Immortal and Martial Dual Cultivation 198 สมุนไพรมากมาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 198 สมุนไพรมากมาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 198 สมุนไพรมากมาย

 

เพื่อความปลอดภัย,เซี่ยวเฉินมองหาหญ้าน้ำที่ยาวประมาณสิบเมตรและผูกไว้รอบเอวของเขา หลังจากนั้นเขาก็ทําตามแผนของเขาทักย่างก้าวของเขาในคลื่นใต้น้ำผ่านไปอย่างยากลําบาก

 

เมื่อเซี่ยวเฉินมาถึงทางลาดที่ด้านข้าง,เขาก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาปีนขึ้นไปทีละขั้นขณะที่คลื่นใต้น้ำจุ่มโจมใส่เขา มีบางครั้งที่เขาเกือบจะถูกพัดลอยไป

 

เขาจมแขนของเขาลงไปในโคลนตมและในเล็บของเขาเต็มไปด้วยตะกอนสีดํา ในไม่ช้า เขาก็รอดพ้นจากอันตราย 

 

หลังจากที่พยายามอย่างมาก เซี่ยวเฉินในที่สุดก็สามารถหนีออกมาจากคลื่นใต้น้ำ เขาผ่อนร่างกายและคลายหญ้าน้ำที่มัดอยู่รอบเอวของเขา

 

เมื่อเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึงฝั่ง,เขาเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก อาการวิงเวียนที่เขารู้สึกกลายเป็นรุนแรงยิ่งขึ้น เขาพยายามรวบรวมสติและต่อต้านไม่ให้ล้มตัวลงนอน จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าชุ่มน้ำของเขาทั้งหมดออก

 

หลังจากนั้นเขาก็หยิบเสื้อผ้าแห้งสะอาดออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและสวมใส่ก่อนที่จะกลืนเม็ดยาหวนคืนโลหิตเข้าไป เมื่อเขาทําทั้งหมดเสร็จสิ้นเขาก็ลากตัวเองไปที่บนหน้าผาและเอนตัวพิงเพื่อพักผ่อน

 

เซี่ยวเฉินหลับไปโดยไม่รู้ตัวเขาเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก 

 

เมื่อเหี่ยวเฉินตื่นขึ้น,จิตใจของเขาก็ฟื้นคืนมา ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดยาหวนคืนโลหิต, อาการบาดเจ็บทางกายของเขาฟื้นคืนเช่นกัน

 

เขาหยิบเอาอาหารแห้งและน้ำออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล เขากินอาหารอย่างหิวโหยและเทน้ำตามลงคอไปอีกอึกใหญ่ หลังจากกินดื่มเสร็จสิ้น,ความแข็งแกร่งของเขาก็ฟื้นคืนมาเล็กน้อย

 

หลังจากนั้นเซี่ยวเฉินก็ลุกขึ้นยืนและสํารวจพื้นที่โดยรอบ เขาอยู่ในถ้ำมืดสลัว เซี่ยวเฉินพยายามขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลสัมผัสวิญญาณที่เขาแสนคุ้นเคยไม่ปรากฎออกมา

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขมขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นพิการจริงๆ เขาค่อยๆเดินไปที่ริมแม่น้ำและมองดูเงาสะท้อนของเขา:ผิวน้ำนิ่งสงบสะท้อนสีซีดกลับมา

 

หลังจากที่จมลงไปในน้ำเป็นเวลานาน,ผิวของเซี่ยวเฉินซีดขาวจนน่ากลัวเมีบางจุดที่ผิวหนังถึงกับลอกหลุดออกมา

 

เขาได้กลับไปสู่รูปลักษณ์แบบเดิม รูปร่างที่เขาใช้คาถาเปลี่ยนลักษณ์หายไป อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจไปใส่ใจเรื่องนี้

 

หลังจากที่เขาทําความสะอาดเล็บของเขา เขาก็เดินตามแม่น้ำไป ไม่ว่าสถาจะเป็นเช่นไร เขาต้องหาทางออกไปให้ได้

 

“ติ่ง! ติ่ง!”

 

บางครั้ง,จะมีน้ำหยดลงมาจากเพดาน ทันทีที่น้ำหยดลงมาร่างของเซี่ยวเฉินก็จะถอยกลับเพื่อหลบมัน หยดน้ำเฉียดจมูกของเขาและตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว

 

“ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของข้ายังควอยู่ความสามารถในการต่อสู้ของข้ายังไม่หายไป แม้จะไร้ซึ่งพลังปราณ,ข้าก็สามารถรู้สึกถึงจุดที่หยดน้ำหยดลงมาได้อย่างง่ายดาย” เซี่ยวเฉินเผยสีหน้าประหลาดและยินดีออกมาขณะที่กําหมัดของเขา

 

ด้วยแรงโน้มถ่วงทําให้ความเร็วของหยดน้ำตกลงมาเร็วมา แม้กระนั้น,เซี่ยวเฉินก็สามารถพึ่งความสามารถทางกาย เพื่อตรวจจับหยดน้ำก่อนที่จะหลบมันอย่างง่ายดาย

 

ความเร็วในการตอบสนองของเขาเทียบเท่ากับระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธทั่วไป สิ่งนี้ทําให้เซี่ยวเฉินฟื้นคืนความมั่นใจในตัวเอง

 

แม้จะปราศจากจิตวิญญาณยุทธ,ข้าสามารถพึ่งเพียงพลังกายเพื่อกลายเป็นปราชญ์ มันก็เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ข้าก็ทําได้เช่นกัน แสงเด็ดเดี่ยวปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวเฉิน

 

หลังจากที่เขาเดินมาเป็นเวลานาน มันก็ค่อยๆสว่างขึ้น เซี่ยวเฉินเร่งฝีเท้าขึ้นอย่างอดไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็มาถึงที่โล่งกว้าง

 

โลกใต้ดินอันกว้างใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเซี่ยวเฉิน มันสูงหลายร้อยเมตรและกว้างไปไกลสุดลูกตา

 

มีทั้งต้นไม้,ต้นหญ้าและหมู่บุปผามันมีแม้กระทั้งแม่น้ำ เขารู้สึกราวกับได้เดินทะลุม่านพลังมาและเหมือนจะเกิดเวลาหยุดลงชั่วครู่หนึ่ง

 

เซี่ยวเฉินเดินเข้าเดินออกสองสามครั้งเขากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เขาพบว่าเขาสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ,เขาก็ไม่ไปสนใจอีก

 

“ฟี! ฟี!”

 

ทันใดนั้น,นกสองสามนัวก็บินออกมาจากปาด้านหน้าของเขา เซี่ยวเฉินตกตะลึง มีสัตว์อาศัยอยู่ที่นี่? ข้าต้องระวังตัวไว้ หากข้าไปพบสัตว์อสูรดุร้ายเข้า ข้าจะเจอปัญหา

 

“ปัง! ปัง!”

 

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง,สัตว์อสูรวิญญาณตัวมหึมาพุ่งตรงออกมาจากปา นี่คือหมีเพลิงแดงเมื่อมันยืนขึ้นสองขา,มันสูงเท่ากับคนสองคนต่อกัน ดวงตาสีแดงของมันมองมาที่เซี่ยวเฉิน,เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน 

 

หมีเพลิงแดงคือสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 2 มันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตเชียวชาญยุทธ เซี่ยวเฉินเคยพบเห็นมันมาบ้างที่ภูเขาษีเจียวมันอาจจะดูดุร้ายแต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

 

อย่างไรก็ตาม, หากเซี่ยวเฉินต้องการจะจัดการกับมันไปตอนนี้ มันออกจะยากไปเล็กน้อย

 

“ปุ ปุ!” ขณะมีเซี่ยวเฉินกําลังครุ่นคิด, หมีเพลิงแดงยืนสี่ขาและพุ่งตรงเข้ามา ในไม่ช้า,มันก็มาถึงหน้าเซี่ยวเฉิน อุ้งเท้าของมันแบกพลังมากหลายร้อยกิโลกรัมกระแทกเข้ามา

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้แตกตื่น ก่อนที่อุ้งเท้าของหมีเพลิงแดงจะมาถึงเขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมและก้าวออกซ้ายอย่างใจเย็นเขาหลบการโจมตีไปได้

 

เซี่ยวเฉินตะโกนและรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาไปที่กําปั้นขวา กล้ามเนื้อทั้งหมดบนแขนขวาของเขานั้นขึ้นมา เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงพลังงานอันไร้ขอบเขตพร้อมกับชกไปที่หน้าอกของหมีเพลิงแดงด้วยความเร็วสูง

 

ต่อมาในทันที,ร่างอ้วนของหมีเพลิงแดงถูกชกและลอยกลับไปพร้อมเสียงปัง เซี่ยวเฉินสามารถได้ยินเสียงอวัยวะภายในที่ถูกทุบ หลังจากที่มันล้มลง,มันก็ไม่ยืนกลับขึ้นมาอีกเลย

 

เซี่ยวเฉินมองไปอย่างตกใจ หลังจากนั้น

 

เขาก็เห็นว่าหมีเพลิงแดงได้ตายไปแล้วจริงๆ เขาพึมพํา “เป็นไปได้อย่างไร? ที่จุดสูงสุด,พลังของกําปั้นของข้าน่าจะอยู่เพียง 1,500 กิโลกรัม ตอนนี้, จิตวิญญาณยุทธของข้าถูกทําลายและอาการบาดเจ็บยังไม่หายดีนัก ว่าตามตรง,ดึงพลังก่อนหน้าของข้าออกมาได้ถึงครึ่งมันก็เยอะมากแล้ว”

 

น้ำหนักของหมีเพลิงอย่างน้อยก็ 500 กิโลกรัม หากส่งมันลอยไปด้วยหมัดเดียวแถมอวัยวะภายในของแตกสลาย หมัดจะต้องมรพลังอย่างน้อย 2,000 กิโลกรัม

 

เซี่ยวเฉินงุนงงพร้อมกับจ้องมองไปที่หมัดของเขาเขาไม่อยากจะเชื่อ “ในหมัดเมื่อครู่, ข้ารู้สึกได้ว่าข้ายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่ทําไมพลังของข้าถึงได้เยอะกว่าเมื่อก่อนเสียอีก?”

 

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานแต่เขาก็ไม่พบคําตอบต่อไป,เซี่ยวเฉินก็ได้เข้าไปในป่า เขาพบหมีเพลิงแดงอีกตัวที่ชายป่า เมื่อมันเข้ามาใกล้ เซี่ยวเฉินก็ต่อยมัน

 

เมื่อตัวก่อนหน้า,หมีเพลิงแดงตัวขนาด 500 กิโลกรัมลอยกระเด็น อวัยวะภายในแหลกเหลวและตกตายในทันที!

 

หลังจากนั้นเซี่ยวเฉินก็เชื่อแล้วว่ามันคือเรื่องจริง;ความแข็งแกร่งของเขามากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก”เป็นไปได้ว่าการบ่มเพาะพลังของข้าไม่ได้หายไป?”

 

“ความแข็งแกร่งหมัดของข้าน่าจะมีพลังถึง 1,750 กิโลกรัม,เกือบจะถึง 2,000 กิโลกรัม มิฉะนั้น,มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารหมีเพลิงแดงได้ภายในหมัดเดียว” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างมั่นใจ

 

เกิดอะไรขึ้น? ทําไมความแข็งแกร่งกายภาพของข้าถึงได้เพิ่มขึ้น? เซี่ยวเฉินไตร่ตรองอยู่เป็นเวลานานแต่เขาก็ยังคงไม่ได้รับคําตอบ

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นบางๆ “ไม่เป็นไร,ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี เมื่อข้าคิดไม่ตกก็ไม่จําเป็นไปเสียเวลาครุ่นคิด”

 

คิดได้ดังนี้ เซี่ยวเฉินก็ออกจากป่าไป ยิ่งเข้าไปลึกในป่า เซี่ยวเฉินยิ่งรู้สึกถึงอันตราย มันจะต้องมีสัตว์อสูรวิญญาณที่ทรงพลังอยู่ในป่าแห่งนี้

 

เซี่ยวเฉินใช้เวลาที่เหลือในการสํารวจโลกในดินนี้ต่อไปในทิศตะวันออกเฉียงใต้ เซี่ยวเฉินพลกับทุ่งสมุนไพรโดยบังเอิญ

 

สมุนไพรหลากชนิดเขียวขจีหนาแน่น มีแม่งกระทั่งสมุนไพรวิญญาณอายุนับหลายร้อยปี อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะได้เข้าไปใกล้ทุ่งสมุนไพร เขารู้สึกได้ถึงกระแสพลังอันแข็งแกร่งหลายกระแส บางครั้งเขาก็ได้ยินเสียงคํารามน่ากลัวของสัตว์อสูร

 

พวกมันเป็นสัตว์อสูรวิญญาณแข็งแกร่งทั้งหมด ด้วยขอบเขตพลังของเซี่ยวเฉินในตอนนี้เขาลืมที่จะเข้าไปต่อได้เลย มองเห็นภูเขาสมบัติอยู่ข้างหน้าแต่ไม่อาจจับต้อง,ช่างเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด

 

เซี่ยวเฉินหลบเลี่ยงบริเวณนี้และเดินต่อไปข้างหน้า แม้ว่าจิตวิญญาณยุทธของเขาจะถูกทําลาย เขายังมีร่างกายที่แข็งแกร่งอยู่ ฝีเท้าของเขาไม่ได้เชื่องช้าอะไร ภายในช่วงกลางวัน

 

เขาก็ได้ตรวจสอบพื้นที่รัศมีนับพันเมตร

 

เซี่ยวเฉินพบว่าเขาได้ประเมินขนาดของโลกใต้ดินนี้แล้ว แต่หลังจากที่เขาเดินมาทั้งวัน มันครอบคลุมพื้นที่ยังได้ไม่ถึงครึ่ง

 

ไม่รู้ว่าทําไมแต่มันมีเวลากลางวันกลางคืนในโลกใต้ดินแห่งนี้ ความสว่างผันแผรไปตามการไหลของเวลาและก็ค่อยๆมืดลง

 

ไม่แน่ว่าอาจจะมีอันตรายในเวลากลางคืน เซี่ยวเฉินไม่กล้าอยู่ที่นี่ เขาถอยกลับไปจนถึงม่านพลังรอบโลกแห่งนี้ก่อนที่จะหยุดลง

 

เขาตัดสินใจนั่งลงขัดสมาธิแลพพยายามจะบ่มเพาะพลัง เซี่ยวเฉินสิ้นหวังหลังจากที่จิตวิญญาณยุทธของเขาถูกทําลาย มังกรฟ้าเป็นสัตว์อสูรโบราณ,มันจะต้องมีอะไรที่พิเศษ 

 

ตอนนี้ร่างของเซี่ยวเฉินว่างเปล่าปราศจากพลังงานจิตวิญญาณ:ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ เมื่อเทียบกับตอนที่เขาเพิ่งได้ข้ามภพมา, พลังในตอนนี้มันอ่อนยิ่งกว่าเสียอีก

 

อย่างน้อยที่สุดในตอนนั้นเขายังมีพลังงานจิตวิญญาณที่บ่มเพาะมาเป็นเวลาสิบปี แม้ว่าเขาไม่อาจจะเปลี่ยนพลังงานนั้นให้เป็นพลังปราณได้มันก็เพียงพอให้เขาใช้ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์

 

ในตอนนี้ไม่มีพลังงานจิตวิญญาณที่ว่าเหลืออยู่ในร่างกายของเขา ย้อนกลับไปในตอนนั้น,มันต้องใช้เวลาถึงสิบหกปีเพื่อที่จะมาถึงจุดนี้ หากเป็นตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมีความพยายามแรงกล้าถึงเพียงใด เขาก็อาจคงต้องยอมแพ้

 

เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงพลังงานจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบ เขาให้ความสนใจไปที่จุดตันเที่ยนของเขาพร้อมหายใจเข้าและออก เขาคงสภาพใจสงบพร้อมทั้งทําเช่นนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ

 

นี่เป็นการหายใจพื้นฐานในทวีปเที่ยนหวี่แห่งนี้ นอกจากผู้ที่เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณยุทธสืบทอด,ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพลังงานจิตวิญญาณมาตั้งแต่เกิด

 

ปราศจากพลังงานจิตวิญญาณ,ไม่มีทางที่จะหมุนเวียนทักษะบ่มเพาะพลังใดๆได้ ณ จุดนี้ คนผู้นั้นต้องฝึกวิธีหายใจเข้าออกเพื่อดูดซับพลังงานจิตวิญญาณบางส่วนเข้าไปในร่างกายของพวกเขา

 

เมื่อปริมาณพลังงานจิตวิญญาณขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง,พวกเขาก็จะสามารถเริ่มการบ่มเพาะพลังได้ ไม่มีการแบ่งระดับการหายใจ มันเป็นเพียงเรื่องธรรมดาในทวีปเทียนหวี่

 

อย่างช้าๆ อากาศธาตุที่เซี่ยวเฉินหายใจ เข้าไปในปากกลายเป็นหนาแน่นขึ้น มองจากระยะไกล,มันดูราวกับดาบที่เลือนลางมันไม่ได้จางหายไป

 

ลมหายใจอีกต่อไปของเซี่ยวเฉิน,พลังงานจิตวิญญาณบางส่วนกลายเป็นหมอกและเข้าไปในปากของเขา มันไหลอย่างช้าๆไปตามเส้นปราณของเขาและหมุนวนครบหนึ่งรอบก่อนที่จะตกลงไปที่จุดตันเทียนของเขา;ขนาดของมันราวๆนิ้วเท้าเล็กๆ

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกเป็นสุข เขาไม่ได้คาดคิดว่าสายพลังงานจิตวิญญาณที่เขาดูดซับเข้าไปในครั้งแรกจะมีขนาดใหญ่เพียงนี้ เขาจะสามารถรวบรวมพลังงานจิตวิญญาณได้เพียงพอและสามารถหมุนเวียนทักษะบ่มเพาะพลังอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์

 

เซี่ยวเฉินก่อนหน้านี้เขากังวลว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาถึงสิบหกปี ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นกังวลไปเอง หลังจากที่เขาเรียนรู้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่สองก็เป็นไปอย่างราบลื่นกว่าเดิม

 

ผ่านไปสี่ชั่วโมง,พลังงานจิตวิญญาณที่อยู่ในจุดตันเทียนของเซี่ยวเฉินก็เพียงพอที่จะหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เซี่ยวเฉินหยุดวิธีการหายใจและเริ่มเตรียมพร้อมที่จะหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์

 

ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนไปโดยไม่มีอะไรติดขัดพลังงานจิตวิญญาณโดยรอบหลั่งไหลเข้ามาในร่างของเซี่ยวเฉิน มันหลังไหลเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและเกินความคาดหมายของเซี่ยวเฉินไปโดยสิ้นเชิง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 198 สมุนไพรมากมาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 198 สมุนไพรมากมาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 198 สมุนไพรมากมาย

 

เพื่อความปลอดภัย,เซี่ยวเฉินมองหาหญ้าน้ำที่ยาวประมาณสิบเมตรและผูกไว้รอบเอวของเขา หลังจากนั้นเขาก็ทําตามแผนของเขาทักย่างก้าวของเขาในคลื่นใต้น้ำผ่านไปอย่างยากลําบาก

 

เมื่อเซี่ยวเฉินมาถึงทางลาดที่ด้านข้าง,เขาก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาปีนขึ้นไปทีละขั้นขณะที่คลื่นใต้น้ำจุ่มโจมใส่เขา มีบางครั้งที่เขาเกือบจะถูกพัดลอยไป

 

เขาจมแขนของเขาลงไปในโคลนตมและในเล็บของเขาเต็มไปด้วยตะกอนสีดํา ในไม่ช้า เขาก็รอดพ้นจากอันตราย 

 

หลังจากที่พยายามอย่างมาก เซี่ยวเฉินในที่สุดก็สามารถหนีออกมาจากคลื่นใต้น้ำ เขาผ่อนร่างกายและคลายหญ้าน้ำที่มัดอยู่รอบเอวของเขา

 

เมื่อเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึงฝั่ง,เขาเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก อาการวิงเวียนที่เขารู้สึกกลายเป็นรุนแรงยิ่งขึ้น เขาพยายามรวบรวมสติและต่อต้านไม่ให้ล้มตัวลงนอน จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าชุ่มน้ำของเขาทั้งหมดออก

 

หลังจากนั้นเขาก็หยิบเสื้อผ้าแห้งสะอาดออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและสวมใส่ก่อนที่จะกลืนเม็ดยาหวนคืนโลหิตเข้าไป เมื่อเขาทําทั้งหมดเสร็จสิ้นเขาก็ลากตัวเองไปที่บนหน้าผาและเอนตัวพิงเพื่อพักผ่อน

 

เซี่ยวเฉินหลับไปโดยไม่รู้ตัวเขาเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก 

 

เมื่อเหี่ยวเฉินตื่นขึ้น,จิตใจของเขาก็ฟื้นคืนมา ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดยาหวนคืนโลหิต, อาการบาดเจ็บทางกายของเขาฟื้นคืนเช่นกัน

 

เขาหยิบเอาอาหารแห้งและน้ำออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล เขากินอาหารอย่างหิวโหยและเทน้ำตามลงคอไปอีกอึกใหญ่ หลังจากกินดื่มเสร็จสิ้น,ความแข็งแกร่งของเขาก็ฟื้นคืนมาเล็กน้อย

 

หลังจากนั้นเซี่ยวเฉินก็ลุกขึ้นยืนและสํารวจพื้นที่โดยรอบ เขาอยู่ในถ้ำมืดสลัว เซี่ยวเฉินพยายามขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลสัมผัสวิญญาณที่เขาแสนคุ้นเคยไม่ปรากฎออกมา

 

เซี่ยวเฉินยิ้มขมขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นพิการจริงๆ เขาค่อยๆเดินไปที่ริมแม่น้ำและมองดูเงาสะท้อนของเขา:ผิวน้ำนิ่งสงบสะท้อนสีซีดกลับมา

 

หลังจากที่จมลงไปในน้ำเป็นเวลานาน,ผิวของเซี่ยวเฉินซีดขาวจนน่ากลัวเมีบางจุดที่ผิวหนังถึงกับลอกหลุดออกมา

 

เขาได้กลับไปสู่รูปลักษณ์แบบเดิม รูปร่างที่เขาใช้คาถาเปลี่ยนลักษณ์หายไป อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจไปใส่ใจเรื่องนี้

 

หลังจากที่เขาทําความสะอาดเล็บของเขา เขาก็เดินตามแม่น้ำไป ไม่ว่าสถาจะเป็นเช่นไร เขาต้องหาทางออกไปให้ได้

 

“ติ่ง! ติ่ง!”

 

บางครั้ง,จะมีน้ำหยดลงมาจากเพดาน ทันทีที่น้ำหยดลงมาร่างของเซี่ยวเฉินก็จะถอยกลับเพื่อหลบมัน หยดน้ำเฉียดจมูกของเขาและตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว

 

“ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของข้ายังควอยู่ความสามารถในการต่อสู้ของข้ายังไม่หายไป แม้จะไร้ซึ่งพลังปราณ,ข้าก็สามารถรู้สึกถึงจุดที่หยดน้ำหยดลงมาได้อย่างง่ายดาย” เซี่ยวเฉินเผยสีหน้าประหลาดและยินดีออกมาขณะที่กําหมัดของเขา

 

ด้วยแรงโน้มถ่วงทําให้ความเร็วของหยดน้ำตกลงมาเร็วมา แม้กระนั้น,เซี่ยวเฉินก็สามารถพึ่งความสามารถทางกาย เพื่อตรวจจับหยดน้ำก่อนที่จะหลบมันอย่างง่ายดาย

 

ความเร็วในการตอบสนองของเขาเทียบเท่ากับระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธทั่วไป สิ่งนี้ทําให้เซี่ยวเฉินฟื้นคืนความมั่นใจในตัวเอง

 

แม้จะปราศจากจิตวิญญาณยุทธ,ข้าสามารถพึ่งเพียงพลังกายเพื่อกลายเป็นปราชญ์ มันก็เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ข้าก็ทําได้เช่นกัน แสงเด็ดเดี่ยวปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวเฉิน

 

หลังจากที่เขาเดินมาเป็นเวลานาน มันก็ค่อยๆสว่างขึ้น เซี่ยวเฉินเร่งฝีเท้าขึ้นอย่างอดไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็มาถึงที่โล่งกว้าง

 

โลกใต้ดินอันกว้างใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเซี่ยวเฉิน มันสูงหลายร้อยเมตรและกว้างไปไกลสุดลูกตา

 

มีทั้งต้นไม้,ต้นหญ้าและหมู่บุปผามันมีแม้กระทั้งแม่น้ำ เขารู้สึกราวกับได้เดินทะลุม่านพลังมาและเหมือนจะเกิดเวลาหยุดลงชั่วครู่หนึ่ง

 

เซี่ยวเฉินเดินเข้าเดินออกสองสามครั้งเขากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เขาพบว่าเขาสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ,เขาก็ไม่ไปสนใจอีก

 

“ฟี! ฟี!”

 

ทันใดนั้น,นกสองสามนัวก็บินออกมาจากปาด้านหน้าของเขา เซี่ยวเฉินตกตะลึง มีสัตว์อาศัยอยู่ที่นี่? ข้าต้องระวังตัวไว้ หากข้าไปพบสัตว์อสูรดุร้ายเข้า ข้าจะเจอปัญหา

 

“ปัง! ปัง!”

 

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง,สัตว์อสูรวิญญาณตัวมหึมาพุ่งตรงออกมาจากปา นี่คือหมีเพลิงแดงเมื่อมันยืนขึ้นสองขา,มันสูงเท่ากับคนสองคนต่อกัน ดวงตาสีแดงของมันมองมาที่เซี่ยวเฉิน,เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน 

 

หมีเพลิงแดงคือสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 2 มันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตเชียวชาญยุทธ เซี่ยวเฉินเคยพบเห็นมันมาบ้างที่ภูเขาษีเจียวมันอาจจะดูดุร้ายแต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

 

อย่างไรก็ตาม, หากเซี่ยวเฉินต้องการจะจัดการกับมันไปตอนนี้ มันออกจะยากไปเล็กน้อย

 

“ปุ ปุ!” ขณะมีเซี่ยวเฉินกําลังครุ่นคิด, หมีเพลิงแดงยืนสี่ขาและพุ่งตรงเข้ามา ในไม่ช้า,มันก็มาถึงหน้าเซี่ยวเฉิน อุ้งเท้าของมันแบกพลังมากหลายร้อยกิโลกรัมกระแทกเข้ามา

 

เซี่ยวเฉินไม่ได้แตกตื่น ก่อนที่อุ้งเท้าของหมีเพลิงแดงจะมาถึงเขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมและก้าวออกซ้ายอย่างใจเย็นเขาหลบการโจมตีไปได้

 

เซี่ยวเฉินตะโกนและรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาไปที่กําปั้นขวา กล้ามเนื้อทั้งหมดบนแขนขวาของเขานั้นขึ้นมา เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงพลังงานอันไร้ขอบเขตพร้อมกับชกไปที่หน้าอกของหมีเพลิงแดงด้วยความเร็วสูง

 

ต่อมาในทันที,ร่างอ้วนของหมีเพลิงแดงถูกชกและลอยกลับไปพร้อมเสียงปัง เซี่ยวเฉินสามารถได้ยินเสียงอวัยวะภายในที่ถูกทุบ หลังจากที่มันล้มลง,มันก็ไม่ยืนกลับขึ้นมาอีกเลย

 

เซี่ยวเฉินมองไปอย่างตกใจ หลังจากนั้น

 

เขาก็เห็นว่าหมีเพลิงแดงได้ตายไปแล้วจริงๆ เขาพึมพํา “เป็นไปได้อย่างไร? ที่จุดสูงสุด,พลังของกําปั้นของข้าน่าจะอยู่เพียง 1,500 กิโลกรัม ตอนนี้, จิตวิญญาณยุทธของข้าถูกทําลายและอาการบาดเจ็บยังไม่หายดีนัก ว่าตามตรง,ดึงพลังก่อนหน้าของข้าออกมาได้ถึงครึ่งมันก็เยอะมากแล้ว”

 

น้ำหนักของหมีเพลิงอย่างน้อยก็ 500 กิโลกรัม หากส่งมันลอยไปด้วยหมัดเดียวแถมอวัยวะภายในของแตกสลาย หมัดจะต้องมรพลังอย่างน้อย 2,000 กิโลกรัม

 

เซี่ยวเฉินงุนงงพร้อมกับจ้องมองไปที่หมัดของเขาเขาไม่อยากจะเชื่อ “ในหมัดเมื่อครู่, ข้ารู้สึกได้ว่าข้ายังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่ทําไมพลังของข้าถึงได้เยอะกว่าเมื่อก่อนเสียอีก?”

 

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานแต่เขาก็ไม่พบคําตอบต่อไป,เซี่ยวเฉินก็ได้เข้าไปในป่า เขาพบหมีเพลิงแดงอีกตัวที่ชายป่า เมื่อมันเข้ามาใกล้ เซี่ยวเฉินก็ต่อยมัน

 

เมื่อตัวก่อนหน้า,หมีเพลิงแดงตัวขนาด 500 กิโลกรัมลอยกระเด็น อวัยวะภายในแหลกเหลวและตกตายในทันที!

 

หลังจากนั้นเซี่ยวเฉินก็เชื่อแล้วว่ามันคือเรื่องจริง;ความแข็งแกร่งของเขามากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก”เป็นไปได้ว่าการบ่มเพาะพลังของข้าไม่ได้หายไป?”

 

“ความแข็งแกร่งหมัดของข้าน่าจะมีพลังถึง 1,750 กิโลกรัม,เกือบจะถึง 2,000 กิโลกรัม มิฉะนั้น,มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารหมีเพลิงแดงได้ภายในหมัดเดียว” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างมั่นใจ

 

เกิดอะไรขึ้น? ทําไมความแข็งแกร่งกายภาพของข้าถึงได้เพิ่มขึ้น? เซี่ยวเฉินไตร่ตรองอยู่เป็นเวลานานแต่เขาก็ยังคงไม่ได้รับคําตอบ

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้นบางๆ “ไม่เป็นไร,ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี เมื่อข้าคิดไม่ตกก็ไม่จําเป็นไปเสียเวลาครุ่นคิด”

 

คิดได้ดังนี้ เซี่ยวเฉินก็ออกจากป่าไป ยิ่งเข้าไปลึกในป่า เซี่ยวเฉินยิ่งรู้สึกถึงอันตราย มันจะต้องมีสัตว์อสูรวิญญาณที่ทรงพลังอยู่ในป่าแห่งนี้

 

เซี่ยวเฉินใช้เวลาที่เหลือในการสํารวจโลกในดินนี้ต่อไปในทิศตะวันออกเฉียงใต้ เซี่ยวเฉินพลกับทุ่งสมุนไพรโดยบังเอิญ

 

สมุนไพรหลากชนิดเขียวขจีหนาแน่น มีแม่งกระทั่งสมุนไพรวิญญาณอายุนับหลายร้อยปี อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะได้เข้าไปใกล้ทุ่งสมุนไพร เขารู้สึกได้ถึงกระแสพลังอันแข็งแกร่งหลายกระแส บางครั้งเขาก็ได้ยินเสียงคํารามน่ากลัวของสัตว์อสูร

 

พวกมันเป็นสัตว์อสูรวิญญาณแข็งแกร่งทั้งหมด ด้วยขอบเขตพลังของเซี่ยวเฉินในตอนนี้เขาลืมที่จะเข้าไปต่อได้เลย มองเห็นภูเขาสมบัติอยู่ข้างหน้าแต่ไม่อาจจับต้อง,ช่างเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด

 

เซี่ยวเฉินหลบเลี่ยงบริเวณนี้และเดินต่อไปข้างหน้า แม้ว่าจิตวิญญาณยุทธของเขาจะถูกทําลาย เขายังมีร่างกายที่แข็งแกร่งอยู่ ฝีเท้าของเขาไม่ได้เชื่องช้าอะไร ภายในช่วงกลางวัน

 

เขาก็ได้ตรวจสอบพื้นที่รัศมีนับพันเมตร

 

เซี่ยวเฉินพบว่าเขาได้ประเมินขนาดของโลกใต้ดินนี้แล้ว แต่หลังจากที่เขาเดินมาทั้งวัน มันครอบคลุมพื้นที่ยังได้ไม่ถึงครึ่ง

 

ไม่รู้ว่าทําไมแต่มันมีเวลากลางวันกลางคืนในโลกใต้ดินแห่งนี้ ความสว่างผันแผรไปตามการไหลของเวลาและก็ค่อยๆมืดลง

 

ไม่แน่ว่าอาจจะมีอันตรายในเวลากลางคืน เซี่ยวเฉินไม่กล้าอยู่ที่นี่ เขาถอยกลับไปจนถึงม่านพลังรอบโลกแห่งนี้ก่อนที่จะหยุดลง

 

เขาตัดสินใจนั่งลงขัดสมาธิแลพพยายามจะบ่มเพาะพลัง เซี่ยวเฉินสิ้นหวังหลังจากที่จิตวิญญาณยุทธของเขาถูกทําลาย มังกรฟ้าเป็นสัตว์อสูรโบราณ,มันจะต้องมีอะไรที่พิเศษ 

 

ตอนนี้ร่างของเซี่ยวเฉินว่างเปล่าปราศจากพลังงานจิตวิญญาณ:ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ เมื่อเทียบกับตอนที่เขาเพิ่งได้ข้ามภพมา, พลังในตอนนี้มันอ่อนยิ่งกว่าเสียอีก

 

อย่างน้อยที่สุดในตอนนั้นเขายังมีพลังงานจิตวิญญาณที่บ่มเพาะมาเป็นเวลาสิบปี แม้ว่าเขาไม่อาจจะเปลี่ยนพลังงานนั้นให้เป็นพลังปราณได้มันก็เพียงพอให้เขาใช้ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์

 

ในตอนนี้ไม่มีพลังงานจิตวิญญาณที่ว่าเหลืออยู่ในร่างกายของเขา ย้อนกลับไปในตอนนั้น,มันต้องใช้เวลาถึงสิบหกปีเพื่อที่จะมาถึงจุดนี้ หากเป็นตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมีความพยายามแรงกล้าถึงเพียงใด เขาก็อาจคงต้องยอมแพ้

 

เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงพลังงานจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบ เขาให้ความสนใจไปที่จุดตันเที่ยนของเขาพร้อมหายใจเข้าและออก เขาคงสภาพใจสงบพร้อมทั้งทําเช่นนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ

 

นี่เป็นการหายใจพื้นฐานในทวีปเที่ยนหวี่แห่งนี้ นอกจากผู้ที่เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณยุทธสืบทอด,ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพลังงานจิตวิญญาณมาตั้งแต่เกิด

 

ปราศจากพลังงานจิตวิญญาณ,ไม่มีทางที่จะหมุนเวียนทักษะบ่มเพาะพลังใดๆได้ ณ จุดนี้ คนผู้นั้นต้องฝึกวิธีหายใจเข้าออกเพื่อดูดซับพลังงานจิตวิญญาณบางส่วนเข้าไปในร่างกายของพวกเขา

 

เมื่อปริมาณพลังงานจิตวิญญาณขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง,พวกเขาก็จะสามารถเริ่มการบ่มเพาะพลังได้ ไม่มีการแบ่งระดับการหายใจ มันเป็นเพียงเรื่องธรรมดาในทวีปเทียนหวี่

 

อย่างช้าๆ อากาศธาตุที่เซี่ยวเฉินหายใจ เข้าไปในปากกลายเป็นหนาแน่นขึ้น มองจากระยะไกล,มันดูราวกับดาบที่เลือนลางมันไม่ได้จางหายไป

 

ลมหายใจอีกต่อไปของเซี่ยวเฉิน,พลังงานจิตวิญญาณบางส่วนกลายเป็นหมอกและเข้าไปในปากของเขา มันไหลอย่างช้าๆไปตามเส้นปราณของเขาและหมุนวนครบหนึ่งรอบก่อนที่จะตกลงไปที่จุดตันเทียนของเขา;ขนาดของมันราวๆนิ้วเท้าเล็กๆ

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกเป็นสุข เขาไม่ได้คาดคิดว่าสายพลังงานจิตวิญญาณที่เขาดูดซับเข้าไปในครั้งแรกจะมีขนาดใหญ่เพียงนี้ เขาจะสามารถรวบรวมพลังงานจิตวิญญาณได้เพียงพอและสามารถหมุนเวียนทักษะบ่มเพาะพลังอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์

 

เซี่ยวเฉินก่อนหน้านี้เขากังวลว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาถึงสิบหกปี ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นกังวลไปเอง หลังจากที่เขาเรียนรู้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่สองก็เป็นไปอย่างราบลื่นกว่าเดิม

 

ผ่านไปสี่ชั่วโมง,พลังงานจิตวิญญาณที่อยู่ในจุดตันเทียนของเซี่ยวเฉินก็เพียงพอที่จะหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เซี่ยวเฉินหยุดวิธีการหายใจและเริ่มเตรียมพร้อมที่จะหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์

 

ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนไปโดยไม่มีอะไรติดขัดพลังงานจิตวิญญาณโดยรอบหลั่งไหลเข้ามาในร่างของเซี่ยวเฉิน มันหลังไหลเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและเกินความคาดหมายของเซี่ยวเฉินไปโดยสิ้นเชิง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+