Immortal and Martial Dual Cultivation 309 เทือกเขาน้ําหมึก

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 309 เทือกเขาน้ําหมึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 309 เทือกเขาน้ําหมึก

โชคดี,ที่มีเพียงแค่ร่องรอยของอํานาจพลังหากว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้สองสามเท่า,เซียวเฉินจะไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะเผชิญหน้าเขา เพียงแค่จะก้มกราบลงกับพื้น

ขณะเซียวเฉินมองดูเปลวเพลิงที่ริบหรี่,เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเปลวเพลิงมังกรที่เขาเห็นจากหยิงเยวในอดีต

แม้ว่าเปลวเพลิงสวรรค์นี้จะไม่อาจเทียบได้กับเปลวเพลิงมังกรนั้น แต่มันมีกระแสพลังที่เหนือกว่าอย่างมาก

ทันใดนั้น,ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉินหากสามารถใส่อํานาจลงไปในเปลวเพลิงสวรรค์,เช่นนั้นขาสามารถจะสามารถใส่สภาวะของข้าเข้าไปในเพลิงแท้อัสนีม่วงได้หรือไม่?

เปลวเพลิงสีม่วงดุร้ายเผาไหม่ในดวงตาขวาของเขาเมื่อมองเข้าไป,มันดูเหมือนกับเป็นทะเลเพลิงที่ไร้ขอบเขตเปลวเพลิงบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและก่อเกิดเป็นสายเปลวเพลิงสีม่วงต้นกําเนิดเพลิงแท้อัสนีม่วงลอยออกมาจากดวงตาของเขาและกระพริบไหวอยู่เหนือปลายนิ้วของเซี่ยวเฉิน

ด้วยการนึกคิดของเซียวเฉิน,สภาวะแห่งสายฟ้าระดับสมบูรณ์ขั้นต้นฉีดเข้าไปในต้นกําเนิดเปลวเพลิง

“ซี่ ซี่!”

เปลวเพลิงสีม่วงที่ไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏขึ้นด้านหลังของเซียวเฉินในทันที แสงสีม่วงขับไล่แสงสีทองจากเปลวเพลิงสวรรค์ของฉ่ฉาวอวิ่นในทันที 94
สําเร็จ! เซียวเฉินครุ่นคิดอย่างตื่นเต้น เขาสามารถใส่สภาวะของเขาลงในเพลิงแท้อัสนีม่วงนี่หมายความว่าเขาน่าจะสามารถต่อสู้กับเปลวเพ ลิงสวรรค์ได้แล้วตอนนี้

ก่อนหน้านี้ เชี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะปลดปล่อยเพลิงแท้อัสนีม่วงออกมาต่อหน้าเปลวเพลิง สวรรค์

ภายในห้องโถงใหญ่,ด้านหนึ่งสว่างด้วยแสงสีทองรุ่งโรจน์อีกด้านหนึ่งเป็นสรม่วงดูแปลกประหลาดสองทั้งสองฝั่งเหมือนกับมีการขบเขี้ยวกัน ในอากาศ

ของทั้งหมดบนโต๊ะลอยขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลขณะที่กระแสพลังทั้งสองปะทะกัน

ฉ่ฉาวอวิ่นยิ้มและกล่าว “เจ้าเรียนรู้ได้รวดเร็วให้ข้าทดสอบพลังของมัน”
หลังจากที่ฉ่ฉาวอวุ่นกล่าวจบ,เขาก็สะบัดนิ้ว,และแสงสีทองทั้งหมดในห้องโถงใหญ่หวนกลับไปในเปลวเพลิงสวรรค์

ทันใดนั้น,เปลวเพลิงเล็กๆกลายเป็นประกายเจิดจ้าราวกับดวงตะวันสีทอง
กระแสพลังแห่งอํานาจสูงสุดเร่งขึ้นไปถึงขีดสุดสายลมรุนแรงพัดผ่านด้านหลังของฉ่ฉาวอวิ่น,โบกสะบัดเสื้อผ้าและผมของเขามันดูเหมือน
จักรพรรดิเทียนหวี่ได้เข้าสิงตัวของเขาเขาดูสง่างาม

สีหน้าของเซียวเฉินเปลี่ยน เขารีบรวบรวมกระแสไฟฟ้าสีม่วงที่กระจัดกระจายอยู่ในอากาศเข้าไปในต้นกําเนิดเปลวเพลิงเขาสําแดงสภาวะของเขาขึ้นไปถึงขีดสุดเปลวเพลิงสีม่วงให้แสงรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง
เซียวเฉินสะบัดมือขวาของเขาไปข้างหน้าในลักษณะเดียวกัน,รับกับเปลวเพลิงของอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล

“ปัง!”

เปลวเพลิงทั้งสองเข้าปะทะกัน เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในห้องโถงใหญ่,และคลื่นกระแทกดังกึกก้องวัตถุทั้งหมดที่ลอยอยู่ในอากาศสลายเป็นผง

มันช่างน่าหวาดกลัว,ขณะที่พลังงานสะท้อนไปมาในห้องโถงใหญ่,ทั่วทั้งราชวังเหมันต์ลึกล้ําสั้นสะเทือนทําให้ทุกคนที่อยู่ข้างในตกใจ

เซียวเฉินหน้าซีดและพลังงานพลั่งพล่านมหาศาลทะยานขึ้นและซัดเขาลอยกลับไปสิบเมตรก่อนที่จะลงจอดอย่างแรง

ในด้านนรงข้าม,ฉ่ฉาวอวิ่นถอยกลับเพียงสามก้าวเบาๆ เผชิญหน้ากับเปลวเพลิงสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์,เพลิงแท้อัสนีม่วงเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินพ่ายแพ้ในแง่ของพลัง

แสงสีทองวูบไหวในดวงตาของฉ่ฉาวอวุ่นเปลวเพลิงสวรรค์ที่กระจัดกระจายในอากาศลบหายไป

ฉ่ฉาวอวุ่นมองไปที่เซียวเฉินด้วยสีหน้าจริงจังเขากล่าว“อย่าได้ถือข้าเป็นศัตรูของเจ้าในไม่ช้า,เจ้าจะเข้าใจว่าพวกเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน”

“ชี ชี!”

ราชวังน้ําแข็งหยุดสั่นสะเทือน,และสายน้ําแข็งสี่เส้นปรากฏขึ้นในห้องโถง สายน้ําแข็งก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์จากนั้นมันกลายเป็นหญิงสาวสวย และสง่างามสี่นาง

“พวกเจ้าทั้งสอง,ครั้งหน้าที่เจ้าทดสอบกระบวณท่าโดยไม่มีเหตุผล,พวกเจ้าจะถูกจับโยนออกไปด้านนอกราชวัง,ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใครมา จากไหนก็ตาม”

หนึ่งในหนึ่งสาวกล่าวเสียงเย็นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เมื่อฉ่ฉาวอวิ่นเห็นว่ามีผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นเข้ามาฉ่ฉาวอวุ่นก้มโค้งเล็กน้อยและยิ้มขึ้น “ขออภัยจะไม่มีครั้งหน้าเกิดขึ้น”

ในการเดินทางของราชวังเหมันต์ลึกล้ํา,การแลกเปลี่ยนกระบวณท่าของเซียวเฉินและฉ่ฉาวอขึ้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยราชวังเหมันต์ลึกล้ํายังเดินทางต่อไปด้วยความเร็วสองเท่าของความเร็วเสียงและบินตรงไปที่ป่าน้ําหมึก

ในห้องหนึ่งบนชั้นสอง,เซียวเฉินพยายามลองผสานสภาวะของเข้ากับเพลิงแท้อัสนีม่วงอย่างต่อเนื่องพลังของเพลิงสวรรค์ในตํานานน่ากลัว อย่างแท้จริง

ในครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินผสานสภาวะของเขา เขาสามารถเกือบจะตีเสมอได้กับเปลวเพลิงสวรรค์แม้ว่าเปลวเพลิงสวรรค์จะไม่ถึงหนึ่งในสิบของ เปลวเพลิงสวรรค์ที่แท้จริงเซียวเฉินก็พึงพอใจแล้ว

อย่างไรก็ตาม,เพลิงแท้อัสนีม่วงของเซี่ยวเฉินยังมีศักยภาพที่ไม่ได้ดึงออกมา ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์มีทั้งหมดสิบสองชั้นทุกครั้งที่เขาทะ ลวงระดับชั้น,เพลิงแท้อัสนีม่วงจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในอนาคต,เขาอาจจะสามารถต่อสู้ได้กับเปลวเพลิงสวรรค์

ขณะที่กําลังค่ํามืด,เชี่ยวเฉินสังเกตเห็นเมฆที่ด้านนอกหน้าต่างกําลังมืดลง นี่ทําให้รู้สึกหดหู

เซี่ยวเฉินหยุดมือจากสิ่งที่กําลังทําและลุกขึ้นเขามองออกไปนอกหน้าต่างและมองเห็นเทือกเขายาวไม่มีที่สิ้นสุด

หมอกสีดําปกคลุมทั่วทั้งเทือกเขาเคลื่อนไปรอบๆยอดเขาเมื่อสายลมเย็นพัด,หมอกสีดําเป็นราวกับของแข็ง:มันไม่ขยับแม้แต่น้อย

“นั้นคือเทือกเขาน้ําหมึก?” เซียวเฉินถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“ยิ้ม..!”

ในจังหวะนั้นเอง, ทั่วทั้งราชวังสั่นสะเทือนแม่ว่าจะไม่ได้รุนแรงนัก มันก็ยาวนานและต่อเนื่อง

“มีฝูงสัตว์อสูรปีศาจประเภทปีกระดับ 7 ฝูงใหญ่ใกล้เข้ามา ราชวังเหมันต์ลึกล้ําจะเปิดใช้รูปแบบโจมตีของมันทุกท่านโปรดอยู่ในห้องของตัวเอง อย่าได้ออกมาข้างนอกพวกเขาจะรับมือเอง”

เสียงไพเราะดังขึ้นในหูของทุกคนที่อยู่บนชั้นสองมันอธิบายถึงสถานการณ์ในตอนนี้

“มีสัตว์อสูรปีศาจประเภทปีกระดับ 7” เซียวเฉินพึมพํากับตัวเอง “ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัต ริย์ยุทธขั้นสูงข้าสงสัยว่าตระกูลต้วนมู่จะรับมือกับพวกมันอย่างไร”

“ถึงอย่างไร,ข้าสามารถลองตรวจสอบรูปแบบกลโจมตีของราชวังเหมันต์ลึกล้ําใครจะรู้:บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในการซ่อมแซมรูปแบบค่าย กลโจมตีของเรือสงครามสีเงิน”

เซี่ยวเฉินมองไปที่หน้าต่างเขาสามาถลอดผ่านมันไปได้เขาดีดตัวออกจากพื้นกระโดดรอดผ่านออกไปโดยปราศจากความลังเล

เซี่ยวเฉินลอยตรงไปข้างหน้ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้างระหว่างราชวังน้ําแข็งและหัวของวิหคเซียว เฉินตัดสินใจที่จะไปสังเกตการณ์รูปแบบค่ายกล โจมตีของราชวังเหมันต์ลึกล้ําอย่างระวัง

ร่างของเซียวเฉินเปลี่ยนกลายเป็นลําแสงสีม่วงในอากาศในตอนที่เขาลงจอด,มีเสียง โซว ดังขี้ นมาหลายครั้งจีชางคง,ฮวาหยุนเฟย,และอีกหลายคนได้มาถึงแล้วเช่นกัน

พวกเขาทั้งหมดมองกันไปมา,กระอักกระอ่วนอย่างชัดเจนพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนอื่นออกมาด้วยเช่นกัน

จีชางคงยิ้มบางเบาและกล่าว “ดูเหมือนทุกคนจะมีความคิดเดียวกันพวกเราทั้งหมดอยากที่ จะรู้ว่ารูปแบบค่ายกลรบมันทํางานเช่นไรเช่นนั้นก็ไปพร้อมกันให้หมด”

ขุมอํานาจที่อยู่เบื้องหลังของคนพวกนี้ทั้งหมดต่างมีสมบัติประเภทเรือบินอยู่ไม่หนึ่งก็สองลําอย่างไรก็ตามรูปแบบค่ายกลโจมตีของพวกมันพังเสียหายและไม่อาจใช้งานได้นี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะไปสังเกตการณ์

โล่พลังฉีทรงกลมห่อหุ้มราชวังเหมันต์ลึกล้ําเอาไว้สัตว์อสูรปีศาจชนเข้าไปที่โล่พลังอย่างไม่ลดละ

ภายใต้การโจมตีของสัตว์อสูรปีศาจ,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องแสงสีขาวของโล่ฉีค่อยๆอ่อนลง

ฮวาหยุนเฟยกล่าวอย่างมืดมัว “สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 น่ากลัวอย่างแท้จริง หากไม่ได้ใช้หินวิญญาณระดับสูงเพื่อเติมเต็มรูปแบบค่ายกลป้องกัน,มันจะอยู่ได้ไม่นานนัก”

หนึ่งในสมากชิกตําหนักราชวงศ์กล่าวอย่างถิ่นเต้น“หินวิญญาณระดับสูง? พวกเขาได้มันมาอย่างง่ายดายได้เช่นไร?พวกเขาน่าจะเปิดใช้รูปแบบค่ายกลโจมตีเร็วๆนี้”

“บูม!” หลังจากที่เขากล่าวจบ,ลูกบอลแสงรุ่งโรจน์บีบอัดในจะงอยปากของวิหคน้ําแข็งในช่วงเวลาต่อมายืดยาวและเปลี่ยนกลายเป็นเสา แสง,แทงทะลุผ่านโล่ฉีออกไป มันกวาดล้างสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมด,เปลี่ยนพวกมันกลายเป็นชิ้นน้ําแข็ง

เซี่ยวเฉินมองขึ้นไป เขาเห็นเพียงผู้เชี่ยวชาญลึกลับกําลังทําผนึกมืออย่างต่อเนื่องบนชั้นบนสุดของราชวังน้ําแข็งขณะที่ผนึกมือของเขาเปลี่ยน ไป วิหคน้ําแข็งก็ยิงลําแสงไปในทิศทางอื่น

ไม่มีสัตว์อสูรปีศาจที่สามารถป้องกันเสาแสงนี้ไว้ได้พวกมันทั้งหมดเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งและแตกสลายเป็นเกล็ดน้ําแข็ง

“ฟุ ฟิว! ฟุฟว!”

วงรัศมีปรากฏขึ้นรอบๆ, เริ่มออกมาจากที่ชั้นสามและไต่ขึ้นไป วงรัศมีเหล่านี้ทั้งหมดประกอบไปด้วยอักขระยันต์ลึกลับ

อักขระยันต์นับไม่ถ้วนเคลื่อนไปตามรูปแบบบางอย่างไม่หยุด,ราวกับพวกมันกําลังก่อตัวเป็นบางสิ่ง

ในที่สุด,บุคคลลึกลับที่ชั้นบนสุดก็ร้องตะโกนออกมา“ทลาย!”

อักขระยันต์ทั้งหมดรวมตัวกันอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งพวกมันก็กลายเป็นนกน้ําแข็ง ขนาดเล็กเหล่านกน้ําแข็งร้องออกมาและบินตรง ไปข้างหน้า

นกน้ําแข็งนับไม่ถ้วนชนเขาไปที่สัตว์อสูรปีศาจที่อยู่โดยรอบในทันที ร่างกายของสัตว์อสูรปีศาจเหล่านี้ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ําค้างแข็งในทันที ใน จังหวะต่อมาพวกมันเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งขนาดใหญ่

“ปัง!”

บุคคลที่ชั้นบนสุดของราชวังน้ําแข็งควบคุมวิหคยักษ์ชนเข้ากับรูปปั้นน้ําแข็ง,ทําลายรูปปั้นน้ําแข็งทั้งหมดตรงหน้า

เมื่อสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมดตกตายลง,เซี่ยวเฉินและคนอื่นไสูดหายใจเข้าลึก พวกเขาไม่คาดคิดว่าราชวังเหมันต์ลึกล้ําจะทรงพลังถึงเพียงนี้ มัน สามารถสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 หลายตัวได้อย่างรวดเร็ว

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,อักขระยันต์พวกนั้นน่าจะเป็นที่ตั้งของรูปแบบค่ายกลโจมตีอย่างไรก็ตามหากมไม่การศึกษาอย่างสมบูรณ์,ไม่มีทางที่จะเข้าในอักขระยันต์พวกนี้ได้

หลังจากที่สัตว์อสูรปีศาจตายหมด,ทิวทัศน์ด้านหน้ากลายเป็นชัดเจนอีกครั้ง มีเสียงกรีดร้องอันน่าหวาดกลัวดังมาจากข้างหน้าในตอนที่ทุก คนมองออกไป,พวกเขามองเห็นกลุ่มสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 อีกฝูงหนึ่ง

สีหน้าของบุคคลหนึ่งเปลี่ยน เขากล่าวด้วยความกลัว“สิ่งที่น่ากลัวในเทือกเขาน้ําหมึกคือการบินเข้ามาในอากาศ เคยมีระดับขอบเขตยอดก ษัตริย์ยุทธขั้นต้นบินผ่านเทือกเขาน้ําหนักแห่งนี้ท้ายที่สุด,เขาต้องบินหนีสัตว์อสูรปีศาจประเภท อีกนับไม่ถ้วนนอกจากนั้น,เขาจบลงด้วยการบาด เจ็บสาหัส

“ราชวังเหมันต์ลึกล้ําอาจจะทรงพลังอย่างไรก็ตาม,หากหินวิญญาณมีไม่เพียงพอให้ใช้,พวกเขาจะอยู่ในอันตราย”

ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็รู้สึกถึงอุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นอุณหภูมิยังลด ลงเรื่อยๆไม่หยุดในไม่ช้า,มันก็เย็นจับไปถึงกระ ดูกทุกคนต้องหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขาเพื่อขับความเย็นออกไป

“เกิดอะไรขึ้น?”

ฝูงชนตกอกตกใจ พวกเขามองเห็นฉีเยือกเย็นปรากฏขึ้นในพื้นที่โดยรอบของราชวังน้ําแข็งอักขระยันต์ทองคําเปลี่ยนเป็นเจิดจ้าท่ามกลางฉี เย็นหลังจากที่บุคคลลึกลับที่ชั้นบนสุดตะโกนออกมา

ฉีเย็นทั้งหมดรวมตัวกันและก่อตัวเป็นร่างน้ํา แข็งขนาดมหึมา เมื่อมองดูอย่างละเอียดนี่เป็นรูปร่างของหญิงสาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 309 เทือกเขาน้ําหมึก

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 309 เทือกเขาน้ําหมึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 309 เทือกเขาน้ําหมึก

โชคดี,ที่มีเพียงแค่ร่องรอยของอํานาจพลังหากว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้สองสามเท่า,เซียวเฉินจะไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะเผชิญหน้าเขา เพียงแค่จะก้มกราบลงกับพื้น

ขณะเซียวเฉินมองดูเปลวเพลิงที่ริบหรี่,เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเปลวเพลิงมังกรที่เขาเห็นจากหยิงเยวในอดีต

แม้ว่าเปลวเพลิงสวรรค์นี้จะไม่อาจเทียบได้กับเปลวเพลิงมังกรนั้น แต่มันมีกระแสพลังที่เหนือกว่าอย่างมาก

ทันใดนั้น,ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉินหากสามารถใส่อํานาจลงไปในเปลวเพลิงสวรรค์,เช่นนั้นขาสามารถจะสามารถใส่สภาวะของข้าเข้าไปในเพลิงแท้อัสนีม่วงได้หรือไม่?

เปลวเพลิงสีม่วงดุร้ายเผาไหม่ในดวงตาขวาของเขาเมื่อมองเข้าไป,มันดูเหมือนกับเป็นทะเลเพลิงที่ไร้ขอบเขตเปลวเพลิงบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและก่อเกิดเป็นสายเปลวเพลิงสีม่วงต้นกําเนิดเพลิงแท้อัสนีม่วงลอยออกมาจากดวงตาของเขาและกระพริบไหวอยู่เหนือปลายนิ้วของเซี่ยวเฉิน

ด้วยการนึกคิดของเซียวเฉิน,สภาวะแห่งสายฟ้าระดับสมบูรณ์ขั้นต้นฉีดเข้าไปในต้นกําเนิดเปลวเพลิง

“ซี่ ซี่!”

เปลวเพลิงสีม่วงที่ไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏขึ้นด้านหลังของเซียวเฉินในทันที แสงสีม่วงขับไล่แสงสีทองจากเปลวเพลิงสวรรค์ของฉ่ฉาวอวิ่นในทันที 94
สําเร็จ! เซียวเฉินครุ่นคิดอย่างตื่นเต้น เขาสามารถใส่สภาวะของเขาลงในเพลิงแท้อัสนีม่วงนี่หมายความว่าเขาน่าจะสามารถต่อสู้กับเปลวเพ ลิงสวรรค์ได้แล้วตอนนี้

ก่อนหน้านี้ เชี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะปลดปล่อยเพลิงแท้อัสนีม่วงออกมาต่อหน้าเปลวเพลิง สวรรค์

ภายในห้องโถงใหญ่,ด้านหนึ่งสว่างด้วยแสงสีทองรุ่งโรจน์อีกด้านหนึ่งเป็นสรม่วงดูแปลกประหลาดสองทั้งสองฝั่งเหมือนกับมีการขบเขี้ยวกัน ในอากาศ

ของทั้งหมดบนโต๊ะลอยขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลขณะที่กระแสพลังทั้งสองปะทะกัน

ฉ่ฉาวอวิ่นยิ้มและกล่าว “เจ้าเรียนรู้ได้รวดเร็วให้ข้าทดสอบพลังของมัน”
หลังจากที่ฉ่ฉาวอวุ่นกล่าวจบ,เขาก็สะบัดนิ้ว,และแสงสีทองทั้งหมดในห้องโถงใหญ่หวนกลับไปในเปลวเพลิงสวรรค์

ทันใดนั้น,เปลวเพลิงเล็กๆกลายเป็นประกายเจิดจ้าราวกับดวงตะวันสีทอง
กระแสพลังแห่งอํานาจสูงสุดเร่งขึ้นไปถึงขีดสุดสายลมรุนแรงพัดผ่านด้านหลังของฉ่ฉาวอวิ่น,โบกสะบัดเสื้อผ้าและผมของเขามันดูเหมือน
จักรพรรดิเทียนหวี่ได้เข้าสิงตัวของเขาเขาดูสง่างาม

สีหน้าของเซียวเฉินเปลี่ยน เขารีบรวบรวมกระแสไฟฟ้าสีม่วงที่กระจัดกระจายอยู่ในอากาศเข้าไปในต้นกําเนิดเปลวเพลิงเขาสําแดงสภาวะของเขาขึ้นไปถึงขีดสุดเปลวเพลิงสีม่วงให้แสงรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง
เซียวเฉินสะบัดมือขวาของเขาไปข้างหน้าในลักษณะเดียวกัน,รับกับเปลวเพลิงของอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล

“ปัง!”

เปลวเพลิงทั้งสองเข้าปะทะกัน เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในห้องโถงใหญ่,และคลื่นกระแทกดังกึกก้องวัตถุทั้งหมดที่ลอยอยู่ในอากาศสลายเป็นผง

มันช่างน่าหวาดกลัว,ขณะที่พลังงานสะท้อนไปมาในห้องโถงใหญ่,ทั่วทั้งราชวังเหมันต์ลึกล้ําสั้นสะเทือนทําให้ทุกคนที่อยู่ข้างในตกใจ

เซียวเฉินหน้าซีดและพลังงานพลั่งพล่านมหาศาลทะยานขึ้นและซัดเขาลอยกลับไปสิบเมตรก่อนที่จะลงจอดอย่างแรง

ในด้านนรงข้าม,ฉ่ฉาวอวิ่นถอยกลับเพียงสามก้าวเบาๆ เผชิญหน้ากับเปลวเพลิงสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์,เพลิงแท้อัสนีม่วงเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินพ่ายแพ้ในแง่ของพลัง

แสงสีทองวูบไหวในดวงตาของฉ่ฉาวอวุ่นเปลวเพลิงสวรรค์ที่กระจัดกระจายในอากาศลบหายไป

ฉ่ฉาวอวุ่นมองไปที่เซียวเฉินด้วยสีหน้าจริงจังเขากล่าว“อย่าได้ถือข้าเป็นศัตรูของเจ้าในไม่ช้า,เจ้าจะเข้าใจว่าพวกเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน”

“ชี ชี!”

ราชวังน้ําแข็งหยุดสั่นสะเทือน,และสายน้ําแข็งสี่เส้นปรากฏขึ้นในห้องโถง สายน้ําแข็งก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์จากนั้นมันกลายเป็นหญิงสาวสวย และสง่างามสี่นาง

“พวกเจ้าทั้งสอง,ครั้งหน้าที่เจ้าทดสอบกระบวณท่าโดยไม่มีเหตุผล,พวกเจ้าจะถูกจับโยนออกไปด้านนอกราชวัง,ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใครมา จากไหนก็ตาม”

หนึ่งในหนึ่งสาวกล่าวเสียงเย็นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เมื่อฉ่ฉาวอวิ่นเห็นว่ามีผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นเข้ามาฉ่ฉาวอวุ่นก้มโค้งเล็กน้อยและยิ้มขึ้น “ขออภัยจะไม่มีครั้งหน้าเกิดขึ้น”

ในการเดินทางของราชวังเหมันต์ลึกล้ํา,การแลกเปลี่ยนกระบวณท่าของเซียวเฉินและฉ่ฉาวอขึ้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยราชวังเหมันต์ลึกล้ํายังเดินทางต่อไปด้วยความเร็วสองเท่าของความเร็วเสียงและบินตรงไปที่ป่าน้ําหมึก

ในห้องหนึ่งบนชั้นสอง,เซียวเฉินพยายามลองผสานสภาวะของเข้ากับเพลิงแท้อัสนีม่วงอย่างต่อเนื่องพลังของเพลิงสวรรค์ในตํานานน่ากลัว อย่างแท้จริง

ในครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินผสานสภาวะของเขา เขาสามารถเกือบจะตีเสมอได้กับเปลวเพลิงสวรรค์แม้ว่าเปลวเพลิงสวรรค์จะไม่ถึงหนึ่งในสิบของ เปลวเพลิงสวรรค์ที่แท้จริงเซียวเฉินก็พึงพอใจแล้ว

อย่างไรก็ตาม,เพลิงแท้อัสนีม่วงของเซี่ยวเฉินยังมีศักยภาพที่ไม่ได้ดึงออกมา ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์มีทั้งหมดสิบสองชั้นทุกครั้งที่เขาทะ ลวงระดับชั้น,เพลิงแท้อัสนีม่วงจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในอนาคต,เขาอาจจะสามารถต่อสู้ได้กับเปลวเพลิงสวรรค์

ขณะที่กําลังค่ํามืด,เชี่ยวเฉินสังเกตเห็นเมฆที่ด้านนอกหน้าต่างกําลังมืดลง นี่ทําให้รู้สึกหดหู

เซี่ยวเฉินหยุดมือจากสิ่งที่กําลังทําและลุกขึ้นเขามองออกไปนอกหน้าต่างและมองเห็นเทือกเขายาวไม่มีที่สิ้นสุด

หมอกสีดําปกคลุมทั่วทั้งเทือกเขาเคลื่อนไปรอบๆยอดเขาเมื่อสายลมเย็นพัด,หมอกสีดําเป็นราวกับของแข็ง:มันไม่ขยับแม้แต่น้อย

“นั้นคือเทือกเขาน้ําหมึก?” เซียวเฉินถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“ยิ้ม..!”

ในจังหวะนั้นเอง, ทั่วทั้งราชวังสั่นสะเทือนแม่ว่าจะไม่ได้รุนแรงนัก มันก็ยาวนานและต่อเนื่อง

“มีฝูงสัตว์อสูรปีศาจประเภทปีกระดับ 7 ฝูงใหญ่ใกล้เข้ามา ราชวังเหมันต์ลึกล้ําจะเปิดใช้รูปแบบโจมตีของมันทุกท่านโปรดอยู่ในห้องของตัวเอง อย่าได้ออกมาข้างนอกพวกเขาจะรับมือเอง”

เสียงไพเราะดังขึ้นในหูของทุกคนที่อยู่บนชั้นสองมันอธิบายถึงสถานการณ์ในตอนนี้

“มีสัตว์อสูรปีศาจประเภทปีกระดับ 7” เซียวเฉินพึมพํากับตัวเอง “ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัต ริย์ยุทธขั้นสูงข้าสงสัยว่าตระกูลต้วนมู่จะรับมือกับพวกมันอย่างไร”

“ถึงอย่างไร,ข้าสามารถลองตรวจสอบรูปแบบกลโจมตีของราชวังเหมันต์ลึกล้ําใครจะรู้:บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในการซ่อมแซมรูปแบบค่าย กลโจมตีของเรือสงครามสีเงิน”

เซี่ยวเฉินมองไปที่หน้าต่างเขาสามาถลอดผ่านมันไปได้เขาดีดตัวออกจากพื้นกระโดดรอดผ่านออกไปโดยปราศจากความลังเล

เซี่ยวเฉินลอยตรงไปข้างหน้ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้างระหว่างราชวังน้ําแข็งและหัวของวิหคเซียว เฉินตัดสินใจที่จะไปสังเกตการณ์รูปแบบค่ายกล โจมตีของราชวังเหมันต์ลึกล้ําอย่างระวัง

ร่างของเซียวเฉินเปลี่ยนกลายเป็นลําแสงสีม่วงในอากาศในตอนที่เขาลงจอด,มีเสียง โซว ดังขี้ นมาหลายครั้งจีชางคง,ฮวาหยุนเฟย,และอีกหลายคนได้มาถึงแล้วเช่นกัน

พวกเขาทั้งหมดมองกันไปมา,กระอักกระอ่วนอย่างชัดเจนพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนอื่นออกมาด้วยเช่นกัน

จีชางคงยิ้มบางเบาและกล่าว “ดูเหมือนทุกคนจะมีความคิดเดียวกันพวกเราทั้งหมดอยากที่ จะรู้ว่ารูปแบบค่ายกลรบมันทํางานเช่นไรเช่นนั้นก็ไปพร้อมกันให้หมด”

ขุมอํานาจที่อยู่เบื้องหลังของคนพวกนี้ทั้งหมดต่างมีสมบัติประเภทเรือบินอยู่ไม่หนึ่งก็สองลําอย่างไรก็ตามรูปแบบค่ายกลโจมตีของพวกมันพังเสียหายและไม่อาจใช้งานได้นี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะไปสังเกตการณ์

โล่พลังฉีทรงกลมห่อหุ้มราชวังเหมันต์ลึกล้ําเอาไว้สัตว์อสูรปีศาจชนเข้าไปที่โล่พลังอย่างไม่ลดละ

ภายใต้การโจมตีของสัตว์อสูรปีศาจ,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องแสงสีขาวของโล่ฉีค่อยๆอ่อนลง

ฮวาหยุนเฟยกล่าวอย่างมืดมัว “สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 น่ากลัวอย่างแท้จริง หากไม่ได้ใช้หินวิญญาณระดับสูงเพื่อเติมเต็มรูปแบบค่ายกลป้องกัน,มันจะอยู่ได้ไม่นานนัก”

หนึ่งในสมากชิกตําหนักราชวงศ์กล่าวอย่างถิ่นเต้น“หินวิญญาณระดับสูง? พวกเขาได้มันมาอย่างง่ายดายได้เช่นไร?พวกเขาน่าจะเปิดใช้รูปแบบค่ายกลโจมตีเร็วๆนี้”

“บูม!” หลังจากที่เขากล่าวจบ,ลูกบอลแสงรุ่งโรจน์บีบอัดในจะงอยปากของวิหคน้ําแข็งในช่วงเวลาต่อมายืดยาวและเปลี่ยนกลายเป็นเสา แสง,แทงทะลุผ่านโล่ฉีออกไป มันกวาดล้างสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมด,เปลี่ยนพวกมันกลายเป็นชิ้นน้ําแข็ง

เซี่ยวเฉินมองขึ้นไป เขาเห็นเพียงผู้เชี่ยวชาญลึกลับกําลังทําผนึกมืออย่างต่อเนื่องบนชั้นบนสุดของราชวังน้ําแข็งขณะที่ผนึกมือของเขาเปลี่ยน ไป วิหคน้ําแข็งก็ยิงลําแสงไปในทิศทางอื่น

ไม่มีสัตว์อสูรปีศาจที่สามารถป้องกันเสาแสงนี้ไว้ได้พวกมันทั้งหมดเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งและแตกสลายเป็นเกล็ดน้ําแข็ง

“ฟุ ฟิว! ฟุฟว!”

วงรัศมีปรากฏขึ้นรอบๆ, เริ่มออกมาจากที่ชั้นสามและไต่ขึ้นไป วงรัศมีเหล่านี้ทั้งหมดประกอบไปด้วยอักขระยันต์ลึกลับ

อักขระยันต์นับไม่ถ้วนเคลื่อนไปตามรูปแบบบางอย่างไม่หยุด,ราวกับพวกมันกําลังก่อตัวเป็นบางสิ่ง

ในที่สุด,บุคคลลึกลับที่ชั้นบนสุดก็ร้องตะโกนออกมา“ทลาย!”

อักขระยันต์ทั้งหมดรวมตัวกันอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งพวกมันก็กลายเป็นนกน้ําแข็ง ขนาดเล็กเหล่านกน้ําแข็งร้องออกมาและบินตรง ไปข้างหน้า

นกน้ําแข็งนับไม่ถ้วนชนเขาไปที่สัตว์อสูรปีศาจที่อยู่โดยรอบในทันที ร่างกายของสัตว์อสูรปีศาจเหล่านี้ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ําค้างแข็งในทันที ใน จังหวะต่อมาพวกมันเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งขนาดใหญ่

“ปัง!”

บุคคลที่ชั้นบนสุดของราชวังน้ําแข็งควบคุมวิหคยักษ์ชนเข้ากับรูปปั้นน้ําแข็ง,ทําลายรูปปั้นน้ําแข็งทั้งหมดตรงหน้า

เมื่อสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมดตกตายลง,เซี่ยวเฉินและคนอื่นไสูดหายใจเข้าลึก พวกเขาไม่คาดคิดว่าราชวังเหมันต์ลึกล้ําจะทรงพลังถึงเพียงนี้ มัน สามารถสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 หลายตัวได้อย่างรวดเร็ว

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,อักขระยันต์พวกนั้นน่าจะเป็นที่ตั้งของรูปแบบค่ายกลโจมตีอย่างไรก็ตามหากมไม่การศึกษาอย่างสมบูรณ์,ไม่มีทางที่จะเข้าในอักขระยันต์พวกนี้ได้

หลังจากที่สัตว์อสูรปีศาจตายหมด,ทิวทัศน์ด้านหน้ากลายเป็นชัดเจนอีกครั้ง มีเสียงกรีดร้องอันน่าหวาดกลัวดังมาจากข้างหน้าในตอนที่ทุก คนมองออกไป,พวกเขามองเห็นกลุ่มสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 อีกฝูงหนึ่ง

สีหน้าของบุคคลหนึ่งเปลี่ยน เขากล่าวด้วยความกลัว“สิ่งที่น่ากลัวในเทือกเขาน้ําหมึกคือการบินเข้ามาในอากาศ เคยมีระดับขอบเขตยอดก ษัตริย์ยุทธขั้นต้นบินผ่านเทือกเขาน้ําหนักแห่งนี้ท้ายที่สุด,เขาต้องบินหนีสัตว์อสูรปีศาจประเภท อีกนับไม่ถ้วนนอกจากนั้น,เขาจบลงด้วยการบาด เจ็บสาหัส

“ราชวังเหมันต์ลึกล้ําอาจจะทรงพลังอย่างไรก็ตาม,หากหินวิญญาณมีไม่เพียงพอให้ใช้,พวกเขาจะอยู่ในอันตราย”

ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็รู้สึกถึงอุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นอุณหภูมิยังลด ลงเรื่อยๆไม่หยุดในไม่ช้า,มันก็เย็นจับไปถึงกระ ดูกทุกคนต้องหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขาเพื่อขับความเย็นออกไป

“เกิดอะไรขึ้น?”

ฝูงชนตกอกตกใจ พวกเขามองเห็นฉีเยือกเย็นปรากฏขึ้นในพื้นที่โดยรอบของราชวังน้ําแข็งอักขระยันต์ทองคําเปลี่ยนเป็นเจิดจ้าท่ามกลางฉี เย็นหลังจากที่บุคคลลึกลับที่ชั้นบนสุดตะโกนออกมา

ฉีเย็นทั้งหมดรวมตัวกันและก่อตัวเป็นร่างน้ํา แข็งขนาดมหึมา เมื่อมองดูอย่างละเอียดนี่เป็นรูปร่างของหญิงสาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+