองไปที่อู่เฉินกับถังยิ่งเทียนและกล่าว “พวกเจ้าทั้งสองเป็นสักขีพยานของยอดเขาฉิงหยุน!”

 

ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย “มิต้องกังวล ข้าจะทําการเปลี่ยนข้อมูลของเย่เฉินพร้อมกับทําเหรียญแสดงตนขึ้นมาใหม่”

 

ถังยิ่งเทียนนํากระบี่สั้นออกมาจากแหวนมิติของเขา และหันไปทางเซี่ยวเฉิน “ยินดีด้วย, น้องชายเย่ ที่เข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุน ถือว่ากระบี่สั้นเล่มนี้เป็นของขวัญแสดงความยินดีสําหรับการกราบอาจารย์”

 

เซี่ยวเฉินรับกระบี่สั้นมาและจับไปที่ที่จับกระบี่ ชักมันออกมาจากฝักกระบี่อย่างช้าๆ มีความหนาวเย็นมารวมตัวกันอยู่บนกระบี่ และแท้จริงมันเป็นถึงอาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพี ถังติ่งเทียนผู้นี้ช่างใจกว้างยิ่งนัก

 

หลิวหรูเยว่หันไปทางลู่เฉินและยิ้ม “พ่อบ้านถังมอบอาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพี่ให้แก่เขา ศิษย์น้องลู่ มิใช่ว่าเจ้าก็ควรแสดงไมตรีเช่นกันหรือ?”

่ ่

ลู่เฉินหยิบหนังสืออกมาและยิ้ม “ข้าบอกได้ว่าออร่าในร่างของเจ้าไม่มั่นคง การไหลเวียนยังคงยุ่งเหยิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะเรียนรู้หลายสิ่งมากเกินไป และไม่สามารถผสานมันทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ อ่านคัมภีร์กระแสเมฆาเล่มนี้เมื่อเจ้ามีเวลา มันควรจะมีประโยชน์กับเจ้า”

 

เซี่ยวเฉินแสดงการขอบคุณอย่างรวดเร็วและรับมันไว้ คัมภีร์กระแสเมฆาเล่มนี้เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าเป็นอย่างมาก และเขาเคยได้ยินมันมาก่อน มันเป็นคัมภีร์ที่เกิดมาจากคัมภีร์ยุทธ์บรรพกาล

 

มันมีชื่อเสียงอย่างมาก และสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังจะได้รับก็คือฉบับคัดลอกของคัมภีร์กระแสเมฆาที่ได้รับการรับรองจากปรมาจารย์ มันช่างน่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

 

หลิวหรูเยว่ช่วยเซี่ยวเฉินขึ้นไปบนวิหคสีเขียว และบอกกล่าวคําอําลาของนางให้กับคนทั้งสอง จากนั้น วิหคเขียวก็กระพรือปีกอย่างรุนแรง ปลดปล่อยลมกรรโชกแรงขนาดใหญ่ในขณะที่มันพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา

 

ถังติ่งเทียนมองไปที่ทั้งสองที่จากไป “พี่น้องลู่ ข้าต้องกล่าว เจ้าใจกว้างเป็นอย่างยิ่ง เวลาปกติ เมื่อไรที่ข้าต้องการหยิบยืมคัมภีร์กระแสเมฆาของเจ้าเพื่อดู เจ้าจะมอบข้อแก้ตัว ทุกรูปแบบเพื่อปฏิเสธ ในวันนี้ เจ้ามอบมันออกไปด้วยท่าทางไม่อ้อมค้อมอย่างแท้จริง”

 

ลู่เฉินหันหลังและยิ้ม “เจ้าก็ไม่ได้ดีกว่าข้านักหรอก กระบี่นั่นคือโกวอวี้ มีต้นกําเนิดมาจากนิกายฟ้าคราม และมันไม่ใช่อาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพีธรรมดา”

 

TL : โกวอี้ แปลไทยเป็น หยกกงเล็บอสูรนะครับ แต่ลักษณะของมันจะเหมือนคาตานะของญี่ปุ่นนะครับ เป็นกระบี่งอ

 

ถังติ่งเทียนถอนหายใจและกล่าว “ข้ารู้สึกเสียดายพรสวรรค์ที่เขาได้รับ ไม่เพียงเขามีจดหมายแนะนําตัวของแม่นางเฟิง เขายังสามารถสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าเพื่อรับคุณสมบัติเพื่อเข้าสู่นิกายชั้นใน

 

“ข้าไม่รู้จริงๆว่าเก่อหยุนปืนคิดอะไรอยู่ตอนที่ส่งเขาไปยังยอดเขาฉิงหยุน มันแปลกเป็นอย่างมาก”

 

ลู่เฉินเผยการแสดงออกที่ตกใจ เขากล่าว “เขาสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าเพียงตัวคนเดียว? เขาเป็นเพียงปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นต้น มันเป็นไปได้เช่นไร?”

 

ถังยิ่งเทียนหันหลังกลับและมองไปที่เขา “เช่นนี้เรื่องนี้จะทําให้เจ้าตกใจมากยิ่งขึ้น ในตอนที่เขาสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้า เขาเป็นเพียงขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ์ระดับสูง เขาเพิ่งจะเลื่อนขอบเขตพลังขึ้นมาหลังจากนั้น”

 

สีหน้าลู่เฉินเปลี่ยน แต่ไม่นาน เขายิ้มด้วยท่าทางที่ไร้กังวล ถังติ่งเทียนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขากล่าว “ไปเถอะ ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้าที่หลัง”

 

วิหคเขียวลอยสูงอยู่บนท้องฟ้า เซี่ยวเฉินนั่งด้านหลังของหลิวหรูเยว่ ในที่สุด เขากล่าวขึ้นมา “อาจารย์ ขอข้าถามได้หรือไม่?”

 

หลิวหรูเยว่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “เมื่อไร้ผู้คนอยู่โดยรอบ เพียงเรียกข้าว่าพี่สาวหรูเยว่เหมือนกับที่เฟิงเฟยเสวี่ยเรียก”

 

ข้าไม่ได้แก่กว่าเจ้ามากนัก ดังนั้นข้าจะไม่แกล้งเจ้ามากเกินไป”

 

เซี่ยวเฉินนตะลึงเล็กน้อย นั่นช่วยแก้ปริศนาให้เขาหนึ่งเปราะ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไมหลิวหรูเยว่ถึงต้องการตัวเขามาอยู่ใต้ปีกของนางในฐานะลูกศิษย์ในการพบกันครั้งแรก ส่วนใหญ่เป็นเพราะนางรู้จักเฟิงเฟยเสีย

 

“ข้ออยากจะถามว่า ยอดเขาฉิงหยุนมีลูกศิษย์อยู่กี่คน? มีผู้อาวุโสอยู่ที่นั่นมากเท่าไร? พี่สาวหรูเยว่มีลูกศิษย์อยู่กี่คน?” เซี่ยวเฉินสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว ตอนนี้เขาเพิ่งจะมีโอกาสถาม เขาจึงไม่ลังเลที่จะถาม

 

หลิวหรูเยว่หันหน้าของนางมา และถามด้วยท่าทางแปลกๆ “เจ้าไม่รู้? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่รู้อะไรเลยก่อนที่จะเข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุน?”

 

ทันใดนั้น เซี่ยวเฉินกลายเป็นรู้สึกไม่ดี เขายิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องเป็นเช่นนั้น – ข้าเข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุนโดยไม่รู้อะไรเลย”

 

หลิวหรูเยว่รู้สึกปวดหัวขึ้นมาขณะที่นางกล่าวด้วยน้ํา เสียงขุ่นเคือง “ก่อนเจ้าจะมา คําตอบสําหรับคําถามทั้งหมดคือศูนย์ หลังจากเจ้ามาถึงคําตอบก็คือหนึ่ง”

 

เซี่ยวเฉินผิดหวัง แม้เขาจะรู้ว่ายอดเขาฉิงหยุนจะไม่น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่ามันเลวร้ายจนถึงจุดที่เรียกว่าไม่มีสักคน

 

หลิวหรูเยว่ยิ้ม “นี่คือเหตุผลที่ข้ายอมรับเจ้าในฐานะลูกศิษย์ ภายในยอดเขาฉิงหยุน เพราะไม่มีใครสอนสั่งเจ้าได้”

่ ่

“อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ต้องคิดมากเกินไป ไร้คนหารคือผลประโยชน์ เจ้าจะได้รับการสอนสั่งจากเจ้ายอดเขาเป็นการส่วนตัว สิทธิพิเศษเช่นนี้ไม่ได้มีมากนักภายในศาลากระบี่สวรรค์”

 

เจ้าแห่งยอดเขาผู้ที่ไม่ใช่ขอบเขตกษัตริย์? ความแข็งแกร่ งของเจ้านิกายชั้นนอก เก่อหยุนปืน อยู่ในจุดสูงสุดของขอบ เขตกษัตริย์แล้ว แล้วเจ้าแห่งยอดเขาภายในนิกายชั้นในจะ ต่ํากว่าได้เช่นไร?

 

อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินไม่สนใจ ท้ายที่สุด เขามาที่นี่ก็เพื่อเรียนรู้วิธีการเข้าสู่สภาวะฟังเสียงและสื่อสารกับดาบ สภาวะนี้ของตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องกับระดับการบ่มเพาะเป็นส่วนใหญ่ และความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ทําให้เขาเข้าใจมัน ในช่วงสุดท้าย พรสวรรค์และการทําความเข้าใจเป็นสิ่งที่สําคัญมากกว่า

 

สําหรับเซี่ยวเฉิน ท่านอาจารย์ผู้ที่สามารถฟังเสียงดาบและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยสิ่งนั้นมันเพียงพอที่จะชดเชยข้อบกพร่องทั้งหมดของหลิวหรูเยว่

 

ไม่นาน ยอดเขาสูงตระหง่านก็ปรากฏต่อหน้าต่อตาของเซี่ยวเฉิน เมฆที่อยู่รอบภูเขาขยายออกไปทางขอบฟ้า

 

เรื่องนี้มีกลุ่มลับนะครับสามารถติดต่อได้จากเพจที่แปะอยู่ในหน้าสารบัญครับ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 150 ศิษย์พี่หญิงหรืออาจารย์สาว?

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 150 ศิษย์พี่หญิงหรืออาจารย์สาว? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 150 ศิษย์พี่หญิงหรืออาจารย์สาว?

 

ด้านบนของหลังคา อาวุธของทุกคนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านขึ้นมา เซี่ยวเฉินใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้กระบี่เงาจันทร์ดิ้นหลุดออกจากมือ

 

เขาคิดด้วยความประหลาดใจ ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน… ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันอีกครั้ง นี่เป็นบุคคลที่สองที่เซี่ยวเฉินพบในแคว้นซีเหอที่เข้าใจกระบีในดินแดนแห่งนี้

 

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนการฟังเสียงของดาบและสี่อสารกับมันของหลิวหรูเยว่ แข็งแกร่งยิ่งกว่าของเหลิ่งหลิวชู ย้อนกลับไปตอนที่เขาสู้กับเหลิ่งหลิวซู อาวุธของเขาไม่ได้ตอบสนองรุนแรงเช่นนี้

 

ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ประหลาดใจ ร่างของหลิวหรูเยว่กระพริบไหว และมาอยู่เบื้องหน้าของเซี่ยวเฉิน กระบี่ของนางสับลงไปทางเซี่ยวเฉินอย่างไร้ปราณี

 

“เคร้ง! เคร้ง! เครั้ง!”

 

เซี่ยวเฉินกวัดแกว่งกระบี่ของเขาป้องกันการโจมตี เสียงโลหะปะทะกันดังออกมาอย่างต่อเนื่อง หลิวหรูเยว่เร่งความเร็ว เร็วขึ้นและยิ่งเร็วขึ้น ไม่ช้าเซี่ยวเฉินก็ตกอยู่ในจุดที่เขาสามารถเห็นรูปร่างกระบีเป็นเลือนลางเท่านั้น เขาพึ่งพาได้เพียงความรู้สึกเท่านั้น และใช้ออกด้วยการวาดกระบี่อย่างต่อเนื่อง

 

เป็นกระบี่ที่เร็วอะไรเช่นนี้! เซี่ยวเฉินคิดด้วยความประหลาดใจ นี่ควรจะเป็นผลของการที่หลิวหรูเยว่ข่มความแข็งแกร่งเอาไว้ ความรุนแรงในกระบี่ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่เซี่ยวเฉินรับมือไหว

 

เซี่ยวเฉินไม่เคยพบเห็นการใช้กระบี่ที่รวดเร็วมาก่อน อีกฝ่ายไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่อะไรที่ซับซ้อน นางใช้รูปแบบธรรมดาในการกวาด, ฟัน, รุก, เฉือน, เสย, กวัดแกว่ง, สับ, และแทง

เหล่านี้คือท่วงท่าพื้นฐานในการใช้กระบี่ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทําให้เซี่ยวเฉินตอบโต้กลับไม่ได้เลย ที่เขาทําได้ทั้งหมดคือการวาดกระบี่เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะใช้ออกวาดกระบี่ เขาจะต้องคอยมุ่งงสมาธิคอยช่วงเวลาเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แต่ละครั้งที่เขาใช้การวาดกระบี่,แรงส่งที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นมา ถูกทําลายลงในทันที นี่เป็นจุดอ่อนของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน

 

สถานการณ์เช่นนี้ เซี่ยวเฉินกําลังสูญเสียพละกําลังอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลิวหรูเยว่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย กระบี่ในมือของนางไม่เคยหยุดลงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

 

“เฟี๊ยว!”

 

จากนั้นไม่นาน หลิวหรูเยว่เก็บกระบี่ของนางและยืนตัวตรง ใบหน้าที่งดงามของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจ นางกล่าว “ตอบสนองรวดเร็วดี แต่พื้นฐานยังไม่มั่นคงพอ ข้าบอกได้ว่าเขามีประสบการณ์

 

หลังจากกล่าว นางเดินไปหาเซี่ยวเฉิน มือสีขาวดอกลิลลี่ของนางยืนไปที่ใบหน้าของเซี่ยวเฉินเพื่อจะหยิก เซี่ยวเฉินเหนื่อยเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารวบรวมพลังจากที่ไหนไม่รู้ และถอยหลังไปด้วยก้าวขนาดใหญ่

 

เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก ซึ่งไม่เหมือนว่าเขาเหนื่อยเลย ลู่เฉินและถังยิ่งเทียนที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก

 

มา ลู่เฉินรีบกล่าว “น้องชายเย่เฉิน อย่ากังวล ศิษย์พี่หญิง เพียงแค่จะทดสอบอายุไขกระดูกเจ้าเท่านั้น”

 

การทดสอบอายุไขกระดูกเป็นสิ่งที่หลายนิกายกระทํา เหตุผลหลักก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้ใครบางคนแจ้งอายุปลอมและหลอกลวงนิกาย เซี่ยวเฉินเหงื่อออกหนัก รู้ว่าเขาทํา จริงจังเกินไปใครก็ตามที่เห็นมันจะต้องหัวเราะเยาะเขา

 

แสงประกายขึ้นในดวงตาของหลิวหรูเยว่ นางไม่สนใจท่าทางของเซี่ยวเฉินและเดินเข้าไปหาอีกครั้ง คราวนี้เมื่อนางลองทดสอบอายุไขกระดูกของเขา เขาไม่เคลื่อนไหวเขาเพียงแค่ยืนอยู่บนจุดเดิมของตน และปล่อยให้นางทําตามต้องการ

 

มือของหลิวหรูเยว่เริ่มขยับไปสัมผัสตามกระดูกในร่างกายส่วนบนของเซี่ยวเฉินในลักษณะปกติ

 

ด้วยระยะใกล้เช่นนี้ กลิ่นจางๆของหญิงสาวถูกสุดเข้าจมูกของเซี่ยวเฉิน สิ่งนี้ทําให้สภาพจิตใจของเซี่ยวเฉินกลายเป็นยุ่งเหยิง และเขาไม่กล้าที่จะสูดลมหายใจ

 

จากนั้นไม่นาน หลิวหรูเยว่ถอนมือกลับ เผยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของนาง “เขาอายุสิบหกปีจริงๆ ปรมจารย์ยุทธอายุสิบหกปี – ด้อยกว่าข้าเล็กน้อยในตอนที่ข้าอายุเท่าเจ้า เย่เฉินใช่มั้ย? เรียกข้าว่าอาจารย์!”

 

หัวของเซี่ยวเฉินกลายเป็นมึนงงพร้อมเหงื่อเย็นไหลออก มาในขณะที่เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์ เขาต้องรับการฝึกฝนจนเป็นปรมาจารย์ อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างแก่กว่าเขาไม่มาก

 

เมื่อเห็นว่าเซี่ยวเฉินพูดไม่ออก หลิวหรูเยว่ขมวดคิ้ว นางกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก “เจ้าไม่เต็มใจ? เนื่องจากเจ้าไม่เต็มใจ งั้นก็ไม่ต้องมายังยอดเขาฉิงหยุนของข้า ผลที่ทําให้ข้าต้องออกมาเสียเที่ยวนั้นค่อนข้างหนักหนา และแม้แต่เฟิงเฟยเสวี่ยก็ปกป้องเจ้าไม่ได้”

 

มือขวาของหลิวหรูเยว่อยู่บนด้ามจับกระบี่ของนาง ใบหน้าของนางเผยให้เห็นจิตสังหาร นางพร้อมที่จะชักกระบี่ทุกเมื่อ เซี่ยวเฉินพูดไม่ออก หญิงสาวผู้นี้เอาแต่ใจเกินไปแล้ว

 

มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของลู่เฉินในขณะที่เขาค่อยๆเดินเข้ามาและกล่าว “เย่เฉิน เจ้าไม่ต้องกังวล หากเจ้าเข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุน ผลประโยชน์ที่เจ้าได้รับจะไม่น้อยไปกว่ายอดเขาอื่น นอกจากนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของศิษย์พี่หรูเยว่ มันไม่ควรจะมีปัญหาในการที่นางจะสั่งสอนเจ้า

 

“ในอนาคต หากเจ้ากลายเป็นศิษย์หลัก เจ้าเองก็สามารถเข้าสู่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ที่สําคัญที่สุดคือศิษย์พี่หญิงหรูเยว่ผู้นี้เป็นรักษาการแทนเจ้าแห่งยอดเขา หากเจ้ากลายเป็นศิษย์ของนาง ในแง่ของตําแหน่ง เจ้าจะเทียบเท่ากับพี่น้องถัง”

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขมให้กับตนเอง คิดว่ามันมีผลประโยชน์ที่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม มันรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ

 

หลิวหรูเยว่ผู้นี้มีอายุมากกว่าข้าเพียงไม่กี่ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาพบว่ามันค่อนข้างยากที่จะยอมรับ

 

เขาอดไม่ได้ที่จะก้มหัวลง เมื่อเขาทําเช่นนั้น เขาเห็นกระบี่เงาจันทร์จากมุมของสายตา หน้าอกของเขากลายเป็นหนักแน่นขณะที่คิดกับตนเอง ข้าได้ออกจากเมืองม่อเหอมาประมาณครึ่งปีแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ข้าได้จากไปก็เพื่อที่ข้าจะได้ปลดผนึกของอ๋าวเจียว นี่เป็นโอกาสที่ดี และแถมหลิวหรูเยว่ยังเข้าใจเสียงแห่งดาบและสื่อสารกับมันได้ การยอมรับนางเป็นอาจารย์ของข้าถือเป็นนทางเลือกที่ดี

่ ่

หลังจากที่เซียวเฉินคิดเรื่องนี้ เขาคุกเข่าลงบนพื้นหนึ่งข้าง และปฏิญาณอย่างเด็ดขาด “ศิษย์เย่เฉินขอยอมรับเจ้าแห่งยอดเขานิ่งหยุน หลิวหรูเยว่ เป็นอาจารย์ของตนด้วยความสัตย์ ท่านอาจารย์ยอมรับข้าหรือไม่?”

 

ที่จริง เซี่ยวเฉินมีแผนอยู่ในใจ ตั้งแต่ที่เขาใช้ตัวตนปลอมๆ และเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง เขาสามารถปฏิเสธทุกสิ่งได้ตลอดเวลาเมื่อเขาต้องการและเปลี่ยนรูปลักษณ์กลับเช่นเดิม

 

จิตสังหารที่อยู่บนใบหน้างดงามของของหลิวหรูเยว่หายไปอย่างเชื่องช้า จากผ่อนคลายกลายเป็นรอยยิ้มอบอุ่น การแสดงออกของนางกลายเป็นเคร่งขรึมขณะที่กล่าวออกไป “ข้า หลิวหรูเยว่ในฐานะผู้รักษาการเจ้ายอดเขาฉิงหยุน ยอมรับเจ้า เย่เฉิน ในฐานะศิษย์ของข้า ข้าจะกระทําให้ดีที่สุดเพื่อสอนสั่งและแนะนําเข้าอย่างจริงจังและดีที่สุด”

 

หลังจากนางกล่าว หลิวหรูเยว่ช่วยเซียวเฉินลุกขึ้นยืน จากนั้นนางมองไปที่อู่เฉินกับถังยิ่งเทียนและกล่าว “พวกเจ้าทั้งสองเป็นสักขีพยานของยอดเขาฉิงหยุน!”

 

ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย “มิต้องกังวล ข้าจะทําการเปลี่ยนข้อมูลของเย่เฉินพร้อมกับทําเหรียญแสดงตนขึ้นมาใหม่”

 

ถังยิ่งเทียนนํากระบี่สั้นออกมาจากแหวนมิติของเขา และหันไปทางเซี่ยวเฉิน “ยินดีด้วย, น้องชายเย่ ที่เข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุน ถือว่ากระบี่สั้นเล่มนี้เป็นของขวัญแสดงความยินดีสําหรับการกราบอาจารย์”

 

เซี่ยวเฉินรับกระบี่สั้นมาและจับไปที่ที่จับกระบี่ ชักมันออกมาจากฝักกระบี่อย่างช้าๆ มีความหนาวเย็นมารวมตัวกันอยู่บนกระบี่ และแท้จริงมันเป็นถึงอาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพี ถังติ่งเทียนผู้นี้ช่างใจกว้างยิ่งนัก

 

หลิวหรูเยว่หันไปทางลู่เฉินและยิ้ม “พ่อบ้านถังมอบอาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพี่ให้แก่เขา ศิษย์น้องลู่ มิใช่ว่าเจ้าก็ควรแสดงไมตรีเช่นกันหรือ?”

่ ่

ลู่เฉินหยิบหนังสืออกมาและยิ้ม “ข้าบอกได้ว่าออร่าในร่างของเจ้าไม่มั่นคง การไหลเวียนยังคงยุ่งเหยิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะเรียนรู้หลายสิ่งมากเกินไป และไม่สามารถผสานมันทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ อ่านคัมภีร์กระแสเมฆาเล่มนี้เมื่อเจ้ามีเวลา มันควรจะมีประโยชน์กับเจ้า”

 

เซี่ยวเฉินแสดงการขอบคุณอย่างรวดเร็วและรับมันไว้ คัมภีร์กระแสเมฆาเล่มนี้เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าเป็นอย่างมาก และเขาเคยได้ยินมันมาก่อน มันเป็นคัมภีร์ที่เกิดมาจากคัมภีร์ยุทธ์บรรพกาล

 

มันมีชื่อเสียงอย่างมาก และสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังจะได้รับก็คือฉบับคัดลอกของคัมภีร์กระแสเมฆาที่ได้รับการรับรองจากปรมาจารย์ มันช่างน่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

 

หลิวหรูเยว่ช่วยเซี่ยวเฉินขึ้นไปบนวิหคสีเขียว และบอกกล่าวคําอําลาของนางให้กับคนทั้งสอง จากนั้น วิหคเขียวก็กระพรือปีกอย่างรุนแรง ปลดปล่อยลมกรรโชกแรงขนาดใหญ่ในขณะที่มันพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา

 

ถังติ่งเทียนมองไปที่ทั้งสองที่จากไป “พี่น้องลู่ ข้าต้องกล่าว เจ้าใจกว้างเป็นอย่างยิ่ง เวลาปกติ เมื่อไรที่ข้าต้องการหยิบยืมคัมภีร์กระแสเมฆาของเจ้าเพื่อดู เจ้าจะมอบข้อแก้ตัว ทุกรูปแบบเพื่อปฏิเสธ ในวันนี้ เจ้ามอบมันออกไปด้วยท่าทางไม่อ้อมค้อมอย่างแท้จริง”

 

ลู่เฉินหันหลังและยิ้ม “เจ้าก็ไม่ได้ดีกว่าข้านักหรอก กระบี่นั่นคือโกวอวี้ มีต้นกําเนิดมาจากนิกายฟ้าคราม และมันไม่ใช่อาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพีธรรมดา”

 

TL : โกวอี้ แปลไทยเป็น หยกกงเล็บอสูรนะครับ แต่ลักษณะของมันจะเหมือนคาตานะของญี่ปุ่นนะครับ เป็นกระบี่งอ

 

ถังติ่งเทียนถอนหายใจและกล่าว “ข้ารู้สึกเสียดายพรสวรรค์ที่เขาได้รับ ไม่เพียงเขามีจดหมายแนะนําตัวของแม่นางเฟิง เขายังสามารถสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าเพื่อรับคุณสมบัติเพื่อเข้าสู่นิกายชั้นใน

 

“ข้าไม่รู้จริงๆว่าเก่อหยุนปืนคิดอะไรอยู่ตอนที่ส่งเขาไปยังยอดเขาฉิงหยุน มันแปลกเป็นอย่างมาก”

 

ลู่เฉินเผยการแสดงออกที่ตกใจ เขากล่าว “เขาสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้าเพียงตัวคนเดียว? เขาเป็นเพียงปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นต้น มันเป็นไปได้เช่นไร?”

 

ถังยิ่งเทียนหันหลังกลับและมองไปที่เขา “เช่นนี้เรื่องนี้จะทําให้เจ้าตกใจมากยิ่งขึ้น ในตอนที่เขาสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้า เขาเป็นเพียงขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ์ระดับสูง เขาเพิ่งจะเลื่อนขอบเขตพลังขึ้นมาหลังจากนั้น”

 

สีหน้าลู่เฉินเปลี่ยน แต่ไม่นาน เขายิ้มด้วยท่าทางที่ไร้กังวล ถังติ่งเทียนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขากล่าว “ไปเถอะ ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้าที่หลัง”

 

วิหคเขียวลอยสูงอยู่บนท้องฟ้า เซี่ยวเฉินนั่งด้านหลังของหลิวหรูเยว่ ในที่สุด เขากล่าวขึ้นมา “อาจารย์ ขอข้าถามได้หรือไม่?”

 

หลิวหรูเยว่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “เมื่อไร้ผู้คนอยู่โดยรอบ เพียงเรียกข้าว่าพี่สาวหรูเยว่เหมือนกับที่เฟิงเฟยเสวี่ยเรียก”

 

ข้าไม่ได้แก่กว่าเจ้ามากนัก ดังนั้นข้าจะไม่แกล้งเจ้ามากเกินไป”

 

เซี่ยวเฉินนตะลึงเล็กน้อย นั่นช่วยแก้ปริศนาให้เขาหนึ่งเปราะ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไมหลิวหรูเยว่ถึงต้องการตัวเขามาอยู่ใต้ปีกของนางในฐานะลูกศิษย์ในการพบกันครั้งแรก ส่วนใหญ่เป็นเพราะนางรู้จักเฟิงเฟยเสีย

 

“ข้ออยากจะถามว่า ยอดเขาฉิงหยุนมีลูกศิษย์อยู่กี่คน? มีผู้อาวุโสอยู่ที่นั่นมากเท่าไร? พี่สาวหรูเยว่มีลูกศิษย์อยู่กี่คน?” เซี่ยวเฉินสงสัยเรื่องนี้มานานแล้ว ตอนนี้เขาเพิ่งจะมีโอกาสถาม เขาจึงไม่ลังเลที่จะถาม

 

หลิวหรูเยว่หันหน้าของนางมา และถามด้วยท่าทางแปลกๆ “เจ้าไม่รู้? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่รู้อะไรเลยก่อนที่จะเข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุน?”

 

ทันใดนั้น เซี่ยวเฉินกลายเป็นรู้สึกไม่ดี เขายิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องเป็นเช่นนั้น – ข้าเข้าสู่ยอดเขาฉิงหยุนโดยไม่รู้อะไรเลย”

 

หลิวหรูเยว่รู้สึกปวดหัวขึ้นมาขณะที่นางกล่าวด้วยน้ํา เสียงขุ่นเคือง “ก่อนเจ้าจะมา คําตอบสําหรับคําถามทั้งหมดคือศูนย์ หลังจากเจ้ามาถึงคําตอบก็คือหนึ่ง”

 

เซี่ยวเฉินผิดหวัง แม้เขาจะรู้ว่ายอดเขาฉิงหยุนจะไม่น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่ามันเลวร้ายจนถึงจุดที่เรียกว่าไม่มีสักคน

 

หลิวหรูเยว่ยิ้ม “นี่คือเหตุผลที่ข้ายอมรับเจ้าในฐานะลูกศิษย์ ภายในยอดเขาฉิงหยุน เพราะไม่มีใครสอนสั่งเจ้าได้”

่ ่

“อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ต้องคิดมากเกินไป ไร้คนหารคือผลประโยชน์ เจ้าจะได้รับการสอนสั่งจากเจ้ายอดเขาเป็นการส่วนตัว สิทธิพิเศษเช่นนี้ไม่ได้มีมากนักภายในศาลากระบี่สวรรค์”

 

เจ้าแห่งยอดเขาผู้ที่ไม่ใช่ขอบเขตกษัตริย์? ความแข็งแกร่ งของเจ้านิกายชั้นนอก เก่อหยุนปืน อยู่ในจุดสูงสุดของขอบ เขตกษัตริย์แล้ว แล้วเจ้าแห่งยอดเขาภายในนิกายชั้นในจะ ต่ํากว่าได้เช่นไร?

 

อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินไม่สนใจ ท้ายที่สุด เขามาที่นี่ก็เพื่อเรียนรู้วิธีการเข้าสู่สภาวะฟังเสียงและสื่อสารกับดาบ สภาวะนี้ของตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องกับระดับการบ่มเพาะเป็นส่วนใหญ่ และความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ทําให้เขาเข้าใจมัน ในช่วงสุดท้าย พรสวรรค์และการทําความเข้าใจเป็นสิ่งที่สําคัญมากกว่า

 

สําหรับเซี่ยวเฉิน ท่านอาจารย์ผู้ที่สามารถฟังเสียงดาบและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยสิ่งนั้นมันเพียงพอที่จะชดเชยข้อบกพร่องทั้งหมดของหลิวหรูเยว่

 

ไม่นาน ยอดเขาสูงตระหง่านก็ปรากฏต่อหน้าต่อตาของเซี่ยวเฉิน เมฆที่อยู่รอบภูเขาขยายออกไปทางขอบฟ้า

 

เรื่องนี้มีกลุ่มลับนะครับสามารถติดต่อได้จากเพจที่แปะอยู่ในหน้าสารบัญครับ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+