Immortal and Martial Dual Cultivation 205 สมุนไพรระดับอมตะ

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 205 สมุนไพรระดับอมตะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 205 สมุนไพรระดับอมตะ

แสงหลากสีทอดลงมาจากท้องฟ้า,อ้อมล้อมต้นดาวเรือง แสงไหลเอาไม้ แสงไฟหลากสีลอยลงมาราวกับปุยหิมะนี้ เป็นสัญญาณลางดี มีพลังงานที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในหินวิญญาณระดับต่ํา

“ดอกดาวเรืองแสงไหลกําลังเบ่งบาน! นี่เป็นสัญญาณรุ่งเรืองที่ล่องลอยลงมาจากสวรรค์ นี่เป็นต้นสมุนไพรระดับอมตะ!” เซี่ยวเฉินมองดูแสงไฟบนท้องฟ้า,เขากล่าวขึ้น “ข้าไม่อาจปล่อยสัญญาณรุ่งเรื่องนี้หลุดลอยไป ข้าต้องรวบรวมมัน”

นกฝูงใหญ่บินตรงเข้ามาและดูดกลืนแสงไฟเหล่านั้น สัตว์อสูรวิญญาณประเภทปีกบินไปทั่วท้องฟ้าในทันที

เซี่ยวเฉินรีบเรียกเรือสงครามสีเงินออกมาและกระโดดขึ้นไป เขาถือขวดหยกไว้ในมือและเข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงประกายแสงไฟ เขาชีปากขวดหยกไปที่ดวงแสงหลากสีที่กําลังร่วงหล่นและดูดมันเข้ามาในขวด

“ยิ้ม…!”

ทันใดนั้นเกิดเสียงดังขึ้นมาจากพื้นดิน เซียวเฉินหันหัวลงไปดูข้างล่างและพบว่าพญางูแดงถูกล้อมรอบด้วยสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นต่ําแปดตัว:พวกมันเข้าต่อสู่น้ํานั่นกับพญางูแดง

สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ เมื่อสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 9ตัว เข้าน้ํานั่นกัน,ฉากสู้รบกลายเป็นโกหาหล เกิดเสียงระเบิดขึ้น,ที่ละลูกๆ:สมุนไพรอายุนับร้อยปีถูกเหยียบย่ําทําลาย

มันเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อแปด,แต่พญางูแดงก็ไม่ได้ตกเป็นรองการต่อสู้ช่างสูสี เมื่อมันขยับร่างอันใหญ่โตของมัน,พื้นดินสั่นสะเทือน

สัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าตระหนักได้ว่าขอบเขตการต่อสู้ของพวกมันใหญ่เกินไป พวกมันเข้าใจตรงกัน;พวกมันทั้งหมดเริ่มขยับย้ายออกมาให้ห่างต้นดาวเรืองแสงไหล

ดอกตูมสีทองค่อยเบ่งบานออกอย่างช้าๆ,ส่งแสงสว่างขึ้นมีหมอกพลังงานจิตวิญญาณหนาแน่นอยู่โดยรอบ

เซี่ยวเฉินมองไปที่สัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าที่กําลังต่อสู้กันไกลออกไป จากนั้นเขาก็เหลือบตาไปมองดอกดาวเรืองแสงไหลที่กําลังเบ่งบานอยู่บนต้น เซี่ยวเฉินคิดว่านี่คือโอกาสของเขาแล้ว

หากข้าว่องไวมากพอ,ข้าสามารถทิ้งตัวลงจากท้องฟ้าและเด็ดดอกดาวเรืองแสงไหลไปได้ก่อนที่พวกมันจะได้ตอบสนอง หลังจากนั้น,ข้าก็สามารถหลบหนีไป่ด้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไร,ข้าก็หมดความสนใจทุ่งสมุนไพรแห่งนี้แล้ว ไม่มีสิ่งใดให้เก็บเกี่ยวอีกแล้ว,กลับออกไปน่าจะเป็นการดี

“ฟว!”

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังไตร่ตรอง,จุดสีดําปรากฏขึ้นมาที่เส้นขอบฟ้า วิหคแสงบินมาด้วยความเร็วสายฟ้า,ทิ้งประกายแสงทอดยาวไว้ด้านหลัง

มันเป็นวิหคสีน้ําเงินตัวใหญ่พร้อมกับปีกยาวกว่าสิบเมตร มันบินทะลวงผ่านอากาศ,สร้างลมพายุรุนแรงขณะที่มันมุ่งหน้ามาทางดาวเรืองแสงไหล

มันทําแบบที่เซี่ยวเฉินกําลังริดจะทํา เซียวเฉินสาปแช่งมันในใจ เขาคิดมากเกินไปเขาน่าจะรีบพุ่งเข้าไป

วิหคสีน้ําเงินตัวใหญ่ชิงลงมือไปก่อน นอกจากนั้น,มันยังรวดเร็วกว่าเซี่ยวเฉิน แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด,เขาก็ทําได้เพียงมองดูวิหคประหลาดตัวนั้นขโมยดาวเรืองแสงไหลไปต่อหน้าต่อตา

“ปัง!”

ขณะที่วิหคสีน้ําเงินกําลังเปิดจะงอยปากอันใหญ่โตของมัน และเตรียมตัวที่จะฉกฉวยเอาดาวเรืองแสงไหล,เกิดเสียงลมระเบิดรุนแรง หางของพญางูแดงฟาดผ่านอากาศ,ซัดวิหคสีน้ําเงินลอยไปไกล

“ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!”

สัตว์อสูรวิญญาณอีกปลแปดตัวก็พักรบกับพญางูแดงชั่วคราวและหันมารุมวิหคสีน้ําเงิน วิหคน้ําเงิน,ที่กําลังดิ้นรนเพื่อหนีไปในอากาศ,ร่วงลงมากองกับพื้นในทันที

“ปะ!”

หางของพญางูแดงฟาดลงมาที่วิหคน้ําเงินอย่างแรง วิหคน้ําเงินแหลกไม่มีชิ้นดี,กลายเป็นเนื้อบด

เซี่ยวเฉินประหลาดใจอย่างเงียบๆ เมื่อเขาเห็นศพเนื้อบดของวิหคสีน้ําเงินเขาก็เสียวไปถึงสันหลัง สัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้ไม่ได้โง่งม,พวกมันต่างรู้ว่าจะมีสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นที่จะฉวยโอกาสในตอนที่พวกมันกําลังต่อสู้กันเพื่อขโมยดาวเรืองแสงไหล

หากมีสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นเข้ามา, พวกมันก็จะร่วมมือกันโจมตีใส่ ไม่มีใครในพิภพใต้ดินแห่งนี้จะต้านทานการรวมพลังของสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 พวกนี้

เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงสันหลังที่สั่นสะท้าน:หากเขาไม่ลังเล,คนที่เป็นเนื้อบดอยู่บนพื้นอาจจะเป็นเขาแทนก็ได้

รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินจดจ่อกลับไปที่สัญญาณรุ่งเรืองบนท้องฟ้า

มันเป็นเพียงชั่วพริบตาที่สัญญาณรุ่งเรืองที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าถูกดูดกลืนไปจนหมด

เซี่ยวเฉินรีบกระโดดขึ้นเรือสงครามสีเงินของเขาและกลายไปเป็นแสงสีเงิน, เก็บเกี่ยวสัญญาณรุ่งเรืองที่อยู่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจไปแข่งกับฝูงนกนานาชนิด พวกมันมีมากเกินไป

เซี่ยวเฉินรวบรวมสัญญาณรุ่งเรืองได้เพียงยี่สิบดวง;ส่วนที่เหลือหายไปกับฝูงนกวิหค เซี่ยวเฉินส่ายหัวและปิดปากขวด เขาเหลือบไปมองสัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าที่ยังคงต่อสู้กัน จากนั้นก็ออกจากพื้นที่ไป

เซี่ยวเฉินพบสถานที่เงียบสงบ,เขาหยิบเอาขวดที่บรรจสัญญาณรุ่งเรืองเอาไว้ เขาเผยรอยยิ้มบางๆ

แม้ว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในสัญญาณรุ่งเรืองจะไม่มาก เทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับกลาง,แต่มันก็เป็นของที่เซี่ยวเฉินต้องการเป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในหินวิญญาณระดับกลางจะสูงมาก แต่มันสามารถใช้ได้หลังจากที่เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญแล้วเท่านั้น มิฉะนั้น, พลังปราณที่บรรจุอยู่จะทําให้ร่างของเขาระเบิด

อย่างไรก็ตาม,พลังปราณที่อยู่ในสัญญาณรุ่งเรืองมันอ่อนโยนกว่ามาก ถึงแม้ว่าปริมาณของมันจะน้อยกว่าหินวิญญาณระดับกลาง

ผู้บ่มเพาะพลังไม่ว่าจะอยู่ระดับไหนก็ตามสามารถซึมซับมันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าร่างของพวกเขาจะระเบิด แม้แต่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดก็สามารถดูดซับมันได้โดยตรง

พลังปราณนี่มันเหนือกว่าความต้องการของเซี่ยวเฉิน หากเขาเอายี่สิบสัญญาณรุ่งเรืองไปแลกเปลี่ยนที่ตลาด,พวกมันสามารถมีค่ามากถึง 2,000 กินวิญญาณระดับต่ํา

สิ่งที่เซี่ยวเฉินขาดแคลนน้อยที่สุดในตอนนี้ก็คือหิน วิญญาณ, แน่นอน,เขาจะไม่เอามันไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ

เซี่ยวเฉินนั่งลงขัดสมาธิและเปิดขวดที่เต็มไปด้วยสัญญาณรุ่งเรือง จากนั้น เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างช้าๆ สัญญาณรุ่งเรืองหลากสีค่อยๆลอยขึ้นมาและเข้าไปในจมูกของเซี่ยวเฉิน

สายปราณบริสุทธิ์แห่งความอ่อนโยน ทั้งยังสูงส่งไหลเข้าไปตามเส้นปราณของเซี่ยวเฉิน บ่อน้ําฉีที่จุดตันเที่ยนของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว ซึมซับพลังปราณทั้งหมด

ความเร็วในการดูดซับพลังปรรชาณของบ่อน้ําฉีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ในไม่ช้า,พลังปราณเหลวบริสุทธิ์ก็หยดลงมา

“ตึ่ง ตึ่ง”

น้ําวนฉีหมุนวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังปราณบริสุทธิ์หยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ปราณธรรมชาติจากสัญญาณรุ่งเรืองหลากสีเปลี่ยนกลายไปเป็นพลังงานของเซียวเฉิน จํานวนพลังปราณที่บรรจุในสัญญาณรุ่งเรืองยี่สิบดวงสามารถเทียบเท่าได้กับหินวิญญาณระดับกลางห้าก้อน หลังจากที่เขาดูดซับมันเข้าไปทั้งหมด, พลังงานของเขาก็เพิ่มถึงระดับที่น่ากลัว

นอกจากนั้น ที่สําคัญที่สุดเลยก็คือมันไม่อันตราย พลังงานพลุ่งพล่านที่อบอุ่น มันหลอมเข้ากับร่างกายของเซี่ยวเฉินราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,เซี่ยวเฉินก็ซึมซับพลังงานได้สมบูรณ์ เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและเปลวแสงสีม่วงจากดวงตาของเขาเจาะผ่านอากาศออกไปราวกับคมมีด

เมื่อเซี่ยวเฉินยืนขึ้นเขารู้สึกถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของเขา เขากล่าวอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดข้าก็ขึ้นสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูง ขอบเขตพลังของข้ายังต่ําอยู่เล็กน้อย,แต่ก็มีพลังงานเพียงพอ”

หากเขาต้องการยกระดับสู่ระดับขอบเขตนักบุญนอก จาพลังงาน,เขายังต้องการความเข้าใจ ความเข้าใจในแก่นแท้ของเขาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง จากนั้นเขาจึงจะสามารถเรียกพลังปราณออกมาจากร่างเพื่อโจมตี

หลังจากที่ดูซับยี่สิบสัญญาณรุ่งเรืองเข้าไป, พลังงานในตัวของเซี่ยวเฉินตอนนี้เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น เขาเหลืออีกเพียงก้าวสั้นๆในการขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญ

“ชะแว้ง!”

กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมาและมีแสงเรืองขึ้นบนคมกระเป็นสองเท่า,ความยาวเกือบสิบเมตร

เซี่ยวเฉินพยักหน้าของเขาพร้อมกับแกว่งกระบี่ไปมา,ฉาบพลังปราณลงบนคมกระบี่ เขากล่าวอย่างเฉยเมย “ควบแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง, ไม่มีทางที่จะรวมกระบี่ฉีได้เช่นนี้”

ระดับขอบเขตนักบุญคืออุปสรรคใหญ่ชิ้นแรกสําหรับนักบ่มเพาะพลัง ในทวีปเทียนหวู่ไม่มีผู้ใดถือว่าเป็นผู้เซี่ยวเฉินจนกว่าจะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตนักบุญ

มีคนที่ไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ แม้จะใช้เวลาชั่วชีวิตของพวกเขาก็ตาม,ติดอยู่ที่ระดับสามัญไปตลอดชีวิต ยิ่งทะลวงขึ้นระดับขอบเขตนักบุญได้รวดเร็วเท่าไหร่,พวกเขาก็จะมีโอกาสเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

อายุร่างกายของเซี่ยวเฉินคือ 17 ปี หากเขาสามารถก้าวขึ้นระดับขอบเขตนักบุญด้วยอายุเท่านี้, พรสวรรค์ของเขาจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรต้าฉินแห่งนี้แน่นอน,หากว่าเขาไม่ได้รวมพวกผู้สืบทอดมีความสามารถที่ได้รับจิตวิญญาณยุทธที่สืบทอดมา

อย่างไรก็ตาม หากเขาเอาไปเปรียบเทียบกับทั่วทั้งทวีป.ความสามารถระดับนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไร

“ข้าอาจจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะ,แต่ข้าไม่เคยหย่อนยาน พวกที่เรียกว่า “อัจฉริยะ ก็เพียงแค่เริ่มเดินออกไปก่อนข้า ถึงอย่างไร ไม่ช้าก็เร็วข้าจะนําหน้าพวกเขาไป” เซี่ยวเฉินกล่าวเงียบๆกับตัวเอง

“ยิ้ม..”

ในทุ่งสมุนไพรที่ห่างออกไป,การต่อสู้ระหว่างเก้าสัตว์อสู รวิญญาณยังไม่จบลง มีเสียงดังมาจากที่นั่น แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะยืนอยู่ไกลออกไป,เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานจิตวิญญาณที่ผันผวนในอากาศ

เซี่ยวเฉินเหลือบไปมองและกลาาวขึ้น “ได้เวลาจากไปแล้ว ข้าได้เก็บเกี่ยวสมุนไพรที่สามารถบํารุงฉีและโลหิตของข้าจนหมดแล้ว หากข้าไม่กลับไป,พี่สามหรูเยว่และคนอื่นๆจะเป็นกังวล”

“ปัง!ปัง!”

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังจะจากไปเกิดเสียงระเบิดสองลูกที่ดังยิ่งกว่าเมื่อครู่ พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ร่างกายของเซี่ยวเฉินยังโยกซ้ายโยกขวา

ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้ติดสินผู้ชนะได้แล้ว? เซี่ยวเฉินคิดอย่างตกตะลึง

เซี่ยวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณออกไปเหมือนกับลูกศร ต่อมา ทันใดนั้น,สถานการณ์ก็ปรากฏขึ้นชัดเจนในหัวของเซี่ยวเฉิน

หมอกพิษกระจายไปทั่วในอากาศ:สายควันพิษสีดําม้วนตัวอยู่รอบสมุนไพรวิญญาณ ภายใต้อิทธิพลของควันพิษ,เหล่าต้นสมุนไพรไม่เหลือร่องรอยของพลังชีวิตอีกต่อไป

ควันพิษแพร่กระจายไปมหาศาลทําลายล้างสมุนไพรอายุนับร้อยปี เซี่ยวเฉินสาปแช่งกับตัวเอง,ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน! สมุนไพรเพียงต้นเดียวก็มีค่านับหมื่นเหรียญทองในโลกภายนอก

สัมผัสวิญญาณของเขาเคลื่อนไหวไปท่ามกลางหมอกพิษ มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 กําลังนอนตายอยู่กับพื้น ร่างของมันดําสนิท,และหัวของมันวางอยู่ด้านข้าง,แยกออกจากลําตัว

เซี่ยวเฉินมองดูต่อไปรอบๆ และเขาก็พบร่างของสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นๆอีกเจ็ดร่าง วิธีการตายของพวกมันช่างแปลกประหลาด:ร่างของพวกมันดําสนิทมองดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,แม้แต่สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ก็ไม่สามารถหลุดรอดจากหมอกพิษนี้ไปได้ หากตัวเขาเข้าไปสัมผัสกับควันพิษ,เขาคงจะต้องติดพิษจนตาย

“ปุ! !!”

ควันพิษค่อยๆสลายจางหายไปและพญางูแดงตัวใหญ่ก็ค่อยๆเลื่อนตัวไปที่ต้นดาวเรืองแสงไหล เซียวเฉินมองดูอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าพญางูแดงก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ร่างอันใหญ่โตของมันปกคลุมไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ มีเลือดหยดลงมา ทุกครั้งที่มันเคลื่อนตัว,เลือดจะไหลหยดลงพื้น

แม้ว่ามันจะสามารถเอาชนะสัตว์อสูรวิญญาณตนอื่นได้,แต่มันก็ได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อยเช่นกัน เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง คิดถึงความเป็นไปได้ทุกทาง

หากพญางูแดงเคลื่อนที่ได้เร็วเพียงเท่านี้ เช่นนั้นมังกรฟ้า เมฆาทะยานของข้าอาจจะรวดเร็วกว่า

เซี่ยวเฉินเหยียดมือออกไปและรูปสลักลิงน้ําแข็งห้าตัวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ลิงน้ําแข็งห้าตัวนี้อาจจะพอซื้อเวลาให้เขาได้บ้าง

ลิงน้ําแข็งทั้งห้าตัวเขาแกะสลักมันดลก่อนที่จะลงมายังพิภพใต้ดิน เขาไม่มีโอกาสได้ใช้มันออกมา บางทีก็อาจจะเป็นการดีที่จะใช้มันออกมาในตอนนี้

ถึงกระนั้น,ความคิดก็ขัดแย้งกันภายในหัวของเซี่ยวเฉิน,เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ อย่างที่เขาว่ากันอูฐที่อดตายยังตัวใหญ่ยิ่งกว่าม้า พญางูแดงตัวนี้บาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่อาจยืนยันได้ว่ามันจะไม่มีไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้

TLอูฐที่อดตายยังตัวใหญ่ยิ่งกว่าม้าแปลว่าแม้จะอยู่ในสภาพย่ําแย่ แต่คนแข็งแกร่งก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 205 สมุนไพรระดับอมตะ

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 205 สมุนไพรระดับอมตะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 205 สมุนไพรระดับอมตะ

แสงหลากสีทอดลงมาจากท้องฟ้า,อ้อมล้อมต้นดาวเรือง แสงไหลเอาไม้ แสงไฟหลากสีลอยลงมาราวกับปุยหิมะนี้ เป็นสัญญาณลางดี มีพลังงานที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในหินวิญญาณระดับต่ํา

“ดอกดาวเรืองแสงไหลกําลังเบ่งบาน! นี่เป็นสัญญาณรุ่งเรืองที่ล่องลอยลงมาจากสวรรค์ นี่เป็นต้นสมุนไพรระดับอมตะ!” เซี่ยวเฉินมองดูแสงไฟบนท้องฟ้า,เขากล่าวขึ้น “ข้าไม่อาจปล่อยสัญญาณรุ่งเรื่องนี้หลุดลอยไป ข้าต้องรวบรวมมัน”

นกฝูงใหญ่บินตรงเข้ามาและดูดกลืนแสงไฟเหล่านั้น สัตว์อสูรวิญญาณประเภทปีกบินไปทั่วท้องฟ้าในทันที

เซี่ยวเฉินรีบเรียกเรือสงครามสีเงินออกมาและกระโดดขึ้นไป เขาถือขวดหยกไว้ในมือและเข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงประกายแสงไฟ เขาชีปากขวดหยกไปที่ดวงแสงหลากสีที่กําลังร่วงหล่นและดูดมันเข้ามาในขวด

“ยิ้ม…!”

ทันใดนั้นเกิดเสียงดังขึ้นมาจากพื้นดิน เซียวเฉินหันหัวลงไปดูข้างล่างและพบว่าพญางูแดงถูกล้อมรอบด้วยสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นต่ําแปดตัว:พวกมันเข้าต่อสู่น้ํานั่นกับพญางูแดง

สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ เมื่อสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 9ตัว เข้าน้ํานั่นกัน,ฉากสู้รบกลายเป็นโกหาหล เกิดเสียงระเบิดขึ้น,ที่ละลูกๆ:สมุนไพรอายุนับร้อยปีถูกเหยียบย่ําทําลาย

มันเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อแปด,แต่พญางูแดงก็ไม่ได้ตกเป็นรองการต่อสู้ช่างสูสี เมื่อมันขยับร่างอันใหญ่โตของมัน,พื้นดินสั่นสะเทือน

สัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าตระหนักได้ว่าขอบเขตการต่อสู้ของพวกมันใหญ่เกินไป พวกมันเข้าใจตรงกัน;พวกมันทั้งหมดเริ่มขยับย้ายออกมาให้ห่างต้นดาวเรืองแสงไหล

ดอกตูมสีทองค่อยเบ่งบานออกอย่างช้าๆ,ส่งแสงสว่างขึ้นมีหมอกพลังงานจิตวิญญาณหนาแน่นอยู่โดยรอบ

เซี่ยวเฉินมองไปที่สัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าที่กําลังต่อสู้กันไกลออกไป จากนั้นเขาก็เหลือบตาไปมองดอกดาวเรืองแสงไหลที่กําลังเบ่งบานอยู่บนต้น เซี่ยวเฉินคิดว่านี่คือโอกาสของเขาแล้ว

หากข้าว่องไวมากพอ,ข้าสามารถทิ้งตัวลงจากท้องฟ้าและเด็ดดอกดาวเรืองแสงไหลไปได้ก่อนที่พวกมันจะได้ตอบสนอง หลังจากนั้น,ข้าก็สามารถหลบหนีไป่ด้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไร,ข้าก็หมดความสนใจทุ่งสมุนไพรแห่งนี้แล้ว ไม่มีสิ่งใดให้เก็บเกี่ยวอีกแล้ว,กลับออกไปน่าจะเป็นการดี

“ฟว!”

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังไตร่ตรอง,จุดสีดําปรากฏขึ้นมาที่เส้นขอบฟ้า วิหคแสงบินมาด้วยความเร็วสายฟ้า,ทิ้งประกายแสงทอดยาวไว้ด้านหลัง

มันเป็นวิหคสีน้ําเงินตัวใหญ่พร้อมกับปีกยาวกว่าสิบเมตร มันบินทะลวงผ่านอากาศ,สร้างลมพายุรุนแรงขณะที่มันมุ่งหน้ามาทางดาวเรืองแสงไหล

มันทําแบบที่เซี่ยวเฉินกําลังริดจะทํา เซียวเฉินสาปแช่งมันในใจ เขาคิดมากเกินไปเขาน่าจะรีบพุ่งเข้าไป

วิหคสีน้ําเงินตัวใหญ่ชิงลงมือไปก่อน นอกจากนั้น,มันยังรวดเร็วกว่าเซี่ยวเฉิน แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด,เขาก็ทําได้เพียงมองดูวิหคประหลาดตัวนั้นขโมยดาวเรืองแสงไหลไปต่อหน้าต่อตา

“ปัง!”

ขณะที่วิหคสีน้ําเงินกําลังเปิดจะงอยปากอันใหญ่โตของมัน และเตรียมตัวที่จะฉกฉวยเอาดาวเรืองแสงไหล,เกิดเสียงลมระเบิดรุนแรง หางของพญางูแดงฟาดผ่านอากาศ,ซัดวิหคสีน้ําเงินลอยไปไกล

“ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!”

สัตว์อสูรวิญญาณอีกปลแปดตัวก็พักรบกับพญางูแดงชั่วคราวและหันมารุมวิหคสีน้ําเงิน วิหคน้ําเงิน,ที่กําลังดิ้นรนเพื่อหนีไปในอากาศ,ร่วงลงมากองกับพื้นในทันที

“ปะ!”

หางของพญางูแดงฟาดลงมาที่วิหคน้ําเงินอย่างแรง วิหคน้ําเงินแหลกไม่มีชิ้นดี,กลายเป็นเนื้อบด

เซี่ยวเฉินประหลาดใจอย่างเงียบๆ เมื่อเขาเห็นศพเนื้อบดของวิหคสีน้ําเงินเขาก็เสียวไปถึงสันหลัง สัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้ไม่ได้โง่งม,พวกมันต่างรู้ว่าจะมีสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นที่จะฉวยโอกาสในตอนที่พวกมันกําลังต่อสู้กันเพื่อขโมยดาวเรืองแสงไหล

หากมีสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นเข้ามา, พวกมันก็จะร่วมมือกันโจมตีใส่ ไม่มีใครในพิภพใต้ดินแห่งนี้จะต้านทานการรวมพลังของสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 พวกนี้

เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงสันหลังที่สั่นสะท้าน:หากเขาไม่ลังเล,คนที่เป็นเนื้อบดอยู่บนพื้นอาจจะเป็นเขาแทนก็ได้

รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินจดจ่อกลับไปที่สัญญาณรุ่งเรืองบนท้องฟ้า

มันเป็นเพียงชั่วพริบตาที่สัญญาณรุ่งเรืองที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าถูกดูดกลืนไปจนหมด

เซี่ยวเฉินรีบกระโดดขึ้นเรือสงครามสีเงินของเขาและกลายไปเป็นแสงสีเงิน, เก็บเกี่ยวสัญญาณรุ่งเรืองที่อยู่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจไปแข่งกับฝูงนกนานาชนิด พวกมันมีมากเกินไป

เซี่ยวเฉินรวบรวมสัญญาณรุ่งเรืองได้เพียงยี่สิบดวง;ส่วนที่เหลือหายไปกับฝูงนกวิหค เซี่ยวเฉินส่ายหัวและปิดปากขวด เขาเหลือบไปมองสัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าที่ยังคงต่อสู้กัน จากนั้นก็ออกจากพื้นที่ไป

เซี่ยวเฉินพบสถานที่เงียบสงบ,เขาหยิบเอาขวดที่บรรจสัญญาณรุ่งเรืองเอาไว้ เขาเผยรอยยิ้มบางๆ

แม้ว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในสัญญาณรุ่งเรืองจะไม่มาก เทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับกลาง,แต่มันก็เป็นของที่เซี่ยวเฉินต้องการเป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในหินวิญญาณระดับกลางจะสูงมาก แต่มันสามารถใช้ได้หลังจากที่เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญแล้วเท่านั้น มิฉะนั้น, พลังปราณที่บรรจุอยู่จะทําให้ร่างของเขาระเบิด

อย่างไรก็ตาม,พลังปราณที่อยู่ในสัญญาณรุ่งเรืองมันอ่อนโยนกว่ามาก ถึงแม้ว่าปริมาณของมันจะน้อยกว่าหินวิญญาณระดับกลาง

ผู้บ่มเพาะพลังไม่ว่าจะอยู่ระดับไหนก็ตามสามารถซึมซับมันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าร่างของพวกเขาจะระเบิด แม้แต่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดก็สามารถดูดซับมันได้โดยตรง

พลังปราณนี่มันเหนือกว่าความต้องการของเซี่ยวเฉิน หากเขาเอายี่สิบสัญญาณรุ่งเรืองไปแลกเปลี่ยนที่ตลาด,พวกมันสามารถมีค่ามากถึง 2,000 กินวิญญาณระดับต่ํา

สิ่งที่เซี่ยวเฉินขาดแคลนน้อยที่สุดในตอนนี้ก็คือหิน วิญญาณ, แน่นอน,เขาจะไม่เอามันไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ

เซี่ยวเฉินนั่งลงขัดสมาธิและเปิดขวดที่เต็มไปด้วยสัญญาณรุ่งเรือง จากนั้น เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างช้าๆ สัญญาณรุ่งเรืองหลากสีค่อยๆลอยขึ้นมาและเข้าไปในจมูกของเซี่ยวเฉิน

สายปราณบริสุทธิ์แห่งความอ่อนโยน ทั้งยังสูงส่งไหลเข้าไปตามเส้นปราณของเซี่ยวเฉิน บ่อน้ําฉีที่จุดตันเที่ยนของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว ซึมซับพลังปราณทั้งหมด

ความเร็วในการดูดซับพลังปรรชาณของบ่อน้ําฉีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ในไม่ช้า,พลังปราณเหลวบริสุทธิ์ก็หยดลงมา

“ตึ่ง ตึ่ง”

น้ําวนฉีหมุนวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังปราณบริสุทธิ์หยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ปราณธรรมชาติจากสัญญาณรุ่งเรืองหลากสีเปลี่ยนกลายไปเป็นพลังงานของเซียวเฉิน จํานวนพลังปราณที่บรรจุในสัญญาณรุ่งเรืองยี่สิบดวงสามารถเทียบเท่าได้กับหินวิญญาณระดับกลางห้าก้อน หลังจากที่เขาดูดซับมันเข้าไปทั้งหมด, พลังงานของเขาก็เพิ่มถึงระดับที่น่ากลัว

นอกจากนั้น ที่สําคัญที่สุดเลยก็คือมันไม่อันตราย พลังงานพลุ่งพล่านที่อบอุ่น มันหลอมเข้ากับร่างกายของเซี่ยวเฉินราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,เซี่ยวเฉินก็ซึมซับพลังงานได้สมบูรณ์ เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและเปลวแสงสีม่วงจากดวงตาของเขาเจาะผ่านอากาศออกไปราวกับคมมีด

เมื่อเซี่ยวเฉินยืนขึ้นเขารู้สึกถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของเขา เขากล่าวอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดข้าก็ขึ้นสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูง ขอบเขตพลังของข้ายังต่ําอยู่เล็กน้อย,แต่ก็มีพลังงานเพียงพอ”

หากเขาต้องการยกระดับสู่ระดับขอบเขตนักบุญนอก จาพลังงาน,เขายังต้องการความเข้าใจ ความเข้าใจในแก่นแท้ของเขาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง จากนั้นเขาจึงจะสามารถเรียกพลังปราณออกมาจากร่างเพื่อโจมตี

หลังจากที่ดูซับยี่สิบสัญญาณรุ่งเรืองเข้าไป, พลังงานในตัวของเซี่ยวเฉินตอนนี้เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น เขาเหลืออีกเพียงก้าวสั้นๆในการขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญ

“ชะแว้ง!”

กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมาและมีแสงเรืองขึ้นบนคมกระเป็นสองเท่า,ความยาวเกือบสิบเมตร

เซี่ยวเฉินพยักหน้าของเขาพร้อมกับแกว่งกระบี่ไปมา,ฉาบพลังปราณลงบนคมกระบี่ เขากล่าวอย่างเฉยเมย “ควบแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง, ไม่มีทางที่จะรวมกระบี่ฉีได้เช่นนี้”

ระดับขอบเขตนักบุญคืออุปสรรคใหญ่ชิ้นแรกสําหรับนักบ่มเพาะพลัง ในทวีปเทียนหวู่ไม่มีผู้ใดถือว่าเป็นผู้เซี่ยวเฉินจนกว่าจะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตนักบุญ

มีคนที่ไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ แม้จะใช้เวลาชั่วชีวิตของพวกเขาก็ตาม,ติดอยู่ที่ระดับสามัญไปตลอดชีวิต ยิ่งทะลวงขึ้นระดับขอบเขตนักบุญได้รวดเร็วเท่าไหร่,พวกเขาก็จะมีโอกาสเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

อายุร่างกายของเซี่ยวเฉินคือ 17 ปี หากเขาสามารถก้าวขึ้นระดับขอบเขตนักบุญด้วยอายุเท่านี้, พรสวรรค์ของเขาจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรต้าฉินแห่งนี้แน่นอน,หากว่าเขาไม่ได้รวมพวกผู้สืบทอดมีความสามารถที่ได้รับจิตวิญญาณยุทธที่สืบทอดมา

อย่างไรก็ตาม หากเขาเอาไปเปรียบเทียบกับทั่วทั้งทวีป.ความสามารถระดับนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไร

“ข้าอาจจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะ,แต่ข้าไม่เคยหย่อนยาน พวกที่เรียกว่า “อัจฉริยะ ก็เพียงแค่เริ่มเดินออกไปก่อนข้า ถึงอย่างไร ไม่ช้าก็เร็วข้าจะนําหน้าพวกเขาไป” เซี่ยวเฉินกล่าวเงียบๆกับตัวเอง

“ยิ้ม..”

ในทุ่งสมุนไพรที่ห่างออกไป,การต่อสู้ระหว่างเก้าสัตว์อสู รวิญญาณยังไม่จบลง มีเสียงดังมาจากที่นั่น แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะยืนอยู่ไกลออกไป,เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานจิตวิญญาณที่ผันผวนในอากาศ

เซี่ยวเฉินเหลือบไปมองและกลาาวขึ้น “ได้เวลาจากไปแล้ว ข้าได้เก็บเกี่ยวสมุนไพรที่สามารถบํารุงฉีและโลหิตของข้าจนหมดแล้ว หากข้าไม่กลับไป,พี่สามหรูเยว่และคนอื่นๆจะเป็นกังวล”

“ปัง!ปัง!”

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังจะจากไปเกิดเสียงระเบิดสองลูกที่ดังยิ่งกว่าเมื่อครู่ พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ร่างกายของเซี่ยวเฉินยังโยกซ้ายโยกขวา

ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้ติดสินผู้ชนะได้แล้ว? เซี่ยวเฉินคิดอย่างตกตะลึง

เซี่ยวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณออกไปเหมือนกับลูกศร ต่อมา ทันใดนั้น,สถานการณ์ก็ปรากฏขึ้นชัดเจนในหัวของเซี่ยวเฉิน

หมอกพิษกระจายไปทั่วในอากาศ:สายควันพิษสีดําม้วนตัวอยู่รอบสมุนไพรวิญญาณ ภายใต้อิทธิพลของควันพิษ,เหล่าต้นสมุนไพรไม่เหลือร่องรอยของพลังชีวิตอีกต่อไป

ควันพิษแพร่กระจายไปมหาศาลทําลายล้างสมุนไพรอายุนับร้อยปี เซี่ยวเฉินสาปแช่งกับตัวเอง,ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน! สมุนไพรเพียงต้นเดียวก็มีค่านับหมื่นเหรียญทองในโลกภายนอก

สัมผัสวิญญาณของเขาเคลื่อนไหวไปท่ามกลางหมอกพิษ มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 กําลังนอนตายอยู่กับพื้น ร่างของมันดําสนิท,และหัวของมันวางอยู่ด้านข้าง,แยกออกจากลําตัว

เซี่ยวเฉินมองดูต่อไปรอบๆ และเขาก็พบร่างของสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นๆอีกเจ็ดร่าง วิธีการตายของพวกมันช่างแปลกประหลาด:ร่างของพวกมันดําสนิทมองดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,แม้แต่สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ก็ไม่สามารถหลุดรอดจากหมอกพิษนี้ไปได้ หากตัวเขาเข้าไปสัมผัสกับควันพิษ,เขาคงจะต้องติดพิษจนตาย

“ปุ! !!”

ควันพิษค่อยๆสลายจางหายไปและพญางูแดงตัวใหญ่ก็ค่อยๆเลื่อนตัวไปที่ต้นดาวเรืองแสงไหล เซียวเฉินมองดูอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าพญางูแดงก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ร่างอันใหญ่โตของมันปกคลุมไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ มีเลือดหยดลงมา ทุกครั้งที่มันเคลื่อนตัว,เลือดจะไหลหยดลงพื้น

แม้ว่ามันจะสามารถเอาชนะสัตว์อสูรวิญญาณตนอื่นได้,แต่มันก็ได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อยเช่นกัน เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง คิดถึงความเป็นไปได้ทุกทาง

หากพญางูแดงเคลื่อนที่ได้เร็วเพียงเท่านี้ เช่นนั้นมังกรฟ้า เมฆาทะยานของข้าอาจจะรวดเร็วกว่า

เซี่ยวเฉินเหยียดมือออกไปและรูปสลักลิงน้ําแข็งห้าตัวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ลิงน้ําแข็งห้าตัวนี้อาจจะพอซื้อเวลาให้เขาได้บ้าง

ลิงน้ําแข็งทั้งห้าตัวเขาแกะสลักมันดลก่อนที่จะลงมายังพิภพใต้ดิน เขาไม่มีโอกาสได้ใช้มันออกมา บางทีก็อาจจะเป็นการดีที่จะใช้มันออกมาในตอนนี้

ถึงกระนั้น,ความคิดก็ขัดแย้งกันภายในหัวของเซี่ยวเฉิน,เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ อย่างที่เขาว่ากันอูฐที่อดตายยังตัวใหญ่ยิ่งกว่าม้า พญางูแดงตัวนี้บาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่อาจยืนยันได้ว่ามันจะไม่มีไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้

TLอูฐที่อดตายยังตัวใหญ่ยิ่งกว่าม้าแปลว่าแม้จะอยู่ในสภาพย่ําแย่ แต่คนแข็งแกร่งก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+