Immortal and Martial Dual Cultivation 246 กระบี่หนัก

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 246 กระบี่หนัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 246 กระบี่หนัก

เกาเชียงเผยสีหน้าประหลาดใจ,เขาคิดไม่ตกว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นระวังที่เขากําลังงงงวย,มีใบหน้าปรากฏขึ้นที่ลําต้นของต้นไม้มันอ้าปากขึ้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

 

ต้นไม้สะบัดอย่างรุนแรงและกิ่งไม้สามกิ่งเคลื่อนลงมาจับเอาตัวเกาเชียงราวกับมือ จากนั้นมันก็หยิบเขาตรงไปที่ปากอะนใหญ่โตของมัน

 

เกาเชียงไม่อาจตอบโต้ได้ทัน เขาดิ้นรนอย่างแรงกลางอากาศ,เกิดเป็นเสียงดัง อย่างไรก็ตามมันไม่เกิดผลอะไร

 

เซียวเฉินพบว่ามันน่าขบขันดี เขาไล่สับต้นไม้เป็นร้อยแต่ไม่ยักจะเจอต้นไม้วิญญาณ เกาหยางกระโดดใส่ต้นแรก,เขากลับเจอต้นไม่วิญญาณเข้าอย่างจัง ไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

 

“อัสนีหลบเลี่ยง!” เซี่ยวเฉินตะโกนและเส้นสายฟ้าปรากฏเฉียดข้างของเกาหยาง เซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแสงเย็นเฉียบจากกระบี่เงาจันทร์สับลงไปยังกิ่งไม้ที่จับตัวเกาเชียงเอาไว้

 

เกาเชียงหลุดออกมาลงถึงพื้นในทันที่,สีหน้าของเขาดุดันกระบี่ยักษ์ของเขายกขึ้นพร้อมกับเรืองแสงสีแดงและฟันลงไปที่ปากอันดํามืดของต้นไม้วิญญาณ

 

ทันใดนั้น,มีรากสองสายขยายออกมาจากพื้น พวกมันจับเอาข้อเท้าของเกาเชียงและยกเขาลอยขึ้นไปในอากาศ

“บูม!” กระบี่แสงพลุ่งพล่านฟันลงไปโดนที่ต้นไม้อื่น ต้นไม้ต้อนนั้นลุกเป็นไฟกลายเป็นถ่านในทันที

 

นี่แสดงให้เห็นว่าพลังของกระบี่เล่มนั้นน่ากลัวถึงเพียงใด อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินไม่อาจไปสนใจเขา เจ้าหมอนี่มันสมองกล้าม,พลังต่อสู้แกร่งกล้าแต่ปัญญานิ่ม

 

“ปุ!”

กิ่งไม้สีแดงถูกยิงออกมาจากปากของต้นไม้วิญญาณทะลวงผ่านอากาศ มันเกิดเสียงโซนิคบูมพร้อมกับเข้าถึงตัวของเซียวเฉินในทันที

 

เชี่ยวเฉินรู้ถึงกระบวณท่านี้มาตั้งแต่ที่เขาอยู่ในปาทมิฬในครั้งนี้เขาสามารถทําได้เพียงหลบหลีก อย่างไรก็ตาม,กระบวณท่านี้ไม่มีความหายต่อหน้าเขาอีกต่อไป

“วาดกระบี่!”

 

มีแสงเย็นเฉียบวูบไหวรวดเร็วยิ่งกว่าเสียงฟันกิ่งไม้ขาดครึ่งกิ่งกลาง แม้ว่ามันจะรวดเร็ว,แต่เซียวเฉินเร็วกว่า

 

“สยายปีก,หนึ่งดาบตัด! ทลาย!”

 

เรืองแสงบนคมกระบี่เงาจันทร์สงวนเอาไว้ เซี่ยวเฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปในอากาศ กิ่งไม้สามเส้นที่กําลังพุ่งเข้ามาคว้าเอาไว้ได้เพียงความว่างเปล่า

 

เซี่ยวเฉินวูบผ่านต้นไม้วิญญาณ หลังจากนั้น,ต้นไม้วิญญาณพังทลายลงพร้อมกับเสียงดังสนั่น จากนั้น,มันก็กลับกลายเป็นเพียงต้นไม้ธรรมดา

 

หลังจากที่ต้นไม้วิญญาณตายลง,รากต้นไม้ที่จับตัวเกาเชียงเอาไว้ก็ร่วงลงเช่นกัน เขาปลดรากต้นไม้ที่พันขาของเขาเอาไว้รู้สึกเสียขวัญ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นเซี่ยวเฉินกําลังเคลื่อนไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง,เขาสามารถทําได้เพียงลุกขึ้นอย่างว่องไว

 

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองยังคงใช้วิธีเดิมไล่ถากต้นไม้ที่อยู่โดยรอบพวกเขาเจอต้นไม้วิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ในปาที่ละต้นๆ

 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เกาเชียงได้รับบทเรียนแล้วก่อนที่เขาจะโจมตี,เขาให้ความสนใจกับกิ่งไม้บนพื้นและในอากาศในตอนที่เขาเข้าไปใกล้เขาจะโจมตีอย่างสุดแรง

พลังปราณธาตุไฟเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของต้นไม้วิญญาณเพิ่มด้วยทักษะต่อสู้ที่ดุดันของยอดเขาเขียนตัวน,เกาเชียงสามารถสั่งหารต้นไม้วิญญาณได้อย่างง่ายดาย

สําหรับเซี่ยวเฉิน,ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเขาเคลื่อนไหวไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย กิ่งของต้นไม้วิญญาณไม่อาจไล่ตามเขาได้ทันหลังจากที่เขาเข้าประชิดได้เขาจะฟันมันเป็นสองส่วนด้วยกระบี่ของเขา

แม้ว่าต้นไม้วิญญาณจะรับมือด้วยได้ยาก,พวกมันก็เป็นเพียงแค่สัตว์อสูรปีศาจระดับสี่เท่านั้น หากพวกมันไม่ได้ซ่อนตัวอยู่,พวกมันก็ไม่เกินมือของระดับขอบเขตนักบุญ

 

ในไม่ช้า,หยุนเข่อซินและคนอื่นๆก็เข้ามาร่วมด้วยผ่านไปสี่ชั่วโมง,ต้นไม้บริเวณโดยรอบถูกถางล้างจนเหี้ยน

 

เมื่อศิษย์ยอดเขากางอวี่ผู้หนึ่งเห็นศพของสองสานุศิษย์ที่ตายไป,พวกมีสีหน้ามืดมน “ช่างโชคไม่ดี…ศิษย์พี่หลิวและศิษย์พี่หวัง… พวกเขาไม่สมควรมาตกตายเช่นนี้”

 

แน่นอนว่าพวกเราไม่ควรมาตกตายเช่นนี้หากว่าพวกเขาไม่ลดการป้องกันลง,พวกเขาจะสามารถหลบการโจมตีฉับพลันของต้นไม้วิญญาณได้พ้นช่างน่าเสียได้,ที่เป็นเพียงแค่ถ้า

 

หลังจากที่พวกเราพักอยู่ครู่หนึ่งและฟื้นฟูพลังปราณ,พวกเขาก็เดินทางต่อในครั้งนี้ ทุกคนล้วนจําคําของหยุนเซ่อซินขึ้นใจ, พวกเขาเฝ้าระวังตัวอยู่ตลอดเวลาถึงอย่างไร,พวกเขาได้เห็นตัวอย่างมาแล้วเมื่อครู่

สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินแปรเปลี่ยนเป็นวงแหวนและขยายออกไปโดยรอบ มันสํารวจพื้นที่รอบข้าง,แต่ก็ไม่พบอะไรเขาพึมพํากับตัวเอง “น่าแปลก,ทําไมร่างสีดํานั้นไม่ปรากฏตัวออกมา?”

 

“ไม่เป็นไรเขาจะปรากฏขึ้นในท้ายที่สุด ข้าเพียงต้องระวังตัวเอาไว้” เซี่ยวเฉินพึมพําพร้อมกับถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา

 

ในทันทีที่เขาถอนสัมผัสวิญญาณกลับ,ลูกบอลควันสีดําลอยขึ้นออกมาจากพื้นบุคคลตัวซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อปรากฏตัวขึ้นมา

 

เขาพึมพํากับตัวเอง “การรับรู้เฉียบคมอะไรเช่นนี้,ข้าเกือบจะถูกพบตัวข้าจะต้องระวังให้มากขึ้นมิฉะนั้น,ข้าคงไม่อาจทําภารกิจของเจ้านายให้สําเร็จ”

 

ลูกบอลควันสีดําอีกเก้าลูกปรากฏขึ้นมาจากพื้นดิน ปีศาจเงาตนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “พี่ใหญ่,พวกมนี้เป็นเพียงแค่มนุษย์ระดับขอบเขตนักบุญ มีอะไรให้พวกเราต้องระแวง”

 

ปีศาจเงาตนแรกที่เผยตัวออกมาชักสีหน้ามีน้ําโห เขาออกปา กด่า “หุบปาก! ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วก่อนที่พวกมันจะเข้าไปเจ อกับงูปีศาจแดง,ไม่อนุญาตให้พวกเจ้าลงมือแต่เจ้ากลับกล้าขัดคําสั่งของข้าและควบคุมต้นไม้วิญญาณให้ลงมือ”

ฉีฆ่าฟันน่าหวาดกลัวปลดปล่อยออกมาจากทําให้ปีศาจเงาที่เอ่ยปากถึงขึ้นอดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเขาไม่กล้าที่จะอ้าปากพูดอะไรออกมาอีก

 

ในปามืดมิด, จากนั้นปีศาจเงาก็ปรากฏตัวต่อหน้าชายที่แต่งชุดสีแดงเลือดด้วยท่าทางอ่อนน้อมอย่างที่สุด อย่างไรก็ตาม,หากสังเกตอย่างละเอียด,พวกมันไม่ใช่สีแดงของชุดแต่อย่างใด:พวกมันคือเลื อดที่กําลังเลื่อนไหลไปโดยรอบใบหน้าของเขาจนไปถึงทั่วทั้งร่า งดูเลือนลาง

ชายสีแดงเลือดกล่าวด้วยน้ําเสียงแหบ “ข้าเคยบอกแล้วว่าให้ล งมือในตอนที่พวกมันไปเจอกับปีศาจแดง แต่เมื่อข้าไม่อยู่เพียงครู่เดียว… ใครเป็นคนลงมือ?”

 

หนึ่งในปีศาจเงาอดไม่ได้ที่จะหลาดกลัว เขาคุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวด้วยน้ําเสียงหวาดกลัว “นายท่าน,ตัวข้าตาบอดทําอะไรไม่คิดข้าอยากจะจัดการพวกมันทั้งหมดและนํามาถวายให้นายท่านมันไม่ใช่ความผิดของพี่ใหญ่”

ชายสีแดงกล่าว “ไม่เป็นไร เอาสองศพนั้นมาให้ข้า เมื่อพวกมันไปเจอกับปีศาคงูแดงค่อยลงมือ คนพวกนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา หากพวกเจ้าไม่มั่นใจอย่าได้เผยตัว”

 

“จําเอาไว้ในมิติแห่งนี้ ทุกครั้งที่มีพวกเจ้าตายลงจะทําให้แม่ทัพปีศาจอ่อนแอลง พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ก็เพื่อท่านแม่ทัพปีศาจ,หาใช่อยู่เพื่อตัวเอง”

ปีศาจเงาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นขอบคุณชายคนนั้นซ้ําๆ เหมือนกับผู้ที่ได้รับการอภัย “ขอบคุณนายท่าน,ขอบคุณนายท่าน นี่คือร่าวของพวกมันหลังจากที่พวกเราขุดมันขึ้นมา,พวกเราได้ใช้ทักษะลับในกา รเก็บรักษามันยังสดใหม่”

 

ชายสีแดงหัวเราะสองสามครั้งก่อนที่จะชี้ไปที่ศพด้วยนิ้วของเขาผ่านไปครู่หนึ่ง,เลือดจากศพไหลออกมาและเคลื่อนไปที่ร่างของชาย

คนนั้น

เรืองแสงสีแดงกระพริบระยับ เลือดบนผิวของชายคนนั้นเดือดผุดอย่างต่อเนื่อง

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง,สองศพนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน

 

เป็นฉากที่แปลกประหลาด สองคนนี้ปต่เดิมที่เป็นสานุศิษย์ของศาบากระบี่สวรรค์ ตอนนี้,พวกเขาอยู่ตรงหน้าของชายสีแดงและกล่าวด้วยเสียงสั่น “นาย..ท่าน…”

 

“องค์ประกอบดีงาม คุ้มค่าที่ข้าปลุกเจ้าขึ้นมา” ชายสีแดงหัวเราะอย่างแปลกประหลาด เขายิงลูกปัดสีแดงเลือดไปที่พวกเขาทั้งสอง

 

“ทักษะลับของตระกูลโลหิต แปลงร่างปีศาจระดับต้น!”

ลูกปัดสีเลือดเข้าไปในหน้าผากของพวกเขาในทันทีใบหน้าที่แต่เดิมซีดเซียวของพวกเขาสามารถมองเห็นประกายเงาวาว,แสงในดวงตาของพวกเขาลุกสว่างขึ้น

 

บาดแผลบนร่างกายของพวกเขาหลอมบิด,พวกเขาดูไม่ต่างจากคนทั่วไปดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพเมื่อมองไปยังชายสีแดงพร้อมกับกล่าว“นายท่าน,คําสั่งของท่านคืออะไร?”

 

ชายสีแดงโบกมือของเขาและกล่าวกับผู้นําของกลุ่มปีศาจเงา “ข้าจะมอบการควบคุมของศพสองร่างนี้ให้เจ้าชั่วคราว หลังจากที่เจ้าทําภารกิจสําเร็จ,เอาพวกมันกลับมาให้ข้า”

“โดยเฉพาะหญิงสาวชุดขาวและชายที่มีแสงสีม่วงบนร่างศพของพวกมันจะต้องอยู่ครบสมบูรณ์ แขนขาห้ามขาดหาย มันเป็นการดีที่สุดหากสามารถจับพวกมันกลับมาได้แบบเป็นๆ”

 

“รับทราบนายท่าน,ข้าจะทําตามคําของนายท่าน”

 

หลังจากที่เซี่ยวเฉินและคนที่เหลือจัดการกับต้นไม้วิญญาณเรียบร้อย,พวกเขาเข้าใกล้จุดกึ่งกลางของปามากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็ถูกขัดขวางด้วยสัตว์อสูรปีศาจ อย่างไรก็ตาม,ด้วยสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉิน, พวกเขาได้เตรียมตัวล่วงหน้า กล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้พบอันตรายอะไรจริงจัง

 

เกาเชียงใช้กระบี่ของเขาดึงเอาแก่นกลางปีศาจระดับห้าออกมาจากร่างของสัตว์อสูรปีศาจมีความพึงพอใจบนใบหน้าของเขา เขาหัวเราะและกล่าว “ถึงแม้ว่าข้าจะสังหารปีศาจไม่ได้สังตัว,แก่นกลางปีศาจพวกนี้ก็เพียงพอแล้ว,ไม่มีปัญหาที่จะเอามันไปแลกเปลี่ยนหินวิญญาณระดับต่ําหนึ่งพันก้อน หากเพียงแค่มีสัตว์อสูรวิญ ญาณระดับห้าขั้นสูงสุด”

 

มูลค่าของแก่นกลางวิญญาณไม่ได้ด้อยไปกว่าแก่นกลางวิญญาณตามจริง,มูลค่าออกจะสูงกว่าด้วยซ้ํานอกจากนั้น,ระดับของสัตว์อสูรปีศาจยิ่งสูง,มูลค่าของมันจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกมหาศาลจากแก่นกลางวิญญาณระดับเดียวกัน

 

แก่นกลางปีศาจระดับ 5 ทั่วไปมีค่าหนึ่งร้อยหินวิระดับต่ํา แก่นกลางวิญญาณระดับห้าขั้นสูงสุดมีมูลค่าหนึ่งพันหินวิญญาณระดับต่ําสําหรับหลแก่นกลางปีศาจระดับ 6,มันมีมูลค่ากว่าหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับต่ํา

มูลค่าของแก่นกลางปีศาจระดับ 6 ขั้นสูงจะดีดขึ้นไปถึงระดับที่น่ากลัวมันจะต้องใช้หินวิญญาณระดับต่ํามากกว่าหนึ่งแสนก้อน

อย่างไรก็ตาม,ตลอดทั้งทาง, พวกเขาพบเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นต้นๆเท่านั้น พวกมันแข็งแกร่งพอๆกับมนุษย์ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นกลางหลงมาบ้างเล็ก น้อยแต่อย่างไรก็ตาม,ไร้วี่แววของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุด

 

มู่เหิงสาปด่า “เจ้านี่มันปากหมา สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดแข็งแกร่งพอๆกับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นนอกจากนั้น, พวกมันยังแข็งแกร่งขึ้นไปอีกภายในมิติแห่งนี้ พวกมันจะแข็งแกร่งเท่ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลางเป็นอย่างน้อย”

 

“หากพวกเราไปเจอเข้าสักตัวไม่แน่ว่าพวกเราจะสามารถหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย แต่เจ้ากําลังคิดจะไปสังหารมันดูเหมือนเจ้าจะหายใจจนเบื่อแล้ว”

 

เกาเชียงเก็บแก่นกลางปีศาจและยิ้มอย่างละอาย “ข้าแร่พูดล อยๆ พวกเราคงไม่ไปเจอเข้าหรอก หากพวกเราไปเจอเข้าจริงๆ,กระบี่ยักษ์ของข้าก็เหมือนไม่จิ้มฟัน”

 

สัตว์อสูรปีศาจที่พบเจอระหว่างทางทําให้เกาเชียงเผยความแข็งแกร่งออกมาได้ต้องบอกว่าทักษะต่อสู้ของยอดเขาเชียนด้วนนั้นดุดันอย่างแท้จริง

 

แม้แต่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นกลางเจอเข้ากับการโจมตีเต็มกําลังของเกาเชียงก็รับมือด้วยยาก เมื่อสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นต้นถูกเขาซัดเข้า,มันได้แผลไปสาหัส

 

รูปแบบการต่อสู้ของเขาเปลี่ยนภาพลักษณ์ในสายตาของทุกคนไม่ได้มองเขาแย่แบบแต่ก่อน

 

เซี่ยวเฉินหัวเราะและไม่ไปสนใจที่ทั้งสองคนโต้เถียงกัน เขาได้เก็บเกี่ยวได้มาไม่น้อย เขาสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดบ 5 ขั้นต้นไปสิบตัวและสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นกลางอีกหนึ่งตัว หากเขาแลกเปลี่ยนแก่นกลางปีศาจทั้งหมดเป็นหินวิญญาณ,เจาจะได้รับหินวิญญาณสองหรือสามพันก้อน

 

เซียวเฉินมองไปยังหยุนเข่อซินที่อยู่ด้านข้างอย่างตื่นตัว,เขารู้สึกผระหลาดใจเขาถามขึ้น “ศิษย์พี่หยุน,ท่านไม่สนใจแก่นหลกลางปีศาจ?”

 

หยุนเข่อซินกล่าวอย่างเฉยเมย “แก่นกลางปีศาจระดับ 5 เอาไปแลกเปลี่ยนหินวิญญาณได้ไม่มากนักพวกเจ้าเอาไปแบ่งกันเอง,ไม่จําเป็นต้องสนใจข้า”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 246 กระบี่หนัก

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 246 กระบี่หนัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 246 กระบี่หนัก

เกาเชียงเผยสีหน้าประหลาดใจ,เขาคิดไม่ตกว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นระวังที่เขากําลังงงงวย,มีใบหน้าปรากฏขึ้นที่ลําต้นของต้นไม้มันอ้าปากขึ้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

 

ต้นไม้สะบัดอย่างรุนแรงและกิ่งไม้สามกิ่งเคลื่อนลงมาจับเอาตัวเกาเชียงราวกับมือ จากนั้นมันก็หยิบเขาตรงไปที่ปากอะนใหญ่โตของมัน

 

เกาเชียงไม่อาจตอบโต้ได้ทัน เขาดิ้นรนอย่างแรงกลางอากาศ,เกิดเป็นเสียงดัง อย่างไรก็ตามมันไม่เกิดผลอะไร

 

เซียวเฉินพบว่ามันน่าขบขันดี เขาไล่สับต้นไม้เป็นร้อยแต่ไม่ยักจะเจอต้นไม้วิญญาณ เกาหยางกระโดดใส่ต้นแรก,เขากลับเจอต้นไม่วิญญาณเข้าอย่างจัง ไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

 

“อัสนีหลบเลี่ยง!” เซี่ยวเฉินตะโกนและเส้นสายฟ้าปรากฏเฉียดข้างของเกาหยาง เซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแสงเย็นเฉียบจากกระบี่เงาจันทร์สับลงไปยังกิ่งไม้ที่จับตัวเกาเชียงเอาไว้

 

เกาเชียงหลุดออกมาลงถึงพื้นในทันที่,สีหน้าของเขาดุดันกระบี่ยักษ์ของเขายกขึ้นพร้อมกับเรืองแสงสีแดงและฟันลงไปที่ปากอันดํามืดของต้นไม้วิญญาณ

 

ทันใดนั้น,มีรากสองสายขยายออกมาจากพื้น พวกมันจับเอาข้อเท้าของเกาเชียงและยกเขาลอยขึ้นไปในอากาศ

“บูม!” กระบี่แสงพลุ่งพล่านฟันลงไปโดนที่ต้นไม้อื่น ต้นไม้ต้อนนั้นลุกเป็นไฟกลายเป็นถ่านในทันที

 

นี่แสดงให้เห็นว่าพลังของกระบี่เล่มนั้นน่ากลัวถึงเพียงใด อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉินไม่อาจไปสนใจเขา เจ้าหมอนี่มันสมองกล้าม,พลังต่อสู้แกร่งกล้าแต่ปัญญานิ่ม

 

“ปุ!”

กิ่งไม้สีแดงถูกยิงออกมาจากปากของต้นไม้วิญญาณทะลวงผ่านอากาศ มันเกิดเสียงโซนิคบูมพร้อมกับเข้าถึงตัวของเซียวเฉินในทันที

 

เชี่ยวเฉินรู้ถึงกระบวณท่านี้มาตั้งแต่ที่เขาอยู่ในปาทมิฬในครั้งนี้เขาสามารถทําได้เพียงหลบหลีก อย่างไรก็ตาม,กระบวณท่านี้ไม่มีความหายต่อหน้าเขาอีกต่อไป

“วาดกระบี่!”

 

มีแสงเย็นเฉียบวูบไหวรวดเร็วยิ่งกว่าเสียงฟันกิ่งไม้ขาดครึ่งกิ่งกลาง แม้ว่ามันจะรวดเร็ว,แต่เซียวเฉินเร็วกว่า

 

“สยายปีก,หนึ่งดาบตัด! ทลาย!”

 

เรืองแสงบนคมกระบี่เงาจันทร์สงวนเอาไว้ เซี่ยวเฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปในอากาศ กิ่งไม้สามเส้นที่กําลังพุ่งเข้ามาคว้าเอาไว้ได้เพียงความว่างเปล่า

 

เซี่ยวเฉินวูบผ่านต้นไม้วิญญาณ หลังจากนั้น,ต้นไม้วิญญาณพังทลายลงพร้อมกับเสียงดังสนั่น จากนั้น,มันก็กลับกลายเป็นเพียงต้นไม้ธรรมดา

 

หลังจากที่ต้นไม้วิญญาณตายลง,รากต้นไม้ที่จับตัวเกาเชียงเอาไว้ก็ร่วงลงเช่นกัน เขาปลดรากต้นไม้ที่พันขาของเขาเอาไว้รู้สึกเสียขวัญ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นเซี่ยวเฉินกําลังเคลื่อนไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง,เขาสามารถทําได้เพียงลุกขึ้นอย่างว่องไว

 

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองยังคงใช้วิธีเดิมไล่ถากต้นไม้ที่อยู่โดยรอบพวกเขาเจอต้นไม้วิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ในปาที่ละต้นๆ

 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เกาเชียงได้รับบทเรียนแล้วก่อนที่เขาจะโจมตี,เขาให้ความสนใจกับกิ่งไม้บนพื้นและในอากาศในตอนที่เขาเข้าไปใกล้เขาจะโจมตีอย่างสุดแรง

พลังปราณธาตุไฟเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของต้นไม้วิญญาณเพิ่มด้วยทักษะต่อสู้ที่ดุดันของยอดเขาเขียนตัวน,เกาเชียงสามารถสั่งหารต้นไม้วิญญาณได้อย่างง่ายดาย

สําหรับเซี่ยวเฉิน,ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเขาเคลื่อนไหวไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย กิ่งของต้นไม้วิญญาณไม่อาจไล่ตามเขาได้ทันหลังจากที่เขาเข้าประชิดได้เขาจะฟันมันเป็นสองส่วนด้วยกระบี่ของเขา

แม้ว่าต้นไม้วิญญาณจะรับมือด้วยได้ยาก,พวกมันก็เป็นเพียงแค่สัตว์อสูรปีศาจระดับสี่เท่านั้น หากพวกมันไม่ได้ซ่อนตัวอยู่,พวกมันก็ไม่เกินมือของระดับขอบเขตนักบุญ

 

ในไม่ช้า,หยุนเข่อซินและคนอื่นๆก็เข้ามาร่วมด้วยผ่านไปสี่ชั่วโมง,ต้นไม้บริเวณโดยรอบถูกถางล้างจนเหี้ยน

 

เมื่อศิษย์ยอดเขากางอวี่ผู้หนึ่งเห็นศพของสองสานุศิษย์ที่ตายไป,พวกมีสีหน้ามืดมน “ช่างโชคไม่ดี…ศิษย์พี่หลิวและศิษย์พี่หวัง… พวกเขาไม่สมควรมาตกตายเช่นนี้”

 

แน่นอนว่าพวกเราไม่ควรมาตกตายเช่นนี้หากว่าพวกเขาไม่ลดการป้องกันลง,พวกเขาจะสามารถหลบการโจมตีฉับพลันของต้นไม้วิญญาณได้พ้นช่างน่าเสียได้,ที่เป็นเพียงแค่ถ้า

 

หลังจากที่พวกเราพักอยู่ครู่หนึ่งและฟื้นฟูพลังปราณ,พวกเขาก็เดินทางต่อในครั้งนี้ ทุกคนล้วนจําคําของหยุนเซ่อซินขึ้นใจ, พวกเขาเฝ้าระวังตัวอยู่ตลอดเวลาถึงอย่างไร,พวกเขาได้เห็นตัวอย่างมาแล้วเมื่อครู่

สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินแปรเปลี่ยนเป็นวงแหวนและขยายออกไปโดยรอบ มันสํารวจพื้นที่รอบข้าง,แต่ก็ไม่พบอะไรเขาพึมพํากับตัวเอง “น่าแปลก,ทําไมร่างสีดํานั้นไม่ปรากฏตัวออกมา?”

 

“ไม่เป็นไรเขาจะปรากฏขึ้นในท้ายที่สุด ข้าเพียงต้องระวังตัวเอาไว้” เซี่ยวเฉินพึมพําพร้อมกับถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา

 

ในทันทีที่เขาถอนสัมผัสวิญญาณกลับ,ลูกบอลควันสีดําลอยขึ้นออกมาจากพื้นบุคคลตัวซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อปรากฏตัวขึ้นมา

 

เขาพึมพํากับตัวเอง “การรับรู้เฉียบคมอะไรเช่นนี้,ข้าเกือบจะถูกพบตัวข้าจะต้องระวังให้มากขึ้นมิฉะนั้น,ข้าคงไม่อาจทําภารกิจของเจ้านายให้สําเร็จ”

 

ลูกบอลควันสีดําอีกเก้าลูกปรากฏขึ้นมาจากพื้นดิน ปีศาจเงาตนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “พี่ใหญ่,พวกมนี้เป็นเพียงแค่มนุษย์ระดับขอบเขตนักบุญ มีอะไรให้พวกเราต้องระแวง”

 

ปีศาจเงาตนแรกที่เผยตัวออกมาชักสีหน้ามีน้ําโห เขาออกปา กด่า “หุบปาก! ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วก่อนที่พวกมันจะเข้าไปเจ อกับงูปีศาจแดง,ไม่อนุญาตให้พวกเจ้าลงมือแต่เจ้ากลับกล้าขัดคําสั่งของข้าและควบคุมต้นไม้วิญญาณให้ลงมือ”

ฉีฆ่าฟันน่าหวาดกลัวปลดปล่อยออกมาจากทําให้ปีศาจเงาที่เอ่ยปากถึงขึ้นอดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเขาไม่กล้าที่จะอ้าปากพูดอะไรออกมาอีก

 

ในปามืดมิด, จากนั้นปีศาจเงาก็ปรากฏตัวต่อหน้าชายที่แต่งชุดสีแดงเลือดด้วยท่าทางอ่อนน้อมอย่างที่สุด อย่างไรก็ตาม,หากสังเกตอย่างละเอียด,พวกมันไม่ใช่สีแดงของชุดแต่อย่างใด:พวกมันคือเลื อดที่กําลังเลื่อนไหลไปโดยรอบใบหน้าของเขาจนไปถึงทั่วทั้งร่า งดูเลือนลาง

ชายสีแดงเลือดกล่าวด้วยน้ําเสียงแหบ “ข้าเคยบอกแล้วว่าให้ล งมือในตอนที่พวกมันไปเจอกับปีศาจแดง แต่เมื่อข้าไม่อยู่เพียงครู่เดียว… ใครเป็นคนลงมือ?”

 

หนึ่งในปีศาจเงาอดไม่ได้ที่จะหลาดกลัว เขาคุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวด้วยน้ําเสียงหวาดกลัว “นายท่าน,ตัวข้าตาบอดทําอะไรไม่คิดข้าอยากจะจัดการพวกมันทั้งหมดและนํามาถวายให้นายท่านมันไม่ใช่ความผิดของพี่ใหญ่”

ชายสีแดงกล่าว “ไม่เป็นไร เอาสองศพนั้นมาให้ข้า เมื่อพวกมันไปเจอกับปีศาคงูแดงค่อยลงมือ คนพวกนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา หากพวกเจ้าไม่มั่นใจอย่าได้เผยตัว”

 

“จําเอาไว้ในมิติแห่งนี้ ทุกครั้งที่มีพวกเจ้าตายลงจะทําให้แม่ทัพปีศาจอ่อนแอลง พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ก็เพื่อท่านแม่ทัพปีศาจ,หาใช่อยู่เพื่อตัวเอง”

ปีศาจเงาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นขอบคุณชายคนนั้นซ้ําๆ เหมือนกับผู้ที่ได้รับการอภัย “ขอบคุณนายท่าน,ขอบคุณนายท่าน นี่คือร่าวของพวกมันหลังจากที่พวกเราขุดมันขึ้นมา,พวกเราได้ใช้ทักษะลับในกา รเก็บรักษามันยังสดใหม่”

 

ชายสีแดงหัวเราะสองสามครั้งก่อนที่จะชี้ไปที่ศพด้วยนิ้วของเขาผ่านไปครู่หนึ่ง,เลือดจากศพไหลออกมาและเคลื่อนไปที่ร่างของชาย

คนนั้น

เรืองแสงสีแดงกระพริบระยับ เลือดบนผิวของชายคนนั้นเดือดผุดอย่างต่อเนื่อง

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง,สองศพนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน

 

เป็นฉากที่แปลกประหลาด สองคนนี้ปต่เดิมที่เป็นสานุศิษย์ของศาบากระบี่สวรรค์ ตอนนี้,พวกเขาอยู่ตรงหน้าของชายสีแดงและกล่าวด้วยเสียงสั่น “นาย..ท่าน…”

 

“องค์ประกอบดีงาม คุ้มค่าที่ข้าปลุกเจ้าขึ้นมา” ชายสีแดงหัวเราะอย่างแปลกประหลาด เขายิงลูกปัดสีแดงเลือดไปที่พวกเขาทั้งสอง

 

“ทักษะลับของตระกูลโลหิต แปลงร่างปีศาจระดับต้น!”

ลูกปัดสีเลือดเข้าไปในหน้าผากของพวกเขาในทันทีใบหน้าที่แต่เดิมซีดเซียวของพวกเขาสามารถมองเห็นประกายเงาวาว,แสงในดวงตาของพวกเขาลุกสว่างขึ้น

 

บาดแผลบนร่างกายของพวกเขาหลอมบิด,พวกเขาดูไม่ต่างจากคนทั่วไปดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพเมื่อมองไปยังชายสีแดงพร้อมกับกล่าว“นายท่าน,คําสั่งของท่านคืออะไร?”

 

ชายสีแดงโบกมือของเขาและกล่าวกับผู้นําของกลุ่มปีศาจเงา “ข้าจะมอบการควบคุมของศพสองร่างนี้ให้เจ้าชั่วคราว หลังจากที่เจ้าทําภารกิจสําเร็จ,เอาพวกมันกลับมาให้ข้า”

“โดยเฉพาะหญิงสาวชุดขาวและชายที่มีแสงสีม่วงบนร่างศพของพวกมันจะต้องอยู่ครบสมบูรณ์ แขนขาห้ามขาดหาย มันเป็นการดีที่สุดหากสามารถจับพวกมันกลับมาได้แบบเป็นๆ”

 

“รับทราบนายท่าน,ข้าจะทําตามคําของนายท่าน”

 

หลังจากที่เซี่ยวเฉินและคนที่เหลือจัดการกับต้นไม้วิญญาณเรียบร้อย,พวกเขาเข้าใกล้จุดกึ่งกลางของปามากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็ถูกขัดขวางด้วยสัตว์อสูรปีศาจ อย่างไรก็ตาม,ด้วยสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉิน, พวกเขาได้เตรียมตัวล่วงหน้า กล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้พบอันตรายอะไรจริงจัง

 

เกาเชียงใช้กระบี่ของเขาดึงเอาแก่นกลางปีศาจระดับห้าออกมาจากร่างของสัตว์อสูรปีศาจมีความพึงพอใจบนใบหน้าของเขา เขาหัวเราะและกล่าว “ถึงแม้ว่าข้าจะสังหารปีศาจไม่ได้สังตัว,แก่นกลางปีศาจพวกนี้ก็เพียงพอแล้ว,ไม่มีปัญหาที่จะเอามันไปแลกเปลี่ยนหินวิญญาณระดับต่ําหนึ่งพันก้อน หากเพียงแค่มีสัตว์อสูรวิญ ญาณระดับห้าขั้นสูงสุด”

 

มูลค่าของแก่นกลางวิญญาณไม่ได้ด้อยไปกว่าแก่นกลางวิญญาณตามจริง,มูลค่าออกจะสูงกว่าด้วยซ้ํานอกจากนั้น,ระดับของสัตว์อสูรปีศาจยิ่งสูง,มูลค่าของมันจะยิ่งสูงขึ้นไปอีกมหาศาลจากแก่นกลางวิญญาณระดับเดียวกัน

 

แก่นกลางปีศาจระดับ 5 ทั่วไปมีค่าหนึ่งร้อยหินวิระดับต่ํา แก่นกลางวิญญาณระดับห้าขั้นสูงสุดมีมูลค่าหนึ่งพันหินวิญญาณระดับต่ําสําหรับหลแก่นกลางปีศาจระดับ 6,มันมีมูลค่ากว่าหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับต่ํา

มูลค่าของแก่นกลางปีศาจระดับ 6 ขั้นสูงจะดีดขึ้นไปถึงระดับที่น่ากลัวมันจะต้องใช้หินวิญญาณระดับต่ํามากกว่าหนึ่งแสนก้อน

อย่างไรก็ตาม,ตลอดทั้งทาง, พวกเขาพบเพียงสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นต้นๆเท่านั้น พวกมันแข็งแกร่งพอๆกับมนุษย์ระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางมีสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นกลางหลงมาบ้างเล็ก น้อยแต่อย่างไรก็ตาม,ไร้วี่แววของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุด

 

มู่เหิงสาปด่า “เจ้านี่มันปากหมา สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดแข็งแกร่งพอๆกับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นนอกจากนั้น, พวกมันยังแข็งแกร่งขึ้นไปอีกภายในมิติแห่งนี้ พวกมันจะแข็งแกร่งเท่ากับระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลางเป็นอย่างน้อย”

 

“หากพวกเราไปเจอเข้าสักตัวไม่แน่ว่าพวกเราจะสามารถหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย แต่เจ้ากําลังคิดจะไปสังหารมันดูเหมือนเจ้าจะหายใจจนเบื่อแล้ว”

 

เกาเชียงเก็บแก่นกลางปีศาจและยิ้มอย่างละอาย “ข้าแร่พูดล อยๆ พวกเราคงไม่ไปเจอเข้าหรอก หากพวกเราไปเจอเข้าจริงๆ,กระบี่ยักษ์ของข้าก็เหมือนไม่จิ้มฟัน”

 

สัตว์อสูรปีศาจที่พบเจอระหว่างทางทําให้เกาเชียงเผยความแข็งแกร่งออกมาได้ต้องบอกว่าทักษะต่อสู้ของยอดเขาเชียนด้วนนั้นดุดันอย่างแท้จริง

 

แม้แต่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นกลางเจอเข้ากับการโจมตีเต็มกําลังของเกาเชียงก็รับมือด้วยยาก เมื่อสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นต้นถูกเขาซัดเข้า,มันได้แผลไปสาหัส

 

รูปแบบการต่อสู้ของเขาเปลี่ยนภาพลักษณ์ในสายตาของทุกคนไม่ได้มองเขาแย่แบบแต่ก่อน

 

เซี่ยวเฉินหัวเราะและไม่ไปสนใจที่ทั้งสองคนโต้เถียงกัน เขาได้เก็บเกี่ยวได้มาไม่น้อย เขาสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดบ 5 ขั้นต้นไปสิบตัวและสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นกลางอีกหนึ่งตัว หากเขาแลกเปลี่ยนแก่นกลางปีศาจทั้งหมดเป็นหินวิญญาณ,เจาจะได้รับหินวิญญาณสองหรือสามพันก้อน

 

เซียวเฉินมองไปยังหยุนเข่อซินที่อยู่ด้านข้างอย่างตื่นตัว,เขารู้สึกผระหลาดใจเขาถามขึ้น “ศิษย์พี่หยุน,ท่านไม่สนใจแก่นหลกลางปีศาจ?”

 

หยุนเข่อซินกล่าวอย่างเฉยเมย “แก่นกลางปีศาจระดับ 5 เอาไปแลกเปลี่ยนหินวิญญาณได้ไม่มากนักพวกเจ้าเอาไปแบ่งกันเอง,ไม่จําเป็นต้องสนใจข้า”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+