Immortal and Martial Dual Cultivation 260 สภาวะแห่งขุนเขา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 260 สภาวะแห่งขุนเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 260 สภาวะแห่งขุนเขา

 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้ลงมือทําลงไปแล้ว เขาก็ไม่ควรไปนึกเสียใจที่หลัง ในขณะที่ยังหนุ่มสาว,พวกเขาค่อยจะเปล่งประกายมิฉะนั้นในตอนที่ พวกเขาเริ่มที่จะแก่ตัวลงและการบ่มเพาะพลังของพวกเขาเริ่มเชื่องช้า,พวกเขาจะเสียโอกาสที่จะได้ฉายแสง

 

หากผู้บ่มเพาะพลังหวาดเกรงและระมัดวังไปกับทุกการกระทําสนเกินไป,สักวันพวกเขาก็จะสูญเสียแรงขับเคลื่อน

 

ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะรินเหล้า,ร่างสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขามันคือเจ้าเสี่ยวไป.ผู้กลับมาแล้วในตอนนี้

 

เมื่อเสี่ยวไปได้กลิ่นของเหล้ามันกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะหินในทันทีจากนั้น มันก็จ้องมองมาที่เซียวเฉินด้วยแววตาน่าสงสาร

 

เซี่ยวเฉินยิ้มและหยิบเอาจอกเหล้าออกมาอีกใบ หลังจากที่เขารินจนเต็ม,เขาวางลงตรงหน้าของเสี่ยวไปเสี่ยวไปเริ่มดื่มดําด้วยความสุขในทันที

 

หลังจากที่เซี่ยวเฉินจิบไปหนึ่งอีก เขาลูบเสี่ยวไปด้วยมือของเขา เขากล่า วด้วยน้ําเสียงเจือความเศร้าสร้อย“นอกจากกระบี่ในมือของข้าก็มีเพียงเจ้า ที่ติดตามข้ามาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้”

 

เสียงฝีเท้าดังออกมาจากด้านนอกอีกครั้ง เซี่ยวเฉินคุ้นเคยกับจังหวะฝีเท้านี้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องใช้สัมผัสวิญญาณ,เขาก็ได้ทันทีว่าคือหลิวสุยเฟิง 

 

ในเวลาสั้นๆ, หลิวสุยเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเซี่ยวเฉิน

 

เมื่อเซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงกระแสพลังของหลิวสุยเฟิง,ดวงตาของเขาเพิ่ง ขึ้น เขายิ้มและพูดขึ้น “ยินดีด้วยกับเจ้า เจ้าทะลวงขึ้นระดับขอบเขตนักบุญตั้งแต่ตแนไหน?”

 

หลิวสุยเฟิงได้ฝ่าฟันผ่านมาเมื่อวานก่อน เมื่อเขาได้ยินเซี่ยวเฉินกล่าวยินดี กับเขา ใบหน้าของเขาเป็นสุขขึ้นมาเขาพูดขึ้น “ข้าทะลวงระดับขึ้นมาได้ เมื่อไม่นานมานี้เป็นความชอบของดอกดาวเรืองแสงไหลมันยกระดับความ สามารถในการเข้าใจของข้าขึ้นมาได้อย่างชัดเจนคอขวดที่คอยขวางข้าในที่สุดก็แตกออก”

 

นั้นคือสิ่งที่เรียกว่าคอขวด บางครั้ง ถึงแม้ว่าจะครุ่นคิดอย่างหนักและยาว นาน,พยายามมหดทุกวิธีทางเก็ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้มันอาจจะติดอยู่ เป็นปีสองปี,หรืออาจจะตลอดกาล

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จําเป็นก็คือรอยร้าวเล็กน้อยและคอขวดในที่สุดก็จะ แตกออกดอกดาวเรืองแสงไหลของเซี่ยวเฉินก็คือรอยร้าวที่นําพาให้หลิ วสุยเฟิงทะลวงคอขวดของเขามาได้

 

หลิวสุยเฟิงหยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางเป็นกองออกมา จากนั้นเขาก็ มองพวกมันอย่างอดอิจฉาไม่ได้พร้อมกับกล่าว“พี่สาวของข้าวานให้ข้านํา มันมาให้กับเจ้าทั้งหมดมีหินวิญญาณระดับกลางสองร้อยก้อน,นับก่อนเพื่อ ความแน่ใจ”

 

เซี่ยวเฉินเก็บเอาหินวิญญาณทั้งหมดไปพร้อมกับเสียง “โซว” โดยไม่ได้ นับ จากนั้นเขาก็กล่าว “ใช่แล้ว,พี่สาวของเจ้าอยู่ที่ไหน?ทําไมนางถึงไม่ได้ มาด้วยตัวเอง?”

 

หลิวสุยเฟิงเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้พร้อมกับกล่าวขึ้น “ข้าเกือบลืมไปพี่ สาวกําลังปิดประตูฝึกฝน นางให้ข้ามาบอกเจ้าว่านางไม่อาจกางค่ายกลกระ บี่สัมบูรณ์โบราณให้เจ้าได้ตลอดระยะเวลานี้นางกล่าวว่าเจ้าควรใช่เวลาบ่ม เพาะพลังและสร้างความมั่นคง”

 

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อยเขารู้สึกว่ามันแปลกประหลาดที่นางปิดประตู ฝึกฝนในตอนที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ไม่มีปัญหาเจ้ารู้หรือไม่ว่าทําไมนางจึงได้ ปิดประตูฝึกฝน?”

 

เซี่ยวเฉินได้ทั่มเทเวลาไปมากในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ,และเกือบที่ จะสัมผัสถึงผิวเผินของฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันเขาเพียงแค่รอโอกาสสั้นๆก่อนเขาจะเข้าใจถึง

 

ในช่วงสั้นๆ ไม่เป็นปัญหาสําหรับการไม่เข้าถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสา รกับมันเซียวเฉินเป็นกังวลเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่มสกกว่าทําไมนางถึงได้ปิดป ระตูฝึกฝน?

 

หลิวสุยเฟิงส่ายหัวและกล่าว “ข้าไม่แน่ใจเหมือนมีบางสิ่งกําลังรบกวนนาง,แต่ข้าไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะถามนางหากไม่มีอะไรแล้ว,ข้าขอตัวก่ อน

 

เซียวเฉินรั้งเขาเอาไว้ “ทําไมไม่นั่งอยู่ดื่มกันสักหน่อยแล้วค่อยไป?”

 

หลิวสุยเฟิงเกือบที่จะตกลงแต่เมื่อเขามองเห็นเสี่ยวไปกําลังมองตาขวาง มาทางเขา เขาเปลี่ยนใจในทันที “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทําดังนั้นข้าต้องขอตัวก่อน”

 

เทือกเขาหลิงหยุน,ใกล้น้ําตกเดียวดายที่ด้านหลังของภูเขา

 

น้ําตกไหลหลากลงมาจากที่สูงส่งเสียงดังออกมาไม่หยุดหย่อนเมฆเทาห มุนวนอยู่บนท้องฟ้าเบื้องบน,สายฟ้าแผดเสียงเกรียวกราว

 

เซี่ยวเฉินยืนอยู่ตรงแม่น้ําที่กลายเป็นน้ําตกลงไป เขาชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาจากฝัก มีแสงกระบี่วูบไหวและสายฟ้าแตกเสียงไม่หยุด

 

ทันใดนั้น เมฆาไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นรอบกายของเซี่ยวเฉินสายฟ้าจุดประกายแสงออกมาในหมู่เมฆ,ทําให้ชั้นเมฆขยายออกจากกัน

 

ในขณะเดียวกัน มันก็เกิดเสียงฟ้าคํารามก้องสายแม่น้ําเชี่ยวหลาดเกิด เป็นคลื่นเข้าจังหวะกับเสียงสายฟ้า

 

“ปลุกเมฆานิรันดร์!”

 

ทันทีที่หมู่เมฆาแตกตัว,กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะปลดปล่อยกระบี่ฉีออกมา กระบี่ฉีถูกลบหายไปหลังจากวูบผ่าน,ราวกับว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา 

 

เซี่ยวเฉินกวาดกระบี่ของเขาขึ้นและร้องตะโกน “ระเบิด!”

 

พร้อมกับเสียง ฉิวะ กระบี่นี่ที่เดิมที่จางหายไปทันใดนั้นก็ระเบิดขึ้นใน อากาศ กระบี่ฉีสีม่วงถูกล้อมรอบด้วยประกายแสงสายฟ้าอันไร้ขอบเขตพร้ อมกับระเบิดขึ้นในอากาศ

 

“เปรี้ยะ เปรี้ยะ!”

 

ประกายแสงแตกตัวบนผิวน้ํา หลังจากที่มันจบลง,น้ําตกที่ดชี่ยวหลากดู ราวกับถูกฟันขาดครึ่ง แสงสายฟ้าบนพื้นผิวไม่ได้จางหายไปเป็นเวลานาน

 

น้ําตกที่ถาโถมลงมาด้วยพลังหลายพันกิโลกรัมถูกหยุดลงด้วยพลังงาน สายฟ้าอันน่าหวาดกลัวมันเพียงลอยอยู่ในอากาศราวกับถูกแช่แข็ง

 

เซี่ยวเฉินถอนกระบี่ของเขากลับมาและเก็บคืนเข้าฝัก เขามองดูที่กระแส ไฟฟ้าสีม่วงในอากาศที่ไม่ได้จางหายไปและกล่าว“ปลุกเมฆานิรันดร์….หลัง จากที่สภาวะแห่งสายฟ้าถูกเพิ่มเข้าไป.พลังของมันเพิ่มขึ้นถึงสองในสิบสวน”

 

แม้ว่าพลังของปลุกเมฆานิรันดร์จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเซี่ยวเฉินก็ไม่ได้ มีท่าที่เป็นสุขแต่อย่างใด

 

มันก็เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้วที่เขากลับออกมาจากมิติย่อยตลอดครี่งเดือนที่ผ่านมาเซียวเฉินได้ย่อยทักสิ่งอย่างที่เขาได้ดรียนรู้มาจากภายในมิติย่อย

 

การต่อสู้อันดุเดือดนั้นกล่าวได้ว่าเป็นการนอสู้ที่เข้มข้นที่สุดเท่าที่เขาเคย ประสบมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางกายและจิตใจ

 

การต่อสู้ที่ต่อเนื่องและไม่จบไม่สิ้น,สัตว์อสูรปีศาจที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่าง ไม่หยุดหย่อน,และรวมถึงพวกปีศาจที่ซุ่มอยู่ภายในปาลอบโจมตีพวกเขา เป็นผลให้พวกเขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

การฝึกฝนจากประสบการณ์สองวันนั้นเป็นผลได้พัฒนาดีเยี่ยมกว่าการ ฝึกฝนตามปกติอย่างน้อยหนึ่งเดือน

 

หลังจากผ่านมาครึ่งเดือน,เซี่ยวเฉินได้ย่อยสิ่งที่เขาได้รับมาจนหมดผล จากการฝึกฝนเป็นผลให้การบ่มเพาะพลังของเขาที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้ นต้นเริ่มนิ่งเสถียรเขาสามารถดันตัวเองขึ้นไปถึงจุดยอดจุดของระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ

 

ความเข้าใจในสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาก็ขึ้นไปถึงระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน เมื่อเขาโจมตีออก,เขาสามารถแสดงพลังแห่งสายฟ้าออกมาได้

 

ด้วยรวามช่วยเหลือของสภาวะแห่งสายฟ้า,สภาวะแห่งเมฆาในทักษะกระ บี่หลิงหยุนเพิ่มพลังมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจยกระดับสภาวะแห่ง ขุนเขาขึ้นได้

 

นี่เป็นผลทําให้เขาไม่อาจที่จะเข้าใจถึงกระบวณท่าสุดท้ายของทักษะ กระบี่หลิงหยุนได้ อย่างที่เป็นเช่นนั้น แม้แต่กระบวณท่าที่สิบเจ็ดเบี่ยงวิถี รอบยอดเขาก็เริ่มที่จะแสดงออกมาได้ไม่มั่นคง

 

ดังนั้น ถึงแม้ว่าพลังของปลุกเมฆานิรันดร์จะเพิ่มมากขึ้น เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจจะดีใจ

 

กระแสไฟฟ้าในอากาศเริ่มจางหายออกไป,น้ําตกเชี่ยวหลากเริ่มเลื่อนไห ลออกครั้งเสียงน้ําตกกระทบกับแม่น้ําเริ่มดังกลับมาอีกครั้ง

 

เซี่ยวเฉินกล่าว “ดูเหมือนข้าจะต้องเริ่มเสาะหาทักษะกระบี่ธาตุสายฟ้าแล้วจริงๆ ถึงยังไงระดับของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันก็ต่ําเกินไปมันไม่เห มาะมือข้าอีกต่อไป นอกจากนั้น มันยังเถรตรงมากเกินไปไม่มีทางที่จะพลิก แพลงได้ในการต่อสู้”

 

หลังจากที่ภารกิจภายในมิติย่อยจบลงเขาสามารถเลือกอาวุธวิญญาณ,เกราะศึก,หรือทักษะต่อสู้ได้เชี่ยวเฉินได้เลือกทักษะต่อสู้

 

ตลอดช่วงเวลานี้ เซียวเฉินตระเวนไปทุกห้องสมุดของทุกยอดเขาเพื่อมอง หาดูในตอนที่เขามีเวลา ท้ายที่สุดเขาก็ต้องผิดหวัง

 

มีทักษะต่อสู้ธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์อยู่น้อยมาก ถึงแม้จะพอมีอยู่บ้าง,ระดับ ของพวกมันก็ต่ําเกินไปและไม่เข้าตาของเซียวเฉินในเมื่อมันหาไม่ได้ในศาลากระบี่สวรรค์เขาทําได้เพียงออกจากภูเขาไปเพื่อตามหาดู

 

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะออกไป,เขาต้องทําอะไรบ้างอย่างเสียก่อน เขาได้ให้หยุ่นเข่อซินหยิบยืมอาวุธระดับสวรรค์กระบี่มังกรคํารนไปแต่อย่าง ไรก็ตาม ไม่รู้ว่าทําไม,นางยังไม่ได้นํากลับมาคืนเขา

 

เดิมทีเขาอยากจะปล่อยผ่านไปสักหนึ่งอาทิตย์ก่อนที่จะไปถามหาถึงอ ย่างไร, เซียวเฉินก็ยังไม่ไปถึงขั้นที่หยิบแจกอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ไป อย่างง่ายดาย

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นช่วงเวลาสําคัญในการบ่มเพาะพลังของเขานอกจาก นั้น,ด้วยนิสัยของหยุ่นเข่อซิน,ไม่มีทางที่นางจะไม่จ่ายคืนหนี้ที่นางหยิบยืมไป ดังนั้น เขาก็เลยปล่อยผ่านมาจนถึงวันนี้

 

เซี่ยวเฉินออกจากยอดเขาฉิงหยุนและไล่ถามถึงที่อยู่ของหยุ่นเข่อซินภายในศาลากระบี่สวรรค์ หลังจากนั้นเขาก็ไม่เร่งรีบค่อยเดินไปอย่างสงบ

 

ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาครึ่งเดือน,เซี่ยวเฉินก็ไม่กังวลที่หยุ่นเข่อซินจะเก็บ เอากระบี่มังกรคํารนไปเป็นของตัวเอง เซี่ยวเฉินคาดเดาว่านางมีเรื่องเร่งด่วนที่จําเป็นต้องใช้กระบี่มังกรคํารน,ดังนั้นนางจึงหยิบยืมเอาไว้ชั่วคราว 

 

บางครั้ง กระแสพลังของบุคคลนั้นจะเผยนิสัยของบุคคลนั้นออกมากระแสพลังที่หยุ่นเข่อซินส่งออกมาทั้งสงบและเยือกเย็นไม่มีทางที่นางจะทําอะ ไรน่ารังเกียจ

 

นอกจากนั้นเซี่ยวเฉินได้สัมผัสกับกระแสพลังนี้ตลอดเวลา และแน่ใจว่ามันไม่ใช่จริงปลอมแปลง

 

“เจ้าบอกว่าหยุ่นเข่อซินได้จากออกไปเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว?”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินไปถึงที่พักของหยุ่นเข่อซิน,เขาไม่พบนางเขามองเห็นเพียง สาวรับใช้ที่กําลังเก็บกวาดสถานที่หลังจากที่เขาถามหาหยุ่นเข่อซิน,เขาก็ ได้รับคําตอบนี้มา

 

ครึ่งเดือนก่อน เป็นตอนที่พวกเรากลับออกมาจากมิติย่อย,เซี่ยวเฉินครุ่น คิดกับตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ถึงได้เร่งรีบออกไปเช่นนั้น?

 

“หรือท่านจะเป็นนายน้อยเย่แห่งยอดเขาฉิงหยุน?” สาวรับใช้คนนั้นถามขึ้นเมื่อนางสังเกตเห็นเหรียญแสดงตนที่แขวนอยู่ที่เอวของเซี่ยวเฉิน 

 

เซี่ยวเฉินพยักหน้าและกล่าว “ถูกต้อง,ข้ารอเย่เฉินแห่งยอดเขาฉิงหยุนนี่ คือเหรียญแสดงตนของข้า”

 

สาวรับใช้ยิ้มและหยิบเอาบันทึกออกมา “เป็นท่านนั้นเอง ก่อนที่แม่นางหยุ่นจะจากไป,นางทิ้งข้อความนี้เอาไว้นางกล่าวว่าให้ส่งข้อความนี้ให้หา กมีคนที่มาจากยอดเขาฉิงหยุ่นเข้ามาถามหานาง”

 

“มันก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ท่านก็ไม่มาสักที ข้าก็เกือบจะลืมไปแล้ว”

 

เซี่ยวเฉินรับเอากระดาษมาและค่อยๆเปิดออก จากนั้นเขาก็อ่านออกในใจ พี่น้องเย่มีเรื่องเร่งด่วนบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของข้าและข้าจําเป็นต้องห ยิบยืมกระบี่มังกรคํารนของเจ้า

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

เรื่องนี้เกิดฉับพลันและข้าไม่อาจบอกกล่าวกับเจ้าได้ด้วยตัวเอง,ข้าหวังว่า เจ้าจะไม่ถือโทษข้า มีหินวิญญาณจํานวนหนึ่งอยู่ใต้เตียง;คิดเสียว่ามันเป็นค่า หยิบยืมอาวุธระดับสวรรค์ของเจ้าข้าจะกล่าวขอบคุณเจ้าอีกครั้งเมื่อพวกเรา พบกันอีกในอนาคตข้าเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นเบาๆและเผาข้อความในมือของเขาทิ้งมันเป็นไปตามทร่ เขาคาดเดา หยุ่นเข่อซินมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปจัดการและตําเป็นต้องหยิบยี มกระบี่มังกรคํารน

 

เซี่ยวเฉินมองไปที่สาวรับใช้และยิ้มขึ้น “เจ้าได้ลืมไปหรือไม่ว่ามีของบางอ ย่างที่แม่นางหยุ่นอยากจะส่งให้กับข้า?”

 

สาวรับใช้ครุ่นคิดสับสนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว “ใช่แล้ว,ข้าจําได้แล้วมีกล่องบางอย่างอยู่ที่ใต้เตียง มันค่อนข้างหนัก,ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรท่า หญิงน้อยสั่งเอาไว้ห้ามไม่ให้เปิดมันข้าก็เกือบจะลืมไปแล้ว”

 

สาวรับใช้นําทางเซียวเฉินไปที่ห้องนอนของหยุ่นเข่อซินและพยายามดึง เอากล่องใบนั้นออกมาแต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ใส่แรงลงไปทั้งหมด,นางก็ไม่อาจขยับเขยื้อนมันได้แม้แต่น้อย

 

เซี่ยวเฉินนิบห้ามนางเอาไว้และดึงกล่องใบนั้นออกมาด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปิดมันเขาขยายสัมผัสวิญญาณออกมาและพบว่ามีหิน วิญญาณระดับต่ํากองเป็นภูเขาเมื่อเขานับแบบหยาบๆ มันมีจํานวนอย่างน้อยห้าพันก้อน

 

หยุ่นเข่อซินช่างใจกว้างอยู่สงแท้จริง มีหินวิญญาณระดับต่ํามากกว่าห้า พันก้อนและนางเพียงเก็บพวกมันเอาไว้ให้เตียงนางไม่เกรงกลัวว่าจะมีใคร เข้ามาขโมยมัน?

 

หินวิญญาณมากมายหล่นลงมาทับอย่างไม่คาดคิดหลังจากที่เซี่ยวเฉินก วาดพวกมันทั้งหมดลงในแหวนห้วงจักรวาลของเขาเขาก็จากไป

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 260 สภาวะแห่งขุนเขา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 260 สภาวะแห่งขุนเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 260 สภาวะแห่งขุนเขา

 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้ลงมือทําลงไปแล้ว เขาก็ไม่ควรไปนึกเสียใจที่หลัง ในขณะที่ยังหนุ่มสาว,พวกเขาค่อยจะเปล่งประกายมิฉะนั้นในตอนที่ พวกเขาเริ่มที่จะแก่ตัวลงและการบ่มเพาะพลังของพวกเขาเริ่มเชื่องช้า,พวกเขาจะเสียโอกาสที่จะได้ฉายแสง

 

หากผู้บ่มเพาะพลังหวาดเกรงและระมัดวังไปกับทุกการกระทําสนเกินไป,สักวันพวกเขาก็จะสูญเสียแรงขับเคลื่อน

 

ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะรินเหล้า,ร่างสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขามันคือเจ้าเสี่ยวไป.ผู้กลับมาแล้วในตอนนี้

 

เมื่อเสี่ยวไปได้กลิ่นของเหล้ามันกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะหินในทันทีจากนั้น มันก็จ้องมองมาที่เซียวเฉินด้วยแววตาน่าสงสาร

 

เซี่ยวเฉินยิ้มและหยิบเอาจอกเหล้าออกมาอีกใบ หลังจากที่เขารินจนเต็ม,เขาวางลงตรงหน้าของเสี่ยวไปเสี่ยวไปเริ่มดื่มดําด้วยความสุขในทันที

 

หลังจากที่เซี่ยวเฉินจิบไปหนึ่งอีก เขาลูบเสี่ยวไปด้วยมือของเขา เขากล่า วด้วยน้ําเสียงเจือความเศร้าสร้อย“นอกจากกระบี่ในมือของข้าก็มีเพียงเจ้า ที่ติดตามข้ามาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้”

 

เสียงฝีเท้าดังออกมาจากด้านนอกอีกครั้ง เซี่ยวเฉินคุ้นเคยกับจังหวะฝีเท้านี้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องใช้สัมผัสวิญญาณ,เขาก็ได้ทันทีว่าคือหลิวสุยเฟิง 

 

ในเวลาสั้นๆ, หลิวสุยเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเซี่ยวเฉิน

 

เมื่อเซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงกระแสพลังของหลิวสุยเฟิง,ดวงตาของเขาเพิ่ง ขึ้น เขายิ้มและพูดขึ้น “ยินดีด้วยกับเจ้า เจ้าทะลวงขึ้นระดับขอบเขตนักบุญตั้งแต่ตแนไหน?”

 

หลิวสุยเฟิงได้ฝ่าฟันผ่านมาเมื่อวานก่อน เมื่อเขาได้ยินเซี่ยวเฉินกล่าวยินดี กับเขา ใบหน้าของเขาเป็นสุขขึ้นมาเขาพูดขึ้น “ข้าทะลวงระดับขึ้นมาได้ เมื่อไม่นานมานี้เป็นความชอบของดอกดาวเรืองแสงไหลมันยกระดับความ สามารถในการเข้าใจของข้าขึ้นมาได้อย่างชัดเจนคอขวดที่คอยขวางข้าในที่สุดก็แตกออก”

 

นั้นคือสิ่งที่เรียกว่าคอขวด บางครั้ง ถึงแม้ว่าจะครุ่นคิดอย่างหนักและยาว นาน,พยายามมหดทุกวิธีทางเก็ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้มันอาจจะติดอยู่ เป็นปีสองปี,หรืออาจจะตลอดกาล

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จําเป็นก็คือรอยร้าวเล็กน้อยและคอขวดในที่สุดก็จะ แตกออกดอกดาวเรืองแสงไหลของเซี่ยวเฉินก็คือรอยร้าวที่นําพาให้หลิ วสุยเฟิงทะลวงคอขวดของเขามาได้

 

หลิวสุยเฟิงหยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางเป็นกองออกมา จากนั้นเขาก็ มองพวกมันอย่างอดอิจฉาไม่ได้พร้อมกับกล่าว“พี่สาวของข้าวานให้ข้านํา มันมาให้กับเจ้าทั้งหมดมีหินวิญญาณระดับกลางสองร้อยก้อน,นับก่อนเพื่อ ความแน่ใจ”

 

เซี่ยวเฉินเก็บเอาหินวิญญาณทั้งหมดไปพร้อมกับเสียง “โซว” โดยไม่ได้ นับ จากนั้นเขาก็กล่าว “ใช่แล้ว,พี่สาวของเจ้าอยู่ที่ไหน?ทําไมนางถึงไม่ได้ มาด้วยตัวเอง?”

 

หลิวสุยเฟิงเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้พร้อมกับกล่าวขึ้น “ข้าเกือบลืมไปพี่ สาวกําลังปิดประตูฝึกฝน นางให้ข้ามาบอกเจ้าว่านางไม่อาจกางค่ายกลกระ บี่สัมบูรณ์โบราณให้เจ้าได้ตลอดระยะเวลานี้นางกล่าวว่าเจ้าควรใช่เวลาบ่ม เพาะพลังและสร้างความมั่นคง”

 

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อยเขารู้สึกว่ามันแปลกประหลาดที่นางปิดประตู ฝึกฝนในตอนที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ไม่มีปัญหาเจ้ารู้หรือไม่ว่าทําไมนางจึงได้ ปิดประตูฝึกฝน?”

 

เซี่ยวเฉินได้ทั่มเทเวลาไปมากในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ,และเกือบที่ จะสัมผัสถึงผิวเผินของฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันเขาเพียงแค่รอโอกาสสั้นๆก่อนเขาจะเข้าใจถึง

 

ในช่วงสั้นๆ ไม่เป็นปัญหาสําหรับการไม่เข้าถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสา รกับมันเซียวเฉินเป็นกังวลเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่มสกกว่าทําไมนางถึงได้ปิดป ระตูฝึกฝน?

 

หลิวสุยเฟิงส่ายหัวและกล่าว “ข้าไม่แน่ใจเหมือนมีบางสิ่งกําลังรบกวนนาง,แต่ข้าไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะถามนางหากไม่มีอะไรแล้ว,ข้าขอตัวก่ อน

 

เซียวเฉินรั้งเขาเอาไว้ “ทําไมไม่นั่งอยู่ดื่มกันสักหน่อยแล้วค่อยไป?”

 

หลิวสุยเฟิงเกือบที่จะตกลงแต่เมื่อเขามองเห็นเสี่ยวไปกําลังมองตาขวาง มาทางเขา เขาเปลี่ยนใจในทันที “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทําดังนั้นข้าต้องขอตัวก่อน”

 

เทือกเขาหลิงหยุน,ใกล้น้ําตกเดียวดายที่ด้านหลังของภูเขา

 

น้ําตกไหลหลากลงมาจากที่สูงส่งเสียงดังออกมาไม่หยุดหย่อนเมฆเทาห มุนวนอยู่บนท้องฟ้าเบื้องบน,สายฟ้าแผดเสียงเกรียวกราว

 

เซี่ยวเฉินยืนอยู่ตรงแม่น้ําที่กลายเป็นน้ําตกลงไป เขาชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาจากฝัก มีแสงกระบี่วูบไหวและสายฟ้าแตกเสียงไม่หยุด

 

ทันใดนั้น เมฆาไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นรอบกายของเซี่ยวเฉินสายฟ้าจุดประกายแสงออกมาในหมู่เมฆ,ทําให้ชั้นเมฆขยายออกจากกัน

 

ในขณะเดียวกัน มันก็เกิดเสียงฟ้าคํารามก้องสายแม่น้ําเชี่ยวหลาดเกิด เป็นคลื่นเข้าจังหวะกับเสียงสายฟ้า

 

“ปลุกเมฆานิรันดร์!”

 

ทันทีที่หมู่เมฆาแตกตัว,กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะปลดปล่อยกระบี่ฉีออกมา กระบี่ฉีถูกลบหายไปหลังจากวูบผ่าน,ราวกับว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา 

 

เซี่ยวเฉินกวาดกระบี่ของเขาขึ้นและร้องตะโกน “ระเบิด!”

 

พร้อมกับเสียง ฉิวะ กระบี่นี่ที่เดิมที่จางหายไปทันใดนั้นก็ระเบิดขึ้นใน อากาศ กระบี่ฉีสีม่วงถูกล้อมรอบด้วยประกายแสงสายฟ้าอันไร้ขอบเขตพร้ อมกับระเบิดขึ้นในอากาศ

 

“เปรี้ยะ เปรี้ยะ!”

 

ประกายแสงแตกตัวบนผิวน้ํา หลังจากที่มันจบลง,น้ําตกที่ดชี่ยวหลากดู ราวกับถูกฟันขาดครึ่ง แสงสายฟ้าบนพื้นผิวไม่ได้จางหายไปเป็นเวลานาน

 

น้ําตกที่ถาโถมลงมาด้วยพลังหลายพันกิโลกรัมถูกหยุดลงด้วยพลังงาน สายฟ้าอันน่าหวาดกลัวมันเพียงลอยอยู่ในอากาศราวกับถูกแช่แข็ง

 

เซี่ยวเฉินถอนกระบี่ของเขากลับมาและเก็บคืนเข้าฝัก เขามองดูที่กระแส ไฟฟ้าสีม่วงในอากาศที่ไม่ได้จางหายไปและกล่าว“ปลุกเมฆานิรันดร์….หลัง จากที่สภาวะแห่งสายฟ้าถูกเพิ่มเข้าไป.พลังของมันเพิ่มขึ้นถึงสองในสิบสวน”

 

แม้ว่าพลังของปลุกเมฆานิรันดร์จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเซี่ยวเฉินก็ไม่ได้ มีท่าที่เป็นสุขแต่อย่างใด

 

มันก็เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้วที่เขากลับออกมาจากมิติย่อยตลอดครี่งเดือนที่ผ่านมาเซียวเฉินได้ย่อยทักสิ่งอย่างที่เขาได้ดรียนรู้มาจากภายในมิติย่อย

 

การต่อสู้อันดุเดือดนั้นกล่าวได้ว่าเป็นการนอสู้ที่เข้มข้นที่สุดเท่าที่เขาเคย ประสบมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางกายและจิตใจ

 

การต่อสู้ที่ต่อเนื่องและไม่จบไม่สิ้น,สัตว์อสูรปีศาจที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่าง ไม่หยุดหย่อน,และรวมถึงพวกปีศาจที่ซุ่มอยู่ภายในปาลอบโจมตีพวกเขา เป็นผลให้พวกเขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

การฝึกฝนจากประสบการณ์สองวันนั้นเป็นผลได้พัฒนาดีเยี่ยมกว่าการ ฝึกฝนตามปกติอย่างน้อยหนึ่งเดือน

 

หลังจากผ่านมาครึ่งเดือน,เซี่ยวเฉินได้ย่อยสิ่งที่เขาได้รับมาจนหมดผล จากการฝึกฝนเป็นผลให้การบ่มเพาะพลังของเขาที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้ นต้นเริ่มนิ่งเสถียรเขาสามารถดันตัวเองขึ้นไปถึงจุดยอดจุดของระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ

 

ความเข้าใจในสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาก็ขึ้นไปถึงระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน เมื่อเขาโจมตีออก,เขาสามารถแสดงพลังแห่งสายฟ้าออกมาได้

 

ด้วยรวามช่วยเหลือของสภาวะแห่งสายฟ้า,สภาวะแห่งเมฆาในทักษะกระ บี่หลิงหยุนเพิ่มพลังมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจยกระดับสภาวะแห่ง ขุนเขาขึ้นได้

 

นี่เป็นผลทําให้เขาไม่อาจที่จะเข้าใจถึงกระบวณท่าสุดท้ายของทักษะ กระบี่หลิงหยุนได้ อย่างที่เป็นเช่นนั้น แม้แต่กระบวณท่าที่สิบเจ็ดเบี่ยงวิถี รอบยอดเขาก็เริ่มที่จะแสดงออกมาได้ไม่มั่นคง

 

ดังนั้น ถึงแม้ว่าพลังของปลุกเมฆานิรันดร์จะเพิ่มมากขึ้น เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจจะดีใจ

 

กระแสไฟฟ้าในอากาศเริ่มจางหายออกไป,น้ําตกเชี่ยวหลากเริ่มเลื่อนไห ลออกครั้งเสียงน้ําตกกระทบกับแม่น้ําเริ่มดังกลับมาอีกครั้ง

 

เซี่ยวเฉินกล่าว “ดูเหมือนข้าจะต้องเริ่มเสาะหาทักษะกระบี่ธาตุสายฟ้าแล้วจริงๆ ถึงยังไงระดับของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันก็ต่ําเกินไปมันไม่เห มาะมือข้าอีกต่อไป นอกจากนั้น มันยังเถรตรงมากเกินไปไม่มีทางที่จะพลิก แพลงได้ในการต่อสู้”

 

หลังจากที่ภารกิจภายในมิติย่อยจบลงเขาสามารถเลือกอาวุธวิญญาณ,เกราะศึก,หรือทักษะต่อสู้ได้เชี่ยวเฉินได้เลือกทักษะต่อสู้

 

ตลอดช่วงเวลานี้ เซียวเฉินตระเวนไปทุกห้องสมุดของทุกยอดเขาเพื่อมอง หาดูในตอนที่เขามีเวลา ท้ายที่สุดเขาก็ต้องผิดหวัง

 

มีทักษะต่อสู้ธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์อยู่น้อยมาก ถึงแม้จะพอมีอยู่บ้าง,ระดับ ของพวกมันก็ต่ําเกินไปและไม่เข้าตาของเซียวเฉินในเมื่อมันหาไม่ได้ในศาลากระบี่สวรรค์เขาทําได้เพียงออกจากภูเขาไปเพื่อตามหาดู

 

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะออกไป,เขาต้องทําอะไรบ้างอย่างเสียก่อน เขาได้ให้หยุ่นเข่อซินหยิบยืมอาวุธระดับสวรรค์กระบี่มังกรคํารนไปแต่อย่าง ไรก็ตาม ไม่รู้ว่าทําไม,นางยังไม่ได้นํากลับมาคืนเขา

 

เดิมทีเขาอยากจะปล่อยผ่านไปสักหนึ่งอาทิตย์ก่อนที่จะไปถามหาถึงอ ย่างไร, เซียวเฉินก็ยังไม่ไปถึงขั้นที่หยิบแจกอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ไป อย่างง่ายดาย

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นช่วงเวลาสําคัญในการบ่มเพาะพลังของเขานอกจาก นั้น,ด้วยนิสัยของหยุ่นเข่อซิน,ไม่มีทางที่นางจะไม่จ่ายคืนหนี้ที่นางหยิบยืมไป ดังนั้น เขาก็เลยปล่อยผ่านมาจนถึงวันนี้

 

เซี่ยวเฉินออกจากยอดเขาฉิงหยุนและไล่ถามถึงที่อยู่ของหยุ่นเข่อซินภายในศาลากระบี่สวรรค์ หลังจากนั้นเขาก็ไม่เร่งรีบค่อยเดินไปอย่างสงบ

 

ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาครึ่งเดือน,เซี่ยวเฉินก็ไม่กังวลที่หยุ่นเข่อซินจะเก็บ เอากระบี่มังกรคํารนไปเป็นของตัวเอง เซี่ยวเฉินคาดเดาว่านางมีเรื่องเร่งด่วนที่จําเป็นต้องใช้กระบี่มังกรคํารน,ดังนั้นนางจึงหยิบยืมเอาไว้ชั่วคราว 

 

บางครั้ง กระแสพลังของบุคคลนั้นจะเผยนิสัยของบุคคลนั้นออกมากระแสพลังที่หยุ่นเข่อซินส่งออกมาทั้งสงบและเยือกเย็นไม่มีทางที่นางจะทําอะ ไรน่ารังเกียจ

 

นอกจากนั้นเซี่ยวเฉินได้สัมผัสกับกระแสพลังนี้ตลอดเวลา และแน่ใจว่ามันไม่ใช่จริงปลอมแปลง

 

“เจ้าบอกว่าหยุ่นเข่อซินได้จากออกไปเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว?”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินไปถึงที่พักของหยุ่นเข่อซิน,เขาไม่พบนางเขามองเห็นเพียง สาวรับใช้ที่กําลังเก็บกวาดสถานที่หลังจากที่เขาถามหาหยุ่นเข่อซิน,เขาก็ ได้รับคําตอบนี้มา

 

ครึ่งเดือนก่อน เป็นตอนที่พวกเรากลับออกมาจากมิติย่อย,เซี่ยวเฉินครุ่น คิดกับตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่ถึงได้เร่งรีบออกไปเช่นนั้น?

 

“หรือท่านจะเป็นนายน้อยเย่แห่งยอดเขาฉิงหยุน?” สาวรับใช้คนนั้นถามขึ้นเมื่อนางสังเกตเห็นเหรียญแสดงตนที่แขวนอยู่ที่เอวของเซี่ยวเฉิน 

 

เซี่ยวเฉินพยักหน้าและกล่าว “ถูกต้อง,ข้ารอเย่เฉินแห่งยอดเขาฉิงหยุนนี่ คือเหรียญแสดงตนของข้า”

 

สาวรับใช้ยิ้มและหยิบเอาบันทึกออกมา “เป็นท่านนั้นเอง ก่อนที่แม่นางหยุ่นจะจากไป,นางทิ้งข้อความนี้เอาไว้นางกล่าวว่าให้ส่งข้อความนี้ให้หา กมีคนที่มาจากยอดเขาฉิงหยุ่นเข้ามาถามหานาง”

 

“มันก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ท่านก็ไม่มาสักที ข้าก็เกือบจะลืมไปแล้ว”

 

เซี่ยวเฉินรับเอากระดาษมาและค่อยๆเปิดออก จากนั้นเขาก็อ่านออกในใจ พี่น้องเย่มีเรื่องเร่งด่วนบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของข้าและข้าจําเป็นต้องห ยิบยืมกระบี่มังกรคํารนของเจ้า

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

เรื่องนี้เกิดฉับพลันและข้าไม่อาจบอกกล่าวกับเจ้าได้ด้วยตัวเอง,ข้าหวังว่า เจ้าจะไม่ถือโทษข้า มีหินวิญญาณจํานวนหนึ่งอยู่ใต้เตียง;คิดเสียว่ามันเป็นค่า หยิบยืมอาวุธระดับสวรรค์ของเจ้าข้าจะกล่าวขอบคุณเจ้าอีกครั้งเมื่อพวกเรา พบกันอีกในอนาคตข้าเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นเบาๆและเผาข้อความในมือของเขาทิ้งมันเป็นไปตามทร่ เขาคาดเดา หยุ่นเข่อซินมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปจัดการและตําเป็นต้องหยิบยี มกระบี่มังกรคํารน

 

เซี่ยวเฉินมองไปที่สาวรับใช้และยิ้มขึ้น “เจ้าได้ลืมไปหรือไม่ว่ามีของบางอ ย่างที่แม่นางหยุ่นอยากจะส่งให้กับข้า?”

 

สาวรับใช้ครุ่นคิดสับสนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว “ใช่แล้ว,ข้าจําได้แล้วมีกล่องบางอย่างอยู่ที่ใต้เตียง มันค่อนข้างหนัก,ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรท่า หญิงน้อยสั่งเอาไว้ห้ามไม่ให้เปิดมันข้าก็เกือบจะลืมไปแล้ว”

 

สาวรับใช้นําทางเซียวเฉินไปที่ห้องนอนของหยุ่นเข่อซินและพยายามดึง เอากล่องใบนั้นออกมาแต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ใส่แรงลงไปทั้งหมด,นางก็ไม่อาจขยับเขยื้อนมันได้แม้แต่น้อย

 

เซี่ยวเฉินนิบห้ามนางเอาไว้และดึงกล่องใบนั้นออกมาด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปิดมันเขาขยายสัมผัสวิญญาณออกมาและพบว่ามีหิน วิญญาณระดับต่ํากองเป็นภูเขาเมื่อเขานับแบบหยาบๆ มันมีจํานวนอย่างน้อยห้าพันก้อน

 

หยุ่นเข่อซินช่างใจกว้างอยู่สงแท้จริง มีหินวิญญาณระดับต่ํามากกว่าห้า พันก้อนและนางเพียงเก็บพวกมันเอาไว้ให้เตียงนางไม่เกรงกลัวว่าจะมีใคร เข้ามาขโมยมัน?

 

หินวิญญาณมากมายหล่นลงมาทับอย่างไม่คาดคิดหลังจากที่เซี่ยวเฉินก วาดพวกมันทั้งหมดลงในแหวนห้วงจักรวาลของเขาเขาก็จากไป

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+