Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 346 อาวุธเทพในมือ,ไร้เทียมทานใต้สวรรค์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 346 อาวุธเทพในมือไร้เทียมทานใต้สวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 346 อาวุธเทพในมือ,ไร้เทียมทานใต้สวรรค์

หลิวเทียนยู่ถืออาวุธเทพด้วยมือขวาและมือซ้ายชี้ไปบนท้องฟ้า เส้นกระบี่ฉีมากมายรวมตัวกันที่นิ้วของเขา,มองดูคล้ายกับตะปู จากนั้น,พวกมันก็พุ่งตรงไปยังหกคนที่อยู่บนฟ้าอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กระบี่ฉีที่เหมือนตะปบินไป,พวกมันฉีกรอยแยกมิติที่ดูดํามืดยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ําคืน

หกคนที่อยู่บนฟ้าต่างแตกหนีและใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขา,พยายามจะหลบเลี่ยงกระบี่จีน

มือขวาของหลิวเทียนยู่, ที่ถืออาวุธเทพเอาไว้,พลิกกลับ,ฝ่ามือของเขาคว่าลงและอาวุธเทพก็หมุนวนอย่างรวดเร็ว กระบี่ฉีที่บินออกไปเป็รกลุ่มแตกกระจายไล่ตามคนทั้งหกในทันที

กระบี่ฉีอันเฉียบคมเคลื่อนไหวอย่างดุดันในอากาศ:พวกมันรวดเร็วจนดูราวกับเป็นเส้นสายฟ้าสีเงินที่กําลังฉีกมิติ

ทั้งหกคนใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาจนถึงขีดสุด ผู้คนที่อยู่เบื้องล่างไม่อาจมองเห็นพวกเขา พวกเขามองเห็นเพียงเส้นเลือนลางกําลังวูบไหวไปในอากาศ

มีเสียงร้องน่าอดสูดังขึ้นในอากาศ ไร้ซึ่งการป้องกันใดๆกระบี่ฉีทะลวงผ่านเกราะปราณของพวกเขาทิ้งบาดแผลอันน่ากลัวเอาไว้

ด้วยการสนับสนุนจากอาวุธเทพ,หลิวเทียนเล่นกับคนทั้งหกราวกับอยู่ในกํามือ

“ฟุ ฟิว!”

ขณะที่ทั้งหกคนอดทนอย่างขมขึ้น,เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล,มีความผันผวนของมิติปรากฎขึ้น ประตูมิติขนาดใหญ่เปิดออกที่เหนือหัวของคนทั้งหก เมื่อพวกเขามองเห็นประตูมิติ,พวกเขาเป็นสุข

ภาพร่างมังกรฟ้าขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นออกมาจากประตูและกลืนกินทั้งหกคนลงไปในทันที หลังจากนั้น,มังกรฟ้าตวันั้นรีบมุ่งหน้ากลับไปที่ประตูมิติ

หลิวเทียนยู่สูดจมูกเย็นชาและกล่าว “คิดจะมาก็มาจะไปก็ไป? เจ้าคิดว่าศาลากระบี่สวรรค์คืออะไร?”

“บูม!”

ขณะที่หลวเทียนยู่ถืออาวุธเทพเอาไว้ในมือขวา,เขายื่นมือซ้ายตรงไปบนท้องฟ้า ล่าแขนธรรมดาของเขาพลันขนาดใหญ่ขึ้น

ขณะที่มังกรฟ้าตัวนั้นกําลังจะไปถึงประตูมิติ,หลิวเทียนยู่ใช้กําลังคว้าจับไปที่หัวของมังกรฟ้า มังกรตัวนั้นดิ้นรนและร้องคํารามอย่างเกรี้ยวกราด,สั่นสะเทือนท้องฟ้าขณะที่มันพยายามจะดิ้นให้หลุด

ฝักของอาวุธเทพระเบิดแสงออกมา มือซ้ายของหลิวเทียนยู่ดูเหมือนกับมีพลังที่จะฉีกท้องฟ้า ไม่ว่ามังกรตัวนั้นจะพยายามเพียงใด,มันก็ไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

“กลับมานี้!” หลิวเทียนยู่ร้องตะโกน,และดึงมือซ้ายของเขากลับมา เขาดึงมังกรฟ้าตัวนั้นให้ออกห่างจากประตู

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ลําตัวยาวมหึมากว่าหนึ่งพันเมตรของมังกรฟ้าฟาดไปมาในอากาศ ภายในช่วงเวลาสั้นๆ,มันก็ฟาดยอดเขาและสิ่งปลูกสร้างพังไปมากมาย

“บูม!”

หลิวเทียนยู่มีสีหน้าร้ายแรงพร้อมกับเขาสะบัดมืออย่างรุนแรง เขาโยนภาพร่างมังกรฟ้าที่น่ากลัวนี้ไปยังพื้นที่โล่งด้านหลังเทือกเขาหลิงหยุน

เจ้ามังกรชนเข้ากับยอดเขาสูงสลายเป็นฝุ่น ฝุ่นเติมเต็มพื้นที่และหินดินกระจายไปทั่ว ภาพร่างของมังกรค่อยๆเลือนลางลงไปอย่างช้าๆ

หกคนที่อยู่ภายในปากของมังกรกระอักเลือดออกมาจากผลของพลังมหาศาล พวกเขาได้รับบาดเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลบนตัวของพวกเขา พวกเขาดิ้นรนพยายามลุกขึ้นวิ่งหนี

ผู้อาวุโสหนึ่งสีหน้ากลายเป็นเย็นชา, และเขากล่าว “ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์,รับคําสั่งข้า อย่าได้แสดงความเมตตา!”

“รับทราบ!”

ร่างสีแดงทั้งหมดบนพื้นมุ่งหน้าไปที่ด้านหลังเทือกเขาหลิงหยุนอย่างไหลลื่น,ปิดล้อมทั้งหกคนที่บาดเจ็บเอาไว้อย่างรวดเร็ว

หลังจากที่หลิวเทียนยู่ดึงมังกรตัวนั้นกลับมา,เขามองไปที่ประตูมิติที่กําลังจะปิดลง จิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาพร้อมกับเขาชักอาวุธเทพออกมาอีกครั้ง

เขายิงเส้นกระบี่ฉีสีทองออกมาจากคมกระบี่ ก่อนที่ประตูมิติปิดลง,มันลอดผ่านเข้าไป

“ฟุ ฟิว!”

หลายล้านกิโลเมตรห่างออกไป,ในทะเลไร้ขอบเขต,บนท้องฟ้าเหนือเกาะแห่งหนึ่ง,เส้นกระบี่ฉีสีทองพลันปรากฏขึ้น กระบี่ฉีเล่มนี้มุ่งหน้าตรงไปที่พระราชวังหรูหราบนเกาะ

ทุกที่ที่กระบี่ฉีวาดําน,สิ่งก่อสร้างของราชวังถูกตัดครึ่ง ผู้บ่มเพาะพลังชุดลายมังกรฟ้าหลายคนถูกสับครึ่งโดยไม่รู้ตัว

กระบี่ฉีสีทองเคลื่อนไหวไปราวกับว่ามันเป็นไม้ไผ่เรียว ในไม่ช้า,มันก็บินเข้าไปถึงห้องโถงหลักของพระราชวัง มีชายวัยกลางคนในชุดคลุมลายมังกรฟ้ากําลังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร

คนผู้นี้ดูยิ่งใหญ่,ปลดปล่อยกระแสพลังของผู้ปกครอง เขามีจมูกที่โด่งและดวงตาที่ใหญ่ เพียงมองดูก็เห็ชัดว่าเขาเป็นบุคคลที่มีตําแหน่งสูง

ฉีและโลหิตของบุคคลผู้นี้รุ่งโรจน์ ดวงตาของเขาฉายแสงสว่างออกมา

เมื่อบุคคลผู้นี้มองเห็นกระบี่ฉีสีทองที่กําลังทะลวงสิ่งปลูกสร้างและพุ่งตรงเข้ามา,สีหน้าของเขากลายเป็นร้ายแรง เขายกสองนิ้วที่มือขวาของเขาและร้องตะโกน,ยิงเส้นฉีมังกรฟ้าออกไป

มังกรบนนิ้วของคนผู้นี้ร้องคารามและป้องกันกระบี่ฉีเอาไว้ได้

“ปัง!”

เมื่อฉีมังกรฟ้าและกระบี่ฉีสีทองปะทะกัน,พวกมันเกิดระเบิดขึ้นรุนแรง ผลจากพลังงานแรงระเบิดทําลายทั่วทั้งห้องโถงหลัก,เปลี่ยนกลายเป็นซากปรักหักพัง

มีเพียงหนึ่งสิ่ง,เหลือเพียงบัลลังก์มังกรของมหาพระราชวัง มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของคนผู้นี้ สีหน้าของเขาซีดเล็กน้อย

เส้นกระบี่ฉีสีทองยังไม่ได้สลายไป มันยังคงปะทะกับฉีมังกรฟ้าบนนิ้วของคนผู้นี้

ชายวัยกลางคนลุกขึ้นและร้องตะโกน เขาดันนิ้วของเขาขึ้นไปข้างหน้า,และเกิดระเบิดขึ้นหนาแน่น;กระบีฉีสีทองสลายกลายเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วน

แสงโปรยลงมาเป็นพายุรุนแรงมันทลายทุกสิ่งอย่าง ผู้บ่มเพาะพลังที่พุ่งเข้ามาถูกจุดแสงเข้าบาดเจ็บเลือดออกกันไปหลายคน

คนคนเจ็ดคนเข้ามาระเบิดแสงรอบๆออกไปสู่ความว่างเปล่าก่อนที่จะร่อนลงจอกที่ด้านข้างของชายวัยกลางคนผู้นั้น

เมื่อพวกเขามองเห็นเลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของชายวัยกลางคน,พวกเขาตกตะลึงหนัก ราชามังกรที่เป็นดุจดั่งพระเจ้าของพวกเขาถูกทําให้บาดเจ็บ

พวกเขาทั้งหมดรีบคุกเข่าลงและกล่าวด้วยความหวาดกลัวและเป็นกังวล “ข้าน้อยไร้ความสามารถ; พวกเราปล่อยให้ฝ่าบาท,ราชามังกรต้องได้รับบาดเจ็บ”

ชายวัยกลางคน,ที่ถูกเรียกว่าราชามังกร,หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาและค่อยๆเช็ดเลือดที่มุมปากของเขา จากนั้นเขาก็ยื่นผ้าออกมาข้างหน้าและมองดูเลอด;เขาเผยสีหน้าครุ่นคิดลึก

ราชามังกรเพียงโยนผ้าเช็ดหน้าออกไปเบาๆ,และมันเกิดระเบิดขึ้น,เปลี่ยนกลายเป็นเศษผ้านับไม่ถ้วน เขากล่าวด้วยเสียงเบา “ลุกขึ้น นับแต่นี้,พวกเจ้าทั้งเจ็ดคนคือคณะทูตแห่งพระราชวังเทพมังกร”

ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธตกตายไปเจ็ดคน,พระราชวังเทพมังกรเสียหายไปใหญ่หลวง

ราชามังกรจ้องมองไกลออกไป,ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความผันผวน เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,อาวุธเทพแข็งแกร่งอย่างแท้จริง น่าเสียดาย,คนผู้นี้ยังใช้พลังของมันออกมาไม่ถึงหนึ่งวนสิบส่วน

กลับมาที่ศาลากระบี่สวรรค์,หลวเทียนยู่,ผู้ที่ได้แสดงกระบวณท่าน่าตกตะลึงออกไป,คืนอาวุธ เมพกลับเข้าฝักของมันในทันที แผ่นไม้ทั้งสี่ผสานกลับเข้าหากันอีกครั้งและผนึกกระแสพลังของอาวุธเทพเอาไว้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

มีหนวดสีดํานับไม่ถ้วนขยายออกมาจากก้อนหินด้านล่างของเขา,รูปร่างของมันช่างชั่วร้าย เขาคิ้วขมวดเล็กน้อยและหลับตาลง,กลับคืนสู่การต่อสู้ที่ไม่จบสิ้นกับหนวดเหล่านี้

“รายงานผู้อาวุธโสหนึ่ง! หกคนที่บุกเข้ามาในศาลากระบี่สวรรค์ต่อต้านอย่างดื้อดึง คนของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน พวกเราไม่อาจจับตัวพวกเขามาเป็นๆและทําได้เพียงลงมือสังหาร” เจ้าหน้าที่ของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์รายงานต่อเจียงซื้ออย่างขุ่นมัว;มีบาดแผลปกคลุมร่างกายของเขาแม้ว่าระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธพวกนั้นจะบาดเจ็บหนัก,แต่พลังทําลายล้างของพวกเขาก็ยังทําให้เจ้าหน้าที่ผู้นี้ตกตะลึง

เจียงชื่อมองไปยังฉากที่เต็มไปด้วยสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์บาดเจ็บล้มตาย อีกทั้งซากปรักหักพังภายในเทือกเขาหลิงหยุน สีหน้าของเขากลายเป็นขุ่นมัวพร้อมกล่าว “ตัดหัวพวกมันแขวนเอาไว้ที่หน้าประตูเมืองกระบีตลอดกาล”

“รับทราบ!” คนผู้นี้ตอบรับและทําตามคําสั่งในทันที

ก่อนที่คนผู้นั้นจะไปได้ไกล,สีหน้าของผู้อาวุโสหนึ่งพลันเปลี่ยน เช่นเดียวกับสีหน้าของสมาชิกสภาสูงและท่านเจ้ายอดเขา

พวกเขามองเห็นเรือสงครามสีทองที่ด้านนอกม่านพลังของศาลากระบี่สวรรค์กําลังบินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกมันกําลังจะชนเข้ากับม่านพลัง, พวกเขาก็เร่งความเร็วขึ้น

“ปัง! ปัง! ปัง!”

เรือสงครามสีทองใช้พลังของพวกมันราวกับคมกระบี่ ม่านพลังที่ยึดหยุ่นค่อยๆแตกออกด้วยน้ํามือของสิบ “คมกระบี่” เหล่านี้ เสียงระเบิดสั่นสะเทือนหูดังก้องไปในอากาศ

“เรือธงของกองทักจักรวรรดิมังกรก็มาด้วย หนานกงเลี่ยกําาลังคิดจะทําอะไร?” มีคนสองสามคนอุทานขึ้น

เจียงชื่อคงความนิ่งสงบพร้อมกับกล่าว “ส่งคําสั่งออกไป; ให้ผู้อาวุโสระดับสูงทุกคนเข้ามาและต้อนรับพวกเขา”

หลังจากที่เจียงชื่อกล่าวจบ,เขารีบนํากลุ่มคนเข้าไปหากองเรือสงครามอย่างรวดเร็ว พวกเขารวดเร็วเป็นอย่างมาก, กําลังเข้ามาถึงตรงหน้ากองเรือภสยในช่วงพริบตา

เจียงชื่อมองไปที่หัวเรือและเห็นหนานกงเลี่ยแต่งชุดเกราะศึกสีทอง ฉีและโลหิตของเขารุ่งโรจน์ เจียงชื่อกล่าวอย่างเย็นชา “หนานกงเลีย,เจ้าตั้งใจจะทําอะไร?”

หนานกงเลี่ยยืนอยู่ใต้ธงสีทองที่กําลังโบกสะบัดพร้อมกับสายตาจ้องมองไปยังพื้นที่พลังสง ครามบนเทือกเขาหลิงหยุน เขาหัวเราะเบาๆและกล่าว “พี่น้องเจียง,ไม่จําเป็นต้องกังวล พวกเราเพียงเห็นศัตรูใหญ่กลวงมาเยือนศาลากระบี่สวรรค์ และเข้ามาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาควรขับไล่ศัต

ยกันด้วยการช่วยเหลือของกองทัพจักรวรรดิมังกร,พวกเราจะทําลายล้างศัตรให้สิ้นซาก”

เจียงชื่อยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าว “ขอบคุณความหวังดีของนายพลหนานกง ศาลากระบี่สวรรค์ได้จัดการกับศัตรูไปเรียบร้อยแล้ว ท่านนายพลหนานกงกลับไปได้”

หนานกงเลี่ยหัวเราะเสียงดัง “ข้าเพียงมีความหวังดี;ทําไมพี่น้องเจียงถึงได้เร่งรัดขับไล่ข้า? ท่านได้โค่นล้มศัตรูลงไปวันนี้ แล้วศัตรูของวันหน้าและหลังจากนั้นล่ะ? ศาลากระบี่สวรรค์จะต้องไม่อาจทนรับความสูญเสียเช่นนี้ได้บ่อยครั้งนัก”

“เอาอย่างนี้เป็นเช่นไร:กองทัพจักรวรรดิมังกรจะปักหลักกองเรือสงครามอยู่ที่ศาลากระบี่สวรรค์เป็นระยะยาว พวกเราจะช่วยท่านขับไล่ศัตรูเกองทัพจักรวรรดิมังกรมีความสามารถเพียงพอในการรับมือ”

“ฟุ ฟิว! ฟุฟว!”

ในจังหวะที่หนานกงเลี่ยกล่าวจบ,นอกจากเรือสงครามล่าที่ใหญ่ที่สุดแล้ว,เรือสงครามลําอื่นๆอีกเก้าลําเปิดประตูปืนใหญ่ทั้งสองฝั่งขึ้น ปืนใหญ่พลังงานปิศาจที่ยืนปากกระบอกออกมาแสดงภาพที่ชั่วร้าย

อักขระยันต์สีทองนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบๆเรือสงคราม,กระพริบไหวแสงเจิดจ้า

สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสด้านหลังของเจียงชื่อกลายเป็นมือมัว เปลวเพลิงเกรี้ยวกราดถูกจุดขึ้นในใจของพวกเขา หนานกงเลี้ยเห็นถึงความเสียหายที่ศาลากระบี่สวรรค์ได้รับและเข้ามาเพื่อข่มเหงพวกเขา

ราชสํานักหลวงและสามมหานิกายใหญ่มักเฝ้าระวังกันและกันอยู่เสมอ สําหรับอาณาจักรใดก็ตาม,จักรพรรดิไม่อยากที่จะเห็นขุมอํานาจอื่นภายในอาณาจักรที่จะสามารถเป็นภัยแก่พวกเขา

อย่างไรก็ตาม,นอกจากจะเฝ้านะวังกันแล้ว,เหล่านิกายใหญ่และราชสํานักหลวงก็ยังพึ่งพาอาศัยกันในระดับหนึ่ง

อาณาจักรต้องการการคงอยู่ของมหานิกาย ยิ่งมีนิกายใหญ่มากมาย,ความแข็งแกร่งโดยรวมของอาณาจักรยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มันยังมีเงื่อนไขหนึ่ง ราชสํานักหลวงจะต้องมีพลังที่เด็ดขาดและกดข่มนิกายเหล่านี้เอาไว้ได้ มิฉะนั้น นิกายเหล่านี้จะกลายเป็นตัวอันตรายต่อราชสํานักหลวง

ศาลากระบี่สวรรค์ที่ครอบครองอาวุธเทพก็เป็นหนึ่งในนิกายเหล่านั้น ยี่สิบปีก่อน,ท่านเจ้าศาลาคนก่อนเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ภายในนิกายเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญและผู้มีพรสวรรค์มากมาย พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในสามมหานิกายใหญ่

ด้วยการครอบครองอาวุธเทพ,พวกเขานับได้ว่าเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดทั่วทั้งทวีปเทียนหรู่ นี่ทําให้ราชสํานักหลวงรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม,ศาลากระบี่สวรรค์ประสบโชคร้าย พวกเขาเจอเข้ากับภัยพิบัติปีศาจ ผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่ามากมายตกตายทั้งหมด ท่านเจ้าศาลาก็ได้เสียชีวิตไปในการต่อสู้เช่นกัน ความแข็งแกร่งของนิกายก็ได้จมดิ่งลง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 346 อาวุธเทพในมือ,ไร้เทียมทานใต้สวรรค์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 346 อาวุธเทพในมือไร้เทียมทานใต้สวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 346 อาวุธเทพในมือ,ไร้เทียมทานใต้สวรรค์

หลิวเทียนยู่ถืออาวุธเทพด้วยมือขวาและมือซ้ายชี้ไปบนท้องฟ้า เส้นกระบี่ฉีมากมายรวมตัวกันที่นิ้วของเขา,มองดูคล้ายกับตะปู จากนั้น,พวกมันก็พุ่งตรงไปยังหกคนที่อยู่บนฟ้าอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กระบี่ฉีที่เหมือนตะปบินไป,พวกมันฉีกรอยแยกมิติที่ดูดํามืดยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ําคืน

หกคนที่อยู่บนฟ้าต่างแตกหนีและใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขา,พยายามจะหลบเลี่ยงกระบี่จีน

มือขวาของหลิวเทียนยู่, ที่ถืออาวุธเทพเอาไว้,พลิกกลับ,ฝ่ามือของเขาคว่าลงและอาวุธเทพก็หมุนวนอย่างรวดเร็ว กระบี่ฉีที่บินออกไปเป็รกลุ่มแตกกระจายไล่ตามคนทั้งหกในทันที

กระบี่ฉีอันเฉียบคมเคลื่อนไหวอย่างดุดันในอากาศ:พวกมันรวดเร็วจนดูราวกับเป็นเส้นสายฟ้าสีเงินที่กําลังฉีกมิติ

ทั้งหกคนใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวของพวกเขาจนถึงขีดสุด ผู้คนที่อยู่เบื้องล่างไม่อาจมองเห็นพวกเขา พวกเขามองเห็นเพียงเส้นเลือนลางกําลังวูบไหวไปในอากาศ

มีเสียงร้องน่าอดสูดังขึ้นในอากาศ ไร้ซึ่งการป้องกันใดๆกระบี่ฉีทะลวงผ่านเกราะปราณของพวกเขาทิ้งบาดแผลอันน่ากลัวเอาไว้

ด้วยการสนับสนุนจากอาวุธเทพ,หลิวเทียนเล่นกับคนทั้งหกราวกับอยู่ในกํามือ

“ฟุ ฟิว!”

ขณะที่ทั้งหกคนอดทนอย่างขมขึ้น,เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล,มีความผันผวนของมิติปรากฎขึ้น ประตูมิติขนาดใหญ่เปิดออกที่เหนือหัวของคนทั้งหก เมื่อพวกเขามองเห็นประตูมิติ,พวกเขาเป็นสุข

ภาพร่างมังกรฟ้าขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นออกมาจากประตูและกลืนกินทั้งหกคนลงไปในทันที หลังจากนั้น,มังกรฟ้าตวันั้นรีบมุ่งหน้ากลับไปที่ประตูมิติ

หลิวเทียนยู่สูดจมูกเย็นชาและกล่าว “คิดจะมาก็มาจะไปก็ไป? เจ้าคิดว่าศาลากระบี่สวรรค์คืออะไร?”

“บูม!”

ขณะที่หลวเทียนยู่ถืออาวุธเทพเอาไว้ในมือขวา,เขายื่นมือซ้ายตรงไปบนท้องฟ้า ล่าแขนธรรมดาของเขาพลันขนาดใหญ่ขึ้น

ขณะที่มังกรฟ้าตัวนั้นกําลังจะไปถึงประตูมิติ,หลิวเทียนยู่ใช้กําลังคว้าจับไปที่หัวของมังกรฟ้า มังกรตัวนั้นดิ้นรนและร้องคํารามอย่างเกรี้ยวกราด,สั่นสะเทือนท้องฟ้าขณะที่มันพยายามจะดิ้นให้หลุด

ฝักของอาวุธเทพระเบิดแสงออกมา มือซ้ายของหลิวเทียนยู่ดูเหมือนกับมีพลังที่จะฉีกท้องฟ้า ไม่ว่ามังกรตัวนั้นจะพยายามเพียงใด,มันก็ไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

“กลับมานี้!” หลิวเทียนยู่ร้องตะโกน,และดึงมือซ้ายของเขากลับมา เขาดึงมังกรฟ้าตัวนั้นให้ออกห่างจากประตู

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ลําตัวยาวมหึมากว่าหนึ่งพันเมตรของมังกรฟ้าฟาดไปมาในอากาศ ภายในช่วงเวลาสั้นๆ,มันก็ฟาดยอดเขาและสิ่งปลูกสร้างพังไปมากมาย

“บูม!”

หลิวเทียนยู่มีสีหน้าร้ายแรงพร้อมกับเขาสะบัดมืออย่างรุนแรง เขาโยนภาพร่างมังกรฟ้าที่น่ากลัวนี้ไปยังพื้นที่โล่งด้านหลังเทือกเขาหลิงหยุน

เจ้ามังกรชนเข้ากับยอดเขาสูงสลายเป็นฝุ่น ฝุ่นเติมเต็มพื้นที่และหินดินกระจายไปทั่ว ภาพร่างของมังกรค่อยๆเลือนลางลงไปอย่างช้าๆ

หกคนที่อยู่ภายในปากของมังกรกระอักเลือดออกมาจากผลของพลังมหาศาล พวกเขาได้รับบาดเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลบนตัวของพวกเขา พวกเขาดิ้นรนพยายามลุกขึ้นวิ่งหนี

ผู้อาวุโสหนึ่งสีหน้ากลายเป็นเย็นชา, และเขากล่าว “ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์,รับคําสั่งข้า อย่าได้แสดงความเมตตา!”

“รับทราบ!”

ร่างสีแดงทั้งหมดบนพื้นมุ่งหน้าไปที่ด้านหลังเทือกเขาหลิงหยุนอย่างไหลลื่น,ปิดล้อมทั้งหกคนที่บาดเจ็บเอาไว้อย่างรวดเร็ว

หลังจากที่หลิวเทียนยู่ดึงมังกรตัวนั้นกลับมา,เขามองไปที่ประตูมิติที่กําลังจะปิดลง จิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาพร้อมกับเขาชักอาวุธเทพออกมาอีกครั้ง

เขายิงเส้นกระบี่ฉีสีทองออกมาจากคมกระบี่ ก่อนที่ประตูมิติปิดลง,มันลอดผ่านเข้าไป

“ฟุ ฟิว!”

หลายล้านกิโลเมตรห่างออกไป,ในทะเลไร้ขอบเขต,บนท้องฟ้าเหนือเกาะแห่งหนึ่ง,เส้นกระบี่ฉีสีทองพลันปรากฏขึ้น กระบี่ฉีเล่มนี้มุ่งหน้าตรงไปที่พระราชวังหรูหราบนเกาะ

ทุกที่ที่กระบี่ฉีวาดําน,สิ่งก่อสร้างของราชวังถูกตัดครึ่ง ผู้บ่มเพาะพลังชุดลายมังกรฟ้าหลายคนถูกสับครึ่งโดยไม่รู้ตัว

กระบี่ฉีสีทองเคลื่อนไหวไปราวกับว่ามันเป็นไม้ไผ่เรียว ในไม่ช้า,มันก็บินเข้าไปถึงห้องโถงหลักของพระราชวัง มีชายวัยกลางคนในชุดคลุมลายมังกรฟ้ากําลังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร

คนผู้นี้ดูยิ่งใหญ่,ปลดปล่อยกระแสพลังของผู้ปกครอง เขามีจมูกที่โด่งและดวงตาที่ใหญ่ เพียงมองดูก็เห็ชัดว่าเขาเป็นบุคคลที่มีตําแหน่งสูง

ฉีและโลหิตของบุคคลผู้นี้รุ่งโรจน์ ดวงตาของเขาฉายแสงสว่างออกมา

เมื่อบุคคลผู้นี้มองเห็นกระบี่ฉีสีทองที่กําลังทะลวงสิ่งปลูกสร้างและพุ่งตรงเข้ามา,สีหน้าของเขากลายเป็นร้ายแรง เขายกสองนิ้วที่มือขวาของเขาและร้องตะโกน,ยิงเส้นฉีมังกรฟ้าออกไป

มังกรบนนิ้วของคนผู้นี้ร้องคารามและป้องกันกระบี่ฉีเอาไว้ได้

“ปัง!”

เมื่อฉีมังกรฟ้าและกระบี่ฉีสีทองปะทะกัน,พวกมันเกิดระเบิดขึ้นรุนแรง ผลจากพลังงานแรงระเบิดทําลายทั่วทั้งห้องโถงหลัก,เปลี่ยนกลายเป็นซากปรักหักพัง

มีเพียงหนึ่งสิ่ง,เหลือเพียงบัลลังก์มังกรของมหาพระราชวัง มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของคนผู้นี้ สีหน้าของเขาซีดเล็กน้อย

เส้นกระบี่ฉีสีทองยังไม่ได้สลายไป มันยังคงปะทะกับฉีมังกรฟ้าบนนิ้วของคนผู้นี้

ชายวัยกลางคนลุกขึ้นและร้องตะโกน เขาดันนิ้วของเขาขึ้นไปข้างหน้า,และเกิดระเบิดขึ้นหนาแน่น;กระบีฉีสีทองสลายกลายเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วน

แสงโปรยลงมาเป็นพายุรุนแรงมันทลายทุกสิ่งอย่าง ผู้บ่มเพาะพลังที่พุ่งเข้ามาถูกจุดแสงเข้าบาดเจ็บเลือดออกกันไปหลายคน

คนคนเจ็ดคนเข้ามาระเบิดแสงรอบๆออกไปสู่ความว่างเปล่าก่อนที่จะร่อนลงจอกที่ด้านข้างของชายวัยกลางคนผู้นั้น

เมื่อพวกเขามองเห็นเลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของชายวัยกลางคน,พวกเขาตกตะลึงหนัก ราชามังกรที่เป็นดุจดั่งพระเจ้าของพวกเขาถูกทําให้บาดเจ็บ

พวกเขาทั้งหมดรีบคุกเข่าลงและกล่าวด้วยความหวาดกลัวและเป็นกังวล “ข้าน้อยไร้ความสามารถ; พวกเราปล่อยให้ฝ่าบาท,ราชามังกรต้องได้รับบาดเจ็บ”

ชายวัยกลางคน,ที่ถูกเรียกว่าราชามังกร,หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาและค่อยๆเช็ดเลือดที่มุมปากของเขา จากนั้นเขาก็ยื่นผ้าออกมาข้างหน้าและมองดูเลอด;เขาเผยสีหน้าครุ่นคิดลึก

ราชามังกรเพียงโยนผ้าเช็ดหน้าออกไปเบาๆ,และมันเกิดระเบิดขึ้น,เปลี่ยนกลายเป็นเศษผ้านับไม่ถ้วน เขากล่าวด้วยเสียงเบา “ลุกขึ้น นับแต่นี้,พวกเจ้าทั้งเจ็ดคนคือคณะทูตแห่งพระราชวังเทพมังกร”

ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธตกตายไปเจ็ดคน,พระราชวังเทพมังกรเสียหายไปใหญ่หลวง

ราชามังกรจ้องมองไกลออกไป,ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความผันผวน เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,อาวุธเทพแข็งแกร่งอย่างแท้จริง น่าเสียดาย,คนผู้นี้ยังใช้พลังของมันออกมาไม่ถึงหนึ่งวนสิบส่วน

กลับมาที่ศาลากระบี่สวรรค์,หลวเทียนยู่,ผู้ที่ได้แสดงกระบวณท่าน่าตกตะลึงออกไป,คืนอาวุธ เมพกลับเข้าฝักของมันในทันที แผ่นไม้ทั้งสี่ผสานกลับเข้าหากันอีกครั้งและผนึกกระแสพลังของอาวุธเทพเอาไว้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

มีหนวดสีดํานับไม่ถ้วนขยายออกมาจากก้อนหินด้านล่างของเขา,รูปร่างของมันช่างชั่วร้าย เขาคิ้วขมวดเล็กน้อยและหลับตาลง,กลับคืนสู่การต่อสู้ที่ไม่จบสิ้นกับหนวดเหล่านี้

“รายงานผู้อาวุธโสหนึ่ง! หกคนที่บุกเข้ามาในศาลากระบี่สวรรค์ต่อต้านอย่างดื้อดึง คนของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน พวกเราไม่อาจจับตัวพวกเขามาเป็นๆและทําได้เพียงลงมือสังหาร” เจ้าหน้าที่ของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์รายงานต่อเจียงซื้ออย่างขุ่นมัว;มีบาดแผลปกคลุมร่างกายของเขาแม้ว่าระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธพวกนั้นจะบาดเจ็บหนัก,แต่พลังทําลายล้างของพวกเขาก็ยังทําให้เจ้าหน้าที่ผู้นี้ตกตะลึง

เจียงชื่อมองไปยังฉากที่เต็มไปด้วยสานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์บาดเจ็บล้มตาย อีกทั้งซากปรักหักพังภายในเทือกเขาหลิงหยุน สีหน้าของเขากลายเป็นขุ่นมัวพร้อมกล่าว “ตัดหัวพวกมันแขวนเอาไว้ที่หน้าประตูเมืองกระบีตลอดกาล”

“รับทราบ!” คนผู้นี้ตอบรับและทําตามคําสั่งในทันที

ก่อนที่คนผู้นั้นจะไปได้ไกล,สีหน้าของผู้อาวุโสหนึ่งพลันเปลี่ยน เช่นเดียวกับสีหน้าของสมาชิกสภาสูงและท่านเจ้ายอดเขา

พวกเขามองเห็นเรือสงครามสีทองที่ด้านนอกม่านพลังของศาลากระบี่สวรรค์กําลังบินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกมันกําลังจะชนเข้ากับม่านพลัง, พวกเขาก็เร่งความเร็วขึ้น

“ปัง! ปัง! ปัง!”

เรือสงครามสีทองใช้พลังของพวกมันราวกับคมกระบี่ ม่านพลังที่ยึดหยุ่นค่อยๆแตกออกด้วยน้ํามือของสิบ “คมกระบี่” เหล่านี้ เสียงระเบิดสั่นสะเทือนหูดังก้องไปในอากาศ

“เรือธงของกองทักจักรวรรดิมังกรก็มาด้วย หนานกงเลี่ยกําาลังคิดจะทําอะไร?” มีคนสองสามคนอุทานขึ้น

เจียงชื่อคงความนิ่งสงบพร้อมกับกล่าว “ส่งคําสั่งออกไป; ให้ผู้อาวุโสระดับสูงทุกคนเข้ามาและต้อนรับพวกเขา”

หลังจากที่เจียงชื่อกล่าวจบ,เขารีบนํากลุ่มคนเข้าไปหากองเรือสงครามอย่างรวดเร็ว พวกเขารวดเร็วเป็นอย่างมาก, กําลังเข้ามาถึงตรงหน้ากองเรือภสยในช่วงพริบตา

เจียงชื่อมองไปที่หัวเรือและเห็นหนานกงเลี่ยแต่งชุดเกราะศึกสีทอง ฉีและโลหิตของเขารุ่งโรจน์ เจียงชื่อกล่าวอย่างเย็นชา “หนานกงเลีย,เจ้าตั้งใจจะทําอะไร?”

หนานกงเลี่ยยืนอยู่ใต้ธงสีทองที่กําลังโบกสะบัดพร้อมกับสายตาจ้องมองไปยังพื้นที่พลังสง ครามบนเทือกเขาหลิงหยุน เขาหัวเราะเบาๆและกล่าว “พี่น้องเจียง,ไม่จําเป็นต้องกังวล พวกเราเพียงเห็นศัตรูใหญ่กลวงมาเยือนศาลากระบี่สวรรค์ และเข้ามาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาควรขับไล่ศัต

ยกันด้วยการช่วยเหลือของกองทัพจักรวรรดิมังกร,พวกเราจะทําลายล้างศัตรให้สิ้นซาก”

เจียงชื่อยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าว “ขอบคุณความหวังดีของนายพลหนานกง ศาลากระบี่สวรรค์ได้จัดการกับศัตรูไปเรียบร้อยแล้ว ท่านนายพลหนานกงกลับไปได้”

หนานกงเลี่ยหัวเราะเสียงดัง “ข้าเพียงมีความหวังดี;ทําไมพี่น้องเจียงถึงได้เร่งรัดขับไล่ข้า? ท่านได้โค่นล้มศัตรูลงไปวันนี้ แล้วศัตรูของวันหน้าและหลังจากนั้นล่ะ? ศาลากระบี่สวรรค์จะต้องไม่อาจทนรับความสูญเสียเช่นนี้ได้บ่อยครั้งนัก”

“เอาอย่างนี้เป็นเช่นไร:กองทัพจักรวรรดิมังกรจะปักหลักกองเรือสงครามอยู่ที่ศาลากระบี่สวรรค์เป็นระยะยาว พวกเราจะช่วยท่านขับไล่ศัตรูเกองทัพจักรวรรดิมังกรมีความสามารถเพียงพอในการรับมือ”

“ฟุ ฟิว! ฟุฟว!”

ในจังหวะที่หนานกงเลี่ยกล่าวจบ,นอกจากเรือสงครามล่าที่ใหญ่ที่สุดแล้ว,เรือสงครามลําอื่นๆอีกเก้าลําเปิดประตูปืนใหญ่ทั้งสองฝั่งขึ้น ปืนใหญ่พลังงานปิศาจที่ยืนปากกระบอกออกมาแสดงภาพที่ชั่วร้าย

อักขระยันต์สีทองนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นรอบๆเรือสงคราม,กระพริบไหวแสงเจิดจ้า

สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสด้านหลังของเจียงชื่อกลายเป็นมือมัว เปลวเพลิงเกรี้ยวกราดถูกจุดขึ้นในใจของพวกเขา หนานกงเลี้ยเห็นถึงความเสียหายที่ศาลากระบี่สวรรค์ได้รับและเข้ามาเพื่อข่มเหงพวกเขา

ราชสํานักหลวงและสามมหานิกายใหญ่มักเฝ้าระวังกันและกันอยู่เสมอ สําหรับอาณาจักรใดก็ตาม,จักรพรรดิไม่อยากที่จะเห็นขุมอํานาจอื่นภายในอาณาจักรที่จะสามารถเป็นภัยแก่พวกเขา

อย่างไรก็ตาม,นอกจากจะเฝ้านะวังกันแล้ว,เหล่านิกายใหญ่และราชสํานักหลวงก็ยังพึ่งพาอาศัยกันในระดับหนึ่ง

อาณาจักรต้องการการคงอยู่ของมหานิกาย ยิ่งมีนิกายใหญ่มากมาย,ความแข็งแกร่งโดยรวมของอาณาจักรยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มันยังมีเงื่อนไขหนึ่ง ราชสํานักหลวงจะต้องมีพลังที่เด็ดขาดและกดข่มนิกายเหล่านี้เอาไว้ได้ มิฉะนั้น นิกายเหล่านี้จะกลายเป็นตัวอันตรายต่อราชสํานักหลวง

ศาลากระบี่สวรรค์ที่ครอบครองอาวุธเทพก็เป็นหนึ่งในนิกายเหล่านั้น ยี่สิบปีก่อน,ท่านเจ้าศาลาคนก่อนเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ภายในนิกายเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญและผู้มีพรสวรรค์มากมาย พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในสามมหานิกายใหญ่

ด้วยการครอบครองอาวุธเทพ,พวกเขานับได้ว่าเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดทั่วทั้งทวีปเทียนหรู่ นี่ทําให้ราชสํานักหลวงรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม,ศาลากระบี่สวรรค์ประสบโชคร้าย พวกเขาเจอเข้ากับภัยพิบัติปีศาจ ผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่ามากมายตกตายทั้งหมด ท่านเจ้าศาลาก็ได้เสียชีวิตไปในการต่อสู้เช่นกัน ความแข็งแกร่งของนิกายก็ได้จมดิ่งลง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+