Immortal and Martial Dual Cultivation 317 หุ่นเชิด

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 317 หุ่นเชิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 317 หุ่นเชิด

ดาบฉีสีเงินสองเส้นทะลวงผ่านอากาศและพุ่งไปที่สามคนที่อยู่ด้านหน้าสุด

“เป็นดาบฉีทค่หนาแน่นอะไรเช่นนี้! มันเกือบจะเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด” เซียวเฉินกล่าว,ค่อนข้างที่จะตกตะลึง,ขณะที่จ้องมองไปที่ดาบ

แม้ว่าเซี่ยวเฉินอยากที่จะได้หุ่นเชิดทั้งสามตัว แต่เห็นชัดว่าหุ่นเชิดมีมีไม่พอ หากเขาต้องแข่งขันกับคน,เขาจะเสียพลังอย่างมาก

ซากนิกายหลเพลิงแห่งนี้ไม่น่าจะมีของเพียงสองสามชิ้น มันยังไม่ใช่เวลาที่จะทุ่มสุดตัว

“ฟุ!”

ขณะที่เซียวเฉินไตร่ตรอง,มีแสงสีเย็นลอยตรงมาทางเขา เขาดีดตัวออกจากพื้นและถอยกลับไปหลายสิบเมตร

เมื่อเซี่ยวเฉินมองดู,เขาเห็นว่ามันเป็นนักรบชุดเกราะเหล็ก หลังจากที่มันซัดผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งหมอบไป,มันก็แยกตัวออกมาและมุ่งหน้ามาทางเซี่ยวเฉิน

เซี่ยวเฉินรักษาความนิ่งสงบ เขายิ้มขึ้นเบาๆ “ได้เวลาพอดี ข้าอยากจะตรวจสอบเคล็ดลับเบื้องหลังหุ่นรบพวกนี้”

“เครั้ง! เครั้ง!”

ร่างอันหนักอึ้งของอัศวินเกราะเหล็กกระโดดผ่านพื้นดิน ทุกก้าวที่มันเดินส่งเสียงกระทบไพเราะออกมา

“วาดกระบี่!”

เขาชักกระบี่ออกมา เซี่ยวเฉินกวาดวาดกระบี่ของเขา มองดูราวกับเส้นสายฟ้า,ความเร็วและพลังของมันขึ้นสู่จุดสูงสุด จากนั้นเขาก็ซัดดาบในมือของอัศวินเกราะเหล็กลอยหลุดไป

มันอ่อนแอเกินไป:อัศวินเกราะเหล็กพวกนี้ไม่ได้มีค่ามากมนยอะไรนัก,เซี่ยวเฉินส่ายหัวและเก็บกระบี่ลงฝึก

เซียวเฉินก้าวขึ้นหน้าและเบี่ยงหัวของเขส,หลบการโจมตีของอัศวินเกราะเหล็ก เขากํามือและชกมันอย่างแรง

“บูม บูม! บูม!”

อัศวินเกราะเหล็กถอยหลังไปสามก้าว พลังอันหนักหน่วงทําให้เกราะของมันสั่นสะเทือน

กําปั้นของข้าในตอนนี้มีพลังถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม มันสามารถต้านทานกําปั้นของข้าเอาไว้ได้ โดยไม่แตกเป็นเสี่ยงพลังป้องกันของมันไม่เลว

เซียวเฉินประเมินอยู่ในใจ เขาถอยกลับและหลีกเลี่ยงการโจมตีของอัศวินเกราะเหล็กอีกครั้ง

เซี่ยวเฉินถอยจนมาติดกําแพงแล้วเขาไม่ตั้งใจจะล่าถอยต่อไปอีก เขาเพียงยึดที่มั่นเอาไว้ เขาถือกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ที่มือขวาและแบฝ่ามือขวาแทนกระบี่ จากนั้นเขาป้องกันการโจมตีของอัศวินเกราะเหล็กเอาไว้อย่างง่ายดาย

ความเร็วของมันไม่มากพอ:ความเร็วของมันเกือบจะได้ครึ่งหนึ่งของความเร็วเสียง อย่างไรก็ตาม,ท่าทางและการเคลื่อนไหวของมันเป็นค่อนข้างเป็นแบบแผน มันดูเหมือนจะมีทักษะหมัดมวยที่หลากหลาย

บรรพบุรุษแห่งนิกายหลี่เพลิงนั้นเป็นอัจฉริยะ พวกเขาสามารถใส่ทักษะต่อสู้ลงไปในหุ่นรบ

เซียวเฉินแลกเปลี่ยนกระบวณท่าง่ายๆกับอัศวินเกราะเหล็ก หลังจากผ่านไปหลายสิบกระบวณท่า,เขาได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเกราะเหล็ก

ความรวดเร็วของมันเทียบเท่ากับขอบเขตนักบุญขั้นกลางความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น สรุปแล้วพลังต่อสู้โดยรวมของมันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด

อย่างไรก็ตาม,แหล่งพลังงานของมันจะต้องมีจํากัด มันไม่สามารถต่อสู้ไปได้เรื่อยๆ ในตอนที่พลังงานของมันหมด มันก็จะกลายเป็นกองเศษเหล็ก

สามคนที่รุมล้อมอัศวินเกราะเหล็กอยู่เมื่อก่อนหน้านี้ตกตะลึง พวกเขาใช้พลังทั้งหมดและเกือบจะปราบมันลงไม่ได้ นี่เป็นเพราะพลังป้องกันของมันช่างน่ากลัว

อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินเล่นกับราวกับว่าอยู่ใน กํามือ,แม้ว่าใช้ใช้เพียงมือเดียวและยืนอยู่กับที่

“ปัง!”

เซี่ยวเฉินร้องตะโกน เขาไม่สนใจที่จะเล่นต่อไป เขาชกออกด้วยความแข็งแกร่งหกสิบเปอร์เซ็นต์ของเขา พลังของมันพุ่งขึ้นไปถึง 12,500 กิโลกรัมในทันที

อัศวินเกราะเหล็กถล่มลงกับพื้น มันดิ้นรนอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะแน่นิ่งไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซียวเฉินก็ก้มลงและพลิกตัวเกราะเหล็ก มันมีหน้าต่างๆเล็กๆที่ปิดอยู่ตรงหลังของมัน

“ปะ ปะ!”

หน้าต่างโลหะสองบานทันใดนั้นก็เปิดออก,เผยให้เห็นภายใน มีหินวิญญาณระดับต่ําอยู่ข้างในเมื่อเซี่ยวเฉินนับดู,มีทั้งหมดยี่สิบก่อน

อย่างไรก็ตาม,หินวิญญาณมันมืดสลัวมันแทบจะไม่ต่างไปจากก้อนหินทั่วไปแล้ว พวกมันหมด ซึ่งพลังงานวิญญาณ

มันทํางานเช่นนี้นี่เอง เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง พวกเขาใช้หินวิญญาณเป็นแหล่งพลังงานนี่ใกล้เคียงกับที่คาดเดาเอาไว้ หากใช้หินวิญญาณระดับกลาง,บางทีมันอาจจะทรงพลังยิ่งขึ้น

เมื่อสามคนเมื่อครู่เห็นการกระทําของเซียวเฉิน,พวกเขาก็ตอบโต้ทันที พวกเขาเป็นคนเจอหุ่นรบตัวนี้ก่อน แต่ท้ายที่สุด,เซี่ยวเฉินทํากับราวกับว่ามันเป็นของเขา

“เจ้ารนหาที่ตาย! ช่างกล้ามาฉกของของข้า!” หนึ่งในพวกเขาตะโกนออกมา เขาฟันไปที่เชี่ยวเฉินด้วยกระบี่ของเขา

อีกสองคนก็ไม่รอช้า;พวกเขาก็ลงมือแทบจะพร้อมกัน สามกระบี่แสงยิงไปที่เซียวเฉินด้วยกระแสพลังดุร้าย

เซียวเฉินเหลียวตามอง ไม่มีความผันผวนในดวงตาอันนิ่งสงบของเขา เขาเหมือนกับไม่มีความสนใจ,สามคนนั้นอ่อนแอเกินไป

“หวี่ขุยแพรวพราว!”

เซียวเฉินชักกระบี่ของเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เขาสะบัดข้อมือสามครั้ง เส้นกระบี่ฉีสีม่วงสามเส้นลอยออกไป พวกมันสลายกระบี่ฉีที่สามคนนั้นยิงออกมาอาวุธในมือของพวกเขาไม่อาจต้านทานได้และแตกสลาย

“ปัง! ปัง! ปัง!”

พลังของกระบี่ฉีสีม่วงไม่ได้ลดทอนลงพร้อมกับบินตรงต่อไป,ทะลวงโล่ปราณและสร้างบาดแผลน่ากลัวบนหน้าอกของพวกเขา;สายเลือดสาดกระเซ็นออกมาในทันที

คนทั้งสามล้มลงกับพื้น และแรงระเบิดกระพัด พวกเขาลอยไปไกล:พวกเขาร่วงลงอย่างน่าสังเวช อย่างไรก็ตาม นี่เป็นผลจากที่เซียวเฉินแสดงความเมตตาแล้ว

หากการโจมตีนี้ผสานสภาวะแห่งสายฟ้า,กระบี่ฉีทั้งสามสามารถสับพวกเขาตัวขาดครึ่งได้อย่างง่ายดาย

ณ ตอนนี้ เซียวเฉินสามารถสังหารระดับขอบเขตนักบุญที่ไม่บรรลุถึงสภาวะได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดก็ตาม เขาเหลือเพียงหนึ่งก้าวเล็กๆที่จะไม่มีใครเทียบเคียงเขาได้ในระดับขอบเขตนักบุญ

“หนีเร็ว! พวกเราไม่ควรไปยั่วยุคนผู้นี้” ทั้งสามคนเมินเฉยบาดแผลของพวกเขาและหนีไปเมื่อพวกเขาเห็นสายตาอันนาากลัวของเซี่ยวเฉิน

มองเห็นพวกเขาจากไปแล้ว,เซี่ยวเฉินก็ไม่ได้สนใจจะไล่ตาม เขาเบนสายตากลับมาที่กองหินวิญญาณระดับต่ําและเผยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“ข้าเชควรเอาออกมาดูว่าข้างในมันเป็นอย่างไรกันแน่” เซียวเฉินกล่าวเบาๆ จากนั้นเขาก็โยนหินวิญญาณออกไปที่ละก้อน ในที่สุด,ที่ด้านล่างสุด,เขามองเห็นเข็มที่ยื่นออกมา

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง,เซียวเฉินก็ลอง แตะดูด้วยนิ้วชี้ของเขา เขารู้สึกปวดเล็กน้อยเข็มแทงเข้าไปในผิวหนังของเขาทันที เมื่อมันสัมผัสกับเลือดของเขา,ข้อมูลมากมายปรากฏขึ้นในใช้จิตใจของเขาทันที

ข้อมูลมากมายกว้างใหญ่และวุ่นวายราวกับมหาสมุทร,ทําให้เซียวเฉินปวดหัวอยาางรุนแรง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ปวดอยู่นานนัก หลังจากสามอึดใจ,อาการปวดหัวก็จางหายไป

หลังจากเรียบเรียงข้อมูล,จิตใจของเซียวเฉินก็ค่อยๆรับมันเข้ามา ทักษะดาบกระแสเมฆา,ทักษะหมัดขุนเขา,น้ําไหลนิรันดร์… สรุปของทักษะต่อสู้ปรากฎขึ้นในจิตใจของเซียวเฉิน

เซียวเฉินตอบสนอง ทักษะต่อสู้พวกนี้คือทั้งทักษะที่ได้ผสานเข้ากับอัศวินเกราะเหล็กตัวนี้ มีทักษะหมัด,ทักษะขา,ทักษะเคลื่อนไหว,ทักษะดาบ,ทักษะกระบี่,ทักษะหอก… มีทุกสิ่งอย่าง

ในที่สุด,ข้อมูลทั้งหมดก็จางหายไป เซียวเฉินรู้สึกความอ่อนแรงกําลังโถมเข้ามา อย่างไรก็ตาม,จิตใจของเขากลืนไปอย่างรวดเร็ว

“นี่จะต้องเป็นคําสั่งของเจ้านายชุดเกราะตัวนี้คนก่อน มันล่วงเลยมาเป็นเวลานานแล้ว มันจึงกลายเป็นอ่อนแรงลง ขั้นตอนต่อไปคือใส่คําสั่งของข้าลงไป”

เชี่ยวเฉินควบคุมจิตสํานึกของเขาและขยายมันลงไปในแขนซ้ายของเขา จากนั้นเขาก็ใส่มันลงไปภายในของชุดเกราะเหล็ก,แสดงความประสงค์ของตัวเองลงไป

เซี่ยวเฉินดึงนิ้วของเขาออก เขารู้สึกเหมือนกับได้รับร่างแยกมาในทันที อย่างไรก็ตาม,ร่างแยกนี้ยังเคลื่อนไหวไม่ได้

เชี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและใส่มันลงไป จากนั้น,เขาก็ปิดหน้าต่างโลหะบนหลังของชุดเกราะเหล็ก เพียงนึกคิด,ชุดเกราะตัวนี้ก็ยืนขึ้นมา

เซียวเฉินลองควบคุมชุดเกราะเหล็ก;มันควบคุมได้อย่างง่ายดาย วิธีแรกคือการควบคุมได้เหมือนแขนของเขา
อีกวิธีหนึ่งคือควบคุมแบบปล่อยอิสระ เขาสามารถจับไปที่คู่ต่อสู้และปล่อยให้ชุดเกราะเหล็กออกไปสู้ด้วยตัวเอง เซี่ยวเฉินลองเล็งไปที่เสาศิลา,และมันก็พุ่งเข้าไปในทันที เมื่อเซียวเฉินตั้งเป้าหมายแล้ว,เขากก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก

เซียวเฉินยิ้มเบาๆและกล่าว “คนของนิกายหลี่เพลิงเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง พวกเขาสําเร็จมาถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสืบทอดวิธีการหลอมสมบัติลับมาจากยุคโบราณแต่พวกเขายังมีวิธีการสร้างสมบัติลับแบบหุ่นเชิดนี้ขึ้นมา
ท้ายที่สุด,หุ่นเชิดหลายตัวก็หมดพลังลง นอกจากสองสามตัวที่ถูกทําลาย,คนอื่นก็เข้ารวบคุมมันได้

ดูเหมือนว่าแหลางพลังงานจะเป็ยจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงที่จุดของหุ่นเชิดเกราะรบ หากไม่มีจุดอ่อนนี้ หุ่นเชิดเกราะรูบตัวนี้จะสมบูรณ์แบบ

เซี่ยวเฉินเบนสายตาขึ้นไป หุ่นเชิดเกราะสีเงินสองตัวยังคงดุร้ายเช่นเดิม พวกเขากวัดแกว่งดาบ,และดาบฉีก็ขยายไปในอากาศ พวกมันถึงกับแยกอากาศออกจากกัน

คนสิบคนกําลังต่อสู้อย่างดุเดือด ทักษะต่อสู้ทุกประเภทและอาวุธฉีซัดเข้าที่ฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม,หุ่นเชิดพวกนี้ไร้ซึ่งความเจ็บปวด;พวกมันไม่รู้สึกอะไร

เกิดเรื่องประหลาดขึ้นให้เห็น หุ่นเชิดเกราะเงิน,ที่เทียบเท่าได้เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด,กลับกดดันสิบระดับขอบเขตนักบุญที่มีการบ่มเพาะพลังอย่างลึกซึ้งเอาไว้ได้
แน่นอน,ทั้งสิบคนนี้รู้ว่า ด้วยการผลาญพลังปราณของคู่ต่อสู้จนหมด พวกเขาก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้ พวกเขาเพียงต้องยืดเยื้อการต่อสู้ออกไปไม่มีความจําเป็นต้องลงแรงไปมากเกิน

ถึงอย่างไร ศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่หุ่นเชิดเกราะพวกนี้ แต่กลับเป็นสหายที่กําลังต่อสู้เคียงไหล่กับพวกเขา

ไม่มีวี่แววที่หุ่นเชิดเกราะเงินจะหมดสิ้นพลังปราณ ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีหินวิญญาณระดับกลาง,เซียวเผยินครุ่นคิดกับตัวเอง

ในเมื่อหุ่นเชิดเกราะเงินสามารถเติมพลังงานได้,หุ่นเชิดเกราะสีทองที่นั่งอยู่บนบัลลังก์จะต้องทําได้ด้วยเช่นกัน ขณะที่หุ่นเชิดเกราะเงินพวกนี้เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด,ตัวสีทองจะต้องเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ

มันเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ที่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าขณะที่ต่อสู้ ทุกคนเข้าใจในความหมายของสิ่งนี้

ได้มันมาจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเขาอย่างมาก. ในการต่อสู้แย่งชิงสมบัติลับในซากนิกายหลี่เพลิงแห่งนี้ มันจะกลายเป็นไพ่ตายที่ดี

มันดูเหมือนว่าทั้งสิบคนนั้นจะไม่ใช้ไพ่ตายของพวกเขา เพื่อรับมือกับหุ่นเชิดเกราะเงินเพราะยังมีหุ่นเชิดเกราะทองบนบัลลังก์

ความสามารถโดดเด่นที่สามารถกดหุ่นเชิดเกราะเงินเอาไว้ได้อยู่หมัดทําให้พวกเขายิ่งมีความมั่นใจ พวกเขาถึงกับคิดว่าแม้แค่ตัวคนเดียวก็สามารถล้มหุ่นเชิดเกราะทองลงได้

เมื่อเทียบกับเหล่าอัจฉริยะปีศาจทั้งสิบแล้ว,พวกที่เหลืออาจจะอ่อนแอกว่า แต่อย่างไรก็ตาม,ด้วยหุ่นเชิดเกราะเหล็กที่พวกเขาได้มา,พวกเขาอาจจะตกปลาในน้ําขุ่นมาได้

TL:ประมาณว่าชุบมือเปิบครับ อาศัยจังหวะชลมุนไปฉวยมา

สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หุ่นเชิดเกราะทองที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ พวกเขาเพียงจะรอให้หุ่นเชิดเกราะทองอ่อนแอลงก่อนที่พวกเขาจะลงมือ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 317 หุ่นเชิด

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 317 หุ่นเชิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 317 หุ่นเชิด

ดาบฉีสีเงินสองเส้นทะลวงผ่านอากาศและพุ่งไปที่สามคนที่อยู่ด้านหน้าสุด

“เป็นดาบฉีทค่หนาแน่นอะไรเช่นนี้! มันเกือบจะเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด” เซียวเฉินกล่าว,ค่อนข้างที่จะตกตะลึง,ขณะที่จ้องมองไปที่ดาบ

แม้ว่าเซี่ยวเฉินอยากที่จะได้หุ่นเชิดทั้งสามตัว แต่เห็นชัดว่าหุ่นเชิดมีมีไม่พอ หากเขาต้องแข่งขันกับคน,เขาจะเสียพลังอย่างมาก

ซากนิกายหลเพลิงแห่งนี้ไม่น่าจะมีของเพียงสองสามชิ้น มันยังไม่ใช่เวลาที่จะทุ่มสุดตัว

“ฟุ!”

ขณะที่เซียวเฉินไตร่ตรอง,มีแสงสีเย็นลอยตรงมาทางเขา เขาดีดตัวออกจากพื้นและถอยกลับไปหลายสิบเมตร

เมื่อเซี่ยวเฉินมองดู,เขาเห็นว่ามันเป็นนักรบชุดเกราะเหล็ก หลังจากที่มันซัดผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งหมอบไป,มันก็แยกตัวออกมาและมุ่งหน้ามาทางเซี่ยวเฉิน

เซี่ยวเฉินรักษาความนิ่งสงบ เขายิ้มขึ้นเบาๆ “ได้เวลาพอดี ข้าอยากจะตรวจสอบเคล็ดลับเบื้องหลังหุ่นรบพวกนี้”

“เครั้ง! เครั้ง!”

ร่างอันหนักอึ้งของอัศวินเกราะเหล็กกระโดดผ่านพื้นดิน ทุกก้าวที่มันเดินส่งเสียงกระทบไพเราะออกมา

“วาดกระบี่!”

เขาชักกระบี่ออกมา เซี่ยวเฉินกวาดวาดกระบี่ของเขา มองดูราวกับเส้นสายฟ้า,ความเร็วและพลังของมันขึ้นสู่จุดสูงสุด จากนั้นเขาก็ซัดดาบในมือของอัศวินเกราะเหล็กลอยหลุดไป

มันอ่อนแอเกินไป:อัศวินเกราะเหล็กพวกนี้ไม่ได้มีค่ามากมนยอะไรนัก,เซี่ยวเฉินส่ายหัวและเก็บกระบี่ลงฝึก

เซียวเฉินก้าวขึ้นหน้าและเบี่ยงหัวของเขส,หลบการโจมตีของอัศวินเกราะเหล็ก เขากํามือและชกมันอย่างแรง

“บูม บูม! บูม!”

อัศวินเกราะเหล็กถอยหลังไปสามก้าว พลังอันหนักหน่วงทําให้เกราะของมันสั่นสะเทือน

กําปั้นของข้าในตอนนี้มีพลังถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม มันสามารถต้านทานกําปั้นของข้าเอาไว้ได้ โดยไม่แตกเป็นเสี่ยงพลังป้องกันของมันไม่เลว

เซียวเฉินประเมินอยู่ในใจ เขาถอยกลับและหลีกเลี่ยงการโจมตีของอัศวินเกราะเหล็กอีกครั้ง

เซี่ยวเฉินถอยจนมาติดกําแพงแล้วเขาไม่ตั้งใจจะล่าถอยต่อไปอีก เขาเพียงยึดที่มั่นเอาไว้ เขาถือกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ที่มือขวาและแบฝ่ามือขวาแทนกระบี่ จากนั้นเขาป้องกันการโจมตีของอัศวินเกราะเหล็กเอาไว้อย่างง่ายดาย

ความเร็วของมันไม่มากพอ:ความเร็วของมันเกือบจะได้ครึ่งหนึ่งของความเร็วเสียง อย่างไรก็ตาม,ท่าทางและการเคลื่อนไหวของมันเป็นค่อนข้างเป็นแบบแผน มันดูเหมือนจะมีทักษะหมัดมวยที่หลากหลาย

บรรพบุรุษแห่งนิกายหลี่เพลิงนั้นเป็นอัจฉริยะ พวกเขาสามารถใส่ทักษะต่อสู้ลงไปในหุ่นรบ

เซียวเฉินแลกเปลี่ยนกระบวณท่าง่ายๆกับอัศวินเกราะเหล็ก หลังจากผ่านไปหลายสิบกระบวณท่า,เขาได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเกราะเหล็ก

ความรวดเร็วของมันเทียบเท่ากับขอบเขตนักบุญขั้นกลางความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น สรุปแล้วพลังต่อสู้โดยรวมของมันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด

อย่างไรก็ตาม,แหล่งพลังงานของมันจะต้องมีจํากัด มันไม่สามารถต่อสู้ไปได้เรื่อยๆ ในตอนที่พลังงานของมันหมด มันก็จะกลายเป็นกองเศษเหล็ก

สามคนที่รุมล้อมอัศวินเกราะเหล็กอยู่เมื่อก่อนหน้านี้ตกตะลึง พวกเขาใช้พลังทั้งหมดและเกือบจะปราบมันลงไม่ได้ นี่เป็นเพราะพลังป้องกันของมันช่างน่ากลัว

อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินเล่นกับราวกับว่าอยู่ใน กํามือ,แม้ว่าใช้ใช้เพียงมือเดียวและยืนอยู่กับที่

“ปัง!”

เซี่ยวเฉินร้องตะโกน เขาไม่สนใจที่จะเล่นต่อไป เขาชกออกด้วยความแข็งแกร่งหกสิบเปอร์เซ็นต์ของเขา พลังของมันพุ่งขึ้นไปถึง 12,500 กิโลกรัมในทันที

อัศวินเกราะเหล็กถล่มลงกับพื้น มันดิ้นรนอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะแน่นิ่งไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซียวเฉินก็ก้มลงและพลิกตัวเกราะเหล็ก มันมีหน้าต่างๆเล็กๆที่ปิดอยู่ตรงหลังของมัน

“ปะ ปะ!”

หน้าต่างโลหะสองบานทันใดนั้นก็เปิดออก,เผยให้เห็นภายใน มีหินวิญญาณระดับต่ําอยู่ข้างในเมื่อเซี่ยวเฉินนับดู,มีทั้งหมดยี่สิบก่อน

อย่างไรก็ตาม,หินวิญญาณมันมืดสลัวมันแทบจะไม่ต่างไปจากก้อนหินทั่วไปแล้ว พวกมันหมด ซึ่งพลังงานวิญญาณ

มันทํางานเช่นนี้นี่เอง เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง พวกเขาใช้หินวิญญาณเป็นแหล่งพลังงานนี่ใกล้เคียงกับที่คาดเดาเอาไว้ หากใช้หินวิญญาณระดับกลาง,บางทีมันอาจจะทรงพลังยิ่งขึ้น

เมื่อสามคนเมื่อครู่เห็นการกระทําของเซียวเฉิน,พวกเขาก็ตอบโต้ทันที พวกเขาเป็นคนเจอหุ่นรบตัวนี้ก่อน แต่ท้ายที่สุด,เซี่ยวเฉินทํากับราวกับว่ามันเป็นของเขา

“เจ้ารนหาที่ตาย! ช่างกล้ามาฉกของของข้า!” หนึ่งในพวกเขาตะโกนออกมา เขาฟันไปที่เชี่ยวเฉินด้วยกระบี่ของเขา

อีกสองคนก็ไม่รอช้า;พวกเขาก็ลงมือแทบจะพร้อมกัน สามกระบี่แสงยิงไปที่เซียวเฉินด้วยกระแสพลังดุร้าย

เซียวเฉินเหลียวตามอง ไม่มีความผันผวนในดวงตาอันนิ่งสงบของเขา เขาเหมือนกับไม่มีความสนใจ,สามคนนั้นอ่อนแอเกินไป

“หวี่ขุยแพรวพราว!”

เซียวเฉินชักกระบี่ของเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เขาสะบัดข้อมือสามครั้ง เส้นกระบี่ฉีสีม่วงสามเส้นลอยออกไป พวกมันสลายกระบี่ฉีที่สามคนนั้นยิงออกมาอาวุธในมือของพวกเขาไม่อาจต้านทานได้และแตกสลาย

“ปัง! ปัง! ปัง!”

พลังของกระบี่ฉีสีม่วงไม่ได้ลดทอนลงพร้อมกับบินตรงต่อไป,ทะลวงโล่ปราณและสร้างบาดแผลน่ากลัวบนหน้าอกของพวกเขา;สายเลือดสาดกระเซ็นออกมาในทันที

คนทั้งสามล้มลงกับพื้น และแรงระเบิดกระพัด พวกเขาลอยไปไกล:พวกเขาร่วงลงอย่างน่าสังเวช อย่างไรก็ตาม นี่เป็นผลจากที่เซียวเฉินแสดงความเมตตาแล้ว

หากการโจมตีนี้ผสานสภาวะแห่งสายฟ้า,กระบี่ฉีทั้งสามสามารถสับพวกเขาตัวขาดครึ่งได้อย่างง่ายดาย

ณ ตอนนี้ เซียวเฉินสามารถสังหารระดับขอบเขตนักบุญที่ไม่บรรลุถึงสภาวะได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดก็ตาม เขาเหลือเพียงหนึ่งก้าวเล็กๆที่จะไม่มีใครเทียบเคียงเขาได้ในระดับขอบเขตนักบุญ

“หนีเร็ว! พวกเราไม่ควรไปยั่วยุคนผู้นี้” ทั้งสามคนเมินเฉยบาดแผลของพวกเขาและหนีไปเมื่อพวกเขาเห็นสายตาอันนาากลัวของเซี่ยวเฉิน

มองเห็นพวกเขาจากไปแล้ว,เซี่ยวเฉินก็ไม่ได้สนใจจะไล่ตาม เขาเบนสายตากลับมาที่กองหินวิญญาณระดับต่ําและเผยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“ข้าเชควรเอาออกมาดูว่าข้างในมันเป็นอย่างไรกันแน่” เซียวเฉินกล่าวเบาๆ จากนั้นเขาก็โยนหินวิญญาณออกไปที่ละก้อน ในที่สุด,ที่ด้านล่างสุด,เขามองเห็นเข็มที่ยื่นออกมา

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง,เซียวเฉินก็ลอง แตะดูด้วยนิ้วชี้ของเขา เขารู้สึกปวดเล็กน้อยเข็มแทงเข้าไปในผิวหนังของเขาทันที เมื่อมันสัมผัสกับเลือดของเขา,ข้อมูลมากมายปรากฏขึ้นในใช้จิตใจของเขาทันที

ข้อมูลมากมายกว้างใหญ่และวุ่นวายราวกับมหาสมุทร,ทําให้เซียวเฉินปวดหัวอยาางรุนแรง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ปวดอยู่นานนัก หลังจากสามอึดใจ,อาการปวดหัวก็จางหายไป

หลังจากเรียบเรียงข้อมูล,จิตใจของเซียวเฉินก็ค่อยๆรับมันเข้ามา ทักษะดาบกระแสเมฆา,ทักษะหมัดขุนเขา,น้ําไหลนิรันดร์… สรุปของทักษะต่อสู้ปรากฎขึ้นในจิตใจของเซียวเฉิน

เซียวเฉินตอบสนอง ทักษะต่อสู้พวกนี้คือทั้งทักษะที่ได้ผสานเข้ากับอัศวินเกราะเหล็กตัวนี้ มีทักษะหมัด,ทักษะขา,ทักษะเคลื่อนไหว,ทักษะดาบ,ทักษะกระบี่,ทักษะหอก… มีทุกสิ่งอย่าง

ในที่สุด,ข้อมูลทั้งหมดก็จางหายไป เซียวเฉินรู้สึกความอ่อนแรงกําลังโถมเข้ามา อย่างไรก็ตาม,จิตใจของเขากลืนไปอย่างรวดเร็ว

“นี่จะต้องเป็นคําสั่งของเจ้านายชุดเกราะตัวนี้คนก่อน มันล่วงเลยมาเป็นเวลานานแล้ว มันจึงกลายเป็นอ่อนแรงลง ขั้นตอนต่อไปคือใส่คําสั่งของข้าลงไป”

เชี่ยวเฉินควบคุมจิตสํานึกของเขาและขยายมันลงไปในแขนซ้ายของเขา จากนั้นเขาก็ใส่มันลงไปภายในของชุดเกราะเหล็ก,แสดงความประสงค์ของตัวเองลงไป

เซี่ยวเฉินดึงนิ้วของเขาออก เขารู้สึกเหมือนกับได้รับร่างแยกมาในทันที อย่างไรก็ตาม,ร่างแยกนี้ยังเคลื่อนไหวไม่ได้

เชี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและใส่มันลงไป จากนั้น,เขาก็ปิดหน้าต่างโลหะบนหลังของชุดเกราะเหล็ก เพียงนึกคิด,ชุดเกราะตัวนี้ก็ยืนขึ้นมา

เซียวเฉินลองควบคุมชุดเกราะเหล็ก;มันควบคุมได้อย่างง่ายดาย วิธีแรกคือการควบคุมได้เหมือนแขนของเขา
อีกวิธีหนึ่งคือควบคุมแบบปล่อยอิสระ เขาสามารถจับไปที่คู่ต่อสู้และปล่อยให้ชุดเกราะเหล็กออกไปสู้ด้วยตัวเอง เซี่ยวเฉินลองเล็งไปที่เสาศิลา,และมันก็พุ่งเข้าไปในทันที เมื่อเซียวเฉินตั้งเป้าหมายแล้ว,เขากก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก

เซียวเฉินยิ้มเบาๆและกล่าว “คนของนิกายหลี่เพลิงเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง พวกเขาสําเร็จมาถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสืบทอดวิธีการหลอมสมบัติลับมาจากยุคโบราณแต่พวกเขายังมีวิธีการสร้างสมบัติลับแบบหุ่นเชิดนี้ขึ้นมา
ท้ายที่สุด,หุ่นเชิดหลายตัวก็หมดพลังลง นอกจากสองสามตัวที่ถูกทําลาย,คนอื่นก็เข้ารวบคุมมันได้

ดูเหมือนว่าแหลางพลังงานจะเป็ยจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงที่จุดของหุ่นเชิดเกราะรบ หากไม่มีจุดอ่อนนี้ หุ่นเชิดเกราะรูบตัวนี้จะสมบูรณ์แบบ

เซี่ยวเฉินเบนสายตาขึ้นไป หุ่นเชิดเกราะสีเงินสองตัวยังคงดุร้ายเช่นเดิม พวกเขากวัดแกว่งดาบ,และดาบฉีก็ขยายไปในอากาศ พวกมันถึงกับแยกอากาศออกจากกัน

คนสิบคนกําลังต่อสู้อย่างดุเดือด ทักษะต่อสู้ทุกประเภทและอาวุธฉีซัดเข้าที่ฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม,หุ่นเชิดพวกนี้ไร้ซึ่งความเจ็บปวด;พวกมันไม่รู้สึกอะไร

เกิดเรื่องประหลาดขึ้นให้เห็น หุ่นเชิดเกราะเงิน,ที่เทียบเท่าได้เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด,กลับกดดันสิบระดับขอบเขตนักบุญที่มีการบ่มเพาะพลังอย่างลึกซึ้งเอาไว้ได้
แน่นอน,ทั้งสิบคนนี้รู้ว่า ด้วยการผลาญพลังปราณของคู่ต่อสู้จนหมด พวกเขาก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้ พวกเขาเพียงต้องยืดเยื้อการต่อสู้ออกไปไม่มีความจําเป็นต้องลงแรงไปมากเกิน

ถึงอย่างไร ศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่หุ่นเชิดเกราะพวกนี้ แต่กลับเป็นสหายที่กําลังต่อสู้เคียงไหล่กับพวกเขา

ไม่มีวี่แววที่หุ่นเชิดเกราะเงินจะหมดสิ้นพลังปราณ ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีหินวิญญาณระดับกลาง,เซียวเผยินครุ่นคิดกับตัวเอง

ในเมื่อหุ่นเชิดเกราะเงินสามารถเติมพลังงานได้,หุ่นเชิดเกราะสีทองที่นั่งอยู่บนบัลลังก์จะต้องทําได้ด้วยเช่นกัน ขณะที่หุ่นเชิดเกราะเงินพวกนี้เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด,ตัวสีทองจะต้องเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ

มันเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ที่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าขณะที่ต่อสู้ ทุกคนเข้าใจในความหมายของสิ่งนี้

ได้มันมาจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเขาอย่างมาก. ในการต่อสู้แย่งชิงสมบัติลับในซากนิกายหลี่เพลิงแห่งนี้ มันจะกลายเป็นไพ่ตายที่ดี

มันดูเหมือนว่าทั้งสิบคนนั้นจะไม่ใช้ไพ่ตายของพวกเขา เพื่อรับมือกับหุ่นเชิดเกราะเงินเพราะยังมีหุ่นเชิดเกราะทองบนบัลลังก์

ความสามารถโดดเด่นที่สามารถกดหุ่นเชิดเกราะเงินเอาไว้ได้อยู่หมัดทําให้พวกเขายิ่งมีความมั่นใจ พวกเขาถึงกับคิดว่าแม้แค่ตัวคนเดียวก็สามารถล้มหุ่นเชิดเกราะทองลงได้

เมื่อเทียบกับเหล่าอัจฉริยะปีศาจทั้งสิบแล้ว,พวกที่เหลืออาจจะอ่อนแอกว่า แต่อย่างไรก็ตาม,ด้วยหุ่นเชิดเกราะเหล็กที่พวกเขาได้มา,พวกเขาอาจจะตกปลาในน้ําขุ่นมาได้

TL:ประมาณว่าชุบมือเปิบครับ อาศัยจังหวะชลมุนไปฉวยมา

สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หุ่นเชิดเกราะทองที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ พวกเขาเพียงจะรอให้หุ่นเชิดเกราะทองอ่อนแอลงก่อนที่พวกเขาจะลงมือ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+