Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 396 ลาก่อนเสี่ยวไป

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 396 ลาก่อนเสี่ยวไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 396 ลาก่อนเสี่ยวไป

เซี่ยวเฉินสงสัยเพียงแต่ว่าอีกฝ่ายตามหาเขาได้อย่างไร

สายตาของเสียวไป๋เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นขณะที่สํารวจใบหน้าของคนทั้งสองนางดตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งนางสามารถรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยและความใกล้ชิดในสายเลือดและไม่ได้เกรงกลัวอีกต่อไป

เซี่ยวเฉินสูดหายใจลึกและพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาความสงบของเขา เขาถามขึ้น “ท่านพบข้าได้อย่างไร?

พ่อแม่ของเสี่ยวไปมองตากัน ในที่สุด, บุรุษชุดขาวก็กล่าวขึ้น “ข้าให้พูดเอง แม่ของเสี่ยวไปรู้ถึงตัวตนของเจ้าหลังจากที่นางทําการเปลี่ยนร่างสําเร็จ,นางไปที่วังหมื่นอสูรเพื่อตามหาข้า”

TL:เหมือนตอนก่อนๆผมจะแปลเอาไว้ว่า “ตําหนักหมื่นอสูรตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น “วังหมื่นอสูรครับ

“ในตอนแรก,ข้าส่งคนไปที่อาณาจักรต้าฉินเพื่อตามหาร่องรอยของเจ้า อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีเรื่องบาดหมางกับเหล่าขุมอานาจใหญ่และได้ปกปิดตัวตนไป คนที่ข้าส่งไปไม่ได้ของเจ้าแม้แต่น้อย”

“จนถึงเมื่อสามเพื่อนก่อนที่เจ้าล้มเหล่าทายาทตระกูลชั้นสูงลงได้ จนถึงตอนนั้นที่ข้าได้ข่าวเก้ายวกับเจ้าหลังจากนั้น มีข่าวการประมือของเจ้ากับเยว่เฉินซีบนเกาะสายลมขจี ตอนนั้นเอง,ที่ พวกเราพบว่าเจ้าอยู่ที่ไหน”

คิดเกี่ยวกับมันดู,มันก็ถูกหลังจากที่เซียวเฉินออกจากศาลากระปสวรรค์,เขาไม่สนใจจะปกปิดร่องรอยของเขาอีกต่อไปตราบใดที่พยายามสักหน่อย มันไม่ได้ยากนักที่จะตามหาตัวเขา

ตอนนี้เซี่ยวเฉคลายความสงสัยของเขาลงไปแล้ว,เขาลดการระมัดระวังตัวลงและกล่าว “ท่านต้องการอะไร? เพียงกล่าวออกมาหากท่านอยากจะจะสังหารข้า,ก็ลงมือเสีย ถึงอย่างไร,ข้าก็ไม่มีทางต่อต้าน”

“ท่านหมายจะสังหารพี่ใหญ่เซียวเฉิน? เสี่ยวไปไม่ยอมให้ท่านทําร้ายพี่ใหญ่!” เมื่อเสี่ยวไปได้ยินที่เซียวเฉินกล่าว,นางออกมายืนที่ด้านหน้าของเซี่ยวเฉินอย่างสั่นสู้

บุรุษและสตรีชุดขาวทั้งคู่มองกันไปมาและอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ทําไมพวกเราถึงอยากจะสังหารเจ้า? เจ้าช่วยชีวิตภรรยาและช่วยให้ลูกสาวของข้าเปลี่ยนร่างนอกจากนั้น เจ้าไม่ได้กดขี่นาง,มองครั้งเดียวข้าก็รู้”

“ข้า,อานสื่อซวน,รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”

ค่าของบุรุษผู้นี้ให้บรรยากาศผ่าเผย ขณะที่เขายืนนิ่งอยู่บนพื้นทะเล,เขาไม่ได้ปลดปล่อยกระแสพลังของขอบเขตปราชญ์ยุทธออกมา

สีหน้าของเซียวเฉินผ่อนคลาย เขาไม่คาดคิดถึงสถานการณ์นี้ เขาได้ขโมยลูกสาวของเขามาเป็นสัตว์เลี้ยงและคิดว่าอีกฝ่ายจะมาตามล่าเขา

แม้ว่าหากอานสือซวนจะไม่สังหารเขาที่ช่วยแม่ของเสี่ยวไป์เอาไว้ แต่เขาอาจจะทุบตีเซี่ยวเฉิน

ตอนนี้ ดูเหมือนไม่เพียงแต่อานสือซวนจะไม่สังหารเขา,อานสือซวนยังใจดีกับเขา,ทําให้เขาปุ่นนงง

มารดาของเสียวไปมองไปที่เสียวไปและยิ้มขึ้น “พวกเราจะไม่ทําอะไรเจ้า พวกเราเพียงอยากที่จะพาเสียวไปไปที่วังหมุนอสร ถึงอย่างไร,นางก็ไม่ใช่มนุษย์ หากมีมนุษย์คนใดรู้ตัวตนของนางเข้า

อานสือซวนกล่าวต่อ “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,ยังห่างไกลที่จะปกป้องนาง มันจะปลอดภัยกว่าที่นางจะไปวังหมื่นอสูร”

เซี่ยวเฉินก้มหน้าลงครนคิด อีกฝ่ายเป็นพ่อแม่ของเสี่ยวไป พวกเขามีเหตุผลและมีสิทธิ์ที่จะพาเสียวไปไปเขาไม่มีเหตุผลอะไรมาหยุดพวกเขา
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ยังคงไม่ยินยอมให้เสียวไปไปตลอดระยะเวลา,เขาอยู่ตัวคนเดียว,และมีเพียงเสียวไปที่ติดตามเขา

สําหรับเซี่ยวเฉิน,เสี่ยวไปไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแต่เป็นสหาย หลังจากที่นางจากไป,เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังของเขาจะยิ่งกลายเป็นเปล่าเปลี่ยว

“เสี่ยวไปไม่ไป เสี่ยวไปเปลี่ยนราางหลังจากพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะสามารถอยู่ข้างใหญ่เซียวเฉินและช่วยเขากําราบคนไม่ดี” เมื่อเสี่ยวไปได้ยินว่าอานสือซวนอยากที่จะพานางไป,นางรีบไปซ่อนตัวด้านหลังของเซียวเฉิน

เมื่ออานสือซวนเห็นดังนั้น,สีหน้าของเขาเปลี่ยนเล็กน้อย เขามองไปที่เซียวเฉิน,และสีหน้าของเขากลายเป็นจริงจังเจตนาฆ่าฟันบางๆเริ่มแผ่ขยายออกมา

เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวในทันที เขาไม่รู้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น,เขาระมัดระวังตัวและเตรียมพร้อมที่จะหนีไปได้ทุกเวลา

แม่ของเสี่ยวไปักระแทกอานสือซวนเบาๆเมื่อนางเห็นเช่นนี้ นางกระซิบที่ข้างหูของเขาก่อนที่สีหน้าของเขาจะกลับมาเป็นปกติ

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินที่แม่ของเสี่ยวไปักล่าว,เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขึ้น เช่นนี้เอง,อานสือซวนคิดว่าเซี่ยวเฉินล่อลวงบุตรสาวของเขาเป็นเหตุว่าทําไมเสี่ยวไปถึงได้กล่าวเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าข้าจะขี้ขลาดถึงเพียงใด,ข้าจะไม่มีทางทําเช่นนั้นกับเด็กสาว,เซี่ยวเฉินดูอย่างหดหู

อย่างไรก็ตาม,ใรฐานะที่เป็นพ่อของเสี่ยวไป,เขามีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วง เซี่ยวเฉินเข้าใจและรู้ว่าจะต้องพูดคุยเช่นไร

เซี่ยวเฉินผลักเสี่ยวไปที่อยู่ด้านหน้าของเขาพร้อมรอยยิ้ม “เสี่ยวไป,เจ้าควรจะไปกับพ่อแม่ ของเจ้าข้าจะไปเยี่ยมเยือนเจ้าที่วังหมื่นอสูร ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ ข้าไม่อาจปกป้องเจ้าได้”

เสี่ยวไปน้ําตาคลอพร้อมกับกล่าว “พี่ใหญ่เซียวเฉิน,ท่านไม่ต้องการข้าอีกแล้ว?”

เมื่ออานสื่อซวนและภรรยาของเขาเห็นว่าเสี่ยวไปยึดติดอยู่กับเซียวเฉิน,พวกเขาไม่รู้น้องทําเช่นไร โดยเฉพาะในตอนที่พวกเขาเห็นเด็กสาวก่าลังร้องไห้

เซียวเฉินแนะขึ้นอย่างอ่อนโยน “เจ้าอยู่เคยข้างข้ามานาน แต่อย่างใด,พ่อแม่ของเจ้าไม่เคยได้ใช้เวลาอยู่กับเจ้าเลยนี่ไม่เป็นธรรมกับพ่อแม่ของเจ้า ไม่ใช่ว่าเสียวไปโตเป็นผู้ใหญ่แล้วรี?”

เมื่อเสียวไปได้ยินเช่นนั้น,นางครุ่นคิด เห็นชัดว่านางโอนเอียงไปตามคําของเซี่ยวเฉิน แต่อย่างไรก็ตาม,นางยังคงลังเลและรนรานเป็นอย่างยิ่ง

แม่ของเสี่ยวไป๋เดินเข้ามาและกัมมือของเสี่ยวไป๋อย่างอ่อนโยน นางยิ้มและกล่าวขึ้น “เสี่ยวไป่,ตอนนี้เจ้ายังอ่อนแอและเซี่ยวเฉินก็ต้องค่อยมาปกป้องเจ้า มันจะส่งผลต่อการบ่มเพาะพลังของเขา เจ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น,ใช่หรือไม่?

เมื่อเสี่ยวไปได้ยินดังนั้น,นางก้มหัวลงต่ในทันที นางครุ่นคิดกับตัวเอง,ใช่แล้ว,ข้ายังอ่อนแอข้าไม่สามารถล์มสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งได้

แม้เซี่ยวเฉินจะไม่ได้ว่านางเป็นภาระ แต่ตลอดมา,เซี่ยวเฉินมักจะต้องปกป้องนางอยู่เสมอนานครั้งที่นางจะเป็นฝ่ายช่วยเหลือเขา

หลังจากที่เสี่ยวไปคิดได้ดังนั้น,นางมองขึ้นมาและกล่าว “เช่นนั้น หากข้าไปที่วังหมื่นอสูร,ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น?”

อานสื่อซวนถอนหายใจอย่างโล่งอกและยิ้ม “เจ้าเป็นบุตรสาวของข้า;พรสวรรค์ของเจ้าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หากเจ้าไปที่วังหมื่นอสูร,เจ้าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าในสักวันหนึ่ง”

เสี่ยวไป๋หันไปถามเซี่ยวเฉินว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เมื่อนางได้คําตอบที่แน่นอน ในที่สุดนางก็ตกลงที่จะไปยังวังหมื่นอสูร

สิ่งที่ต้องเกิด มันก็ต้องเกิด แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะรู้สึกไม่ยินยอม,เขาก็ตัดสินใจได้แล้ว เขาปลดจี้หยกวิญญาณสีเลอดที่หน้าอกของเขาออกและส่งให้กับอานสือซวน

อานสือซวนรับมันไปมองดู จากนั้นเขาก็ส่งมันกลับคืนมา เขากล่าวเบาๆ “เก็บมันเอาไว้ เจ้ายังคงได้พบกันอีกในอนาคต ข้ารู้ว่าเจ้าห่วงใยเสี่ยวไปจากใจจริง”

หลังจากที่อานสื่อซวนกล่าวจบ,เขาก็ยิ้มเหรียญหยกออกมาแลพส่งมันให้กับเซียวเฉิน เขากล่าว “นี่เป็นเหรียญมารสวรรค์ของวังหมื่นอสูร ในจังหวะอันตราย,เจ้าสามารถอัญเชิญร่างเสมือนของมารจักรพรรดิ์โลราณเพื่อช่วยชีวิตของเจ้า หากเจ้าไม่ได้ใช่มัน,เจ้าสามารถนํามันมาที่วังหมื่นอสูรเพื่อพบข้า ข้ายินดีจะช่วยเจ้าในเรื่องที่สมเหตุสมผล

เซี่ยวเฉินรับเหรียญมาและรู้สึกไร้คําพูด ทําไมปราชญ์ยุทธเหล่านี้ถึงได้ชอบมอบเหรียญให้กับคนอื่นนัก? ข้าได้มาสองเหรียญแล้วในวันนี้

“ผู้อาวุโส,เสียวไป,ข้าขอตัวก่อน หลังจากที่เจ้าไปถึงวังหมื่นอสูร,หยุดนิสัยติดเหล้าได้แล้วนะ” เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะขอตัวลา

ขณะที่เสี่ยวไปมองดูเซียวเฉินจากไป,หยดน้ําตาร่วงหล่นลงมาจากตาขอบนสง นางสัญญากับตัวเอง, ในสองปี, ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะต้องไม่เป็นภาระของพี่ใหญ่เซียวเฉิน

หลังจากที่เซียวเฉินจากเสี่ยวไปมา,เขารู้สึกเปล่าเปลี่ยวอย่างแท้จริง ในอนาคตเบื้องหน้า,เขาต้องเดินอย่างโดดเดี่ยวไปตามเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลัง

จากนั้นเขามองไปที่กระบี่เงาจันทร์และยิ้มเบาๆ “ไม่ใช่ข้าลืมเจ้าไป ข้ายังมีกระบี่เงาจันทร์ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่สงไร,กระบี่ของข้าจะเคียงข้างข้าอยู่เสมอ”

หนทางยังอีกยาวไกล เซียวเฉินสงบใจลงและเดินทางต่อไปยังเกาะสายลมขจี

ระหว่างทาง, มีฉีฆ่าฟันสองเส้นออกมาจากโขดหินเบื้องหน้าและกดลงบนตัวเซี่ยวเฉิน

ดวงตาของเซี่ยวเฉินพลันสว่างขึ้นและตรวจสอบพื้นดานหน้าของเขา เมื่อเขาเห็นรูปร่างของคนทั้งสองได้ชัดเจน,เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกประหลาดเขากล่าว “อูซ่างเฉียนกับหยางเหวิน ทําไมพวกเขาถึงมาอยู่ด้วยกัน?”

เซียวเฉินจําได้ว่าอูซ่างเฉียนสังหารสหายของหยางเหวินในห้องสมบัติบนเกาะเชียนเหลินกระนั้น ตอนนี้พวกเขากลับมาอยู่ด้วยกัน

“ซิ่ว! ซิ่ว!”

อูซ่างเฉียนกับหยางเหวินมุ่งตรงมาที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้า,พวกเขาก็อยู่ห่างจาก เซี่ยวเฉินไปหนึ่งร้อยเมตร

อูซ่างเฉียนลูบคางของเขาภร้อมกับมีความชั่วร้ายอยู่ในดวงตา เขากล่าว “ข้าบอกเจ้าแล้ว ตราบใดที่พวกเรารอที่นี่, พวกเราจะเจอเจ้าสารเลวคนนี้ไม่ช้าก็เร็ว ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าหรือยัง?”

หยางเหวินยิ้มเบาๆและมองไปทางเซียวเฉินพร้อมกับกล่าวขึ้น “ส่งสมบัติทั้งหมดที่เจ้าเจอในห้องสมบัติมาซะ,รวมถึงสมุนไพรวิญญาณที่เจ้าได้มาจากสวนสมุนไพร เช่นนั้น,ข้าจะปล่อยเจ้าไปมิฉะนั้น,อย่างคิดว่าเจ้าจะหนีออกไปได้เป็นๆ”

เซียวเฉินหลี่ตาของเขาเผยสีหน้าเหยียดหยาม ตราบใดที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ศัตรูสามารถจับมือกันฉันท์มิตร

อย่างไรก็ตาม หรือทั้งสองคนจะคิดว่าเซี่ยวเฉินจะเป็นคนที่รับมือด้วยง่ายดาย?

อซ่างเฉียนเผยเจตนาชั่วร้ายบนใบหน้าของเขาเขากล่าวกยอ่างเย็นชา “พี่น้องก็กล่าวไร้สาระฆ่ามันเสีย,และพวกเราจะแบ่งของที่อยู่ในแหวนมิติกัน”

“ตาย!”

หลังจากอซ่างเฉียนกล่าวจบ,เขากระทืบพื้นอย่างแรงและเกิดเป็นคลื่นระเบิดขึ้นมา

“ปัง!”

หยางเหวินดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงและหยุดพูดคุย เขากระทืบเท้าลงบนพื้นทะเลและส่งตัวเองขึ้นหน้าไป

แม้ว่าทั้งสองจะระเบิดกระแสพลังพลุ่งพล่านเข้ามา,เซี่ยวเฉินก็ยังคงนิ่งสงบ เปลวเพลิงดร้ายหมุนวนในดวงตาขวาของเขาอย่างต่อเนื่อง

ในไม่ช้า,วังวนเปลวเพลิงขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นในมิติไร้ขอบเขตที่ดวงตาของเซี่ยวเฉิน เขาร้องค่ารามศึกและเปลวเพลิงสีม่วงถูกพ่นออกไป

“บูม!”

ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าระยะยี่สิบเมตรของเซี่ยวเฉิน,เปลวเพลิงสีม่วงพลุ่งพล่านพลันปรากฏตรงหน้าของพวกเขา;มันกว้างสิบเมตรและสูงหนึ่งร้อยเมตร

เปลวเพลิงสีม่วงที่แผดเผากระพริบแสงสลัวอุณหภูมิร้อนแรงทําให้พื้นผิวของทะเลระเหยเป็นไอ ขณะที่ไอน้ําระเหยขึ้นมาในอากาศ,มันขยายกลายเป็นทะเลหมอกกว้างขวาง

อซ่างซวนและหยางเหวินสีหน้าเปลี่ยน ทันใดนั้น,ทะเลหมอกกลืนกินวิสัยทัศน์ของพวกเขา

จังหวะต่อมา,เปลวเพลิงสีม่วงขนาดใหญ่พลันเข้ามาปกคุลม มันช่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

“ถอย!”

เปลวเพลิงสีม่วงแปลกประหลาดทําให้ทั้งสองคนตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่ากําลังเกิดอะไรขึ้นพร้อมกับใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาถึงขีดสุดและถอยหนี

“ชี! ชี!”

เปลวเพลิงสีม่วงซัดลงไปตรงจุดที่ทั้งสองคนเคยยืนอยู่ ช่วงว่างกว้างประมาณยี่สิบเมตรปรากฎขึ้นบนพื้นทะเล

หมอกระเหยพวยพุ่งออกมาจากทะเล ช่องว่างนี้ปรากฏขึ้นเพียงช่วงครู่ก่อนที่น้ําทะเลโดยรอบจะเข้าไปเติมเต็ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 396 ลาก่อนเสี่ยวไป

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 396 ลาก่อนเสี่ยวไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 396 ลาก่อนเสี่ยวไป

เซี่ยวเฉินสงสัยเพียงแต่ว่าอีกฝ่ายตามหาเขาได้อย่างไร

สายตาของเสียวไป๋เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นขณะที่สํารวจใบหน้าของคนทั้งสองนางดตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งนางสามารถรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยและความใกล้ชิดในสายเลือดและไม่ได้เกรงกลัวอีกต่อไป

เซี่ยวเฉินสูดหายใจลึกและพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาความสงบของเขา เขาถามขึ้น “ท่านพบข้าได้อย่างไร?

พ่อแม่ของเสี่ยวไปมองตากัน ในที่สุด, บุรุษชุดขาวก็กล่าวขึ้น “ข้าให้พูดเอง แม่ของเสี่ยวไปรู้ถึงตัวตนของเจ้าหลังจากที่นางทําการเปลี่ยนร่างสําเร็จ,นางไปที่วังหมื่นอสูรเพื่อตามหาข้า”

TL:เหมือนตอนก่อนๆผมจะแปลเอาไว้ว่า “ตําหนักหมื่นอสูรตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น “วังหมื่นอสูรครับ

“ในตอนแรก,ข้าส่งคนไปที่อาณาจักรต้าฉินเพื่อตามหาร่องรอยของเจ้า อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีเรื่องบาดหมางกับเหล่าขุมอานาจใหญ่และได้ปกปิดตัวตนไป คนที่ข้าส่งไปไม่ได้ของเจ้าแม้แต่น้อย”

“จนถึงเมื่อสามเพื่อนก่อนที่เจ้าล้มเหล่าทายาทตระกูลชั้นสูงลงได้ จนถึงตอนนั้นที่ข้าได้ข่าวเก้ายวกับเจ้าหลังจากนั้น มีข่าวการประมือของเจ้ากับเยว่เฉินซีบนเกาะสายลมขจี ตอนนั้นเอง,ที่ พวกเราพบว่าเจ้าอยู่ที่ไหน”

คิดเกี่ยวกับมันดู,มันก็ถูกหลังจากที่เซียวเฉินออกจากศาลากระปสวรรค์,เขาไม่สนใจจะปกปิดร่องรอยของเขาอีกต่อไปตราบใดที่พยายามสักหน่อย มันไม่ได้ยากนักที่จะตามหาตัวเขา

ตอนนี้เซี่ยวเฉคลายความสงสัยของเขาลงไปแล้ว,เขาลดการระมัดระวังตัวลงและกล่าว “ท่านต้องการอะไร? เพียงกล่าวออกมาหากท่านอยากจะจะสังหารข้า,ก็ลงมือเสีย ถึงอย่างไร,ข้าก็ไม่มีทางต่อต้าน”

“ท่านหมายจะสังหารพี่ใหญ่เซียวเฉิน? เสี่ยวไปไม่ยอมให้ท่านทําร้ายพี่ใหญ่!” เมื่อเสี่ยวไปได้ยินที่เซียวเฉินกล่าว,นางออกมายืนที่ด้านหน้าของเซี่ยวเฉินอย่างสั่นสู้

บุรุษและสตรีชุดขาวทั้งคู่มองกันไปมาและอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ทําไมพวกเราถึงอยากจะสังหารเจ้า? เจ้าช่วยชีวิตภรรยาและช่วยให้ลูกสาวของข้าเปลี่ยนร่างนอกจากนั้น เจ้าไม่ได้กดขี่นาง,มองครั้งเดียวข้าก็รู้”

“ข้า,อานสื่อซวน,รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”

ค่าของบุรุษผู้นี้ให้บรรยากาศผ่าเผย ขณะที่เขายืนนิ่งอยู่บนพื้นทะเล,เขาไม่ได้ปลดปล่อยกระแสพลังของขอบเขตปราชญ์ยุทธออกมา

สีหน้าของเซียวเฉินผ่อนคลาย เขาไม่คาดคิดถึงสถานการณ์นี้ เขาได้ขโมยลูกสาวของเขามาเป็นสัตว์เลี้ยงและคิดว่าอีกฝ่ายจะมาตามล่าเขา

แม้ว่าหากอานสือซวนจะไม่สังหารเขาที่ช่วยแม่ของเสี่ยวไป์เอาไว้ แต่เขาอาจจะทุบตีเซี่ยวเฉิน

ตอนนี้ ดูเหมือนไม่เพียงแต่อานสือซวนจะไม่สังหารเขา,อานสือซวนยังใจดีกับเขา,ทําให้เขาปุ่นนงง

มารดาของเสียวไปมองไปที่เสียวไปและยิ้มขึ้น “พวกเราจะไม่ทําอะไรเจ้า พวกเราเพียงอยากที่จะพาเสียวไปไปที่วังหมุนอสร ถึงอย่างไร,นางก็ไม่ใช่มนุษย์ หากมีมนุษย์คนใดรู้ตัวตนของนางเข้า

อานสือซวนกล่าวต่อ “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,ยังห่างไกลที่จะปกป้องนาง มันจะปลอดภัยกว่าที่นางจะไปวังหมื่นอสูร”

เซี่ยวเฉินก้มหน้าลงครนคิด อีกฝ่ายเป็นพ่อแม่ของเสี่ยวไป พวกเขามีเหตุผลและมีสิทธิ์ที่จะพาเสียวไปไปเขาไม่มีเหตุผลอะไรมาหยุดพวกเขา
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินก็ยังคงไม่ยินยอมให้เสียวไปไปตลอดระยะเวลา,เขาอยู่ตัวคนเดียว,และมีเพียงเสียวไปที่ติดตามเขา

สําหรับเซี่ยวเฉิน,เสี่ยวไปไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแต่เป็นสหาย หลังจากที่นางจากไป,เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังของเขาจะยิ่งกลายเป็นเปล่าเปลี่ยว

“เสี่ยวไปไม่ไป เสี่ยวไปเปลี่ยนราางหลังจากพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะสามารถอยู่ข้างใหญ่เซียวเฉินและช่วยเขากําราบคนไม่ดี” เมื่อเสี่ยวไปได้ยินว่าอานสือซวนอยากที่จะพานางไป,นางรีบไปซ่อนตัวด้านหลังของเซียวเฉิน

เมื่ออานสือซวนเห็นดังนั้น,สีหน้าของเขาเปลี่ยนเล็กน้อย เขามองไปที่เซียวเฉิน,และสีหน้าของเขากลายเป็นจริงจังเจตนาฆ่าฟันบางๆเริ่มแผ่ขยายออกมา

เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวในทันที เขาไม่รู้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น,เขาระมัดระวังตัวและเตรียมพร้อมที่จะหนีไปได้ทุกเวลา

แม่ของเสี่ยวไปักระแทกอานสือซวนเบาๆเมื่อนางเห็นเช่นนี้ นางกระซิบที่ข้างหูของเขาก่อนที่สีหน้าของเขาจะกลับมาเป็นปกติ

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินที่แม่ของเสี่ยวไปักล่าว,เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขึ้น เช่นนี้เอง,อานสือซวนคิดว่าเซี่ยวเฉินล่อลวงบุตรสาวของเขาเป็นเหตุว่าทําไมเสี่ยวไปถึงได้กล่าวเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าข้าจะขี้ขลาดถึงเพียงใด,ข้าจะไม่มีทางทําเช่นนั้นกับเด็กสาว,เซี่ยวเฉินดูอย่างหดหู

อย่างไรก็ตาม,ใรฐานะที่เป็นพ่อของเสี่ยวไป,เขามีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วง เซี่ยวเฉินเข้าใจและรู้ว่าจะต้องพูดคุยเช่นไร

เซี่ยวเฉินผลักเสี่ยวไปที่อยู่ด้านหน้าของเขาพร้อมรอยยิ้ม “เสี่ยวไป,เจ้าควรจะไปกับพ่อแม่ ของเจ้าข้าจะไปเยี่ยมเยือนเจ้าที่วังหมื่นอสูร ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ ข้าไม่อาจปกป้องเจ้าได้”

เสี่ยวไปน้ําตาคลอพร้อมกับกล่าว “พี่ใหญ่เซียวเฉิน,ท่านไม่ต้องการข้าอีกแล้ว?”

เมื่ออานสื่อซวนและภรรยาของเขาเห็นว่าเสี่ยวไปยึดติดอยู่กับเซียวเฉิน,พวกเขาไม่รู้น้องทําเช่นไร โดยเฉพาะในตอนที่พวกเขาเห็นเด็กสาวก่าลังร้องไห้

เซียวเฉินแนะขึ้นอย่างอ่อนโยน “เจ้าอยู่เคยข้างข้ามานาน แต่อย่างใด,พ่อแม่ของเจ้าไม่เคยได้ใช้เวลาอยู่กับเจ้าเลยนี่ไม่เป็นธรรมกับพ่อแม่ของเจ้า ไม่ใช่ว่าเสียวไปโตเป็นผู้ใหญ่แล้วรี?”

เมื่อเสียวไปได้ยินเช่นนั้น,นางครุ่นคิด เห็นชัดว่านางโอนเอียงไปตามคําของเซี่ยวเฉิน แต่อย่างไรก็ตาม,นางยังคงลังเลและรนรานเป็นอย่างยิ่ง

แม่ของเสี่ยวไป๋เดินเข้ามาและกัมมือของเสี่ยวไป๋อย่างอ่อนโยน นางยิ้มและกล่าวขึ้น “เสี่ยวไป่,ตอนนี้เจ้ายังอ่อนแอและเซี่ยวเฉินก็ต้องค่อยมาปกป้องเจ้า มันจะส่งผลต่อการบ่มเพาะพลังของเขา เจ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น,ใช่หรือไม่?

เมื่อเสี่ยวไปได้ยินดังนั้น,นางก้มหัวลงต่ในทันที นางครุ่นคิดกับตัวเอง,ใช่แล้ว,ข้ายังอ่อนแอข้าไม่สามารถล์มสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งได้

แม้เซี่ยวเฉินจะไม่ได้ว่านางเป็นภาระ แต่ตลอดมา,เซี่ยวเฉินมักจะต้องปกป้องนางอยู่เสมอนานครั้งที่นางจะเป็นฝ่ายช่วยเหลือเขา

หลังจากที่เสี่ยวไปคิดได้ดังนั้น,นางมองขึ้นมาและกล่าว “เช่นนั้น หากข้าไปที่วังหมื่นอสูร,ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น?”

อานสื่อซวนถอนหายใจอย่างโล่งอกและยิ้ม “เจ้าเป็นบุตรสาวของข้า;พรสวรรค์ของเจ้าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หากเจ้าไปที่วังหมื่นอสูร,เจ้าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าในสักวันหนึ่ง”

เสี่ยวไป๋หันไปถามเซี่ยวเฉินว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เมื่อนางได้คําตอบที่แน่นอน ในที่สุดนางก็ตกลงที่จะไปยังวังหมื่นอสูร

สิ่งที่ต้องเกิด มันก็ต้องเกิด แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะรู้สึกไม่ยินยอม,เขาก็ตัดสินใจได้แล้ว เขาปลดจี้หยกวิญญาณสีเลอดที่หน้าอกของเขาออกและส่งให้กับอานสือซวน

อานสือซวนรับมันไปมองดู จากนั้นเขาก็ส่งมันกลับคืนมา เขากล่าวเบาๆ “เก็บมันเอาไว้ เจ้ายังคงได้พบกันอีกในอนาคต ข้ารู้ว่าเจ้าห่วงใยเสี่ยวไปจากใจจริง”

หลังจากที่อานสื่อซวนกล่าวจบ,เขาก็ยิ้มเหรียญหยกออกมาแลพส่งมันให้กับเซียวเฉิน เขากล่าว “นี่เป็นเหรียญมารสวรรค์ของวังหมื่นอสูร ในจังหวะอันตราย,เจ้าสามารถอัญเชิญร่างเสมือนของมารจักรพรรดิ์โลราณเพื่อช่วยชีวิตของเจ้า หากเจ้าไม่ได้ใช่มัน,เจ้าสามารถนํามันมาที่วังหมื่นอสูรเพื่อพบข้า ข้ายินดีจะช่วยเจ้าในเรื่องที่สมเหตุสมผล

เซี่ยวเฉินรับเหรียญมาและรู้สึกไร้คําพูด ทําไมปราชญ์ยุทธเหล่านี้ถึงได้ชอบมอบเหรียญให้กับคนอื่นนัก? ข้าได้มาสองเหรียญแล้วในวันนี้

“ผู้อาวุโส,เสียวไป,ข้าขอตัวก่อน หลังจากที่เจ้าไปถึงวังหมื่นอสูร,หยุดนิสัยติดเหล้าได้แล้วนะ” เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะขอตัวลา

ขณะที่เสี่ยวไปมองดูเซียวเฉินจากไป,หยดน้ําตาร่วงหล่นลงมาจากตาขอบนสง นางสัญญากับตัวเอง, ในสองปี, ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะต้องไม่เป็นภาระของพี่ใหญ่เซียวเฉิน

หลังจากที่เซียวเฉินจากเสี่ยวไปมา,เขารู้สึกเปล่าเปลี่ยวอย่างแท้จริง ในอนาคตเบื้องหน้า,เขาต้องเดินอย่างโดดเดี่ยวไปตามเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลัง

จากนั้นเขามองไปที่กระบี่เงาจันทร์และยิ้มเบาๆ “ไม่ใช่ข้าลืมเจ้าไป ข้ายังมีกระบี่เงาจันทร์ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่สงไร,กระบี่ของข้าจะเคียงข้างข้าอยู่เสมอ”

หนทางยังอีกยาวไกล เซียวเฉินสงบใจลงและเดินทางต่อไปยังเกาะสายลมขจี

ระหว่างทาง, มีฉีฆ่าฟันสองเส้นออกมาจากโขดหินเบื้องหน้าและกดลงบนตัวเซี่ยวเฉิน

ดวงตาของเซี่ยวเฉินพลันสว่างขึ้นและตรวจสอบพื้นดานหน้าของเขา เมื่อเขาเห็นรูปร่างของคนทั้งสองได้ชัดเจน,เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกประหลาดเขากล่าว “อูซ่างเฉียนกับหยางเหวิน ทําไมพวกเขาถึงมาอยู่ด้วยกัน?”

เซียวเฉินจําได้ว่าอูซ่างเฉียนสังหารสหายของหยางเหวินในห้องสมบัติบนเกาะเชียนเหลินกระนั้น ตอนนี้พวกเขากลับมาอยู่ด้วยกัน

“ซิ่ว! ซิ่ว!”

อูซ่างเฉียนกับหยางเหวินมุ่งตรงมาที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้า,พวกเขาก็อยู่ห่างจาก เซี่ยวเฉินไปหนึ่งร้อยเมตร

อูซ่างเฉียนลูบคางของเขาภร้อมกับมีความชั่วร้ายอยู่ในดวงตา เขากล่าว “ข้าบอกเจ้าแล้ว ตราบใดที่พวกเรารอที่นี่, พวกเราจะเจอเจ้าสารเลวคนนี้ไม่ช้าก็เร็ว ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าหรือยัง?”

หยางเหวินยิ้มเบาๆและมองไปทางเซียวเฉินพร้อมกับกล่าวขึ้น “ส่งสมบัติทั้งหมดที่เจ้าเจอในห้องสมบัติมาซะ,รวมถึงสมุนไพรวิญญาณที่เจ้าได้มาจากสวนสมุนไพร เช่นนั้น,ข้าจะปล่อยเจ้าไปมิฉะนั้น,อย่างคิดว่าเจ้าจะหนีออกไปได้เป็นๆ”

เซียวเฉินหลี่ตาของเขาเผยสีหน้าเหยียดหยาม ตราบใดที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ศัตรูสามารถจับมือกันฉันท์มิตร

อย่างไรก็ตาม หรือทั้งสองคนจะคิดว่าเซี่ยวเฉินจะเป็นคนที่รับมือด้วยง่ายดาย?

อซ่างเฉียนเผยเจตนาชั่วร้ายบนใบหน้าของเขาเขากล่าวกยอ่างเย็นชา “พี่น้องก็กล่าวไร้สาระฆ่ามันเสีย,และพวกเราจะแบ่งของที่อยู่ในแหวนมิติกัน”

“ตาย!”

หลังจากอซ่างเฉียนกล่าวจบ,เขากระทืบพื้นอย่างแรงและเกิดเป็นคลื่นระเบิดขึ้นมา

“ปัง!”

หยางเหวินดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงและหยุดพูดคุย เขากระทืบเท้าลงบนพื้นทะเลและส่งตัวเองขึ้นหน้าไป

แม้ว่าทั้งสองจะระเบิดกระแสพลังพลุ่งพล่านเข้ามา,เซี่ยวเฉินก็ยังคงนิ่งสงบ เปลวเพลิงดร้ายหมุนวนในดวงตาขวาของเขาอย่างต่อเนื่อง

ในไม่ช้า,วังวนเปลวเพลิงขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นในมิติไร้ขอบเขตที่ดวงตาของเซี่ยวเฉิน เขาร้องค่ารามศึกและเปลวเพลิงสีม่วงถูกพ่นออกไป

“บูม!”

ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าระยะยี่สิบเมตรของเซี่ยวเฉิน,เปลวเพลิงสีม่วงพลุ่งพล่านพลันปรากฏตรงหน้าของพวกเขา;มันกว้างสิบเมตรและสูงหนึ่งร้อยเมตร

เปลวเพลิงสีม่วงที่แผดเผากระพริบแสงสลัวอุณหภูมิร้อนแรงทําให้พื้นผิวของทะเลระเหยเป็นไอ ขณะที่ไอน้ําระเหยขึ้นมาในอากาศ,มันขยายกลายเป็นทะเลหมอกกว้างขวาง

อซ่างซวนและหยางเหวินสีหน้าเปลี่ยน ทันใดนั้น,ทะเลหมอกกลืนกินวิสัยทัศน์ของพวกเขา

จังหวะต่อมา,เปลวเพลิงสีม่วงขนาดใหญ่พลันเข้ามาปกคุลม มันช่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

“ถอย!”

เปลวเพลิงสีม่วงแปลกประหลาดทําให้ทั้งสองคนตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่ากําลังเกิดอะไรขึ้นพร้อมกับใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาถึงขีดสุดและถอยหนี

“ชี! ชี!”

เปลวเพลิงสีม่วงซัดลงไปตรงจุดที่ทั้งสองคนเคยยืนอยู่ ช่วงว่างกว้างประมาณยี่สิบเมตรปรากฎขึ้นบนพื้นทะเล

หมอกระเหยพวยพุ่งออกมาจากทะเล ช่องว่างนี้ปรากฏขึ้นเพียงช่วงครู่ก่อนที่น้ําทะเลโดยรอบจะเข้าไปเติมเต็ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+