Immortal and Martial Dual Cultivation 102 เสียงอัสนีสวรรค์ร้องคำรามให้ข้า

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 102 เสียงอัสนีสวรรค์ร้องคำรามให้ข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 102 เสียงอัสนีสวรรค์ร้องคำรามให้ข้า

 

ภายในค่ายกลลวงตา,ริมฝั่งแม่น้ำจวง,เซียวเฉินนอนนิ่งไม่ขยับ สามวันผ่านไปและผิวของเขาดูดีขึ้นเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม,เขาก็ยังดูผอมแห้งราวกับกิ่งไม้ พิษออกมารวมกันที่ผิวหนังของเขา,ทำให้ผิวซีดขาวของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม

 

อีกสามวันผ่านไปและเมฆดำมืดเริ่มก่อตัวบนท้องฟ้า,ทำให้ในพื้นที่ดูมืดมน ทันใดนั้นเม็ดฝนก็หยดลงมาจากท้องฟ้าปะทะกับใบหน้าของเซียวเฉินเสียงแปะๆ

 

ฝนตกอย่างหนักพร้อมกับแสงสายฟ้าคำรามก้อง ระดับน้ำในแม่น้ำจวงเพิ่มสูงและเชี่ยวหลาก

 

“ชี่!ชี่!”

 

เม็ดฝนตกลงปะทะดวงตาของเขาทำให้เขาต้องกระพริบตาสองสามครั้งอย่างช่วยไมไ่ด้ หลังจากนั้นครู่ใหญ่,ดวงตาของเขาก็เปิดออก เม็ดฝนไหลเข้าดวงตาของเขา

 

มีเมฆหมอกปกคลุมทั่วท้องฟ้า,ทำให้มันดูมืดมนคลุมเครือ ท่ามกลางสายฝนและสายหมอก,เหมือนเขาจะเห็นภาพของพ่อแม่ของเขาในชีวิตก่อน เป็นเพราะเขาหนีออกมา,แม่ของเขาร้องไห้ทุกวันคืนและพ่อของเขาได้แต่ถอนหายในตลอดทั้งวัน,ผมสีดำละเอียดของทั้งคู่เปลี่ยนเป็นสีขาว

 

“พ่อ…แม่..” เซียวเฉินพึมพำเบาๆ ไม่แน่ใจว่าที่ไหลออกมาจากดวงตาของเขาตลอดเวลาคือน้ำตาหรือสายฝน

 

เขาไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวในชีวิตเช่นนี้มาก่อน แม้โลกนี้จะกว้างใหญ่,เขายังไม่อาจที่จะหาที่ไว้หลบฝนที่โหมกระหน่ำได้,ไม่มีแม้แต่กระท่อมฟาง

 

เขาพยายามเหยียดมือขวาของเขาไปคว้าภาพพ่อกับแม่ของเขาที่อยู่บนท้องฟ้า

 

ฝนขนาดเท่าเม็ดถั่วตกลงบนฝ่ามือของเขาอย่างต่อเนื่อง,ปัดเป่าความเพ้อฝันของเขาจางหายไปอย่างไร้ความปราณี ภาพของพ่อแม่ของเขาค่อยๆจางหายไป,เปลี่ยนเป็นคนที่เขาคุ้นเคยในเมืองม่อเหอ

 

เขาเห็นเซียวอวี่กลันที่กำลังใจสลายมองดูเขาที่กำลังออกไปจากเมืองม่อเหอ เย่หมิงหลาน,เซียวหลิงเอ๋อและสหายคนอื่นจากการทดสอบป่าทมิฬที่กำลังคุกเข่าต่อหน้าเซียวฉง,ร้องขอความเมตตาให้เซียวเฉิน

 

จากนั้นเขาก็เห็นเฟิงเฟยซู่,ผู้ที่แต่งกายด้วยชุดบุรุษ นางกำลังถือพัดไว้ในมือ,ช่างดูสวยงามสง่า ภาพต่างๆในอดีตวูบผ่านเข้ามา

 

“เมืองม่อเหอ…ข้าที่จากมาแสนนานแล้ว,เจ้ายังจะจำข้าได้อยู่หรือไม่?”

 

“พี่อวี่หลัน,เจ้าได้ไปที่สำนักฉินสวรรค์พร้อมกับเซียวเจี้ยนหรือไม่?”

 

“เซียวเจี้ยน,ความเกลียดชังที่เจ้ามีต่อข้ามันลดลงไปบ้างหรือไม่?”

 

“เฟิงเฟยซู่,ในตอนแรกเจ้ามอบหม้อปรุงยามังกรฟ้าให้กับข้า,และยังมอบศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยานมาอีก…เจ้าเป็นใครกันแน่?”

 

“เซียวฉง,ทำไมท่านถึงต้องไล่ข้าออกมาเพียงเพราะข้ามีจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า? ทำไมท่านช่างไร้หัวใจ?”

 

ภาพคลุมเครือบนท้องฟ้าจางหายไปอย่างสมบูรณ์,ทิ้งไว้เพียงหมอกหนากับฝนที่โหมกระหน่ำ,ปัดเป่าความทรงจำของเซียวเฉินจางหายไป

 

เมื่อความทรงจำเหล่านี้หายไป,จิตใจของเซียวเฉินก็กลับมาโล่งอีกครั้ง น้ำในดวงตาของเขาหายไปพร้อมกับมองสายฝนได้เต็มตา

 

เซียวเฉินยืดตัวเล็กน้อยก่อนที่จะยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง เขาใช้แขนขวายันตัวเองเพื่อลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ร่างของเขาโซเซไปมา นั้นเป็นเพราะเขานอนนิ่งมาเป็นเวลานาน,โลหิตในร่างของเขาจึงไหลเวียนไม่ดี เขารู้สึกเวียนหัวและเกือบจะวูบหมดสติไปอีกครั้ง

 

หลังจากนั้นเป็นเวลาสั้นๆ,การไหลเวียนของโลหิตของเขาดีขึ้น เซียวเฉินเดินไปที่แม่น้ำจวงที่เต็มไปด้วยน้ำฝน ภาพสะท้อนลางๆปรากฎขึ้นบนผิวน้ำ,มองเห็นร่างของเซียวเฉินที่ผอมแห้งและผิวสีดำ

 

เซียวเฉินยิ้มอย่างขมขืนพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง “ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์…ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้มันออกมา หากข้าใช้มันออกมาอีกครั้ง,ข้าคงจบลงแบบสภาพไม่สวยนัก”

 

ทันใดนั้น,เขาก็นึกถึงตอนที่เขาใช้มังกรฟ้าหวนกลับออกมาครั้งแรก…ในครั้งนั้นเขาถูกช่วยไว้โดยเซียวอวี่หลัน,การดูแลอย่างดีและบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอร่อย

 

ตอนนี้,พวกเขาทั้งสองอยู่ห่างกันแสนไกล ไม่อาจรู้ได้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไหร เขาช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจ

 

หวนระลึกถึงความคิดของเขาพร้อมกับร่างที่เปียกโชก,เซียวเฉินเดินไปเจอแท่นหินราบเรียบ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นไปนั่งลงขัดสมาธิ

 

เขาหยิบผลเจ็ดกลีบออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล กลิ่นยาหอมของมันลอยออกมาทันที มีชั้นพลังฉีสีทองปกคลุมมันไว้,แม้แต่น้ำฝนก็ไม่อาจทะลุผ่านได้

 

เซียวเฉินไม่ลังเลกลืนขุมทรัพย์ธรรมชาติชิ้นนี้ลงไปที่แม้แต่งูขาดำยังไม่กล้า พลังฉีและโลหิตของเขาในตอนนี้อ่อนแอ แม้ว่าเขาจะกินส้มโอแก่นแดงเข้าไปมันก็ยังไม่เพียงพอ

 

เขาไม่ต้องกังวลว่าพลังฉีและโลหิตของเขาจะปั่นป่วนและทำให้ร่างของเขาระเบิดจนตาย

 

ในจังหวะที่ผลเจ็ดกลีบเข้าไปในปากของเขา,มันได้กลายเป็นยาเหลวเย็น มันไหลไปตามเส้นลมปราณและไหลเวียนไปทั่วร่างของเซียวเฉิน

 

หลังจากวนครบรอบ,พลังงานน่ากลัวถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเซียวเฉิน พลังฉีและโลหิตที่บ้าคลั่งป่วนไปทั่วร่างของเขาไม่หยุดยั้ง มันไหลไปตามจุดลมปราณและเส้นลมปราณเข้าไปที่จุดเที่ยนติงในสมองของเขา

 

ร่างของเซียวเฉินเรืองแสงสีทองจางๆ เมื่อเม็ดฝนมาปะทะมันก็สลายกลายเป็นไอในทันที ในเวลาสั้นๆ,แท่นหินแบนก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว

 

ภายในไอน้ำ,มีร่างของมนุษย์เรืองแสงสีทองออกมา มันช่างดูน่าเลื่อมใสและศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางสายฝน

 

บุปผาเจ็ดสีจะงอกกลีบออกมาทุกๆสิบปี เพื่อที่จะให้มันงอกออกมาครบเจ็ดกลีบจะต้องใช้เวลาถึง 70 ปี หลังจากนั้นอีก 20 ปีถึงจะมีผลออกมาให้เก็บ

 

ผลเจ็ดกลีบใช้เวลาทั้งหมด 90 ปีในการเติบโต ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผลเจ็ดกลีบดูดซับพลังงานวิญญาณที่บริสุทธิ์จากสวรรค์และปฐะพีมาอย่างต่อเนื่อง

 

ในที่สุดเมื่อมันออกผล,พลังปราณสวรรค์และปฐพีที่มันดูดซับมาไม่อาจจินตนาการได้ นี่คือพลังปราณที่บริสุทธิ์ที่สุดมันอาจจะยกระดับการบ่มเพาะพลังของเขาเพิ่มขึ้นได้ถึงหนึ่งระดับเลยทีเดียวหลังจากกินมันเข้าไป

 

แม้ว่าเซียวเฉินจะคาดถึงความแข็งแกร่งของผลเจ็ดกลีบไว้แล้ว,แต่เขาดูถูกพลังปราณสวรรค์และปฐพีที่บรรจุอยู่ภายใน เขาเกือบจะหลุดการควบคุมมัน

 

เซียวเฉินรีบหมุนเวียนทักษะบ่มเพาะพลังอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์,ค่อยๆปรับแต่งพลังที่บ้าคลั่งนี้ ไฟสีม่วงลุกขึ้นออกมาจากหัวของเขา

 

กล้ามเนื้อลีบแห้งและผิวซีดเหี่ยวของเซียวเฉินค่อยๆกลับคืนฟื้นสภาพอย่างช้าๆ

 

หลังจากที่ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนครบสามรอบเล็ก,เซียวเฉินก็สามารถควยคุมความแข็งแกร่งของตัวยาไว้ได้ เขายังคงหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์ต่อไป เขาใช้โอกาสนี้ในการเลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังของเขาท่ามกลางสายฝน

 

บนท้องฟ้าเบื้องบน,เมฆดำปกคลุมดวงอาทิตย์เอาไว้ ภายในเมฆดำเสียงสายฟ้าดังออกมาอย่างต่อเนื่อง สายฝนที่โหมกระหน่ำอย่างไร้ความปราณีทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

 

เสียงลมพายุ,สายฝน,ฟ้าคำราม,สายน้ำที่เชี่ยวหลากและเสียงน้ำตกที่ตกลงมากระทบพื้นเบื้องล่างล้อมรอบตัวเขา ไกลออกไปก็มีเสียงของสัตว์แมลงและสัตว์อสูรวิญญาณทั้งหลาย

 

เมื่อเสียงเหล่านี้ลอยมาเข้าหูของเซียวเฉิน,เซียวเฉินก็เข้าสู่สภาวะรู้แจ้ง,สภาวะที่เขาสูญเสียสัมผัสของตัวเองไป ติดอยู่ท่ามกลางระหว่างความจริงและลวงตา,สัมผัสและรู้สึกถึงทุกสิ่งใต้สวรรค์เหนือปฐพี

 

เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หนึ่งรอบ ความแข็งแกร่งของผลเจ็ดกลีบหลอมรวมเข้ากับพลังวิญญาณและดูดซับเอาไว้โดยทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ไหลไปที่จุดตันเที่ยน

 

“ปัง!”

 

ตรงที่จิตวิญญาณยุทธสถิตอยู่,ไร้สิ่งกรีดขวาง เมฆสีขาวทั้งสิบระเบิดแยกตัวออกไปในทันที,กลายเป็นไร้รูปร่าง เมฆขาวหายไปและมีบ่อน้ำใสก่อตัวขึ้นมาจากมวลไร้รูปร่าง

 

ขนาดของบ่อน้ำใหญ่ขึ้นอย่างน้อยสองเท่าจากที่เซียวเฉินยกระดับพลังของเขาขึ้นมาในครั้งก่อน เขารู้สึกถึงพลังงานที่อยู่ภายในและรู้สึกเป็นสุข เขาสามารถยกระดับพลังขึ้นมาถึงระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูงได้ในครั้งเดียว อีกเพียงเล็กน้อยก็จะก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตปรมจารย์

 

เซียวเฉินมีความสามารถเพียงพอที่จะยกระดับขอบเขตพลังมานานแล้ว แต่เขากดพลังเอาไว้,เพื่อที่จะสร้างรากฐานของเขาให้มั่นคง เขาไม่คาดคิดว่าผลจากการเตรียมพร้อมที่ดี,เขาจะสามารถทะลวงขึ้นไปถึงระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูงโดยการใช้ผลเจ็ดกลีบ

 

“บูม!”

 

ทันใดนั้น,มีเสียงสายฟ้าคำรามรุนแรง หลังเสียงสายฟ้า,เกิดเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งภายในร่างของเซียวเฉิน

 

มีเสียงสายฟ้าร้องคำรามในทุกจุดลมปราณ 700 จุดในร่างของเขา ดังขึ้นมาสอดรับกับเสียงคำรามบนท้องฟ้า ไม่ชัดเจนว่าเสียงฟ้าคำรามจากสวรรค์ก่อให้เกิดระเบิดในร่างของเขาหรือจะเป็นตรงกันข้าม

 

ในทุกครั้งที่สายฟ้าคำรามออกมาจากร่างของเขาความแข็งแกร่งในร่างของเขาก็พุ่งสูงขึ้นมา เสียงสายฟ้าเหล่านี้กำลังเสริมสร้างร่างกายของเขา

 

เซียวเฉินทันใดนั้นก็นึกถึงบทสรุปหน้าหนึ่งในตำราบ่มเพาะพลัง เมื่อทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ถูกบ่มเพาะจนถึงชั้นที่สาม,ในทุกครั้งที่เขายกระดับขอบเขตพลังจะมีความเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดปรากฎการณ์ประหลาด,เป็นโอกาสที่ดีในการบ่มเพาะพลัง

 

ตามตำนาน,หลังจากที่เขาบ่มเพาะพลังไปถึงชั้นที่เจ็ด,ในทุกครั้งที่เขายกระดับขอบเขตพลัง,เขาจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานจากสายฟ้า ดูเหมือนตำนานจะเป็นเรื่องจริง

 

เมื่อเสียงฟ้าคำรามหยุดลง,ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มหมุนเวียนทันที ความเร็วในการไหลเวียนของมันเร็วขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ก็ก้าวหน้าขึ้นเช่นกัน

 

สายฝนที่โหมกระหน่ำค่อยๆหยุดลงและเมฆดำมืดก็จางหายไป แสงอาทิตย์สาดลงมาและป่าก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีเสียงจากของนกและสัตว์ทุกประเภท

 

ทันใดนั้นเซียวเฉินก็ลืมตาขึ้น,เปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงไหลออกมาจากรูขุมขนของเขาก่อนที่จะก่อตัวเป็นลูกบอลไฟสีม่วงด้าน ลอยอยู่ด้านหน้าของเขา

 

เมื่อทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์เลื่อนขึ้นสู่ชั้นสาม,ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง ในที่สุดมันก็เป็นเปลวไฟที่มีแหล่งกำเนิด,ไม่ใช้เปลวเพลิงที่ไร้ต้นกำเนิดอีกต่อไป

 

ด้วยความนึกคิดของเซียวเฉิน,เปลวเพลิงสีม่วงที่ปรากฎขึ้นมาเปลี่ยนไปเป็นแสงสีม่วงและเข้าไปที่ดวงตาขวาของเขา

 

ทะเลเปลวเพลิงอันไร้ขอบเขตทันใดนั้นก็ปรากกฎขึ้นภายในตาขวาของเขา ราวกับว่าเป็นจักรวาลที่ถูกแยกออกมาโดยเปลวเพลิง ในที่สุดจักรวาลอันไร้ขอบเขตก็ประจบกันและเปลวเพลิงสีม่วงก็กลายออกมาเป็นแสงสีม่วง มันค่อยๆจางหายไปจากดวงตาของเซียวเฉิน ดวงตาของเขากลับมาสงบเป็นปกติ

 

เซียวเฉินกระโดดลงมาจากแท่นหิน เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขต ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยพลัง เขาย่ำลงบนพื้นโคลนและตรงไปที่แม่น้ำ

 

เซียวเฉินดีดนิ้วและเปลวเพลิงสีม่วงในรูปร่างสีเหลี่ยมปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา มันส่องแสงแปลกประหลาดออกมา มีเปลวเพลิงพลุ่งพล่านออกมาจากมือของเขาและลงไปที่ผิวแม่น้ำจวง

 

“ชี่!ชี่!ชี่!”

 

เมื่อเปลวเพลิงที่น่ากลัวสัมผัสกับผิวน้ำ,มันก็ลุกไหม้ส่งเสียงอันร้อนแรงออกมา หลังจากนั้นครู่ใหญ่,ระดับน้ำของแม่น้ำจวงก็ลดหายไปกว่าหนึ่งนิ้วมือ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด