Immortal and Martial Dual Cultivation 280 กระบหรูขุย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 280 กระบหรูขุย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 280 กระบหรูขุย

ทุกที่ที่เซี่ยวเฉินเคลื่อนผ่าน,เขาทิ้งภาพติดตาเอาไว้ด้านหลัง ภาพติดตาค่อยๆจางหายหลังจากที่เวลาผ่านไป

“ข้าทะลุผ่านความเร็วเสียงได้จริงๆ!”

เซี่ยวเฉินหยุดเท้าและเผยรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากที่เขาขึ้นมาถึงความเร็วเสียง,ร่างของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกันอากาศ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นหายไปตามสายลมโดยไม่ก่อให้เกิดเสียดังสั่น

เซี่ยวเฉินหุบยิ้มและกล่าว “ผู้บ่มเพาะพลังทั่วไปจะขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียงได้ก็หลังจากที่ก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ รองเท้าก้าววายุทําให้ข้าขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียง ได้ขธที่ข้ายังอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ มันคุ้มค่ากับหินวิญญาณสองแสนก้อน”

“หากสภาวะแห่งสายลมของมู่หลงชงไม่พัฒนาไปมากกว่านี้ เช่นนั้นตอนนี้ข้าก็รวดเร็วกว่าเขาแล้ว ข้าไม่ตกเป็นรองเพราะความรวดเร็วของเขาอีกต่อไป”

โดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา,เซี่ยวเฉินทดสอบต่อว่าพลังปราณของเขาจะอยู่ได้นานถึงเพียงใดหากว่าเปิดใช้รอบเท้าก้าววายุแบบเต็มกําลัง

ผ่านไปสองชั่วโมง,เซี่ยวเฉินพบว่าพลังปราณของเขาลดลงไปไม่ถึงครึ่ง เขากล่าว “ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาที่จะรักษาความเร็วเอาไว้ถึงสี่ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม,ข้าก็ยังเสียพลังปราณไปกับอย่างอื่นในขณะที่ต่อสู้”

“ในการต่อสู้จริงข้าคงจะสามารถรักษาความเร็ว เอาไว้ได้สามชั่วโมงก็ไม่เลวนัก”

เซี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาถือไว้ในมือทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นและค่อยๆฟื้นฟูพลังปราณกลับมา

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง, เรืองแสงบนหินวิญญาณจางหายไป พลังปราณของเซียวฉันเติมกลับมาเต็มอีกครั้งก่อนที่เขาจะค่อยๆลุกขึ้น

เมื่อเซี่ยวเฉินมองไปที่ประตู,เขาประหลาดใจที่พบหยุนเข่อซิน ไม่รู้ว่านางมาตั้งแต่ตอนไหน เขารีบเดินออกไปต้อนรับนาง “ศิษย์พี่หยุน,ท่านมาหาข้ามีเรื่องอะไร?”

ประกายแสงความประหลาดใจในสายตาอันสงบนิ่งของนาง “เย่เฉิน,เจ้าทะลวงระดับอีกครั้งแล้ว?”

เซียวเฉินพยักหน้าและยิ้มขึ้น “อืม,ต้องขอบ คุณเม็ดยารวมปราณ มันช่วยให้ข้าประหยัดเวลาไปถึงสองเดือน”

ถึงแม้หากไม่มีเม็ดยารวมปราณ,ด้วยพรสวรรค์ของเซี่ยวเฉินและความเร็วของทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่ติดอยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นชั้นยอดสุดนานนัก

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ดีเยี่ยมที่ช่วยให้เซี่ยวเฉินประหยัดเวลาไปถึงสองเดือน สิ่งที่เซี่ยวเฉินขาดแคลนตอนนี้ก็รือเวลา

ท่าทีของหยุนเข่อซินกลับไปสงบอีกครั้ง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอะนละเอียดอ่อนของนาง นางกล่าว “ยินดีด้วยกับเจ้า ข้าผ่านมาจึงได้แวะ มาหาเจ้าในเมื่อเจ้ากําลังบ่มเพาะพลัง,ข้าก็จะไม่ขอรบกวน ข้าขอตัวก่อน!”

“รอก่อน!” เซี่ยวเฉินร้องเรียก

หยุนเข่อซินหันกลับมาและถามขึ้น “มีเรื่องอะไรรึ?”

เซี่ยวเฉินพยักหน้า “อืม,ข้าอยากจะขอให้เจ้า ช่วยข้าในการทดสอบพลังป้องกันของสมบัติของลับ ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่ของเจ้ากับข้า”

จี้หยกนั้นแตกต่างจากรองเท้าก้าววายุ มันเป็นสมบัติลับป้องกัน เซี่ยวเฉินไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถทดสอบมันได้ด้วยตัวเอง เขาจะต้องมีคนอื่นมาช่วย

หยุนเข่อซินยุแหย่ “เจ้าจึงอยากจะขอแรงข้า ข้าก็คิดว่าจะมีเรื่องสําคัญอะไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าไม่ทําอะไรฟรีๆ”

เซี่ยวเฉินอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เขาพบว่าหลังจากที่เขาคุ้นเคยกับหยุนเข่อซิน,นางไม่ได้เย็นชา แบบที่นางแสดงออกมา นางยังมีด้านที่น่ารักและซุกซน

อย่างไรก็ตาม ยิ่งรู้จักธาตุแท้ของหยุนเข่อซิน,เซี่ยวเฉินพบว่าตอบโต้กับนางได้ง่ายขึ้น เขากล่าว “เม็ดยารวมปราณหนึ่งเม็ดเป็นเช่นไร?”

หยุนเข่อซินหัวเราะ,ใบหน้าของนางสดใสราวกับบุปผา นางกล่าว “ข้าเพียงล้อเจ้าเล่น เตรียมพร้อมแล้วใช่หรือไม่? ข้าได้ยินมาว่ามันสามารถรับการโจมตีเต็มกําลังของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางชั้นยอดสุดได้ ดังนั้นข้าจําเป็นต้องใส่เต็มแรง”

เซี่ยวเฉินหยิบเอาจี้หยกออกมาวางเอาไว้ที่หน้าอก เขารู้สึกสดชื่นขึ้นในทันที
เหมือนกับรองเท้าก้าววายุ,รูปแบบค่ายกลภายในเชื่อมต่อกับจิตของเซียวเฉิน

มันสะดวกในการเปิดใช้เป็นอย่างมาก หลักจากที่เซี่ยวเฉินปรับตัวแล้ว สีหน้าระมัดระวังปรากฎขึ้นมาพร้อมกับกล่าวขึ้น “มา! ข้าพร้อมแล้ว!”

หยุนเข่อซินมีความนิ่งสงบพร้อมกับเข้าสู่สภาวะเยือกเย็น นางค่อยๆดึงอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ กระบี่มังกรคํารนออกมา กระบี่ฉายแสงออกมาภายใต้แสงอาทิตย์

กระแสพลังของหยุนเข่อซินเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และสายตานิ่งสงบของนางหลายเป็นเฉียบคมราวกับคมกระบี่ กระบี่ในมือของนางเริ่มสั่นเพิ่ม

เสียงของกระบี่กําลังสั่นสะเทือนจากอ่อนนุ่มเริ่มดังขึ้น มันสั่นสะเทือนถึงก้องไปโดยรอบ ระลอกคลื่นขยายไปในอากาศ, เกิดเป็นสายลมรุนแรงขึ้นมา

“บูม!”

เสียงเซ็งแซ่อันไร้ที่สิ้นสุดผสานเข้าด้วยกันเกิดเป็นเสียงเดียว,ทะยานขึ้นสู่เก้าสวรรค์

มันสลายหมู่เมฆที่อยู่บนท้องฟ้า ปราศจากเมฆคอยบดบังแสงอาทิตย์สาดสว่างลงมา มันเจิดจ้า และแสบตาเป็นอย่างยิ่ง

กระแสพลังของหยุนเข่อซินในที่สุดก็ขึ้นมาถึงขีดสุดและกลายไปเป็นกระบี่คม นางยิ่งมันออกไปที่เซี่ยวเฉินและร่างของนางวูบผ่านอากาศพร้อมกับนางส่งตัวเองไปที่เซี่ยวเฉิน

หยุนเข่อซินไม่แสดงความปราณีแม้แต่น้อย ขณะที่เซี่ยวเฉินมองดูหยุนเข่อซินที่ส่งการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของนางออกมา,โล่โปร่งใสล้อมรอบตัวของเขาเอาไว้

“ปัง!”

อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ซัดเข้าที่สมบัติลับป้องกันเกิดเป็นเสียงดัง โล่แสงกระเพื่อมขึ้นราวกับผิวน้ํา

เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่อยู่ด้านหลังโล่,รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่ง เขาถอยกลับไปสองก้าวแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

กลับกัน,หยุนเข่อซินถูกซัดด้วยแรงสะท้อนของ โล่พลังและถอยกลับไปหลายก้าว สีหน้าของนางซีดขาว,ราวกับถูกสูบเลือดออกไป

เซี่ยวเฉินรับถอนโล่พลังอย่างรวดเร็วและรีบตรงเข้าไปหา เขาถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “เจ้าเป็นเช่นไร? มันเป็นแค่การทดสอบ,เจ้าไม่จําเป็นต้องพยายามถึงเพียงนี้”

หยุนเข่อซินไม่ได้ตอบกลับเซียวเฉินในทันที นางควบคุมฉีและโลหิตที่กําลังปั่นป่วน

ผ่านไปครู่หนึ่ง,สีหน้าของหยุนเข่อซินเริ่มกลับมา จากนั้น,นางเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมกับกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร ในเมื่อมันเป็นการทดสอบ,ข้าต้องทําให้เต็มที่ เช่นนั้น เจ้าจะได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของมัน ในอนาคต ในตอนที่เจ้าประมือกับผู้คน,เจ้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกกังวล”

หยุนเข่อซินหยุกไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อ “ข้าได้ใช้ทักษะกระบี่ทํานองสวรรค์และผนวกเข้ากับอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ การโจมตีเต็มกําลังของข้าเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น โล่แสงไม่มีท่าทีจะแตกสลายในตอนที่ข้าซัดลงไป มันน่าจะสามารถรับการโจมตีของระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลางได้”

อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์สามารถเร่งพลัง โจมตีของหยุนเข่อซินขึ้นมาได้ถึงร้อยละห้าสิบ นอกจากนั้น มันยังเร่งพลังของทักษะกระบี่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน พลังโจมตีของหยุนเข่อซินเป็นไปตามที่นางกล่าว,เทียบเท่ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น

เซี่ยวเฉินหยิบเอาเม็ดยารวมปราณออกมาและโยนให้กับหยุนเข่อซิน”ขอบใจมาก!”

หยุนเข่อซินยื่นมือของนางออกไปรับเอาเม็ดยารวมปราณ นางยิ้มและกล่าวขึ้น”ข้าเพิ่งค้นพบในวันนี้ว่าการโจมตีเต็มกําลังของข้าจะมีค่าถึงเพียงนี้ มันสามารถใช้แลกเปลี่ยนกับเม็ดยารวมปราณที่มีมูลค่ากว่าสามหมื่นหินวิญญาณระดับต่ํา

ดูเหมือนว่าข้าควรจะมาหาเจ้าทุกครั้งที่ข้ามีเวลา ไม่กี่วันข้าก็รวยแล้ว”

เซี่ยวเฉินเหงื่อตกในใจพร้อมกับยิ้มอ่อน “เช่นนั้น,ไม่กี่วันข้าก็กลายเป็นยาจก”

พวกเขาทั้งสองมองกันไปมาแล้วก็หัวเราะ พวกเขาพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งและต้องหยุดลง เพราะมีคนจากตระกูลหยุนเรียกหาหยุนเข่อซิน

หลังจากที่หยุนจากไป เซียวเฉินพยายามใช้ ที่หน้าอกของเขา อย่างไรก็ตาม,เขาไม่สามาร ถเริ่มต่อกับมันได้ เป็นไปตามที่ศาลาหลินหลางกล่าว,มันสามารถใช้ได้วันละครั้ง

หลังจากที่พักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินหยิบเอาอาหารแห้งออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล หลังจากกินเสร็จ,เขาหยิบตําราทักษะสายฟ้าระดับสูงออกมา,ทักษะกระบหรู

ทักษะกระบหรูขุยมีทั้งหมดเก้ากระบวณท่า มันเป็นทักษะต่อสู้ประเภทสายฟ้า เดิมทีมันเป็นทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์จากยุคโบราณ ในภายหลัง,มีคนเติมเต็มในส่วนที่ไม่สมบูรณ์และกลับกลายเป็นอ่อนพลังลงกว่าแต่ก่อน

ที่จริงแล้ว,ทักษะต่อสู้มากมายในทวีปเทียนหรูล้วนตกทอดมาจากยุคโบราณ มีเพียงส่วนน้อยที่สร้างขึ้นมาภายหลังยุคโบราณ

การแก้ไขทักษะต่อสู้โบราณและเพิ่มความเข้าใจของตัวเองลงไปเป็นวิธีหนึ่งที่จะได้รับ ทักษะต่อสู้มา อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้หายากกว่าสองวิธีก่อนหน้า

เหตุผลเป็นที่ชัดเจน ทักษะต่อสู้ที่ถูกแก้ไขจะเป็นทักษะต่อสู้ที่ไม่สมบูรณ์ การแก้ไขทักษะต่อสู้ยากเย็นกว่าการสืบทอดหรือสร้างขึ้นมาใหม่

นอกจากนั้น เพื่อที่จะผสานความเข้าใจอย่างถ่องแท้และทําให้มันกลมกลืนยากเสียยิ่งกว่า สองเหตุผลนี้รวมกันทําให้ทักษะต่อสู้ประเภทนี้หายากเป็นอย่างยิ่ง

เซี่ยวเฉินอ่านตําราทักษะกระบี่หวี่ขยอย่างละเอียดภายใต้แสงอาทิตย์จ้า หลังจากที่เปิดอ่าน,เขาก็จมลึกไปกับมัน เขาอ่านต่อไปเรื่อยๆจนถึงมืดค่ํา,จนถึงตอนนี้,เขาได้อ่านจนเกือบจบแล้ว

เซี่ยวเฉินปิดตําราลง,เขารู้สึกเร้าร้อนอย่างมาก พร้อมกับพึมพํา “ผู้ที่แก้ไขมันเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่เขาจะเข้าใจถึงผู้คนในยุคโบราณ,เขายังแก่จุดผิดพลาดบางจุดคนผู้นั้นจับ ความแข้าใจของเขาและปัญญาของคนยุคโบราณมาผสานเข้าด้วยกัน”

“หากคนผู้นี้ไม่ได้รับมาเพียงตําราสําเนาที่ไม่สมบูรณ์,พลังของทักษะกระบี่หรูขุยนี้อาจจะเทียบเท่าได้กับต้นฉบับ”

เมื่อเซี่ยวเฉินกําลังจะปิดตํารา,เขาสังเกตเห็นข้อความเลือนลางที่หน้าสุดท้ายโดยบังเอิญ ข้อความบรรทัดนี้เขียนด้วยอักษรโบราณ,ที่มันเหมือนกับตัวอักษรจีนดั้งเดิมในโลกก่อนของเขา

เป็นเพราะมันเลือนลางและยังเขียนด้วยตัวอักษรจีนดั้งเดิมของโลกเก่า,คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้สังเกตเห็น

เซี่ยวเฉินอ่านมันออกมาช้าๆ “ตําราของเดิมไม่ชัดเจน ซังมู่ได้แก้ไขใหม่ในปี 689 ของอาณาจักรต้าฉิน หากมันมีอะไรขาดหาย,คนรุ่นต่อไปโปรดชี้มันออกมา”

จักรพรรดิอัสนีซังมู่! “

หลังจากที่เซี่ยวเฉินอ่านข้อความบรรทัดนี้ เขาตกตะลึงนิ่งอึ้ง คนที่แก่ไขตําราทักษะต่อสู้เล่มนี้ก็ คือจักรพรรดิอัสนีซังมู่ หากเขานึกย้อนไปถูกต้อง,ในปี 689 ของอาณาจักรต้าฉิน,จักรพรรดิอัสนีอายุได้เพียงยี่สิบปี”

เขามีพรสวรรค์ที่น่ากลัวเพียงนี้ในตอนอายุยี่สิบปี,ทําสําเร็จในสิ่งที่ผู้อื่นไม่อาจทําได้ตลอดหนึ่งร้อยปี จักรพรรดิอัสนีมีพรสวรรค์ไร้เทียมทานถึงเพียงใดในหนึ่งพันปีก่อน?”

ความคิดของเซี่ยวเฉินโลดแล่น เขาคิดถึงโชคชะตาของเขากับคนผู้นี้ ในอดีต, ในตอนที่จักรพรรดิอัสนี้สอนเขาถึงต้นกําเนิดปัญญายุทธรูปแบบแปรลักษณ์,เขากล่าวออกมาเพียงประโยคเดียวะหนึ่งกระบวณท่าล้างพันทักษะ, หนึ่งฉีสั่นสะเทือนโลกา

น่าเสียดาย,พรสวรรค์ของเซี่ยวเฉินต่ําต้อย,แม้ว่าจนถึงวันนี้ เขายังไม่เข้าใจถึงประโยคนั้นอย่างสมบูรณ์ สําหรับต้นกําเนิดปัญญายุทธที่เลียนแบบทักษะยังมีอีกมากที่เขาต้องปรับปรุง

เมื่อเซี่ยวเฉินครุ่นคิดเกี่ยวกับจักรพรรดิอัสนี,เขานึกถึงคําสัญญานั้นขึ้นมาอีกครั้ง อย่า ปล่อยให้นางต้องร้องไห้ สายตาของเขามองลงไปที่กระบี่เงาจันทร์และเขาพยักหน้าอย่างตั้งมั่น

รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซียวเฉินเก็บตําราทักษะกระบหรูขุยกลับไปในแหวนห้วงจักรวาล จากนั้นเขาก็เริ่มเตรียมพร้อมที่จะฝึกฝนทักษะกระบี่หวู่ขุย

ทักษะกระบหวู่ขุยมีทั้งหมดเก้ากระบวณท่า สามท่าแรกเป็นพื้นฐาน,พวกมันเป็นชั้นรากฐานของทักษะกระบี่หวู่ขุย เพื่อที่จะฝึกฝนอีกหกกระบวณท่า,จะต้องบรรลุถึงกระบวณท่าพื้นฐานอย่างถ่องแท้เป็นอันบดับ

กระบวณท่าที่สี่ถึงหกเป็นกระบวณท่าฆ่าฟัน หลังจากที่ใช้ออก,มันจะทําให้คู่ต่อสู้ถูกดันเข้าจนมุม กระบวณท่าที่เจ็ดถึงเก้าเป็นกระบวณท่าปลิดชีพ อย่างที่บอกเป็นนัย,จังหวะกระบวณท่าปลิดชีพใช้ออก,คู่ต่อสู้ตกตายอย่างแน่นอน

แน่นอน มันเป็นสิ่งที่อธิบายเอาไว้,ที่เรียกว่า”ปลิดชีพ” มันไม่ได้หมายความว่าคู่ต่อสู้จะต้องตกตายลงอย่างแน่นอน มันเป็นเพียงแนวคิด

เซี่ยวเฉินวางมือขวาของเขาลงบนด้ามกระบี่ และหลับตาลง จิตใจของเขานิ่งสงบพร้มอกับเข้าสู่สภาวะแห่งบรรลุสงบนิ่ง

ไม่รู้ว่าเวลาไหลผ่านไปนานถึงเพียงใดแต่ท้องฟ้าได้มืดสนิทลงแล้ว ไม่มีแสงจันทร์ฉายลงมาใน คืนนี้ที่ลานปกคลุมไปด้วยความมืด เมื่อยื่นมืออกมา,ไม่อาจมองเห็นนิ้วของตัวเองได้ ที่ลานเล็กแห่งนี้เงียบสนิท

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 280 กระบหรูขุย

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 280 กระบหรูขุย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 280 กระบหรูขุย

ทุกที่ที่เซี่ยวเฉินเคลื่อนผ่าน,เขาทิ้งภาพติดตาเอาไว้ด้านหลัง ภาพติดตาค่อยๆจางหายหลังจากที่เวลาผ่านไป

“ข้าทะลุผ่านความเร็วเสียงได้จริงๆ!”

เซี่ยวเฉินหยุดเท้าและเผยรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากที่เขาขึ้นมาถึงความเร็วเสียง,ร่างของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกันอากาศ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นหายไปตามสายลมโดยไม่ก่อให้เกิดเสียดังสั่น

เซี่ยวเฉินหุบยิ้มและกล่าว “ผู้บ่มเพาะพลังทั่วไปจะขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียงได้ก็หลังจากที่ก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ รองเท้าก้าววายุทําให้ข้าขึ้นไปถึงระดับความเร็วเสียง ได้ขธที่ข้ายังอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ มันคุ้มค่ากับหินวิญญาณสองแสนก้อน”

“หากสภาวะแห่งสายลมของมู่หลงชงไม่พัฒนาไปมากกว่านี้ เช่นนั้นตอนนี้ข้าก็รวดเร็วกว่าเขาแล้ว ข้าไม่ตกเป็นรองเพราะความรวดเร็วของเขาอีกต่อไป”

โดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา,เซี่ยวเฉินทดสอบต่อว่าพลังปราณของเขาจะอยู่ได้นานถึงเพียงใดหากว่าเปิดใช้รอบเท้าก้าววายุแบบเต็มกําลัง

ผ่านไปสองชั่วโมง,เซี่ยวเฉินพบว่าพลังปราณของเขาลดลงไปไม่ถึงครึ่ง เขากล่าว “ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาที่จะรักษาความเร็วเอาไว้ถึงสี่ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม,ข้าก็ยังเสียพลังปราณไปกับอย่างอื่นในขณะที่ต่อสู้”

“ในการต่อสู้จริงข้าคงจะสามารถรักษาความเร็ว เอาไว้ได้สามชั่วโมงก็ไม่เลวนัก”

เซี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับต่ําออกมาถือไว้ในมือทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นและค่อยๆฟื้นฟูพลังปราณกลับมา

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง, เรืองแสงบนหินวิญญาณจางหายไป พลังปราณของเซียวฉันเติมกลับมาเต็มอีกครั้งก่อนที่เขาจะค่อยๆลุกขึ้น

เมื่อเซี่ยวเฉินมองไปที่ประตู,เขาประหลาดใจที่พบหยุนเข่อซิน ไม่รู้ว่านางมาตั้งแต่ตอนไหน เขารีบเดินออกไปต้อนรับนาง “ศิษย์พี่หยุน,ท่านมาหาข้ามีเรื่องอะไร?”

ประกายแสงความประหลาดใจในสายตาอันสงบนิ่งของนาง “เย่เฉิน,เจ้าทะลวงระดับอีกครั้งแล้ว?”

เซียวเฉินพยักหน้าและยิ้มขึ้น “อืม,ต้องขอบ คุณเม็ดยารวมปราณ มันช่วยให้ข้าประหยัดเวลาไปถึงสองเดือน”

ถึงแม้หากไม่มีเม็ดยารวมปราณ,ด้วยพรสวรรค์ของเซี่ยวเฉินและความเร็วของทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่ติดอยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นชั้นยอดสุดนานนัก

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ดีเยี่ยมที่ช่วยให้เซี่ยวเฉินประหยัดเวลาไปถึงสองเดือน สิ่งที่เซี่ยวเฉินขาดแคลนตอนนี้ก็รือเวลา

ท่าทีของหยุนเข่อซินกลับไปสงบอีกครั้ง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอะนละเอียดอ่อนของนาง นางกล่าว “ยินดีด้วยกับเจ้า ข้าผ่านมาจึงได้แวะ มาหาเจ้าในเมื่อเจ้ากําลังบ่มเพาะพลัง,ข้าก็จะไม่ขอรบกวน ข้าขอตัวก่อน!”

“รอก่อน!” เซี่ยวเฉินร้องเรียก

หยุนเข่อซินหันกลับมาและถามขึ้น “มีเรื่องอะไรรึ?”

เซี่ยวเฉินพยักหน้า “อืม,ข้าอยากจะขอให้เจ้า ช่วยข้าในการทดสอบพลังป้องกันของสมบัติของลับ ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่ของเจ้ากับข้า”

จี้หยกนั้นแตกต่างจากรองเท้าก้าววายุ มันเป็นสมบัติลับป้องกัน เซี่ยวเฉินไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถทดสอบมันได้ด้วยตัวเอง เขาจะต้องมีคนอื่นมาช่วย

หยุนเข่อซินยุแหย่ “เจ้าจึงอยากจะขอแรงข้า ข้าก็คิดว่าจะมีเรื่องสําคัญอะไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าไม่ทําอะไรฟรีๆ”

เซี่ยวเฉินอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เขาพบว่าหลังจากที่เขาคุ้นเคยกับหยุนเข่อซิน,นางไม่ได้เย็นชา แบบที่นางแสดงออกมา นางยังมีด้านที่น่ารักและซุกซน

อย่างไรก็ตาม ยิ่งรู้จักธาตุแท้ของหยุนเข่อซิน,เซี่ยวเฉินพบว่าตอบโต้กับนางได้ง่ายขึ้น เขากล่าว “เม็ดยารวมปราณหนึ่งเม็ดเป็นเช่นไร?”

หยุนเข่อซินหัวเราะ,ใบหน้าของนางสดใสราวกับบุปผา นางกล่าว “ข้าเพียงล้อเจ้าเล่น เตรียมพร้อมแล้วใช่หรือไม่? ข้าได้ยินมาว่ามันสามารถรับการโจมตีเต็มกําลังของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางชั้นยอดสุดได้ ดังนั้นข้าจําเป็นต้องใส่เต็มแรง”

เซี่ยวเฉินหยิบเอาจี้หยกออกมาวางเอาไว้ที่หน้าอก เขารู้สึกสดชื่นขึ้นในทันที
เหมือนกับรองเท้าก้าววายุ,รูปแบบค่ายกลภายในเชื่อมต่อกับจิตของเซียวเฉิน

มันสะดวกในการเปิดใช้เป็นอย่างมาก หลักจากที่เซี่ยวเฉินปรับตัวแล้ว สีหน้าระมัดระวังปรากฎขึ้นมาพร้อมกับกล่าวขึ้น “มา! ข้าพร้อมแล้ว!”

หยุนเข่อซินมีความนิ่งสงบพร้อมกับเข้าสู่สภาวะเยือกเย็น นางค่อยๆดึงอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ กระบี่มังกรคํารนออกมา กระบี่ฉายแสงออกมาภายใต้แสงอาทิตย์

กระแสพลังของหยุนเข่อซินเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และสายตานิ่งสงบของนางหลายเป็นเฉียบคมราวกับคมกระบี่ กระบี่ในมือของนางเริ่มสั่นเพิ่ม

เสียงของกระบี่กําลังสั่นสะเทือนจากอ่อนนุ่มเริ่มดังขึ้น มันสั่นสะเทือนถึงก้องไปโดยรอบ ระลอกคลื่นขยายไปในอากาศ, เกิดเป็นสายลมรุนแรงขึ้นมา

“บูม!”

เสียงเซ็งแซ่อันไร้ที่สิ้นสุดผสานเข้าด้วยกันเกิดเป็นเสียงเดียว,ทะยานขึ้นสู่เก้าสวรรค์

มันสลายหมู่เมฆที่อยู่บนท้องฟ้า ปราศจากเมฆคอยบดบังแสงอาทิตย์สาดสว่างลงมา มันเจิดจ้า และแสบตาเป็นอย่างยิ่ง

กระแสพลังของหยุนเข่อซินในที่สุดก็ขึ้นมาถึงขีดสุดและกลายไปเป็นกระบี่คม นางยิ่งมันออกไปที่เซี่ยวเฉินและร่างของนางวูบผ่านอากาศพร้อมกับนางส่งตัวเองไปที่เซี่ยวเฉิน

หยุนเข่อซินไม่แสดงความปราณีแม้แต่น้อย ขณะที่เซี่ยวเฉินมองดูหยุนเข่อซินที่ส่งการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของนางออกมา,โล่โปร่งใสล้อมรอบตัวของเขาเอาไว้

“ปัง!”

อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ซัดเข้าที่สมบัติลับป้องกันเกิดเป็นเสียงดัง โล่แสงกระเพื่อมขึ้นราวกับผิวน้ํา

เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่อยู่ด้านหลังโล่,รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่ง เขาถอยกลับไปสองก้าวแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

กลับกัน,หยุนเข่อซินถูกซัดด้วยแรงสะท้อนของ โล่พลังและถอยกลับไปหลายก้าว สีหน้าของนางซีดขาว,ราวกับถูกสูบเลือดออกไป

เซี่ยวเฉินรับถอนโล่พลังอย่างรวดเร็วและรีบตรงเข้าไปหา เขาถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “เจ้าเป็นเช่นไร? มันเป็นแค่การทดสอบ,เจ้าไม่จําเป็นต้องพยายามถึงเพียงนี้”

หยุนเข่อซินไม่ได้ตอบกลับเซียวเฉินในทันที นางควบคุมฉีและโลหิตที่กําลังปั่นป่วน

ผ่านไปครู่หนึ่ง,สีหน้าของหยุนเข่อซินเริ่มกลับมา จากนั้น,นางเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมกับกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร ในเมื่อมันเป็นการทดสอบ,ข้าต้องทําให้เต็มที่ เช่นนั้น เจ้าจะได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของมัน ในอนาคต ในตอนที่เจ้าประมือกับผู้คน,เจ้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกกังวล”

หยุนเข่อซินหยุกไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อ “ข้าได้ใช้ทักษะกระบี่ทํานองสวรรค์และผนวกเข้ากับอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ การโจมตีเต็มกําลังของข้าเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น โล่แสงไม่มีท่าทีจะแตกสลายในตอนที่ข้าซัดลงไป มันน่าจะสามารถรับการโจมตีของระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลางได้”

อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์สามารถเร่งพลัง โจมตีของหยุนเข่อซินขึ้นมาได้ถึงร้อยละห้าสิบ นอกจากนั้น มันยังเร่งพลังของทักษะกระบี่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน พลังโจมตีของหยุนเข่อซินเป็นไปตามที่นางกล่าว,เทียบเท่ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น

เซี่ยวเฉินหยิบเอาเม็ดยารวมปราณออกมาและโยนให้กับหยุนเข่อซิน”ขอบใจมาก!”

หยุนเข่อซินยื่นมือของนางออกไปรับเอาเม็ดยารวมปราณ นางยิ้มและกล่าวขึ้น”ข้าเพิ่งค้นพบในวันนี้ว่าการโจมตีเต็มกําลังของข้าจะมีค่าถึงเพียงนี้ มันสามารถใช้แลกเปลี่ยนกับเม็ดยารวมปราณที่มีมูลค่ากว่าสามหมื่นหินวิญญาณระดับต่ํา

ดูเหมือนว่าข้าควรจะมาหาเจ้าทุกครั้งที่ข้ามีเวลา ไม่กี่วันข้าก็รวยแล้ว”

เซี่ยวเฉินเหงื่อตกในใจพร้อมกับยิ้มอ่อน “เช่นนั้น,ไม่กี่วันข้าก็กลายเป็นยาจก”

พวกเขาทั้งสองมองกันไปมาแล้วก็หัวเราะ พวกเขาพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งและต้องหยุดลง เพราะมีคนจากตระกูลหยุนเรียกหาหยุนเข่อซิน

หลังจากที่หยุนจากไป เซียวเฉินพยายามใช้ ที่หน้าอกของเขา อย่างไรก็ตาม,เขาไม่สามาร ถเริ่มต่อกับมันได้ เป็นไปตามที่ศาลาหลินหลางกล่าว,มันสามารถใช้ได้วันละครั้ง

หลังจากที่พักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินหยิบเอาอาหารแห้งออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล หลังจากกินเสร็จ,เขาหยิบตําราทักษะสายฟ้าระดับสูงออกมา,ทักษะกระบหรู

ทักษะกระบหรูขุยมีทั้งหมดเก้ากระบวณท่า มันเป็นทักษะต่อสู้ประเภทสายฟ้า เดิมทีมันเป็นทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์จากยุคโบราณ ในภายหลัง,มีคนเติมเต็มในส่วนที่ไม่สมบูรณ์และกลับกลายเป็นอ่อนพลังลงกว่าแต่ก่อน

ที่จริงแล้ว,ทักษะต่อสู้มากมายในทวีปเทียนหรูล้วนตกทอดมาจากยุคโบราณ มีเพียงส่วนน้อยที่สร้างขึ้นมาภายหลังยุคโบราณ

การแก้ไขทักษะต่อสู้โบราณและเพิ่มความเข้าใจของตัวเองลงไปเป็นวิธีหนึ่งที่จะได้รับ ทักษะต่อสู้มา อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้หายากกว่าสองวิธีก่อนหน้า

เหตุผลเป็นที่ชัดเจน ทักษะต่อสู้ที่ถูกแก้ไขจะเป็นทักษะต่อสู้ที่ไม่สมบูรณ์ การแก้ไขทักษะต่อสู้ยากเย็นกว่าการสืบทอดหรือสร้างขึ้นมาใหม่

นอกจากนั้น เพื่อที่จะผสานความเข้าใจอย่างถ่องแท้และทําให้มันกลมกลืนยากเสียยิ่งกว่า สองเหตุผลนี้รวมกันทําให้ทักษะต่อสู้ประเภทนี้หายากเป็นอย่างยิ่ง

เซี่ยวเฉินอ่านตําราทักษะกระบี่หวี่ขยอย่างละเอียดภายใต้แสงอาทิตย์จ้า หลังจากที่เปิดอ่าน,เขาก็จมลึกไปกับมัน เขาอ่านต่อไปเรื่อยๆจนถึงมืดค่ํา,จนถึงตอนนี้,เขาได้อ่านจนเกือบจบแล้ว

เซี่ยวเฉินปิดตําราลง,เขารู้สึกเร้าร้อนอย่างมาก พร้อมกับพึมพํา “ผู้ที่แก้ไขมันเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่เขาจะเข้าใจถึงผู้คนในยุคโบราณ,เขายังแก่จุดผิดพลาดบางจุดคนผู้นั้นจับ ความแข้าใจของเขาและปัญญาของคนยุคโบราณมาผสานเข้าด้วยกัน”

“หากคนผู้นี้ไม่ได้รับมาเพียงตําราสําเนาที่ไม่สมบูรณ์,พลังของทักษะกระบี่หรูขุยนี้อาจจะเทียบเท่าได้กับต้นฉบับ”

เมื่อเซี่ยวเฉินกําลังจะปิดตํารา,เขาสังเกตเห็นข้อความเลือนลางที่หน้าสุดท้ายโดยบังเอิญ ข้อความบรรทัดนี้เขียนด้วยอักษรโบราณ,ที่มันเหมือนกับตัวอักษรจีนดั้งเดิมในโลกก่อนของเขา

เป็นเพราะมันเลือนลางและยังเขียนด้วยตัวอักษรจีนดั้งเดิมของโลกเก่า,คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้สังเกตเห็น

เซี่ยวเฉินอ่านมันออกมาช้าๆ “ตําราของเดิมไม่ชัดเจน ซังมู่ได้แก้ไขใหม่ในปี 689 ของอาณาจักรต้าฉิน หากมันมีอะไรขาดหาย,คนรุ่นต่อไปโปรดชี้มันออกมา”

จักรพรรดิอัสนีซังมู่! “

หลังจากที่เซี่ยวเฉินอ่านข้อความบรรทัดนี้ เขาตกตะลึงนิ่งอึ้ง คนที่แก่ไขตําราทักษะต่อสู้เล่มนี้ก็ คือจักรพรรดิอัสนีซังมู่ หากเขานึกย้อนไปถูกต้อง,ในปี 689 ของอาณาจักรต้าฉิน,จักรพรรดิอัสนีอายุได้เพียงยี่สิบปี”

เขามีพรสวรรค์ที่น่ากลัวเพียงนี้ในตอนอายุยี่สิบปี,ทําสําเร็จในสิ่งที่ผู้อื่นไม่อาจทําได้ตลอดหนึ่งร้อยปี จักรพรรดิอัสนีมีพรสวรรค์ไร้เทียมทานถึงเพียงใดในหนึ่งพันปีก่อน?”

ความคิดของเซี่ยวเฉินโลดแล่น เขาคิดถึงโชคชะตาของเขากับคนผู้นี้ ในอดีต, ในตอนที่จักรพรรดิอัสนี้สอนเขาถึงต้นกําเนิดปัญญายุทธรูปแบบแปรลักษณ์,เขากล่าวออกมาเพียงประโยคเดียวะหนึ่งกระบวณท่าล้างพันทักษะ, หนึ่งฉีสั่นสะเทือนโลกา

น่าเสียดาย,พรสวรรค์ของเซี่ยวเฉินต่ําต้อย,แม้ว่าจนถึงวันนี้ เขายังไม่เข้าใจถึงประโยคนั้นอย่างสมบูรณ์ สําหรับต้นกําเนิดปัญญายุทธที่เลียนแบบทักษะยังมีอีกมากที่เขาต้องปรับปรุง

เมื่อเซี่ยวเฉินครุ่นคิดเกี่ยวกับจักรพรรดิอัสนี,เขานึกถึงคําสัญญานั้นขึ้นมาอีกครั้ง อย่า ปล่อยให้นางต้องร้องไห้ สายตาของเขามองลงไปที่กระบี่เงาจันทร์และเขาพยักหน้าอย่างตั้งมั่น

รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซียวเฉินเก็บตําราทักษะกระบหรูขุยกลับไปในแหวนห้วงจักรวาล จากนั้นเขาก็เริ่มเตรียมพร้อมที่จะฝึกฝนทักษะกระบี่หวู่ขุย

ทักษะกระบหวู่ขุยมีทั้งหมดเก้ากระบวณท่า สามท่าแรกเป็นพื้นฐาน,พวกมันเป็นชั้นรากฐานของทักษะกระบี่หวู่ขุย เพื่อที่จะฝึกฝนอีกหกกระบวณท่า,จะต้องบรรลุถึงกระบวณท่าพื้นฐานอย่างถ่องแท้เป็นอันบดับ

กระบวณท่าที่สี่ถึงหกเป็นกระบวณท่าฆ่าฟัน หลังจากที่ใช้ออก,มันจะทําให้คู่ต่อสู้ถูกดันเข้าจนมุม กระบวณท่าที่เจ็ดถึงเก้าเป็นกระบวณท่าปลิดชีพ อย่างที่บอกเป็นนัย,จังหวะกระบวณท่าปลิดชีพใช้ออก,คู่ต่อสู้ตกตายอย่างแน่นอน

แน่นอน มันเป็นสิ่งที่อธิบายเอาไว้,ที่เรียกว่า”ปลิดชีพ” มันไม่ได้หมายความว่าคู่ต่อสู้จะต้องตกตายลงอย่างแน่นอน มันเป็นเพียงแนวคิด

เซี่ยวเฉินวางมือขวาของเขาลงบนด้ามกระบี่ และหลับตาลง จิตใจของเขานิ่งสงบพร้มอกับเข้าสู่สภาวะแห่งบรรลุสงบนิ่ง

ไม่รู้ว่าเวลาไหลผ่านไปนานถึงเพียงใดแต่ท้องฟ้าได้มืดสนิทลงแล้ว ไม่มีแสงจันทร์ฉายลงมาใน คืนนี้ที่ลานปกคลุมไปด้วยความมืด เมื่อยื่นมืออกมา,ไม่อาจมองเห็นนิ้วของตัวเองได้ ที่ลานเล็กแห่งนี้เงียบสนิท

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+