Immortal and Martial Dual Cultivation 104 หวาดกลัว

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 104 หวาดกลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 104 หวาดกลัว

“ฟุ่ว!”

สายเลือดสายกระเซ็นไปในอากาศ บาดแผลน่ากลัวปรากฎขึ้นบนหน้าอกเหนือหัวใจของชายหน้าแผลเป็น เขาไม่เคยเห็นระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธคนไหนใช้กระบี่ได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อน

เขารู้สึเสียใจที่พาให้ทั้งตัวเขาและพี่น้องต้องมาตายเพราะความโลภต่อเงินหนึ่งพันเหรียญทอง อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรมารักษาความเสียใจได้ ในตอนที่เขาส่งน้องเก้าสะกดรอยตามเซียวเฉิน,ตอนนั้นชะตาของเขาก็ขาดสะบั้นไปแล้ว

เซียวเฉินเก็บกระบี่เข้าฝักและจมลงไปในจิตสำนึกของเขา เขาเห็นว่าพลังปราณของเขาเหลือเพียงครึ่งเดียว เขาถอดหายใจออกมา,ความสิ้นเปลืองพลังปราณจะสูงเกินไปแล้ว,ดูเหมือนข้าจะต้องเก็บท่านี้ไว้เป็นไพ่ตายเท่านั้น

ในสถานะปัจจุบัน,หากเขาใช้มันออกไปสองครั้ง,นั้นเท่ากับว่าใช้พลังปราณทั้งหมดในร่างของเขา นี่เป็นครั้งแรกของเซียวเฉินที่ใช้ไฟต้นกำเนิดของเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงเพื่อฆ่าคนสักคน ผลเป็นที่น่าพอใจแต่ความสิ้นเปลืองพลังปราณนั้นสูงเกินไป

ที่หลังของชายแผลเป็นมีกระเป๋าอยู่,นั้นเป็นผลเก็บเกี่ยวของคนกลุ่มนี้ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนในป่าอำมหิต เซียวเฉินเปิดมันดู,หลังจากเก็บเอาแก่นกลางวิญญาณระดับ 3 และสมุนไพรระดับ 4 อีกนิดหน่อย,เขาก็โยนที่เหลือทิ้งไป

ไม่นานนักหลังจากที่เซียวเฉินจากไป,คนของตระกูลเจียงก็มาพบ พวกเขาจึงรีบรายงานไปหาเจียงหยุ่นเสอ,เจีนงหยุ่นเสอรีบตรงเข้ามาทันที หลังจากมองเห็นบาดแผลบนหน้าอกของชายแผลเป็น,ก็มีความคิดวิเคราะห์ปรากฎขึ้นบนดวงตาของเขา

“ผู้อาวุโสหนึ่ง,ท่าคิดเช่นไร?เป็นฝีมือเจ้าหมอนั้น?” นักบ่มเพาะพลังตระกูลเจียงคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างถามขึ้น

หลังจากนั้นครู่ใหญ่,เจียงหยุ่นเสอก็พูดขึ้น “บาดแผลบนหน้าอกของเขาเหมือนกับของหนึ่งในพี่น้องของเราเมื่อหลายวันก่อน มันจะต้องเป็นคนคนเดียวกัน”

ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงด้านข้างอุทานด้วยความยินดี “ในที่สุดมันก็เผยตัว จากอุณหภูมิของร่างกาย,เขายังไปไม่ได้ไกลนัก”

“ล่า!” เจียงหยุ่นเสอพูดด้วยเสียงลึกขณะที่สีหน้ามืดมัว

…..

ขณะที่เซียวเฉินมุ่งหน้าไปที่ทางออกของป่าอำมหิต,เขาก็พบกับผู้บ่มเพาะพลังสองสามกลุ่มที่เต็มไปด้วยความโลภ เขาจัดการกับพวกนั้นได้โดยปราศจากปัญหา บางคนในพวกนั้นจำเซียวเฉินได้,บางพวกก็แค่เห็นเขาเดินมาคนเดียวจึงเข้ามาปล้น

นกตายเพราะมองหาอาหาร,คนเราตายเพราะมองหาความมั่งคั่ง ภายในป่าอำมหิต,ผู้อ่อนแอกลายเป็นอาหารให้ผู้แข็งแกร่งเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่กับมนุษย์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

น่าเสียดายสำหรับพวกเขา,แค่เพียงทักษะกระบี่สายฟ้าฟาดและศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยาน,สามารถกล่าวได้ว่าไม่มีใครเทียบเซียวเฉินได้ในระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธเหมือนกัน นอกจากพวกเขาจะไม่ได้อะไรกลับไป,พวกเขายังต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่

ทางเข้าเมืองไป๋สุ่นใกล้เข้ามาแล้ว เซียวเฉินหรี่ตามองตรงไปกลังจากนั้นไม่นานเขาก็เร่งเท้าเดินออกจากป่าอำมหิต

ในทันทีที่เซียวเฉินก้าวเท้าออกมาจากป่าอำมหิต,เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าส่งมาจากด้านหลังของเขา เขารีบหลบเข้าด้านข้าง

“จิ!”

ลูกศรบินผ่านเซียวเฉินไป เซียวเฉินตกตะลึง ลูกศรดอกนี้รวดเร็วมาก หากเขาไม่ได้เพิ่มระดับทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ไปที่ชั้นสาม,เช่นเดียวกับรับรู้เจตนาของคนยิงได้ล่วงหน้า,เขาคงโดนลูกศรไปแล้ว

เซียวเฉินถีบเท้าลงพื้นและพุ่งตัวขึ้นสูงไปในอากาศ เมื่อเขาลงจอด,เขารีบหันหลังไปมองโดยทันที

ข้างหลังเซียวเฉิน,เจียงหยุ่นเสอนำกำลังกลุ่มนักบ่มเพาะพลังตระกูลเจียงไล่ตามเขามา เมื่อเจียงหยุ่นเสอเห็นเซียวเฉินปรากฎตัวขึ้นเขาก็ตกใจเล็กน้อย,ผ่านไปเพียงหกวันรูปร่างหน้าตาของเซียวเฉินเปลี่ยนไปมาก

ที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือเซียวเฉินยกระดับขอบเขตพลังขึ้นไปถึงสองขั้น,จากระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูงขึ้นไประดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลาง นอกจากนั้นยังใช้เวลาเพียงหกวัน

“เซียวเฉิน,ส่งแผนที่มาแล้วข้าจะให้เจ้าตายแบบง่ายๆ มิเช่นนั้นข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าอยากจะตายมากกว่าอยู่” เจียงหยุ่นเสอพูดด้วยน้ำเสียงมืดมน แม้ว่าเขาจะตกใจกับระดับพลังของเซียวเฉิน,เขาก็ไม่ได้ไปสนใจมากนักด้วยระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธของเขา

เซียวเฉินกวาดตามองไปที่ทุกคน,จากนั้นเขาก็ขยายสัมผัสวิญญาณออกไป ความคิดของเขารวดเร็วราวสายฟ้า,คิดหาทางอย่างรวดเร็ว,สู้,หรือหนี

มรทั้งหมด 31คน นอกจากเจียงหยุ่นเสอ,ผู้ที่อยู่ระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธ,พวกที่เหลือเป็นระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ อย่างไรก็ตามส่วนมากอยู่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูง

เซียวเฉินมองผ่านสัมผัสวิญญาณของเขาเห็นว่ามีนักบ่มเพาะพลังสองร้อยคนนำมาโดยสามระดับขอบเขตปรมจารย์กำลังตรงเข้ามา

หากเขาจบการต่อสู้ได้ก่อนที่สามระดับขอบเขตปรมจารย์จะมาถึง,เขาก็จะมีโอกาสหลบหนีไปได้

เซียวเฉินตัดสินใจ เขามองไปที่เจียงหยุ่นเสอและยิ้มขึ้นบางเบา “ยังไงข้าก็ต้องตายอยู่ดีไม่ว่าจะส่งแผนที่ให้เจ้าหรือไม่,ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจะส่งมันให้เจ้า?”

เจียงหยุ่นเสอยิ้มขึ้น “คิดว่าเจ้าจะมีทางเลือก? ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา,คนที่กล้ามาแหยมกับตระกูลเจียงแห่งเมืองไป๋สุ่ยล้วนมีจุดจบน่าอนาททั้งนั้น”

เจียงหยุ่นเสอถือกระบี่เหล็กของเขาไว้ในมือและเดินนำหลุ่มผู้บ่มเพาะพลังตรงเข้ามาหาเซียวเฉิน,ทีละก้าว เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ในสายตาของเขา,เซียวเฉินไร้ทางต่อต้าน

สิบก้าว..เก้าก้าว..แปดก้าว…สีหน้าของเซียวเฉินไม่เปลี่ยนพร้อมทั้งนับระยะห่างระหว่างตัวเขากับคนกลุ่มนั้น เมื่อคนพวกนั้นเข้ามาในระยะห้าก้าวห่างออกไปจากเซียวเฉิน,เขาก็เริ่มลงมือ

“อัสนีหลบเลี่ยง!”

มีสายฟ้าวูบผ่านและร่างของเซียวเฉินก็หายไปจากจุดเดิม ต่อหน้าต่อตาพวกเขาทุกคน,เขาปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มคนของตระกูลเจียง

“สยายปีกร่ายรำพันปี!”

เซียวเฉินตะโกนขึ้นมาเบาๆและกระโดดขึ้นไปในอากาศ ร่างของเขาเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆกลางอากาศ แสงกระบี่วูบผ่านไปทีละร่าง,ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมาซ้ำๆอย่างน่าเวทนา

“ถอยเร็ว!” เจียงหยุ่นเสอตะโกนออกมาเสียงดัง เซียวเฉิน,ผู้ที่เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสามารถจับตัวเขาได้ทัน

ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงรีบถอยห่างออกมา อย่างไรก็ตามแสงกระบี่นั้นรวดเร็วเกินไป,ทุกครั้งที่มีแสงกระบี่วูบผ่านมา,จะต้องมีใครสักคนได้เลือด เลือดและแขนขาสาดกระเซ็นลงพื้นอย่างต่อเนื่อง

สยายปีกร่ายรำพันปีเป็นทักษะต่อสู้ที่อันตรายและกินพื้นที่กว้าง ยิ่งมีคนกระจุกอยู่รวมกันมากเท่าไหร,มันก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น แสงกระบี่วูบผ่านออกมาอย่างต่อเนื่อง,เซียวเฉินยิงออกมามากกว่าหนึ่งพันกระบี่ในเสี้ยววินาที

หลังจากที่เซียวเฉินลงมาถึงพื้น,ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมีเพียงประมาณสิบคน ที่เหลือถูกซัดด้วยแสงกระบี่,ศพของพวกเขาถูกฉีกกระชากเป็นหลายชิ้นเกลื่อนพื้น

เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากร่างไร้วิญญาณอย่างต่อเนื่อง แขนขาและเครื่องในกระจายเต็มพื้น,ทุกที่เต็มไปด้วยกองเลือด

ที่เหลืออีกสิบคนกลายเป็นหน้าซีด แม้ว่าพวกเขาจะเคยฆ่าคนมาก่อน,แต่จำนวนก็ห่างจากที่ตายในวันนี้วันเดียว,พวกเขาไม่เคยเห็นฉากฆ่าล้างที่โหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน

หากพวกเขาไม่เร็วพอ,พวกเขาคงเป็นหนึ่งในศพที่อยู่บนพื้น เมื่อคิดได้เช่นนั้น,หัวใจของผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงที่เหลืออยู่ก็บีบรัด พวกเขารู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบที่หลังของพวกเขา

เจียงหยุ่นเสอปรากฎสีหน้าไม่น่าดู เขามองดูเหล่าศิษย์ตระกูลเจียงที่กองอยู่กับพื้น,คนที่ยังยืนอยู่เมื่อครู่กลายเป็นกองซากศพในพริบตา เขาตะโกนขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด “ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เขากวัดแกว่งกระบี่และกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ฟันลงไปที่หัวของเซียวเฉิน มีแสงรวมตัวกันที่คมกระบี่ นี้เป็นทักษะที่ระดับขอบเขตปรมจารย์ขึ้นไปเท่านั้นที่จะใช้ได้,รวมพลังปราณใส่ลงไปในคมกระบี่

แสงกระบี่ที่เจียงหยุนเสอสร้างขึ้นนั้นยาว 3.3 เมตร,มันช่างดูทรงพลัง เซียวเฉินไม่กล้าเข้าไปรับตรงๆ เขาถีบเท้ากระโดดขึ้นไปใช้ศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยาน,ลอยตัวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว

“บูม!”

แสงกระบี่ซัดลงพื้นไปอย่างรุนแรง ฝุ่นลอยขึ้นไปทั่วทิศทางและปรากฎรอยแยกขึ้นบนพื้น เจียงหยุ่นเสอชักกระบี่กลับอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขายังคงเพิ่มพลังของกระบี่เรืองแสงรุ่งโรจน์ออกมา

“ตาย!”

เจียงหยุ่นเสอตะโกนเสียงดังพร้อมกับยกกระบี่ขึ้น พลังฉีพลุ่งพล่านรวมกันที่ตัวกระบี่,ยิงเข้าใส่เซียวเฉินผู้ที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ

เซียวเฉินประหลาดใจ,เจียงหยุ่นเสอผู้นี้สามารถใช้กระบี่พลังฉีได้ แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถใช้งานได้ดั่งใจ,แต่พลังของมันก็อยู่ในระดับขอบเขตเซียน

นอกจากนั้น,มุมที่กระบี่พลังฉีพุ่งมายังยากที่จะรับมือ ปราศจากพื้นให้เหยียบกลางอากาศ,มันยากที่เซียวเฉินจะหลบ

“สยายปีกเชือดเฉือน!”

มีแสงเงาปรากฎขึ้นที่ตัวกระบี่เงาจันทร์ กระบี่เล่มนี้อาจจะดูธรรมดาแต่แฝงไปด้วยพลังมหาศาล

“ปัง!”

กระบี่เงาจันทร์ฟันลงไปที่กระบี่พลังฉีส่งเสียงดังออกมา เซียวเฉินไม่ได้ถูกผลักลอยไปไหน,ลงจอดที่พื้นอย่างมั่นคง

“ฮ่ะ!” ทันใดนั้นลมพายุก็ปรากฎขึ้นบนพื้น ไม่รู้ว่าเจียงหยุ่นเสอใช้ทักษะต่อสู้อะไรออกมา ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมาถึงตัวเซียวเฉินในทันที

แสงกระบี่ปรากฎขึ้นบนตัวกระบี่และไล่ตามเซียวเฉิน,ผู้ที่ยังไม่ได้ตั้งตัว

“วาดกระบี่!”

กระบี่วูบผ่านและกระบี่เงาจันทร์ก็เข้าปะทะกับแสงกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ กระบี่ของเซียวเฉินออกทีหลังแต่มาถึงก่อน เป็นฝ่ายซัดเข้ากับกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ

“ปัง!”

พลังมหาศาลออกมาจากกระบี่,ทำให้เซียวเฉินถูกผลักถอยกลับไปห้าก้าว เจียงหยุ่นเสอพยายามทรงตัวแต่พลังที่ออกมาจากตัวกระบี่ผลักเขาต้องถอยกลับไปสองก้าว

“เป็นเซียวเฉินคนนั้นจริงรึ? พอคิดว่าเขาไม่ได้เสียเปรียบอะไรมากมายในตอนที่เข้าปะทะกับเจียงหยุ่นเสอ!”

“เขาสามารถสังหารผู้บ่มเพาะพลังของตระกูลเจียงได้มากกว่าสิบคนในกระบวณท่าเดียว นั้นจะต้องเป็นทักษะระดับปฐพีขั้นสูง เบื้องหลังของคนคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน”

“ดูเหมือนครั้งนี้ตระกูลเจียงจะเสียหน้าแล้ว,ไม่ว่าพวกเขาจะคลี่คลายสถานการณ์ลงเช่นไร คนมากมายก็ตายลงเพื่อจับตัวระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลางเพียงคนเดียว”

“ข้าได้ยินมาว่าแผนที่ที่หลุดมาจากตระกูลเจียงก็อยู่กับเขา เขาสามารถเอาชนะศิษย์คนสุดท้ายของนิกายดาบเงาหมอกฉู่เฉาหยุ่น,ฮวาหยุ่นเฟยจากตระกูลฮวา,และราชินีในอนาคตของตระกูลตวนมู่,ตวนมู่ฉิง จากที่เห็นในตอนนี้ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง”

เนื่องจากที่แห่งนี้คือป่าอำมหิต,เป็นเรื่องปกติที่จะมีนักบ่มเพาะพลังผ่านไปมา การต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนดึงความสนใจของคนนับไม่ถ้วน ทั้งหมดต่างพูดคุยถกเถียงเกี่ยวกับการต่อสู้ด้านหน้าของเขา

คำพูดของพวกเขาลอยมาเข้าหูเจียงหยุ่นเสอ ความโกรธในใจของเขาถูกราดด้วยน้ำมันถังใหญ่ เขาก้าวไปข้างหน้าและแสงกระบี่รุ่งโรจน์มารวมกันที่ตัวกระบี่อีกครั้ง

“บูม!”

เซียวเฉิน,ผู้ที่ประมือกับเขา,ไม่ลังเลที่จะใช้กระบวณท่าเดิม ผลก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม,เซียวเฉินถอยหลังกลับมาห้าก้าว

เจียงหยุ่นเสอไม่อยากที่จะถูกซัดถอยหลังต่อหน้าทุกคน เขาฝืนระงับพลังที่ถูกส่งออกมาจากกระบี่และพุ่งขึ้นหน้าไปหาเซียวเฉิน

การระงับพลังในกระบี่ของเขาเป็นเรื่องที่อันตรายมากแล้วยิ่งทำในการต่อสู้ หากเขาไม่สามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้ก่อนที่พลังจะตีกลับ,เขาจะได้รับผลย้อนกลับ ในตอนนี้พลังที่เขาระงับเอาไว้จะดีดกลับด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า

“บูม!บูม!บูม!บูม!บูม!”

เจียงหยุ่นเสอฟันห้าจังหวะ เซียวเฉินถอยกลับไปและมาถึงชายแดนของป่าอำมหิต มือขวาของเขา,ที่ถือกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ถูกซัดจนชา เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หน้าอก

ดวงตาของเซียวเฉินสงบนิ่ง,ปราศจากร่องรอยของความตื่นตกใจ เขายืนหยัดอดทนรวบรวมพลัง เขาไม่เชื่อว่าเจียงหยุ่นเสอจะทำเช่นนี้ต่อไปได้อีกนาน ตอนนี้เป็นการแข่งว่าใครจะทนกว่ากัน

“บูม!บูม!บูม!บูม!”

เจียงหยุ่นเสอก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่นและตะโกนออกมาเสียงดัง แสงกระบี่สี่เส้นถูกยิงออกมาจากกระบี่ของเขา นั้นทำให้เซียวเฉินถูกซัดลอยกลับไปในป่าอำมหิต

อย่างไรก็ตาม,พลังที่เจียงหยุ่นเสอระงับเอาไว้ก็มาถึงขีดจำกัด เจียงหยุ่นเสอคิดจะหยุดมือลงแค่นี้แต่,เมื่อเขาเห็นใบหน้าซีดขาวและเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของเซียวเฉิน,เขาตัดสินใจละทิ้งความคิดนั้นไป

ไอ้เด็กเหลือขอนี้เป็นเพียงระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลาง,มันไม่มีทางทนความแข็งแกร่งของข้าได้ ข้าคิดว่ามันก็ทำแบบเดียวกับข้า,ฝืนระงับพลังในร่างเอาไว้ มาวัดกันว่าใครจะยืนได้ถึงตอนจบ,ข้าจะไม่มีวันถอย

เมื่อคิดได้ดังนั้น,เจียงหยุ่นเสอตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับเตรียมตัวลงมือครั้งสุดท้าย,เพื่อสังหารเซียวเฉิน

สายตาของเซียวเฉินนิ่งสงบราวกับสายน้ำ เขาสังเกตเห็นรอยแตกเล็กๆบนกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ นอกจากนั้น,เขายังสังเกตเห็นว่าเจียงหยุ่นเสอดูผิดปกติเล็กน้อย เขารู้ว่ามันได้เวลาแล้ว..

“อัสนีฟาดฟัน!”

เขาตะโกนออกมาเบาๆและกระบี่เงาจันทร์ก็ปลดปล่อยประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนออกมา แก่นกลางปีศาจระดับ 6 ถูกรีดพลังออกมาถึงขีดสุด พลังงานที่เขาสะสมมาทั้งหมดใช้ไปกับทักษะกระบี่อัสนีฟาดฟัน

เสียงระเบิดดังขึ้นด้านหลังเซียวเฉิน เขาพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม,ทิ้งไว้ข้างหลังเพียงเงา เขาพุ่งฝ่าอากาศและเกิดเป็นคลื่นกระแทก,กระทบเข้ากับแสงกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ

“ปัง!”

กระบี่ทั้งสองปะทะกันและมีบางอย่างไม่คาดคิดเกิดขึ้น กระบี่ระดับลึกซึ้งขั้นสูงในมือของเจียงหยุ่นเสอแตกสะบั้น

“เบี่ยงร่างกระแทก!”

ใช้ความได้เปรียบในตอนที่เจียงหยุ่นเสอกำลังตกใจ,เซียวเฉินเอี่ยงตัวไปด้านข้างและจอจ่อพลังทั้งหมดในร่างของเขาไปที่หัวไหล่ พุ่งไปข้างหน้าอย่างรุนแรง,ร่างของเขา,ที่ถูกเสริมพลังมาจนถึงระดับที่น่ากลัว,กระแทกไปที่หน้าอกของเจียงหยุ่นเสอ

“ฟุ่!”

เจียงหยุ่นเสอกระอักเลือดออกมาเต็มปากในทันทีและลอยสูงขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเขาก็ตกลงที่พื้นอย่างรุนแรง,พลังที่เขาระงับเอาไว้ระเบิดออกมา

หลังจากที่เขาลงถึงพื้น,เขาก็กระอักเลือดออกมาเก้าคำอย่างต่อเนื่องใบหน้าของเขาซีดขาว เขามองไปที่เซียวเฉินที่กำลังเดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆและพึมพำขึ้น “เป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นเพียงแค่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ…… มันสามารถเอาชนะข้าในเรื่องความแข็งแกร่งได้จริง?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด