Immortal and Martial Dual Cultivation 266 ถูกหมายหัว

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 266 ถูกหมายหัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 266 ถูกหมายหัว

 

ตระกูลหยุน..เซี่ยวเฉินครุ่นคิดลึก พ่อค้าที่สามารถหยิบหินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนออกมากองได้ในทันที…ภายในแคว้นซีเหอก็ดูเหมือจะมีแต่ ตระกูลหยุน

 

เซี่ยวเฉินเก็บนามบัตรไป ในตอนที่พ่อค้าคนนั้น เดินจากไปไกล,เขากล่าว “พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ได้คืนนี้ต้องรีบไปที่ท่าเรือในตอนมืดพวกเราถูก หมายหัวแล้ว”

 

หลิวสุยเฟิงพยักหน้าแลกเปลี่ยนหินวิญญาณระดับต่ําหนึ่งหมื่นก้อนนับได้ว่าเป็นการซื้อขายครั้งใหญ่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นอกจากนั้นพวกเขาเป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นคงจะแปลกน่าดูหากพวกเขาไม่ถูกหมายหัว

 

พวกเขาทั้งสองกลับไปที่โรงเตี้ยม,เก็บของเล็กน้อยและเติมเสบียงอาหาร จากนั้น พวกเขาก็ขี่ม้าเลือดมังกร,ออกจากหมู่บ้านไร้ชื่อไปโดยเร็ว 

 

ขณะที่พระอาทิตย์กําลังจะตกดิน,ท้องฟ้าย้อมสีแดงเมฆใหญ่สีแดงปกคลุมที่ท้องฟ้าทิศตะวันตกแสงอ่อนนุ่มฉายลงบนตัวเซียวเฉินและหลิวสุยเฟิง,ทอดเป็นเงายาวสีดํา

 

“ต๊อก! ต๊อก! ต๊อก!

 

พวกที่หมายจะเข้าปล่อนพวกเขาได้มาเร็วกว่าที่คิดพวกเขาออกมาได้เพียงสิบนาทีและบนถนนเบื้องหน้าถูกปิดด้วยผู้บ่มเพาะพลังที่แบกอาวุธเข้ามาพร้อมกับฉีฆ่าฟันพลุ่งพล่าน

 

เซี่ยวเฉินกวาดตามองอย่างนวดเร็ว,นับได้ทั้งหมดสิบแปดคนคนที่อ่อนที่สุดอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นและมีสองคนที่ก้าวขึ้นไปถึงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง

 

สายตาของเซี่ยวเฉินจ้องไปที่สองคนนั้นอยู่ครู่หนึ่งหนึ่งในสองคนนั้นสวมชุดสีขาวเขาถือดาบที่มีแสงเย็นเรืองออกมามันยิ่งเป็นประกายภายใต้แสงอาทิตย์ตก

 

อีกคนหนึ่งสวมชุดเกราะศึกที่สวมทับเอาไว้ด้วยเสื้อที่แขนเปิดโล่ง เขากําลังถือหอกยาวสองเมตรและมีความดุร้ายบนใบหน้า

 

ข้างๆพวกเขาเป็นกลุ่มผู้บ่มเพาะพลัง, ที่เหมือนจะมาเข้าร่วมกับสองคนนั้น

 

นักดาบชุดขาวค่อยๆเดินขึ้นหน้ามา ในตอนที่เขาเห็นเซียวเฉินและหลิวสุยเฟิง,เขาเผยรอยยิ้มบางเบาออกมาบนใบหน้าเขากล่าว“พวกข้ามา แสวงหาเพียงโชคลาภและไม่อยากทําร้ายใครทิ้งหินวิญญาณเอาไว้และข้าจะรับรองความปลอด ภัยของพวกเจ้า”

 

ชายชุดน้ําเงินที่ถือหอกปลดปล่อยฉีฆ่าฟันออกมาโดยไม่มีกักเก็บมีความดุร้ายในดวงตาของเขาพร้อมกับกล่าว“ข้าความอดทนต่ําตัดสินใจให้ เร็วเป็นผลดีกับทุกคน มิฉะนั้น,ข้าจะทําให้เจ้า สมหวังในความตาย”

 

กระแสพลังจากพวกเขาทั้งสอง -ระดับขอบ เขตนักบุญขั้นสูง -ค่อยๆขยายออกมา,กดดันเซี่ยวเฉินและหลิวสุยเฟิงเมื่อกระแสพลังมหาศาลของทั้งสองผสานเข้าด้วยกัน,แม้แต่อากาศก็ราวกับถูกแช่แข็งทําให้ยากที่จะสูดหายใจ หลิวสุยเฟิงตื่นกลัวอย่างช่วยไม่ได้เขาหยิบเอาเหรียญแสดงตนออกมาและกล่าว “พวกเราคือศิษย์แก่นกลางของศาบากระบี่สวรรค์ไสหัวไปซะแล้วข้าจะทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมิฉะนั้นแม้พวกเจ้าจะหนีไปจนสุดของโลก,เจ้าก็ไม่มีทางหนีพ้นการไปล่าของร่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์”

 

เซียวเฉินส่ายหัวและมือลงไปจับด้ามกระบี่โดยไม่รู้ตัวคนพวกนี้รู้ตัวตนของพวกเราอยู่แล้ว มิฉะนั้นพวกมันคงไม่เสียเวลามาพูดคุย

 

หากเป็นระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นที่ไม่มีพื้นเพเบื้องหลัง,พวกมันควพุ่งเข้าใส่นานแล้วไม่จําเป็นต้องใช้การข่มขู่พวกเขา

 

พวกเขาจะต้องเกรงกลัวการล้างแค้นของศาบากระบี่สวรรค์แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อคนกลุ่มนี้กล้าที่จะไล่ตามพวกเขามา,เป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกมันเป็นอาชญากรเดนตายและไม่เกรงกลัวการล้างแค้นของศาลากระปสวรรค์

 

หากเป็นไปได้,พวกมันก็ไม่อยากจะไปยั่วยุศาลากระปสวรรค์ถึงแม้ว่าพวกมันจําเป็นต้องยั่วยุศาบากระบีสวรรค์,พวกมันก็เพียงแค่หอบเอาหินวิญญาณหนีออกไปจากแคว้นซีเหอ,ซ่อนตัวอยู่ที่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่จากนั้น,ศาบากระบี่สวรรค์ก็ไม่อาจทําอะไรมันได้แล้ว

 

กระแสพลังของพวกพุ่งขึ้นอย่างช้าๆ,บรรจุเอาไว้และไม่ได้ปลดปล่อยออกมาท้องฟ้าเหนือหัวของพวกเขามืดมิดลงโดยที่ไม่รู้ตัวเมฆสีดําม้วนตัวและพลังของสายฟ้าก่อตัวขึ้น

 

คนหอกชุดฟ้ายิ้มขึ้นและกล่าวเสียงเย็นชา “คิดว่าพวกข้าจะกลัว?พวกเจ้าเป็นเพียงสานุศิษย์แก่นกลางระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น,พวกเจ้าคิดว่าศาลากระบี่สวรรค์จะเรียกใช้ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เพราะพวกเจ้า? ข้าจะพูดอีกครั้งส่งหินวิญญาณมาให้หมด”

 

ชายชุดขาวยังเผยรอยยิ้มจางๆ เขาดูนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่อพร้อมกับกล่าว“พวกเจ้าสองคน,พวก เรามองหาเพียงโชคลาภอย่าไปสนใจเขาแค่ทิ้งหินวิญญาณเอาไว้จะเป็นการดีกับทุกฝ่าย”

 

พวกมันสองคนกําลังเล่นเป็นตํารวจที่ตํารวจเลวหากศิษย์นิกายที่ไม่มีประสบการณ์,พวกเขาคงส่งหินวิญาณให้ไปแล้ว

 

น่าเสียดาย,เซียวเฉินไม่คิดไปสนใจมือขวาของเขา,ที่กําลังกุมด้ามกระบี่,ดึงออกอย่างรุนแรงพลังที่เขาได้สะสมเอาไว้เย็นเวลานานทันใดนั้นก็ถูกปลดปล่อยออกมาเขาส่งแรงกดดันกลับไปในทันที

 

“ยิ้ม…!”

 

เกิดเสียงฟ้าคํารามขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่เงียบสงัดกระบี่แสงรุ่งโรจน์จุดขึ้นและเส้นสายฟ้าร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า,ส่องสว่างขึ้นในพื้นที่ระหว่างท้องฟ้าและผืนดินพร้อมกับรวมเข้ากับกระบี่

 

ร่างของเซียวเฉินเคลื่อนขึ้นไปตรงหน้าของชายชุดขาวมีกระบี่แสงวูบผ่านและกระแสพลังของเขาระเบิดขึ้นไปถึงท้องฟ้า

 

นักดาบชุดขาวรู้สึกหวาดกลัวขึ้นจับใจเขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะลงมือแบบฉับพลัน

 

นอกจากนั้น,กระบวณท่าแรกของเขาราวกับเส้นสายฟ้าเคลื่อนกระแสพลังของเขากดลงมาที่ทั้งสองคนอย่างไร้ความปรานีความรวดเร็วและความแข็งแกร่งเกือบจะขึ้นถึงขีดสุด

 

เจ้านี่ไม่ใช่ไก่อ่อนไร้เดียงสา ตั้งแต่ต้นแล้ว เขาไม่มีความตั้งใจจะหลบหนีหรือยินยอมมอบหินวิญญาณแต่อย่างไรก็ตามทุกล้วนล้วนมั่นใจในชัยชนะเกินไปและไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกําลังเตรียมพร้อมที่จะลงมือ

 

หลากหลายความคิดวิ่งผ่านหัวของชายชุดขาวในทันทีเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเร่งถอยกลับกระแสพลังของเขาตกลงถึงจุดต่ําสุด 

 

ถึงกระนั้น,มันจะหลบเลี่ยงกระบวณท่าที่เซียวเฉินได้สะสมพลังมาเป็นเวลานานได้อย่างไร? 

 

“ฟุ ฟิว!”

 

แสงกระบวูบผ่านและบาดแผลน่ากลัวปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเขา เลือดไหลทะลักออกมาราวกับน้ําพุคมกระบี่แบกพลังแห่งสายฟ้า,ทําให้ร่างของเขาถูกซัดลอยและร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง

 

“ฟู!”

 

ชายชุดน้ําเงินตอบโต้อย่างรวดเร็วเขากวาดหอกในมือและมังกรไฟม้วนตัวรอบด้ามหอกพร้อมกับร้องคํารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

 

เขาหมายที่จะขัดจังหวะของเซียวเฉิน,ผลักดันให้เซียวเฉินหยุดไล่ตามชายชุดขาวที่บาดเจ็บ

 

“ปัง!”

 

หอกร้องคํารามออกมาและมังกรไฟได้กลืนกันเซียวเฉินชายชุดน้ําเงินยิ้มขึ้น,พอคิดไปว่าเขาช่างทรงพลังแท้จริงแล้วก็งั้นๆ

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะยิ้มได้เต็มปาก,เขามองเห็นร่างที่เขาซัดหอกใส่ทันใดนั้นก็แตกสลายไปมันเป็นเพียงภาพลวงตา

“มังกรฟ้าฟาดหาง! สับวายุใส!”

 

ร่างของเซี่ยวเฉินปรากฏขึ้นที่ด้านข้างและเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งสีม่วง มีสายลมเย็นพัดเข้ามาพร้อมกันภายในพริบตา,เขาฝ่าทะลวงฝูงชนและตรงเข้าไปหานักดาบชุดขาว

 

นักดาบชุดขาวตกตะลึง เขาควงดาบราวกับสว่า นและพุ่งไปที่เซียวเฉิน

 

เซียวเฉินกํามือซ้ายของเขาเป็นกําปั้นและ หมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรไปพร้อมกันกระดูกในร่างของเขาทั้งหมดส่งเสียงเกรียวกราวเมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป,แม้แต่อากาศก็สั่นสะเทือนไม่หยุด

 

“ปัง!”

 

กําปั้นปะทะเข้ากับปลายดาบและคมกระบี่ ก็แตกสลายเป็นชิ้นในทันทีเซียวเฉินส่งคลื่นลมปราณออกจากร่างของเขาและชิ้นส่วนดาบเบี่ยงออกไปรอบๆโดยไม่ได้ทําอันตรายให้กับเขา

 

อย่างไรก็ตาม,ความรวดเร็วของเซียวเฉินไม่ ได้ลดลงเมื่อเขาเข้าใกล้นักดาบผู้นั้น,กระบี่เงา จันทร์ลบหายไปและเจตนาฆ่าฟันของเขาถูกสงวนเอาไว้เป็นผลทําให้ไม่อาจรู้ได้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อเผชิญหน้ากับสายลมเย็น,นักดาบชุดขาวสูญสิ้นความหวังเขารู้ว่านี่คือทักษะกระบอันเรืองชื่อของศาลากระปสวรรค์,สับวายุใสเมื่อมันเข้าถึงตัวของเขาได้,ไม่มีทางที่จะหลบพ้น 

 

นอกจากนั้น,ตัวเขายังบาดเจ็บสภาพไม่เต็มร้อยไม่มีทางได้เลยที่เขาจะหลบพ้น คนอื่นๆต่างกําลังซ่อนตัว,เศษดาบเหล็กที่เซียวเฉินปัดออกไปทําให้เกิดโกลาหลไม่มีใครที่จะเข้ามาช่วยเหลือเขา

 

“ถึงแม้ข้าจะต้องตาย,ข้าจะลากเจ้าไปกับข้าด้วย!”ชายชุดขาวเผยให้เห็นความดุร้ายพร้อมกับตะโกนขึ้นมีแสงเรืองออกมาจากจุดตันเที่ยนของเขา,เขากําลังใช้ทักษะลับระเบิดตัวเอง

 

สีหน้าของเซี่ยวเฉินไม่เปลี่ยนแปลงกลับกัน,ความเร็วเพิ่มสูงขึ้นและเขาเข้ามาถึงตรงหนาชายชุดขาวเมื่อแสงสว่างเร่งจนถึงขีดสุด,กระบี่เงาจันทร์ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าและแทงไปที่จุกตันเที่ยนของเขาหลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินก็เตะร่างของเขาลอยไปการเคลื่อนไหวลื่นไหลไม่มีสะดุด

 

“ปัง!”

 

ศพของคนผู้นั้นระเบิดขึ้นกลางอากาศ ร่างของ เขาหายไปไม่เหลือซาก,ทิ้งไว้เพียงสายฝนโลหิตที่โปรยลงมา

 

ชายชุดขาวแท้จริงแล้วไม่ได้อ่อนแอ เผชิญ หน้าตามปกติ, หากเซียวเฉินต้องการจะสังหาร เขาเขาจะต้องแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากันมาก กว่าหนึ่งร้อยครั้งก่อนที่จะสังหารเขาลงได้

 

น่าเสียดาย,ที่ตั้งแต่เริ่มตนเขาไม่ได้ระวังตัว เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะลงมือแบบฉับพลันเขายังไม่คาดคิดว่าการจู่โจมของเซี่ยวเฉินจะดุ ดันถึงเพียงนี้ ขณะที่เขาลดการป้องกันลง,เขาก็ได้เจ็บหนัก ท้ายที่สุด ความหวังของเขาก็ดับลง โดยสมบูรณ์

 

หลังจากชายชุดขาวตกตายลง,ผู้บ่มเพาะพลัง สองสามคนที่กําลังประมือกับหลิวสุยเฟิงก็หนีหายไปในทันที พวกนั้นเป็นลูกน้องของชายชุด ขาว ในเนื่องเขาตกตายไปแล้ว,ไม่มีความจําเป็นที่พวกเขาจะต้องอยู่ต่อ

 

ตอนนี้ มีเพียงชายชุดน้ําเงินและลูกน้องของ เขาอีกแปดคนที่เหลือออยู่ หลังจากที่ชายชุดขาวตาย,ชายชุดน้ําเงินก็ตื่นตระหนก และเขาไม่มี แรงใจที่จะลงมือทําอะไร

 

เซี่ยวได้รู้แล้วว่าเซี่ยวเฉินไม่ใช่ระดับขอบเขต นักบุญขั้นต้นธรรมดาสามัญ,มันจะต้องมีอะไรพิเศษในแง่ของพลังน่อสู้เพียงอย่างเดียว,เขาสา มารถทําให้ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงต้องอับอาย

 

กระแสพลังของเขาได้ตกลงไปแล้วหากเขาต้ องการที่จะเร่งกระแสพลังขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะต้องพยายามอย่างมาก ประมือกับฝ่ายตรงข้ามที่ กระแสพลังกําลังพุ่งทะยานไม่ใช่การลงมือที่ฉลาดนัก

 

“หนี!” ชายชุดน้ําเงินตะโกนออกมาเสียงเด็ด ขาด เขาจดจ่อไปที่เซียวเฉิน,เฝ้าระวังเอาไว้ขณะที่เขากระโดดถอยหลังกลับ

 

คนผู้นี้มากประสบการณ์ และยังฉลาดหลัก แหลม ในตอนที่เขาถอยกลับเขาไม่ได้หันหลังวิ่งอย่างเดียว

 

หลังจากที่เขาออกห่างไปไกลและแน่ใจว่า เซียวเฉินไม่ได้ไล่ตามมา,ชายชุดน้ําเงินหันหลังในทันทีพร้อมกับระเบิดความเร็วเพิ่มขึ้น,จางหาย ไปจากสายตาของเซี่ยวเฉิน

 

หลิวสุยเฟิงประหลาดใจ ด้วยนิสัยของเซียว เฉิน,เขาจะไม่ปล่อยคนคนนั้นไปง่ายๆ

 

เซียวเฉินเพียงยืนอยู่ตรงจุดเดิมและพึมพําไม่ หยุด ชายชุดน้ําเงินจากไปไกลแล้วแต่เขาก็ยังไม่ขยับเขาไม่ได้ผ่อนกระแสพลังลง

 

ในตอนที่เซียวเฉินลงมือสังหารชายชุดขาว,เขา ได้รู้สึกถึงฉีฆ่าฟันน่ากลัวมาจากท้องฟ้าทันใดนั้นเอง,เขารู้สึกถึงความตายที่คืบคลาน

 

นอกจากนั้น,กระแสพลังนี้ยังลื่นไหล ในตอนที่ เขาสังเกตเห็น,มันก็ลบหายไปในทันที,กลายเป็นเงียบสงบอีกครั้ง

 

เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณไปถึงระยะสูงสุด แต่ก็ไม่พบอะไร ปต่อย่างไรก็ตาม มันยิ่งทําให้เซียวเฉินไม่กล้าลดการป้องกันหรือผ่อนกระแสพ ลังของเขาลง

 

หลิวสุยเพิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาถาม ขึ้นอย่างเงียบๆ “เย่เฉิน,เกิดอะไรขึ้น?”

 

เซี่ยวเฉินมองดูเมฆบนท้องฟ้า เขากล่าว “ต ลอดทาง,ข้าสัมผัสได้ถึงสายตาที่กําบังจ้องมองพวกเราอยู่ ตอนนี้ข้าแน่ใจแล้ว มันหมายที่จะสัง หารข้า!”

 

“คนผู้นี้อย่างน้อยต้องอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ ขั้นสูงสุดที่มีทักษะเหาะเหิน สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดค่อคนผู้นี้อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ”

 

หลิวสุยเฟิงตกตะลึง,เขาเผยสีหน้าเป็นกังวล และถามขึ้น “พวกเราจะทําเช่นไรกันดี?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 266 ถูกหมายหัว

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 266 ถูกหมายหัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 266 ถูกหมายหัว

 

ตระกูลหยุน..เซี่ยวเฉินครุ่นคิดลึก พ่อค้าที่สามารถหยิบหินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนออกมากองได้ในทันที…ภายในแคว้นซีเหอก็ดูเหมือจะมีแต่ ตระกูลหยุน

 

เซี่ยวเฉินเก็บนามบัตรไป ในตอนที่พ่อค้าคนนั้น เดินจากไปไกล,เขากล่าว “พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ได้คืนนี้ต้องรีบไปที่ท่าเรือในตอนมืดพวกเราถูก หมายหัวแล้ว”

 

หลิวสุยเฟิงพยักหน้าแลกเปลี่ยนหินวิญญาณระดับต่ําหนึ่งหมื่นก้อนนับได้ว่าเป็นการซื้อขายครั้งใหญ่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นอกจากนั้นพวกเขาเป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นคงจะแปลกน่าดูหากพวกเขาไม่ถูกหมายหัว

 

พวกเขาทั้งสองกลับไปที่โรงเตี้ยม,เก็บของเล็กน้อยและเติมเสบียงอาหาร จากนั้น พวกเขาก็ขี่ม้าเลือดมังกร,ออกจากหมู่บ้านไร้ชื่อไปโดยเร็ว 

 

ขณะที่พระอาทิตย์กําลังจะตกดิน,ท้องฟ้าย้อมสีแดงเมฆใหญ่สีแดงปกคลุมที่ท้องฟ้าทิศตะวันตกแสงอ่อนนุ่มฉายลงบนตัวเซียวเฉินและหลิวสุยเฟิง,ทอดเป็นเงายาวสีดํา

 

“ต๊อก! ต๊อก! ต๊อก!

 

พวกที่หมายจะเข้าปล่อนพวกเขาได้มาเร็วกว่าที่คิดพวกเขาออกมาได้เพียงสิบนาทีและบนถนนเบื้องหน้าถูกปิดด้วยผู้บ่มเพาะพลังที่แบกอาวุธเข้ามาพร้อมกับฉีฆ่าฟันพลุ่งพล่าน

 

เซี่ยวเฉินกวาดตามองอย่างนวดเร็ว,นับได้ทั้งหมดสิบแปดคนคนที่อ่อนที่สุดอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นและมีสองคนที่ก้าวขึ้นไปถึงระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูง

 

สายตาของเซี่ยวเฉินจ้องไปที่สองคนนั้นอยู่ครู่หนึ่งหนึ่งในสองคนนั้นสวมชุดสีขาวเขาถือดาบที่มีแสงเย็นเรืองออกมามันยิ่งเป็นประกายภายใต้แสงอาทิตย์ตก

 

อีกคนหนึ่งสวมชุดเกราะศึกที่สวมทับเอาไว้ด้วยเสื้อที่แขนเปิดโล่ง เขากําลังถือหอกยาวสองเมตรและมีความดุร้ายบนใบหน้า

 

ข้างๆพวกเขาเป็นกลุ่มผู้บ่มเพาะพลัง, ที่เหมือนจะมาเข้าร่วมกับสองคนนั้น

 

นักดาบชุดขาวค่อยๆเดินขึ้นหน้ามา ในตอนที่เขาเห็นเซียวเฉินและหลิวสุยเฟิง,เขาเผยรอยยิ้มบางเบาออกมาบนใบหน้าเขากล่าว“พวกข้ามา แสวงหาเพียงโชคลาภและไม่อยากทําร้ายใครทิ้งหินวิญญาณเอาไว้และข้าจะรับรองความปลอด ภัยของพวกเจ้า”

 

ชายชุดน้ําเงินที่ถือหอกปลดปล่อยฉีฆ่าฟันออกมาโดยไม่มีกักเก็บมีความดุร้ายในดวงตาของเขาพร้อมกับกล่าว“ข้าความอดทนต่ําตัดสินใจให้ เร็วเป็นผลดีกับทุกคน มิฉะนั้น,ข้าจะทําให้เจ้า สมหวังในความตาย”

 

กระแสพลังจากพวกเขาทั้งสอง -ระดับขอบ เขตนักบุญขั้นสูง -ค่อยๆขยายออกมา,กดดันเซี่ยวเฉินและหลิวสุยเฟิงเมื่อกระแสพลังมหาศาลของทั้งสองผสานเข้าด้วยกัน,แม้แต่อากาศก็ราวกับถูกแช่แข็งทําให้ยากที่จะสูดหายใจ หลิวสุยเฟิงตื่นกลัวอย่างช่วยไม่ได้เขาหยิบเอาเหรียญแสดงตนออกมาและกล่าว “พวกเราคือศิษย์แก่นกลางของศาบากระบี่สวรรค์ไสหัวไปซะแล้วข้าจะทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมิฉะนั้นแม้พวกเจ้าจะหนีไปจนสุดของโลก,เจ้าก็ไม่มีทางหนีพ้นการไปล่าของร่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์”

 

เซียวเฉินส่ายหัวและมือลงไปจับด้ามกระบี่โดยไม่รู้ตัวคนพวกนี้รู้ตัวตนของพวกเราอยู่แล้ว มิฉะนั้นพวกมันคงไม่เสียเวลามาพูดคุย

 

หากเป็นระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นที่ไม่มีพื้นเพเบื้องหลัง,พวกมันควพุ่งเข้าใส่นานแล้วไม่จําเป็นต้องใช้การข่มขู่พวกเขา

 

พวกเขาจะต้องเกรงกลัวการล้างแค้นของศาบากระบี่สวรรค์แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อคนกลุ่มนี้กล้าที่จะไล่ตามพวกเขามา,เป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกมันเป็นอาชญากรเดนตายและไม่เกรงกลัวการล้างแค้นของศาลากระปสวรรค์

 

หากเป็นไปได้,พวกมันก็ไม่อยากจะไปยั่วยุศาลากระปสวรรค์ถึงแม้ว่าพวกมันจําเป็นต้องยั่วยุศาบากระบีสวรรค์,พวกมันก็เพียงแค่หอบเอาหินวิญญาณหนีออกไปจากแคว้นซีเหอ,ซ่อนตัวอยู่ที่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่จากนั้น,ศาบากระบี่สวรรค์ก็ไม่อาจทําอะไรมันได้แล้ว

 

กระแสพลังของพวกพุ่งขึ้นอย่างช้าๆ,บรรจุเอาไว้และไม่ได้ปลดปล่อยออกมาท้องฟ้าเหนือหัวของพวกเขามืดมิดลงโดยที่ไม่รู้ตัวเมฆสีดําม้วนตัวและพลังของสายฟ้าก่อตัวขึ้น

 

คนหอกชุดฟ้ายิ้มขึ้นและกล่าวเสียงเย็นชา “คิดว่าพวกข้าจะกลัว?พวกเจ้าเป็นเพียงสานุศิษย์แก่นกลางระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น,พวกเจ้าคิดว่าศาลากระบี่สวรรค์จะเรียกใช้ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เพราะพวกเจ้า? ข้าจะพูดอีกครั้งส่งหินวิญญาณมาให้หมด”

 

ชายชุดขาวยังเผยรอยยิ้มจางๆ เขาดูนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่อพร้อมกับกล่าว“พวกเจ้าสองคน,พวก เรามองหาเพียงโชคลาภอย่าไปสนใจเขาแค่ทิ้งหินวิญญาณเอาไว้จะเป็นการดีกับทุกฝ่าย”

 

พวกมันสองคนกําลังเล่นเป็นตํารวจที่ตํารวจเลวหากศิษย์นิกายที่ไม่มีประสบการณ์,พวกเขาคงส่งหินวิญาณให้ไปแล้ว

 

น่าเสียดาย,เซียวเฉินไม่คิดไปสนใจมือขวาของเขา,ที่กําลังกุมด้ามกระบี่,ดึงออกอย่างรุนแรงพลังที่เขาได้สะสมเอาไว้เย็นเวลานานทันใดนั้นก็ถูกปลดปล่อยออกมาเขาส่งแรงกดดันกลับไปในทันที

 

“ยิ้ม…!”

 

เกิดเสียงฟ้าคํารามขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่เงียบสงัดกระบี่แสงรุ่งโรจน์จุดขึ้นและเส้นสายฟ้าร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า,ส่องสว่างขึ้นในพื้นที่ระหว่างท้องฟ้าและผืนดินพร้อมกับรวมเข้ากับกระบี่

 

ร่างของเซียวเฉินเคลื่อนขึ้นไปตรงหน้าของชายชุดขาวมีกระบี่แสงวูบผ่านและกระแสพลังของเขาระเบิดขึ้นไปถึงท้องฟ้า

 

นักดาบชุดขาวรู้สึกหวาดกลัวขึ้นจับใจเขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะลงมือแบบฉับพลัน

 

นอกจากนั้น,กระบวณท่าแรกของเขาราวกับเส้นสายฟ้าเคลื่อนกระแสพลังของเขากดลงมาที่ทั้งสองคนอย่างไร้ความปรานีความรวดเร็วและความแข็งแกร่งเกือบจะขึ้นถึงขีดสุด

 

เจ้านี่ไม่ใช่ไก่อ่อนไร้เดียงสา ตั้งแต่ต้นแล้ว เขาไม่มีความตั้งใจจะหลบหนีหรือยินยอมมอบหินวิญญาณแต่อย่างไรก็ตามทุกล้วนล้วนมั่นใจในชัยชนะเกินไปและไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกําลังเตรียมพร้อมที่จะลงมือ

 

หลากหลายความคิดวิ่งผ่านหัวของชายชุดขาวในทันทีเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเร่งถอยกลับกระแสพลังของเขาตกลงถึงจุดต่ําสุด 

 

ถึงกระนั้น,มันจะหลบเลี่ยงกระบวณท่าที่เซียวเฉินได้สะสมพลังมาเป็นเวลานานได้อย่างไร? 

 

“ฟุ ฟิว!”

 

แสงกระบวูบผ่านและบาดแผลน่ากลัวปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเขา เลือดไหลทะลักออกมาราวกับน้ําพุคมกระบี่แบกพลังแห่งสายฟ้า,ทําให้ร่างของเขาถูกซัดลอยและร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง

 

“ฟู!”

 

ชายชุดน้ําเงินตอบโต้อย่างรวดเร็วเขากวาดหอกในมือและมังกรไฟม้วนตัวรอบด้ามหอกพร้อมกับร้องคํารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

 

เขาหมายที่จะขัดจังหวะของเซียวเฉิน,ผลักดันให้เซียวเฉินหยุดไล่ตามชายชุดขาวที่บาดเจ็บ

 

“ปัง!”

 

หอกร้องคํารามออกมาและมังกรไฟได้กลืนกันเซียวเฉินชายชุดน้ําเงินยิ้มขึ้น,พอคิดไปว่าเขาช่างทรงพลังแท้จริงแล้วก็งั้นๆ

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะยิ้มได้เต็มปาก,เขามองเห็นร่างที่เขาซัดหอกใส่ทันใดนั้นก็แตกสลายไปมันเป็นเพียงภาพลวงตา

“มังกรฟ้าฟาดหาง! สับวายุใส!”

 

ร่างของเซี่ยวเฉินปรากฏขึ้นที่ด้านข้างและเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งสีม่วง มีสายลมเย็นพัดเข้ามาพร้อมกันภายในพริบตา,เขาฝ่าทะลวงฝูงชนและตรงเข้าไปหานักดาบชุดขาว

 

นักดาบชุดขาวตกตะลึง เขาควงดาบราวกับสว่า นและพุ่งไปที่เซียวเฉิน

 

เซียวเฉินกํามือซ้ายของเขาเป็นกําปั้นและ หมุนเวียนทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรไปพร้อมกันกระดูกในร่างของเขาทั้งหมดส่งเสียงเกรียวกราวเมื่อเขาปล่อยหมัดออกไป,แม้แต่อากาศก็สั่นสะเทือนไม่หยุด

 

“ปัง!”

 

กําปั้นปะทะเข้ากับปลายดาบและคมกระบี่ ก็แตกสลายเป็นชิ้นในทันทีเซียวเฉินส่งคลื่นลมปราณออกจากร่างของเขาและชิ้นส่วนดาบเบี่ยงออกไปรอบๆโดยไม่ได้ทําอันตรายให้กับเขา

 

อย่างไรก็ตาม,ความรวดเร็วของเซียวเฉินไม่ ได้ลดลงเมื่อเขาเข้าใกล้นักดาบผู้นั้น,กระบี่เงา จันทร์ลบหายไปและเจตนาฆ่าฟันของเขาถูกสงวนเอาไว้เป็นผลทําให้ไม่อาจรู้ได้ว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อเผชิญหน้ากับสายลมเย็น,นักดาบชุดขาวสูญสิ้นความหวังเขารู้ว่านี่คือทักษะกระบอันเรืองชื่อของศาลากระปสวรรค์,สับวายุใสเมื่อมันเข้าถึงตัวของเขาได้,ไม่มีทางที่จะหลบพ้น 

 

นอกจากนั้น,ตัวเขายังบาดเจ็บสภาพไม่เต็มร้อยไม่มีทางได้เลยที่เขาจะหลบพ้น คนอื่นๆต่างกําลังซ่อนตัว,เศษดาบเหล็กที่เซียวเฉินปัดออกไปทําให้เกิดโกลาหลไม่มีใครที่จะเข้ามาช่วยเหลือเขา

 

“ถึงแม้ข้าจะต้องตาย,ข้าจะลากเจ้าไปกับข้าด้วย!”ชายชุดขาวเผยให้เห็นความดุร้ายพร้อมกับตะโกนขึ้นมีแสงเรืองออกมาจากจุดตันเที่ยนของเขา,เขากําลังใช้ทักษะลับระเบิดตัวเอง

 

สีหน้าของเซี่ยวเฉินไม่เปลี่ยนแปลงกลับกัน,ความเร็วเพิ่มสูงขึ้นและเขาเข้ามาถึงตรงหนาชายชุดขาวเมื่อแสงสว่างเร่งจนถึงขีดสุด,กระบี่เงาจันทร์ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าและแทงไปที่จุกตันเที่ยนของเขาหลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินก็เตะร่างของเขาลอยไปการเคลื่อนไหวลื่นไหลไม่มีสะดุด

 

“ปัง!”

 

ศพของคนผู้นั้นระเบิดขึ้นกลางอากาศ ร่างของ เขาหายไปไม่เหลือซาก,ทิ้งไว้เพียงสายฝนโลหิตที่โปรยลงมา

 

ชายชุดขาวแท้จริงแล้วไม่ได้อ่อนแอ เผชิญ หน้าตามปกติ, หากเซียวเฉินต้องการจะสังหาร เขาเขาจะต้องแลกเปลี่ยนกระบวณท่ากันมาก กว่าหนึ่งร้อยครั้งก่อนที่จะสังหารเขาลงได้

 

น่าเสียดาย,ที่ตั้งแต่เริ่มตนเขาไม่ได้ระวังตัว เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะลงมือแบบฉับพลันเขายังไม่คาดคิดว่าการจู่โจมของเซี่ยวเฉินจะดุ ดันถึงเพียงนี้ ขณะที่เขาลดการป้องกันลง,เขาก็ได้เจ็บหนัก ท้ายที่สุด ความหวังของเขาก็ดับลง โดยสมบูรณ์

 

หลังจากชายชุดขาวตกตายลง,ผู้บ่มเพาะพลัง สองสามคนที่กําลังประมือกับหลิวสุยเฟิงก็หนีหายไปในทันที พวกนั้นเป็นลูกน้องของชายชุด ขาว ในเนื่องเขาตกตายไปแล้ว,ไม่มีความจําเป็นที่พวกเขาจะต้องอยู่ต่อ

 

ตอนนี้ มีเพียงชายชุดน้ําเงินและลูกน้องของ เขาอีกแปดคนที่เหลือออยู่ หลังจากที่ชายชุดขาวตาย,ชายชุดน้ําเงินก็ตื่นตระหนก และเขาไม่มี แรงใจที่จะลงมือทําอะไร

 

เซี่ยวได้รู้แล้วว่าเซี่ยวเฉินไม่ใช่ระดับขอบเขต นักบุญขั้นต้นธรรมดาสามัญ,มันจะต้องมีอะไรพิเศษในแง่ของพลังน่อสู้เพียงอย่างเดียว,เขาสา มารถทําให้ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงต้องอับอาย

 

กระแสพลังของเขาได้ตกลงไปแล้วหากเขาต้ องการที่จะเร่งกระแสพลังขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะต้องพยายามอย่างมาก ประมือกับฝ่ายตรงข้ามที่ กระแสพลังกําลังพุ่งทะยานไม่ใช่การลงมือที่ฉลาดนัก

 

“หนี!” ชายชุดน้ําเงินตะโกนออกมาเสียงเด็ด ขาด เขาจดจ่อไปที่เซียวเฉิน,เฝ้าระวังเอาไว้ขณะที่เขากระโดดถอยหลังกลับ

 

คนผู้นี้มากประสบการณ์ และยังฉลาดหลัก แหลม ในตอนที่เขาถอยกลับเขาไม่ได้หันหลังวิ่งอย่างเดียว

 

หลังจากที่เขาออกห่างไปไกลและแน่ใจว่า เซียวเฉินไม่ได้ไล่ตามมา,ชายชุดน้ําเงินหันหลังในทันทีพร้อมกับระเบิดความเร็วเพิ่มขึ้น,จางหาย ไปจากสายตาของเซี่ยวเฉิน

 

หลิวสุยเฟิงประหลาดใจ ด้วยนิสัยของเซียว เฉิน,เขาจะไม่ปล่อยคนคนนั้นไปง่ายๆ

 

เซียวเฉินเพียงยืนอยู่ตรงจุดเดิมและพึมพําไม่ หยุด ชายชุดน้ําเงินจากไปไกลแล้วแต่เขาก็ยังไม่ขยับเขาไม่ได้ผ่อนกระแสพลังลง

 

ในตอนที่เซียวเฉินลงมือสังหารชายชุดขาว,เขา ได้รู้สึกถึงฉีฆ่าฟันน่ากลัวมาจากท้องฟ้าทันใดนั้นเอง,เขารู้สึกถึงความตายที่คืบคลาน

 

นอกจากนั้น,กระแสพลังนี้ยังลื่นไหล ในตอนที่ เขาสังเกตเห็น,มันก็ลบหายไปในทันที,กลายเป็นเงียบสงบอีกครั้ง

 

เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณไปถึงระยะสูงสุด แต่ก็ไม่พบอะไร ปต่อย่างไรก็ตาม มันยิ่งทําให้เซียวเฉินไม่กล้าลดการป้องกันหรือผ่อนกระแสพ ลังของเขาลง

 

หลิวสุยเพิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาถาม ขึ้นอย่างเงียบๆ “เย่เฉิน,เกิดอะไรขึ้น?”

 

เซี่ยวเฉินมองดูเมฆบนท้องฟ้า เขากล่าว “ต ลอดทาง,ข้าสัมผัสได้ถึงสายตาที่กําบังจ้องมองพวกเราอยู่ ตอนนี้ข้าแน่ใจแล้ว มันหมายที่จะสัง หารข้า!”

 

“คนผู้นี้อย่างน้อยต้องอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ ขั้นสูงสุดที่มีทักษะเหาะเหิน สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดค่อคนผู้นี้อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ”

 

หลิวสุยเฟิงตกตะลึง,เขาเผยสีหน้าเป็นกังวล และถามขึ้น “พวกเราจะทําเช่นไรกันดี?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+