Immortal and Martial Dual Cultivation 68 หนึ่งกระบี่สามลูกศร

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 68 หนึ่งกระบี่สามลูกศร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 68 หนึ่งกระบี่สามลูกศร

“นั้นมันคนของตระกูลถัง! นั้นก็เป็นถังเฟิง” เมื่อคนกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้เซียวเฉินและคนอื่นๆก็สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้

กลุ่มของตระกูลถังก็ประกอบไปด้วยห้าคนเช่นเดียวกัน ถังเฟิงกำลังถือคันธนูที่ทำมาจากผลึกน้ำเเข็ง เมื่อพวกเขาอยู่ห่างไปอีกเพียงร้อยเมตรพวกเขาก็หยุดฝีเท้าลง เมื่อเขาเห็นเซียวเฉินความตกใจก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาไปพักใหญ่

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เขาก็ยิ้มขึ้น “พี่น้องเซียวเฉินเจ้าอยู่ที่นี้เอง ช่างบังเอิญจริงๆ ต้องขออภัยแต่กิ้งก่าเพลิงตัวนั้นเป็นของพวกเรา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นศิษย์ตระกูลเซียวสองสามคนข้างหลังเซียวเฉินก็ปลดปล่อยโทสะ หลังจากที่พวกเราตบตีกับมันมานานกว่าครึ่งวันไอ้หมอนี้ก็เดินผ่านมาฉกมันไป มันไม่ถูกต้อง!

เซียวหลิงเอ๋อหมวดคิ้วเล็กน้อยพูดเยาะเย้ยออกมา “หากเจ้ากล้าพอก็วางธนูลงแล้วตรงเข้ามาเลย”

คนที่เหลือหัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่าธนูผลึกน้ำแข็งในมือของถังเหอนั้นไม่ใช่ของธรรมดา มองเห็นเขาตั้งหลักอยู่ไกลเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเขาระวังตัวมาก

ถังเฟิงเล่นธนูในมือของเขาและยิ้มออกมาอย่างไม่แยแส “พี่น้องเฉิน สมาชิกตระกูลเซียวของเจ้ากำลังถูกกดดันไม่อาจตอบโต้ได้ ลูกศรของข้าเห็นได้ชัดว่าช่วยพวกเขาเอาไว้ มอบแก่นกลางปีศาจก้อนเล็กๆนั้นมาให้ข้าก็ไม่ได้ไร้เหตุผลนัก”

“มันโคตรไร้เหตุผล” เซียวเฉินขี้เกียจเล่นคำกับเขาและพูดต่อไปอย่าไม่แยแส “หากพวกเขาไม่เล่นเจ้ากิ้งก่าเพลิงนั้นไว้จนเละในตอนแรก เจ้าคิดจริงๆว่าลูกศรของเจ้าจะสังหารมันได้?”

“ข้าอุส่ามองผ่านที่พวกเจ้าเข้ามาป่วนการทดสอบ ตอนนี้เจ้ายังมาเล่นคำกับข้า? ไสหัวไปซะ”

ถังเฟิงสีหน้าเปลี่ยน ในตอนแรกเขานั้นคิดว่ากลุ่มตระกูลเซียวจะถูกทำลายไปด้วยน้ำมือของผู้อาวุโสของตระกูลถังและตระกูลจางไปเรียบร้อยแล้ว ความตั้งใจของเขาก็มาเพื่อพบกับพวกผู้อาวุโส

เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะมายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ครุ่นคิดอย่างหนักถังเฟิงพูดออกมาอย่างเย็นชา “เซียวเฉินเจ้าจะดูถูกความแข็งแกร่งของข้ามากเกินไปแล้ว หากเจ้ารับลูกศรของข้าได้สามครั้งข้าจะจากไปทันที”

“พวกเราจะรับให้ดู! สิบลูกศรก็ไม่ใช่ปัญหา คิดว่าพี่ใหญ่เฉินจะกลัวพวกเจ้า?” เสียงอันไพเราะของเซียวหลิงเอ๋อดังขึ้นมาก่อนที่เซียวเฉินจะได้อ้าปากเสียอีก

“พี่ใหญ่เฉินพยายามเข้า! ดับความอวดดีของพวกมัน” เซียวหลิงเอ๋อพูดกับเซียวเฉินด้วยท่าทางตามปกติของนาง แบบพิลึกๆ

เซียวเฉินมองแรงไปที่นาง เห็นได้ชัดว่าสาวน้อยคนนี้กำลังแก้แค้นเขาอยู่ นางโดนกิ้งก่าเพลิงทุบตีทุลักทุเลและตอนนี้พอมีโอกาสที่จะได้แก้เเค้นนางก็คว้ามันไว้ทันที

เพื่อที่จะจัดการใครสักคนที่ใช้การโจมตีระยะไกลเหมือนกับถังเฟิงต้องเข้าประชิดตัวและจัดการให้เร็วที่สุดไม่เปิดโอกาสให้เขาทิ้งระยะห่าง ยืนรอให้พวกเขายิงมานั้นเป็นเรื่องโง่

“เซียวเฉิน ข้าจะไม่ยิงมากเกินกว่าที่ข้าบอกไปสามลูกศรเท่านั้น หากเจ้ารับได้สามลูกศรข้าจะจากไปทันที เจ้ากล้าหรือไม่?” มองเห็นเซียวเฉินไม่พูดอะไรถังเฟิงใช้การยั่วยุให้เขาปั่นหัวเพื่อให้เข้าทางที่ต้องการ

นับตั้งแต่ที่ถังเฟิงปรากฎตัวออกมาสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินก็ไม่ได้ละไปจากธนูผลึกน้ำแข็งในมือของถังเฟิง พลังฉีเยือกเย็นไหลไปบนคันธนูและพลังวิญญาณธาตุน้ำแข็งก็หมุนเวียนอยู่ในตัวมัน

เห็นได้ชัดว่าเป็นอาวุธวิญญาณมีคุณลักษณะธาตุน้ำแข็งฝังเอาไว้  นอกจากนั้นจิตวิญญาณต่อสู้ของถังเฟิงยังมีคุณลักษณะธาตุน้ำแข็งทำให้ธนูน้ำแข็งนั้นดูดพลังความเย็นจากรอบข้างเข้ามาได้

อย่างไรก็ตามเซียวเฉินก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เป็นเพราะว่าถังเฟิงนั้นอยู่เพียงระดับเขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูงสุด แม้ว่าเขากำลังจะขึ้นไปแตะระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ แต่ก็ยังคงเป็นระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดอยู่ดี

ความแข็งแกร่งของเขาถูกจำกัดไว้ เขาไม่มีทางที่จะดึงความแข็งแกร่งของธนูน้ำแข็งออกมาใช้ได้ทั้งหมด

เซียวเฉินยิ้มอ่างเฉยเมย “ทำไมข้าจะไม่กล้ารับลูกศรจากเจ้า? หากข้ารับมันได้เจ้าจะกล้ารับกระบี่ของข้าหรือไม่?”

“ทำไมข้าจะไม่กล้า? ข้าก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตอนที่รับลูกศรจากข้างไปสามลูกศร” ถังเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา จากคำพูดเห็นได้ชัดเจนว่าเขามั่นใจในธนูผลึกน้ำแข็งในมือของเขามาก

ถังเฟิงจับธนูด้วยมือของเขาและทันใดนั้นกระแสพลังของเขาก็เปลี่ยนไป ดึงสายธนูกลับมาเปลี่ยนให้รูปทรงของธนูคล้ายกับจันทร์เต็มดวงพลังฉีเยือกเย็นไหลเข้าไปในธนู แสงเย็นยะเยือกออกมาพร้อมกับน้ำแข็งเวียนว่ายไปรอบมันเหมือนกับลูกอ๊อดที่มีชีวิต

“ซิ่ว!”

สายธนูสั่นสะเทือนและลูกศรแรกที่ถูกยิงออกมาราวกับสายรุ้งเยื่อแข็ง พลังฉีที่ไร้ขอบเขตยิงตรงมาที่คอของเซียวเฉินส่งเสียง “วู่ วู่” ออกมา ราวกับเทพเจ้าน้ำแข็งพุ่งตรงมาอย่างรุนแรงไม่มีใครเทียบ

“แคร้ง!”

สายตาของเซียวเฉินราวกับผืนน้ำสงบนิ่งกระบี่แสงจันทร์ในมือของเขาทันใดนั้นก็เรืองแสงประกายสายฟ้า เสียงแตกกระจายดังกังวาลและลูกศรน้ำแข็งก็แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน

“ฮ่ะ!”

เศษน้ำแข็งที่แตกในอากาศไม่ได้ร่วงลงสู่พื้นพวกมันละลายกลายเป็นน้ำและรวมตัวกลายเป็นลูกศรน้ำแข็งอีกครั้ง ความเร็วของมันเพิ่มเป็นเท่าตัวอยู่ห่างจากเซียวเฉินประมาณหนึ่งเมตร

เซียวเฉินถอยกลับไปสองสามก้าวส่งพลังของแก่นกลางปีศาจในกระบี่เงาจันทร์ออกมา แสงสายฟ้าวูบไหวอย่างต่อเนื่องสร้างสายฟ้าออกมานับไม่ถ้วนหลังจากนั้นเขาก็ฟันกระบี่ลงไปอีกครั้ง

“แคร้ง!แคร้ง!”

ในครั้งนี้ลูกศรมันไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นน้ำและร่วงลงสู้พื้นดูไม่มีพิษสงอีกต่อไป

เมื่อเซียวหลิงเอ๋อผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขามองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าของนาง นางก็เสียใจกับการกระทำของนาง ลูกศรน้ำแข็งของถังเฟิงนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

ถังเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าเคยคิดว่าเจ้าแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าจะไม่ถึงขนาดนั้น นี่เป็นแค่ลูกศรแรก ยังมีอีกสอง ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะรับมือมันได้ยังไง”

เมื่อเขาพูดจบถังเฟิงก็ดึงธนูขึ้นมาอีกครั้งทันที พลังฉีเยือกเย็นไหลเข้าไปในธนูและสร้างลูกศำน้ำแข็งออกมาอีกครั้ง ความหนาวเหน็บราวกับยืนอยู่บนขั้วโลกเหนือถูกปลดปล่อยออกมาในอากาศเมื่อลูกศรถูกส่งออกมา

ลูกศรนี้เร็วมาจนไม่ทิ้งเงาไว้ตามหลัง เป็นไปไม่ได้ที่ตาของมนุษย์จะมองตามมันทัน ราวกับมันทุละผ่านช่องว่างและมาปรากฎต่อหน้าของเซียวเฉิน

เซียวเฉินยื่นมือขวาของเขาออกมาและชี้นิ้วตรงไปข้างหน้า พลังปราณพรุ่งพร่านในร่างของเขาไหลตรงไปที่มือขวาราวกับแม่น้ำ ประกายเล็กๆถูกจุดขึ้นมาราวกับหิ่งห้อยในยามค่ำคืน

“ปัง!”

เมื่อลูกศรน้ำแข็งปะทะกับนิ้วก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น เซียวเฉินขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยยืนปะทะกับลูกศรน้ำแข็ง

มือขวางของถังเฟิงทันใดนั้นก็ไปจับที่สายธนูและระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นดึงพลังฉีเยือกเย็นเทลงไปที่ลูกศรน้ำแข็ง ทันใดนั้นสิ่งนี้ก็เพิ่มแรงกดดันไปที่เซียวเฉินทันทีทำให้เท้าของเขาขยับเล็กน้อย

“เปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง ระเบิด!”

เซียวเฉินตะโกนออกมาเบาๆ เปลวเพลิงสีม่วงขยายออกมาตั้งแต่ปลายเท้าถึงปลายนิ้วของเขาทำให้เขาดูเหมือนเทพเจ้าแห่งไฟ

ทันใดนั้นหิ่งห้อยเพลิงนั้นปะทุขึ้นเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดทำให้ลูกศรน้ำแข็งระเหยหายไปอย่างสมบูรณ์กลายเป็นไอน้ำลอยออกมาจากปลายนิ้วของเซียวเฉิน

ภายใต้ความร้อนแรงของเปลวเพลิงนี้ทำให้คนที่อยู่รอบข้างรู้สึกอบอุ่นแม้ว่าจะอยู่ในป่าทมิฬที่หนาวเหน็บ แสดงให้เห็นว่ามันร้อนถึงเพียงใด

เซียวหลิงเอ๋อพูดออกมาอย่างตื่นเต้น “พี่ใหญ่เฉินสุดยอดที่สุด!”

เมื่อเห็นลูกศรน้ำแข็งที่ระเหยกลายเป็นไอสีหน้าของถังเฟิงเปลี่ยนพร้อมกับพูดขึ้นอย่างเย็นชา “อย่าเพิ่งรีบดีใจไป! ข้ายังมีอีกหนึ่งลูกศร”

ถังเฟิงดึงสายธนูอีกครั้ง ในครั้งนี้มือขวาของเขาเปล่งแสงออกมาและทั่วทั้งคันธนูก็ส่องแสงออกมาระยิบระยับ พลังงานธาตุน้ำแข็งอันไร้ขอบเขตในบริเวณไหลมารวมกันที่มือขวาของเขาอย่างรวดเร็ว

แสงเยือกเย็นเติมเต็มท้องฟ้าด้านหลังเขาให้เต็มไปด้วยน้ำค้างแข็งระยิบระยับราวกับดาวดาวบนท้องฟ้า อุณภูมิโดยรอบก็ลดต่ำลง

เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณออกไปและเขาก็เห็นวิหคตัวใหญ่ด้านหลังของถังเฟิง ร่างของวิหคตัวนี้ช่างแปลกประหลาดครึ่งหนึ่งเป็นน้ำแข็งและอีกครึ่งหนึ่งลุกเป็นไฟ

ทันใดนั้นเซียวเฉินก็จำได้ถึงของที่ถังเฟิงต้องการในงานประมูลของศาลาหลินหลางก็คือแก่นกลางนาคารุ่งอัคคี เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการมันเอาไปเพิ่มพลังโจมตีธาตุไฟของเขา

อย่างไรก็ตามสองลูกศรที่ถูกยิงออกมาแม้แต่ลูกศรที่สามเห็นได้ชัดว่าทั้งหมดเป็นธาตุน้ำแข็ง มันเกิดอะไรขึ้น?

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเขานั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของถังเฟิงยกระดับขึ้นไปที่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ มันเกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ว่ากดการบ่มเพาะพลังของเขามาโดยตลอด?

“ไป เหมันต์วิโรธ!”

ผ่านจากสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉิน ครึ่งหนึ่งของวิหคอัคคีน้ำแข็ง ส่วนที่เป็นน้ำแข็งทันใดนั้นก็ริบหรี่ลงอย่างมาก

แสงเยือกเย็นด้านหลังของเขาจางหายไปและกลายเป็นลูกศรถูกส่งออกมาจากคันธนู ลูกศรนั้นขยายใหญ่ขึ้นทุกครึ่งที่สายลมพัดผ่านและในที่สุดมันก็กลายเป็นลูกศรยาวกว่าสิบเมตร

ในระหว่างที่ลูกศรน้ำแข็งถูกปลดปล่อยออกมาสายลมเยือกเย็นก็โจมตี สายหมอกปกคลุมพื้นผิวของมันเป็นลูกคลื่น ลูกศรน้ำแข็งที่น่ากลัวนั้นยังคงขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเรื่อยๆ

คนที่อยู่ด้านหลังของเซียวเฉินร้องออกมาด้วยความตกใจ เซียวหลิงเอ๋อขวัญอ่อนนางปิดตาลงไม่กล้าที่จะดูว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ลูกศรน้ำแข็งนี่อาจจะมีขนาดใหญ่แต่ความเร็วของมันไม่ได้ช้า มันไม่ได้ด้อยไปกว่าลูกศรดอกแรกและดอกที่สอง อย่างไรก็ตามด้วยขนาดของมันทำให้ผู้คนสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่ลูกศรน้ำแข็งพุ่งตัดผ่านมาพลังฉีเยือกเย็นก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณโยรอบ เซียวเฉินรู้สึกว่าขาของเขาแข็งทื่อ ทำให้ความเร็วของเขาลดลงและเป็นการยากที่จะหลบลูกศรได้พ้น

ยืมพลังของอาวุธวิญญาณเจ้าคิดว่าข้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้? เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชาขณะที่เขาคิดในใจ

ใส่แรงลงไปในแขนของเขาพร้อมกับขว้างกระบี่เงาจันทร์ออกไปข้างหน้าพลังงานสายฟ้าของแก่นปีศาจธาตุสายฟ้าระดับ 6 ถูกปลดปล่อยออกมาเต็มพิกัด แสงสายฟ้าอันไร้ขอบเขตส่องสว่างไปในความมืด มันสว่างจนไม่อาจมองด้วยตาเปล่า

พลังวิญญาณธาตุสายฟ้าที่อยู่ในบริเวณโดยรอบถูกดูดมาที่กระบี่เงาจันทร์อย่างรุนแรง ประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นมา มันดูราวกับเส้นสายฟ้าที่ตัดผ่านท้องฟ้าอันมืดมิด

“ฮ่ะ!”

กระบี่ปะทะเข้ากับลูกศรน้ำแข็งกลางอากาศและพร้อมกับเสียง ‘ฉัวะ’ กระบี่เงาจันทร์ตัดผ่านเข้าไปในลูกศรน้ำแข็ง เศษซากน้ำแข็งนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมาและหายไปในแสงสายฟ้า

ในตอนนี้ไม่มีการต่อสู้ระหว่างคนสองคนอีกต่อไปแต่เป็นการต่อสู้กันระหว่างอาวุธวิญญาณสองชิ้น จากที่เห็นมันชัดเจนว่ากระบี่เงาจันทร์ของเซียวเฉินอยุ่เหนือกว่า

“แคร้ง!”

กระบี่เงาจันทร์เจาะทะลุและลูกศะขนาดใหญ่ก็แตกเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามแสงสว่างรุนแรงที่ออกมาจากกระบี่ยังคงอยู่ ก่อนที่เศษน้ำแข็งจะได้ร่วงลงพื้นมันก็ถือกลืนหายไปก่อน

“ตาย!”

เซียวเฉินตะโกนขึ้นมาเบาๆแล้วถีบเท้าของเขาลงพื้น เขาโดดขึ้นไปในอากาศและสะบัดมือจับกระบี่เงาจันทร์กลับมาที่มือของเขา

ร่างของเขาพุ่งหายขึ้นไปในอากาศมองเห็นเพียงแสงกระบี่สำดำที่ฟันลงมาอย่างไร้ความปราณีไปที่ถังเฟิง ถังเฟิงหน้าซีดและรีบถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว

เซียวเฉินบิดกระบี่ในมือและขยับเท้าขึ้นหน้าไปห้าเมตร

ถังเฟิงปรากฎตัวขึ้นและเห็นแสงดาบสีดำปาดมาที่คอของเขา เขาหลบอันตรายนี้ไปได้อย่างฉิวเฉียด

อย่างไรก็ตามลมคมที่มาพร้อมกับกระบี่ตัดเข้าไปในผิวของเขาทิ้งรอยแผลไว้จางๆ

ลำคอของถังเฟิงเกร็งขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัวและเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดมาจากบาดแผล หน้าซีดขาวของเขาเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม เขารู้สึกว่าเขาเพิ่งกระโดดออกมาจากประตูนรกได้อย่างหวุดหวิด

เซียวเฉินยืนตรงเก็บกระบี่ของเขา เขามองไปที่ถังเฟิงอย่างเย็นชา “ไปซะและอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก! ข้ารู้ว่าเจ้ายังมีไพ่ตายเก็บไว้ แต่้ขาก็เช่นกัน”

“แล้วอีกอย่าง อย่าได้หวังอะไรในใจ ผู้อาวุโสทั้งสองจากตระกูลถังของเจ้ากลายเป็นศพไปเรียบร้อยและผู้อาวุโสของตระกูลจางก็เช่นกัน”

เมื่อเซียวเฉินจบประโยคสุดท้ายสีหน้าของถังเหอก็เปลี่ยนโดยสิ้นเชิง เป็นไปได้อย่างไร? มันมีระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธถึงสี่คน? เขาสามารถสังหารได้หมดทุกคน?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด