Immortal and Martial Dual Cultivation 310 อันตรายที่เกิดขึ้น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 310 อันตรายที่เกิดขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 310 อันตรายที่เกิดขึ้น

ร่างของหญิงสาวสูงมากกว่าสองร้อยเมตร กระ แสพลังของมันห่อหุ้มราชวังน้ําแข็งเอาไว้ ทุกค นรู้ถึงถึงแรงกดดันลงมาบนไหล่ของพวกเขา,รา วกับขุนเขามหึมากําลังกดทับลงบนพวกเขา

“นี่คือผู้เชี่ยวชาญโบราณปิงโห่ว กระแสพลัง ของนางทําให้พวกเรายากที่จะเคลื่อนไหว สีหน้าของฝูงชนกลายเป็นซีดเซียว,พวกเขา พยายามอย่างหนักต่อสู้กับแรงกดดัน แม้แต่อ้า ปากพูดยังทําได้อย่างยากเย็น

“ฟุฟว!”

ทันใดนั้นมีดาบน้ําแข็งปรากฏขึ้นในมือของปิง โหว ดาบแสงวาดผ่านปรากฎในอากาศและ รอยแตกปรากฏขึ้นในมิติเบื้องหน้าของพวกเขา มิ ติถูกทําลายและพลังงานทําลายล้างที่ออกมาก วาดทําลายสัตว์อสูรปีศาจนับไม่ถ้วน

ด้วยการปกป้องของปิงโห่ว,ไม่มีสัตว์อสูรปีศาจ ตัวใดที่สามารถป้องกันราชวังเหมันต์ลึกล้ําไม่ให้ เคลื่อนตัวต่อไปยังเทือกเขาน้ําหมึก

หลังจากที่ร่างของปิงโห่วปรากฏขึ้น,ราชวังเห มันต์ลึกล้ําปลดปล่อยกระแสพลังที่เหนือชั้นและ แข็งแกร่งยิ่งกว่ามหาปราชญ์ สิ่งนี้กดดันสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 และพวกมันไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

คนประมาณสิบคนตรงหน้าของราชวังน้ําแข็งยืนหยัดอย่างขมขื่นภายใต้แรงกดดันที่น่าหวาดกลัว ภายใต้สภาพการณ์นี้, ความแข็งแกร่งของแต่ละคนเผยออกมาให้เห็น

มีสองสามคนที่หมอบคลานไปกับพื้น,ไม่แข็งแกร่งพอที่จะยืนหยัด มีบางคนที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งกับพื้น,เหงื่อหยดลงมาไม่หยุดหย่อน

คนที่ยืนหยัดอยู่ได้คือจีชางคง,ฮวาหยุนเฟย,เซี่ยวเฉิน และคนที่มาจากราชตําหนัก หลวง อย่างไรก็ตาม สีหน้าของพวกเขาไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อย

หากยืดเยื้อต่อไป,พวกเขาอาจจะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่ พวกเขาอาจจบลงเหมือนกับคนอื่นๆ;หลังจากที่ล้มลง,พวกเขาอาจจะไม่สามารถยืนขึ้นมาอีก

เซี่ยวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว กระแสพลังของเขาทั้งหมดบีบอัด และต่อต้านแรงกดที่ไร้รูป อย่างไรก็ตาม,แรงกดบนไหล่ของเขาก็ไม่ได้ลดลง

กระแสพลังที่หนักแน่นดั่งขุนเขา มันรู้สึกเหมือนขาของเซียวเฉินถูกถ่วงด้วยตะกั่ว,เขาไม่มีทางขยับได้แม้แต่น้อย

ขณะที่ทั้งสี่คนไม่อาจจะยืนหยัดอยู่ต่อไป,มีรูสี่เหลี่ยมพื้นผ้าปรากฏขึ้นบนกําแพงราชวังน้ําแข็ง ตัวนมู่ฉิงมองไปที่ทุกคนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และกลายขึ้นอย่างไม่แยแส “เข้ามาเร็ว”

หลังจากนั้น,ประตูของราชวังน้ําแข็งก็เปิดออก,แรงกดดันบนร่างของทุกคนลดลงในทันที เซียวเฉินและอีกสามคนที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ไม่ลังเลที่จะกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่คุกเข่าอยู่กับพื้นรีบดีดตัวตามเข้าไปในทันที 1 อีกสี่คนที่หมอบคลานอยู่กับพื้นหายใจออกอย่างโล่งอกและดิ้นรนลุกขึ้นยืน อย่างไรก็ตาม,พวกเขาพบว่าประตูของราชวังน้ําแข็งปิดลงอีกครั้ง

แรงกดดันน่ากลัวกดลงมาบนร่างของพวกเขาอีกครั้ง,มันราวกับขุนเขาตั้งตระหง่าน เมื่อมันกดลงมาบนร่างของคนเหล่านี้ พวกเขากระอักเลือดออกมา และล้มลงกับพื้นอย่างน่าสังเวช,พวกเขาไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก

ไม่กี่คนที่กลับเข้าไปในโถงใหญ่ต่างมองหน้ากันด้วยความกลัว แม้กระทั่งตอนนี้,หัวใจของพวกเขายังเต้นเสียงหนักแน่น ประสบการณ์ก่อน่านน่าเป็นที่จดจําอย่างแท้จริง

ใบหน้าอันเย็นชาของต้วนมู่ฉิงมีนโหเล็กน้อย นางกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเชื่อฟังกฎของตระกูลต้วนมู่ของพวกเรา อย่าได้เดินไปมา”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้วนมู่ฉิงกล่าวเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม,ด้วยความแข็งแกร่งและสถานะของคนกลุ่มนี้,พวกเขาไม่ได้ไปใส่ใจมากนักเมื่อก่อนหน้านี้

พวกเขามีความคิดว่าตระกูลต้วนม่ไม่อาจทําอะไรพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองเห็นสภาพของสี่คนที่อยู่ด้านนอก,พวกเขาไม่กล้าเมินเฉยคําของนางอีก

หลังจากที่ต้วนมู่ฉิงจากไป,จีชางคงกล่าว “แม้กระทั่งกระแสพลังของภาพเสมือนจักรพรรดิโบราณก็ทําให้พวกเขาไม่อาจต่อต้าน ข้าสงสัยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนางจะยอดเยี่ยมถึงเพียงใด?”

ฮวาหยุนเฟยมีรอยยิ้มโหดเหี้ยมบนใบหน้าพร้อมกับกล่าว “ข้ามีความรู้สึกว่า,ตลอดการเดินไปทางซากนิกายหลเพลิงในครั้งนี้ พวกเราทั้งหมดจะจบลงที่ช่วยแม่นางผู้นี้เย็บชุดแต่งงาน”

TL:มีความหมายประมาณว่าทํางานอย่างหนัก แต่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย ผลประโยชน์ไปตกกับคนอื่น

จีชางคงเผยรอยยิ้มเหยียดหยามและกล่าว “เกิดอะไรขึ้น? นายน้อยฮวาผู้มีบรรลุวิญญาณโลหิตโบราณเกรงกลัวสตรี?”

ฮวาหยุนเฟยยิ้มอย่างเยือกเย็น “เป็นใครกันแน่ที่เกรงกลัวสตรี? พวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี้เห็นชัดกันอยู่แล้ว ข้าได้ยินมาว่านายน้อยจูไม่ได้ไปที่เมืองหลวงมานานหลายปีแล้ว”

คนสองคนที่โงงมมาตลอด หลังจากที่ผ่านคลายลง,พวกเขาก็เริ่มกัดกัน

ผู้คนจากราชตําหนักหลวงต่างหัวเราะแน่นอน,พวกเขารู้ถึงเรื่องในอดีตมีจีชางคงได้ พ่ายแพ้ให้กับองค์หญิงหยิงเยวในกระบวณท่าเดียว

ดวงดารานับไม่ถ้วนวูบไหวในดวงตาของจีชาง คงเจตนาฆ่าฟันเผยออกมาจากดวงตาของเขา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงพริบตาเดียว;สายตาของเขากลับมาเป็นนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว

จรชางคงอาลัยกับตัวเอง,ดูเหมือนว่าตลอดปีที่ผ่านมา,สภาวะจิตใจของฉวาหยุนเฟยจะพัฒนาขึ้นมาก ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง,สภาวะจิตใจของข้ายังคงไม่สมบูรณ์

คิดได้ดังนี้ จีชางคงหยุดปากและเดินตรงขึ้นไปที่ชั้นสอง

คนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปทีละคน ความสงบกลับคืนมาหลังจากเหตุการณ์นี้ และไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ราชวังเหมันต์ลึกล้ําลงจอดที่ใจกลางของเทือกเขาน้ําหมึก

“ปัง!”

วิหคน้ําแข็งขนาดใหญ่สร้างสายลมรุนแรงพร้อมกับลงจอดบนพื้น นี่ทําให้ต้นไม้ที่อยู่รายรอบสั่นสะเทือนไม่หยุด ภาพเสมือนด้านบนราชวังน้ํา แข็งยังไม่จางหายไป

กระแสพลังของมันกดดันสัตว์อสูรโดยรอยทั้ง หมด,ทําให้พวกมันวิ่งหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว นี่ เป็นกระแสพลังชั้นสูงสุดที่ทําให้เหล่าสัตว์อสูรปีศาจหวาดกลัวล็กจนไปถึงกระดูก

หลังจากผ่านไปนาน,สัตว์อสูรปีศาจโดยรอบทั้งหมดแตกกระจายออกไป หลังจากนั้นภาพเสมือนของหญิงสาวจึงค่อยๆจางหายไป ประตูของราชวังน้ําแข็งเปิดออกพร้อมกับเสียงโซว

ภายใต้การนําของด้วนมู่ฉิง,ฝูงชนค่อยๆเดินออกมาจากราชวังเหมันต์ลึกล้ํา สําหรับสี่คนที่อยู่บนหลังของวิหคน้ําแข็ง,พวกเขาถูกดูดกลืนพลังใจไปจนหมดและทําได้เพียงถอนตัวออกจากภารกิจนี้

ด้านหน้าของฝูงชนประมาณห้าร้อยเมตรเป็นหน้าผาสูงตระหง่าน ใต้หน้าผาเป็นหลุมดําขนาดใหญ่,ราวกับปากของสัตว์อสูร เพียงแค่มองดูก็ทําให้เกิดความกลัว

ช่องนี้คือทางเข้าของป่าน้ําหมึก มันดํามืดและไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา

เซี่ยวเฉินค่อยๆเดินไปรอบๆ ไม่ได้เร่งรีบเข้าไปตรวจสอบหลุดดํามืดนั้น เขาหมุนเวียนพลังปราณ และพบว่าพลังงานจิตวิญญาณโดยรอบนั้นเบาบางมาก

มันมีเพียงประมาณหนึ่งในร้อยของปกติ ในอากาศส่วนใหญ่เติมเต็มไปด้วยพลังฉีปีศาจ หากดูดซับมันเข้าไปมากเกินไป มันจะทําให้ร่างกายของพวกเขากลายพันธุ์

ดูเหมือนว่าข้าจะใช้ได้แต่หินวิญญาณในการฟื้นฟูพลังปราณเท่านั้น,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง โชคดี,ข้ายังมีหินวิญญาณระดับกลางมากมาย,ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าเพียงต้องระวังและไม่ดูดซับพลังงานจิตวิญญาณในสถานที่แห่งนี้

ต้วนมู่ฉิงนํากลุ่มระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด สี่คนของตระกูลต้วนมู่เดินขึ้นมาตรงหน้าของทุกคน ตามที่นางได้สัญญาเอาไว้,นางนําคนของนางมาเพียงสี่คน ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นรออยู่ที่ราชวังเหมันต์ลึกลํา

คนที่เหลือไม่อยากที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง,พวกเขารีบตามออกมาโดยเร็ว เซียวเฉินทิ้งระยะห่างมาเล็กน้อย,เขาอยู่ท้ายขบวนของฝูงชน

ในช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าไปในช่อง,เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่จู่โจมเขาในทันที ฉีเยือกแข็งนี้โจมตีอวัยวะภายในของเขาอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินตกใจและรีบหมุนเวียนพลังปราณเพื่อป้องกันตัวเอง

ในตอนนี้,เซียวเฉินใช้พลังปราณบางส่วนของเขาเพิ่งขับฉีเยือกแข็งออกจากร่างกายของเขา

ทุกคนต้องจ่ายพลังปราณบางส่วนเพื่อป้องกัน อวัยวะภายในและขับฉีเยือกแข็งออกจากร่างกายของพวกเขา ทําให้พวกเขาเคลื่อนที่ช้าลง

ช่องที่มีดและความเงียบดูราวกับไร้จุดสิ้นสุด มันมืดสนิท,ทัศนวิสัยของทุกคนลดเหลือภายในระยะสิบเมตรจากตัวเอง

ที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือมีผู้บ่มเพาะพลังหลาย คนที่หยิบเอาไข่มุกราตรี,ศิลาแสง,คบเพลิง และสิ่งให้แสงสว่างอื่นๆออกมา ของพวกนี้ปกติจะสามารถส่องสว่างได้ทั่วทั้งห้อง อย่างไรก็ตาม,ไม่มีแสงออกมาในตอนนี้

เสียงของต้วนมู่ฉิงดังขึ้นมาจากด้านหน้า นางกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่มีอันตรายอื่นภายในอุโมงค์แห่งนี้ แสงสว่างทั้งหมดถูกดูดซับไปโดยพลังปีศาจ ไม่มีอะไรต้องกังวล”

เซียวเฉินจดจ่อไปที่ดวงตาของเขาและมองดู แท้จริงแล้วมีสสารสีดําอยู่ในอากาศ ตอนที่แสงฉายลงไปที่พวกมัน มันดูดซับไปอย่างเงียบเชียบ มันน่าแปลกประหลาดยิ่ง

แม้ตัวนมู่ฉิงจะกล่าวว่าไม่มีอันตรายภายในอุโมงค์แห่งนี้ เซียวเฉินก็ไม่ได้ลดการป้องกันลงมือขวาของเขาจับลงบนด้ามกระบี่,กระแสพลังของเขาปิดซ่อนภายในร่างของเขา ในจังหวะที่มีอะไรผิดแปลก,เขาจะโจมตีทันที

ภายใต้บรรยากาศอันแปลกประหลาดในอุโมงค์,ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พวกเขาได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าอันไร้ที่สิ้นสุด

ไม่รู้ว่าพวกเขาเดินกันมานานเท่าไหร่แล้ว เซียวเฉินรู้สึกว่าทางเดินที่ใต้เท้าของเขาเริ่มลาดชัน พวกเขาลึกลงมาใต้ดินมากแล้ว

หลังจากผ่านไปนาน,แสงสว่างปรากฏขึ้นใน ดวงตาของพวกเขา;ในที่สุดพวกเขาก็เดินออกมาจากอุโมงค์ โลกใต้พิภพปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา

ตรวหน้าของพวกเขาคือป่าสีดําอันไร้ขอบเขตป่าแห่งนี้มีนมนอย่างแปลกประหลาด เสียงร้องของสัตว์อสูรปีศาจดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน,สะท้อนกึกก้องในหูของพวกเขา นี่ทําให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดและฉีกับโลหิตของพวกเขาพุ่งพล่าน เสียงโหดเหี้ยมกราดเกรี้ยวรบกวนจิตใจของพวกเขา

“นี่คือป่าน้ําหมึกอันเลื่องชื่อ?” ผู้บ่มเพาะพลังผู้หนึ่งถามขึ้นด้วยเสียงสั่น

ตัวนมู่ฉิงพยักหน้าและกล่าว “ถูกต้อง สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์วางม่านพลังเอาไว้รอบๆของป่า พวกเขาปลอดภัยในจุดที่ยืนอยู่ตรงนี้ หลังจากที่พวกเราเดินต่อไปอีกหนึ่งร้อยเมตร,พวกเราจะอยู่ ภายในม่านพลังของป่า”
“เช่นนั้นพวกเราจะรออะไร? บุปผาเหมันต์ลึก ล้ําอยู่ไหน? ไปกันเร็ว!” คนจากราชตําหนักหลวงกล่าวขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ

ตัวนมู่ฉิงไม่ได้กล่าวอะไร นางเพียงนําหน้าสี่ผู้เชี่ยวชาญตรกูลต้วนมู่มุ่งหน้าไป คนที่เหลือก็ติดตามนาง

เมื่อพวกเขาเดินผ่านม่านพลัง,เซียวเฉินรู้สึกได้ ถึงสายตาที่มองผ่านมาทางพวกเขา มันราวกับ ความลับทุกอย่างในร่างของพวกเขาถูกเผยออก มา

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ทันใดนั้น,ชายอายุกลางคนห้าคนเรืองแสงสี แดงขึ้นก่อนที่จะตัวระเบิด พวกเขาตกตายแบบซากศพอยู่ไม่ครบสมบูรณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างฉับพลันทําให้ทุกคนตกใจ

ห้าศพตรงนี้เป็นผู้บ่มเพาะพลังจากราชสํานักหลวง ในจังหวะนี้,เหล่าทายาทจากราชสํานักหลวงมีสีหน้าบูดบึง,ไม่อาจบรรยายได้

ตัวนมู่ฉิงเดินไปทราคนพวกนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ นางกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าข้าห้ามไม่ให้นําระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธมา? พวกเจ้ากลับไปซะ,กลับไปทางที่เจ้าเข้ามา”

ทุกคนล้วนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สานุศิษย์ห้าคนจากราชสํานักหลวงพวกนี้ได้พาผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธเข้ามา นอกจากนั้น พวกเขายังใช้วิธีหลบเลี่ยงการตรวจจับของผู้เชี่ยวชาญตระกูลต้วนมู่
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้พวกเขาถูกลบหายไป อย่างถาวรจากม่านพลังของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์,ร่างของพวกเขาระเบิดกระจายไปเป็นชิ้น

ในตอนที่ทั้งห้าคนได้ยินคําของต้วนมู่ฉิง,พวกเขาไม่ได้ไปสนใจมากนัก ด้านหลังของพวกเขามีข้ารับใช้ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงอยู่หลายคน เมื่อรวมเข้าด้วยกัน,พวกเขามีจํานวนกว่ายี่สิบคน พวกเขามีคนมากกว่าคนของตระกูลต้วนมู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 310 อันตรายที่เกิดขึ้น

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 310 อันตรายที่เกิดขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 310 อันตรายที่เกิดขึ้น

ร่างของหญิงสาวสูงมากกว่าสองร้อยเมตร กระ แสพลังของมันห่อหุ้มราชวังน้ําแข็งเอาไว้ ทุกค นรู้ถึงถึงแรงกดดันลงมาบนไหล่ของพวกเขา,รา วกับขุนเขามหึมากําลังกดทับลงบนพวกเขา

“นี่คือผู้เชี่ยวชาญโบราณปิงโห่ว กระแสพลัง ของนางทําให้พวกเรายากที่จะเคลื่อนไหว สีหน้าของฝูงชนกลายเป็นซีดเซียว,พวกเขา พยายามอย่างหนักต่อสู้กับแรงกดดัน แม้แต่อ้า ปากพูดยังทําได้อย่างยากเย็น

“ฟุฟว!”

ทันใดนั้นมีดาบน้ําแข็งปรากฏขึ้นในมือของปิง โหว ดาบแสงวาดผ่านปรากฎในอากาศและ รอยแตกปรากฏขึ้นในมิติเบื้องหน้าของพวกเขา มิ ติถูกทําลายและพลังงานทําลายล้างที่ออกมาก วาดทําลายสัตว์อสูรปีศาจนับไม่ถ้วน

ด้วยการปกป้องของปิงโห่ว,ไม่มีสัตว์อสูรปีศาจ ตัวใดที่สามารถป้องกันราชวังเหมันต์ลึกล้ําไม่ให้ เคลื่อนตัวต่อไปยังเทือกเขาน้ําหมึก

หลังจากที่ร่างของปิงโห่วปรากฏขึ้น,ราชวังเห มันต์ลึกล้ําปลดปล่อยกระแสพลังที่เหนือชั้นและ แข็งแกร่งยิ่งกว่ามหาปราชญ์ สิ่งนี้กดดันสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 และพวกมันไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

คนประมาณสิบคนตรงหน้าของราชวังน้ําแข็งยืนหยัดอย่างขมขื่นภายใต้แรงกดดันที่น่าหวาดกลัว ภายใต้สภาพการณ์นี้, ความแข็งแกร่งของแต่ละคนเผยออกมาให้เห็น

มีสองสามคนที่หมอบคลานไปกับพื้น,ไม่แข็งแกร่งพอที่จะยืนหยัด มีบางคนที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งกับพื้น,เหงื่อหยดลงมาไม่หยุดหย่อน

คนที่ยืนหยัดอยู่ได้คือจีชางคง,ฮวาหยุนเฟย,เซี่ยวเฉิน และคนที่มาจากราชตําหนัก หลวง อย่างไรก็ตาม สีหน้าของพวกเขาไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อย

หากยืดเยื้อต่อไป,พวกเขาอาจจะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่ พวกเขาอาจจบลงเหมือนกับคนอื่นๆ;หลังจากที่ล้มลง,พวกเขาอาจจะไม่สามารถยืนขึ้นมาอีก

เซี่ยวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว กระแสพลังของเขาทั้งหมดบีบอัด และต่อต้านแรงกดที่ไร้รูป อย่างไรก็ตาม,แรงกดบนไหล่ของเขาก็ไม่ได้ลดลง

กระแสพลังที่หนักแน่นดั่งขุนเขา มันรู้สึกเหมือนขาของเซียวเฉินถูกถ่วงด้วยตะกั่ว,เขาไม่มีทางขยับได้แม้แต่น้อย

ขณะที่ทั้งสี่คนไม่อาจจะยืนหยัดอยู่ต่อไป,มีรูสี่เหลี่ยมพื้นผ้าปรากฏขึ้นบนกําแพงราชวังน้ําแข็ง ตัวนมู่ฉิงมองไปที่ทุกคนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และกลายขึ้นอย่างไม่แยแส “เข้ามาเร็ว”

หลังจากนั้น,ประตูของราชวังน้ําแข็งก็เปิดออก,แรงกดดันบนร่างของทุกคนลดลงในทันที เซียวเฉินและอีกสามคนที่ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ไม่ลังเลที่จะกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่คุกเข่าอยู่กับพื้นรีบดีดตัวตามเข้าไปในทันที 1 อีกสี่คนที่หมอบคลานอยู่กับพื้นหายใจออกอย่างโล่งอกและดิ้นรนลุกขึ้นยืน อย่างไรก็ตาม,พวกเขาพบว่าประตูของราชวังน้ําแข็งปิดลงอีกครั้ง

แรงกดดันน่ากลัวกดลงมาบนร่างของพวกเขาอีกครั้ง,มันราวกับขุนเขาตั้งตระหง่าน เมื่อมันกดลงมาบนร่างของคนเหล่านี้ พวกเขากระอักเลือดออกมา และล้มลงกับพื้นอย่างน่าสังเวช,พวกเขาไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก

ไม่กี่คนที่กลับเข้าไปในโถงใหญ่ต่างมองหน้ากันด้วยความกลัว แม้กระทั่งตอนนี้,หัวใจของพวกเขายังเต้นเสียงหนักแน่น ประสบการณ์ก่อน่านน่าเป็นที่จดจําอย่างแท้จริง

ใบหน้าอันเย็นชาของต้วนมู่ฉิงมีนโหเล็กน้อย นางกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเชื่อฟังกฎของตระกูลต้วนมู่ของพวกเรา อย่าได้เดินไปมา”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้วนมู่ฉิงกล่าวเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม,ด้วยความแข็งแกร่งและสถานะของคนกลุ่มนี้,พวกเขาไม่ได้ไปใส่ใจมากนักเมื่อก่อนหน้านี้

พวกเขามีความคิดว่าตระกูลต้วนม่ไม่อาจทําอะไรพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองเห็นสภาพของสี่คนที่อยู่ด้านนอก,พวกเขาไม่กล้าเมินเฉยคําของนางอีก

หลังจากที่ต้วนมู่ฉิงจากไป,จีชางคงกล่าว “แม้กระทั่งกระแสพลังของภาพเสมือนจักรพรรดิโบราณก็ทําให้พวกเขาไม่อาจต่อต้าน ข้าสงสัยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนางจะยอดเยี่ยมถึงเพียงใด?”

ฮวาหยุนเฟยมีรอยยิ้มโหดเหี้ยมบนใบหน้าพร้อมกับกล่าว “ข้ามีความรู้สึกว่า,ตลอดการเดินไปทางซากนิกายหลเพลิงในครั้งนี้ พวกเราทั้งหมดจะจบลงที่ช่วยแม่นางผู้นี้เย็บชุดแต่งงาน”

TL:มีความหมายประมาณว่าทํางานอย่างหนัก แต่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย ผลประโยชน์ไปตกกับคนอื่น

จีชางคงเผยรอยยิ้มเหยียดหยามและกล่าว “เกิดอะไรขึ้น? นายน้อยฮวาผู้มีบรรลุวิญญาณโลหิตโบราณเกรงกลัวสตรี?”

ฮวาหยุนเฟยยิ้มอย่างเยือกเย็น “เป็นใครกันแน่ที่เกรงกลัวสตรี? พวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี้เห็นชัดกันอยู่แล้ว ข้าได้ยินมาว่านายน้อยจูไม่ได้ไปที่เมืองหลวงมานานหลายปีแล้ว”

คนสองคนที่โงงมมาตลอด หลังจากที่ผ่านคลายลง,พวกเขาก็เริ่มกัดกัน

ผู้คนจากราชตําหนักหลวงต่างหัวเราะแน่นอน,พวกเขารู้ถึงเรื่องในอดีตมีจีชางคงได้ พ่ายแพ้ให้กับองค์หญิงหยิงเยวในกระบวณท่าเดียว

ดวงดารานับไม่ถ้วนวูบไหวในดวงตาของจีชาง คงเจตนาฆ่าฟันเผยออกมาจากดวงตาของเขา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงพริบตาเดียว;สายตาของเขากลับมาเป็นนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว

จรชางคงอาลัยกับตัวเอง,ดูเหมือนว่าตลอดปีที่ผ่านมา,สภาวะจิตใจของฉวาหยุนเฟยจะพัฒนาขึ้นมาก ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง,สภาวะจิตใจของข้ายังคงไม่สมบูรณ์

คิดได้ดังนี้ จีชางคงหยุดปากและเดินตรงขึ้นไปที่ชั้นสอง

คนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปทีละคน ความสงบกลับคืนมาหลังจากเหตุการณ์นี้ และไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ราชวังเหมันต์ลึกล้ําลงจอดที่ใจกลางของเทือกเขาน้ําหมึก

“ปัง!”

วิหคน้ําแข็งขนาดใหญ่สร้างสายลมรุนแรงพร้อมกับลงจอดบนพื้น นี่ทําให้ต้นไม้ที่อยู่รายรอบสั่นสะเทือนไม่หยุด ภาพเสมือนด้านบนราชวังน้ํา แข็งยังไม่จางหายไป

กระแสพลังของมันกดดันสัตว์อสูรโดยรอยทั้ง หมด,ทําให้พวกมันวิ่งหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว นี่ เป็นกระแสพลังชั้นสูงสุดที่ทําให้เหล่าสัตว์อสูรปีศาจหวาดกลัวล็กจนไปถึงกระดูก

หลังจากผ่านไปนาน,สัตว์อสูรปีศาจโดยรอบทั้งหมดแตกกระจายออกไป หลังจากนั้นภาพเสมือนของหญิงสาวจึงค่อยๆจางหายไป ประตูของราชวังน้ําแข็งเปิดออกพร้อมกับเสียงโซว

ภายใต้การนําของด้วนมู่ฉิง,ฝูงชนค่อยๆเดินออกมาจากราชวังเหมันต์ลึกล้ํา สําหรับสี่คนที่อยู่บนหลังของวิหคน้ําแข็ง,พวกเขาถูกดูดกลืนพลังใจไปจนหมดและทําได้เพียงถอนตัวออกจากภารกิจนี้

ด้านหน้าของฝูงชนประมาณห้าร้อยเมตรเป็นหน้าผาสูงตระหง่าน ใต้หน้าผาเป็นหลุมดําขนาดใหญ่,ราวกับปากของสัตว์อสูร เพียงแค่มองดูก็ทําให้เกิดความกลัว

ช่องนี้คือทางเข้าของป่าน้ําหมึก มันดํามืดและไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา

เซี่ยวเฉินค่อยๆเดินไปรอบๆ ไม่ได้เร่งรีบเข้าไปตรวจสอบหลุดดํามืดนั้น เขาหมุนเวียนพลังปราณ และพบว่าพลังงานจิตวิญญาณโดยรอบนั้นเบาบางมาก

มันมีเพียงประมาณหนึ่งในร้อยของปกติ ในอากาศส่วนใหญ่เติมเต็มไปด้วยพลังฉีปีศาจ หากดูดซับมันเข้าไปมากเกินไป มันจะทําให้ร่างกายของพวกเขากลายพันธุ์

ดูเหมือนว่าข้าจะใช้ได้แต่หินวิญญาณในการฟื้นฟูพลังปราณเท่านั้น,เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง โชคดี,ข้ายังมีหินวิญญาณระดับกลางมากมาย,ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าเพียงต้องระวังและไม่ดูดซับพลังงานจิตวิญญาณในสถานที่แห่งนี้

ต้วนมู่ฉิงนํากลุ่มระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด สี่คนของตระกูลต้วนมู่เดินขึ้นมาตรงหน้าของทุกคน ตามที่นางได้สัญญาเอาไว้,นางนําคนของนางมาเพียงสี่คน ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นรออยู่ที่ราชวังเหมันต์ลึกลํา

คนที่เหลือไม่อยากที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง,พวกเขารีบตามออกมาโดยเร็ว เซียวเฉินทิ้งระยะห่างมาเล็กน้อย,เขาอยู่ท้ายขบวนของฝูงชน

ในช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าไปในช่อง,เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่จู่โจมเขาในทันที ฉีเยือกแข็งนี้โจมตีอวัยวะภายในของเขาอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินตกใจและรีบหมุนเวียนพลังปราณเพื่อป้องกันตัวเอง

ในตอนนี้,เซียวเฉินใช้พลังปราณบางส่วนของเขาเพิ่งขับฉีเยือกแข็งออกจากร่างกายของเขา

ทุกคนต้องจ่ายพลังปราณบางส่วนเพื่อป้องกัน อวัยวะภายในและขับฉีเยือกแข็งออกจากร่างกายของพวกเขา ทําให้พวกเขาเคลื่อนที่ช้าลง

ช่องที่มีดและความเงียบดูราวกับไร้จุดสิ้นสุด มันมืดสนิท,ทัศนวิสัยของทุกคนลดเหลือภายในระยะสิบเมตรจากตัวเอง

ที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือมีผู้บ่มเพาะพลังหลาย คนที่หยิบเอาไข่มุกราตรี,ศิลาแสง,คบเพลิง และสิ่งให้แสงสว่างอื่นๆออกมา ของพวกนี้ปกติจะสามารถส่องสว่างได้ทั่วทั้งห้อง อย่างไรก็ตาม,ไม่มีแสงออกมาในตอนนี้

เสียงของต้วนมู่ฉิงดังขึ้นมาจากด้านหน้า นางกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่มีอันตรายอื่นภายในอุโมงค์แห่งนี้ แสงสว่างทั้งหมดถูกดูดซับไปโดยพลังปีศาจ ไม่มีอะไรต้องกังวล”

เซียวเฉินจดจ่อไปที่ดวงตาของเขาและมองดู แท้จริงแล้วมีสสารสีดําอยู่ในอากาศ ตอนที่แสงฉายลงไปที่พวกมัน มันดูดซับไปอย่างเงียบเชียบ มันน่าแปลกประหลาดยิ่ง

แม้ตัวนมู่ฉิงจะกล่าวว่าไม่มีอันตรายภายในอุโมงค์แห่งนี้ เซียวเฉินก็ไม่ได้ลดการป้องกันลงมือขวาของเขาจับลงบนด้ามกระบี่,กระแสพลังของเขาปิดซ่อนภายในร่างของเขา ในจังหวะที่มีอะไรผิดแปลก,เขาจะโจมตีทันที

ภายใต้บรรยากาศอันแปลกประหลาดในอุโมงค์,ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พวกเขาได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าอันไร้ที่สิ้นสุด

ไม่รู้ว่าพวกเขาเดินกันมานานเท่าไหร่แล้ว เซียวเฉินรู้สึกว่าทางเดินที่ใต้เท้าของเขาเริ่มลาดชัน พวกเขาลึกลงมาใต้ดินมากแล้ว

หลังจากผ่านไปนาน,แสงสว่างปรากฏขึ้นใน ดวงตาของพวกเขา;ในที่สุดพวกเขาก็เดินออกมาจากอุโมงค์ โลกใต้พิภพปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา

ตรวหน้าของพวกเขาคือป่าสีดําอันไร้ขอบเขตป่าแห่งนี้มีนมนอย่างแปลกประหลาด เสียงร้องของสัตว์อสูรปีศาจดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน,สะท้อนกึกก้องในหูของพวกเขา นี่ทําให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดและฉีกับโลหิตของพวกเขาพุ่งพล่าน เสียงโหดเหี้ยมกราดเกรี้ยวรบกวนจิตใจของพวกเขา

“นี่คือป่าน้ําหมึกอันเลื่องชื่อ?” ผู้บ่มเพาะพลังผู้หนึ่งถามขึ้นด้วยเสียงสั่น

ตัวนมู่ฉิงพยักหน้าและกล่าว “ถูกต้อง สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์วางม่านพลังเอาไว้รอบๆของป่า พวกเขาปลอดภัยในจุดที่ยืนอยู่ตรงนี้ หลังจากที่พวกเราเดินต่อไปอีกหนึ่งร้อยเมตร,พวกเราจะอยู่ ภายในม่านพลังของป่า”
“เช่นนั้นพวกเราจะรออะไร? บุปผาเหมันต์ลึก ล้ําอยู่ไหน? ไปกันเร็ว!” คนจากราชตําหนักหลวงกล่าวขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ

ตัวนมู่ฉิงไม่ได้กล่าวอะไร นางเพียงนําหน้าสี่ผู้เชี่ยวชาญตรกูลต้วนมู่มุ่งหน้าไป คนที่เหลือก็ติดตามนาง

เมื่อพวกเขาเดินผ่านม่านพลัง,เซียวเฉินรู้สึกได้ ถึงสายตาที่มองผ่านมาทางพวกเขา มันราวกับ ความลับทุกอย่างในร่างของพวกเขาถูกเผยออก มา

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ทันใดนั้น,ชายอายุกลางคนห้าคนเรืองแสงสี แดงขึ้นก่อนที่จะตัวระเบิด พวกเขาตกตายแบบซากศพอยู่ไม่ครบสมบูรณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างฉับพลันทําให้ทุกคนตกใจ

ห้าศพตรงนี้เป็นผู้บ่มเพาะพลังจากราชสํานักหลวง ในจังหวะนี้,เหล่าทายาทจากราชสํานักหลวงมีสีหน้าบูดบึง,ไม่อาจบรรยายได้

ตัวนมู่ฉิงเดินไปทราคนพวกนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ นางกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าข้าห้ามไม่ให้นําระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธมา? พวกเจ้ากลับไปซะ,กลับไปทางที่เจ้าเข้ามา”

ทุกคนล้วนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สานุศิษย์ห้าคนจากราชสํานักหลวงพวกนี้ได้พาผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธเข้ามา นอกจากนั้น พวกเขายังใช้วิธีหลบเลี่ยงการตรวจจับของผู้เชี่ยวชาญตระกูลต้วนมู่
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้พวกเขาถูกลบหายไป อย่างถาวรจากม่านพลังของสามดินแดนศักดิ์สิทธิ์,ร่างของพวกเขาระเบิดกระจายไปเป็นชิ้น

ในตอนที่ทั้งห้าคนได้ยินคําของต้วนมู่ฉิง,พวกเขาไม่ได้ไปสนใจมากนัก ด้านหลังของพวกเขามีข้ารับใช้ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงอยู่หลายคน เมื่อรวมเข้าด้วยกัน,พวกเขามีจํานวนกว่ายี่สิบคน พวกเขามีคนมากกว่าคนของตระกูลต้วนมู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+