ตอนที่ 326 เสี่ยวไปสุดยอด

“บูม!”

เซี่ยวเฉินเพียงเหวี่ยงมือออกไปเบาๆ เปลวเพลิงทะลวงผ่านอากาศ,ทิ้งรอยเปลวเพลิงยาวเป็นสายทุกที่ที่มันผ่าน,ต้นไม้บริเวณโดยรอยถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน

หลังจากที่เปลวเพลิงลอยไปหนึ่งพันเมตร,มันก็ซีดเข้ากับพื้นและระเบิดออกก้อนเมฆรูปดอกเห็ดพุ่งขึ้นจากจุดที่ระเบิด

“กรร! กรร!”

เสียงระเบิดดังทําให้สัตว์อสูรปีศาจบริเวณโดยรอยตกใจ หมาป่าปีศาจปีกดําสองตัวควันสีดําเปล่งคํารามและพุ่งเข้ามา

หมาป่าปีศาจปีกดําเดิมที่เป็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5,หมาป่าปีก หมาป่าปีกตัวสูงและมีปีกกระดูกสองอันที่ทําให้มันสามารถบินได้ต่ําๆและเพิ่มความเร็วของมันขึ้น

หลังจากที่หมาป่าปีกกลายพันธ์, การโจมตีและความนวดเร็วของมันเพิ่มขึ้นพลังต่อสู่โดยรวมของมันเพิ่มขึ้นสองเท่าและเปลี่ยนให้มันยิ่งดร้ายและน่ากลัว

เซียวเฉินมองไปที่หมาป่าปีศาจปีกดําสองตัวและยิ้มขึ้นบางเบา เขาก้าวขึ้นหน้าและยืนอยู่บนขอบหม้อมังกรฟินิกซ์ จากนั้น,เขาค่อยๆวางมือขวาของเขาบงบนด้ามกระบี่ของเขา

ปีกกาะดูกบนหลังของหมาป่าปีศาจปีกดําทั้งสองกระพืออย่างแรง เกิดสายลมรุนแรงและหมาป่าปีศาจปีกดําทั้งเสองตัวก็ลอยขึ้นยอาางรวดเร็ว

ปากของพวกมันเปิดกว้างและกรงเล็บของมันส่องแสงวาวเย็น ขณะที่ปีกของพวกมันกระพือไปในอากาศ,มันส่งเสียง ออกมาพวกมันส่งตัวเองพุ่งเข้าไปหาเซียวเฉิน

“ฟุ!” ก่อนที่เซียวเฉินจะได้เคลื่อนไหว,เสี่ยวไป,ผู้ที่นั่งอยู่บนไหล่ของเขา,กระโดดลงไปในทันทีมันขยับอุ้งเท้าของมันเหมือนกับกําลังทักทออากาศและสายลมรุนแรงและพัดเป่าหมาป่าปีศาจปีกดําลอยไปในทันที

หมาป่าปีศาจปีกดําเคลื่อนที่เข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว,แต่มันกลับลอยกระเด็นออกไปเร็วยิ่งกว่ามันกระดอนไปกับพื้นอยู่หลายเมตรก่อนที่จะค่อยๆหยุดลงพอมันลุกขึ้นมา มันก็มองเห็นร่างสีขาวก่าลังพุ่งเข้าไปหาพวกมันอย่างรวดเร็ว

“ชิ ชิ!” ร่างสีขาวดูราวกับลําแสง ล่วูบพุ่งผ่านและบาดแผลเลือดออกห้าเส้นปรากฏขึ้นบนปีกซ้ายของหมาป่าปีศาจปีกด่ามีควันสีด่าลอยออกมาขากบาดแผล

เซี่ยวเฉินเหลียวมองและเมินเฉยไป ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา,เขาพบว่าเสี่ยวไป๋แข็งแกร่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก

มันไม่รู้สึกกดดันแม้อหุ่นยอขณะที่เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรปีศาจระดับ5 ด้วยตัวคนเดียวด้วยความได้เปรียบในความเร็วของมัน มันสามารถจัดการกับหมาป่าพวกนี้ได้อย่างง่ายดายเก้าร่างมายาสวรรค์เป็นทักษะบ่มเพาะระดับอมตะ มันทําให้ความแข็งแกร่งของเสี่ยวไปก้าวไปถึงระดับที่น่ากลัว

“ปะ ปะ!”

เกิดแสงวูบไหวขณะที่เขาชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินกระโดดลงไปและกระบี่แสงเรืองขึ้น จากนั้นเขาก็สับลงไปที่ปีกกระดูกของหมาป่าปีศาจปีกดํา

หมาป่าปีศาจปีกดําส่งเสียงร้องโหยหวน จากนั้นมันก็ยืนขึ้นและฟาดออกมาด้วยอุ้งเท้าและกรงเล็บอันแหลมคมทั้งห้าของมัน

แต่ละกรงเล็บยาวยี่สิบเซนติเมตรและโค้งคมเหมือนกับตะขอ มันดูเหมือนใบมีดคมกริบห้าเล่มที่ฝังอยู่ในเนื้อ อุ้งเท้าของหมาป่าปีศาจปีกดาทะลวงผ่านออากาศและคว้าไปที่หัวของเซี่ยวเฉิน

กรงเล็บเหล่านั้นสามารถเจาะทะลวงผ่านเหล็กได้ หากมันสามารถทะลวงผ่านเหล็กได้,นับอะไรกับหัวของมนุษย์?ผลที่ตามมาง่ายดายที่จะจินตนาการถึง

สีหน้าของเซี่ยวเฉินไม่เปลี่ยนแปลง เขาเบียงตัวออกทางด้านข้างและก้าวถอยหลังด้วยเท้าขวาของเขา เขาจ้องมองไปที่กรงเล็บหมาป่าอันแหลมคมพร้อมกับกวาดฝักกระบี่ในมือซ้ายของเขาขึ้น

“เครั้ง!”

ปลายฝักกระบี่ซัดเข้าที่อุ้งมือหมาป่าในทันที แรงกระแทกมหาศาลทําให้เกิดบาดแปลเลือดออกที่อุ้งเท้าของมัน

มันไม่ได้แทงทะลุเข้าไป พลังป้องกันของกุ้งน้าหมาป่าค่อนข้างยอดเยี่ยม,เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองลองแรงเข้าไปอีก

“ปัง!”

พลังพลุ่งพล่านออกมาจากแขนซ้ายของเซี่ยวเฉินพร้อมกับเขาผลักออกไปข้างหน้าปลายฝักกระบี่แทงทะลุอุ้งเท้าหมาป่าที่ยืดหยุ่นในทันที

รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด,อีกอุ้งเท้าหนึ่งของหมาป่าปีศาจปีกดําเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น,ตรงเข้าใส่เซียวเฉินพลังนั้นยอดเยี่ยมมากมันถึงกับแยกอากาศออกเป็นสองส่วน,เกิดแรงดูดตามมาด้านหลัง

มันดูเหมือนจะรวดเร็วยิ่งกว่าเซี่ยวเฉิน กระบี่เงาจันทร์เรืองแสงสีม่วงรุ่งโรจน์จากนั้นมันก็ตัดไปที่อุ้งเท้าของหมาป่า

“ปัง!”

เซี่ยวเฉินซัดเข้าที่หน้าอกของหมาป่าตัวนั้นด้วยลูกเตะ หมาป่าปีศาจปีกดําถูกฟาดถอยหลัง ไปในทันที

“ปะ ปะ!” พลังหนึ่งหมื่นกิโลกรัมบดซี่โครงไปหลายซี่ เสียงกระดูกแตกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หมาป่าปีศาจปีกดําเป็นเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงเซี่ยวเฉินสามารถล้มมันลงได้โดยไม่ต้องเข้าสู่สภาวะแห่งสายฟ้าของเขา

หลังจากที่เซียวเฉินผสานอานาจศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในสภาวะของเขา,ความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก นี่ทําให้จัดการกับพวกหมาป่าได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ตอนนี้สัตว์อสูรปีศาจที่ความแข็งแกร่งระดับนี้ไม่คณามือของเซียวเฉิน

มีเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ที่สามารถสร้างความกดดันให้กับเซี่ยวเฉินได้ ในสองสามวันที่ผ่านมา,เซียวเฉินตามหาสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 เป็นพิเศษ

หมาป่าปีศาจปีกดํายังดิ้นรนเพื่อที่จะยืนขึ้น เซี่ยวเฉินหมดความอดทนที่จะประมือกับมันกระบี่เงาจันทร์ออกจากมือซ้ายของเขาและปะทุกระแสไฟฟ้าขึ้น

ราวกับเส้นสายฟ้าฟาด,มันแทงเข้าที่หน้าอกของคู่ต่อสู้ด้วยเสียงดังกึกก้องสภาวะแห่งสายฟ้าที่บรรจุอยู่ในกระบี่ระเบิดออก

ร่างอันใหญ่โตของหมาป่าปีศาจปีกดําถูกเผาด้วยกระแสไฟฟ้า เซี่ยวเฉินเพียงโบกมือและกระบี่เงาจันทร์ก็ลอยกลับมาที่มือของเขา

ทันทีที่กระบี่เงาจันทร์กลับมาถึงมือของเซียวเฉิน,มีแสงสีแดงที่มองไม่เห็นลอยออกมาจากหมาป่าปีศาจปีกดําและเข้าไปยังเครื่องหมายบัลลังก์สีแดงที่อยู่ระหว่างคิ้วของเขา

เจตนารมณ์ฆ่าบ้างของหมาป่าปีศาจปีกดําถูกบรรจุเอาไว้ในแสงสีแดงนั้นเครื่องหมายบัลลังก์สีแดงเรืองแสงขึ้นและสายเจตนารมณ์ฆ่าบ้างนี่ก็ผสานเข้ากับบัลลังก์แดงที่อยู่ภายในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเซี่ยวเฉิน

เมฆสีแดงที่อยู่ใต้บัลลังก์ค่อยๆเริ่มหมุนวน ผ่านไปครู่หนึ่ง,มันก็หยุดลงอย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่เพียงพอ

เซี่ยวเฉินเห็นเหตุการณ์นี้มาจนชินตาไม่ตกใจอีกต่อไปแล้ว ในสามวันที่ผ่านมา,บัลลังก์แดงนี้จะดูดซับเจตนารมณ์ฆ่าล้างจากสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมดที่เขาสังหาร

สัตว์อสูรปีศาจยิ่งแข็งแกร่ง,แสงสีแดงก็ยิ่งลอยออกมามากขึ้น เดิมที,เซี่ยวเฉินค่อนข้างเป็นกังวลเขาเกรงกลัวว่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่เจตนารมณ์ฆ่าล้างจะฉีกของเขาจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินค่อยๆค้นพบว่าเจตนารมณ์ฆ่าล้างที่สะสมอยู่ในบัลลังก์นั้นค่อนข้างเล็กน้อยเปรียบเทียบกับเจตนารมณ์ฆ่าล้างที่พลุ่งพล่านและครอบง่เขาเมื่อก่อนหน้านี้มันน้อยกว่ามาก

ที่สําคัญยิ่งกว่าก็คือเซียวเฉินค้นพบว่าเขาสามารถควบคุมเจตนารมณ์ฆ่าล่างนี้ได้ ด้วยกา รนึกคิด,เจตนารมณ์ฆ่าล้างทั้งหมดสามารถผสานเข้าไปในทักษะกระบี่ของเขา

นี่เทียบเท่ากับว่าเซี่ยวเฉินได้รับสภาวะอื่นมา,สภาวะแห่งการฆ่าล้าง มีแต่ได้ประโยชน์และไม่มีข้อเสีย

เปรียบเทียบกับสภาวะแห่งสายลม,สภาวะแห่งขุนเขา,และสภาวะแห่งแสง,สภาวะแห่งการฆ่าล้างที่ไร้ตัวตนเป็นสิ่งที่บรรลุได้ยากกว่ามาก

เท่าที่เซียวเฉินร์, แม้แต่ในค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์,ที่พวกเขาฝึกผนเต่ําของพวกเขาโดยการสังหารมีเพียงผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนเท่านั้นที่บรรลุถึงสภาวะแห่งการฆ่าล้างอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม,ปริมาณของเจตนารมณ์ฆ่าล้างในบัลลังก์แดงมันเล็กน้อยเกินไปเมื่อเซี่ยวเฉินใช้มันก็มีผลไม่ชัดเจน:มันส่งผลเพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม,อัตราการเติบโตของมันช่างน่ากลัว ตราบใดที่เซียวเฉินสังหารสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง,เขาจะสะสมเจตนารมณ์ฆ่าล้างได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันจะขึ้นไปถึงระดับที่น่าหวาดกลัวในอนาคต

บัลลังก์แดงเป็นสมบัติลับที่หลอมขึ้นมาโดยราชามารโบราณ ราชามารคือผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมเป็นคู่แข่งกับปิงโห่ว สมบัติลับที่เขาหลอมขึ้นมาจะต้องไม่มช่ธรรมดาอย่างแน่นอน

น่าเสียดาย,ใครก็ไม่รู้ฉีกเอาข้อมูลเกี่ยวกับบัลลังก์สีแดงนี่ไป เป็นผลให้เซี่ยวเฉินไม่อาจไขความลับที่ซ่อนอยู่ภายในบัลลังก์สีแดงนี้

“คอน! คอน!” เสี่ยวไปส่งเสียร้องออกมาขัดความคิดของเซี่ยวเฉิน เขาก้มหน้าลงไปมองดู

เซียวเฉินเห็นเสี่ยวไปักระโดดโลดเต้นไปรอบๆ ชี้ไปที่หมาป่าปีศาจปีกว่าโชว์ผลงานหมาป่าปีกดํานองอยู่กับพื้นบาดเจ็บสาหัสไม่อาจขยับเขยื้อน;เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย

เซียวเฉินยิ้มเบาๆและเขารู้ว่าเสี่ยวไป่ต้องการอะไร เขาหยิบเอาขวดน้ําเต้าที่ใส่เหล้าออกมาและส่งให้กับมัน เสี่ยวไปส่งเสียงร้องมีความสุขออกมาและเผยรอยยิ้มน่ารักขึ้นบนใบหน้าจากนั้นมันก็รับขวดน้ําเต็มาและกระโดดขึ้นไปบนปากหม้อ

เซี่ยวเฉินจัดการลมหายใจสุดท้ายของหมาป่าปีศาจปีกดําด้วยกระบี่ของเขาสายสีแดงที่มองไม่เห็นลอยออกมาจากซากศพและหลอมรวมเข้ากับบัลลังก์แดงในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเขา

จากนั้น,เซี่ยวเฉินก็ดึงแก่นกลางปีศาจออกมาจากหมาป่าปีศาจปีกดําทั้งสองตัวเมื่อเขาหันกลับไป ขามองเห็นเสี่ยวไปก่าลังดื่มเห้าอย่างเอร็ดอร่อย เขาอดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้

เซี่ยวเฉินออกคําสั่งให้หุ่นรบเกราะเงินทั้งสองตัวสังหารทุกอย่างที่เข้ามาใกล้หม้อมังกรฟีนิกซ์จากนั้นเขาก็เตรียมตัวที่จะออกไปเดินรอบๆ

มีหุ่นรบเกราะเงินสองตัวค่อยเฝ้าระวัง,เซี่ยวเฉินก็สามารถสางใจได้ในทันที นอกจากนั้น,เสี่ยวไปก็อยู่ตรงนี้เช่นกันไม่มีปัญหาที่จะทิ้งหม้อมังกรฟินิกซ์เอาไว้ตรงนี้

“เสี่ยวไป,รออยู่ตรงนี้ ช่วยดูแลหม้อมังกรฟินิกซ์ อย่าออกไปไหน” เซียวเฉินกล่าวเบาๆกับเสี่ยวไป

เสี่ยวไปวางขวดน้ําเต้าลง;ใบหน้าของมันแดงกําดูน่ารัก มันกุมอุ้งเท้าของมันและตบไปที่หน้าอก

เซียวเฉันเข้าใจที่มันจะสื่อ เจ้าตัวน้อยนี่กล่าวว่าจะทําภารกิจให้สําเร็จ มันจะใช้ขวดเหล้าทุบใครก็ตามที่เข้ามาหาที่ตาย

เซี่ยวเฉินลูบหัวของเสียวไปพร้อมกับยิ้ม จากนั้นเขาก็กุมกระบี่เงาจันทร์ในมือแน่นและเดินออกไป

สัตว์อสรปีศาจระดับ 5 ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเซี่ยวเฉินอีกต่อไปแล้วมีเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ที่คู่ควร

โดยปกติ,เพื่อที่จะตามหาสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6,เซี่ยวเฉินจะต้องเข้าไปลึกขึ้นอีกยิ่งเขาเข้าใกล้จุดศูนย์กลางมากขึ้นเท่าไหร,เขาจะยิ่งมีโอกาสพบสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 มากขึ้น

ภายในป่าน้ําหมึก,ที่มีควันสีดําพวยพุ่งออกมาจากทุกที่เป็นโลกที่ไม่มีแสงสว่าง,เซี่ยวเฉินเดินหน้าไปอย่างระมัดระวังพร้อมกับกุมกระบี่เอาไว้ในมือ
ป่าน้ําหมึกไม่ได้ถูกเรียกว่าป่าแห่งสัตว์อสูรปีศาจเพียงเพื่อข่าขันทุกย่างที่เซียวเฉินก้าว,เขา จะต้องระวังจากการโจมตีทั่วทิศทาง

พวกมันสามารถเข้ามาได้ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ,พวกมันอาจจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ซ่อนเร้นอยู่ในอากาศ,หรือตามต้นไม้เหนือหัวของเซี่ยวเฉิน พวกมันทั้งหมดจะฉวยโอกาสในตอนที่เขาประมาทและกลืนกินเขาหากมันทําได้

นี่มันทําให้เกิดแรงกดดันอย่างมหาศาล;หัวใจจะสั่นระรัว คนที่อ่อนแอจิตใจจะถูกบดขยี้ไปก่อนร่างกายเสียอีกในสถานการณ์เช่นนี้

ตอนนี้เซียวเฉินยังคงนิ่งสงบ ตลอดทาง,เขาถูกสัตว์อสูรโจมตีหลายครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม,พวกมันทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5;เขาไม่มีอารมณ์จะไปต่อสู้ด้วย

ทําให้พวกมันกลัวหนีไปก็เพียงพอแล้ว สําหรับพวกที่ไม่ยอมหนี้,เขาก็จะเป็นฝ่ายหนี้แทนด้วยความเร็วเต็มกําลังของเขา,มันยากที่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 จะไล่ตามทัน

หลังจากผ่านไปสิบนาที,เซี่ยวเฉินหยุดเท้าลงและมองไปรอบๆ พื้นที่ว่างเปล่า,แม้แต่อากาศก็หยุดไหล

เซี่ยวเฮินรู้สึกความรู้สึกไม่สบายใจในหน้าอกของเขา,ราวกับเขาเดินมาเจอเข้ากับผีเขารู้สึกคลื่นไส้

ข้าถูกจ้องมองอยู่,เซียวเย็นครุ่นคิดกับตัวเอง เขาสงบจิตใจลงและสลัดความรู้สึกไม่สบายนี้ออกไปมันน่าจะต้องเป็นสัตว์อสูรปีศาจแข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด

สัตว์อสูรปีศาจตัวนั้นเล็งเซี่ยวเฉินเป็นเหยื่อของมัน นอกจากนั้น, ทักษะซ่อนเร้นของมันยังยอดเยี่ยมแม้ว่าเขาจะเร่งประสาทการรับรู้ถึงขีดสุด,เขาก็ไม่อาจหาตําแหน่งของสัตว์อสูรปีศาจตัวนั้นได้