Immortal and Martial Dual Cultivation 131 อย่าได้เผยความมั่งคั่ง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 131 อย่าได้เผยความมั่งคั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 131 อย่าได้เผยความมั่งคั่ง

 

ผู้นำหยิบเอาหินวิญญาณออกมาและยิ้มขึ้นเย็นชา “เจ้า ทําได้แค่โทษตัวเองเท่านั้นก็กล้ามาขัดขวางกิจการตระกูลเจียงของเรา เจ้ายินยอมแลกเปลี่ยนหินวิญญาณกับกระดิ่งพังๆชิ้นเดียว เจ้าไม่เข้าใจแนวคิดที่ว่าอย่าได้อวดรวยให้คนอื่นเห็น?”

 

เซี่ยวเฉินสั่นเทิ้มในใจ,เช่นนั้นคนพวกนี้ก็มาจากตระกูลเจียง ไม่สงสัยเลยว่าทําไมพวกเขาถึงกล้าทุ่มบ่ามเช่นนี้ เขารู้สึกแย่อย่างช่วยไม่ได้ เซี่ยวเฉินถามพวกเขาอย่างเย็นชา “ผู้บ่มเพาะพลังที่เสียแขนคนเมื่อคืนอยู่ที่ไหน?”

 

“ฮ่าฮ่า! ไอ้ด้วนนั้น? พวกเราสังหารมันไปแล้ว ทิ้งเจ้าขยะ เช่นนั้นให้มีชีวิตต่อไปก็มีแต่จะเพิ่มภาระ ข้าสุภาพกับเขาแล้วที่เสนอให้ถึงหนึ่งพันเหรียญเงิน มันก็ยังไม่อยากขายให้ข้า ข้าจัดการมันเรียบร้อยไม่มีอะไรที่ต้องทําอีก” ผู้นำพูดขึ้นอย่างท่าทางไม่แยแส

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกโกรธจัด ชีวิตของคนคนนั้นเป็นอะไรใน สายตาคนพวกนนี้? เขาไม่ได้ต่างไปจากสัตว์อสูร?

 

“ไม่จําเป็นต้องพูดกันอีกฆ่า…” ผู้นช่างรีบร้อน เขาเปิดปากสั่งการคนของเขาให้สังหารเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้พูดให้จบประโยค ทันใดนั้นเขาก็เห็นแสงสีม่วงวูบผ่าน ร่างของเขาถูกตัดครึ่ง

 

กระบี่เงาจันทร์ชะโลมไปด้วยเลือด เซียวเฉินหยิบเศษผ้าเก่าๆออกมาเช็ดเลือดออก หลังจากนั้นเขายิงเส้นสายเปลวเพลิงสีม่วงออกมาและเผาร่างที่อยู่บนพื้น

 

เซี่ยวเฉินใช้เวลาเพียงพริบตาจัดการกับห้าปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น ด้วยการบ่มเพาะพลังระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธของเซี่ยวเฉิน พร้อมกับบรรลุทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันและทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน เขาไร้ผู้ต่อต้านในระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ

 

ตามจริงไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงหรือมีจิตวิญญาณยุทธที่ตกทอดหรือสมบัติลับอื่นใด พวกเขาก็ประมือกับเซียวเฉินได้ไม่ถึงสิบกระบวณท่า

 

หลังจากที่เขาปลดปล่อยที่กษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันออกมาเต็มกําลัง มันราวกับฟ้าคํารามและสายวายุไหลผ่าน ราวกับสายฟ้ากําลังฟาดฟัน แต่ละกระบวณท่าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถสังหารศุตรูที่ระดับขอบเขตพลังสูงกว่าของเขาได้ หากเขาพบกับศัตรูที่อ่อนแอ การสังหารพวกมันจะง่ายดายราวกับผ่าแตงโม 

 

หลังจากใช้พลังปราณไปบางส่วน เซียวเฉินเผยร่างที่แท้จริงออกมา นี่เป็นผลมาจากการที่คาถาเปลี่ยนลักษณ์ไม่ได้บ่มเพาะถึงระดับที่เพียงพอตราบใดที่เขาใช้พลังปราณเขาจะกลับคืนรูปร่างเดิมในทันที

 

“ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ในวันนี้เป็นเพราะการเยาะหยันของเจียงหมิงเหิง การใช้กําลังของเขารังแกผู้อ่อนแอ หากมันไม่เพราะตระกูลเจียง ข้าคงไม่ต้องวิ่งหนีไป มาบนถนนราวกับหนูเช่นนี้ ถูกตามล่าโดยเหล่าตระกูลชั้นสูง”

 

“หากไม่ใช่เพราะตระกูลเจียง ผู้บ่มเพาะพลังแขนขาดคนนั้นคงไม่ต้องถูกฆ่า เขาคงจะไม่ถูกลืมเลือนไปอย่างง่ายดายพร้อมกับคําว่า “ข้าสังหารมันทิ้งไปแล้ว ไม่มีอะไรต้ องทําอีก”

 

ดวงตาของเซี่ยวเฉินแดงก่ำ ตามข่าวของจินต้าเปา ผู้นำตระกูลเจียงและผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญของพวกเขาตอนนี้ กําลังอยู่ในป่าอํามหิตไล่ล่าหาตัวเขาอยู่

 

นั่นหมายความว่าไม่มีระดับนักบุญเหลืออยู่ที่บ้านตระกูลเจียงนั้นจะต้องไม่มีใครสามารถเป็นภัยกับเซียวเฉินได้ นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมนักในโลกนี้ เซี่ยวเฉินไม่สามารถถูกไล่ตามไปตลอดเช่นนี้ และไม่ได้ยินดีที่จะไปจัดการกับพวกเขานัก อย่างไรก็ตาม ตระกูลเจียงช่าง น่ารังเกียจเกินไปพวกเขาไล่กดดันเขาหลายต่อหลายครั้ง

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจัดการพวกเขาให้สิ้นซากไปจะเป็นการดีกว่าเซี่ยวเฉันคิดในใจ เขาหยิบชุดคลุมดําขึ้นมาสวมและเดินตรงไปที่บ้านตระกูลเจียงอย่างช้าๆ

 

บ้านตระกูลเจียงตั้งอยู่บนถนนสายใหญ่ทางตะวันตกของเมือง มันกินพื้นที่ไปกว่าหนึ่งพันเมตร ประตูด้านหน้าตกแต่งแสดงถึงความหรูหราสิ้นเปลือง เพียงแค่บันไดขึ้นไปสู่ประตูยังมากกว่าสิบเมตร มีสิบคนระดับเชี่ยวชาญยุทธยืนอยู่แต่ละฝั่ง มีกระทั่งสิงโตหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่แต่ละฝั่งที่มองดูดุเดือด

 

“ใครอยู่ตรงนั้น? เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือตระกูลเจียง? เผ่นหนีไปซะก่อนที่ข้าจะหักขาเจ้า!” ผู้บ่มเพาะพลังที่กําลังยืนอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลเจียงตะโกนออกมา เมื่อพวกเขาเห็นเซี่ยวเฉินแต่งชุดคลุมสีดํา

 

เซี่ยวเฉินดึงผ้าคลุมลงและเผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา เขามองอย่างเฉียบคมพร้อมกับปลดปล่อยเจตนาฆ่าถึงขีดสุด “ข้าไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะมายืนที่นี่ ?”

 

“นั่นเซี่ยวเฉิน! เร็วเข้า ฆ่ามันซะ ผู้นําตระกูลกล่าวไว้ว่าผู้ใดที่ฆ่าเขาได้จะได้รับตําแหน่งผู้อาวุโส” ทุกคนต่างจํารูปร่างหน้าตาของเซียวเฉินได้ ยี่สิบคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธชักอาวุธของพวกเขาและพุ่งไปข้างหน้าพร้อมเจตนาฆ่าที่พลุ่งพล่าน

 

เปลวเพลิงอันไร้ขอบเขตและไร้ขีดจํากัดปรากฏขึ้นในตาซ้ายของเซี่ยวเฉินก่อนที่จะกลายเป็นลําแสงสีม่วง

 

“บึ้ม!”

 

ยี่สิบคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธถูกเผาในทันที พวกเขาร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าถึงตัวเซี่ยวเฉิน พวกเขากลายเป็นกองขี้เถ้า ผู้บ่มเพาะพลังผู้หนึ่งเปิดประตูของบ้านตระกูลเจียงออกมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้องตะโกนออกมาพร้อมกับบิดประตูลงอีกครั้งในทันที 

 

เซียวเฉินผลาญพลังปราณไปครึ่งหนึ่ง เขาหยิบเอาเม็ดยาหวนคืนพลังปราณออกมาและกลืนมันลงไป ยี่สิบคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธไม่ได้เป็นอันตรายต่อเขาแม้ แต่น้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการให้มันยืดเยื้อการต่อสู้ จําเป็นต้องจบลงโดยเร็ว เขาต้องจัดการให้เสร็จก่อนที่เหล่าตระกูลชั้นสูงจะมาถึง

 

“ปัง!”

 

เซี่ยวเฉินถีบประตูให้เปิดออก เขาเดินเข้าไปได้เพียงสองเก้าก่อนที่จะมีชายชราถือกระบี่ที่ส่องแสง เย็นเฉียบนกลุ่มผู้บ่มเพาะพลังขนาดใหญ่ตรงเข้ามา

 

ผู้นําคนนั้นคือน้องของผู้อาวุโสหนึ่งแห่งตระกูลเจียง เจียงหยุนฟง เขามองไปที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

 

เขาไม่ได้เผยสีหน้าตกใจหรือเป็นสุข เขามีเพียงสีหน้าเกลียดชังและพูดขึ้น “เจ้าไม่เลือกเส้นทางสวรรค์ที่แม้จะไร้ประตูแต่เจ้าก็ยืนยันที่จะลงนรก ข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็น เพื่อแก้แค้นให้กับพี่ใหญ่ของข้า

 

“ฟิ่ว!”

 

เขาตอบกลับไปด้วยลูกศรปราณแสง ลูกศรพุ่งตัดผ่านอากาศ บินไปอย่างงดงาม มันบินไปด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าตรงไปที่หน้าอกของเจียงหยุนฟง

 

เจียงหยุนฟงตกตะลึง ลูกศรปราณแสงเป็นสิ่งที่สังหารพี่ใหญ่ของเขาก่อนที่จะปักเขาติดไว้กับกําแพงเมืองอย่างน่าอัปยศอดสู เขารู้ซึ้งถึงความรวดเร็วของลูกปราณแสงรวมถึงพลังของธนูล่าวิญญาณ ไม่มีเวลามากพอที่จะหลบหลีก เขาวาดกระบี่ในมือของเขาไว้ด้วยพลังปราณและใช้มันป้องกันหน้าอกของเขาเอาไว้

 

“บูม!” ความรวดเร็วของพลังเต็มกําลังของธนูล่าวิญญาณผสานกับลูกศรปราณแสง แม้ว่าเขาจะสามารถเดาจุดที่ลูกศรพุ่งมาได้อย่างแม่นยํา เขาก็ไม่มีพลังพอที่จะป้องกันมันเอาไว้ได้

 

ในจังหวะที่เขายกกระบี่ขึ้นมา ลูกศรปราณแสงได้เจาะทะลุหน้าอกของเขา พลังมหาศาลทําให้ร่างของเขา ลอยไปข้างหลังและปักติดเข้ากับกําแพงสูง เลือดไหลออกมาจากปากของเขาไม่หยุดหย่อน ตาของเขาปูดขึ้นมาทําให้ผู้พบเห็นต่างหวาดสยอง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเงียบงัน ทุกคนเห็นร่างของเจียงหยุนฟงที่บวมพอง ถูกปักยึดเข้ากับกําแพงหลังจากที่เขาพูดจบ พวกเขาทั้งหมดสูดหายใจลึกถึงอากาศเย็นเฉียบ เข้าไปใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

 

เซียวเฉินมองกวาดผ่านฝูงชนด้วยตาของเขาและเก็บธนู ล่าวิญญาณ เขาไม่ได้ให้เวลาพวกเขาได้นิ่งงง เขาพุ่งตรงไปข้างหน้าในจุดที่มีระดับปรมาจารย์ยุทธอยู่รวมกัน มากที่สุด

 

ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานถูกรีดกําลังออกมาถึงขีดสุด เซียวเฉินเร่งความเร็วและได้มาถึงใจกลาง ของกลุ่มคนในทันทีมีเสียงมังกรฟ้าคําราม เขาใช้วาดกระบี่ออกมา

 

กระบี่วูบผ่าน และระดับปรมาจารย์ยุทธถูกฟันขาดเป็นสองท่อน เหล่าผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงต่างตอบสนองอย่างรวดเร็วและปิดล้อมเซียวเฉินเอาไว้

 

สามผู้บ่มเพาะพลังด้านหลังของเซียวเฉินกระโดดขึ้นไปใน อากาศ ฟันลงมาอย่าไร้ปราณีลงไปที่หลังของเขา หากเซียวเฉินหันกลับไปป้องกัน จากนั้นความต่อเนื่องขอ งทักษะกระบุสายฟ้าฉับพลันจะขาดลงดังนั้น เซี่ยวเฉินจึง เมินเฉยพวกเขา

 

“ฟาดฟันประกายแสง!”

 

แสงสีม่วงยาวสองเมตรตัดผ่านอากาศ หนึ่งในสามปรมาจารย์ยุทธ ผู้ที่ไม่อาจหลบได้ทันเวลาถูกประกายแสงตัดผ่าครึ่ง กระแสไฟฟ้าในประกายแสงกระโดดไปรอบๆและ สร้างคลื่นกระแทกขึ้น ผลักผู้บ่มเพาะพลังที่ปิดล้อมเขาให้ถอยหลังกลับไป

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

มีสามวงแหวนกดลงมาสามกระบี่ฟันลงไปที่หลังของ เซี่ยวเฉิน พลังฉีที่ผสานอยู่ภายในกระบี่เปาหลังเสื้อของเขากลายเป็นชิ้น

 

ชายสามคนนั้นเผยสีหน้าเป็นสุข พวกเขาตะโกนออกมา “กดดันเข้าไปและฆ่าไอ้สารเลวนี้ซะ!”

 

กระบี่ซัดลงไปที่เกราะศึกภายในชุดของเซี่ยวเฉิน แม้ว่าเกราะศึกจะป้องกันคมกระบี่เอาไว้ มันไม่สามารถป้องกันพลังงานที่ผสานอยู่ในกระบี่ แม้ว่าร่างกายของ เซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่ง อวัยวะภายในของเขายังคงปั่นป่วนเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเซียวเฉิน

 

“สายฟ้าผ่าสวรรค์!”

 

เซี่ยวเฉินไม่สนใจการโจมตีจากทางด้านหลัง เขากดเท้าลงพื้นและลอยขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม ทันใดนั้นเขาก็แทงไปที่หน้าอกของหกปรมาจารย์ยุทธที่อยู่ข้างหน้า

 

เลือดกระเซ็นไปในอากาศทันที่และสาดลงบนตัวของ เซี่ยวเฉิน มันทําให้เขาดูราวกับปีศาจ ทันทีที่เขาขึ้นไปจากพื้น เกิดเสียงฟ้าคําราม และสามปรมาจารย์ยุทธผู้ที่โจมตีเขาจากด้านหลังกลายไปเป็นก้อนเนื้อ

 

“ฮู่!” ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินหมุนตัวกลางอากาศและหยุดค้างอยู่ตรงนั้น เลือดย้อมเสื้อผ้าของเขาเป็นสีแดง กระแสพลังของเขาพุ่งถึงขีดสุด ผู้ที่อยู่เบื้องล่างทุกคนต่างสั่นเทิ้ม

 

“อัสนี้ฟาดฟัน!”

 

ฟ้าคํารามกึกก้องเบื้องหลังของเขาราวกับคลื่นมหึมาที่พลุงพล่านไปถึงท้องฟ้าแต่ละคลื่นทรงพลังยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ ทําให้กระแสพลังที่แตะถึงจุดสูงสุดของเขาพุ่งขึ้นไปถึงจุดที่ไม่อาจสัมผัสได้

 

“ปัง!”

 

ปรมาจารย์ยุทธผู้หนึ่งด้านล่างพยายามใช้กระบี่ของเขาปัดป้อง แต่อาวุธวิญญาณของเขากลับแตกออกเป็นสองในทันที กระบี่เงาจันทร์เคลื่อนไหวจากข้างบนลงไปหาข้าง ล่างด้วยเสียงอันดัง ปรมาจารย์ยุทธผู้นั้นถูกตัดผ่าครึ่ง แต่และครึ่งลอยกระเด็นไปทิศทางตรงกันข้าม

 

“อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสอง!”

 

เสียงฟ้าคํารามอันไร้ขอบเขต และทันใดนั้น เซี่ยวเฉินก็หยุดชะงักลง พื้นที่กลายเป็นเงียบเชียบ กระบี่เงาจันทร์ทันใดนั้นก็ฉายแสงกระแสไฟฟ้าอันรุ่งโรจน์ กลายเป็นลําแสงสายฟ้ายาว

 

“ฮู่!”

 

โดยรอบเซี่ยวเฉินกลายเป็นพายุวน ภายในพายุวน มีประกายกระแสไฟฟ้านับไม่ถ้วนกระโดดไปโดยรอบ ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงสองสามคนพุ่งเข้ามา พยายามจะทํา ลายพายุวนอันน่าหวาดกลัว

 

แสงสายฟ้าอันรุ่งโรจน์พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และคลื่นกระแทกอันไร้ขอบเขตขยายไปรอบพื้นที่ ผู้บ่มเพาะพลังสองสามคนที่พุ่งเข้ามาถูกซัดลอยกลับไปในทันที

 

“บูม!” เซี่ยวเฉินตะโกนออกมา กระบี่เงาจันทร์ปักลงไปบนพื้นดินพร้อมเรื่องแสงสายฟ้าอันไร้ขอบเขต ฝุ่นควันถูกตลบลอยขึ้นไปในอากาศทันที และก้อนหินที่อยู่ ตามพื้นถูกส่งลอยขึ้นไป

 

เกิดเสียงร้องโหยหวนมากมาย ผู้คนจํานวนไม่น้อยถูกทําให้กลายเป็นเถ้าถ่านขณะที่ถูกซัดด้วยเรื่องแสงสายฟ้า ยังมีคนที่ถูกซัดด้วยก้อนหินที่บินว่อน พวกเขากระอัก เลือดออกมาพร้อมกับลอยไปข้างหลัง

 

เซี่ยวเฉินดึงกระบี่กลับมาและยืนขึ้น เขามองอย่างเย็นชาไปที่ผู้บ่มเพาะพลังที่นอนเกลื่อนกราดไปทั่วทุกทิศทาง เขาสะบัดมือและรูปสลักสีทองปรากฏขึ้นในอากาศ

 

“บูม!” ราชันย์สิงโตทองคําปรากฏตัวขึ้นกลางบ้านตระกูลเจียง มันกระทืบลงไปที่พื้นทันทีและบดขยี้ผู้บ่มเพาะ พลังสองสามคนที่หลบไม่พ้น

 

พลังอํานาจช่างมหาศาละมันสร้างหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้น เซียวเฉินควบคุมราชันย์สิงโตทองคําให้พ่นเปลวเพลิงสีทองออกมา บ้านตระกูลเจียงตกอยู่ ในกองเพลิงทันที

 

เมื่อตอนราชันย์สิงโตทองคํายังอยู่ในซากโบราณ แม้แต่ระดับนักบุญจากหลายตระกูลชั้นสูงยังไม่อาจทําอะไรมันได้ ระดับปรมาจารย์ยุทธของตระกูลเจียงจะรับมือกับมันได้เช่นไร?

 

เซี่ยวเฉินแต่เดิมไม่ได้อยากใช้ราชันย์สิงโตทองคํา อย่างไรก็ตาม มีนักบ่มเพาะพลังกล้าตายมากมายในตระกูลเจียง พวกมันทั้งหมดอยากได้หัวของเขาไปแลกกับความั่งคั่งและอํานาจที่ไม่สิ้นสุด

 

หลังจากที่ราชันย์สิงโตทองคําปรากฏกาย,ไม่มีใครสามารถป้องกันมันได้ ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดต่างกรีดร้องและพยายามหาทางหนี อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่อาจทําเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดไม่ถูกเหยียบจนเละก็ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน

 

ผู้นําตระกูลเจียงและระดับนักบุญไม่อยู่ที่นี่ นอกจากนั้นผู้น้ากลุ่มอย่างเจียงหยุนฟง ถูกฆ่าตายในพริบตา ตอนนี้ราชันย์สิงโตทองคําที่ไม่อาจโค่นล้มได้ปรากฏตัวออกมา กําลังใจของพวกเขาร่วงหายไปในทันที

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 131 อย่าได้เผยความมั่งคั่ง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 131 อย่าได้เผยความมั่งคั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 131 อย่าได้เผยความมั่งคั่ง

 

ผู้นำหยิบเอาหินวิญญาณออกมาและยิ้มขึ้นเย็นชา “เจ้า ทําได้แค่โทษตัวเองเท่านั้นก็กล้ามาขัดขวางกิจการตระกูลเจียงของเรา เจ้ายินยอมแลกเปลี่ยนหินวิญญาณกับกระดิ่งพังๆชิ้นเดียว เจ้าไม่เข้าใจแนวคิดที่ว่าอย่าได้อวดรวยให้คนอื่นเห็น?”

 

เซี่ยวเฉินสั่นเทิ้มในใจ,เช่นนั้นคนพวกนี้ก็มาจากตระกูลเจียง ไม่สงสัยเลยว่าทําไมพวกเขาถึงกล้าทุ่มบ่ามเช่นนี้ เขารู้สึกแย่อย่างช่วยไม่ได้ เซี่ยวเฉินถามพวกเขาอย่างเย็นชา “ผู้บ่มเพาะพลังที่เสียแขนคนเมื่อคืนอยู่ที่ไหน?”

 

“ฮ่าฮ่า! ไอ้ด้วนนั้น? พวกเราสังหารมันไปแล้ว ทิ้งเจ้าขยะ เช่นนั้นให้มีชีวิตต่อไปก็มีแต่จะเพิ่มภาระ ข้าสุภาพกับเขาแล้วที่เสนอให้ถึงหนึ่งพันเหรียญเงิน มันก็ยังไม่อยากขายให้ข้า ข้าจัดการมันเรียบร้อยไม่มีอะไรที่ต้องทําอีก” ผู้นำพูดขึ้นอย่างท่าทางไม่แยแส

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกโกรธจัด ชีวิตของคนคนนั้นเป็นอะไรใน สายตาคนพวกนนี้? เขาไม่ได้ต่างไปจากสัตว์อสูร?

 

“ไม่จําเป็นต้องพูดกันอีกฆ่า…” ผู้นช่างรีบร้อน เขาเปิดปากสั่งการคนของเขาให้สังหารเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้พูดให้จบประโยค ทันใดนั้นเขาก็เห็นแสงสีม่วงวูบผ่าน ร่างของเขาถูกตัดครึ่ง

 

กระบี่เงาจันทร์ชะโลมไปด้วยเลือด เซียวเฉินหยิบเศษผ้าเก่าๆออกมาเช็ดเลือดออก หลังจากนั้นเขายิงเส้นสายเปลวเพลิงสีม่วงออกมาและเผาร่างที่อยู่บนพื้น

 

เซี่ยวเฉินใช้เวลาเพียงพริบตาจัดการกับห้าปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น ด้วยการบ่มเพาะพลังระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธของเซี่ยวเฉิน พร้อมกับบรรลุทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันและทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน เขาไร้ผู้ต่อต้านในระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ

 

ตามจริงไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงหรือมีจิตวิญญาณยุทธที่ตกทอดหรือสมบัติลับอื่นใด พวกเขาก็ประมือกับเซียวเฉินได้ไม่ถึงสิบกระบวณท่า

 

หลังจากที่เขาปลดปล่อยที่กษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันออกมาเต็มกําลัง มันราวกับฟ้าคํารามและสายวายุไหลผ่าน ราวกับสายฟ้ากําลังฟาดฟัน แต่ละกระบวณท่าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถสังหารศุตรูที่ระดับขอบเขตพลังสูงกว่าของเขาได้ หากเขาพบกับศัตรูที่อ่อนแอ การสังหารพวกมันจะง่ายดายราวกับผ่าแตงโม 

 

หลังจากใช้พลังปราณไปบางส่วน เซียวเฉินเผยร่างที่แท้จริงออกมา นี่เป็นผลมาจากการที่คาถาเปลี่ยนลักษณ์ไม่ได้บ่มเพาะถึงระดับที่เพียงพอตราบใดที่เขาใช้พลังปราณเขาจะกลับคืนรูปร่างเดิมในทันที

 

“ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ในวันนี้เป็นเพราะการเยาะหยันของเจียงหมิงเหิง การใช้กําลังของเขารังแกผู้อ่อนแอ หากมันไม่เพราะตระกูลเจียง ข้าคงไม่ต้องวิ่งหนีไป มาบนถนนราวกับหนูเช่นนี้ ถูกตามล่าโดยเหล่าตระกูลชั้นสูง”

 

“หากไม่ใช่เพราะตระกูลเจียง ผู้บ่มเพาะพลังแขนขาดคนนั้นคงไม่ต้องถูกฆ่า เขาคงจะไม่ถูกลืมเลือนไปอย่างง่ายดายพร้อมกับคําว่า “ข้าสังหารมันทิ้งไปแล้ว ไม่มีอะไรต้ องทําอีก”

 

ดวงตาของเซี่ยวเฉินแดงก่ำ ตามข่าวของจินต้าเปา ผู้นำตระกูลเจียงและผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญของพวกเขาตอนนี้ กําลังอยู่ในป่าอํามหิตไล่ล่าหาตัวเขาอยู่

 

นั่นหมายความว่าไม่มีระดับนักบุญเหลืออยู่ที่บ้านตระกูลเจียงนั้นจะต้องไม่มีใครสามารถเป็นภัยกับเซียวเฉินได้ นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมนักในโลกนี้ เซี่ยวเฉินไม่สามารถถูกไล่ตามไปตลอดเช่นนี้ และไม่ได้ยินดีที่จะไปจัดการกับพวกเขานัก อย่างไรก็ตาม ตระกูลเจียงช่าง น่ารังเกียจเกินไปพวกเขาไล่กดดันเขาหลายต่อหลายครั้ง

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจัดการพวกเขาให้สิ้นซากไปจะเป็นการดีกว่าเซี่ยวเฉันคิดในใจ เขาหยิบชุดคลุมดําขึ้นมาสวมและเดินตรงไปที่บ้านตระกูลเจียงอย่างช้าๆ

 

บ้านตระกูลเจียงตั้งอยู่บนถนนสายใหญ่ทางตะวันตกของเมือง มันกินพื้นที่ไปกว่าหนึ่งพันเมตร ประตูด้านหน้าตกแต่งแสดงถึงความหรูหราสิ้นเปลือง เพียงแค่บันไดขึ้นไปสู่ประตูยังมากกว่าสิบเมตร มีสิบคนระดับเชี่ยวชาญยุทธยืนอยู่แต่ละฝั่ง มีกระทั่งสิงโตหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่แต่ละฝั่งที่มองดูดุเดือด

 

“ใครอยู่ตรงนั้น? เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือตระกูลเจียง? เผ่นหนีไปซะก่อนที่ข้าจะหักขาเจ้า!” ผู้บ่มเพาะพลังที่กําลังยืนอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลเจียงตะโกนออกมา เมื่อพวกเขาเห็นเซี่ยวเฉินแต่งชุดคลุมสีดํา

 

เซี่ยวเฉินดึงผ้าคลุมลงและเผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา เขามองอย่างเฉียบคมพร้อมกับปลดปล่อยเจตนาฆ่าถึงขีดสุด “ข้าไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะมายืนที่นี่ ?”

 

“นั่นเซี่ยวเฉิน! เร็วเข้า ฆ่ามันซะ ผู้นําตระกูลกล่าวไว้ว่าผู้ใดที่ฆ่าเขาได้จะได้รับตําแหน่งผู้อาวุโส” ทุกคนต่างจํารูปร่างหน้าตาของเซียวเฉินได้ ยี่สิบคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธชักอาวุธของพวกเขาและพุ่งไปข้างหน้าพร้อมเจตนาฆ่าที่พลุ่งพล่าน

 

เปลวเพลิงอันไร้ขอบเขตและไร้ขีดจํากัดปรากฏขึ้นในตาซ้ายของเซี่ยวเฉินก่อนที่จะกลายเป็นลําแสงสีม่วง

 

“บึ้ม!”

 

ยี่สิบคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธถูกเผาในทันที พวกเขาร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าถึงตัวเซี่ยวเฉิน พวกเขากลายเป็นกองขี้เถ้า ผู้บ่มเพาะพลังผู้หนึ่งเปิดประตูของบ้านตระกูลเจียงออกมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้องตะโกนออกมาพร้อมกับบิดประตูลงอีกครั้งในทันที 

 

เซียวเฉินผลาญพลังปราณไปครึ่งหนึ่ง เขาหยิบเอาเม็ดยาหวนคืนพลังปราณออกมาและกลืนมันลงไป ยี่สิบคนระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธไม่ได้เป็นอันตรายต่อเขาแม้ แต่น้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการให้มันยืดเยื้อการต่อสู้ จําเป็นต้องจบลงโดยเร็ว เขาต้องจัดการให้เสร็จก่อนที่เหล่าตระกูลชั้นสูงจะมาถึง

 

“ปัง!”

 

เซี่ยวเฉินถีบประตูให้เปิดออก เขาเดินเข้าไปได้เพียงสองเก้าก่อนที่จะมีชายชราถือกระบี่ที่ส่องแสง เย็นเฉียบนกลุ่มผู้บ่มเพาะพลังขนาดใหญ่ตรงเข้ามา

 

ผู้นําคนนั้นคือน้องของผู้อาวุโสหนึ่งแห่งตระกูลเจียง เจียงหยุนฟง เขามองไปที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

 

เขาไม่ได้เผยสีหน้าตกใจหรือเป็นสุข เขามีเพียงสีหน้าเกลียดชังและพูดขึ้น “เจ้าไม่เลือกเส้นทางสวรรค์ที่แม้จะไร้ประตูแต่เจ้าก็ยืนยันที่จะลงนรก ข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็น เพื่อแก้แค้นให้กับพี่ใหญ่ของข้า

 

“ฟิ่ว!”

 

เขาตอบกลับไปด้วยลูกศรปราณแสง ลูกศรพุ่งตัดผ่านอากาศ บินไปอย่างงดงาม มันบินไปด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าตรงไปที่หน้าอกของเจียงหยุนฟง

 

เจียงหยุนฟงตกตะลึง ลูกศรปราณแสงเป็นสิ่งที่สังหารพี่ใหญ่ของเขาก่อนที่จะปักเขาติดไว้กับกําแพงเมืองอย่างน่าอัปยศอดสู เขารู้ซึ้งถึงความรวดเร็วของลูกปราณแสงรวมถึงพลังของธนูล่าวิญญาณ ไม่มีเวลามากพอที่จะหลบหลีก เขาวาดกระบี่ในมือของเขาไว้ด้วยพลังปราณและใช้มันป้องกันหน้าอกของเขาเอาไว้

 

“บูม!” ความรวดเร็วของพลังเต็มกําลังของธนูล่าวิญญาณผสานกับลูกศรปราณแสง แม้ว่าเขาจะสามารถเดาจุดที่ลูกศรพุ่งมาได้อย่างแม่นยํา เขาก็ไม่มีพลังพอที่จะป้องกันมันเอาไว้ได้

 

ในจังหวะที่เขายกกระบี่ขึ้นมา ลูกศรปราณแสงได้เจาะทะลุหน้าอกของเขา พลังมหาศาลทําให้ร่างของเขา ลอยไปข้างหลังและปักติดเข้ากับกําแพงสูง เลือดไหลออกมาจากปากของเขาไม่หยุดหย่อน ตาของเขาปูดขึ้นมาทําให้ผู้พบเห็นต่างหวาดสยอง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเงียบงัน ทุกคนเห็นร่างของเจียงหยุนฟงที่บวมพอง ถูกปักยึดเข้ากับกําแพงหลังจากที่เขาพูดจบ พวกเขาทั้งหมดสูดหายใจลึกถึงอากาศเย็นเฉียบ เข้าไปใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

 

เซียวเฉินมองกวาดผ่านฝูงชนด้วยตาของเขาและเก็บธนู ล่าวิญญาณ เขาไม่ได้ให้เวลาพวกเขาได้นิ่งงง เขาพุ่งตรงไปข้างหน้าในจุดที่มีระดับปรมาจารย์ยุทธอยู่รวมกัน มากที่สุด

 

ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานถูกรีดกําลังออกมาถึงขีดสุด เซียวเฉินเร่งความเร็วและได้มาถึงใจกลาง ของกลุ่มคนในทันทีมีเสียงมังกรฟ้าคําราม เขาใช้วาดกระบี่ออกมา

 

กระบี่วูบผ่าน และระดับปรมาจารย์ยุทธถูกฟันขาดเป็นสองท่อน เหล่าผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงต่างตอบสนองอย่างรวดเร็วและปิดล้อมเซียวเฉินเอาไว้

 

สามผู้บ่มเพาะพลังด้านหลังของเซียวเฉินกระโดดขึ้นไปใน อากาศ ฟันลงมาอย่าไร้ปราณีลงไปที่หลังของเขา หากเซียวเฉินหันกลับไปป้องกัน จากนั้นความต่อเนื่องขอ งทักษะกระบุสายฟ้าฉับพลันจะขาดลงดังนั้น เซี่ยวเฉินจึง เมินเฉยพวกเขา

 

“ฟาดฟันประกายแสง!”

 

แสงสีม่วงยาวสองเมตรตัดผ่านอากาศ หนึ่งในสามปรมาจารย์ยุทธ ผู้ที่ไม่อาจหลบได้ทันเวลาถูกประกายแสงตัดผ่าครึ่ง กระแสไฟฟ้าในประกายแสงกระโดดไปรอบๆและ สร้างคลื่นกระแทกขึ้น ผลักผู้บ่มเพาะพลังที่ปิดล้อมเขาให้ถอยหลังกลับไป

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

มีสามวงแหวนกดลงมาสามกระบี่ฟันลงไปที่หลังของ เซี่ยวเฉิน พลังฉีที่ผสานอยู่ภายในกระบี่เปาหลังเสื้อของเขากลายเป็นชิ้น

 

ชายสามคนนั้นเผยสีหน้าเป็นสุข พวกเขาตะโกนออกมา “กดดันเข้าไปและฆ่าไอ้สารเลวนี้ซะ!”

 

กระบี่ซัดลงไปที่เกราะศึกภายในชุดของเซี่ยวเฉิน แม้ว่าเกราะศึกจะป้องกันคมกระบี่เอาไว้ มันไม่สามารถป้องกันพลังงานที่ผสานอยู่ในกระบี่ แม้ว่าร่างกายของ เซี่ยวเฉินจะแข็งแกร่ง อวัยวะภายในของเขายังคงปั่นป่วนเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเซียวเฉิน

 

“สายฟ้าผ่าสวรรค์!”

 

เซี่ยวเฉินไม่สนใจการโจมตีจากทางด้านหลัง เขากดเท้าลงพื้นและลอยขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม ทันใดนั้นเขาก็แทงไปที่หน้าอกของหกปรมาจารย์ยุทธที่อยู่ข้างหน้า

 

เลือดกระเซ็นไปในอากาศทันที่และสาดลงบนตัวของ เซี่ยวเฉิน มันทําให้เขาดูราวกับปีศาจ ทันทีที่เขาขึ้นไปจากพื้น เกิดเสียงฟ้าคําราม และสามปรมาจารย์ยุทธผู้ที่โจมตีเขาจากด้านหลังกลายไปเป็นก้อนเนื้อ

 

“ฮู่!” ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินหมุนตัวกลางอากาศและหยุดค้างอยู่ตรงนั้น เลือดย้อมเสื้อผ้าของเขาเป็นสีแดง กระแสพลังของเขาพุ่งถึงขีดสุด ผู้ที่อยู่เบื้องล่างทุกคนต่างสั่นเทิ้ม

 

“อัสนี้ฟาดฟัน!”

 

ฟ้าคํารามกึกก้องเบื้องหลังของเขาราวกับคลื่นมหึมาที่พลุงพล่านไปถึงท้องฟ้าแต่ละคลื่นทรงพลังยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ ทําให้กระแสพลังที่แตะถึงจุดสูงสุดของเขาพุ่งขึ้นไปถึงจุดที่ไม่อาจสัมผัสได้

 

“ปัง!”

 

ปรมาจารย์ยุทธผู้หนึ่งด้านล่างพยายามใช้กระบี่ของเขาปัดป้อง แต่อาวุธวิญญาณของเขากลับแตกออกเป็นสองในทันที กระบี่เงาจันทร์เคลื่อนไหวจากข้างบนลงไปหาข้าง ล่างด้วยเสียงอันดัง ปรมาจารย์ยุทธผู้นั้นถูกตัดผ่าครึ่ง แต่และครึ่งลอยกระเด็นไปทิศทางตรงกันข้าม

 

“อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสอง!”

 

เสียงฟ้าคํารามอันไร้ขอบเขต และทันใดนั้น เซี่ยวเฉินก็หยุดชะงักลง พื้นที่กลายเป็นเงียบเชียบ กระบี่เงาจันทร์ทันใดนั้นก็ฉายแสงกระแสไฟฟ้าอันรุ่งโรจน์ กลายเป็นลําแสงสายฟ้ายาว

 

“ฮู่!”

 

โดยรอบเซี่ยวเฉินกลายเป็นพายุวน ภายในพายุวน มีประกายกระแสไฟฟ้านับไม่ถ้วนกระโดดไปโดยรอบ ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงสองสามคนพุ่งเข้ามา พยายามจะทํา ลายพายุวนอันน่าหวาดกลัว

 

แสงสายฟ้าอันรุ่งโรจน์พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และคลื่นกระแทกอันไร้ขอบเขตขยายไปรอบพื้นที่ ผู้บ่มเพาะพลังสองสามคนที่พุ่งเข้ามาถูกซัดลอยกลับไปในทันที

 

“บูม!” เซี่ยวเฉินตะโกนออกมา กระบี่เงาจันทร์ปักลงไปบนพื้นดินพร้อมเรื่องแสงสายฟ้าอันไร้ขอบเขต ฝุ่นควันถูกตลบลอยขึ้นไปในอากาศทันที และก้อนหินที่อยู่ ตามพื้นถูกส่งลอยขึ้นไป

 

เกิดเสียงร้องโหยหวนมากมาย ผู้คนจํานวนไม่น้อยถูกทําให้กลายเป็นเถ้าถ่านขณะที่ถูกซัดด้วยเรื่องแสงสายฟ้า ยังมีคนที่ถูกซัดด้วยก้อนหินที่บินว่อน พวกเขากระอัก เลือดออกมาพร้อมกับลอยไปข้างหลัง

 

เซี่ยวเฉินดึงกระบี่กลับมาและยืนขึ้น เขามองอย่างเย็นชาไปที่ผู้บ่มเพาะพลังที่นอนเกลื่อนกราดไปทั่วทุกทิศทาง เขาสะบัดมือและรูปสลักสีทองปรากฏขึ้นในอากาศ

 

“บูม!” ราชันย์สิงโตทองคําปรากฏตัวขึ้นกลางบ้านตระกูลเจียง มันกระทืบลงไปที่พื้นทันทีและบดขยี้ผู้บ่มเพาะ พลังสองสามคนที่หลบไม่พ้น

 

พลังอํานาจช่างมหาศาละมันสร้างหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้น เซียวเฉินควบคุมราชันย์สิงโตทองคําให้พ่นเปลวเพลิงสีทองออกมา บ้านตระกูลเจียงตกอยู่ ในกองเพลิงทันที

 

เมื่อตอนราชันย์สิงโตทองคํายังอยู่ในซากโบราณ แม้แต่ระดับนักบุญจากหลายตระกูลชั้นสูงยังไม่อาจทําอะไรมันได้ ระดับปรมาจารย์ยุทธของตระกูลเจียงจะรับมือกับมันได้เช่นไร?

 

เซี่ยวเฉินแต่เดิมไม่ได้อยากใช้ราชันย์สิงโตทองคํา อย่างไรก็ตาม มีนักบ่มเพาะพลังกล้าตายมากมายในตระกูลเจียง พวกมันทั้งหมดอยากได้หัวของเขาไปแลกกับความั่งคั่งและอํานาจที่ไม่สิ้นสุด

 

หลังจากที่ราชันย์สิงโตทองคําปรากฏกาย,ไม่มีใครสามารถป้องกันมันได้ ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดต่างกรีดร้องและพยายามหาทางหนี อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่อาจทําเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดไม่ถูกเหยียบจนเละก็ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน

 

ผู้นําตระกูลเจียงและระดับนักบุญไม่อยู่ที่นี่ นอกจากนั้นผู้น้ากลุ่มอย่างเจียงหยุนฟง ถูกฆ่าตายในพริบตา ตอนนี้ราชันย์สิงโตทองคําที่ไม่อาจโค่นล้มได้ปรากฏตัวออกมา กําลังใจของพวกเขาร่วงหายไปในทันที

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+