Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา

น้ําเสียงเด็กน้อยของเสี่ยวไปทําให้ทุกคนหัวเราะออกมา เสี่ยวเมิ่งดึงเสี่ยวไปเข้าไปหาและกล่าว “มาเสียวไป ข้าจะพาเจ้าไปถักผม หากผมของหญิงสาวกระเซิง,มันจะดูไม่ดี”

ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะทันได้หยุดเสี่ยวไป์,นางก็ถูกเสี่ยวเพิ่งดึงตัวไปแล้ว หลิวหรูเยวี่ยิ้มและกล่าว “ให้นางไปเถอะ,จะไม่มีอะไรขึ้นขึ้นกับนางที่ยอดเขาจึงหยุน”

เซี่ยวเฉินไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น,เขาเพียงกังวลว่าเสี่ยวไป๋จะไปเรียนรู้อะไรแปลกๆมาจากเสี่ยวเมิ่ง

เซียวเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และถอนสายตากลับมา “ขอบคุณ ข้าเตรียมตัวที่จะเข้าไปในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณแล้ว”

หลิวหรูเยว่หยุดยิ้มลง นางกล่าวอย่างจริงจัง “มากับข้า ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้อันตรายยิ่งกว่าคราวก่อนมาก มันต้องการการบ่มเพาะสภาวะแห่งจิตใจของเจ้าที่สูงขึ้น มีสิ่งที่เจ้าต้องรู้ก่อนที่จะเข้าไป”

หลิวหรูเยว่นําเซียวเฉินตรงไปมุมที่มีค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณตั้งอยู่ จากนั้น,นางอธิบายถึงจริงที่เซียวเฉินต้องรู้เอาไว้อย่างละเอียด

ภายใต้การแนะนําของหลิวหรูเยว่,เซียวเฉินตชค่อยๆเข้าไปในค่ายกลกระบี่ ฉีฆ่าฟันของอาวุธมากมายพลุ่งพล่านออกมา,ปะทะเข้ากับจิตวิญญาณของเซียวเฉิน

หากเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอ่อนแอ,ในทันทีที่พวกมันพุ่งเข้ามา จิตวิญญาณของพวกเขาจะต้องแตกสลาย

เซี่ยวเฉินปกป้องจุดตันเที่ยนด้วยจิตใต้สํานึกของเขาและใช้สัมผัสวิญญาณของเขาป้องกันร่างกาย ฉีฆ่าฟันที่พรุ่งพล่านถูกกวาดออกไปด้านนอกร่างกายของเซี่ยวเฉินพร้อมกับเขานั่งลงที่ตรงกลางของค่ายกล

“เจ๋ง!”

เสียงหึงอันไพรเราะดังออกมาจากกนะที่ในมือของหลิวหรูเยว่ กระบี่เล่มนั้นออกมาจากฝักของมันและสันไหวอย่างต่อเนื่อง

หลิวหรเยวค่อยๆใช้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันที่นางได้บรรลมา อาวุธทั้งหมดที่ปักอยู่กับพื้นสั่นไหวในทันที

เสียงฟังดังสะท้อนไปทั่วทั้งลานฝึกฝน ในตอนที่กระบี่โบราณนับพันสั่นสะเทือนและแสงของมันรวมตัวกัน มันกล่าวเป็นเสียงที่เสียดแทงแก้ว

สายลมรุนแรงพัดผ่านไปรอบๆค่ายกลประบี่, ใบหน้าอันงดงามของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยความจริงจังขณะที่นางโห่ร้องคารามศึกออกมา

กระบี่เล็กในมือของนางเรืองแสงเจิดจ้า สายลมแข็งแกร่งมารวมตัวกันในทันทีและจดจ่อไปที่เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่อยู่ตรงกึ่งกลางของค่ายกล,ก่อเกิดเป็นเสาวาย

“ชี!”

มีแสงออกจากกาะบี่และหลอมรวมเข้าไปในเสาวายุ ทันมดนั้นเสาวายก็เรื่องแสงรุ่งโรจน์ออกมา หลังจากนั้น มันก็แตกกระจายออกไป อาวุธทั้งหมดเริ่มสั่นไหว

หลังจากที่หลิวหรูเยวทําทั้งหมดทั้งนี้จบลง,สีหน้าของนางซีดจางลงไป ผิวของนางซีดเซียว และร่างกายของนางไม่มั่นคง

เมื่อหลิวสยเฟง,ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น,เขาเผยสีหน้าร้ายแรงออกมา เขายื่นมือออกไป ประคองหลิวหรูเยว่เอาไว้

“พี่สาว,มันคุ้มกันหรือที่จะช่วยเหลือเขาเช่นนี้? ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเจ้า,แค่การเปิดใช้ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้ครั้งหนึ่งก็จะผลาญการบ่มเพาะพลังของเจ้าไปครึ่งปี”

การผลาญการบ่มเพาะพลังครึ่งปีหมายถึงการเสียเวลาไปครึ่งปี สําหรับยอดนักบ่มเพาะพลัง,การอดอไปหนึ่งเดือนก็สามารถเป็นผลให้พวกเขาร่วงจากตําแหน่งระดับยอดนักบ่มเพาะพลัง สามารถจินตนาการได้ว่าการเสียเวลาไปครึ่งปีจะเสียหายถึงเพียงใด

หลิวหรูเยว่นวดจุดไทหยางบนหน้าผากด้วยมือขวาของนาง หลังจากนั้น,นางก็ลืมตาขึ้น;นางรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามและทรงเสน่ห์ของหลิวหรูเยว่ นางกล่าวเสียงนุ่ม “เขาเข้ามาที่ยอดเขาฉิงหยุนเพื่อจุดหมายเดียวก็คือการเรียนรู้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน เขาได้ทําอะไรไปมากมายแล้ว,แน่เขากลับไม่ได้ขออะไรตอบแทน หากข้าไม่ช่วยเขาแล้วใครจะช่วย?”

หลิวสุยฟังยิ้ม “อย่างไรก็ตาม,หากเขาได้เรียนรู้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน,เขาจะต้องออกจากศาลากระบี่สวรรค์และยอดเขาจึงหยุนไปอย่างแน่อนอน”

เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินดังนั้น ความสูญเสียที่ยากจะมองเห็นวูบไหวในดวงตาของนาง นางกล่าว “ข้ารู้ตั้งแต่ในวันแรกที่เขามายังยอดเขาฉิงหยุน ไม่ว่าจะเป็นศาลากระบี่สวรรค์หรือยอดเขาจึงหยุนสิ,มันเป็นเพียงทางผ่านสําหรับเขา”

หลิวหรูเยว่หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้น,นางก็หัวเราะอย่างช่วยไมไม่ได้และเผยสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับกล่าวต่อ “ในโลกใบนี้ มีคนที่ถูกกําหนดมาเพื่อเป็นใหญ่ ชื่อของพวกเขาจะสั่นสะเทือนสวรรค์,ล้างตํานานบทเก่าและเขียนตํานานบทใหม่ แทนที่จะหยุดยื้อถึงตัวเขาเอาไว้ไม่ให้โผบิน,ทําไมไม่ช่วยผลักดันเขาให้ไปยืนบนยอดสุดของโลกใบนี้”

แสงทั้งหมดจากอาวุธปรากฏขึ้น,เซี่ยวเฉิน,ทันมดนั้นก็บนว่าฉากเบื้องหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาได้เข้าสู่โลกสีเทา

มีกระบี่นับไม่ถ้วนกําลังทะลวงผ่านอากาศ, บินตรงมาที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว

เซี่ยวเฉินได้เข้าสู่ตชค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โลราณมาหลายครั้งแล้ว เขาคงสีหน้านิ่งสงบและไม่ได้ตื่นกลัวแม้แต่น้อย

ด้วยการนึกคิด,กระบี่สีขาวหิมะปรากฏขึ้นในมือของเขา กระบี่เล่มนี่กว่างสองนิ้วและยาว 2.7 เมตร คมกระบกระพริบไหวด้วยแสงเยือกเย็น

เซียวเฉินได้ฝึกฝนในค่ายกระบี่สัมบูรณ์โลราณมากหลายเดือนแล้ว เขามีความคืบหน้าในการฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน ทั้งหมดที่เขายังขาดอยู่ก็คือช่วงเวลาที่เหมาะสม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทําให้เซี่ยวเฉินบรรลุถึงการฟังเสียงของดาบ และสื่อสารกับมันอย่างสมบูรณ์

“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”

กระบี่ในมือของเขาเคลื่อนไหว,กระบี่แสงเคลื่อนไปทั่วทุกทิศทาง ทําให้กระบี่ทุกเล่มในอากาศถูกปัดลอยออกไป

ขณะที่เซียวเฉินยืนอยู่หน้ามิติลวงนี้,เขามีท่าทางที่ชี้ให้เห็นว่าเขาอยู่ในความคิดลึก เขาพึมพํา “ที่ผ่านมา,ภายในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ,ข้าสามารถสลายอาวุธที่บินมาหาข้างได้อย่างสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ข้าต้องใช้พลังเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์และสามารถทําได้เพียงหวดมันกลับไป”

ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่หลิวสุยเฟิงกล่าวเอาไว้ ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้ทรงอํานาจกว่า เมื่อก่อนหน้าอย่างน้อยห้าเท่า

กระบี่กระพริบไหวด้วยกระบี่แสงเฉียบคมพร้อมกับพวกมันบินเข้ามาเซียวเฉินอย่างไม่หยุดหย่อน มันราวกับว่าอยากจะกลืนกินเขา

“เร็วอีก! เร็วอีก! ตามหากระบี่ของเจ้า! ตามหากระบี่ของเจ้า!”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหูของเซี่ยวเฉินอีกครั้ง ขณะที่เขาอยู่ที่กึ่งกลางมิติลวง,เขาเคบอนที่ไปรอบๆ กระบี่แสงของเขาเจิดจ้าพร้อมกับเขาใช้ออกทักษกระบี่หวาย

“หวี่ขยแพรวพราว!”

“หวี่ขยเปลี่ยนรูปฉี!”

“ทะลวงหรูขุย!”

เซี่ยวเฉินร้องตะโกนออกมาและเขาใช้ออกทักษะกระบี่หว่ขยหลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้าเต็มกําลัง เส้นกระบี่ฉีสรม่วงสลายกระบี่ทุกเล่มที่กําลังบินมารอบตัวของเขา

มิติลวงค่อยๆกลายเป็นเงียบ,แต่มันก็เพียงชั่วครู่ แทบจะในทันที,กระบีนับไม่ถ้วนพร้อมกับกระบี่แสงเจิดจ้าบินเข้ามาที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับพลังที่ดร้ายยิ่งขึ้น

มิติสีเทาระเบิดแสงขึ้นมาในทันที มันสว่างเจิดจ้าเป็นอย่างมาก
“หว่ขุยผลิบาน!”

ดอกไม้ตูมสีม่วงปรากฏขึ้นด้านล่างของเซียวเฉินและห่อหุ้มราางของเขาเอาไว้,ปลดปล่อยแสงประหลาดสีม่วงออกมาขณะที่มันปรากฎขึ้น

“ปัง! ปัง! ปัง!”

กระบีปะทะเข้ากับผิวของดอกไม้ตูม,การโจมตีไม่หยุดหย่อนตัวเข้ามาดังพายุ,ส่งเสียงเหล็กกระทบออกมา

“ซิ่ว!”

ดอกไม้ตูมสีม่วงผลิบานและกลีบดอกไม้ก็เติมเต็มไปในอากาศ เมื่อกระบี่ปะทะกับกลีบดอกไม้,พวกมันระเบิดออกรุนแรง ทันใดนั้น,อากาศก็สั่นสะเทือนไม่หยุดราวกับสายประทัด

เซียวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศที่เต็มไปด้วยกลับดอกไม้ ในตอนที่เขาพุ่งผ่านหมู่กลีบดอกไม้,ความเร็วของเขาระเบิดเพิ่มขึ้น กระบี่ที่ดุร้ายเหล่านั้นไม่อาจไล่ตามเขาได้ทัน

“บูม!”

ตอนนี้,ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นตัวเป็นตน เป็นธรรมดา,ที่หวี่ขยคําสวรรค์จะไม่อาจใช้ออกมาได้ มันทําได้เพียงให้พลังงานทั้งหมดระเบิดออก

เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและกลีบดอกไม้ทั้งหมดก็ระเบิด เมื่อพลังงานมหาศาลรวมตัวเข้าด้วยกัน,ทั่วทั้งมิติสีเทาสั่นสะเทือน

“เร็วเข้า! เร็วเข้า! หากระบี่ของเจ้า!”

หลังจากทําลายการโจมตีละลอกนี้,เสียงเร่งเร้าก็ดังออกมาข้างหูของเซียวเฉินอีกครั้ง เขา มองไปที่กระบี่ในมือและเมินเฉยเสียงนั้นไป

ในครั้งล่าสุด,หลังจากที่เซียวเฉินถอดความหมายของคําพวกนี้ เขาพบสิ่งที่เรียกว่ากระบี่ในใจของเขา ตั้งแต่ตอนนั้น,เขาสามารถเรียกกระบี่เงาจันทร์ออกมาอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม,เสียงในหูของเซี่ยวเฉินก็ยังดังออกมาเหมือนอย่างก่อนหน้านี้ มันชัดเจนว่ากระบี่ในมือเล่มนี้ไม่ใช่กระบี่ในใจของเขา

ขณะที่ยืนอยู่ในมิติสีเทา,เซี่ยวเฉินเมินเฉยเสียงในหูของเขา, ทําลายคลื่นกระบี่ที่ละรอบที่พวกมันบินเข้ามา

กระบี่แต่ละละลอกดีร้ายกว่ารอบก่อนหน้า เริ่มมีบาดแผลปรากฏให้เห็บบนตัวของเซี่ยวเฉิน ในไม่ช้า,เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจยืนหยัดต่อการโจมตีของคลื่นกระบี่ได้อีกต่อไป

หลังจากทําลายคลื่นโจมตีที่หนึ่งร้อย,ฉากตรงหน้าของเซี่ยวเฉินก็เปลี่ยนไป จิตใต้สํานึกของเขารู้สึกพล่ามัวอยู่ครู่หนึ่ง,และจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ริมทะเลสาบ

จันทร์เต็มดวงลยอสูงอยู่ในอากาศ มีคลื่นอ่อนๆบนผิวน้ํา, มันเงียบสงบยิ่ง ที่ตรงกลางของทะเลสาบมีกระบี่กําลังลอยออยู่ในอากาศเหนือผิวน้ํา

กระบี่สีขาวหิมะสะท้อนจันทร์เต็มดวงที่อยู่เบื้องบน ทะเลสาบที่นิ่งสงบ,ไพเราะและอ่อนโยนดูกลมกลืนกับตัวกระบี่เป็นอย่างมาก;มันวิเศษและงดงาม

บาดแผลบนเนื้อตัวของเซี่ยวเฉินหายไปอย่างน่าประหลาด เซี่ยวเฉินเมินเฉยไป เขาจดจ่อไปอยู่ที่กระบี่ในทะเลสาบ

เซี่ยวเฉินเผยสีหน้ายินดี เขาพึมพํา “หรือข้าทําสําเร็จแล้ว? นี่คือหระบี่เงาจันทร์ที่แท้จริงในใจของข้า? ช่างสวยงาม!”

“ฟุ! ฟุ! ฟุ!”

เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศจากนั้นก็เดินไปบนผิวน้ํา,มุ่งหน้าสู่กระบี่ที่กําลังลอยอยู่เหนือผิวน้ําอย่างรวดเร็ว แต่ละครั้งที่เท้าของเขาสัมผัสผิวน้ํา,เขาจะเคลื่อนที่ไปหนึ่งร้อยเมตร ผ่านไปครู่หนึ่ง,เขาก็มาถึงที่ด้านใต้ของกระบี่

ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนผิวน้ําและเซี่ยวเฉอนก็หยุดเท้าลง ในตอนที่เขายืนอยู่บนผิวน้ํา,เขาสามารถมองเห็นจันทร์เต็มดวงจันทร์บนกระบอย่างชัดเจน

ขณะที่เซี่ยวเฉินก่าลังจะกระโดดขึ้นไปคว้ากระบี่ด้วยมือของเขา, ทันใดนั้นเขาพบว่ามีเด็กสาวกําลังนอนหลับอย่างเงียบเชียบอยู่ภายในทะเลสาบ

“อ่าวเจียว!”

ในตอนที่เซียวเฉินมองเห็นรูปร่างของเด็กสาวอย่างชัดเจน,สีหน้าของเขาเปลี่ยน เขาหันกลับ และมุ่งหน้าไปใกล้ๆเด็กสาวที่อยู่ในน้ํา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขายื่นมือลงไปในน้ํา,เขารู้สึกได้เพียงความเย็นของน้ําในทะเลสาบ

ระลอกคลื่นบนผิวน้ําทําให้ภาพเด็กสาวที่กําลังหลับอยู่ดูเลือนลาง เซี่ยวเฉินหยุดมือและรีบสงบใจลง

อ่าวเจียวในตอนนี้อยู่ในการหลับไหลเป็นผลมาจากการผนึกตัวเอง ที่ข้ากําลังดูอยู่บนเพียงภาพลวงตา ข้าจะต้องได้กระบี่มาเพื่อปลุกนางขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

หลังจากเซียวเฉินตัดสินใจแล้ว เขากระโดดออกจากผิวน้ํา เขาระเบิดคลื่นสาดกระเซ็นออกมา และมุ่งหน้าไปหากระบี่เงาจันทร์

ขณะที่เซี่ยวเฉอนกําลังจะคว้ากระบี่เงาจันทร์,เรียวมือที่งดงามปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า และคว้าเอากระบี่เงาจันทร์เอาไว้ก่อนที่เขาจะเอื้อมไปถึง

เซี่ยวเฉินตกใจ เมื่อเขามองขึ้นไป,เขาเห็นผู้หญิงชุดสีขาวปรากฏขึ้นมาตรงหน้า

นางมีรูปร่างที่เย้ายวนและค่อนข้างคล้ายกับอ่าวเจียว ใบหน้าที่งดงามประกอบส่วนอื่นๆของร่างกายทําให้นางสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม,การแสดงออกทางสีหน้าของนางดูผิดแปลกไปจากโลก ไม่มีอารมณ์อยู่บนใบหน้า มันราวกับว่านางคือผู้เป็นอมตะที่อยู่เหนือคนทั่วไป เปรียบเทียบนางกับตัวนมู่ฉิง,ผู้ที่ใช้ทักษะเหมันต์ลึกล้ํา มีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม,นางพิเศษไปยิ่งกว่าตัวนมู่ฉิง

เซี่ยวเฉินตกตะลึง หญิงสาวนางนี้คือคนเดียวกับที่เขาพบในตอนที่เขาเข้ามาในค่ายกลกระสัมบูรณ์โบราณเป็นครั้งแรก นางคือใคร? ทําไมนางถึงเอากระบี่เงาจันทร์ของข้าไป?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา

น้ําเสียงเด็กน้อยของเสี่ยวไปทําให้ทุกคนหัวเราะออกมา เสี่ยวเมิ่งดึงเสี่ยวไปเข้าไปหาและกล่าว “มาเสียวไป ข้าจะพาเจ้าไปถักผม หากผมของหญิงสาวกระเซิง,มันจะดูไม่ดี”

ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะทันได้หยุดเสี่ยวไป์,นางก็ถูกเสี่ยวเพิ่งดึงตัวไปแล้ว หลิวหรูเยวี่ยิ้มและกล่าว “ให้นางไปเถอะ,จะไม่มีอะไรขึ้นขึ้นกับนางที่ยอดเขาจึงหยุน”

เซี่ยวเฉินไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น,เขาเพียงกังวลว่าเสี่ยวไป๋จะไปเรียนรู้อะไรแปลกๆมาจากเสี่ยวเมิ่ง

เซียวเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และถอนสายตากลับมา “ขอบคุณ ข้าเตรียมตัวที่จะเข้าไปในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณแล้ว”

หลิวหรูเยว่หยุดยิ้มลง นางกล่าวอย่างจริงจัง “มากับข้า ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้อันตรายยิ่งกว่าคราวก่อนมาก มันต้องการการบ่มเพาะสภาวะแห่งจิตใจของเจ้าที่สูงขึ้น มีสิ่งที่เจ้าต้องรู้ก่อนที่จะเข้าไป”

หลิวหรูเยว่นําเซียวเฉินตรงไปมุมที่มีค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณตั้งอยู่ จากนั้น,นางอธิบายถึงจริงที่เซียวเฉินต้องรู้เอาไว้อย่างละเอียด

ภายใต้การแนะนําของหลิวหรูเยว่,เซียวเฉินตชค่อยๆเข้าไปในค่ายกลกระบี่ ฉีฆ่าฟันของอาวุธมากมายพลุ่งพล่านออกมา,ปะทะเข้ากับจิตวิญญาณของเซียวเฉิน

หากเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอ่อนแอ,ในทันทีที่พวกมันพุ่งเข้ามา จิตวิญญาณของพวกเขาจะต้องแตกสลาย

เซี่ยวเฉินปกป้องจุดตันเที่ยนด้วยจิตใต้สํานึกของเขาและใช้สัมผัสวิญญาณของเขาป้องกันร่างกาย ฉีฆ่าฟันที่พรุ่งพล่านถูกกวาดออกไปด้านนอกร่างกายของเซี่ยวเฉินพร้อมกับเขานั่งลงที่ตรงกลางของค่ายกล

“เจ๋ง!”

เสียงหึงอันไพรเราะดังออกมาจากกนะที่ในมือของหลิวหรูเยว่ กระบี่เล่มนั้นออกมาจากฝักของมันและสันไหวอย่างต่อเนื่อง

หลิวหรเยวค่อยๆใช้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันที่นางได้บรรลมา อาวุธทั้งหมดที่ปักอยู่กับพื้นสั่นไหวในทันที

เสียงฟังดังสะท้อนไปทั่วทั้งลานฝึกฝน ในตอนที่กระบี่โบราณนับพันสั่นสะเทือนและแสงของมันรวมตัวกัน มันกล่าวเป็นเสียงที่เสียดแทงแก้ว

สายลมรุนแรงพัดผ่านไปรอบๆค่ายกลประบี่, ใบหน้าอันงดงามของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยความจริงจังขณะที่นางโห่ร้องคารามศึกออกมา

กระบี่เล็กในมือของนางเรืองแสงเจิดจ้า สายลมแข็งแกร่งมารวมตัวกันในทันทีและจดจ่อไปที่เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่อยู่ตรงกึ่งกลางของค่ายกล,ก่อเกิดเป็นเสาวาย

“ชี!”

มีแสงออกจากกาะบี่และหลอมรวมเข้าไปในเสาวายุ ทันมดนั้นเสาวายก็เรื่องแสงรุ่งโรจน์ออกมา หลังจากนั้น มันก็แตกกระจายออกไป อาวุธทั้งหมดเริ่มสั่นไหว

หลังจากที่หลิวหรูเยวทําทั้งหมดทั้งนี้จบลง,สีหน้าของนางซีดจางลงไป ผิวของนางซีดเซียว และร่างกายของนางไม่มั่นคง

เมื่อหลิวสยเฟง,ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น,เขาเผยสีหน้าร้ายแรงออกมา เขายื่นมือออกไป ประคองหลิวหรูเยว่เอาไว้

“พี่สาว,มันคุ้มกันหรือที่จะช่วยเหลือเขาเช่นนี้? ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเจ้า,แค่การเปิดใช้ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้ครั้งหนึ่งก็จะผลาญการบ่มเพาะพลังของเจ้าไปครึ่งปี”

การผลาญการบ่มเพาะพลังครึ่งปีหมายถึงการเสียเวลาไปครึ่งปี สําหรับยอดนักบ่มเพาะพลัง,การอดอไปหนึ่งเดือนก็สามารถเป็นผลให้พวกเขาร่วงจากตําแหน่งระดับยอดนักบ่มเพาะพลัง สามารถจินตนาการได้ว่าการเสียเวลาไปครึ่งปีจะเสียหายถึงเพียงใด

หลิวหรูเยว่นวดจุดไทหยางบนหน้าผากด้วยมือขวาของนาง หลังจากนั้น,นางก็ลืมตาขึ้น;นางรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามและทรงเสน่ห์ของหลิวหรูเยว่ นางกล่าวเสียงนุ่ม “เขาเข้ามาที่ยอดเขาฉิงหยุนเพื่อจุดหมายเดียวก็คือการเรียนรู้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน เขาได้ทําอะไรไปมากมายแล้ว,แน่เขากลับไม่ได้ขออะไรตอบแทน หากข้าไม่ช่วยเขาแล้วใครจะช่วย?”

หลิวสุยฟังยิ้ม “อย่างไรก็ตาม,หากเขาได้เรียนรู้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน,เขาจะต้องออกจากศาลากระบี่สวรรค์และยอดเขาจึงหยุนไปอย่างแน่อนอน”

เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินดังนั้น ความสูญเสียที่ยากจะมองเห็นวูบไหวในดวงตาของนาง นางกล่าว “ข้ารู้ตั้งแต่ในวันแรกที่เขามายังยอดเขาฉิงหยุน ไม่ว่าจะเป็นศาลากระบี่สวรรค์หรือยอดเขาจึงหยุนสิ,มันเป็นเพียงทางผ่านสําหรับเขา”

หลิวหรูเยว่หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้น,นางก็หัวเราะอย่างช่วยไมไม่ได้และเผยสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับกล่าวต่อ “ในโลกใบนี้ มีคนที่ถูกกําหนดมาเพื่อเป็นใหญ่ ชื่อของพวกเขาจะสั่นสะเทือนสวรรค์,ล้างตํานานบทเก่าและเขียนตํานานบทใหม่ แทนที่จะหยุดยื้อถึงตัวเขาเอาไว้ไม่ให้โผบิน,ทําไมไม่ช่วยผลักดันเขาให้ไปยืนบนยอดสุดของโลกใบนี้”

แสงทั้งหมดจากอาวุธปรากฏขึ้น,เซี่ยวเฉิน,ทันมดนั้นก็บนว่าฉากเบื้องหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาได้เข้าสู่โลกสีเทา

มีกระบี่นับไม่ถ้วนกําลังทะลวงผ่านอากาศ, บินตรงมาที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว

เซี่ยวเฉินได้เข้าสู่ตชค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โลราณมาหลายครั้งแล้ว เขาคงสีหน้านิ่งสงบและไม่ได้ตื่นกลัวแม้แต่น้อย

ด้วยการนึกคิด,กระบี่สีขาวหิมะปรากฏขึ้นในมือของเขา กระบี่เล่มนี่กว่างสองนิ้วและยาว 2.7 เมตร คมกระบกระพริบไหวด้วยแสงเยือกเย็น

เซียวเฉินได้ฝึกฝนในค่ายกระบี่สัมบูรณ์โลราณมากหลายเดือนแล้ว เขามีความคืบหน้าในการฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน ทั้งหมดที่เขายังขาดอยู่ก็คือช่วงเวลาที่เหมาะสม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทําให้เซี่ยวเฉินบรรลุถึงการฟังเสียงของดาบ และสื่อสารกับมันอย่างสมบูรณ์

“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”

กระบี่ในมือของเขาเคลื่อนไหว,กระบี่แสงเคลื่อนไปทั่วทุกทิศทาง ทําให้กระบี่ทุกเล่มในอากาศถูกปัดลอยออกไป

ขณะที่เซียวเฉินยืนอยู่หน้ามิติลวงนี้,เขามีท่าทางที่ชี้ให้เห็นว่าเขาอยู่ในความคิดลึก เขาพึมพํา “ที่ผ่านมา,ภายในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ,ข้าสามารถสลายอาวุธที่บินมาหาข้างได้อย่างสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ข้าต้องใช้พลังเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์และสามารถทําได้เพียงหวดมันกลับไป”

ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่หลิวสุยเฟิงกล่าวเอาไว้ ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้ทรงอํานาจกว่า เมื่อก่อนหน้าอย่างน้อยห้าเท่า

กระบี่กระพริบไหวด้วยกระบี่แสงเฉียบคมพร้อมกับพวกมันบินเข้ามาเซียวเฉินอย่างไม่หยุดหย่อน มันราวกับว่าอยากจะกลืนกินเขา

“เร็วอีก! เร็วอีก! ตามหากระบี่ของเจ้า! ตามหากระบี่ของเจ้า!”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหูของเซี่ยวเฉินอีกครั้ง ขณะที่เขาอยู่ที่กึ่งกลางมิติลวง,เขาเคบอนที่ไปรอบๆ กระบี่แสงของเขาเจิดจ้าพร้อมกับเขาใช้ออกทักษกระบี่หวาย

“หวี่ขยแพรวพราว!”

“หวี่ขยเปลี่ยนรูปฉี!”

“ทะลวงหรูขุย!”

เซี่ยวเฉินร้องตะโกนออกมาและเขาใช้ออกทักษะกระบี่หว่ขยหลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้าเต็มกําลัง เส้นกระบี่ฉีสรม่วงสลายกระบี่ทุกเล่มที่กําลังบินมารอบตัวของเขา

มิติลวงค่อยๆกลายเป็นเงียบ,แต่มันก็เพียงชั่วครู่ แทบจะในทันที,กระบีนับไม่ถ้วนพร้อมกับกระบี่แสงเจิดจ้าบินเข้ามาที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับพลังที่ดร้ายยิ่งขึ้น

มิติสีเทาระเบิดแสงขึ้นมาในทันที มันสว่างเจิดจ้าเป็นอย่างมาก
“หว่ขุยผลิบาน!”

ดอกไม้ตูมสีม่วงปรากฏขึ้นด้านล่างของเซียวเฉินและห่อหุ้มราางของเขาเอาไว้,ปลดปล่อยแสงประหลาดสีม่วงออกมาขณะที่มันปรากฎขึ้น

“ปัง! ปัง! ปัง!”

กระบีปะทะเข้ากับผิวของดอกไม้ตูม,การโจมตีไม่หยุดหย่อนตัวเข้ามาดังพายุ,ส่งเสียงเหล็กกระทบออกมา

“ซิ่ว!”

ดอกไม้ตูมสีม่วงผลิบานและกลีบดอกไม้ก็เติมเต็มไปในอากาศ เมื่อกระบี่ปะทะกับกลีบดอกไม้,พวกมันระเบิดออกรุนแรง ทันใดนั้น,อากาศก็สั่นสะเทือนไม่หยุดราวกับสายประทัด

เซียวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศที่เต็มไปด้วยกลับดอกไม้ ในตอนที่เขาพุ่งผ่านหมู่กลีบดอกไม้,ความเร็วของเขาระเบิดเพิ่มขึ้น กระบี่ที่ดุร้ายเหล่านั้นไม่อาจไล่ตามเขาได้ทัน

“บูม!”

ตอนนี้,ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นตัวเป็นตน เป็นธรรมดา,ที่หวี่ขยคําสวรรค์จะไม่อาจใช้ออกมาได้ มันทําได้เพียงให้พลังงานทั้งหมดระเบิดออก

เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและกลีบดอกไม้ทั้งหมดก็ระเบิด เมื่อพลังงานมหาศาลรวมตัวเข้าด้วยกัน,ทั่วทั้งมิติสีเทาสั่นสะเทือน

“เร็วเข้า! เร็วเข้า! หากระบี่ของเจ้า!”

หลังจากทําลายการโจมตีละลอกนี้,เสียงเร่งเร้าก็ดังออกมาข้างหูของเซียวเฉินอีกครั้ง เขา มองไปที่กระบี่ในมือและเมินเฉยเสียงนั้นไป

ในครั้งล่าสุด,หลังจากที่เซียวเฉินถอดความหมายของคําพวกนี้ เขาพบสิ่งที่เรียกว่ากระบี่ในใจของเขา ตั้งแต่ตอนนั้น,เขาสามารถเรียกกระบี่เงาจันทร์ออกมาอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม,เสียงในหูของเซี่ยวเฉินก็ยังดังออกมาเหมือนอย่างก่อนหน้านี้ มันชัดเจนว่ากระบี่ในมือเล่มนี้ไม่ใช่กระบี่ในใจของเขา

ขณะที่ยืนอยู่ในมิติสีเทา,เซี่ยวเฉินเมินเฉยเสียงในหูของเขา, ทําลายคลื่นกระบี่ที่ละรอบที่พวกมันบินเข้ามา

กระบี่แต่ละละลอกดีร้ายกว่ารอบก่อนหน้า เริ่มมีบาดแผลปรากฏให้เห็บบนตัวของเซี่ยวเฉิน ในไม่ช้า,เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจยืนหยัดต่อการโจมตีของคลื่นกระบี่ได้อีกต่อไป

หลังจากทําลายคลื่นโจมตีที่หนึ่งร้อย,ฉากตรงหน้าของเซี่ยวเฉินก็เปลี่ยนไป จิตใต้สํานึกของเขารู้สึกพล่ามัวอยู่ครู่หนึ่ง,และจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ริมทะเลสาบ

จันทร์เต็มดวงลยอสูงอยู่ในอากาศ มีคลื่นอ่อนๆบนผิวน้ํา, มันเงียบสงบยิ่ง ที่ตรงกลางของทะเลสาบมีกระบี่กําลังลอยออยู่ในอากาศเหนือผิวน้ํา

กระบี่สีขาวหิมะสะท้อนจันทร์เต็มดวงที่อยู่เบื้องบน ทะเลสาบที่นิ่งสงบ,ไพเราะและอ่อนโยนดูกลมกลืนกับตัวกระบี่เป็นอย่างมาก;มันวิเศษและงดงาม

บาดแผลบนเนื้อตัวของเซี่ยวเฉินหายไปอย่างน่าประหลาด เซี่ยวเฉินเมินเฉยไป เขาจดจ่อไปอยู่ที่กระบี่ในทะเลสาบ

เซี่ยวเฉินเผยสีหน้ายินดี เขาพึมพํา “หรือข้าทําสําเร็จแล้ว? นี่คือหระบี่เงาจันทร์ที่แท้จริงในใจของข้า? ช่างสวยงาม!”

“ฟุ! ฟุ! ฟุ!”

เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศจากนั้นก็เดินไปบนผิวน้ํา,มุ่งหน้าสู่กระบี่ที่กําลังลอยอยู่เหนือผิวน้ําอย่างรวดเร็ว แต่ละครั้งที่เท้าของเขาสัมผัสผิวน้ํา,เขาจะเคลื่อนที่ไปหนึ่งร้อยเมตร ผ่านไปครู่หนึ่ง,เขาก็มาถึงที่ด้านใต้ของกระบี่

ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนผิวน้ําและเซี่ยวเฉอนก็หยุดเท้าลง ในตอนที่เขายืนอยู่บนผิวน้ํา,เขาสามารถมองเห็นจันทร์เต็มดวงจันทร์บนกระบอย่างชัดเจน

ขณะที่เซี่ยวเฉินก่าลังจะกระโดดขึ้นไปคว้ากระบี่ด้วยมือของเขา, ทันใดนั้นเขาพบว่ามีเด็กสาวกําลังนอนหลับอย่างเงียบเชียบอยู่ภายในทะเลสาบ

“อ่าวเจียว!”

ในตอนที่เซียวเฉินมองเห็นรูปร่างของเด็กสาวอย่างชัดเจน,สีหน้าของเขาเปลี่ยน เขาหันกลับ และมุ่งหน้าไปใกล้ๆเด็กสาวที่อยู่ในน้ํา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขายื่นมือลงไปในน้ํา,เขารู้สึกได้เพียงความเย็นของน้ําในทะเลสาบ

ระลอกคลื่นบนผิวน้ําทําให้ภาพเด็กสาวที่กําลังหลับอยู่ดูเลือนลาง เซี่ยวเฉินหยุดมือและรีบสงบใจลง

อ่าวเจียวในตอนนี้อยู่ในการหลับไหลเป็นผลมาจากการผนึกตัวเอง ที่ข้ากําลังดูอยู่บนเพียงภาพลวงตา ข้าจะต้องได้กระบี่มาเพื่อปลุกนางขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

หลังจากเซียวเฉินตัดสินใจแล้ว เขากระโดดออกจากผิวน้ํา เขาระเบิดคลื่นสาดกระเซ็นออกมา และมุ่งหน้าไปหากระบี่เงาจันทร์

ขณะที่เซี่ยวเฉอนกําลังจะคว้ากระบี่เงาจันทร์,เรียวมือที่งดงามปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า และคว้าเอากระบี่เงาจันทร์เอาไว้ก่อนที่เขาจะเอื้อมไปถึง

เซี่ยวเฉินตกใจ เมื่อเขามองขึ้นไป,เขาเห็นผู้หญิงชุดสีขาวปรากฏขึ้นมาตรงหน้า

นางมีรูปร่างที่เย้ายวนและค่อนข้างคล้ายกับอ่าวเจียว ใบหน้าที่งดงามประกอบส่วนอื่นๆของร่างกายทําให้นางสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม,การแสดงออกทางสีหน้าของนางดูผิดแปลกไปจากโลก ไม่มีอารมณ์อยู่บนใบหน้า มันราวกับว่านางคือผู้เป็นอมตะที่อยู่เหนือคนทั่วไป เปรียบเทียบนางกับตัวนมู่ฉิง,ผู้ที่ใช้ทักษะเหมันต์ลึกล้ํา มีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม,นางพิเศษไปยิ่งกว่าตัวนมู่ฉิง

เซี่ยวเฉินตกตะลึง หญิงสาวนางนี้คือคนเดียวกับที่เขาพบในตอนที่เขาเข้ามาในค่ายกลกระสัมบูรณ์โบราณเป็นครั้งแรก นางคือใคร? ทําไมนางถึงเอากระบี่เงาจันทร์ของข้าไป?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+