Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 342 บุกทะลวงเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 342 บุกทะลวงเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 342 บุกทะลวงเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์

การเลื่อนระดับจากขอบเขตนักบุญสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์เป็นอุปสรรคสําคัญสําหรับผู้บ่มเพาะพลัง เมื่อพวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปได้,พวกเขาจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการถูกยกย่องเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกที่ภายในอาณาจักรต้าฉิน

ยิ่งพวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคนั้นได้รวดเร็วเท่าไหร่,อนาคตความสําเร็จของพวกเขาจะยิ่งรุ่งเรื่อง

เซี่ยวเฉินได้เล่าถึงความเข้าใจในสภาวะของเขาให้หลิวหรูเยว่ฟัง ภายในอาณาจัก รต้าฉัน,นอกเสียจากผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่าบางคน,ในด้านของความเข้าใจในสภาวะ,ตัวเขาไม่ผู้เทียบเคียงในหมู่รุ่นเยาว์ หลิวหรูเยว่ได้ประโยชน์จากมันไปมาก

มันยากที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะคารมกันในตอนที่พวกเขาหมกมุ่นไปกับหัวข้อสนทนา ดังนั้นพวกเขาจึงเปรียบเทียบความรู้ของกันและกัน,ทําความเข้าใจของให้สมบูรณ์ด้วยการประมือ

การพบปะดังกล่าวเป็นประโยชน์มากกว่าเซียวเฉินไตร่ตองด้วยตัวเอง หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์,เซี่ยวเฉินสามารถทําให้หวี่ขยเบิกสวรรค์สมบูรณ์แบบโดยที่เขาไม่อาจทําได้สําเร็จก่อนหน้านี้

การสนทนาพูดคุยทําให้เซี่ยวเฉินได้รับประโยชน์มากมาย นี่ยิ่งทําให้เขาหมกมุ่นไปกับการสนทนาพูดคุย เขาได้ไปที่ลานของหลิวหรูเยว่ในทุกคืน

ในวันนี้,พวกเขาทั้งสองกําลังพูดคุยกันอย่างมีความสุขในตอนที่มีเสียงระเบิดดังขึ้นเหนือศาลากระปสวรรค์ไปหนึ่งพันเมตร

อุกกาบาตขนาดใหญ่เจ็ดลูกดิ่งลงมาเหนือยอดเขาฉิงหยุนบนท้องฟ้ายามค่ําคืน ขณะที่พวกมันดิ่งลงมา,พวกมันทําลาย 81 ม่านพลังของศาลากระบี่สวรรค์

สัญญาณเตือนดังไปทั่วทั้งพื้นที่ของเทือกเขาหลิงหยุนให้ความรู้สึกถึงเรื่องเร่งด่วน

“ฟู! ฟู!”

บางครา มีบางคนทะยานขึ้นไปในอากาศเหนือยอดเขาทั้งเจ็ดของศาลากระปสวรรค์ กระแสพลังของพวกเขาขยายไปทั่วทุกที่, จิตวิญญาณต่อสู้ถูกจุดขึ้น

เซี่ยวเฉินและหลิวหรูเยว่ทั้งคู่สีหน้าเปลี่ยน มีใครที่กล้าพอจะบุกเข้ามาในศาลากระปสวรรค์?

สีหน้าของหลิวหรูเยว่กลายเป็นร้ายแรงขณะที่นางมองขึ้นไปที่ยอดของยอดเขาฉิงหยุน นางกล่าว “พวกเราทั้งคู่ไม่ควรเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า พวกเราไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าร่วมการต่อสู่ระดับนี้”

ถึงหลิวหรูเยว่จะไม่ได้กล่าวอะไร,เซี่ยวเฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าหวาดกลัวเช่นกัน อุกกาบาตทั้งเจ็ดมีกระแสพลังของระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ

เพียงคิดก็ทําให้สั่นเทิ้มด้วยความกลัว มีเพียงสิบระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธภายในอาณาจักรต้าฉิน กระนั้น,เจ็ดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธได้มาปรากฏตัวที่ศาลากระบี่สวรรค์

ความแข็งแกร่งของระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเพียงพอที่จะทําลายเมืองแคว้นได้ด้วยตัวคนเดียว ด้วยระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเจ็ดคน,มันราวกับมีกองทัพทหารหลายแสนนาย

ขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ…ขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ…ยอดกษัตริย์แห่งเส้นทางยุทธ ชื่อเรียกนี้ไม่ได้มีไว้งั้นๆ แม้แต่ในอาณาจักรต้าจิน,ที่มีเส้นโลหิตวิญญาณมากมาย,ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธก็นับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนั้น,ไม่มีข่าวถึงระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธปรากฏตัวที่อาณาจักรต้าฉันมานับพันปี ดังนั้น,ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธคือสุดยอดกําลังสู้รบที่สามารถพบได้

หากตระกูลหรือนิกายใดที่มีระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พวกเขาสามารถกลายเป็นขุมอำนาจใหญ่ได้ในทันที

สําหรับพวกคนที่กําลังทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,พวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง ด้วยขอบเขตพลังของเซียวเฉิน,แม้ว่าเขาจะตามเข้าไป.คลื่นกระแทกจากการต่อสู้เพียงอย่างเดียวก็สามารถบดเนื้อในกระดูกของเขาให้กลายเป็นผง

ไม่มีว่ามีระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธกี่คนภายในศาลากระปสวรรค์ ด้วยอันตรายที่เกิดขึ้นฉับพลันในตอนนี้ เซี่ยวเฉินอาจจะได้เห็นว่าไพ่ตายของศาบากระบี่สวรรค์คืออะไร

เซี่ยวเฉินมองขึ้นบนท้องฟ้าและถามขึ้นอย่างงนงง “คนพวกนี้มาทําไม?”

หลิวหรูเยว่พึมพํา “อาวุธเทพเจ้า!”

“บูม!”

อุกกาบาตทั้งเจ็ดบนท้องฟ้าทะลวงผ่านม่านพลังที่วางเอาไว้โดยศาลากระบี่สวรรค์ เปลวเพลิงระเบิดออกและประกายแสงลอยไปทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ประกายแสงตกลงมาราวกับห่าฝน,โปรยลงมาบนดินแดนกว่าครึ่งของศาลากระปสวรรค์ เมื่อพวกมันตกลงบนพื้น,พวกมันเกิดเป็นระเบิดรุนแรง คลื่นระเบิดกระจายไปทั่วทุกที่,ฝุ่นควันเติมเต็มไปในอากาศ

สิ่งปลูกสร้างนับไม่ถ้วนถูกทําลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ประกายแสงซัดเข้าที่ผู้บ่มเพาะพลังที่ตอบสนองไม่ทัน,พวกเขาถูกระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง,ตกตายอย่างหาศพมิได้

ทุกพื้นที่ภายในศาลากระบี่สวรรค์กลายเป็นอลหม่านวั่นวาย สถานที่นับไม่ถ้วนถูกระเบิดล้าง พังเป็นกองเปลวเพลิงปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง

ประกายไฟบางส่วนตกลงมาที่ลานของหลิวหรูเยว่ พวกเขาเห็นถึงพลังอํานาจที่บรรจุอยู่ภายในประกายไฟพวกนี้และพวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าปะทะ พวกเขาใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวและหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว

ในเวลาต่อมา,ลานบ้านที่เคยสวยงามถูกระเบิดกลายเป็นเศษซาก ซากปรักหักพังนับไม่ถ้วน ลอยเข้าใส่พวกเขาทั้งสองพร้อมกับคลื่นกระแทก

พวกเขาทั้งสองคนหันกลับและส่งกระฉออกไปสองสามเล่มเพื่อรับมือกับซากปรักหักพังและคลื่นกระแทก

หลังจากที่ประกายแสงแตกกระจายออกไป,ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของทุกคน มีลวดลายเก้ามังกรฟ้าปักอยู่บนชุดของพวกเขา

ทั้งเจ็ดปลดปล่อยกระแสพลังที่พลุ่งพล่าน เกิดแรงกดดันมหาศาลลงบนตัวเซี่ยวเฉินที่อยู่ข้างล่าง

ศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์หลายคนที่มองขึ้นไปไม่อาจต่อต้านแรงกดดันนี่ได้ พวกเขาเพียงล้มหมอบคลานอยู่กับพื้น,ไม่อาจลักขึ้นมาได้

กระแสพลังทั้งเจ็ดที่ประสานเข้าด้วยกันเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ มันเพียงพอที่จะทําให้แม่น้ําหยุดไหล,เพียงระดับขอบเขตนักบุญจะต้านททานได้อย่างไร

“ผู้ใดที่กล้าบุกเข้ามาในศาลากระบี่สวรรค์ของข้า?! ช่างบ้าบิ่น!”

ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายร้อยคนของศาลากระบี่สวรรค์บินขึ้นมา บุคคลที่เป็นผู้นําของพวกเขาไม่เกรงกลัวระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธทั้งเจ็ดแต่อย่างไร

“เจ้าคู่ควรที่จะที่จะเสวนากับข้า?” หนึ่งในระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธสูดยมูกเย็นชา เขาเพียงสะบัดมือเบาๆและเกิดเป็นระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในอากาศ ผ่านไปครู่หนึ่ง,มันเปลี่ยนกลายเป็นพายุหมุนพุ่งตรงไปยังบุคคลที่กล่าวขึ้น

“ปัง!”

เมื่อบุคคลนั้นถูกซัดด้วยพายุหมุน,เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและตกลงมาจากท้องฟ้าในทันที

ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุดไม่อาจตอบโต้ได้เมื่ออยู่นอหน้าระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเขาพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดายด้วยคลื่นฝ่ามือธรรมดา,ช่างน่าหวาดกลัว

เซียวเฉินรู้สึกถึงความผันผวนในอากาศ จากนั้นเขากล่าวขึ้น “นี่มันพลังแห่งมิติ ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธและยอดกษัตริย์ยุทธอยู่คนระดับกันโดยสิ้นเชิง

“ทุกคนกลับลงมา!”

ผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อ,ในที่สุดก็มาถึง,กําลังนํากลุ่มท่านเจ้ายอดเขาสองสามคนเข้ามา อย่าง ไรก็ตาม,เซียวเฉินมองไม่เห็นซ่งเฉวในหมู่พวกเขา เมื่อเขาครุ่นคิดดู,มันก็สมเหตุผล ซึ่งเฉวเสียแขนของเขาไปข้างหนึ่ง เขาไม่มีความแข็งแกร่งระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดอีกต่อไป

กลุ่มผู้บ่มเพาะพลังระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายร้อยคนที่เข้ามารวมตัวกันก่อนหน้านี้ทั้งหมดถอยออกไปด้านข้าง,เฝ้ามองสถานการณ์จากระยะไกล การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่ระดับที่พวกเขาจะเข้าไปยังได้

เจียงชื่อมองไปที่ทั้งเจ็ดคนที่เข้ามา สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมัวและกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ “ศาลากระบี่สวรรค์ของข้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับพวกท่าน เหตุใดพวกท่านถึงได้เข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่?”

ผู้นํากลุ่มคนทั้งเจ็ดก้าวปั้นหน้าสองสามก้าวในอากาศ เขากล่าว “พวกข้ามาจากวังเทพมังกรสมุทรตะวันออก พวกข้าคือเจ็ดมหาทูตภายใต้ราชามังกร นามของข้าคือหลงถู พวกข้ามาที่ศาลากระบี่สวรรค์เพื่อขอหยิบยืมของบางสิ่ง

เจียงชื่อคาดเดาได้ว่าของสิ่งใดที่ดึงดูดพวกเขามาที่นี่ อย่างไรก็ตาม,เขายังคงกล่าวอย่างเยือกเย็น “นี่คือทัศนคติของคนที่มาหยิบยืมสิ่งของ?”

“พี่ใหญ่,อย่าไปสนในพูดคุยไร้สาระกับเขา พวกมันก็แค่เศษขยะที่เหลือครึ่งก้าวจะถึงขึ้นสู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ ไม่มีความจําเป็นต้องต่อปากต่อคํา ศาลากระบี่สวรรค์คืออะไร,พวกมันจะเทียบกับวังเทพมังกรของพวกเราได้อย่างไร?”

ความชั่วร้ายวูบไหวในดวงตาของบุคคลที่ลงมือเมื่อก่อนหน้านี้

หลงถูยิมเบาๆและเมินเฉยคนผู้นั้น เขามองไปที่เจียงชื่อและกล่าว “ขออภัย,น้องเจ็ดของข้าความอดทนไม่มีและวาจาได้ไหวพริบ มีม่านพลังมากมายปกคลุมศาลากระบี่สวรรค์,พวกข้าไม่มีทางเลือกนอกจากทะลวงเข้ามา”

“ตราบใดที่เจ้ายินดีจะให้พวกเราหยิบยืมสิ่งของ,ข้ายินดีที่จะชดเชยให้กับศาลากระบี่สวรรค์เป็นสิบเท่า”

เจียงชื่อกล่าวอย่างมืดมัว “หากท่านตั้งใจจะหยิบยืมอาวุธเทพ,ท่านควรจากไปเสีย ข้าจะกล่าวเพียงครั้งเดียว หากท่านจากไปเสียตอนนี้ ข้าจะทําเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่าได้คิดว่าท่านจะทําอะไรก็ได้กับศาลากระบี่สวรรค์”

เมื่อหลงถได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขากลายเป็นเย็นชา เขากล่าว “นับตั้งแต่โบราณกาล,อาวุธเทพจะอยู่ในมือของผู้ที่คู่ควร ราชามังกรของพวกข้ามีความสนใจในอาวุธเทพนี้ ข้าก็จะขอกล่าวเพียงครั้งเดียว มองอาวุธเทพมาอย่างเชื่อฟัง มิฉะนั้น,รากฐานของศาลากระบี่สวรรค์ที่ปลูกสร้างมานับหมื่นปีจะถูกทําลายสิ้น”

ทูตวังเทพมังกรคนที่เจ็ดทั้งเราะเย็นชา “เป็นแค่เศษขยะที่อีกครึ่งถึงจะขึ้นสู่ขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ แต่ยังกล้าว่ากล่าวไร้พวกข้าออกจากที่นี่? เจ้ารู้หรือไม่คําว่า “ตาย” สะกดเช่นไร? ไอ้เฒ่า,ข้าจะเริ่มจากเจ้าเป็นคนแรก”

“บูม!”

ขณะที่ทตลําดับที่เจ็ดจะลงมือ,มีเรือสงครามสีแดงเจ็ดลําพร้อมกับธงสีแดงที่กําลังโบกสะบัดท่ามกลางสายลมยามค่ําคืนปรากฏตัวขึ้นมาจากทั่วทุกทิศทาง

สีของเรือสงครามสีเงินแดงสว่างราวกับเลือดสดๆ,แม้แต่ความมืดมิดของค่าคืนก็ไม่อาจบดบังกลับกัน, ท้องฟ้าสีมีดกลับทําให้มันดูโดดเด่น

มีบุคคลในชุดเกราะศึกสีแดงยืนอยู่ใต้ธงแต่ละผืน พวกเขาทุกคนสวมเสื้อคลุมสีแดงขนาดใหญ่ทับและคาดกระบี่สูบโลหิตเอาไว้ที่เอวของพวกเขา พวกเขาปลดปล่อยฉีฆ่าฟันของพงกเขาออกมาโดยไม่กักเก็บเอาไว้

ฆ่าฟันที่พลุ่งพล่านเจ็ดกลุ่ม เมื่อผสานเข้าด้วยกัน,พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นผืนสมุทรกว้างใหญ่

เมฆดํามืดที่อยู่เบื้องบนถูกย่อมเป็นสีแดง ฉีฆ่าฟันอันน่ากลัวรู้สึกราวกับจะควบแน่นออกมาบางครา,มีเสียงร้องโหยหวนแปลกประหลาดดังออกมาจากเมฆสีแดง

คนเหล่านี้มาจากค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ตอนแรกที่พวกเขาปรากฏตัวออกมา,ทั้งเจ็ดคนจากวังเทพมังกรมีสีหน้าจริงจัง

“ซิ่ว! ซิ่ว!”

หลายร่างบนเรือสงครามกระโดดลงมาและเปลี่ยนกลายเป็นเจ็ดสีแดงเจ็ดเส้น พวกเขาทั้งหมดเคลื่อนไหวไปที่ด้านหลังของผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อ,ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

ผู้บังคับบัญชากองของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์, ซีเป็นหยิ่ง,พยักหน้าให้กับเจียงชื่อเล็กน้อย เขากล่าวเวียงเบา “ซีเมื่นหยิ่งแห่งค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ล่สชา,ทําให้ศาลากระบี่สวรรค์เสียหาย

เจียงชื่อกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่สําคัญ,ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่ มันก็ดีแล้ว”

หลงถจ้องมองไปที่กระแสพลังอะนนาาหวาดกลัวทั้งเจ็ด เขารู้สึกตกตะลึงอยู่ลับๆ พวกเขาคือผู้บ่มเพาะพลังที่พิสูจน์เตของพวกเขาโดยการฆ่าฟัน

ไม่น่าแปลกใจที่การปรากฏตัวของพวกเขาสามารถทให้พวกเราสั่นไหว อย่างไรก็ตาม มี เพียงแค่สองคนที่อยู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ พวกที่เหลือเหลืออีกครึ่งก้าวถึงจะก้าวสู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ ไม่มีความสําเป็นต้องเกรงกลัว

หลงถูกล่าว “พวกเจ้าหกคน,ไปเอาอาวุธเทพ ข้าจะรั้งพวกมันเอาไว้”

ผู้บุกรุกคนอื่นๆเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของหลงถู พวกเขาไม่ลังเลที่จะชี้ไปยังยอดเขาจึงหยุดในทันที

สีหน้าของเจียงชื่อกลายเป็นร้ายแรงพร้อมกับเขากล่าวออกมาอย่างรีบร้อน “หยุดพวกมันเอาไว้!”

ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนที่กําลังสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างทั้งหมดพุ่งตรงเข้าไปในทันที ส่งทักษะต่อสู้ระดับสูงทุกประเภทไปที่คนทั้งหก สีแสงรุ่งโรจน์มากมายถูกปลดปล่อยไปในอากาศ

คนทั้งหกชกหมัดออก,และมีมังกรฟ้าปรากฏตัวขึ้น มังกรฟ้าทั้งหกร้องคํารามอย่างบ้าคลั่งและบดขยี้ทักษะต่อสู้ทั้งหมดที่กาลังบินมาทางพวกเขา

นอกจากนั้น,อานาจของมังกรหลากเหล่านี้ไม่ได้ลดทอนลง มันเคลื่อนตัวเข้าไปและกระแทก ผู้บ่มเพาะพลังหลายสิบคนถอยกลับไปในทันที พวกเขาถูกเหวี่ยงออกไปราวกับกระสุนจากปากกระบอกปืนใหญ่

“บูม!”

เมื่อระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธถูกซัดลอยกลับหลังไปกว่าสองพันเมตร,พวกเขาชนเข้ากับยอดเขาแห่งหนึ่งด้วยเสียงอันดัง ยอดเขาพังทลายลงในทันที

ทั้งหกคนใช้เพียงหนึ่งกระบวณท่าซัดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายสิบคนกลับไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่พวกเขาถอนมือกลับ,มังกรหลากร้องคํารามออกมาครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปหาบุคคลทั้งหก

เรือสงครามสีแดงบินไปหาบุคคลทั้งหกอย่างรวดเร็ว มือกระบี่ชั้นยอดแห่งค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งร้อยคนกระโดดลงจากหัวเรือ

พวกเขาตั้งเป็นค่ายกลสามเหลี่ยมในอากาศ ในทันทีที่กระบี่สูบโลหิตของพวกเขาถูกชักออกมา,พวกเขาโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดและฉีฆ่าฟันของพวกเขาทั้งหมดรวมเป็นหนึ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 342 บุกทะลวงเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 342 บุกทะลวงเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 342 บุกทะลวงเข้าสู่ศาลากระบี่สวรรค์

การเลื่อนระดับจากขอบเขตนักบุญสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์เป็นอุปสรรคสําคัญสําหรับผู้บ่มเพาะพลัง เมื่อพวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปได้,พวกเขาจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการถูกยกย่องเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกที่ภายในอาณาจักรต้าฉิน

ยิ่งพวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคนั้นได้รวดเร็วเท่าไหร่,อนาคตความสําเร็จของพวกเขาจะยิ่งรุ่งเรื่อง

เซี่ยวเฉินได้เล่าถึงความเข้าใจในสภาวะของเขาให้หลิวหรูเยว่ฟัง ภายในอาณาจัก รต้าฉัน,นอกเสียจากผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่าบางคน,ในด้านของความเข้าใจในสภาวะ,ตัวเขาไม่ผู้เทียบเคียงในหมู่รุ่นเยาว์ หลิวหรูเยว่ได้ประโยชน์จากมันไปมาก

มันยากที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะคารมกันในตอนที่พวกเขาหมกมุ่นไปกับหัวข้อสนทนา ดังนั้นพวกเขาจึงเปรียบเทียบความรู้ของกันและกัน,ทําความเข้าใจของให้สมบูรณ์ด้วยการประมือ

การพบปะดังกล่าวเป็นประโยชน์มากกว่าเซียวเฉินไตร่ตองด้วยตัวเอง หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์,เซี่ยวเฉินสามารถทําให้หวี่ขยเบิกสวรรค์สมบูรณ์แบบโดยที่เขาไม่อาจทําได้สําเร็จก่อนหน้านี้

การสนทนาพูดคุยทําให้เซี่ยวเฉินได้รับประโยชน์มากมาย นี่ยิ่งทําให้เขาหมกมุ่นไปกับการสนทนาพูดคุย เขาได้ไปที่ลานของหลิวหรูเยว่ในทุกคืน

ในวันนี้,พวกเขาทั้งสองกําลังพูดคุยกันอย่างมีความสุขในตอนที่มีเสียงระเบิดดังขึ้นเหนือศาลากระปสวรรค์ไปหนึ่งพันเมตร

อุกกาบาตขนาดใหญ่เจ็ดลูกดิ่งลงมาเหนือยอดเขาฉิงหยุนบนท้องฟ้ายามค่ําคืน ขณะที่พวกมันดิ่งลงมา,พวกมันทําลาย 81 ม่านพลังของศาลากระบี่สวรรค์

สัญญาณเตือนดังไปทั่วทั้งพื้นที่ของเทือกเขาหลิงหยุนให้ความรู้สึกถึงเรื่องเร่งด่วน

“ฟู! ฟู!”

บางครา มีบางคนทะยานขึ้นไปในอากาศเหนือยอดเขาทั้งเจ็ดของศาลากระปสวรรค์ กระแสพลังของพวกเขาขยายไปทั่วทุกที่, จิตวิญญาณต่อสู้ถูกจุดขึ้น

เซี่ยวเฉินและหลิวหรูเยว่ทั้งคู่สีหน้าเปลี่ยน มีใครที่กล้าพอจะบุกเข้ามาในศาลากระปสวรรค์?

สีหน้าของหลิวหรูเยว่กลายเป็นร้ายแรงขณะที่นางมองขึ้นไปที่ยอดของยอดเขาฉิงหยุน นางกล่าว “พวกเราทั้งคู่ไม่ควรเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า พวกเราไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าร่วมการต่อสู่ระดับนี้”

ถึงหลิวหรูเยว่จะไม่ได้กล่าวอะไร,เซี่ยวเฉินก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าหวาดกลัวเช่นกัน อุกกาบาตทั้งเจ็ดมีกระแสพลังของระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ

เพียงคิดก็ทําให้สั่นเทิ้มด้วยความกลัว มีเพียงสิบระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธภายในอาณาจักรต้าฉิน กระนั้น,เจ็ดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธได้มาปรากฏตัวที่ศาลากระบี่สวรรค์

ความแข็งแกร่งของระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเพียงพอที่จะทําลายเมืองแคว้นได้ด้วยตัวคนเดียว ด้วยระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเจ็ดคน,มันราวกับมีกองทัพทหารหลายแสนนาย

ขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ…ขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ…ยอดกษัตริย์แห่งเส้นทางยุทธ ชื่อเรียกนี้ไม่ได้มีไว้งั้นๆ แม้แต่ในอาณาจักรต้าจิน,ที่มีเส้นโลหิตวิญญาณมากมาย,ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธก็นับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนั้น,ไม่มีข่าวถึงระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธปรากฏตัวที่อาณาจักรต้าฉันมานับพันปี ดังนั้น,ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธคือสุดยอดกําลังสู้รบที่สามารถพบได้

หากตระกูลหรือนิกายใดที่มีระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พวกเขาสามารถกลายเป็นขุมอำนาจใหญ่ได้ในทันที

สําหรับพวกคนที่กําลังทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,พวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูง ด้วยขอบเขตพลังของเซียวเฉิน,แม้ว่าเขาจะตามเข้าไป.คลื่นกระแทกจากการต่อสู้เพียงอย่างเดียวก็สามารถบดเนื้อในกระดูกของเขาให้กลายเป็นผง

ไม่มีว่ามีระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธกี่คนภายในศาลากระปสวรรค์ ด้วยอันตรายที่เกิดขึ้นฉับพลันในตอนนี้ เซี่ยวเฉินอาจจะได้เห็นว่าไพ่ตายของศาบากระบี่สวรรค์คืออะไร

เซี่ยวเฉินมองขึ้นบนท้องฟ้าและถามขึ้นอย่างงนงง “คนพวกนี้มาทําไม?”

หลิวหรูเยว่พึมพํา “อาวุธเทพเจ้า!”

“บูม!”

อุกกาบาตทั้งเจ็ดบนท้องฟ้าทะลวงผ่านม่านพลังที่วางเอาไว้โดยศาลากระบี่สวรรค์ เปลวเพลิงระเบิดออกและประกายแสงลอยไปทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ประกายแสงตกลงมาราวกับห่าฝน,โปรยลงมาบนดินแดนกว่าครึ่งของศาลากระปสวรรค์ เมื่อพวกมันตกลงบนพื้น,พวกมันเกิดเป็นระเบิดรุนแรง คลื่นระเบิดกระจายไปทั่วทุกที่,ฝุ่นควันเติมเต็มไปในอากาศ

สิ่งปลูกสร้างนับไม่ถ้วนถูกทําลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ประกายแสงซัดเข้าที่ผู้บ่มเพาะพลังที่ตอบสนองไม่ทัน,พวกเขาถูกระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง,ตกตายอย่างหาศพมิได้

ทุกพื้นที่ภายในศาลากระบี่สวรรค์กลายเป็นอลหม่านวั่นวาย สถานที่นับไม่ถ้วนถูกระเบิดล้าง พังเป็นกองเปลวเพลิงปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง

ประกายไฟบางส่วนตกลงมาที่ลานของหลิวหรูเยว่ พวกเขาเห็นถึงพลังอํานาจที่บรรจุอยู่ภายในประกายไฟพวกนี้และพวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าปะทะ พวกเขาใช้ออกทักษะเคลื่อนไหวและหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว

ในเวลาต่อมา,ลานบ้านที่เคยสวยงามถูกระเบิดกลายเป็นเศษซาก ซากปรักหักพังนับไม่ถ้วน ลอยเข้าใส่พวกเขาทั้งสองพร้อมกับคลื่นกระแทก

พวกเขาทั้งสองคนหันกลับและส่งกระฉออกไปสองสามเล่มเพื่อรับมือกับซากปรักหักพังและคลื่นกระแทก

หลังจากที่ประกายแสงแตกกระจายออกไป,ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของทุกคน มีลวดลายเก้ามังกรฟ้าปักอยู่บนชุดของพวกเขา

ทั้งเจ็ดปลดปล่อยกระแสพลังที่พลุ่งพล่าน เกิดแรงกดดันมหาศาลลงบนตัวเซี่ยวเฉินที่อยู่ข้างล่าง

ศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์หลายคนที่มองขึ้นไปไม่อาจต่อต้านแรงกดดันนี่ได้ พวกเขาเพียงล้มหมอบคลานอยู่กับพื้น,ไม่อาจลักขึ้นมาได้

กระแสพลังทั้งเจ็ดที่ประสานเข้าด้วยกันเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ มันเพียงพอที่จะทําให้แม่น้ําหยุดไหล,เพียงระดับขอบเขตนักบุญจะต้านททานได้อย่างไร

“ผู้ใดที่กล้าบุกเข้ามาในศาลากระบี่สวรรค์ของข้า?! ช่างบ้าบิ่น!”

ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายร้อยคนของศาลากระบี่สวรรค์บินขึ้นมา บุคคลที่เป็นผู้นําของพวกเขาไม่เกรงกลัวระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธทั้งเจ็ดแต่อย่างไร

“เจ้าคู่ควรที่จะที่จะเสวนากับข้า?” หนึ่งในระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธสูดยมูกเย็นชา เขาเพียงสะบัดมือเบาๆและเกิดเป็นระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในอากาศ ผ่านไปครู่หนึ่ง,มันเปลี่ยนกลายเป็นพายุหมุนพุ่งตรงไปยังบุคคลที่กล่าวขึ้น

“ปัง!”

เมื่อบุคคลนั้นถูกซัดด้วยพายุหมุน,เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและตกลงมาจากท้องฟ้าในทันที

ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุดไม่อาจตอบโต้ได้เมื่ออยู่นอหน้าระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธเขาพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดายด้วยคลื่นฝ่ามือธรรมดา,ช่างน่าหวาดกลัว

เซียวเฉินรู้สึกถึงความผันผวนในอากาศ จากนั้นเขากล่าวขึ้น “นี่มันพลังแห่งมิติ ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธและยอดกษัตริย์ยุทธอยู่คนระดับกันโดยสิ้นเชิง

“ทุกคนกลับลงมา!”

ผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อ,ในที่สุดก็มาถึง,กําลังนํากลุ่มท่านเจ้ายอดเขาสองสามคนเข้ามา อย่าง ไรก็ตาม,เซียวเฉินมองไม่เห็นซ่งเฉวในหมู่พวกเขา เมื่อเขาครุ่นคิดดู,มันก็สมเหตุผล ซึ่งเฉวเสียแขนของเขาไปข้างหนึ่ง เขาไม่มีความแข็งแกร่งระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดอีกต่อไป

กลุ่มผู้บ่มเพาะพลังระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายร้อยคนที่เข้ามารวมตัวกันก่อนหน้านี้ทั้งหมดถอยออกไปด้านข้าง,เฝ้ามองสถานการณ์จากระยะไกล การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่ระดับที่พวกเขาจะเข้าไปยังได้

เจียงชื่อมองไปที่ทั้งเจ็ดคนที่เข้ามา สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมัวและกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ “ศาลากระบี่สวรรค์ของข้าไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับพวกท่าน เหตุใดพวกท่านถึงได้เข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่?”

ผู้นํากลุ่มคนทั้งเจ็ดก้าวปั้นหน้าสองสามก้าวในอากาศ เขากล่าว “พวกข้ามาจากวังเทพมังกรสมุทรตะวันออก พวกข้าคือเจ็ดมหาทูตภายใต้ราชามังกร นามของข้าคือหลงถู พวกข้ามาที่ศาลากระบี่สวรรค์เพื่อขอหยิบยืมของบางสิ่ง

เจียงชื่อคาดเดาได้ว่าของสิ่งใดที่ดึงดูดพวกเขามาที่นี่ อย่างไรก็ตาม,เขายังคงกล่าวอย่างเยือกเย็น “นี่คือทัศนคติของคนที่มาหยิบยืมสิ่งของ?”

“พี่ใหญ่,อย่าไปสนในพูดคุยไร้สาระกับเขา พวกมันก็แค่เศษขยะที่เหลือครึ่งก้าวจะถึงขึ้นสู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ ไม่มีความจําเป็นต้องต่อปากต่อคํา ศาลากระบี่สวรรค์คืออะไร,พวกมันจะเทียบกับวังเทพมังกรของพวกเราได้อย่างไร?”

ความชั่วร้ายวูบไหวในดวงตาของบุคคลที่ลงมือเมื่อก่อนหน้านี้

หลงถูยิมเบาๆและเมินเฉยคนผู้นั้น เขามองไปที่เจียงชื่อและกล่าว “ขออภัย,น้องเจ็ดของข้าความอดทนไม่มีและวาจาได้ไหวพริบ มีม่านพลังมากมายปกคลุมศาลากระบี่สวรรค์,พวกข้าไม่มีทางเลือกนอกจากทะลวงเข้ามา”

“ตราบใดที่เจ้ายินดีจะให้พวกเราหยิบยืมสิ่งของ,ข้ายินดีที่จะชดเชยให้กับศาลากระบี่สวรรค์เป็นสิบเท่า”

เจียงชื่อกล่าวอย่างมืดมัว “หากท่านตั้งใจจะหยิบยืมอาวุธเทพ,ท่านควรจากไปเสีย ข้าจะกล่าวเพียงครั้งเดียว หากท่านจากไปเสียตอนนี้ ข้าจะทําเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่าได้คิดว่าท่านจะทําอะไรก็ได้กับศาลากระบี่สวรรค์”

เมื่อหลงถได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเขากลายเป็นเย็นชา เขากล่าว “นับตั้งแต่โบราณกาล,อาวุธเทพจะอยู่ในมือของผู้ที่คู่ควร ราชามังกรของพวกข้ามีความสนใจในอาวุธเทพนี้ ข้าก็จะขอกล่าวเพียงครั้งเดียว มองอาวุธเทพมาอย่างเชื่อฟัง มิฉะนั้น,รากฐานของศาลากระบี่สวรรค์ที่ปลูกสร้างมานับหมื่นปีจะถูกทําลายสิ้น”

ทูตวังเทพมังกรคนที่เจ็ดทั้งเราะเย็นชา “เป็นแค่เศษขยะที่อีกครึ่งถึงจะขึ้นสู่ขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ แต่ยังกล้าว่ากล่าวไร้พวกข้าออกจากที่นี่? เจ้ารู้หรือไม่คําว่า “ตาย” สะกดเช่นไร? ไอ้เฒ่า,ข้าจะเริ่มจากเจ้าเป็นคนแรก”

“บูม!”

ขณะที่ทตลําดับที่เจ็ดจะลงมือ,มีเรือสงครามสีแดงเจ็ดลําพร้อมกับธงสีแดงที่กําลังโบกสะบัดท่ามกลางสายลมยามค่ําคืนปรากฏตัวขึ้นมาจากทั่วทุกทิศทาง

สีของเรือสงครามสีเงินแดงสว่างราวกับเลือดสดๆ,แม้แต่ความมืดมิดของค่าคืนก็ไม่อาจบดบังกลับกัน, ท้องฟ้าสีมีดกลับทําให้มันดูโดดเด่น

มีบุคคลในชุดเกราะศึกสีแดงยืนอยู่ใต้ธงแต่ละผืน พวกเขาทุกคนสวมเสื้อคลุมสีแดงขนาดใหญ่ทับและคาดกระบี่สูบโลหิตเอาไว้ที่เอวของพวกเขา พวกเขาปลดปล่อยฉีฆ่าฟันของพงกเขาออกมาโดยไม่กักเก็บเอาไว้

ฆ่าฟันที่พลุ่งพล่านเจ็ดกลุ่ม เมื่อผสานเข้าด้วยกัน,พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นผืนสมุทรกว้างใหญ่

เมฆดํามืดที่อยู่เบื้องบนถูกย่อมเป็นสีแดง ฉีฆ่าฟันอันน่ากลัวรู้สึกราวกับจะควบแน่นออกมาบางครา,มีเสียงร้องโหยหวนแปลกประหลาดดังออกมาจากเมฆสีแดง

คนเหล่านี้มาจากค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ตอนแรกที่พวกเขาปรากฏตัวออกมา,ทั้งเจ็ดคนจากวังเทพมังกรมีสีหน้าจริงจัง

“ซิ่ว! ซิ่ว!”

หลายร่างบนเรือสงครามกระโดดลงมาและเปลี่ยนกลายเป็นเจ็ดสีแดงเจ็ดเส้น พวกเขาทั้งหมดเคลื่อนไหวไปที่ด้านหลังของผู้อาวุโสหนึ่ง,เจียงชื่อ,ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

ผู้บังคับบัญชากองของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์, ซีเป็นหยิ่ง,พยักหน้าให้กับเจียงชื่อเล็กน้อย เขากล่าวเวียงเบา “ซีเมื่นหยิ่งแห่งค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ล่สชา,ทําให้ศาลากระบี่สวรรค์เสียหาย

เจียงชื่อกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่สําคัญ,ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่ มันก็ดีแล้ว”

หลงถจ้องมองไปที่กระแสพลังอะนนาาหวาดกลัวทั้งเจ็ด เขารู้สึกตกตะลึงอยู่ลับๆ พวกเขาคือผู้บ่มเพาะพลังที่พิสูจน์เตของพวกเขาโดยการฆ่าฟัน

ไม่น่าแปลกใจที่การปรากฏตัวของพวกเขาสามารถทให้พวกเราสั่นไหว อย่างไรก็ตาม มี เพียงแค่สองคนที่อยู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ พวกที่เหลือเหลืออีกครึ่งก้าวถึงจะก้าวสู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ ไม่มีความสําเป็นต้องเกรงกลัว

หลงถูกล่าว “พวกเจ้าหกคน,ไปเอาอาวุธเทพ ข้าจะรั้งพวกมันเอาไว้”

ผู้บุกรุกคนอื่นๆเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของหลงถู พวกเขาไม่ลังเลที่จะชี้ไปยังยอดเขาจึงหยุดในทันที

สีหน้าของเจียงชื่อกลายเป็นร้ายแรงพร้อมกับเขากล่าวออกมาอย่างรีบร้อน “หยุดพวกมันเอาไว้!”

ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายคนที่กําลังสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างทั้งหมดพุ่งตรงเข้าไปในทันที ส่งทักษะต่อสู้ระดับสูงทุกประเภทไปที่คนทั้งหก สีแสงรุ่งโรจน์มากมายถูกปลดปล่อยไปในอากาศ

คนทั้งหกชกหมัดออก,และมีมังกรฟ้าปรากฏตัวขึ้น มังกรฟ้าทั้งหกร้องคํารามอย่างบ้าคลั่งและบดขยี้ทักษะต่อสู้ทั้งหมดที่กาลังบินมาทางพวกเขา

นอกจากนั้น,อานาจของมังกรหลากเหล่านี้ไม่ได้ลดทอนลง มันเคลื่อนตัวเข้าไปและกระแทก ผู้บ่มเพาะพลังหลายสิบคนถอยกลับไปในทันที พวกเขาถูกเหวี่ยงออกไปราวกับกระสุนจากปากกระบอกปืนใหญ่

“บูม!”

เมื่อระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธถูกซัดลอยกลับหลังไปกว่าสองพันเมตร,พวกเขาชนเข้ากับยอดเขาแห่งหนึ่งด้วยเสียงอันดัง ยอดเขาพังทลายลงในทันที

ทั้งหกคนใช้เพียงหนึ่งกระบวณท่าซัดระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธหลายสิบคนกลับไปได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่พวกเขาถอนมือกลับ,มังกรหลากร้องคํารามออกมาครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปหาบุคคลทั้งหก

เรือสงครามสีแดงบินไปหาบุคคลทั้งหกอย่างรวดเร็ว มือกระบี่ชั้นยอดแห่งค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งร้อยคนกระโดดลงจากหัวเรือ

พวกเขาตั้งเป็นค่ายกลสามเหลี่ยมในอากาศ ในทันทีที่กระบี่สูบโลหิตของพวกเขาถูกชักออกมา,พวกเขาโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดและฉีฆ่าฟันของพวกเขาทั้งหมดรวมเป็นหนึ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+