Immortal and Martial Dual Cultivation 311 อันตรายถึงตาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 311 อันตรายถึงตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 311 อันตรายถึงตาย

คนที่นําพวกเขาเข้ามาหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าว “ตัวนมู่ฉิง,พวกเราไม่ได้อยู่บนราชวังเหมันต์ลึกล้ําอยู่ต่อไปแล้ว อย่าคิดว่าเจ้าจะสั่งพวกข้าได้อีกต่อไป ในเมื่อข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว,ไม่มีทางที่ ข้าจะกลับไปนําทางไปอย่างเชื่อฟัง, มิฉะนั้นอย่าหาว่าข้าหยามคาย”

“ปะ ปะ!”

หลังจากที่เขากล่าวจบ,คนทั้งยี่สิบคนข้างหลัง ของเขาก็ดึงอาวุธออกมา พวกเขาแสดงเจตนาฆ่าฟันตรงไปที่ต้วนมู่ฉิง

“บ้าบิน!” ต้วนมู่ฉิงกล่าวอย่างเย็นชา รูปแบบค่ายกลน้ําแข็งปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของคนทั้งสี่ด้านหลังของนาง ในไม่ช้า,ค่ายกลน้ําแข็งก็เชื่อมต่อกัน และขยายไปที่เท้าของต้วนมู่ฉิง

“บูม!”

กระแสพลังของตัวนมู่ฉิงเร่งขึ้นแบบไร้ขีดจํากัด,ทําให้คนอื่นๆรู้สึกว่านางอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง มันน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ผู้นําของคนยี่สิบคนกลายเป็นกังวล เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย เขารีบกล่าวขึ้น “โจมตี!”

“ชิ ชิ!”

ทันที่สิ้นเสียงของเขา,ลูกน้องของเขาห้าคนก็กลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งไปเรียบร้อยแล้ว

ตัวนมู่ฉิงดึงมือของนางกลับและกําหมัด “ปะ ปะ ปะ ปะ!” รูปปั้นน้ําแข็งทั้งหมดแตกสลายเป็นชิ้น,ถูกสังหารในทันที

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ในอตนที่ชิ้นน้ําแข็งร่วงหล่นลงพื้น,พวกมันก็แตกออกอีกครั้ง ศพที่ถูกห่อหุ้มด้วยน้ําแข็งแตกออกจากกัน ทายาททั้งห้าคนของราชสํานักหลวงหลาดกลัวจนหน้าซีด อาวุธในมือของพวกเขาสั่นสะท้าน

“ไสหัวไป!” ต้วนมู่ฉิงกล่าวอย่างเยือกเย็น

ด้วนมู่ฉิงได้สังหารระดับขอบเขตนักบุญสิบห้าคนภายในพริบตา ความแข็งแกร่งที่นางได้แสดงออกมาน่าหวาดกลัวเกินไป

แม้ว่าขอบเขตพลังของทั้งห้าคนจะอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง,แต่พวกเขาไม่ได้บรรลุถึงสภาวะ พวกเขาเพียงแข็งแกร่งกว่าระดับขอบเขตนักบุญทั่วไปเพียงเล็กน้อย เทียบกับอัจฉริยะที่แท้จริง,พวกเขาอ่อนด้อยกว่ามาก

เผชิญหน้ากับต้วนมู่ฉิงในตอนนี้, พวกเขาไม่มีทางชนะ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่พอใจที่ต้องจากออกไปเช่นนี้

ทายาทราชสํานักหลวงนํากลุ่มของเขามองไปที่ขุนนางกุยยี่ด้วยความไม่พอใจ คนผู้นี้คืออัจฉริยะแห่งราชสํานักหลวงอย่างแท้จริง เขาหวังว่า ขุนนางกุยยี่จะกล่าวอะไรช่วยพวกเขาบ้าง

ขุนนางกุยยี่ หยิงเซี่ยว,สวมชุดเกราะศึกสีทอง มีดาบยาวสองเมตรอยู่ที่ด้านหลังของเขา มันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์,ดาบผ่านภา ด้านหลังของเขามีผู้บ่มเพาะพลังอีกสี่คนที่แต่งกายในทํานองเดียวกัน

เมื่อขุนนางกุยยี่มองเห็นสายตาที่ตรงมาที่เขา,เขาเหลียวมองอย่างรวดเร็วและหันหนี ไปเขาเมินเฉย

เมื่อความหวังสุดท้ายหันหนีไป,พวกเขาทําได้ เพียงเก็บอาวุธและกลับออกไปอย่างช่วยไม่ได้

ด้วยการใช้ทักษะลับ,ความแข็งแกร่งของทั้งสี่คนถูกโอนย้ายไปทาตัวนมู่ฉิงอย่างสมบูรณ์ ทําให้พลังต่อสู้ของนางเร่งขึ้นไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางในทันที

หมายคนรู้ถึงความลับเบื้องหลังความแข็งแกร่งของตัวนมู่ฉิง,แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับในพลังของนาง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ถึงความลับ แต่พวกเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับต้วนมู่ฉิง

ต่อหน้าของพลังเบ็ดเสร็จ,ลูกไม้กลอุบายไร้ผล เซี่ยวเฉินได้สัมผัสมากับตัวจากกระแสพบังของปิงโห่ว

“นี่เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ในตอนที่พวกเราพบบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา,พวกคนที่คิดจะใช้ลูกไม้จะต้องคิดใหม่อีกครั้ง” หนึ่งในทายาทถอนหายใจออกมา

บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามีค่ามหาศาล ถึงแม้ว่ามันจะไม่มากค่าเท่ากับสมบัติลับหรือทักษะต่อสู้ระดับสูง,แต่มันจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้บ่มเพาะพลังธาตุน้ําแข็ง

ถึงตอนนั้น,อาจจะมีบางคนที่พยายามจะใช้จังหวะช่วงชุลมุนเพื่อฉวยเอาบุปผาเหมันต์ลึกล้ําไปวง

ตัวนมู่ฉิงลงโทษเหล่าทายาทสองสามคน เพราะความผิดเล็กน้อยโดยไม่มีความลังเล นางสังหารเพื่อเตือนถึงคนอื่น

เซี่ยวเฉินสงสัยว่าระดับขอบเขตนักบุญทั้งสามคนนี้ จะเป็นความตั้งใจของตระกูลต้วนมู่,พวกเขาจะเปิดโอกาสให้ตัวนมู่ฉิงสร้างอิทธิพลขึ้นมา

ตัวนมู่ฉิงไม่สนใจคําวิจารณ์ของทุกคน นางกล่าวด้วยเสียงนุ่ม “บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามีความสําคัญกับตระกูลต้วนมู่ของข้าอย่าวยิ่ง พวกเราได้รอคอยมานับร้อยปีแล้ว เมื่อข้าได้รับมันมา,ข้าจะเปิดซากนิกายหลเพลิงให้กับทุกคนในทันที”

แม่นางด้วนมู่,มั่นใจได้ พวกเขาไม่มีความสนใจ ในบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา เพียงแค่นําทางไป”

“ข้าเป็นผู้บ่มเพาะพลังธาตุไฟ บุปผาเหมันต์ ลึกล้ํามีแต่จะให้ผลร้าย ไม่จําเป็นต้องกังวล,แม่นางต้วนมู่”

“ใครก็ตามที่กล้าฉกฉวยบุปผาเหมันต์ลึกล้ําของแม่นางด้วนมู่ต้องเจอกับข้า ข้าจะช่วยเหลือเจ้าทําลายมันผู้นั้น”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว! ผู้ที่กล้าฉกฉวยบุปผาเหมันต์ลึกล้ําของแม่นางคือศัตรูของพวกเรา”

หลังจากที่ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวนมู่ฉิง,พวกเขาต่างสนับสนุนนาง,ให้คํามั่นว่าจะไม่แตะต้องบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดังนี้,เขาไม่ได้กล่าวอะไร หากจะมีการฉกฉวย,เดียวมันก็เกิดขึ้น คํามั่นไม่มีน้ําหนักอะไร

ตัวนมู่ฉิงกล่าว “ขอบคุณทุกท่าน, โปรดตามข้ามา!”

หลังจากที่ตัวนมู่ฉิงกล่าวจบ,นางนํากลุ่มคนเข้าไปยังป่าที่โหดร้าย มีต้นไม้สูงใหญ่มากมายอยู่ภายป่า,ที่มีกิ่งก้านใบมากมาย มันจะต้องใช้คนมากกว่าสองคนเพื่อโอบได้รอบต้นไม้

มีชั้นใบไม้และหญ้าสีดําอยู่ตามพื้น เมื่อกลุ่มคนเดินยำไป,พวกมันส่งเสียงกรอบแกรบไม่หยุดหย่อน

ไม่มีใครที่กล้าจะประมาทในป่าน้ําหมึกแห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดจดจ่อสังเกตการณ์โดยรอบอย่างละเอียด
“ฟุ ฟิว!”

ทันใดนั้น,งูสีดําที่ตัวหนาเท่ากับขาคนก็พุ่งขึ้นมาจากพื้น ร่างของมันเต็มไปด้วยฉีสีดํา มีโลหะแวววาวอยู่บนเกล็ดที่หนาแน่นของมัน

มันพุ่งมาจากด้านหลังและกัดเข้าที่หัวของผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งในทันที มันเป็นเหมือนกับเส้นสายฟ้าสีดํามันเกิดขึ้นภายในพริบตา มันรวดเร็วจนไม่มีใครที่ตอบสนองได้ทัน

“ชิ! ชิ! ชิ! ชิ!”

ก่อนที่กลุ่มคนจะสังหารงูตัวนั้นลงได้ มีงูอีกหลายร้อยตัวพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนถูกจับโดยไม่รู้ตัวและโดนกัดจนตาย

มีบางคนที่ถูกกัดเข้าที่แขน พิษได้แพร่กระจายไปทั่วร่างของพวกเขาในทันที ผู้บ่มเพาะพลังที่ถูกกัดน้ําลายฟูปากและตกตายไปด้วยพิษ

เซี่ยวเฉินรีบเคลื่อนตัวกลับหลัง,หลบเลี่ยงการโจมตีจากงูสีดํา เขารีบชักกระบี่เงาจันทร์ออกมา จากนั้นเขาก็ส่งแสงสายฟ้าสีม่วงออกไปพร้อมกวาดฟัน

“เครั้ง! เครั้ง!”

คมกระบี่ซัดเข้าที่ผิวหนังของงูและส่งเสียงเหล็กกระทบออกมา เซียวเฉินทําได้เพียงทําให้เกล็ดของมันหลุดไปสองสามอัน

ช่างเป็นพลังป้องกันที่น่ากลัว พลังยี่สิบเปอร์เซ็นของข้าไม่อาจทําให้มันบาดเจ็บ เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองอย่างตกตะลึง

งูสีดําตัวนั้นรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย ร่างกายส่วนบนของมันกระโดดขึ้นไปในอากาศและพุ่งไปที่เซี่ยวเฉินอย่างเกรี้ยวกราด ในตอนที่มันเปิดปากของมันออกมา มันเผยให้เห็นฟันที่น่ากลัว,เรื่องแสงแวววาว

สีหน้าของเซียวเฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขากวัดแกว่งกระบี่ของเขาอีกครั้ง,ใช่พลังเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นของเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม,ในครั้งนี้ เขาเล็งไปตรงจุดที่เกล็ดร่วงลงมา เขาสับมันตัวขาดครึ่งในทันที

“ฟุ ฟิว!”

ร่างกายส่วนบนของงูสีดํายังไม่ได้ตกตายลง มันแลบลิ้นออกมาและพุ่งไปที่หัวของเซียวเฉิน ความเร็วดุจสายฟ้า

“ตาย!”

เชี่ยวเฉินร้องตะโกนและกระบี่เงาจันทร์ของเขา เปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายฟ้าสีม่วง กระบี่แสงสีม่วงพลันเรืองขึ้นบนคมกระบี่ของเขา มันระเบิดงูสีดํากลายเป็นฝุ่นผงพร้อมกับเสียนงอันดัง

งูตัวนั้นกลายเป็นหมอกควันสีดํา ถึงตอนนี้ อันตรายของมันก็ยังไม่หมดลง เซียวเฉินส่งฝ่ามือจู่โจมออกไปและสลายฉีสีดํา

คนอื่นๆ ไม่ได้โชคดีอย่างเซี่ยวเฉิน ผู้บ่มเพาะพลังบางคนสับงสีดําขาดเป็นสองท่อน แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าพลังชีวิตของงูจะมากถึงเพียงนี้ ร่างส่วนบนของมันยังสามารถโจมตีต่อ,ทําให้พวกเขาต้องตกตายไปด้วยคมเขียวของง

ยังคงมีคนที่รับมือกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้อย่างง่ายดาย ขุนนางกุยยี่ยังไม่แม้แต่จะชักอาวุธออกมา เขาเพียงระเบิดพวกงูด้วยกําปั้นของเขา
โดยรอบของจีชางคงเติมเต็มไปด้วยดวงดาราระยิบระยับ พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ กระบี่ฉีที่แหลมคมนี้สามารถสับพวกงูขาดครึ่งได้อย่างง่ายดาย

ขณะดวงดาวระยิบระยับ,งูสีดําตกตาย ภายในเวลาสั้นๆ, มีงูสีเมากกว่าสิบตัวถูกสังหาร

ฮวาหยุนเฟยถือดาบสีแดงเอาไว้ในมือของเขา เขาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมและแทงดาบของเขาทะลุตัวงูสีดํา มีเสียง ซี่ ซี่ ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

งูสีดําถูกดูดพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ดูดกลืนพลังชีวิตเข้าไป,เรืองแสงสีแดงบนคมดาบยิ่งเจิดจ้า

ดาบของมู่เยียนเสวี่ยเคลื่อนไปด้วยความเร็วสูงสุดของมัน ภายในพริบตา,การโจมตีนับไม่ถ้วนถูกซัดออกไป งูสีดําถูกสับเป็นชิ้นนับไม่ถ้วนขณะที่มันกระโดดขึ้นไปในอากาศ

ทายาทของตระกูลหยานแห่งแคว้นซีเหอ,พี่ชายคนโตของหยานเชียนเหอ,ซัดฝ่ามือสีดํามหึมาออกไป มันจับงูสีดํานับไม่ถ้วนเอาไว้แน่น,พวกมันไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

ตัวนมู่ฉิงยิ่งง่ายดายกว่า นางไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ในตอนที่พวกงูสีดําเคลื่อเข้ามาใกล้แม่นางต้วนมู่,พวกมันร่อยๆกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้พวกนางทั้งห้าคน ผ่านไปอึดใจ,พวกมันแตกสลายเป็นชิ้นน้ํา แข็งเล็กๆ

เซี่ยวเฉินมองไปรอบๆ แต่เขาไม่พบฉู่ฉาวอวิ๋น เขามองขึ้นไปและพบว่าฉู่ฉาวอวิ๋นได้กระโดดขึ้นไปบนยอดต้นไม้สูงตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
มีรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าของฉู่ฉาวอวิ๋นขณะที่เขามองดูผู้ครเบื้องล่าง ราวกับว่ากําลังชมการแสดง

ในตอนที่งสีดําทั้งหมดถูกสังหาร,พวกเขานับจํานวนคนที่เหลืออยู่ พวกเขาพบว่ามียี่สิบคนเสียชีวิตไปจากการโจมตีระลอกแรก

นับรวมพวกคนที่ตกตายไปด้วยน้ํามือของต้วนมู่เฉิง,จํานวนของพวกเขาลดลงจากร้อยเหลือประมาณเจ็ดสิบหรือแปดสิบคน นับว่าเป็นการสูญเสียใหญ่หลวง

อย่างไรก็ตาม, คนเสียใหญ่ที่ตายเป็นคนรับใช้ที่เหล่าทายาทพามาด้วย เหล่าอัจฉริยะที่แท้จริงไม่แม้แต่จะได้รับรอยขีดข่วน

ความแข็งแกร่งของงูดําอยู่ที่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นกลาง นอกจากพวกมันจะมีจํานวนมาก แล้วมันยังมีพลังชีวิตที่สูง,พวกมันไม่ได้มีไพ่ตายอะไรอื่นอีก พวกมันยังไม่ได้เป็นภัยของคนกลุ่มนี้ที่แท้จริง

หลังจากพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง,ฝูงชนเดินทางต่อไปภายใต้การนําของต้วนมู่ฉิง

สัตว์อสูรปีศาจที่พวกเขาพบตลอดทางแข็งแกร่งขึ้น ไม่เหมือนจีชางคงและคนอื่นๆที่ บรรลุถึงสภาวะ,ทายาทคนอื่นเริ่มได้รับบาดเจ็บ

จํานวนของพวกเขาลดลงเหลือประมาณหกสิบคน ก่อนที่จะได้ไปถึงซากนิกายหลี่เพลิง,พวกเขาเหลือกันเพียงครึ่งนับจากตอนแรก มีบางคนที่อยากจะกลับออกไป,แต่การออกไปจากกลุ่มตอนนี้ก็มีแต่ไปมองหาความตาย

เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังมันโหดร้าย สถา นการณ์ในตอนนี้เป็นข้อพิสูจน์ ผู้ที่อ่อนแอหนือ โชคร้ายกลับกลายเป็นแท่นหินให้คนอื่นเห ยียบขึ้นไปในพริบตา,ถูกคนอื่นลืมเลือนไปอย่าง เย็นชา

ตัวอย่างที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาทําให้ เซี่ยวเฉินยิ่งแน่วแน่ เขาไม่อาจกลายเป็นแท่นหินให้คนอื่นเหยียบย่า

ทันใดนั้น,ต้วนมู่ฉิงก็หยุดเท้า นางชี้ไปที่ต้นไม้ตรงหน้าและกล่าว “พวกเรามาถึงแล้ว บุปผาเหมันต์ลึกล้ําอยู่ที่ด้านหลังของต้นไม้ต้นนั้น อย่างไรก็ตาม มันมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 ค่อยเฝ้าเอาไว้ พวกเราจําเป็นต้องสังหารมันก่อนที่จะสามารถเก็บบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา”

สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7…ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทายาทผู้หนึ่งกล่าวออกมาอย่างไม่พึงพอใจ “ด้วนมู่ฉิง,ไม่ใช่ว่าเจ้าว่าบุปผาเหมันต์ลึกล้ําอยู่ที่ชายขอบของป่าน้ําหมึก? ทําไมมันถึงมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7? เจ้ากําลังเล่นเหมือนพวกเราเป็นคนโง่?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 311 อันตรายถึงตาย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 311 อันตรายถึงตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 311 อันตรายถึงตาย

คนที่นําพวกเขาเข้ามาหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าว “ตัวนมู่ฉิง,พวกเราไม่ได้อยู่บนราชวังเหมันต์ลึกล้ําอยู่ต่อไปแล้ว อย่าคิดว่าเจ้าจะสั่งพวกข้าได้อีกต่อไป ในเมื่อข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว,ไม่มีทางที่ ข้าจะกลับไปนําทางไปอย่างเชื่อฟัง, มิฉะนั้นอย่าหาว่าข้าหยามคาย”

“ปะ ปะ!”

หลังจากที่เขากล่าวจบ,คนทั้งยี่สิบคนข้างหลัง ของเขาก็ดึงอาวุธออกมา พวกเขาแสดงเจตนาฆ่าฟันตรงไปที่ต้วนมู่ฉิง

“บ้าบิน!” ต้วนมู่ฉิงกล่าวอย่างเย็นชา รูปแบบค่ายกลน้ําแข็งปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของคนทั้งสี่ด้านหลังของนาง ในไม่ช้า,ค่ายกลน้ําแข็งก็เชื่อมต่อกัน และขยายไปที่เท้าของต้วนมู่ฉิง

“บูม!”

กระแสพลังของตัวนมู่ฉิงเร่งขึ้นแบบไร้ขีดจํากัด,ทําให้คนอื่นๆรู้สึกว่านางอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง มันน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ผู้นําของคนยี่สิบคนกลายเป็นกังวล เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย เขารีบกล่าวขึ้น “โจมตี!”

“ชิ ชิ!”

ทันที่สิ้นเสียงของเขา,ลูกน้องของเขาห้าคนก็กลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งไปเรียบร้อยแล้ว

ตัวนมู่ฉิงดึงมือของนางกลับและกําหมัด “ปะ ปะ ปะ ปะ!” รูปปั้นน้ําแข็งทั้งหมดแตกสลายเป็นชิ้น,ถูกสังหารในทันที

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ในอตนที่ชิ้นน้ําแข็งร่วงหล่นลงพื้น,พวกมันก็แตกออกอีกครั้ง ศพที่ถูกห่อหุ้มด้วยน้ําแข็งแตกออกจากกัน ทายาททั้งห้าคนของราชสํานักหลวงหลาดกลัวจนหน้าซีด อาวุธในมือของพวกเขาสั่นสะท้าน

“ไสหัวไป!” ต้วนมู่ฉิงกล่าวอย่างเยือกเย็น

ด้วนมู่ฉิงได้สังหารระดับขอบเขตนักบุญสิบห้าคนภายในพริบตา ความแข็งแกร่งที่นางได้แสดงออกมาน่าหวาดกลัวเกินไป

แม้ว่าขอบเขตพลังของทั้งห้าคนจะอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง,แต่พวกเขาไม่ได้บรรลุถึงสภาวะ พวกเขาเพียงแข็งแกร่งกว่าระดับขอบเขตนักบุญทั่วไปเพียงเล็กน้อย เทียบกับอัจฉริยะที่แท้จริง,พวกเขาอ่อนด้อยกว่ามาก

เผชิญหน้ากับต้วนมู่ฉิงในตอนนี้, พวกเขาไม่มีทางชนะ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่พอใจที่ต้องจากออกไปเช่นนี้

ทายาทราชสํานักหลวงนํากลุ่มของเขามองไปที่ขุนนางกุยยี่ด้วยความไม่พอใจ คนผู้นี้คืออัจฉริยะแห่งราชสํานักหลวงอย่างแท้จริง เขาหวังว่า ขุนนางกุยยี่จะกล่าวอะไรช่วยพวกเขาบ้าง

ขุนนางกุยยี่ หยิงเซี่ยว,สวมชุดเกราะศึกสีทอง มีดาบยาวสองเมตรอยู่ที่ด้านหลังของเขา มันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์,ดาบผ่านภา ด้านหลังของเขามีผู้บ่มเพาะพลังอีกสี่คนที่แต่งกายในทํานองเดียวกัน

เมื่อขุนนางกุยยี่มองเห็นสายตาที่ตรงมาที่เขา,เขาเหลียวมองอย่างรวดเร็วและหันหนี ไปเขาเมินเฉย

เมื่อความหวังสุดท้ายหันหนีไป,พวกเขาทําได้ เพียงเก็บอาวุธและกลับออกไปอย่างช่วยไม่ได้

ด้วยการใช้ทักษะลับ,ความแข็งแกร่งของทั้งสี่คนถูกโอนย้ายไปทาตัวนมู่ฉิงอย่างสมบูรณ์ ทําให้พลังต่อสู้ของนางเร่งขึ้นไปถึงระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางในทันที

หมายคนรู้ถึงความลับเบื้องหลังความแข็งแกร่งของตัวนมู่ฉิง,แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับในพลังของนาง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ถึงความลับ แต่พวกเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกับต้วนมู่ฉิง

ต่อหน้าของพลังเบ็ดเสร็จ,ลูกไม้กลอุบายไร้ผล เซี่ยวเฉินได้สัมผัสมากับตัวจากกระแสพบังของปิงโห่ว

“นี่เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ในตอนที่พวกเราพบบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา,พวกคนที่คิดจะใช้ลูกไม้จะต้องคิดใหม่อีกครั้ง” หนึ่งในทายาทถอนหายใจออกมา

บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามีค่ามหาศาล ถึงแม้ว่ามันจะไม่มากค่าเท่ากับสมบัติลับหรือทักษะต่อสู้ระดับสูง,แต่มันจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้บ่มเพาะพลังธาตุน้ําแข็ง

ถึงตอนนั้น,อาจจะมีบางคนที่พยายามจะใช้จังหวะช่วงชุลมุนเพื่อฉวยเอาบุปผาเหมันต์ลึกล้ําไปวง

ตัวนมู่ฉิงลงโทษเหล่าทายาทสองสามคน เพราะความผิดเล็กน้อยโดยไม่มีความลังเล นางสังหารเพื่อเตือนถึงคนอื่น

เซี่ยวเฉินสงสัยว่าระดับขอบเขตนักบุญทั้งสามคนนี้ จะเป็นความตั้งใจของตระกูลต้วนมู่,พวกเขาจะเปิดโอกาสให้ตัวนมู่ฉิงสร้างอิทธิพลขึ้นมา

ตัวนมู่ฉิงไม่สนใจคําวิจารณ์ของทุกคน นางกล่าวด้วยเสียงนุ่ม “บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามีความสําคัญกับตระกูลต้วนมู่ของข้าอย่าวยิ่ง พวกเราได้รอคอยมานับร้อยปีแล้ว เมื่อข้าได้รับมันมา,ข้าจะเปิดซากนิกายหลเพลิงให้กับทุกคนในทันที”

แม่นางด้วนมู่,มั่นใจได้ พวกเขาไม่มีความสนใจ ในบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา เพียงแค่นําทางไป”

“ข้าเป็นผู้บ่มเพาะพลังธาตุไฟ บุปผาเหมันต์ ลึกล้ํามีแต่จะให้ผลร้าย ไม่จําเป็นต้องกังวล,แม่นางต้วนมู่”

“ใครก็ตามที่กล้าฉกฉวยบุปผาเหมันต์ลึกล้ําของแม่นางด้วนมู่ต้องเจอกับข้า ข้าจะช่วยเหลือเจ้าทําลายมันผู้นั้น”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว! ผู้ที่กล้าฉกฉวยบุปผาเหมันต์ลึกล้ําของแม่นางคือศัตรูของพวกเรา”

หลังจากที่ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวนมู่ฉิง,พวกเขาต่างสนับสนุนนาง,ให้คํามั่นว่าจะไม่แตะต้องบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดังนี้,เขาไม่ได้กล่าวอะไร หากจะมีการฉกฉวย,เดียวมันก็เกิดขึ้น คํามั่นไม่มีน้ําหนักอะไร

ตัวนมู่ฉิงกล่าว “ขอบคุณทุกท่าน, โปรดตามข้ามา!”

หลังจากที่ตัวนมู่ฉิงกล่าวจบ,นางนํากลุ่มคนเข้าไปยังป่าที่โหดร้าย มีต้นไม้สูงใหญ่มากมายอยู่ภายป่า,ที่มีกิ่งก้านใบมากมาย มันจะต้องใช้คนมากกว่าสองคนเพื่อโอบได้รอบต้นไม้

มีชั้นใบไม้และหญ้าสีดําอยู่ตามพื้น เมื่อกลุ่มคนเดินยำไป,พวกมันส่งเสียงกรอบแกรบไม่หยุดหย่อน

ไม่มีใครที่กล้าจะประมาทในป่าน้ําหมึกแห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดจดจ่อสังเกตการณ์โดยรอบอย่างละเอียด
“ฟุ ฟิว!”

ทันใดนั้น,งูสีดําที่ตัวหนาเท่ากับขาคนก็พุ่งขึ้นมาจากพื้น ร่างของมันเต็มไปด้วยฉีสีดํา มีโลหะแวววาวอยู่บนเกล็ดที่หนาแน่นของมัน

มันพุ่งมาจากด้านหลังและกัดเข้าที่หัวของผู้บ่มเพาะพลังคนหนึ่งในทันที มันเป็นเหมือนกับเส้นสายฟ้าสีดํามันเกิดขึ้นภายในพริบตา มันรวดเร็วจนไม่มีใครที่ตอบสนองได้ทัน

“ชิ! ชิ! ชิ! ชิ!”

ก่อนที่กลุ่มคนจะสังหารงูตัวนั้นลงได้ มีงูอีกหลายร้อยตัวพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนถูกจับโดยไม่รู้ตัวและโดนกัดจนตาย

มีบางคนที่ถูกกัดเข้าที่แขน พิษได้แพร่กระจายไปทั่วร่างของพวกเขาในทันที ผู้บ่มเพาะพลังที่ถูกกัดน้ําลายฟูปากและตกตายไปด้วยพิษ

เซี่ยวเฉินรีบเคลื่อนตัวกลับหลัง,หลบเลี่ยงการโจมตีจากงูสีดํา เขารีบชักกระบี่เงาจันทร์ออกมา จากนั้นเขาก็ส่งแสงสายฟ้าสีม่วงออกไปพร้อมกวาดฟัน

“เครั้ง! เครั้ง!”

คมกระบี่ซัดเข้าที่ผิวหนังของงูและส่งเสียงเหล็กกระทบออกมา เซียวเฉินทําได้เพียงทําให้เกล็ดของมันหลุดไปสองสามอัน

ช่างเป็นพลังป้องกันที่น่ากลัว พลังยี่สิบเปอร์เซ็นของข้าไม่อาจทําให้มันบาดเจ็บ เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเองอย่างตกตะลึง

งูสีดําตัวนั้นรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย ร่างกายส่วนบนของมันกระโดดขึ้นไปในอากาศและพุ่งไปที่เซี่ยวเฉินอย่างเกรี้ยวกราด ในตอนที่มันเปิดปากของมันออกมา มันเผยให้เห็นฟันที่น่ากลัว,เรื่องแสงแวววาว

สีหน้าของเซียวเฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขากวัดแกว่งกระบี่ของเขาอีกครั้ง,ใช่พลังเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นของเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม,ในครั้งนี้ เขาเล็งไปตรงจุดที่เกล็ดร่วงลงมา เขาสับมันตัวขาดครึ่งในทันที

“ฟุ ฟิว!”

ร่างกายส่วนบนของงูสีดํายังไม่ได้ตกตายลง มันแลบลิ้นออกมาและพุ่งไปที่หัวของเซียวเฉิน ความเร็วดุจสายฟ้า

“ตาย!”

เชี่ยวเฉินร้องตะโกนและกระบี่เงาจันทร์ของเขา เปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายฟ้าสีม่วง กระบี่แสงสีม่วงพลันเรืองขึ้นบนคมกระบี่ของเขา มันระเบิดงูสีดํากลายเป็นฝุ่นผงพร้อมกับเสียนงอันดัง

งูตัวนั้นกลายเป็นหมอกควันสีดํา ถึงตอนนี้ อันตรายของมันก็ยังไม่หมดลง เซียวเฉินส่งฝ่ามือจู่โจมออกไปและสลายฉีสีดํา

คนอื่นๆ ไม่ได้โชคดีอย่างเซี่ยวเฉิน ผู้บ่มเพาะพลังบางคนสับงสีดําขาดเป็นสองท่อน แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าพลังชีวิตของงูจะมากถึงเพียงนี้ ร่างส่วนบนของมันยังสามารถโจมตีต่อ,ทําให้พวกเขาต้องตกตายไปด้วยคมเขียวของง

ยังคงมีคนที่รับมือกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้อย่างง่ายดาย ขุนนางกุยยี่ยังไม่แม้แต่จะชักอาวุธออกมา เขาเพียงระเบิดพวกงูด้วยกําปั้นของเขา
โดยรอบของจีชางคงเติมเต็มไปด้วยดวงดาราระยิบระยับ พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ กระบี่ฉีที่แหลมคมนี้สามารถสับพวกงูขาดครึ่งได้อย่างง่ายดาย

ขณะดวงดาวระยิบระยับ,งูสีดําตกตาย ภายในเวลาสั้นๆ, มีงูสีเมากกว่าสิบตัวถูกสังหาร

ฮวาหยุนเฟยถือดาบสีแดงเอาไว้ในมือของเขา เขาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมและแทงดาบของเขาทะลุตัวงูสีดํา มีเสียง ซี่ ซี่ ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

งูสีดําถูกดูดพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ดูดกลืนพลังชีวิตเข้าไป,เรืองแสงสีแดงบนคมดาบยิ่งเจิดจ้า

ดาบของมู่เยียนเสวี่ยเคลื่อนไปด้วยความเร็วสูงสุดของมัน ภายในพริบตา,การโจมตีนับไม่ถ้วนถูกซัดออกไป งูสีดําถูกสับเป็นชิ้นนับไม่ถ้วนขณะที่มันกระโดดขึ้นไปในอากาศ

ทายาทของตระกูลหยานแห่งแคว้นซีเหอ,พี่ชายคนโตของหยานเชียนเหอ,ซัดฝ่ามือสีดํามหึมาออกไป มันจับงูสีดํานับไม่ถ้วนเอาไว้แน่น,พวกมันไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

ตัวนมู่ฉิงยิ่งง่ายดายกว่า นางไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ในตอนที่พวกงูสีดําเคลื่อเข้ามาใกล้แม่นางต้วนมู่,พวกมันร่อยๆกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้พวกนางทั้งห้าคน ผ่านไปอึดใจ,พวกมันแตกสลายเป็นชิ้นน้ํา แข็งเล็กๆ

เซี่ยวเฉินมองไปรอบๆ แต่เขาไม่พบฉู่ฉาวอวิ๋น เขามองขึ้นไปและพบว่าฉู่ฉาวอวิ๋นได้กระโดดขึ้นไปบนยอดต้นไม้สูงตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
มีรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าของฉู่ฉาวอวิ๋นขณะที่เขามองดูผู้ครเบื้องล่าง ราวกับว่ากําลังชมการแสดง

ในตอนที่งสีดําทั้งหมดถูกสังหาร,พวกเขานับจํานวนคนที่เหลืออยู่ พวกเขาพบว่ามียี่สิบคนเสียชีวิตไปจากการโจมตีระลอกแรก

นับรวมพวกคนที่ตกตายไปด้วยน้ํามือของต้วนมู่เฉิง,จํานวนของพวกเขาลดลงจากร้อยเหลือประมาณเจ็ดสิบหรือแปดสิบคน นับว่าเป็นการสูญเสียใหญ่หลวง

อย่างไรก็ตาม, คนเสียใหญ่ที่ตายเป็นคนรับใช้ที่เหล่าทายาทพามาด้วย เหล่าอัจฉริยะที่แท้จริงไม่แม้แต่จะได้รับรอยขีดข่วน

ความแข็งแกร่งของงูดําอยู่ที่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นกลาง นอกจากพวกมันจะมีจํานวนมาก แล้วมันยังมีพลังชีวิตที่สูง,พวกมันไม่ได้มีไพ่ตายอะไรอื่นอีก พวกมันยังไม่ได้เป็นภัยของคนกลุ่มนี้ที่แท้จริง

หลังจากพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง,ฝูงชนเดินทางต่อไปภายใต้การนําของต้วนมู่ฉิง

สัตว์อสูรปีศาจที่พวกเขาพบตลอดทางแข็งแกร่งขึ้น ไม่เหมือนจีชางคงและคนอื่นๆที่ บรรลุถึงสภาวะ,ทายาทคนอื่นเริ่มได้รับบาดเจ็บ

จํานวนของพวกเขาลดลงเหลือประมาณหกสิบคน ก่อนที่จะได้ไปถึงซากนิกายหลี่เพลิง,พวกเขาเหลือกันเพียงครึ่งนับจากตอนแรก มีบางคนที่อยากจะกลับออกไป,แต่การออกไปจากกลุ่มตอนนี้ก็มีแต่ไปมองหาความตาย

เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังมันโหดร้าย สถา นการณ์ในตอนนี้เป็นข้อพิสูจน์ ผู้ที่อ่อนแอหนือ โชคร้ายกลับกลายเป็นแท่นหินให้คนอื่นเห ยียบขึ้นไปในพริบตา,ถูกคนอื่นลืมเลือนไปอย่าง เย็นชา

ตัวอย่างที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาทําให้ เซี่ยวเฉินยิ่งแน่วแน่ เขาไม่อาจกลายเป็นแท่นหินให้คนอื่นเหยียบย่า

ทันใดนั้น,ต้วนมู่ฉิงก็หยุดเท้า นางชี้ไปที่ต้นไม้ตรงหน้าและกล่าว “พวกเรามาถึงแล้ว บุปผาเหมันต์ลึกล้ําอยู่ที่ด้านหลังของต้นไม้ต้นนั้น อย่างไรก็ตาม มันมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 ค่อยเฝ้าเอาไว้ พวกเราจําเป็นต้องสังหารมันก่อนที่จะสามารถเก็บบุปผาเหมันต์ลึกล้ํา”

สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7…ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทายาทผู้หนึ่งกล่าวออกมาอย่างไม่พึงพอใจ “ด้วนมู่ฉิง,ไม่ใช่ว่าเจ้าว่าบุปผาเหมันต์ลึกล้ําอยู่ที่ชายขอบของป่าน้ําหมึก? ทําไมมันถึงมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7? เจ้ากําลังเล่นเหมือนพวกเราเป็นคนโง่?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+