Immortal and Martial Dual Cultivation 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล

ปริมาณของเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้แข็งแกร่งกว่าที่ได้จากสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 หนึ่งร้อยเท่าดูเหมือนว่าจะถูกต้องยิ่งมันมีชีวิตอยู่มานานเท่าไหร,มันจะยิ่งสะสมเจตนารมณ์ฆ่าล้างมากขึ้นเท่านั้น

ภายในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก,บัลลังก์สีแดงดูดกลืนเจตนารมณ์ฆ่าล้างไปอย่างกระหายท้ายที่สุด,เป็นเพราะมีแสงสีแดงมากเกินไป,มันอดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้ม

หลังจากที่มันสั่นระรัว,ร่างกายที่เหนื่อยล้าของเซียวเฉินรู้สึกผ่อนคลาย

เซียวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปสู่บัลลังก์สีแดง ภายในมีเขตแดนย่อย,มีร่างเทพกําลังลอยอยู่สูงบนท้องฟ้า นี่เป็นตราประทับจิตวิญญาณที่เขาประทับเอาไว้

ในอดีต,มันมีมหาสมุทรสีเลือดอันไร้ขอบเขตอยู่เบื้องล่าง ตอนนี้ มันเดือดแห้ง มีเพียงหนองน้ำสีแดงเล็กๆ,กว้างประมาณห้าเมตรที่เหลืออยู่

นอกจากนั้น นี่เป็นหลังจากที่ดูดกลืนเจตนารมณ์ฆ่าล้างของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 อายุพันปีเข้ามาก่อนหน้านี้ที่เซียวเฉินเข้ามา,มันมีเพียงหยดของเหลวสองสามหยด

ข้าจะจัดการเมื่อมันถึงเวลา,เซี่ยวเฉินไม่รีบร้อนที่จะจัดการกับมันตอนนี้เขาถอนสัมผัสวิญญาณกลับมาและจ้องมองไปที่ซากของงูปีศาจมีสมบัติมากมายที่กําลังรอให้เขาไปเก็บเกี่ยวเซียวเฉอนดึงเอาแก่นกลางปีศาจของจูมงกุฎสี่ขาออกมาจากนั้น,เซียวเฉินก็หยิบเอามีดออกมาและถอนเกล็ดของงูปีศาจเกล็ดพวกนี้สามารถเปลี่ยนสีได้อย่างอิสระ;พวกมันเป็นส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมสําหรับการสร้างสมบัติเวทมนต์

ยังมีถุงน้ำดี,ขาทั้งสี่ข้าง,และมงกุฎบนหัวของมัน ของพวกนี้ต่างมีมงค่า

หลังจากที่เซี่ยวเฉินจัดของทุกอย่าง,เขาพบต้นไม่ใหญ่เพื่อนั่งลงและหมุนเวียนพลังงานฟื้นคืนปราณของเขา

หลังจากจบศึกใหญ่,เซี่ยวเฉินผลาญพลังไปมาก เขาบาดเจ็บภายในอีกไม่น้อยโดยเฉพาะการฟาดหางจู่โจมของมันในตอนสุดท้าย เซี่ยวเฉินต้องแบกรับพลังมากกว่า 25,000 กิโลกรัม

หากไม่ใช่เพราะเกราะศึกสีแดงที่เพิ่มพลังป้องกันและความสามารถในการฟื้นตัวของเขา,การโจมตีนั้นจะทําลายอวัยวะภายในของเขาทั้งหมด

เซี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางออกมาและถือเอาไว้ในมือ ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหมุนเวียน,และพลังงานจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ภายในหินวิญญาณระดับกลางก็ไหลเข้าสู่วังวนที่จุดตันเที่ยนของเขา

ของเหลวค่อยๆหยดลงมาจากวังวนฉีสีม่วงหลังยากผ่านไปสิบสองชั่วโมง,พลังปราณภายใน วังวนฉีในที่สุดก็กลับมาเต็มเปี่ยม

เซียวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วเพื่อบํารุงและรักษาอวัยวะภายในที่บาดเจ็บเขาใช้เวลาไปอีกครึ่งวันก่อนที่จะจัดการกับอาการบาดเจ็บทั้งหมด

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้น มีแสงสีม่วงวูบไหวในดวงตาของเขา นี่ทําให้ใบหน้าที่ขาวละเอียดสวยงามอย่างน่าประหลาดของเขากลับมามีสีอีกครั้ง

เซี่ยวเฉันยืนขึ้นและมองไปยังท้องฟ้าที่ดํามืด จากนั้นเขาก็ออกเดินทางสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ต่อไป เขาได้เห็นถึงพลังอํานาจของเจตนารมณ์ฆ่าล้าง

เซี่ยวเฉินยิ่งสนใจในการสังหารสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก เขารวบรวมเจตนารมณ์ฆ่าล้างให้มากขึ้น,เพิ่มความแข็งแกร่งของสภาวะแห่งการฆ่าล้างของเขา

เซี่ยวเฉินใช้เวลาไปสองวัน ก่อนที่จะกลับไปหาเสี่ยวไป๋และหุ่นรบเกราะเงิน

ตลอดสองวัน,เซี่ยวเฉินสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 สําเร็จไปทั้งหมดยี่สิบตัวภายใต้การต่อสู้ที่เข้มข้นมากมายในระยะเวลาสั้นๆมันเกินกว่าที่ร่างกายของเขาจะรับได้

หากเซียวเฉินยังเดินหน้าต่อสู้,มันจะไม่ใช้การฝึกฝนอีกต่อไปแต่เป็นการทําลายอนาคตของเขาร่างกายเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของหม้อมังกรฟินิกซ์และหุ่นรบเกราเงินทั้งสองตัว ตลอดสองวันที่ผ่านมา,ไม่มีร่องรอยของสัตว์อสูรปีศาจเข้ามาที่นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉันมองไปรอบๆ,เขาไม่เห็นตัวเสี่ยวไป เขารู้สึกประหลาดใจจากการใช้หยกวิญญาณสีเลือด,เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเสี่ยวไป์ยังอยู่ในระยะสิบเมตรทําไมเขาถึงไม่เห็นตัวมัน?

เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นและไปถึงที่ปากหม้อมังกรฟินิกซ์ เมื่อเขามองลงไปในที่สุดเขาก็เจอตัวเสี่ยวไป

เขามองเห็นเสี่ยวไปกําลังกระโดดไปมาอยู่ภายในหม้อ ตัวหม้อมังกรฟินิกซ์สูงเพียงหกเมตร;ทําไมมันถึงกระโดดอกมาไม่ได้?

มีความงุนงงอยู่บนใบหน้าของเสียวไป มันลูบหัวด้วยอุ้งเท้าของมัน, คิดไม่ตกถึงปัญหานี้

เซียวเฉินยิ้มเบาๆและมองเห็นขวดเหล้าที่กลิ้งอยู่ภายในหม้อ เขาเดาได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวน้อยนี้จะต้องดื่มจนเมาขณะที่นั่งอยู่บนปากหม้อ,จากนั้นก็ตกลงไป

ภายในของหม้อใบนี้มีค่ายกลมิติ, ที่สร้างเขตแดนย่อยขึ้นมา

เจ้าเสี่ยวไปจะไปทําได้เช่นไร?

เมื่อเลี้ยวไปมองเห็นเซี่ยวเฉินอยู่บนปากหม้อ,ดวงตาที่เป็นประกายของมันก็เผยความยินดีจากนั้นมันก็จ้องมองไปที่เซี่ยวเฉินอย่างน่าสงสาร

เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบา มีแสงวูบไหวที่หยกวิญญาณสีเลือดบนหน้าอกของเขาและดึงตัวเสียวไปขึ้นมา

“ยี ยา! ยียา!”

จากนั้น,เสี่ยวไปก็กระโดดออกมาจากหยกวิญญาณสีเลือด มันชี้ไปที่หม้อมังกรฟินิกซ์,ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง มันพยายามจะกล่าวว่าหม่อใบนี้น่ากลัวมันเลวร้ายมาก

เซียวเฉินกล่าวตําหนิมันด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ,หากเจ้ายังกล้าดื่มจนเมามายอีกในอนาคต ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ถึงผลที่จะตามมาแล้ว และกระนั้น,เจ้ายังรับปากจะปกป้องหม้อใบนี้:เจ้าปกป้องไม่ได้แม้แต่ตัวเจ้าเอง”

เซี่ยวเฉินวางเสี่ยวไปที่เจ็บใจและลอยลงมา เขามองหาต้นไม้ที่ใหญ่พอเหมาะและโค่นมันลง

หลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินหยิบเอามีดแกะสลักของเขาออกมาแกะเป็นรูปนกเขาเป๋าเบาๆไล่เศษไม้ทั้งหมดออกไป ทําให้รูปสลักยิ่งดูสมจริง

“ดูเหมือนว่าฝีมือของข้ายังไม่ตก ข้าสงสัยว่ารูปสลักที่ข้ามอบให้หยิงเยว่จะทําให้นางพอใจ?”เซี่ยวเฉินยิ้มและมองไปที่รูปสลัก จากนั้นเขาก็หุบยิ้มและกล่าวออกมาน้ำเสียงจริงจัง “คาถาสละ ชีพ!”

นกไม้กลายเป็นมีชีวิตขึ้นมาในทันที เซียวเฉินควบคุมให้มันกระพือปีกและบินขึ้นไปหลังจากที่มันบินวนไปรอบตัวของเขา,มันก็บินตรงไปที่ทางออกของป่าน้ำหมึก

ตราบใดที่ไม่ใช่รูปสลักสําหรับการต่อสู้,มันไม่ต้องกําหนดวัตถุดิบ เซียวเฉินต้องการเพียงใช้นกตัวนี้ไปสอดแนมดังนั้น,ไม่มีความจําเป็นที่เขาต้องใช้ไม้วิญญาณ

สัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินถูกจํากัดภายในป่าแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม,มันไม่จํากัดคาถาสละชีพของเขา
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง, นกตัวนั้นก็บินผ่านอุโมงค์มืดมิดและออกไปถึงด้านนอก

ราชวังเหมันต์ลึกล้ํายังจอดอยู่ที่ตําแหน่งเดิม มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าอุโมงค์ดูเหมทอนว่าพวกเขายังไม่ยอมลามือ

เซียวเฉินได้ประทับตราลงบนนกตัวนั้นและควบคุมให้มันไปหยุดอยู่ที่กําแพง,เกาะเอาไว้ด้วยกรงเล็บของมัน เขาพึมพํากับตัวเอง “หาวันผ่านไปแล้ว แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่ออกไปไหนอย่างไรก็ตาม,หากจะแข่งขันกับข้าในเรื่องของความอดทน,พวกเจ้าจะต้องเสียใจ”

วันเวลาไหลผ่านไป เซียวเฉินออกล่าสัตว์อสูรปีศาจในตอนกลางวันและบ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกรของเขาในตอนกลางคืน พลังงานจิตวิญญาณในที่แห่งนี้เบาบางเป็นอย่างมาก;มันไม่เหมาะที่จะบ่มเพาะทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เขาจึงทําได้เพียงบ่มเพาะทักษะฝึกฝนร่สง กายของเขา

โชคดี,สลักร่างพยัคฆ์มังกรของเขาเหลือเพียงอีกน้อยจะถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้นของชั้นที่ห้ากระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผามัวนธาราเซียวเฉินอาจจะใช่โอกาสนี้ในการทะลวงระดับนี่หมายความว่าเซี่ยวเฉินไม่ได้เร่งรีบอะไร

ครึ่งเดือนต่อมา,เซียวเฉินร้องตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด กระดูกในร่างของเขาส่งเสียงแตกกราวไม่หยุดกระแสพลังทาปล่อยออกมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า,สลายควันสีดําภายในป่า

ชั้นที่สี่ของสลักร่างพยัคฆ์มังกรขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น เซียวเฉินลุกขึ้นยืนและพุ่งไปถึงหม้อมังกรฟีนิกซ์ในการกระโดดครั้งเดียวจากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดออกไปเบาๆ

“ปัง!”

หม้อมังกรฟินิกซ์สั่นสะเทือนส่งเสียงนุ่มลึกออกมา จากนั้นมันก็ลอยออกไปในแนวระนาบต้น ไม้ที่อยู่ในทางทั้งหมดแตกกระจาย

หลังจากผ่านไปนาน,หม้อใบนในที่สุดก็ตกลงพื้น ขาทั้งสามของหม้อจมลงไปในพื้นลึกหนึ่งเมตร

เซียวเฉินถอนหมัดของเขากลับและกล่าวขึ้นเบาๆ “หลังจากขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น,พลังของข้าเพิ่มขึ้นมาห้าพันกิโลกรัม หลังจากขึ้นไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,และขั้นยอดเยี่ยมสุด,ทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรน่าจะขึ้นไปถึงระดับบริบูรณ์

“ถึงตอนนั้น,เพียงกําปั้นธรรมดาก็จะมีพลังถึง 25,000 กิโลกรัม กําปั้นเต็มกําลังนะสามารถขึ้นไปถึง 50,000 กิโลกรัม ข้าจะสามารถเปิดจุดปราณที่เหลืออีกสามนุดบนแขนขวาของข้าได้

สละชีพตรวจดูสถานการณ์ด้านนอก เขาพบว่าราชวังเหมันต์ลึกล้ําของตระกูลต้วนม่ได้ออกไปแล้ว

“ผ่านมาแล้วอย่างน้อยครึ่งเดือน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหมดความอดทนกันแล้วข้าก็ควรออกไปได้แล้วเช่นกัน” เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมาและยิ้มขึ้นเบาๆ

เซี่ยวเฉินเกรงว่ามันอาจจะเป็นกับดัก ดังนั้นเขาจึงใช้คาถาสละชีพบินไปดูรอบๆเพื่อนยืนยันว่าทุกคนได้ออกไปกันหมดแล้ว

เซียวเฉินไม่รอช้าอีกต่อไป เขาควบคุมหุ่นรบเกราะเงินให้แบกหม้อมังกรฟินิกซ์ จากนั้นเขาก็ออกไปจากป่าในดินอย่างรวดเร็ว,กลับไปยังเทือกเขา

แม้ว่าอากาศภายในเทือกเขาจะขุ่นมัว มันก็ยังสะอาดกว่าอากาศภายในป่าในดินมากเซียวเฉินสูดหายใจเข้าลึกและรู้สึกสบายปอด

มีสิ่งอันตรายต่อชีวิตมากมายบนท้องฟ้าภายในเทือกเขาน้ำหมึก ดังนั้น,เซียวเฉินจึงไม่ได้ใช้บัลลังก์สีแดงหรือเรือสงครามสีเงิน สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 ประเภทอีกที่ปกครองท้องฟ้าจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆในทันที

เซียวเฉินเดินกลับไปทางเท้าเท่านั้น,สังหารไปตลอดการเดินทางของเขา ข้าจะถือว่ามันเป็นการเดินทางฝึกฝน ตั้งแต่โบราณกาล,ผู้แข็งแกร่งต้องผ่านการทดสอบนับไม่ถ้วนเซียวเฉินหัวเราะและมุ่งหน้าต่อไปพร้อมกับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขา

ครึ่งเดือนต่อมา ผู้บ่มเพาะพลังในชุดคลุมยาวสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นที่ทางออกของเทือกเขาน้ำหมึกมีผ้าคาดหัวสีฟ้าบนหน้าผากและจิ้งจอกวิญญาณบนไหล่ของเขาผู้เยาว์ผู้นี้มีกระบี่คาดเอาไว้ที่เอวขณะที่เขาค่อยๆเดินออกมา

คนผู้นี้คือเซี่ยวเฉิน เขาต่อเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีแสงอยู่ภายในดวงตาของเขา;เขายังคงรูปลักษณ์ที่เฉลียวฉลาด

เซียวเฉินก้าวออกมาและมองไปยังดวงอาทิตย์;เขาไม่ได้เห็นแสงตะวันมานับเดือนเขาหยีตาบริสุทธิ์”

นับรวมตอนอยู่ในป่าน้ำหมึก,เซี่ยวเฉินได้เดินทางฝึกฝนที่นี่ทั้งเดือน

เจตนารมณ์ฆ่าล้างที่กักเก็บอยู่ในบัลลังก์สีแดงกลายเป็นสระน้ำลึก มีพลังมากกว่าสิบเท่าจากก่อนหน้านี้ แน่นอน,มันยังห่างไกลจากมหาสมุทรในตอนแรก

ผลประโยชน์จากการต่อสู้ที่เข้มข้น อันตรายมาเป็นเวลานานก็คือการตอบสนองที่เฉียบคมขึ้นเซี่ยวเฉินใช้ทักษะต่อสู้ได้คล่องแคล่วมากขึ้นเช่นกัน

จํานวนแก่นกลางปีศาจที่เขารวบรวมมามันมากกว่าที่เขาได้มากจากมิติย่อยแห่งนั้นเสียอีกเป็นจํานวนที่มากจนน่าสะพรึง

เซี่ยวเฉินนับด มีแก่นกลางปีศาจระดับ 4 มากกว่า 1500แก่น, หนึ่งพันแก่นกลางปีศาจระดับ 5,และเจ็ดร้อยแก่นกลางปีศาจระดับ 6

นี่เป็นโชคมหาศาล หากเขาแลกเปลี่ยนมันกับหินวิญญาณ,เขาจะได้รับอย่างน้อย,สองพันหินวิญญาณระดับกลาง

ด้วยอันตราการบ่มเพาะพลังของเซียวเฉินในตอนนี้,เขาต้องใช้หินวิญญาณระดับกลางหนึ่งก้อนต่อวันหินวิญญาณระดับกลางสองพันก้อนจะเพียงพอสําหรับหกปี

แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะต้องใช้มากขึ้นในตอนที่การบ่มเพาะพลังของเขาสูงขึ้น,มันก็ยังเพียงพอสําหรับสองปีอย่างแน่นอนในตอนนี้เขายังมีหินวิญญาณระดับกลางมากกว่าห้าพันก่อนเขาสามารถใช้มันซื้ออะไรก็ได้ที่เขาต้องการ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองไปยังหม้อมังกรฟินิกซ์ที่หุ่นรบเกราะเงินกําลังแบกอยู่,เขาคิ้วขมวดเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไงในตอนนี้
หม้อมังกรฟินิกซ์ไม่อาจเก็บเอาไว้ในแหวนห้วงจักรวาล มันมีขนาดใหญ่มาก;วางเอาไว้ตรงไหนก็เป็นจุดสนใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล

ปริมาณของเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้แข็งแกร่งกว่าที่ได้จากสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 หนึ่งร้อยเท่าดูเหมือนว่าจะถูกต้องยิ่งมันมีชีวิตอยู่มานานเท่าไหร,มันจะยิ่งสะสมเจตนารมณ์ฆ่าล้างมากขึ้นเท่านั้น

ภายในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก,บัลลังก์สีแดงดูดกลืนเจตนารมณ์ฆ่าล้างไปอย่างกระหายท้ายที่สุด,เป็นเพราะมีแสงสีแดงมากเกินไป,มันอดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้ม

หลังจากที่มันสั่นระรัว,ร่างกายที่เหนื่อยล้าของเซียวเฉินรู้สึกผ่อนคลาย

เซียวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปสู่บัลลังก์สีแดง ภายในมีเขตแดนย่อย,มีร่างเทพกําลังลอยอยู่สูงบนท้องฟ้า นี่เป็นตราประทับจิตวิญญาณที่เขาประทับเอาไว้

ในอดีต,มันมีมหาสมุทรสีเลือดอันไร้ขอบเขตอยู่เบื้องล่าง ตอนนี้ มันเดือดแห้ง มีเพียงหนองน้ำสีแดงเล็กๆ,กว้างประมาณห้าเมตรที่เหลืออยู่

นอกจากนั้น นี่เป็นหลังจากที่ดูดกลืนเจตนารมณ์ฆ่าล้างของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 อายุพันปีเข้ามาก่อนหน้านี้ที่เซียวเฉินเข้ามา,มันมีเพียงหยดของเหลวสองสามหยด

ข้าจะจัดการเมื่อมันถึงเวลา,เซี่ยวเฉินไม่รีบร้อนที่จะจัดการกับมันตอนนี้เขาถอนสัมผัสวิญญาณกลับมาและจ้องมองไปที่ซากของงูปีศาจมีสมบัติมากมายที่กําลังรอให้เขาไปเก็บเกี่ยวเซียวเฉอนดึงเอาแก่นกลางปีศาจของจูมงกุฎสี่ขาออกมาจากนั้น,เซียวเฉินก็หยิบเอามีดออกมาและถอนเกล็ดของงูปีศาจเกล็ดพวกนี้สามารถเปลี่ยนสีได้อย่างอิสระ;พวกมันเป็นส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมสําหรับการสร้างสมบัติเวทมนต์

ยังมีถุงน้ำดี,ขาทั้งสี่ข้าง,และมงกุฎบนหัวของมัน ของพวกนี้ต่างมีมงค่า

หลังจากที่เซี่ยวเฉินจัดของทุกอย่าง,เขาพบต้นไม่ใหญ่เพื่อนั่งลงและหมุนเวียนพลังงานฟื้นคืนปราณของเขา

หลังจากจบศึกใหญ่,เซี่ยวเฉินผลาญพลังไปมาก เขาบาดเจ็บภายในอีกไม่น้อยโดยเฉพาะการฟาดหางจู่โจมของมันในตอนสุดท้าย เซี่ยวเฉินต้องแบกรับพลังมากกว่า 25,000 กิโลกรัม

หากไม่ใช่เพราะเกราะศึกสีแดงที่เพิ่มพลังป้องกันและความสามารถในการฟื้นตัวของเขา,การโจมตีนั้นจะทําลายอวัยวะภายในของเขาทั้งหมด

เซี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางออกมาและถือเอาไว้ในมือ ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหมุนเวียน,และพลังงานจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ภายในหินวิญญาณระดับกลางก็ไหลเข้าสู่วังวนที่จุดตันเที่ยนของเขา

ของเหลวค่อยๆหยดลงมาจากวังวนฉีสีม่วงหลังยากผ่านไปสิบสองชั่วโมง,พลังปราณภายใน วังวนฉีในที่สุดก็กลับมาเต็มเปี่ยม

เซียวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วเพื่อบํารุงและรักษาอวัยวะภายในที่บาดเจ็บเขาใช้เวลาไปอีกครึ่งวันก่อนที่จะจัดการกับอาการบาดเจ็บทั้งหมด

เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้น มีแสงสีม่วงวูบไหวในดวงตาของเขา นี่ทําให้ใบหน้าที่ขาวละเอียดสวยงามอย่างน่าประหลาดของเขากลับมามีสีอีกครั้ง

เซี่ยวเฉันยืนขึ้นและมองไปยังท้องฟ้าที่ดํามืด จากนั้นเขาก็ออกเดินทางสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ต่อไป เขาได้เห็นถึงพลังอํานาจของเจตนารมณ์ฆ่าล้าง

เซี่ยวเฉินยิ่งสนใจในการสังหารสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก เขารวบรวมเจตนารมณ์ฆ่าล้างให้มากขึ้น,เพิ่มความแข็งแกร่งของสภาวะแห่งการฆ่าล้างของเขา

เซี่ยวเฉินใช้เวลาไปสองวัน ก่อนที่จะกลับไปหาเสี่ยวไป๋และหุ่นรบเกราะเงิน

ตลอดสองวัน,เซี่ยวเฉินสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 สําเร็จไปทั้งหมดยี่สิบตัวภายใต้การต่อสู้ที่เข้มข้นมากมายในระยะเวลาสั้นๆมันเกินกว่าที่ร่างกายของเขาจะรับได้

หากเซียวเฉินยังเดินหน้าต่อสู้,มันจะไม่ใช้การฝึกฝนอีกต่อไปแต่เป็นการทําลายอนาคตของเขาร่างกายเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของหม้อมังกรฟินิกซ์และหุ่นรบเกราเงินทั้งสองตัว ตลอดสองวันที่ผ่านมา,ไม่มีร่องรอยของสัตว์อสูรปีศาจเข้ามาที่นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉันมองไปรอบๆ,เขาไม่เห็นตัวเสี่ยวไป เขารู้สึกประหลาดใจจากการใช้หยกวิญญาณสีเลือด,เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเสี่ยวไป์ยังอยู่ในระยะสิบเมตรทําไมเขาถึงไม่เห็นตัวมัน?

เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นและไปถึงที่ปากหม้อมังกรฟินิกซ์ เมื่อเขามองลงไปในที่สุดเขาก็เจอตัวเสี่ยวไป

เขามองเห็นเสี่ยวไปกําลังกระโดดไปมาอยู่ภายในหม้อ ตัวหม้อมังกรฟินิกซ์สูงเพียงหกเมตร;ทําไมมันถึงกระโดดอกมาไม่ได้?

มีความงุนงงอยู่บนใบหน้าของเสียวไป มันลูบหัวด้วยอุ้งเท้าของมัน, คิดไม่ตกถึงปัญหานี้

เซียวเฉินยิ้มเบาๆและมองเห็นขวดเหล้าที่กลิ้งอยู่ภายในหม้อ เขาเดาได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวน้อยนี้จะต้องดื่มจนเมาขณะที่นั่งอยู่บนปากหม้อ,จากนั้นก็ตกลงไป

ภายในของหม้อใบนี้มีค่ายกลมิติ, ที่สร้างเขตแดนย่อยขึ้นมา

เจ้าเสี่ยวไปจะไปทําได้เช่นไร?

เมื่อเลี้ยวไปมองเห็นเซี่ยวเฉินอยู่บนปากหม้อ,ดวงตาที่เป็นประกายของมันก็เผยความยินดีจากนั้นมันก็จ้องมองไปที่เซี่ยวเฉินอย่างน่าสงสาร

เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบา มีแสงวูบไหวที่หยกวิญญาณสีเลือดบนหน้าอกของเขาและดึงตัวเสียวไปขึ้นมา

“ยี ยา! ยียา!”

จากนั้น,เสี่ยวไปก็กระโดดออกมาจากหยกวิญญาณสีเลือด มันชี้ไปที่หม้อมังกรฟินิกซ์,ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง มันพยายามจะกล่าวว่าหม่อใบนี้น่ากลัวมันเลวร้ายมาก

เซียวเฉินกล่าวตําหนิมันด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ,หากเจ้ายังกล้าดื่มจนเมามายอีกในอนาคต ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ถึงผลที่จะตามมาแล้ว และกระนั้น,เจ้ายังรับปากจะปกป้องหม้อใบนี้:เจ้าปกป้องไม่ได้แม้แต่ตัวเจ้าเอง”

เซี่ยวเฉินวางเสี่ยวไปที่เจ็บใจและลอยลงมา เขามองหาต้นไม้ที่ใหญ่พอเหมาะและโค่นมันลง

หลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินหยิบเอามีดแกะสลักของเขาออกมาแกะเป็นรูปนกเขาเป๋าเบาๆไล่เศษไม้ทั้งหมดออกไป ทําให้รูปสลักยิ่งดูสมจริง

“ดูเหมือนว่าฝีมือของข้ายังไม่ตก ข้าสงสัยว่ารูปสลักที่ข้ามอบให้หยิงเยว่จะทําให้นางพอใจ?”เซี่ยวเฉินยิ้มและมองไปที่รูปสลัก จากนั้นเขาก็หุบยิ้มและกล่าวออกมาน้ำเสียงจริงจัง “คาถาสละ ชีพ!”

นกไม้กลายเป็นมีชีวิตขึ้นมาในทันที เซียวเฉินควบคุมให้มันกระพือปีกและบินขึ้นไปหลังจากที่มันบินวนไปรอบตัวของเขา,มันก็บินตรงไปที่ทางออกของป่าน้ำหมึก

ตราบใดที่ไม่ใช่รูปสลักสําหรับการต่อสู้,มันไม่ต้องกําหนดวัตถุดิบ เซียวเฉินต้องการเพียงใช้นกตัวนี้ไปสอดแนมดังนั้น,ไม่มีความจําเป็นที่เขาต้องใช้ไม้วิญญาณ

สัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินถูกจํากัดภายในป่าแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม,มันไม่จํากัดคาถาสละชีพของเขา
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง, นกตัวนั้นก็บินผ่านอุโมงค์มืดมิดและออกไปถึงด้านนอก

ราชวังเหมันต์ลึกล้ํายังจอดอยู่ที่ตําแหน่งเดิม มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าอุโมงค์ดูเหมทอนว่าพวกเขายังไม่ยอมลามือ

เซียวเฉินได้ประทับตราลงบนนกตัวนั้นและควบคุมให้มันไปหยุดอยู่ที่กําแพง,เกาะเอาไว้ด้วยกรงเล็บของมัน เขาพึมพํากับตัวเอง “หาวันผ่านไปแล้ว แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่ออกไปไหนอย่างไรก็ตาม,หากจะแข่งขันกับข้าในเรื่องของความอดทน,พวกเจ้าจะต้องเสียใจ”

วันเวลาไหลผ่านไป เซียวเฉินออกล่าสัตว์อสูรปีศาจในตอนกลางวันและบ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกรของเขาในตอนกลางคืน พลังงานจิตวิญญาณในที่แห่งนี้เบาบางเป็นอย่างมาก;มันไม่เหมาะที่จะบ่มเพาะทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เขาจึงทําได้เพียงบ่มเพาะทักษะฝึกฝนร่สง กายของเขา

โชคดี,สลักร่างพยัคฆ์มังกรของเขาเหลือเพียงอีกน้อยจะถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้นของชั้นที่ห้ากระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผามัวนธาราเซียวเฉินอาจจะใช่โอกาสนี้ในการทะลวงระดับนี่หมายความว่าเซี่ยวเฉินไม่ได้เร่งรีบอะไร

ครึ่งเดือนต่อมา,เซียวเฉินร้องตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด กระดูกในร่างของเขาส่งเสียงแตกกราวไม่หยุดกระแสพลังทาปล่อยออกมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า,สลายควันสีดําภายในป่า

ชั้นที่สี่ของสลักร่างพยัคฆ์มังกรขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น เซียวเฉินลุกขึ้นยืนและพุ่งไปถึงหม้อมังกรฟีนิกซ์ในการกระโดดครั้งเดียวจากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดออกไปเบาๆ

“ปัง!”

หม้อมังกรฟินิกซ์สั่นสะเทือนส่งเสียงนุ่มลึกออกมา จากนั้นมันก็ลอยออกไปในแนวระนาบต้น ไม้ที่อยู่ในทางทั้งหมดแตกกระจาย

หลังจากผ่านไปนาน,หม้อใบนในที่สุดก็ตกลงพื้น ขาทั้งสามของหม้อจมลงไปในพื้นลึกหนึ่งเมตร

เซียวเฉินถอนหมัดของเขากลับและกล่าวขึ้นเบาๆ “หลังจากขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น,พลังของข้าเพิ่มขึ้นมาห้าพันกิโลกรัม หลังจากขึ้นไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,และขั้นยอดเยี่ยมสุด,ทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรน่าจะขึ้นไปถึงระดับบริบูรณ์

“ถึงตอนนั้น,เพียงกําปั้นธรรมดาก็จะมีพลังถึง 25,000 กิโลกรัม กําปั้นเต็มกําลังนะสามารถขึ้นไปถึง 50,000 กิโลกรัม ข้าจะสามารถเปิดจุดปราณที่เหลืออีกสามนุดบนแขนขวาของข้าได้

สละชีพตรวจดูสถานการณ์ด้านนอก เขาพบว่าราชวังเหมันต์ลึกล้ําของตระกูลต้วนม่ได้ออกไปแล้ว

“ผ่านมาแล้วอย่างน้อยครึ่งเดือน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหมดความอดทนกันแล้วข้าก็ควรออกไปได้แล้วเช่นกัน” เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมาและยิ้มขึ้นเบาๆ

เซี่ยวเฉินเกรงว่ามันอาจจะเป็นกับดัก ดังนั้นเขาจึงใช้คาถาสละชีพบินไปดูรอบๆเพื่อนยืนยันว่าทุกคนได้ออกไปกันหมดแล้ว

เซียวเฉินไม่รอช้าอีกต่อไป เขาควบคุมหุ่นรบเกราะเงินให้แบกหม้อมังกรฟินิกซ์ จากนั้นเขาก็ออกไปจากป่าในดินอย่างรวดเร็ว,กลับไปยังเทือกเขา

แม้ว่าอากาศภายในเทือกเขาจะขุ่นมัว มันก็ยังสะอาดกว่าอากาศภายในป่าในดินมากเซียวเฉินสูดหายใจเข้าลึกและรู้สึกสบายปอด

มีสิ่งอันตรายต่อชีวิตมากมายบนท้องฟ้าภายในเทือกเขาน้ำหมึก ดังนั้น,เซียวเฉินจึงไม่ได้ใช้บัลลังก์สีแดงหรือเรือสงครามสีเงิน สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 ประเภทอีกที่ปกครองท้องฟ้าจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆในทันที

เซียวเฉินเดินกลับไปทางเท้าเท่านั้น,สังหารไปตลอดการเดินทางของเขา ข้าจะถือว่ามันเป็นการเดินทางฝึกฝน ตั้งแต่โบราณกาล,ผู้แข็งแกร่งต้องผ่านการทดสอบนับไม่ถ้วนเซียวเฉินหัวเราะและมุ่งหน้าต่อไปพร้อมกับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขา

ครึ่งเดือนต่อมา ผู้บ่มเพาะพลังในชุดคลุมยาวสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นที่ทางออกของเทือกเขาน้ำหมึกมีผ้าคาดหัวสีฟ้าบนหน้าผากและจิ้งจอกวิญญาณบนไหล่ของเขาผู้เยาว์ผู้นี้มีกระบี่คาดเอาไว้ที่เอวขณะที่เขาค่อยๆเดินออกมา

คนผู้นี้คือเซี่ยวเฉิน เขาต่อเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีแสงอยู่ภายในดวงตาของเขา;เขายังคงรูปลักษณ์ที่เฉลียวฉลาด

เซียวเฉินก้าวออกมาและมองไปยังดวงอาทิตย์;เขาไม่ได้เห็นแสงตะวันมานับเดือนเขาหยีตาบริสุทธิ์”

นับรวมตอนอยู่ในป่าน้ำหมึก,เซี่ยวเฉินได้เดินทางฝึกฝนที่นี่ทั้งเดือน

เจตนารมณ์ฆ่าล้างที่กักเก็บอยู่ในบัลลังก์สีแดงกลายเป็นสระน้ำลึก มีพลังมากกว่าสิบเท่าจากก่อนหน้านี้ แน่นอน,มันยังห่างไกลจากมหาสมุทรในตอนแรก

ผลประโยชน์จากการต่อสู้ที่เข้มข้น อันตรายมาเป็นเวลานานก็คือการตอบสนองที่เฉียบคมขึ้นเซี่ยวเฉินใช้ทักษะต่อสู้ได้คล่องแคล่วมากขึ้นเช่นกัน

จํานวนแก่นกลางปีศาจที่เขารวบรวมมามันมากกว่าที่เขาได้มากจากมิติย่อยแห่งนั้นเสียอีกเป็นจํานวนที่มากจนน่าสะพรึง

เซี่ยวเฉินนับด มีแก่นกลางปีศาจระดับ 4 มากกว่า 1500แก่น, หนึ่งพันแก่นกลางปีศาจระดับ 5,และเจ็ดร้อยแก่นกลางปีศาจระดับ 6

นี่เป็นโชคมหาศาล หากเขาแลกเปลี่ยนมันกับหินวิญญาณ,เขาจะได้รับอย่างน้อย,สองพันหินวิญญาณระดับกลาง

ด้วยอันตราการบ่มเพาะพลังของเซียวเฉินในตอนนี้,เขาต้องใช้หินวิญญาณระดับกลางหนึ่งก้อนต่อวันหินวิญญาณระดับกลางสองพันก้อนจะเพียงพอสําหรับหกปี

แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะต้องใช้มากขึ้นในตอนที่การบ่มเพาะพลังของเขาสูงขึ้น,มันก็ยังเพียงพอสําหรับสองปีอย่างแน่นอนในตอนนี้เขายังมีหินวิญญาณระดับกลางมากกว่าห้าพันก่อนเขาสามารถใช้มันซื้ออะไรก็ได้ที่เขาต้องการ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองไปยังหม้อมังกรฟินิกซ์ที่หุ่นรบเกราะเงินกําลังแบกอยู่,เขาคิ้วขมวดเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไงในตอนนี้
หม้อมังกรฟินิกซ์ไม่อาจเก็บเอาไว้ในแหวนห้วงจักรวาล มันมีขนาดใหญ่มาก;วางเอาไว้ตรงไหนก็เป็นจุดสนใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+