Immortal and Martial Dual Cultivation 253 ประมือบนเรือรบ

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 253 ประมือบนเรือรบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

 

ตอนที่ 253 ประมือบนเรือรบ

 

มีความกังวลใจบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน เขาเปิดใช้ค่ายกลที่ประทับอยู่บนเรือสงครามจนถึงขีดสุด,โดยไม่สนถึงพลังปราณที่ต้องจ่ายไปพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่ราชวังด้วยความเร็วสูงสุด

 

เซี่ยวเฉินปลอบใจตัวเองว่าหลิวคงไม่มีทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกาย มิฉะนั้น,หลิวเทียนยู่จะไม่มีทางปล่อยให้นางเข้ามาในมิติย่อยแหวนี้

 

ถึงอย่างไร,นางก็เป็นบุตรสาวของหลิวเทียนยู่ ไม่ว่าเขาจะเป็นไอ้เวรขนาดไหน เขาคงไม่ล้อเล่นเกี่ยวกับชีวิตของบุตรสาวของเขา

 

อย่างไรก็ตาม อีกความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในใจของเซี่ยวเฉิน, บางทีเจ้าแก่นั้นได้คิดเอาไว้แล้วว่าข้าจะต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่ ดังนั้นเขาตั้งใจจะใช้วิธีนี้ดึงให้ข้าอยู่ในมิติย่อยและไปสังหารแม่ทัพปีศาจตามแผนของเขา

 

ตามนิสัยของเจ้าจิ้งจอกเฒ่านั้น มันความเป็นไปได้ เมื่อเซี่ยวเฉินคิดได้ดังนี้เขาเพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง

 

ความเร็วของเรือสงครามสีเงินขึ้นไปแจะความเร็วเสียง สายลมคมเปาลงบนใบหน้าของเขาราวกับคมมีด เซี่ยวเฉินรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย,ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้พลังปราณบางส่วนมาบัดนี้องสายลมเอาไว้

 

“บูม บูม! บูม!”

 

ในตอนนั้นเอง,มีเสียงระเบิดตามมาเป็นสายด้านหลังของเซียวเฉิน ร่างปรากฏขึ้นและรีบลงจอดบนท้ายเรืออย่างมั่นคง

 

เซี่ยวเฉินหันกลับไปมองและเห็นชัดว่าเป็นใคร เขาอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ “มู่หลงชง!”

 

มู่หลงชงกุมกระบีไว้ที่มือขวาพร้อมกับกล่าวน้ำเสียงปนเย้ยหยัน “เจ้าจะเร่งรีบไปตาย?”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินเช่นนั้นเสีหน้าของเขาจมดิ่ง เขากล่าวด้วยเสียงเย็น “ข้าไม่มีเวลามาวอแวกกับเจ้า นี่คือเรือรบของข้า,ลงไป”

 

มู่หลงชงมองดูราวกับเขาได้ฟังเรื่องตลก,มันสะท้อนออกมาบนใบหน้าของเขา เขากล่าว “ลงไป? หากข้าไม่ล่ะ?”

 

“เช่นนั้นข้าทำได้เพียงเตะเจ้าลงไป”

 

มู่หลงชงหัวเราะเย็นชา “ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงใด ถึงกล้ามาท้าทายข้างที่นับได้ว่าเป็นศิษย์พี่ของเจ้า”

 

“เก้าร่างมังกรสัญจร! สับวายุใส!”

 

เซี่ยวเฉินไม่มัวพูดคุย เขาตะโกนออกมากับใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและสับวายุใส ทันใดนั้นเกิดสายลมเย็นเก้าเส้นขึ้นในอากาศ,เซี่ยวเฉินแบ่งออกเป็นภาพวงตาเก้าร่าง

 

“วิ้ว ฟิ้ว!”

 

ภายในสายลมเย็น,กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะในมือของเซี่ยวเฉินจางหายไป เจตนาฆ่าฟันของเขาถูกปิดซ่อน รวมเข้ากับภาพลวงตา,มันยากที่จำแยกของจริงออกมาจากของปลอม

 

ขณะที่กระบี่แสงกำลังจะซัดเข้าที่ตัวของมู่หลงชง,บางอย่างแปลกประหลาดเกิดขึ้น เกิดสายลมเย็น,และมู่หลงชงก็หายไปต่อหน้าของเซียวเฉิน

 

เซียวเฉินไม่ได้ประหลาดใจเขาเพียงขยายสัมผัสวิญญาณออกไปและสามารถมองเห็นสถานการณ์ในระยะสองร้อยเมตรได้อย่างชัดเจน

 

ท่ามกลางความมืดมัว, สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินตรวจจับเงาสีดำที่ด้านล่างของเขาไปหนึ่งร้อยเมตร

 

“เจอตัวแล้ว! ผสาน!”

 

เก้าร่างลวงตาในอากาศผสานกลับและความเร็วของเซี่ยวเฉินเพิ่มเป็นสองเท่า เกิดเสียงโซนิคบูมขณะที่เขาเคลื่อนไป

 

กระบี่เงาจันทร์เรืองแสงสายฟ้าสีม่วง,ส่องแสงบนท้องฟ้าสีแดง กระบี่ทะลวงผ่านอากาศและฟันไปที่จุดเงาสีดำด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า

 

คมกระบี่ส่งเสียงสายฟ้าคำรามเมื่อซัดเข้าที่เป้าหมาย อย่างไรก็ตาม,นอกจากสายลม,ไม่มีวี่แววของมู่หลงชง

 

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดและครุ่นคิดอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? ถึงแม้เขาจะสามารถซ่อนกายท่ามกลางสายลม,เขาไม่มีทางที่จะกลายเป็นสายลม หากตรวจพบตำแหน่งของเขาได้ มันก็น่าจะตีโดนเขา”

 

“ ฟู! ฟู!” สายลมเย็นพัดผ่านด้านหลังของเซียวเฉินและเสียงของมู่หลงชงกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน “ศิษย์น้องตัวน้อย,หาผิดที่แล้ว ข้าอยู่ตรงนี้”

 

เสียงของเขาเลื่อนไหวมาพร้อมกับสายลมเย็น มันหมุนวนสะท้อนไปรอบตัวของเซียวเฉินเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ได้ว่าเสียงมาจากทางไหน

 

เซียวเฉินระมัดระวัง เขาค่อยๆหลับตาลงและเก็บกระบี่เงาจันทร์กลับเข้าฝัก

 

มู่หลงชงได้ฝึกฝนสับวายุใสจนถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม เขายังเข้าใจถึงสภาวะสายลมถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม เมื่อทั้งสองประมือกันด้วยสับวายุใส,เซี่ยวเฉินไม่อาจไปเทียบด้วยได้

 

มันจะเป็นการยากที่จะตามหาตัวของเขา พยายามมองหาจุดอ่อนทั้งที่เขายังไม่ได้เคลื่อนไหวไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง

 

มีเพียงในตอนที่เขาเริ่มเคลื่อนไหวข้าจึงจะมีโอกาสเจอตัวเขาในตอนนั้น,ข้าจะใช้ความแข็งแกร่งทางกายของข้าเค้นเอาจุดอ่อนของเขาออกมา

 

หลังจากนั้น,ข้าจะใช้ออกทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันอย่างไม่หยุดยั้งจบฉากล้มเขาลง ตราบใดที่เขาถอยหนีเขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงแต่ละกระบวณท่าที่รวดเร็วขึ้นของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน

 

สายลมอ่อนเปาผ่านใบหน้าของเซี่ยวเฉิน พลังที่อ่อนโยนทำให้สีหน้าของเขาอ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้

 

เขากำลังเข้ามา! ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ลืมตาขึ้น แสงเฉียบคมปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและเกิดเสียงแตกกราวดังออกมาจากกระดูกของเขา

 

“พยัคฆ์ร้ายสะเทือนไพร,อำนาจเหนือร้อยสัตว์อสูร!”

 

พลังกว่าหกพันกิโลกรัมซีดไปที่ความว่างเปล่า,เปาเข้าสายลมเย็น เกิดเสียงระเบิดดังออกมาจากสายลมที่ไร้รูป,กำปั้นของเขาระเบิดใส่

 

มู่หลงชง,ผู้ที่ซ่อนกายอยู่ในสายลมเย็น,นิ่งอึ้งประหลาดใจเล็กน้อย

 

มู่หลงชงตัดสินใจเผยตัวออกมา,ยอมทิ้งการโจมตีเมื่อครู่ เขาปล่อยมือออกจากด้ามกระบี่และซัดไมือออกไป สายลมจากฝ่ามือของเขาดังราวกับสายฟ้าคำราม,ทำให้อากาศสั่นสะเทือน

 

“ปัง!”

 

กำหมัดและฝามือส่งเสียงระเบิดออกมาเมื่อเข้าปะทะกัน,มันราวกับสายฟ้าระเบิดเสียงคำรามสั่นสะเทือนแก้วหู,สั่นสะท้อนไปมา

 

คลื่นระเบิดขยายออกไปโดยรอบราวกับน้ำกระเพื่อม

 

พวกเขาทั้งสองคนถอยกลับไปคนละห้าก้าวพร้อมกัน หนึ่งยืนอยู่บนหัวเรือและอีกหนึ่งยืนอยู่ตรงท้ายเรือ ในการแลกกำปั้นและฝ่ามือครั้งนี้ นับได้ว่าเสมอ

 

ฉีและโลหิตในร่างของเซี่ยวเฉินเดือดพล่าน,อวัยวะภายในของเขาสะเทือน เขารู้สึกถึงเลือดที่ขึ้นมากระจุกในคอของเขา เขาไม่ได้ฝันระงับและกระอักเลือดออกมา

 

เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ พลังกายของเขานับได้ว่าก้าวขึ้นสู่ระดับน่ากลัว กำปั้นเต็มพลังของเขาแบกพลังมากกว่าหกพันกิโลกรัม

 

กำปั้นจู่โจมแบบฉับพลันของเขาสามารถสังหารระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางได้ อย่างไรก็ตาม,ไม่เพียงมู่หลงชงจะไม่เป็นอะไร,พลังกายถึงกับเสมอกันเขา

 

เรือสงครามสีเงินยังคงบินต่อไปบนท้องฟ้า,ใต้แสงจันทร์สรแดง

 

สายลมแรงเปาผ่านคนทั้งสอง,ผมยาวสรดำของพวกเขาร่ายรำและเสื้อผ้าปลิวไหวในอากาศ

 

เลือดไหลออกมาจากมุมปากของมาหลงชง,ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย ฝ่ามือของเขาได้เสริมแรงด้วยพลังปราณ

 

ตามจริง,พลังกายของมู่หลงชงนั้นด้อยกว่าเซี่ยวเฉินไปมาก ดังนั้น อาการบาดเจ็บภายในของเขารุนแรงเสียยิ่งกว่าของเซียวเฉิน

 

มู่หลงชงค่อยๆเช็ดเลือดที่มุมปากออกและเผยรอยยิ้มบางเบา “ที่บังคับให้ข้าต้องถอนกระบี่นับว่าเจ้ามีดีพอที่จะท้าทายข้า อย่างไรก็ตาม หากนั่นเป็นทั้งหมดที่เจ้ามี,มันก็ยังไกลกว่าที่จะเตะข้าลงไป”

 

“ฮ่ะ!”

 

ขณะที่มู่หลงชงกำลังจะลงมือต่อ,ใบไม้สีเขียวปรากฏขึ้นเหนือเรือสงครามสีเงิน

 

ใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นดูไม่มีอะไร แต่มันรักษาความรวดเร็วในอากาศได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่ได้ช้าหรือเร็วจนเกินไผ,ทำให้รู้สึกสบาย อย่างไรก็ตาม,มันก็ลอยได้ไกลกว่าหนึ่งร้อยเมตรในพริบตาเดียว

 

ความเร็วของมันรวดเร็วยิ่งกว่าเรือรบสีเงินของเซียวเฉิน

 

เซี่ยวเฉินจับจ้องไปที่ใบไม้ใบนั้น,เต็มไปด้วยความสงสัย

 

เป็นใครกัน? เป็นจิตวิญญาณยุทธที่ถูกปลดปล่อยออกมา? จิตวิญญาณยุทธแปลกประหลาดเช่นนั้น,มันอาจจะเป็นจิตวิญญาณยุทธสืบทอด

 

ใบไม้สีเขียวค่อยๆลอยลงมาระหว่างทั้งสองคน จากนั้น,มันก็เรื่องแสงสว่างสีขาว บุคคลในชุดสีขาวพร้อมใบหน้านิ่งสงบปรากฏตัวออกมาตรงหน้าของพวกเขาหยุ่นเขาอซิน,ที่กำลังกุมกระบี่มังกรคำรนไว้ในมือ

 

“พวกเจ้าสองคน! เวลาเช่นนี้ยังมีอารมณ์มาตีกันเอง?” หยุ่นเข่อขึ้นกล่าวอย่างเฉยเมยไร้อารมณ์ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของนาง

 

แท้จริงแล้วคือหยุ่นเข่อชินเซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมัน,เขาก็นึกขึ้นได้ว่าหยุ่นเข่อซินแข็งแกร่งเกินกว่าระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น

 

หากนางจะมีจิตวิญญาณยุทธสืบทอด,ก็เป็นคำอธิบายได้ ยิ่งกว่านั้น,นางยังไม่แยแสกับแก่นกลางปีศาจ มีเพียงคนจากตระกูลที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอดเท่านั้นที่ไม่ไปสนใจหินวิญญาณระดับต่ำ

 

เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้น “นี่เป็นเรือของข้า ข้าไม่ต้อนรับคนที่มาหาเรื่องข้า”

 

ม่หลงชงทำเมินเขาและเก็บกระบุไว้ด้านข้าง จากนั้นเขาก็นั่งลงที่ท้ายเรือพร้อมหลับตา,ฟื้นฟูพลังงานของเขา

 

เซี่ยวเฉินเป็นกังวลอย่างมาเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่เขาไม่อยากไปวอแวกับมู่หลงชงอีกต่อไป เขาหันมาและกล่าว “ศิษย์พี่หยุ่น,ทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่?”

 

หยุ่นเข่อซินมองไปยังแสงสีแดงที่อยู่ไกลออกไป,จุดกำเนิดพลังฉีฆ่าฟันที่กำลังแผ่ขยายออกมา,และมีราชวังที่ส่งเสียงดังออกมา นางกล่าว “เหมือนกับเจ้า”

 

เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขำขัน เขากล่าวขึ้น “แล้วข้ามาทำอะไร? เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำ? เจ้ามาว่ามีจุดประสงค์เช่นเดียวกับข้าได้อย่างไร?”

 

หยุ่นเข่อซินเหลียวไปมองที่มู่หลงชง, จากนั้นก็กลับมาที่เซียวเฉิน นางกล่าว “ตามจริง,พวกเราทั้งสามคนมีจุดประสงค์เช่นเดียวกัน”

 

เชี่ยวเฉินพยักหน้าเล็กน้อยและไม่คิดไปไถ่ถามอีก เขาเร่งเรือรบสีเงินเต็มกำลังและบินไปที่ราชวังอย่างรวดเร็ว

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

ภายในราชวัง,มีมือกระบี่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เจ็ดคนที่เร่งพลังขึ้นมาด้วยทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย พวกเขาปกคลุมไปด้วยพลังฉีฆ่าฟัน กระบี่ฉีสรเลือดนับไม่ถ้วนลอยวนไปทั่วทุกที่ในราชวัง”

 

กระบี่ฉีแต่ละเล่มยาวอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร,พวกมันนาากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันบรรจุพลังงานน่าหวาดกลัว เมื่อพวกมันซัดเข้าที่แม่ทัพปีศาจโลหิต,พวกมันกดดันให้เขาต้องถอยกลับร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล

 

หลังจากที่พวกเขาทั้งเจ็ดใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย,พลังต่อสู้ของพวกเขาเหนือกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง บวกด้วยอีกสามคนที่เหลือ,พวกเขาไล่ต้อนแม่ทัพปีศาจโลหิตอับจนหนทาง

 

หลังจากนั้น, พวกเขาค่อยกดแม่ทัพปีศาจโลหิตเอาไว้ไม่ให้โอกาสได้ตอบโต้

 

“แม่น้ำฟ้าคลั่ง!” ทั้งเจ็ดคนร้องตะโกน,และแสงสีแดงปกคุลมร่างของพวกเขา กระบี่ฉีเจิดเล่มผสานกันที่กลางอากาศและเปลี่ยนกลายเป็นแม่น้ำสีเลือดไหลหลากตรงไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตเผยสีหน้าจริงจังพร้อมกับวางฝ่ามือของเขาไปที่ด้านหน้า ลูกบอลเลือดปรากฏขึ้นและห่อหุ้มเขาเอาไว้

 

มองเห็นเพียงสายลมเย็นมิใช่คมกระบี่

 

สายลมเย็นพัดผ่านในห้องโถงใหญ่ หลิวหรูเยว่เคบื่อนไหวอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายลมกระบี่แสงวูบผ่านและลูกบอลเลือดที่ก่อตัวขึ้นมาโดยแม่ทัพปีศาจโลหิตแตกร้าว

 

“บูม!”

 

แม่น้ำสีเลือดคลุ้มคลั่งไหลเข้าไปตามรอยแตก

 

เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังออกมาจากลูกบอลเลือด,และมันระเบิดออกในวินาทีต่อมา แม่ทัพปีศาจโลหิตกลายไปเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนและจางหายไป

 

“จบลงแล้ว?” สู่เฉินถามเจ้องมองไปยังจุดที่แม่ทัพปีศาจโลหิตลบหายไป, สีหน้าของเขาแสดงความไม่แน่ใจ

 

คนอื่นที่เหลือไม่ได่บดการป้องกันลง มันยากลำบากกว่าพวกเขาจะมาถึงจุดนี้หากพวกเขาชะล่าใจ,พวกเขาอาจเสียทุกอย่างในพริบตา พวกเขาไม่อาจ!

 

หลังจากรอคอยอยู่เป็นเวลานาน,ราชวังใหญ่อันงดงามก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ห้องโถงใหญ่นิ่งเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 253 ประมือบนเรือรบ

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 253 ประมือบนเรือรบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Immortal and Martial Dual Cultivation

 

ตอนที่ 253 ประมือบนเรือรบ

 

มีความกังวลใจบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน เขาเปิดใช้ค่ายกลที่ประทับอยู่บนเรือสงครามจนถึงขีดสุด,โดยไม่สนถึงพลังปราณที่ต้องจ่ายไปพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่ราชวังด้วยความเร็วสูงสุด

 

เซี่ยวเฉินปลอบใจตัวเองว่าหลิวคงไม่มีทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกาย มิฉะนั้น,หลิวเทียนยู่จะไม่มีทางปล่อยให้นางเข้ามาในมิติย่อยแหวนี้

 

ถึงอย่างไร,นางก็เป็นบุตรสาวของหลิวเทียนยู่ ไม่ว่าเขาจะเป็นไอ้เวรขนาดไหน เขาคงไม่ล้อเล่นเกี่ยวกับชีวิตของบุตรสาวของเขา

 

อย่างไรก็ตาม อีกความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในใจของเซี่ยวเฉิน, บางทีเจ้าแก่นั้นได้คิดเอาไว้แล้วว่าข้าจะต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่ ดังนั้นเขาตั้งใจจะใช้วิธีนี้ดึงให้ข้าอยู่ในมิติย่อยและไปสังหารแม่ทัพปีศาจตามแผนของเขา

 

ตามนิสัยของเจ้าจิ้งจอกเฒ่านั้น มันความเป็นไปได้ เมื่อเซี่ยวเฉินคิดได้ดังนี้เขาเพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง

 

ความเร็วของเรือสงครามสีเงินขึ้นไปแจะความเร็วเสียง สายลมคมเปาลงบนใบหน้าของเขาราวกับคมมีด เซี่ยวเฉินรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย,ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้พลังปราณบางส่วนมาบัดนี้องสายลมเอาไว้

 

“บูม บูม! บูม!”

 

ในตอนนั้นเอง,มีเสียงระเบิดตามมาเป็นสายด้านหลังของเซียวเฉิน ร่างปรากฏขึ้นและรีบลงจอดบนท้ายเรืออย่างมั่นคง

 

เซี่ยวเฉินหันกลับไปมองและเห็นชัดว่าเป็นใคร เขาอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ “มู่หลงชง!”

 

มู่หลงชงกุมกระบีไว้ที่มือขวาพร้อมกับกล่าวน้ำเสียงปนเย้ยหยัน “เจ้าจะเร่งรีบไปตาย?”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินเช่นนั้นเสีหน้าของเขาจมดิ่ง เขากล่าวด้วยเสียงเย็น “ข้าไม่มีเวลามาวอแวกกับเจ้า นี่คือเรือรบของข้า,ลงไป”

 

มู่หลงชงมองดูราวกับเขาได้ฟังเรื่องตลก,มันสะท้อนออกมาบนใบหน้าของเขา เขากล่าว “ลงไป? หากข้าไม่ล่ะ?”

 

“เช่นนั้นข้าทำได้เพียงเตะเจ้าลงไป”

 

มู่หลงชงหัวเราะเย็นชา “ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงใด ถึงกล้ามาท้าทายข้างที่นับได้ว่าเป็นศิษย์พี่ของเจ้า”

 

“เก้าร่างมังกรสัญจร! สับวายุใส!”

 

เซี่ยวเฉินไม่มัวพูดคุย เขาตะโกนออกมากับใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและสับวายุใส ทันใดนั้นเกิดสายลมเย็นเก้าเส้นขึ้นในอากาศ,เซี่ยวเฉินแบ่งออกเป็นภาพวงตาเก้าร่าง

 

“วิ้ว ฟิ้ว!”

 

ภายในสายลมเย็น,กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะในมือของเซี่ยวเฉินจางหายไป เจตนาฆ่าฟันของเขาถูกปิดซ่อน รวมเข้ากับภาพลวงตา,มันยากที่จำแยกของจริงออกมาจากของปลอม

 

ขณะที่กระบี่แสงกำลังจะซัดเข้าที่ตัวของมู่หลงชง,บางอย่างแปลกประหลาดเกิดขึ้น เกิดสายลมเย็น,และมู่หลงชงก็หายไปต่อหน้าของเซียวเฉิน

 

เซียวเฉินไม่ได้ประหลาดใจเขาเพียงขยายสัมผัสวิญญาณออกไปและสามารถมองเห็นสถานการณ์ในระยะสองร้อยเมตรได้อย่างชัดเจน

 

ท่ามกลางความมืดมัว, สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินตรวจจับเงาสีดำที่ด้านล่างของเขาไปหนึ่งร้อยเมตร

 

“เจอตัวแล้ว! ผสาน!”

 

เก้าร่างลวงตาในอากาศผสานกลับและความเร็วของเซี่ยวเฉินเพิ่มเป็นสองเท่า เกิดเสียงโซนิคบูมขณะที่เขาเคลื่อนไป

 

กระบี่เงาจันทร์เรืองแสงสายฟ้าสีม่วง,ส่องแสงบนท้องฟ้าสีแดง กระบี่ทะลวงผ่านอากาศและฟันไปที่จุดเงาสีดำด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า

 

คมกระบี่ส่งเสียงสายฟ้าคำรามเมื่อซัดเข้าที่เป้าหมาย อย่างไรก็ตาม,นอกจากสายลม,ไม่มีวี่แววของมู่หลงชง

 

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดและครุ่นคิดอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? ถึงแม้เขาจะสามารถซ่อนกายท่ามกลางสายลม,เขาไม่มีทางที่จะกลายเป็นสายลม หากตรวจพบตำแหน่งของเขาได้ มันก็น่าจะตีโดนเขา”

 

“ ฟู! ฟู!” สายลมเย็นพัดผ่านด้านหลังของเซียวเฉินและเสียงของมู่หลงชงกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน “ศิษย์น้องตัวน้อย,หาผิดที่แล้ว ข้าอยู่ตรงนี้”

 

เสียงของเขาเลื่อนไหวมาพร้อมกับสายลมเย็น มันหมุนวนสะท้อนไปรอบตัวของเซียวเฉินเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ได้ว่าเสียงมาจากทางไหน

 

เซียวเฉินระมัดระวัง เขาค่อยๆหลับตาลงและเก็บกระบี่เงาจันทร์กลับเข้าฝัก

 

มู่หลงชงได้ฝึกฝนสับวายุใสจนถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม เขายังเข้าใจถึงสภาวะสายลมถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม เมื่อทั้งสองประมือกันด้วยสับวายุใส,เซี่ยวเฉินไม่อาจไปเทียบด้วยได้

 

มันจะเป็นการยากที่จะตามหาตัวของเขา พยายามมองหาจุดอ่อนทั้งที่เขายังไม่ได้เคลื่อนไหวไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง

 

มีเพียงในตอนที่เขาเริ่มเคลื่อนไหวข้าจึงจะมีโอกาสเจอตัวเขาในตอนนั้น,ข้าจะใช้ความแข็งแกร่งทางกายของข้าเค้นเอาจุดอ่อนของเขาออกมา

 

หลังจากนั้น,ข้าจะใช้ออกทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันอย่างไม่หยุดยั้งจบฉากล้มเขาลง ตราบใดที่เขาถอยหนีเขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงแต่ละกระบวณท่าที่รวดเร็วขึ้นของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน

 

สายลมอ่อนเปาผ่านใบหน้าของเซี่ยวเฉิน พลังที่อ่อนโยนทำให้สีหน้าของเขาอ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้

 

เขากำลังเข้ามา! ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ลืมตาขึ้น แสงเฉียบคมปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและเกิดเสียงแตกกราวดังออกมาจากกระดูกของเขา

 

“พยัคฆ์ร้ายสะเทือนไพร,อำนาจเหนือร้อยสัตว์อสูร!”

 

พลังกว่าหกพันกิโลกรัมซีดไปที่ความว่างเปล่า,เปาเข้าสายลมเย็น เกิดเสียงระเบิดดังออกมาจากสายลมที่ไร้รูป,กำปั้นของเขาระเบิดใส่

 

มู่หลงชง,ผู้ที่ซ่อนกายอยู่ในสายลมเย็น,นิ่งอึ้งประหลาดใจเล็กน้อย

 

มู่หลงชงตัดสินใจเผยตัวออกมา,ยอมทิ้งการโจมตีเมื่อครู่ เขาปล่อยมือออกจากด้ามกระบี่และซัดไมือออกไป สายลมจากฝ่ามือของเขาดังราวกับสายฟ้าคำราม,ทำให้อากาศสั่นสะเทือน

 

“ปัง!”

 

กำหมัดและฝามือส่งเสียงระเบิดออกมาเมื่อเข้าปะทะกัน,มันราวกับสายฟ้าระเบิดเสียงคำรามสั่นสะเทือนแก้วหู,สั่นสะท้อนไปมา

 

คลื่นระเบิดขยายออกไปโดยรอบราวกับน้ำกระเพื่อม

 

พวกเขาทั้งสองคนถอยกลับไปคนละห้าก้าวพร้อมกัน หนึ่งยืนอยู่บนหัวเรือและอีกหนึ่งยืนอยู่ตรงท้ายเรือ ในการแลกกำปั้นและฝ่ามือครั้งนี้ นับได้ว่าเสมอ

 

ฉีและโลหิตในร่างของเซี่ยวเฉินเดือดพล่าน,อวัยวะภายในของเขาสะเทือน เขารู้สึกถึงเลือดที่ขึ้นมากระจุกในคอของเขา เขาไม่ได้ฝันระงับและกระอักเลือดออกมา

 

เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ พลังกายของเขานับได้ว่าก้าวขึ้นสู่ระดับน่ากลัว กำปั้นเต็มพลังของเขาแบกพลังมากกว่าหกพันกิโลกรัม

 

กำปั้นจู่โจมแบบฉับพลันของเขาสามารถสังหารระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางได้ อย่างไรก็ตาม,ไม่เพียงมู่หลงชงจะไม่เป็นอะไร,พลังกายถึงกับเสมอกันเขา

 

เรือสงครามสีเงินยังคงบินต่อไปบนท้องฟ้า,ใต้แสงจันทร์สรแดง

 

สายลมแรงเปาผ่านคนทั้งสอง,ผมยาวสรดำของพวกเขาร่ายรำและเสื้อผ้าปลิวไหวในอากาศ

 

เลือดไหลออกมาจากมุมปากของมาหลงชง,ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย ฝ่ามือของเขาได้เสริมแรงด้วยพลังปราณ

 

ตามจริง,พลังกายของมู่หลงชงนั้นด้อยกว่าเซี่ยวเฉินไปมาก ดังนั้น อาการบาดเจ็บภายในของเขารุนแรงเสียยิ่งกว่าของเซียวเฉิน

 

มู่หลงชงค่อยๆเช็ดเลือดที่มุมปากออกและเผยรอยยิ้มบางเบา “ที่บังคับให้ข้าต้องถอนกระบี่นับว่าเจ้ามีดีพอที่จะท้าทายข้า อย่างไรก็ตาม หากนั่นเป็นทั้งหมดที่เจ้ามี,มันก็ยังไกลกว่าที่จะเตะข้าลงไป”

 

“ฮ่ะ!”

 

ขณะที่มู่หลงชงกำลังจะลงมือต่อ,ใบไม้สีเขียวปรากฏขึ้นเหนือเรือสงครามสีเงิน

 

ใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นดูไม่มีอะไร แต่มันรักษาความรวดเร็วในอากาศได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่ได้ช้าหรือเร็วจนเกินไผ,ทำให้รู้สึกสบาย อย่างไรก็ตาม,มันก็ลอยได้ไกลกว่าหนึ่งร้อยเมตรในพริบตาเดียว

 

ความเร็วของมันรวดเร็วยิ่งกว่าเรือรบสีเงินของเซียวเฉิน

 

เซี่ยวเฉินจับจ้องไปที่ใบไม้ใบนั้น,เต็มไปด้วยความสงสัย

 

เป็นใครกัน? เป็นจิตวิญญาณยุทธที่ถูกปลดปล่อยออกมา? จิตวิญญาณยุทธแปลกประหลาดเช่นนั้น,มันอาจจะเป็นจิตวิญญาณยุทธสืบทอด

 

ใบไม้สีเขียวค่อยๆลอยลงมาระหว่างทั้งสองคน จากนั้น,มันก็เรื่องแสงสว่างสีขาว บุคคลในชุดสีขาวพร้อมใบหน้านิ่งสงบปรากฏตัวออกมาตรงหน้าของพวกเขาหยุ่นเขาอซิน,ที่กำลังกุมกระบี่มังกรคำรนไว้ในมือ

 

“พวกเจ้าสองคน! เวลาเช่นนี้ยังมีอารมณ์มาตีกันเอง?” หยุ่นเข่อขึ้นกล่าวอย่างเฉยเมยไร้อารมณ์ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของนาง

 

แท้จริงแล้วคือหยุ่นเข่อชินเซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมัน,เขาก็นึกขึ้นได้ว่าหยุ่นเข่อซินแข็งแกร่งเกินกว่าระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น

 

หากนางจะมีจิตวิญญาณยุทธสืบทอด,ก็เป็นคำอธิบายได้ ยิ่งกว่านั้น,นางยังไม่แยแสกับแก่นกลางปีศาจ มีเพียงคนจากตระกูลที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอดเท่านั้นที่ไม่ไปสนใจหินวิญญาณระดับต่ำ

 

เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้น “นี่เป็นเรือของข้า ข้าไม่ต้อนรับคนที่มาหาเรื่องข้า”

 

ม่หลงชงทำเมินเขาและเก็บกระบุไว้ด้านข้าง จากนั้นเขาก็นั่งลงที่ท้ายเรือพร้อมหลับตา,ฟื้นฟูพลังงานของเขา

 

เซี่ยวเฉินเป็นกังวลอย่างมาเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่เขาไม่อยากไปวอแวกับมู่หลงชงอีกต่อไป เขาหันมาและกล่าว “ศิษย์พี่หยุ่น,ทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่?”

 

หยุ่นเข่อซินมองไปยังแสงสีแดงที่อยู่ไกลออกไป,จุดกำเนิดพลังฉีฆ่าฟันที่กำลังแผ่ขยายออกมา,และมีราชวังที่ส่งเสียงดังออกมา นางกล่าว “เหมือนกับเจ้า”

 

เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขำขัน เขากล่าวขึ้น “แล้วข้ามาทำอะไร? เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำ? เจ้ามาว่ามีจุดประสงค์เช่นเดียวกับข้าได้อย่างไร?”

 

หยุ่นเข่อซินเหลียวไปมองที่มู่หลงชง, จากนั้นก็กลับมาที่เซียวเฉิน นางกล่าว “ตามจริง,พวกเราทั้งสามคนมีจุดประสงค์เช่นเดียวกัน”

 

เชี่ยวเฉินพยักหน้าเล็กน้อยและไม่คิดไปไถ่ถามอีก เขาเร่งเรือรบสีเงินเต็มกำลังและบินไปที่ราชวังอย่างรวดเร็ว

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

ภายในราชวัง,มีมือกระบี่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เจ็ดคนที่เร่งพลังขึ้นมาด้วยทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย พวกเขาปกคลุมไปด้วยพลังฉีฆ่าฟัน กระบี่ฉีสรเลือดนับไม่ถ้วนลอยวนไปทั่วทุกที่ในราชวัง”

 

กระบี่ฉีแต่ละเล่มยาวอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร,พวกมันนาากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันบรรจุพลังงานน่าหวาดกลัว เมื่อพวกมันซัดเข้าที่แม่ทัพปีศาจโลหิต,พวกมันกดดันให้เขาต้องถอยกลับร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล

 

หลังจากที่พวกเขาทั้งเจ็ดใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย,พลังต่อสู้ของพวกเขาเหนือกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง บวกด้วยอีกสามคนที่เหลือ,พวกเขาไล่ต้อนแม่ทัพปีศาจโลหิตอับจนหนทาง

 

หลังจากนั้น, พวกเขาค่อยกดแม่ทัพปีศาจโลหิตเอาไว้ไม่ให้โอกาสได้ตอบโต้

 

“แม่น้ำฟ้าคลั่ง!” ทั้งเจ็ดคนร้องตะโกน,และแสงสีแดงปกคุลมร่างของพวกเขา กระบี่ฉีเจิดเล่มผสานกันที่กลางอากาศและเปลี่ยนกลายเป็นแม่น้ำสีเลือดไหลหลากตรงไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต

 

แม่ทัพปีศาจโลหิตเผยสีหน้าจริงจังพร้อมกับวางฝ่ามือของเขาไปที่ด้านหน้า ลูกบอลเลือดปรากฏขึ้นและห่อหุ้มเขาเอาไว้

 

มองเห็นเพียงสายลมเย็นมิใช่คมกระบี่

 

สายลมเย็นพัดผ่านในห้องโถงใหญ่ หลิวหรูเยว่เคบื่อนไหวอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายลมกระบี่แสงวูบผ่านและลูกบอลเลือดที่ก่อตัวขึ้นมาโดยแม่ทัพปีศาจโลหิตแตกร้าว

 

“บูม!”

 

แม่น้ำสีเลือดคลุ้มคลั่งไหลเข้าไปตามรอยแตก

 

เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังออกมาจากลูกบอลเลือด,และมันระเบิดออกในวินาทีต่อมา แม่ทัพปีศาจโลหิตกลายไปเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนและจางหายไป

 

“จบลงแล้ว?” สู่เฉินถามเจ้องมองไปยังจุดที่แม่ทัพปีศาจโลหิตลบหายไป, สีหน้าของเขาแสดงความไม่แน่ใจ

 

คนอื่นที่เหลือไม่ได่บดการป้องกันลง มันยากลำบากกว่าพวกเขาจะมาถึงจุดนี้หากพวกเขาชะล่าใจ,พวกเขาอาจเสียทุกอย่างในพริบตา พวกเขาไม่อาจ!

 

หลังจากรอคอยอยู่เป็นเวลานาน,ราชวังใหญ่อันงดงามก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ห้องโถงใหญ่นิ่งเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+