Immortal and Martial Dual Cultivation 87 ผู้ชนะเป็นราชา?

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 87 ผู้ชนะเป็นราชา? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 87 ผู้ชนะเป็นราชา?

 

เซียวเฉินกำกระบี่เงาจันทร์ไว้มั่น สีหน้าเขาปรากฎความอ่อนเพลียเล็กน้อย กลาบาตกัมปนาทใช้พลังปราณของเขาไปไม่น้อย นอกจากนั้นด้วยอาการบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้พละกำลังของเขาลดทอนลงไป เขายืนอยู่ได้เดียวความมุ่งมั่นและพลังใจ

 

“ฮ่ะ!”

 

ทันใดนั้นถังเฟิงก็ตะโกนออกมาเสียงดัง มือขวาของเขาทำทุกอย่างเพียงดึงตัวเองขึ้นไปข้างหน้าและลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อเขาขึ้นมาได้ร่างของเขาก็เป๋ไปมาเห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บไม่ใช่น้อย

 

เซียวเฉินผลักเท้าลงพื้นอย่างรุนแรงและส่งร่างของเขาขึ้นหน้า แสงสายฟ้าจากกระบี่เงาจันทร์แผ่ไปทั่วทุกทิศทางพลังเต็มพิกัดของแก่นกลางปีศาจระดับ 6 ถูกปลดปล่อยออกมาฟันลงไปที่ถังเฟิงอย่างไร้ความปราณี

 

“เกวียง!”

 

ธนูเพลิงน้ำแข็งในมือของถังเฟิงขยับไปข้างหน้าเล็กน้อยรับกระบี่ของเซียวเฉินไว้เมื่อดึงธนูของเขากลับมาและเคลื่อนที่ไปรอบๆเล็กน้อยก่อนที่จะฟาดธนูเพลิงน้ำแข็งใส่เซียวเฉิน

 

ทั้งสองคนแลกกระบวณท่ากันครู่หนึ่ง ถังเฟิงใช้ธนูของเขาราวกับอาวุธประชิดควบคู่กับทักษะเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยมของเขาเขาก็ยังสามารถรับมือกับการต่อสู่ระยะประชิดกับเซียวเฉินได้

 

เซียวเฉินรู้สึกหวาดหวั่นในใจเขาไม่คาดคิดว่านอกจากถังเฟิงจะมีทักษะต่อสู้ประชิดตัวแล้วเขายังเอาธนูเพลิงน้ำแข็งมาเป็นอาวุธได้

 

หลังจากที่เซียวเฉินถอยกลับไปสองก้าวเท้าขวาของเขาก็ก้าวขึ้นหน้าเปลี่ยนท่าทางเล็กน้อย ทันใดนั้นรัศมีพลังของเขาก็พุ่งขึ้น ถังเฟิงรู้สึกกลัวเล็กน้อยและอยากจะกระโดดหลบไปด้านข้าง

 

“วาดกระบี่!”

 

กระแสไฟฟ้าปะทุออกมาจากตัวกระบี่และเส้นประกายแสงก็วาดผ่าน

 

“ฟาดฟันประกายแสง!”

 

ปลายกระบี่ยกขึ้นเล็กน้อยและประกายสายฟ้าอัดแน่นอยู่ที่คมกระบี่ มันดึงประกายสายฟ้าลอยไปในอากาศ กระแสไฟกระโดดผ่านไปมาอย่างต่อเนื่อง

 

ถังเฟิงอยากจะลงมือตั้งรับมันไว้แต่เขาก็พบว่ามันไร้ช่องโหว่ มุมที่ประกายสายฟ้าพุ่งมาปิดช่องโจมตีของเขาจนหมด

 

ในตอนที่เขาตัดสินใจที่จะถอยหนีมันก็สายเกินไปแล้วสำหรับเขา ประกายแสงสร้างแผลยาวบนหน้าอกของเขา กระแสไฟฟ้ากระโดดผ่านบาดแผลและเข้าไปในร่างของถังเฟิง

 

กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างของเขาไปอย่างง่ายดายและฝีเท้าของเขาปั่นป่วน เขาตกใตสุดขีด เขาตั้งธนูเพลิงน้ำแข็งขึ้นมาประทับด้านหน้าและดึงสายธนูกลับอย่างรุนแรง

 

“โบว!”

 

คลื่นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ปลดปล่อยความร้อนที่ไร้ขอบเขตลุกโชยมาทางเซียวเฉิน

 

“สายฟ้าผ่าสวรรค์!”

 

เซียวเฉินกระโดดขึ้นสูงไปในอากาศพุ่งทะยานไปบนท้องฟ้าและแหวกผ่าคลื่นเปลวเพลิงตรงไปที่ถังเฟิง

 

ผิวของถังเฟิงซีดขาวพร้อมกับม้วนตัวถอยกลับหลังอย่างเต็มกำลัง เขาไม่มีทักษะเคลื่อนไหวดั่งเช่นเฟิงเฟยซู่และทำได้เพียงม้วนตัวกลับหลังอย่างน่าสังเวช

 

“อัสนีฟาดฟัน!”

 

มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นข้างหลังของเซียวเฉินมันดังกังวลทำทุกคนแก้วหูสั่นสะเทือนหน้ามืดเป็นลม ในตอนนี้รัศมีพลังของเซียวเฉินพุ่งจนถึงขีดสุดนำพาบรรยากาศที่ไร้ขอบเขตและอำนาจฟ้าคำรามจากสวรรค์ทั้งเก้าพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า

 

ถังเฟิงเพิ่งจะลุกขึ้นมาได้เมื่อเห็นเซียวเฉินที่กำลังดิ่งลงมาจากท้องฟ้าราวกับเทพเจ้าสายฟ้า เขารีบยกธนูเพลิงน้ำแข็งขึ้นมาและเล็งขึ้นไปด้านบนหมายจะตีขัดการโจมตีของเซียวเฉิน

 

เขามีความมั่นใจในฝีมือและวัสดุที่ใช้สร้างธนูเพลิงน้ำแข็งขึ้นมาเป็นอย่างมาก มันคืออาวุธวิญญาณระดับลึกซึ้งขั้นต่ำและนอกจากนั้นมันยังหลอมขึ้นมาจากเหล็กน้ำค้างเหมันต์ระดับสูง

 

“แคร้ง!แคร้ง!”

 

พลังมหาศาลของกระบี่เงาจันทร์ฟันลงไปที่ธนูเพลิงน้ำแข็ง หลังจากเสียงกระทบกันสองครั้งก็ปรากฎรอยแตกขึ้นบนธนูเพลิงน้ำแข็งอันแสนภาคภูมิใจของถังเฟิง มันกำลังจะแตก!

 

“อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสอง!”

 

ต่อกระบวณท่าหลังจากอีสนีฟาดฟัน เซียวเฉินลงจอดบนพื้นแล้วและคว้าโอกาสนี้ใช้อัสนีฟาดฟันผ่าพันธนาการสองออกมา ถังเฟิงรู้สึกประหลาดใจและยกธนูของเขาขึ้นป้องกัน

 

“ปัง!”

 

ธนูเพลิงน้ำแข็งแตกหัก ทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันปล่อยกระบี่สังหารออกมาห้าครั้งและด้วยพลังงานอันรุนแรงที่สะสมมาระเบิดออกส่งร่างของถังเฟิงลอยไปไกล

 

ถังเที่ยนที่นั่งอยู่บนศาลารีบกระโดดออกไปรับตัวถังเฟิง ร่างของเขารวดเร็วราวกับสายฟ้าและจิ้มลงไปบนหน้าอกของถังเฟิงสามจุด จากนั้นเขารีบหยิบเม็ดยาออกมาป้อนใส่ปากถังเฟิง

 

หลังจากที่ถังเที่ยนตรวจดูอาการบาดเจ็บของถังเฟิงแล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้นมา มองไปยังเซียวเฉินผู้ที่ยังอยู่บนสนามประลองเขาพูดขึ้นอย่างไม่แยแสกับคนที่วิ่งตรงเข้ามา “กลับ!”

 

ตู้กู่เฟิงเดินขึ้นมาบนสนามประลองอย่างช้าๆและประกาศขึ้น “ศึกสัญญาสิบปีในครั้งนี้ตระกูลเซียวเป็นผู้ชนะอีกครั้ง สิทธิ์ในภูเขาชีเจี่ยวตกเป็นของตระกูลเซียว ข้าหวังว่าทุกตระกูลจะเคารพผลแพ้ชนะนี้”

 

“น้องเฉินเจ้าเป็นเช่นไร?” ทันทีที่ตู้กู่เฟิงประกาศจบเซียวอวี่หลันและคนอื่นๆก็วิ่งตรงเข้ามาที่สนามประลอง

 

ดวงตาของเซียวหลิงเอ๋อเต็มไปด้วยประกายพร้อมกับพูดขึ้น “พี่ใหญ่เฉินต่อจากนี้เจ้าคือวีรบุรุษของตระกูลเซียว”

 

เย่หมิงหลาน,เซียวเจี้ยนและสานุศิษย์ตระกูลเซียวคนอื่นๆวิ่งมาล้อมหน้าล้อมหลังแสดงความยินดีกับเขา ฝูงชนด้านล่างล้วนประหลาดใจในผลลัพธ์เซียวเฉินจะพลิกกลับมาเอาชนะได้แบบกระทันหันเกินไปแล้ว พวกเขาปรับอารมณ์ไม่ทัน

 

เซียวเฉินมองดูผู้คนขณะที่รู้สึกเป็นสุขในใจ ด้วยผลของเม็ดยาห้วนคืนโลหิตอากาศบาดเจ็ฐของเขาฟื้นคืนกลับมาได้กว่าครึ่งแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากที่ใช้พลังปราณเกินขีดจำกัดมันก็ยากที่เขาจะทรงตัวยืนอยู่

 

เซียวเฉียงเดินแหวกฝูงคนนำผู้อาวุโสสองสามคนเข้ามา สีหน้าของเขาไม่ได้เป็นสุขเท่าไหรหลังจากได้รับชัยชนะ เขาสำรวจอาการบาดเจ็บของเซียวเฉินจากนั้นก็พูดขึ้น “รีบกลับ ผู้นำตระกูลมีบางอย่างอยากจะพูดคุยกับเจ้า”

 

เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่เหล่าตระกูลเซียวต่างสีหน้าดูไม่ดี ตอนนี้พวกเขาชนะศึกสัญญาสิบปีสีหน้าพวกเขาผ่อนคลายลงไม่น้อย

 

….

 

เมืองม่อเหอภายในห้องลับตระกูลถัง

 

ถังเที่ยนสีหน้าละอายพร้อมกับพูดกับเหลิงหยุ่นเจิ่ง “ลูกชายข้าช่างไร้ประโยชน์และทำให้ลูกศรปราณแสงทั้งสามดอกเสียเปล่า”

 

ข่าวการพ่ายแพ้ของทั้งสองตระกูลได้มาถึงหูของเหลิงหยุ่นเจิ่งแล้ว เมื่อเขาได้ยินคำพูดของถังเที่ยนเหลิงหยุ่นเจิ่งก็พูดอย่างไม่แยแส “ไม่เป็นไร มนุษย์โหยหาแต่พระเจ้าแบ่งสรร พวกเราทำดีที่สุดแล้ว”

 

**** สำนวนประมาณมนุษย์ทำทุกอย่างที่ทำได้แต่พระเจ้า/โชคชะตาสอดมือเข้ามายุ่ง

 

เหลิงหยุ่นเจ๋อผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้น “ท่านผู้นำตระกูลโปรดตัดสินใจ ผู้อาวุโสหกนำกำลังระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธห้าสิบคนมาเรียบร้อยและกำลังซุ่มอยู่บริเวณโดยรอบตระกูลเซียว พวกเรารอเพียงคำสั่งจากท่านเท่านั้น”

 

ถังเที่ยนลุกยืนและพูดขึ้น “ตระกูลถังของเรามีกำลังระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธห้าสิบคนให้พี่น้องเหลิง”

 

ผู้นำตระกูลจางก็พูดตาม “ตระกูลจางของพวกเราสามารถจัดหาระดับขอบเขตปรมจารย์สิบสองคนมาได้ทันที”

 

“ข้ารอเพียงคำสั่งจากผ่านผู้นำตระกูล ลงมือได้ไร้ซึ่งความลังเล” ระดับขอบเขตนักบุญทั้งสี่คนด้านหลังของเหลิงหยุ่นเจิ่งพูดขึ้นเสียงดัง

 

เหลิงหยุ่นเจิ่งหลับตาลงครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานก่อนที่ทันใดนั้นจะลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาเคร่งขรึมพูดขึ้นด้วยเสียหนักแน่น “พี่น้องจางใช้เวลานานเพียงใดที่จะรวบรวมระดับขอบเขตปรมจารย์มา?”

 

ผู้นำตระกูลจางยิ้มขึ้น “ข้าได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ระดับขอบเขตปรมจารย์สิบสองคนรอยู่ด้านนอกของตระกูลถัง”

 

เหลิงหยุ่นเจิ่งพยักหน้าและพูดต่อ “พี่น้องจาง พี่น้องถัง นอกจากระดับขอบเขตปรมจารย์แล้วยังมีผู้บ่มเพาะพลังอีกกี่คนที่จัดหามาได้อีก?”

 

“ตระกูลจางมีระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธเจ็ดสิบคนและระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดหนึ่งร้อยคน”

 

“ตระกูลถังมีระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธแปดสิบคนและระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดสองร้อยคน”

 

ดวงตาของเหลิงหยุ่นเจิ่งเป็นกระกายสดใสพร้อมกับพูดขึ้น “ดี! เจ้าส่งคนไปนำผู้บ่มเพาะพลังมาและเฝ้าดูที่สำนักของท่ายเจ้าเมืองไว้ ต้องกันคนของท่านเจ้าเมืองออกไปให้ได้สองชั่วโมง สองชั่วโมงหลังจากนั้นทุกอย่างเสร็จสิ้นมันก็สายเกินไปแล้วที่จะกอบกู้สถานการณ์”

 

ผู้นำตระกูลถังและผู้นำตระกูลจางสีหน้ากลายเป็นน่าเกลียดพร้อมกับพูดขึ้น “ไปยุ่งกับคนของท่านเจ้าเมือง… ท่านไม่กลัวผลที่จะตามมา?”

 

เหลิงหยุ่นเจิ่งมองไปที่ทั้งสองพูดด้วยเสียงหนักแน่น “เจ้าคิดว่าพวกเราจะบุกไปหาตระกูลเซียวได้โดยที่ท่านเจ้าเมืองจะไม่รู้? เจ้าคิดว่าที่พวกเราบุกไปที่ตระกูลเซียวในครั้งก่อนท่านเจ้าเมืองจะไม่รู้เรื่อง?”

 

“หากตระกูลเหลิงของข้าไม่มีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งคิดว่าท่านเจ้าเมืองจะไม่มายุ่มย่าม?”

เมื่อผู้นำตระกูลจางและตระกูลถังได้ยินดังนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจโล่งอก “พวกเราจะทำตามที่พี่น้องเหลิงกล่าว”

 

“อีกครึ่งชั่วโมงออกเดินทาง กำจัดตระกูลเซียวให้สิ้นซากอย่าให้มีใครรอดไปได้” ความมุ่งมั่นและโหดเหี้ยมปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเหลิงหยุ่นเจิ่ง

 

…..

 

เมืองม่อเหอภายในห้องโถงใหญ่ของตระกูลเซียว

 

เซียวเฉินตามเซียวเฉียงและคนอื่นๆเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่ เซียวฉงสีหน้ามืดมึนขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้

 

เซียวฉงยิ้มไปที่เซียวเฉิน “เซียวเฉินเจ้าทำสำเร็จและนำชัยชนะมาให้ตระกูลเซียว”

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เซียวฉงพูดจบเซียวเฉินรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผู้อาวุโสที่อยู่รอบข้างต่างมีสีหน้าซับซ้อน พวกเขาไม่ได้มีสีหน้าเป็นสุขที่ชนะการประลองมาได้

 

เซียวฉงพึมพำกับตัวเองอยู่นานก่อนที่จะพูดขึ้น “เซียวเฉินจิตวิญญาณต่อสู้ของเจ้าคือสัตว์อสูรมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่? บอกข้ามาตามจริง ”

 

เขารู้ได้อย่างไร? เซียวเฉินใจสั่น ความคิดของเขาติดอยู่ในวังวน หลังจากนั้นพักใหญ่เขาก็ตัดสินใจ นี่เป็นเรื่องที่ยังไงก็ต้องเกิดในที่สุดเขาก็ปิดบังไม่ได้อีกต่อไป

 

เซียวเฉินมองไปที่เซียวฉงอย่างสงบและไร้ความหวาดกลัว “ขอตอบกลับท่านพ่อ จิตวิญญาณต่อสู้ของข้าคือจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้า มีอะไรผิดปกติกับมัน?”

 

“มังกรฟ้า…” ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างของเขาทำทีจะอธิบายแต่ทันใดนั้นก็กับสัมผัสถึงเสียงฆ่าฟันดังมาจากลานด้านหน้าของตระกูลเซียว เสียงร้องน่าสังเวชทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป

 

เซียวเฉินรู้สึกหวาดกลัวในใจพร้อมกับปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “สารเลว! พวกมันกล้าบุกมาจริงๆ ข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่กล้ากลับมาอีก”

 

เซียวเฉินออกไปจากโถงใหญ่อย่างรวดเร็วใช้คาถาแรงโน้มถ่วงบินขึ้นไปบนฟ้าเขานำขึ้นหน้าเซียวฉงและคนอื่นๆไปที่ลานหน้า

 

ในลานกว้างด้านหน้ามีผู้บ่มเพาะพลังจากตระกูลเหลิงกำลังไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง ผู้ที่ระดับต่ำที่สุดก็เป็นระดับขอบเขตปรมจารย์นอกจากนั้นยังมีระดับขอบเขตเวียนถึงหกคน คนจากตระกูลเซียวไม่อาจตอบโต้ได้

 

“ฟู่ว!”

 

สานุศิษย์ตระกูลเซียวระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดผู้หนึ่งถูกฝ่ามือของถังเทียนและกระอักเลือดออกมา หัวใจของเขาแหลกสลายตายในฝ่ามือเดียว

 

“อย่าฆ่าข้า! อา..” เด็กสาวตระกูลเซียวผู้หนึ่งวิ่งถอยหนี ผู้ที่ไล่ตามนางมาคือเหลิงหยุ่นเจ๋อ ใบหน้าแสดงความเย้ยหยันราวกับกำลังเล่นเกมแมวจับหนูเขาไล่ตามนางอย่างช้าๆไม่รีบร้อนที่จะลงมือ

 

“ปัง!”

 

ทันทีที่นางเหมือนจะหนีรอดไปได้ทันใดนั้นเหลิงหยุ๋นเจ๋อก็ลงมือ แสงดาบวูบผ่านและศีรษะของหญิงสาวก็ลอยไปในอากาศ

 

ร่างที่ไร้ศีรษะยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้าสองสามก้าวก่อนที่จะล้มลง ดวงตาบนใบหน้าเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

เหลิงหยุ่นเจ๋อมองไปที่ร่างบนพื้นอย่างไม่แยแสพร้อมกับส่งดาบพลังฉีออกไปไล่สังหารตระกูลเซียวคนอื่น ด้วยระดับพลังของเขาไม่มีใครสามารถรับการโจมตีของเขาได้

 

“ฆ่าพวกมันให้หมดทุกคน บุกเข้าไปให้เร็ว” ผู้นำตระกูลเหลิงพูดเสียงเย็นพร้อมกับลงมือหักคอศิษย์ตระกูลเซียวคนหนึ่ง

 

เสียงร้องนับไม่ถ้วนดังขึ้นมาจากพื้นดินและผ่านหูของเซียวเฉิน สภาพลานด้านหน้าของตระกูลเซียวราวกับนรกบนดิน ดวงตาของเขาแดงก่ำพร้อมกับเร่งคาถาแรงโน้มถ่วงจนถึงขีดสุดลงจอดลงที่ประตูใหญ่ที่กั้นลานหน้ากับลานด้านในเอาไว้

 

“หลิงเอ๋อรีบหนีไปเร็ว เจ้ามาถึงประตูแล้ว หลังจากที่เข้าไปในลานด้านหลังเจ้าจะปลอดภัย” เย่หมิงหลานตะโกนใส่เซียวหลิงเอ๋อขณะที่เขากำลังต้านการโจมตีจากระดับปรมจารย์ผู้หนึ่ง

 

เซียวหลิงเอ๋อใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาพร้อมกับร้องออกมา “เย่หมิงลาน…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด