Immortal and Martial Dual Cultivation 169 บังคับจูบ?

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 169 บังคับจูบ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 169 บังคับจูบ?

 

ตระหนักถึงซ่งเฉวที่อยู่ในอารมณ์เสีย,นางรีบตรงเข้ามาหยุดซ่งเฉวไม่ให้สร้างความลําบากกับยอดเขาฉิงหยุน อย่างไรก็ตาม,นางไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะต่างไปจากที่นางจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง

 

อ๋าวเจียวเงยหน้าขึ้นไปเหลือบมองคนผู้นั้นครั้งหนึ่งและไม่กลับไปมองอีก นางรู้ว่านางหมดโอกาสในการสังหารซ่งเฉวแล้ว นางหันกลับและมุ่งหน้าตรงไปที่หลิวหรูเยว่ที่นั่งทรุดอยู่

 

แม้หลิวหรูเยว่จะได้รับบาดเจ็บสาหัส, นางยังผลาญพลังชีวิตของนางด้วยการใช้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน ตอนนี้นางอ่อนแอเป็นอย่างมาก หากนางไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม,การบ่มเพาะพลังของนางจะได้รับความเสียหาย

 

อ๋าวเจียวควบคุมร่างของเซี่ยวเฉินก้าวเท้ายาวไปทางหลิวหรูเยว่ ท่ามกลางสายตางุนงงของหลิวสุยเฟิงเขาอุ้มหลิวหรูเยว่ขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา

 

ตอนนี้,หลิวหรูเยว่อ่อนแอเป็นอย่างมากและไม่สามารถหลุดพ้นไปจากอ๋าวเจียวได้แม้ว่านางจะต้องการ ดวงตาของนางมองมาที่เซี่ยวเฉินอย่างงุนงง

 

“เย่เฉิน,เจ้าจะทําอะไร!” หลิวสุยเฟิงถามขึ้นเต็มไปด้วยความงุนงง เขาสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเซี่ยวเฉิน

 

ในขณะเดียวกัน เซี่ยวเฉินมีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในใจของเขา เขาถามขึ้นในทันที “อ๋าวเจียวเจ้าจะทําอะไร!”

 

“ชิ!”

 

อ๋าวเจียวเมินเฉยกับพวกเขาทั้งสอง นางโน้มตรงไปที่ริมฝีปากของหลิวหรูเยว่ อ๋าวเจียวปลดปล่อยแสงสีทองออกมาจากริมฝีปากของเซี่ยวเฉิน มันค่อยๆลอยเข้าไปในปากของหลิวหรูเยว่

 

นี่เป็นพลังปราณแท้บริสุทธิ์แห่งสวรรค์และปฐพี มันแบกเอาพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตเอาไว้

 

“ให้ตาย! อ๋าวเจียว! เจ้าพยายามจะฆ่าข้าหรือไร!”

 

“ไม่ใช่,ข้ากําลังช่วยนาง พอคิดว่าเจ้ากลับกล่าวหาข้าเช่นนี้!”

 

“เช่นนั้นเจ้าจะสอดลิ้นเข้าไปทําไม?! เจ้าตัวร้าย!”

 

“นี้มัน…ข้าไม่เคยจูบมาก่อนและอดไม่ได้ที่จะลองดู หุบปากซะ! เจ้ามีแต่ได้ประโยชน์ แค่หุบปากและนั่งนิ่งๆ!”

 

หลิวหรูเยวมองไปที่เซี่ยวเฉินด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง:ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจ ขณะที่เซี่ยวเฉินมองเข้าไปในดวงตาของนาง,เขาสามารถมองเห็นได้ถึงอารมณ์ของนางอย่างชัดเจนแต่เขาไม่อาจขยับร่างกายของเขาได้เขาไม่สามารถรู้สึกถึงสัมผัสใดๆ

 

“โปะ!”

 

อ๋าวเจียวควบคุมร่างกายของเซี่ยวเฉินและปล่อยจากริมฝีปากของหลิวหรูเยวพร้อมกับเสียง “โปะ” เสียงมันไม่ได้ดังแต่ภายในหุบเขาที่เงียบสงัด,มันราวกับเสียงระเบิด 

 

หัวใจของสานุศิษย์ศาลากระปสวรรค์ระเบิดออกอย่างรุนแรง เสียง “โปะ” นั้นทําหัวใจของพวกเขาแตกสลาย

 

ทุกคนล้วนรู้จักสามเทพธิดาแห่งศาลากระปสวรรคะเจ้าศาลาน้อย เหลิ่งหลิวซู,ฉู่ชินอวิ๋นแห่งยอดเขาสตรีหยก,และหลิวหรูเยวแห่งยอดเขาฉิงหยุน แม้ว่าหลิวหรูเยว่จะไม่มีคนไล่ตามมากมายเช่นสองคนก่อนหน้า,มันเป็นเพราะนิสัยมุทะลุของนาง

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครปฏิเสธถึงความงามของนาง นางเต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้ใหญ่ เสนห์เช่นนี้เป็นบางสิ่งที่เหลิ่งหลิวซูและฉู่ชินอวิ๋นไม่อาจเทียบได้

 

ในหัวใจของชายทุกผู้มีความรักเพ้อฝันถึงพี่สาวคนสวย บางทีนี่อาจจะเป็นจูบแรกของหลิวหรูเยว่ หลังจากความตกตะลึงของพวกเขา,ทุกคนล้วนมองไปยังเซี่ยวเฉินด้วยสายตาอิจฉาและเกลียดชัง หัวใจของพวกเขาแตกสลายไปพร้อมกับฉากตรงหน้า

 

อ๋าวเจียวเผยสีหน้าสนุกสนานบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน ฉากนี้สะท้อนบนดวงตาของฝูงชน มันช่างดูต่ำช้าสามานย์

 

“มันจบแล้ว จากนี้ไป,ศาลากระปสวรรค์ของพวกเขาจะเหลือเทพธิดาเพียงสอง”

 

“แน่นอน! เจ้าหมอนั้นช่างไร้ยางอาย มันไม่เป็นไรหากเพียงแค่จูบนาง ตอนนี้เจ้ายังเผยสีหน้าต่ำช้า ช่างน่ารังเกียจ!”

 

“หากนั้นเป็นข้า…นี่เป็นจูบแรกของศิษย์พี่หลิวหรูเยว่!”

 

หลังจากฝูงชนตกไปสู่ความเงียบ,พวกเขาก็เกรี้ยวกราดอย่างสมบูรณ์ สายตาที่พวกเขามองไปยังเซี่ยวเฉินกลายเป็นความอิจฉาริษยา,และเกลียดชังปั่นรวมกันเป็นความอาฆาตหนาแน่น

 

อย่างไรก็ตาม,ฝูงชนไม่อาจรู้ได้ว่าเซี่ยวเฉินประสบปัญหาที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาเริ่มที่จะสาปด่า หากเขาได้รู้สึกถึงสัมผัสอะไรบ้าง มันก็เป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกถึงรสสัมผัสอะไรแม้แต่น้อย จูบแรกของเขาผ่านไป,ผ่านไปเช่นนั้น เขาโยนความผิดทุกอย่างใส่อ๋าวเจียว

 

“เจ้านายขยะ, อย่าลืมที่จะเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นนั้น, ข้าจะออกมาเล่นสนุกได้เป็นครั้งคราว โอ้ และดาบหักที่อยู่ในแหวนห้วงจักรวาล อย่าลืมหลอมมันกลับมาใหม่เมื่อเจ้าทําได้”

 

ในน้ำเสียงสนุกสนานของอวเจียวสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้า หลังจากที่นางพูดจบ,เซี่ยวเฉินก็รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย การควบคุมร่างกายของเขาได้กลับมา

 

หลังจากที่เขาคืนสติ,เขารีบปล่อยหลิวหรูเยว่ออกจากอ้อมอกของเขา ขณะที่เขามองไปยังใบหน้าอันงดงามที่เต็มไปด้วยเลือดของนางเขาพูดขึ้นอย่างกังวลใจ “พี่สาวหรูเยว่.. ข้า..”

 

หลิวหรูเยวยิ้มบางเบา ใบหน้าอันงดงามของนางราวกับบุปผา แม้ว่าจะปกคลุมไปด้วยเลือด,มันบดบังเสน่ห์ของนางไม่ได้แม้แต่น้อย “อย่ามาโง่เง่า,ข้ารู้ว่านั้นไม่ใช่เจ้า”

 

หลังจากที่หลิวหรูเยว่พูดจบ,นางก็ปิดตาลงและนั่งขัดสมาธินางเริ่มซึบซับปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพีอย่างช้าๆ เข้าไปในร่างของนาง ปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพีที่อ๋าวเจียวมอบให้นางในครั้งนี้มันมากกว่าที่นางให้กับเสี่ยวไป๋ นางจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการซึบซับปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพี่เข้าไปได้อย่าหมดจด

 

มันสามารถกล่าวได้ว่าหลิวหรูเยว่นั้นได้รับโชคผ่านภัยพิบัติ ไม่เพียงแต่ระดับการบ่มเพาะพลังของนางจะไม่ลดลง,นางจะสามารถยกระดับมันขึ้นไปอีกหลังจากครึ่งเดือน 

 

เซี่ยวเฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก สายตาของเขาตกไปที่ขนตายาวงอนของหลิวหรูเยว่ อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินพบว่าแม้ว่านางจะหลับตาปี,ขนตาของนางก็สั่นไหวอย่างอดไม่ได้

 

ดูเหมือนพี่สาวหรูเยวจะไม่ได้นิ่งสงบอย่างที่นางว่า เซี่ยวเฉินถอนหายใจกับตัวเอง เขาไม่รู้แล้วว่านี้เป็นพรประทานหรือภัยพิบัติ,ไม่รู้แม้แต่จะรับมือกับมันเช่นไร

 

“ฟุ่ว! ฟิ่ว!”

 

ไม่ไกลนัก,ซ่งเฉวได้รับเม็ดยาจากสตรีลึกลับ สีหน้าเจ็บปวดของเขาในที่สุดก็ทุเลาลง

 

ทันใดนั้น,ซ่งเฉวสัมผัสได้ว่ากระแสพลังน่ากลัวในร่างของเซี่ยวเฉินได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มันเห็นชัดว่าไม่ได้อยู่ในสถานะเมื่อก่อนหน้านี้อีกแล้ว

 

คิดถึงความอัปยศที่เขาประสบในวันนี้ ซ่งเฉวรู้สึกมืดมนอย่างไม่น่าเชื่อ มองดูเซี่ยวเฉินที่ไม่ได้สนใจเขาเจตนาฆ่าหนาแน่นไหลล้นออกมาจากดวงตาของเขา

 

ร่างของเขากระโดดขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียง “โซว” เขาเก็บกระบี่หนาขึ้นมาและปรากฏตัวขึ้นที่เซี่ยวเฉิน มือของเขายกกระบี่ขึ้นและลงเขาสับลงไปที่หลังของเซี่ยวเฉินอย่างเรียบง่าย

 

เมื่อผู้คนที่อยู่โดยรอบมองเห็นฉากนี้พวกเขาล้วนตกตะลึง ซ่งเฉวผู้นี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว เขากล้าลอบโจมตีผู้เยาว์

 

หน้าอกของเซี่ยวเฉินบีบรัด,ชีวิตของข้ากําลังจะจบลง!

 

ทันทีที่ซ่งเฉินจับกระบี่ขึ้นมา เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันเย็นเฉียบ อย่างไรก็ตาม,ปราศจากอ๋าวเจียวค่อยควบคุมเขา,แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน,เขาไม่อาจตอบสนองได้ทันความเร็วของขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด

 

ยิ่งกว่านั้นเขาถูกโจมตีจากข้างหลัง แม้ว่าเขาอยากจะตอบโต้,เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้หันหลังกลับ

 

“ไสหัวไป!”

 

ในจังหวะนั้นเอง,มีเสียงตะโกนนิ่มนวลดังมาจากจุดยอดสุดของยอดเขาฉิงหยุน มันเป็นเพียงตัวอักษร “ไสหัว” แต่มันราวกับได้เดินทางผ่านมิติและกาลเวลา มันเจาะทะลุช่องว่างแบกพลังอันไร้ขอบเขต,และชัดเข้าที่ร่างของซ่งเฉวอย่างรุนแรง

 

ฝูงชนเห็นอย่างชัดเจน “ไสหัว” ถูกประทับลงบนร่างของซ่งเฉว ดินแดนเล็กดูเหมือนประกาศ และร่างของซ่งเฉวทันใดนั้นก็ขดลงและกลิ้งกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกบอลยาง

 

“บูม! บูม! บูม!” เขาม้วนกลิ้งไปไม่ทราบระยะทาง ซ่งเฉวหายไปจากตีนเขาของยอดเขาฉิงหยุน

 

เขาเพิ่งได้ไปสัมผัสกับประตูนรกมาเซี่ยวเฉินรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง,เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบหยดลงที่หลังของเขาอย่างต่อเนื่อง่ ่

 

“ใครคือเย่เฉิน!”

 

ทันใดนั้น,สี่ขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่แต่งการชุดเครื่องแบบของโถงคุมกฏลอยลงมาจากท้องฟ้า หลังจากลงถึงพื้น,พวกเขาถามขึ้นในทันที ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เมื่อซ่งเชียนเหอเห็นพ่อของเขากําลังอยู่ในอันตราย เขาได้ส่งคนไปแจ้งโถงมกฏ

 

มองเห็นโถงคุมกฏได้มาถึงแล้ว ซ่งเชียนเหอผู้ที่กําลังห่อตัวเป็นเกี๊ยว,กระโดดออกมาอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่เซี่ยวเฉินและตะโกนขึ้น “นั้นเขา เขาได้ดูหมิ่นผู้อาวุโส,เขานําความอัปยศมาแก่พ่อของข้า จากนั้นเขาก็ใช้สมบัติลับและพยายามจะสังหารท่านเจ้ายอดเขาซื้อวุ่น ความผิดของเขาช่างใหญ่หลวง ข้าร้องขอให้ผู้อาวุโสโถงคุมกฏสังหารมันเสียตรงนี้”

 

“โถงคุมกฏรู้ว่ากําลังทําอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องมาสั่ง” หนึ่งในกลุ่มพวกเขากล่าวพร้อมกับมองไปที่ซ่งเชียนเหออย่างรังเกียจ

 

พวกเขาที่เหลือก้าวตรงไปที่เซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “มากับพวกเราก่อน เจ้าสามารถออกไปได้หลังจากที่พวกเราสอบสวนเสร็จ”

 

เมื่อหลิวหรูเยว่ ผู้ที่กําลังนั่งขัดสมาธิและควบคุมพลังงานของนางได้ยินเสียงของคนจากโถงคุมกฎ,นางรีบหยุดการควบคุมพลังงานของนางและยืนขึ้น นางกล่าว “รอก่อน ข้าจะพาตัวไปที่โถงคุมกฏในสามวันให้หลัง พวกท่านถอนตัวกลับไปก่อนเป็นการชั่วคราวได้หรือไม่?”

 

หลิวหรูเยว่คุ้นเคยกับสถานที่เช่นโถงคุมกฏอย่างมาก โดยทั่วไป, หากมันเป็นปัญหาธรรมดาจะถูกจัดการอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม,หากมันถูกแทรกแซงโดยผู้มีอํานาจระดับสูงของศาลากระบี่สวรรค์ เมื่อเซี่ยวเฉินเข้าไปเขาอาจจะไม่ได้กลับออกมาอีก

 

“ใครจะรู้ว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นไรในสามวันให้หลัง หากเจ้าต้องการจะอธิบายเช่นนั้นก็มากับพวกเราเดียวนี้” คนผู้นั้นพูดอย่างไม่อ่อนข้อเขาไม่ยอมรับคําขอของหลิวหรูเยว่

 

ในตอนนี้หลิวหรูเยว่บาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถไปกับพวกเขาได้ เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้นมา “โปรดอย่าทําให้อาจารย์ของข้าต้องลําบาก ข้าจะไปกับพวกท่าน”

 

“บูม!”

 

ในจังหวะนั้นเอง,กล่องไม้สี่เหลี่ยวทันใดนั้นก็ตกลงมาต่อหน้าโถงคุมกฏทั้งสี่ ด้านหน้าของกล่องไม้หันไปทางโถงคุมกฎ

 

กล่องไม้มันช่างธรรมดาสามัญ:มันไม่มีอะไรโดดเด่น อย่างไรก็ตาม,มีสี่ตัวอักษรสีทองเขียนอยู่ที่ด้านหน้าของมัน – เสมือนจักรพรรดิเสด็จมาเอง

 

เมื่อคนทั้งสี่เห็นอักษรที่ด้านหน้าของกล่องไม้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนในทันที พวกเขาเงยหน้าขึ้นไปที่ยอดเขาฉิงหยุนและคํานับด้วยความเคารพ จากนั้นพวกเขาก็จากไปราวกับกําลังวิ่งหนี

 

มีมือไร้รูปที่ดูเหมือนจะลงมาจากท้องฟ้าและเก็บเอากล่องไม้ พร้อมเสียง “โซว” มันก็กลับไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

กล่องไม้นั้นช่างดูคุ้นเคยอย่างมากแต่เซี่ยวเฉินไม่ไปคิดถึงมันในตอนนี้ เขาหันกลับมาและจับหลิวหรูเยวนั่งลง เขากล่าว “เจ้าควรควบคุมพลังงานต่อไป ทุกอย่างที่เจ้าทําเมื่อครู่สูญเปล่าไปเพราะเจ้ายืนขึ้น”

 

หลิวหรูเยว่พยักหน้าเบาๆและมองไปที่ยอดเขาฉิงหยุดที่สูงตระหง่านด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นนางก็ถอยหายใจอย่างนุ่มนวลและนั่งขัดสมาธิอีกครั้ง

 

สตรีลึกลับผู้นั้นมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าและเดินเข้ามาหาเซี่ยวเฉินอย่างช้าๆ นางพูดขึ้น “วีรบุรุษโผล่มาจากรุ่นเยาว์ ดูเหมือนข้าจะมาเสียเที่ยวแล้ว น้องชายเย่,หากเจ้ามีเวลาในอนาคต,ต้องมาเยี่ยมเยือนยอดเขาสตรีหยก”

 

หลังจากที่นางพูดจบ,สตรีนางนั้นหยิบเอาขวดยาออกมาและยื่นให้กับหลิวสุยเฟิง,ฝากเขาให้กับหลิวหรูเยว่

 

มองดูสตรีนางนั้นส่งขวดยามาให้กับเขา,ใบหน้าหัวหมูของหลิวสุยเฟิงเผยสีหน้าตื่นเต้นถึงขีดสุด ความตื่นเต้นเล็กน้อยในใจของเขา,จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ถูกลบหายไปในทันที

 

สตรีนางนั้นยืนนามบัตรให้กับเซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “หากเจ้ามีเวลาเจ้าจะต้องมาเยือนยอดเขาสตรีหยกให้ได้”

 

สายตาทุกครู่ในบริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยความอิจฉาเซี่ยวเฉินรับเอานามบัตรมา สตรีนางนี้มีภาวะอารมณ์พิเศษ ผู้ใดที่เหลือบมองไปเห็นนางจะทําให้ผู้นั้นตกลงไปในหุบเหวที่ไม่อาจปืนกลับขึ้นมาได้

 

เขารู้สึกประหลาดอย่างช่วยไม่ได้ มีสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้ในยอดเขาสตรีหยก? นางไม่อาจต้านทานได้ยิ่งกว่าฉู่ชินอวิ๋นเสียอีก เขาคํานับมือและพูดขึ้น “ขอบคุณสําหรับคําเชิญชวนของพี่สาว ข้าจะไปเยือนยอดเขาสตรีหยกอย่างแน่นอน หากข้ามีเวลา”

 

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,คนรอบข้างต่างเผยสีหน้าประหลาดอย่างสุดขีด พวกเขาอดที่จะพูดขึ้นในใจไม่ได้ เจ้าหมอนี้มันจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว! เขาไร้ยางอายยิ่งกว่าตาแก่นั้น,ซ่งเฉว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 169 บังคับจูบ?

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 169 บังคับจูบ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 169 บังคับจูบ?

 

ตระหนักถึงซ่งเฉวที่อยู่ในอารมณ์เสีย,นางรีบตรงเข้ามาหยุดซ่งเฉวไม่ให้สร้างความลําบากกับยอดเขาฉิงหยุน อย่างไรก็ตาม,นางไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะต่างไปจากที่นางจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง

 

อ๋าวเจียวเงยหน้าขึ้นไปเหลือบมองคนผู้นั้นครั้งหนึ่งและไม่กลับไปมองอีก นางรู้ว่านางหมดโอกาสในการสังหารซ่งเฉวแล้ว นางหันกลับและมุ่งหน้าตรงไปที่หลิวหรูเยว่ที่นั่งทรุดอยู่

 

แม้หลิวหรูเยว่จะได้รับบาดเจ็บสาหัส, นางยังผลาญพลังชีวิตของนางด้วยการใช้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน ตอนนี้นางอ่อนแอเป็นอย่างมาก หากนางไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม,การบ่มเพาะพลังของนางจะได้รับความเสียหาย

 

อ๋าวเจียวควบคุมร่างของเซี่ยวเฉินก้าวเท้ายาวไปทางหลิวหรูเยว่ ท่ามกลางสายตางุนงงของหลิวสุยเฟิงเขาอุ้มหลิวหรูเยว่ขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา

 

ตอนนี้,หลิวหรูเยว่อ่อนแอเป็นอย่างมากและไม่สามารถหลุดพ้นไปจากอ๋าวเจียวได้แม้ว่านางจะต้องการ ดวงตาของนางมองมาที่เซี่ยวเฉินอย่างงุนงง

 

“เย่เฉิน,เจ้าจะทําอะไร!” หลิวสุยเฟิงถามขึ้นเต็มไปด้วยความงุนงง เขาสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเซี่ยวเฉิน

 

ในขณะเดียวกัน เซี่ยวเฉินมีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในใจของเขา เขาถามขึ้นในทันที “อ๋าวเจียวเจ้าจะทําอะไร!”

 

“ชิ!”

 

อ๋าวเจียวเมินเฉยกับพวกเขาทั้งสอง นางโน้มตรงไปที่ริมฝีปากของหลิวหรูเยว่ อ๋าวเจียวปลดปล่อยแสงสีทองออกมาจากริมฝีปากของเซี่ยวเฉิน มันค่อยๆลอยเข้าไปในปากของหลิวหรูเยว่

 

นี่เป็นพลังปราณแท้บริสุทธิ์แห่งสวรรค์และปฐพี มันแบกเอาพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตเอาไว้

 

“ให้ตาย! อ๋าวเจียว! เจ้าพยายามจะฆ่าข้าหรือไร!”

 

“ไม่ใช่,ข้ากําลังช่วยนาง พอคิดว่าเจ้ากลับกล่าวหาข้าเช่นนี้!”

 

“เช่นนั้นเจ้าจะสอดลิ้นเข้าไปทําไม?! เจ้าตัวร้าย!”

 

“นี้มัน…ข้าไม่เคยจูบมาก่อนและอดไม่ได้ที่จะลองดู หุบปากซะ! เจ้ามีแต่ได้ประโยชน์ แค่หุบปากและนั่งนิ่งๆ!”

 

หลิวหรูเยวมองไปที่เซี่ยวเฉินด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง:ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจ ขณะที่เซี่ยวเฉินมองเข้าไปในดวงตาของนาง,เขาสามารถมองเห็นได้ถึงอารมณ์ของนางอย่างชัดเจนแต่เขาไม่อาจขยับร่างกายของเขาได้เขาไม่สามารถรู้สึกถึงสัมผัสใดๆ

 

“โปะ!”

 

อ๋าวเจียวควบคุมร่างกายของเซี่ยวเฉินและปล่อยจากริมฝีปากของหลิวหรูเยวพร้อมกับเสียง “โปะ” เสียงมันไม่ได้ดังแต่ภายในหุบเขาที่เงียบสงัด,มันราวกับเสียงระเบิด 

 

หัวใจของสานุศิษย์ศาลากระปสวรรค์ระเบิดออกอย่างรุนแรง เสียง “โปะ” นั้นทําหัวใจของพวกเขาแตกสลาย

 

ทุกคนล้วนรู้จักสามเทพธิดาแห่งศาลากระปสวรรคะเจ้าศาลาน้อย เหลิ่งหลิวซู,ฉู่ชินอวิ๋นแห่งยอดเขาสตรีหยก,และหลิวหรูเยวแห่งยอดเขาฉิงหยุน แม้ว่าหลิวหรูเยว่จะไม่มีคนไล่ตามมากมายเช่นสองคนก่อนหน้า,มันเป็นเพราะนิสัยมุทะลุของนาง

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครปฏิเสธถึงความงามของนาง นางเต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้ใหญ่ เสนห์เช่นนี้เป็นบางสิ่งที่เหลิ่งหลิวซูและฉู่ชินอวิ๋นไม่อาจเทียบได้

 

ในหัวใจของชายทุกผู้มีความรักเพ้อฝันถึงพี่สาวคนสวย บางทีนี่อาจจะเป็นจูบแรกของหลิวหรูเยว่ หลังจากความตกตะลึงของพวกเขา,ทุกคนล้วนมองไปยังเซี่ยวเฉินด้วยสายตาอิจฉาและเกลียดชัง หัวใจของพวกเขาแตกสลายไปพร้อมกับฉากตรงหน้า

 

อ๋าวเจียวเผยสีหน้าสนุกสนานบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน ฉากนี้สะท้อนบนดวงตาของฝูงชน มันช่างดูต่ำช้าสามานย์

 

“มันจบแล้ว จากนี้ไป,ศาลากระปสวรรค์ของพวกเขาจะเหลือเทพธิดาเพียงสอง”

 

“แน่นอน! เจ้าหมอนั้นช่างไร้ยางอาย มันไม่เป็นไรหากเพียงแค่จูบนาง ตอนนี้เจ้ายังเผยสีหน้าต่ำช้า ช่างน่ารังเกียจ!”

 

“หากนั้นเป็นข้า…นี่เป็นจูบแรกของศิษย์พี่หลิวหรูเยว่!”

 

หลังจากฝูงชนตกไปสู่ความเงียบ,พวกเขาก็เกรี้ยวกราดอย่างสมบูรณ์ สายตาที่พวกเขามองไปยังเซี่ยวเฉินกลายเป็นความอิจฉาริษยา,และเกลียดชังปั่นรวมกันเป็นความอาฆาตหนาแน่น

 

อย่างไรก็ตาม,ฝูงชนไม่อาจรู้ได้ว่าเซี่ยวเฉินประสบปัญหาที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาเริ่มที่จะสาปด่า หากเขาได้รู้สึกถึงสัมผัสอะไรบ้าง มันก็เป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกถึงรสสัมผัสอะไรแม้แต่น้อย จูบแรกของเขาผ่านไป,ผ่านไปเช่นนั้น เขาโยนความผิดทุกอย่างใส่อ๋าวเจียว

 

“เจ้านายขยะ, อย่าลืมที่จะเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นนั้น, ข้าจะออกมาเล่นสนุกได้เป็นครั้งคราว โอ้ และดาบหักที่อยู่ในแหวนห้วงจักรวาล อย่าลืมหลอมมันกลับมาใหม่เมื่อเจ้าทําได้”

 

ในน้ำเสียงสนุกสนานของอวเจียวสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้า หลังจากที่นางพูดจบ,เซี่ยวเฉินก็รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย การควบคุมร่างกายของเขาได้กลับมา

 

หลังจากที่เขาคืนสติ,เขารีบปล่อยหลิวหรูเยว่ออกจากอ้อมอกของเขา ขณะที่เขามองไปยังใบหน้าอันงดงามที่เต็มไปด้วยเลือดของนางเขาพูดขึ้นอย่างกังวลใจ “พี่สาวหรูเยว่.. ข้า..”

 

หลิวหรูเยวยิ้มบางเบา ใบหน้าอันงดงามของนางราวกับบุปผา แม้ว่าจะปกคลุมไปด้วยเลือด,มันบดบังเสน่ห์ของนางไม่ได้แม้แต่น้อย “อย่ามาโง่เง่า,ข้ารู้ว่านั้นไม่ใช่เจ้า”

 

หลังจากที่หลิวหรูเยว่พูดจบ,นางก็ปิดตาลงและนั่งขัดสมาธินางเริ่มซึบซับปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพีอย่างช้าๆ เข้าไปในร่างของนาง ปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพีที่อ๋าวเจียวมอบให้นางในครั้งนี้มันมากกว่าที่นางให้กับเสี่ยวไป๋ นางจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการซึบซับปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพี่เข้าไปได้อย่าหมดจด

 

มันสามารถกล่าวได้ว่าหลิวหรูเยว่นั้นได้รับโชคผ่านภัยพิบัติ ไม่เพียงแต่ระดับการบ่มเพาะพลังของนางจะไม่ลดลง,นางจะสามารถยกระดับมันขึ้นไปอีกหลังจากครึ่งเดือน 

 

เซี่ยวเฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก สายตาของเขาตกไปที่ขนตายาวงอนของหลิวหรูเยว่ อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินพบว่าแม้ว่านางจะหลับตาปี,ขนตาของนางก็สั่นไหวอย่างอดไม่ได้

 

ดูเหมือนพี่สาวหรูเยวจะไม่ได้นิ่งสงบอย่างที่นางว่า เซี่ยวเฉินถอนหายใจกับตัวเอง เขาไม่รู้แล้วว่านี้เป็นพรประทานหรือภัยพิบัติ,ไม่รู้แม้แต่จะรับมือกับมันเช่นไร

 

“ฟุ่ว! ฟิ่ว!”

 

ไม่ไกลนัก,ซ่งเฉวได้รับเม็ดยาจากสตรีลึกลับ สีหน้าเจ็บปวดของเขาในที่สุดก็ทุเลาลง

 

ทันใดนั้น,ซ่งเฉวสัมผัสได้ว่ากระแสพลังน่ากลัวในร่างของเซี่ยวเฉินได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มันเห็นชัดว่าไม่ได้อยู่ในสถานะเมื่อก่อนหน้านี้อีกแล้ว

 

คิดถึงความอัปยศที่เขาประสบในวันนี้ ซ่งเฉวรู้สึกมืดมนอย่างไม่น่าเชื่อ มองดูเซี่ยวเฉินที่ไม่ได้สนใจเขาเจตนาฆ่าหนาแน่นไหลล้นออกมาจากดวงตาของเขา

 

ร่างของเขากระโดดขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียง “โซว” เขาเก็บกระบี่หนาขึ้นมาและปรากฏตัวขึ้นที่เซี่ยวเฉิน มือของเขายกกระบี่ขึ้นและลงเขาสับลงไปที่หลังของเซี่ยวเฉินอย่างเรียบง่าย

 

เมื่อผู้คนที่อยู่โดยรอบมองเห็นฉากนี้พวกเขาล้วนตกตะลึง ซ่งเฉวผู้นี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว เขากล้าลอบโจมตีผู้เยาว์

 

หน้าอกของเซี่ยวเฉินบีบรัด,ชีวิตของข้ากําลังจะจบลง!

 

ทันทีที่ซ่งเฉินจับกระบี่ขึ้นมา เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันเย็นเฉียบ อย่างไรก็ตาม,ปราศจากอ๋าวเจียวค่อยควบคุมเขา,แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน,เขาไม่อาจตอบสนองได้ทันความเร็วของขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด

 

ยิ่งกว่านั้นเขาถูกโจมตีจากข้างหลัง แม้ว่าเขาอยากจะตอบโต้,เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้หันหลังกลับ

 

“ไสหัวไป!”

 

ในจังหวะนั้นเอง,มีเสียงตะโกนนิ่มนวลดังมาจากจุดยอดสุดของยอดเขาฉิงหยุน มันเป็นเพียงตัวอักษร “ไสหัว” แต่มันราวกับได้เดินทางผ่านมิติและกาลเวลา มันเจาะทะลุช่องว่างแบกพลังอันไร้ขอบเขต,และชัดเข้าที่ร่างของซ่งเฉวอย่างรุนแรง

 

ฝูงชนเห็นอย่างชัดเจน “ไสหัว” ถูกประทับลงบนร่างของซ่งเฉว ดินแดนเล็กดูเหมือนประกาศ และร่างของซ่งเฉวทันใดนั้นก็ขดลงและกลิ้งกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกบอลยาง

 

“บูม! บูม! บูม!” เขาม้วนกลิ้งไปไม่ทราบระยะทาง ซ่งเฉวหายไปจากตีนเขาของยอดเขาฉิงหยุน

 

เขาเพิ่งได้ไปสัมผัสกับประตูนรกมาเซี่ยวเฉินรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง,เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบหยดลงที่หลังของเขาอย่างต่อเนื่อง่ ่

 

“ใครคือเย่เฉิน!”

 

ทันใดนั้น,สี่ขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่แต่งการชุดเครื่องแบบของโถงคุมกฏลอยลงมาจากท้องฟ้า หลังจากลงถึงพื้น,พวกเขาถามขึ้นในทันที ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เมื่อซ่งเชียนเหอเห็นพ่อของเขากําลังอยู่ในอันตราย เขาได้ส่งคนไปแจ้งโถงมกฏ

 

มองเห็นโถงคุมกฏได้มาถึงแล้ว ซ่งเชียนเหอผู้ที่กําลังห่อตัวเป็นเกี๊ยว,กระโดดออกมาอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่เซี่ยวเฉินและตะโกนขึ้น “นั้นเขา เขาได้ดูหมิ่นผู้อาวุโส,เขานําความอัปยศมาแก่พ่อของข้า จากนั้นเขาก็ใช้สมบัติลับและพยายามจะสังหารท่านเจ้ายอดเขาซื้อวุ่น ความผิดของเขาช่างใหญ่หลวง ข้าร้องขอให้ผู้อาวุโสโถงคุมกฏสังหารมันเสียตรงนี้”

 

“โถงคุมกฏรู้ว่ากําลังทําอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องมาสั่ง” หนึ่งในกลุ่มพวกเขากล่าวพร้อมกับมองไปที่ซ่งเชียนเหออย่างรังเกียจ

 

พวกเขาที่เหลือก้าวตรงไปที่เซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “มากับพวกเราก่อน เจ้าสามารถออกไปได้หลังจากที่พวกเราสอบสวนเสร็จ”

 

เมื่อหลิวหรูเยว่ ผู้ที่กําลังนั่งขัดสมาธิและควบคุมพลังงานของนางได้ยินเสียงของคนจากโถงคุมกฎ,นางรีบหยุดการควบคุมพลังงานของนางและยืนขึ้น นางกล่าว “รอก่อน ข้าจะพาตัวไปที่โถงคุมกฏในสามวันให้หลัง พวกท่านถอนตัวกลับไปก่อนเป็นการชั่วคราวได้หรือไม่?”

 

หลิวหรูเยว่คุ้นเคยกับสถานที่เช่นโถงคุมกฏอย่างมาก โดยทั่วไป, หากมันเป็นปัญหาธรรมดาจะถูกจัดการอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม,หากมันถูกแทรกแซงโดยผู้มีอํานาจระดับสูงของศาลากระบี่สวรรค์ เมื่อเซี่ยวเฉินเข้าไปเขาอาจจะไม่ได้กลับออกมาอีก

 

“ใครจะรู้ว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นไรในสามวันให้หลัง หากเจ้าต้องการจะอธิบายเช่นนั้นก็มากับพวกเราเดียวนี้” คนผู้นั้นพูดอย่างไม่อ่อนข้อเขาไม่ยอมรับคําขอของหลิวหรูเยว่

 

ในตอนนี้หลิวหรูเยว่บาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถไปกับพวกเขาได้ เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้นมา “โปรดอย่าทําให้อาจารย์ของข้าต้องลําบาก ข้าจะไปกับพวกท่าน”

 

“บูม!”

 

ในจังหวะนั้นเอง,กล่องไม้สี่เหลี่ยวทันใดนั้นก็ตกลงมาต่อหน้าโถงคุมกฏทั้งสี่ ด้านหน้าของกล่องไม้หันไปทางโถงคุมกฎ

 

กล่องไม้มันช่างธรรมดาสามัญ:มันไม่มีอะไรโดดเด่น อย่างไรก็ตาม,มีสี่ตัวอักษรสีทองเขียนอยู่ที่ด้านหน้าของมัน – เสมือนจักรพรรดิเสด็จมาเอง

 

เมื่อคนทั้งสี่เห็นอักษรที่ด้านหน้าของกล่องไม้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนในทันที พวกเขาเงยหน้าขึ้นไปที่ยอดเขาฉิงหยุนและคํานับด้วยความเคารพ จากนั้นพวกเขาก็จากไปราวกับกําลังวิ่งหนี

 

มีมือไร้รูปที่ดูเหมือนจะลงมาจากท้องฟ้าและเก็บเอากล่องไม้ พร้อมเสียง “โซว” มันก็กลับไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

กล่องไม้นั้นช่างดูคุ้นเคยอย่างมากแต่เซี่ยวเฉินไม่ไปคิดถึงมันในตอนนี้ เขาหันกลับมาและจับหลิวหรูเยวนั่งลง เขากล่าว “เจ้าควรควบคุมพลังงานต่อไป ทุกอย่างที่เจ้าทําเมื่อครู่สูญเปล่าไปเพราะเจ้ายืนขึ้น”

 

หลิวหรูเยว่พยักหน้าเบาๆและมองไปที่ยอดเขาฉิงหยุดที่สูงตระหง่านด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นนางก็ถอยหายใจอย่างนุ่มนวลและนั่งขัดสมาธิอีกครั้ง

 

สตรีลึกลับผู้นั้นมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าและเดินเข้ามาหาเซี่ยวเฉินอย่างช้าๆ นางพูดขึ้น “วีรบุรุษโผล่มาจากรุ่นเยาว์ ดูเหมือนข้าจะมาเสียเที่ยวแล้ว น้องชายเย่,หากเจ้ามีเวลาในอนาคต,ต้องมาเยี่ยมเยือนยอดเขาสตรีหยก”

 

หลังจากที่นางพูดจบ,สตรีนางนั้นหยิบเอาขวดยาออกมาและยื่นให้กับหลิวสุยเฟิง,ฝากเขาให้กับหลิวหรูเยว่

 

มองดูสตรีนางนั้นส่งขวดยามาให้กับเขา,ใบหน้าหัวหมูของหลิวสุยเฟิงเผยสีหน้าตื่นเต้นถึงขีดสุด ความตื่นเต้นเล็กน้อยในใจของเขา,จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ถูกลบหายไปในทันที

 

สตรีนางนั้นยืนนามบัตรให้กับเซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “หากเจ้ามีเวลาเจ้าจะต้องมาเยือนยอดเขาสตรีหยกให้ได้”

 

สายตาทุกครู่ในบริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยความอิจฉาเซี่ยวเฉินรับเอานามบัตรมา สตรีนางนี้มีภาวะอารมณ์พิเศษ ผู้ใดที่เหลือบมองไปเห็นนางจะทําให้ผู้นั้นตกลงไปในหุบเหวที่ไม่อาจปืนกลับขึ้นมาได้

 

เขารู้สึกประหลาดอย่างช่วยไม่ได้ มีสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้ในยอดเขาสตรีหยก? นางไม่อาจต้านทานได้ยิ่งกว่าฉู่ชินอวิ๋นเสียอีก เขาคํานับมือและพูดขึ้น “ขอบคุณสําหรับคําเชิญชวนของพี่สาว ข้าจะไปเยือนยอดเขาสตรีหยกอย่างแน่นอน หากข้ามีเวลา”

 

หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,คนรอบข้างต่างเผยสีหน้าประหลาดอย่างสุดขีด พวกเขาอดที่จะพูดขึ้นในใจไม่ได้ เจ้าหมอนี้มันจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว! เขาไร้ยางอายยิ่งกว่าตาแก่นั้น,ซ่งเฉว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+