Immortal and Martial Dual Cultivation 291 อาการบาดเจ็บของหรูเยว่
ตอนที่ 291 อาการบาดเจ็บของหรูเยว่
เป็นเพราะท่านเจ้ายอดเขาจะอยู่ที่อย่างน้อยระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง,สานุศิษย์ทั่วไปไม่อาจล้มพวกเขาลงได้มีเพียงอัจฉริยะระดับปีศาจเท่านั้นที่จะพอมีหนทางชนะ เป็นการยากยิ่งที่จะมีคนชนะในการท้าประลอง
หลิวหรูเยว่เป็นข้อยกเว้น นางสืบทอดตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาก่อนกําหนดเนื่องจากสถา นการณ์พิเศษของบิดาของนาง
หลิวสุยเฟิงกล่าว “นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมพี่สาวของข้าถึงได้เลบ่มเพาะพลังเป็นบ้าเป็นหลังในสองสามปีที่ผ่านมา,นางถูกท้าประลองถึงสามครั้งและเอาชนะมาได้อย่างไรก็ตาม,มู่หลงชงท้าประลองกับนางอย่างไม่คาดคิด”
เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดและถามขึ้น “มู่หลงชงแข็งแกร่งหรือ? ด้วยความแข็งแกร่งของหลิวหรู เยว่,นางยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา?”
หลิวสุยเฟิงกล่าวอย่างมืดมัว “เขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากในตอนที่เขาออกจากยอดเขาฉิง หยุนไปเมื่อสามปีก่อน,เขาพ่ายแพ้ให้กับพี่สาวของข้าเพียงกระบวณท่าเดียวตอนนี้สามปีได้ ผ่านไป,พี่สาวของข้าไม่มั่นใจอีกต่อไปแล้วว่าจะเอาชนะได้”
หลิวสุยเฟิงกล่าวอย่างงุนงง “พี่สาวหรูเยว่บาดเจ็บไม่ได้หมายความว่ามู่หลงชงชนะไปแล้ว?”
หลิวสุยเฟิงเหลียวมองไปที่เซียวเฉิน “ไม่ ตาม ธรรมเนียม,หากอาจารย์บาดเจ็บ, ศิษย์จะต้องมา แทนอาจารย์ ดังนั้น,หน้าที่ปกป้องยอดเขาฉิงหยุ นตกเป็นของเจ้า”
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น เขานิ่งอึ้งไปเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ประหลาดใจ ในที่สุด เขาก็เข้าใจว่าทําไมเหล่าสานุศิษย์พวกนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนั้นเมื่อเห็นเขากลับมา
อย่างไรก็ตาม,ตอบตามความจริงเซียวเฉินไม่มีความมั่นใจที่จะชนะมู่หลงชงเช่นกันในตอ นที่มู่หลงยังใช้ออกสับอาวยุใสที่ชายขอบนิกายมันมีการพัฒนาขึ้นมาอย่างชัดเจนความ เข้าใจในสภาวะแห่งสายลมของเขาเหนือกง่าเซี่ยวเฉินไปไกล
เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและกล่าว “ไม่เป็นไรอย่าเพิ่งไปคิดอะไร ข้าจะไปดูอาการพี่สาวหลิวหรูเยาก่อน”
ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคิดมากเป็นการดีที่เชี่ยวเฉินจะไปดูอาการของหลิวหรูเยว่ก่อนที่จะตัดสินใจทําอะไร
หลิวสุยเฟิงหยุดเซียวเฉินเอาไว้แล้วกล่าวขึ้น “เจ้าควรมาถายหลัง นางเพิ่งจะได้หลับไป นาง ไม่ค่อยได้กินอะไรมาสองสามวันแล้ว พวกเราควร ให้นางพักผ่อนไปก่อน”
เมื่อเซี่ยวเฉินดังฟังดังนั้น,เขารู้สึกเจ็บในใจเขาพยักหน้าเงียบๆ หลังจากที่หลิวสุยเฟิงจาก ไป,เขาจัดการกับบาดแผลของตัวเองและนั่งลงพยายามฟื้นฟูกลับไปสภาพเต็มร้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะทําเช่นไร,เขาไม่อาจสงบใจลงได้ หากเขายังเป็นเช่นนี้ต่อไป,เขาจะจบที่พลังฉีแตกคลั่ง
เซี่ยวเฉินเพียงช่วยไม่ได้ที่ต้องหยุดการบ่มเพาะพลังและนั่งอยู่ในลานบ้านอย่างโดดเดี่ยว
ภายในลานกว้าง,เซียวเฉินหยิบเอาบุปผาสกัดเอ็นออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของเขา เขายิ้มขึ้นบางเบาทุกสิ่งล้วนลึกลับราวกับสวรรค์ดลบัน ดาล
เซียวเฉินเพิ่งจะได้บุปผาสกัดเย็นมาจากทุ่งหญ้ามารอสูรก่อนที่เขาจะมีโอกาสเอาไว้ใช้ เอง,เขากลับได้ข่าวว่าหลิวหรูเยว่เส้นปราณฉีกขาด มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงๆ?
อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานการณ์ที่บุปผาสกัดเอ็นก็ไม่อาจรักษาได้ยกตัวอย่าง,หากเส้นปราณ สําคัญเก้าเส้นในร่างเกิดฉีกขาดแม้แต่เทพเจ้าเสด็จลงมา,เขาก็ไม่มีทางทําอะไรได้
หลิวสุยเฟิงจากไปอย่างเร่งรีบเขายังไม่ได้ไตร่ตรองถึงสิ่งนี้ในจังหวะนี้,เซี่ยวเฉินไม่อาจทําอะไรได้นอกจากเอาชนะความกังวลนี่จะต้องเป็นเหตุผลที่ว่าเขาไม่อาจสงบสติอารมณ์ลงได้
เมื่อพนะอาทิตย์ตกดิน,เชี่ยวเฉินนั่งอยู่ที่โต๊ะ หินและไตร่ตรอง
ทําไมเขาถึงได้ห่วงใยหลิวหรูเยวนัก ถึงจุดที่ว่าเขารู้สึกใจไม่ดีในตอนที่เขาอยู่ในทุ่งหญ้ามารอสูร,ที่ห่างออกไปจากศาบากระบี่สวรรค์หลายพันกิโลเมตร?
ช่างมันไม่ต้องไปครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน เซียวเฉอนส่ายหัวถอนหายใจ ปัญหาที่ไม่อาจคิดได้ตกก็ควรทิ้งเอาไว้ก่อนสักวันหนึ่งเดียวเขาก็เข้าใจได้ เอง
วิถีของเซี่ยวเฉินคืออย่าไปเสียเวลากับปัญหาที่แก้ไม่ตกอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะบอกกับตัวเองไม่ให้ไปครุ่นคิด,จิตใจของเขาก็ยังว้าวุ่นเขาไม่อาจสงบใจลงได้
ความสงบเยือกเย็นและจิตใจแน่วแน่ของเขาในอดีตได้หายไปหมดสิ้น
เซียวเฉินเพียงนั่งอยู่ที่โต๊ะหินขณะที่ค่ําคืนค่อยๆเข้ามาในที่สุด,เซียวเฉินไม่อาจอดทนได้ อีกต่อไปเขาดีดตัวออกจากพื้นกระโดดข้ามกําแพง,มุ่งหน้าไปที่ลานของหลิวหรูเยว่อย่าง รวดเร็ว
มีแสงจันทร์สาดส่องลงมา,เซียวเฉินในไม่ช้าก็มาถึงลานบ้านของหลิวหรูเยว่เขาลังเลครู่หนึ่งอยู่ที่หน้าประตูก่อนที่จะผลักประตูเปิดออกและเดินเข้าไป
“เย่เฉิน! เจ้ากลับมาเมื่อไหร่?”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะก้าวผ่านประตู,เขาเห็นหลิวหรูเยว่อยู่ในลานบ้านนางสวมชุดคลุมสีขาวและนั่งอยู่ที่โต๊ะหินในลานสีหน้าของนางเป็นกังวลอย่างชัดเจนแต่ในตอนที่นางเห็นเซียวเฉิน,ใบหน้าอันซีดขาวของนางเผยรอยยิ้มจางๆ
แสงจันทร์ฉายลงบนร่างอันละเอียดอ่อนของนางรวมกับชุดสีขาวและผิวสีซีดของนางทําให้ นางที่เดิมที่สวยเข้มดูละเอียดละออเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉินได้เห็นหลิวหรูเยว่สวมชุดคลุมในอดีตที่ผ่านมา,ทุกครั้งที่เขาพบนาง,นางจะสวมชุดผู้บ่มเพาะพลังหญิง
รูปลักษณ์ปกติของหลิวหนชรูเยวที่สง่างามให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและเด็ดขาด เหมือนกับไม่มีปัญหาอะไรที่เกินไปกว่ามือของนางเหมือนกับนางเติมเต็มไปด้วยความหลงไหล
ความแตกต่างจากตอนนี้มหาศาล;เซียวเฉินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาลืมจุดประสงค์ที่มาที่นี่ไปชั่วครู่เขาไม่รู้จะพูดอะไร
“เย่เฉิน, เจ้าบาดเจ็บ?” เมื่อหลิวหรูเยว่เห็นเซี่ยวเฉินที่ยืนอยู่ข้างนอก, ทันใดนั้นสีหน้าของ นางเปลี่ยนนางยืนขึ้นเพื่อเดินไปหาเซียวเฉิน
เซียวเฉินคืนสติและรีบตอบกลับ “แค่บาดแผลเล็กน้อย ไม่มีปัญหา!”
สีหน้าของหลิวหรูเยว่กลายเป็นมืดมัวและกล่าวขึ้น “อย่ามาโกหกข้า แม้ว่าข้าไม่ไร้พลังแล้ว,ข้าก็ ยังคงดูออกเอามาให้ข้าดู”
เซียวเฉินรู้สึกละอาย,และเขารีบเคลื่อตัวถอยหลัง “มันไม่มีอะไรจริงๆ พี่สาวหรูเยว่,ให้ข้าดูอาการบาดเจ็บของเจ้าก่อน”
หลิวหรูเยว่วางมือของนางลงบนหน้าอกของเซี่ยวเฉินและรู้ถึงตําแหน่งของบาดแผลได้ใน ทันทีนางสีหน้าเปลี่ยน,และกล่าวขึ้น “บาดแผล ห่างจากหัวใจไปเพียง 6.6 มิลลิเมตร หากมันใกล้กว่านี้อีกเล็กน้อย,อาจตายได้ทันทีนี่หรือบาดแผลเล็กน้อย? ใครเป็นคนทําเจ้า?”
เซี่ยวเฉินยิ้ม,เซี่ยวเฉินไม่อาจลอกหลิวหรูเยาได้ถึงความจริงเขากล่าว “เป็นกองโจรในทุ่ง หญ้ามารอสูร อย่างไรก็ตาม,ข้ามันดวงดีอยู่เสมอ ข้าไม่ตกตายลงง่ายๆ”
เซี่ยวเฉินเดินไปที่ด้านหลังของหลิวหรูเยว่และวางมือขวาของเขาลงบนไหล่ของนาง หลิวหรูเยวตัวสั่นเล็กน้อยที่จะกลับมาสงบอย่างรวดเร็ว
พลังปราณของเซี่ยวเฉินไหลเข้าไปในร่างของหลิวหรูเยวผ่านจากมือขวาของเขาจากนั้น,พลังปราณของเขาหมุนเวียนในเส้นปราณสําคัญทั้งเก้าของนางครบหนึ่งรอบหลังจากนั้น,เซียวเฉินก็ถอนกลับ,และถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลิวหรูเยว่หันกลับมาและยิ้มขึ้นจางๆ “ตอนนี้ข้ากลายเป็นพิการ ข้าไม่อาจชี้แนะเจ้าได้อีกต่อไป”
เซียวเฉินส่ายหัว เขาหยิบเอาบุปผาสกัดเอ็นออกมาจากแหวนหัวงจักรวาลและกล่าวขึ้น “ก็อาจ จะไม่เป็นเช่นนั้นดูนี่ก่อน”
“บุปผาสกัดเอ็น?” ใบหน้าของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยความตกตะลึง “เจ้าไปได้มาจากไหน?”
ทุกคนรู้ว่าอาการบาดเจ็บของเส้นปราณรักษาได้ยากเย็นที่สุด โดยปกติ, เมื่อเส้นปราณได้รับ ความเสียหายมันจะใช้เวลายาวนานในการรักษา
นอกจากนั้น ในกรณีของหลิวหรูเยว่,เส้นปราณขาดสะบั้น,นอกจากสมุนไพรระดับอมตะ,เม็ดยาทั่วไปไม่อาจรักษาได้
อย่างไรก็ตาม,สมุนไพรระดับอมตะมีให้รู้แต่ไม่มีให้หาในตอนนี้, สิ่งเดียวที่สามารถช่วยนาง ได้ก็คือบุปผาสกัดเอ็นดอกนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระดับขอบบุปผาสกัดเอ็นจะไม่สูงมากแต่หาได้ยากยอ่างมาก มันยังใช้เวลานานในการเติบโตถึงแม้ว่ามันจะปรากฎขึ้นมาใน การประมูล, มันก็เป็นไปได้ยากที่จะได้มาเป็นเพราะมันจะถูกฉวยเอาไปในเวลาอันสั้น
ดังนั้น,หลิวหรูเยว่จึงตกตะลึงที่เซียวเฉินได้รับมันมา
เซี่ยวเฉินไม่ตอบคําถาม เขายิ้มขึ้นอ่อนโยนและกล่าว “เส้นปราณหลักเก้าเส้นของเจ้าไม่เสีย หายด้วยบุปผาสกัดเอ็น,เจ้าน่าจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ภายในหนึ่งเดือนนอกจากนั้น,ความแข็งแกรงของเส้นปราณยังเพิ่มขึ้น”
หลิวหรูเยวรับเอาบุปผาสกัดเย็นมาและเผยสีหน้าเป็นสุขอย่างไรก็ตาม,นางก็เศร้าหมองใน ทันที นางกล่าว “หนึ่งเดือน..ไม่มีทางที่จะทันการประลองกับมู่หลงชง มันก็ยังสายไปอยู่ดี”
เซียวเฉินยิ้มและกล่าว“เจ้าไม่เชื่อใจในความแข็งแกร่งของข้า?”
เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินดังนั้น,นางนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยนางนึกถึงครั้งแรกที่นางได้พบกับเชี่ยวเฉิน,นางเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปไม่ถึงปี เซียวเฉินก้าวขึ้นจากระดับขอบเขตปรมาจารย์สู่ระดับ ขอบเขตนักบุญนอกจากนั้น,พลังต่อสู้ของเขายังไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น
พรสวรรค์เช่นนี้ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าของมู่หลงชังน่าเสียดาย,เขายังช้ากว่าไปหนึ่งก้าว เขา ไม่มีเวลามากพอให้เติบโต
นอกจากนั้น,การประลองระหว่างพวกเขายังไม่ใช่การประลองทั่วไป:มันเป็นการประลองถึงตาย หลิวหรูเยว่รู้ถึงนิสัยของมู่หลงชงชัดเจนเขาจะไม่ประมาทแม้แต่น้อย เซียวเฉินอยู่ในอันตราย
“พักผ่อนให้สบาย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร,ข้าจะช่วยเจ้าปกป้องยอดเขาฉิงหยุน,ถึง อย่างไรก็ข้าก็มาจากยอดเขาฉิงหยุนข้าขอตัวก่อน” เซี่ยวเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังจากที่เซียวเฉินพูดจบ,เขาหันหลังเตรียมจากไปขณะที่เขากําลังเดินผ่านประตู,หลิวหรูเยว่กล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม“เย่เฉิน,ขอบคุณ”
เซียวเฉินหยุดอยู่ครู่หนึ่ง,และรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็เพิ่ม ความเร็วและออกไปจากตรงนั้น
เซี่ยวเฉินกลับมาที่ลานของเขา เขานั่งลงบนเตียงในท่าขัดสมาธิจากนั้น,เขาหมุนเวียนพลังเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในทันที
ในเวลานี้ เซี่ยวเฉินนิ่งสงบราวกับน้ํานิ่งไม่มีเชคลื่นกระเพื่อมในใจของเขาแม้แต่น้อย จิตใจ ของเขาโล่งสบาย เขาค่อยๆหมุนเวียนพลังปราณและฟื้นฟูบาดแผลบนหน้าอกของเขาซ้ําๆ
พลังกายของเซียวเฉินแข็งแกร่งเป็นอย่างมากหลังจากที่เสริมพลังหลายครั้งและด้วยการช่วยเหลือของบุปผาเจ็ดกลีบ,พลังในการฟื้นฟูของเขานั้นมาถึงระดับที่น่าประทับใจ
ดาบไม่ได้แทงทะลุร่างของเขาโดยสมบูรณ์ หลังจากที่เซียวเฉินสงบลง,มันจะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบชั่วโมงสําหรับการรักษาอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่
สองวันผ่านไป,บาดแผลของเซี่ยวเฉินฟื้นฟูสมบูรณ์ ในตอนนั้นเอง,หลิวสุยเฟิงเข้ามาหาและ นําเอายาฟื้นฟูจํานวนมหาศาลมาจากยอดเขาสตรีหยกเซียวเฉินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ตามจริง,บาดแผลของเขาไม่ได้หนักหนาอะไรเพียงแต่มันใกล้หัวใจ อย่างไรก็ตาม ที่สําคัญคือ มันแค่ “เกือบ เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรรุนแรงเขาต้องหมุนเวียนพลังปราณเพียงช่วงเวลาหนึ่ง และ เขาจะฟื้นตัวกลับมาไม่จําเป็นต้องมียามากมายเช่นนี้
หลังจากอยู่เช่นนี้มาเป็นเวลาสองวัน,เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและผลักประตูออกไป แสงอาทิตย์สาดลงมาที่ใบหน้าของเขา,อากาศสดชื่นเข้ามาที่จมูก เขารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
“วันที่สิบห้า…ยังมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์มู่หลงชงได้เห็นไพ่ตายของข้าหมดแล้วนอกจากนั้น,ข้ายังไม่รู้ถึงไพ่ตายของเขา”
“ข้าจําเป็นต้องเรียนกระบวณท่าปลิดชีพของทักษะกระบหรูขุยและใช้มันเพื่อเป็นไพ่ตาย มิฉะนั้นจะไม่มีโอกาสที่จะชนะ ข้ายังเปลี่ยนไปใช้อัสนี้ฉับพลันคําราม หากข้าเปลี่ยนทักษะต่อสู้ หรับหลายเป้าหมายให้เป็นเป้าหมายเดียว,มันจะกลายเป็นไพ่ตายอีกหนึ่งไพ่ของข้า”
เซียวเฉินพึมพํากับตัวเองพร้อมกับมองไกลออกไป,มองดูแสงอาทิตย์บนท้องฟ้า
เมื่อเซี่ยวเฉินตัดสินใจได้แล้ว เขาก็เริ่มต้นเซียวเฉินเดินผ่านกําแพงลานของเขาและมุ่งหน้า ไปที่ด้านหลังภูเขาฉิงหยุนมีคนไม่มากที่ยอดเขาฉิงหยุน,ดังนั้น,ที่ด้านหลังเขาอันกว้างใหญ่จึงเงียบและสงบมันเหมาะเจาะสําหรับเซียวเฉินที่จะฝึกฝน
เซี่ยวเฉินมาถึงพื้นที่เปิดโล่งและฝึกฝนสามกระบวณท่าแรกของทักษะกระบหรูขุยเป็นอันดับแรก
“หวี่ขุยแพรวพราว!”
กระบวูบไหวในอากาศเก้าครั้ง,และกิ่งหรูขุยเก้าก้านปรากฏขึ้นมาในทันที กิ่งก้านต้นไม้เคลื่อนไปในอากาศอย่างโกลาหลที่ความเร็วระดับสายฟ้าพวกมันทะลวงผ่านมิติและทิ้งภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง
Comments
Immortal and Martial Dual Cultivation 291 อาการบาดเจ็บของหรูเยว่
ตอนที่ 291 อาการบาดเจ็บของหรูเยว่
เป็นเพราะท่านเจ้ายอดเขาจะอยู่ที่อย่างน้อยระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง,สานุศิษย์ทั่วไปไม่อาจล้มพวกเขาลงได้มีเพียงอัจฉริยะระดับปีศาจเท่านั้นที่จะพอมีหนทางชนะ เป็นการยากยิ่งที่จะมีคนชนะในการท้าประลอง
หลิวหรูเยว่เป็นข้อยกเว้น นางสืบทอดตําแหน่งท่านเจ้ายอดเขาก่อนกําหนดเนื่องจากสถา นการณ์พิเศษของบิดาของนาง
หลิวสุยเฟิงกล่าว “นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมพี่สาวของข้าถึงได้เลบ่มเพาะพลังเป็นบ้าเป็นหลังในสองสามปีที่ผ่านมา,นางถูกท้าประลองถึงสามครั้งและเอาชนะมาได้อย่างไรก็ตาม,มู่หลงชงท้าประลองกับนางอย่างไม่คาดคิด”
เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดและถามขึ้น “มู่หลงชงแข็งแกร่งหรือ? ด้วยความแข็งแกร่งของหลิวหรู เยว่,นางยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา?”
หลิวสุยเฟิงกล่าวอย่างมืดมัว “เขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากในตอนที่เขาออกจากยอดเขาฉิง หยุนไปเมื่อสามปีก่อน,เขาพ่ายแพ้ให้กับพี่สาวของข้าเพียงกระบวณท่าเดียวตอนนี้สามปีได้ ผ่านไป,พี่สาวของข้าไม่มั่นใจอีกต่อไปแล้วว่าจะเอาชนะได้”
หลิวสุยเฟิงกล่าวอย่างงุนงง “พี่สาวหรูเยว่บาดเจ็บไม่ได้หมายความว่ามู่หลงชงชนะไปแล้ว?”
หลิวสุยเฟิงเหลียวมองไปที่เซียวเฉิน “ไม่ ตาม ธรรมเนียม,หากอาจารย์บาดเจ็บ, ศิษย์จะต้องมา แทนอาจารย์ ดังนั้น,หน้าที่ปกป้องยอดเขาฉิงหยุ นตกเป็นของเจ้า”
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น เขานิ่งอึ้งไปเล็กน้อยอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ประหลาดใจ ในที่สุด เขาก็เข้าใจว่าทําไมเหล่าสานุศิษย์พวกนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนั้นเมื่อเห็นเขากลับมา
อย่างไรก็ตาม,ตอบตามความจริงเซียวเฉินไม่มีความมั่นใจที่จะชนะมู่หลงชงเช่นกันในตอ นที่มู่หลงยังใช้ออกสับอาวยุใสที่ชายขอบนิกายมันมีการพัฒนาขึ้นมาอย่างชัดเจนความ เข้าใจในสภาวะแห่งสายลมของเขาเหนือกง่าเซี่ยวเฉินไปไกล
เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและกล่าว “ไม่เป็นไรอย่าเพิ่งไปคิดอะไร ข้าจะไปดูอาการพี่สาวหลิวหรูเยาก่อน”
ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคิดมากเป็นการดีที่เชี่ยวเฉินจะไปดูอาการของหลิวหรูเยว่ก่อนที่จะตัดสินใจทําอะไร
หลิวสุยเฟิงหยุดเซียวเฉินเอาไว้แล้วกล่าวขึ้น “เจ้าควรมาถายหลัง นางเพิ่งจะได้หลับไป นาง ไม่ค่อยได้กินอะไรมาสองสามวันแล้ว พวกเราควร ให้นางพักผ่อนไปก่อน”
เมื่อเซี่ยวเฉินดังฟังดังนั้น,เขารู้สึกเจ็บในใจเขาพยักหน้าเงียบๆ หลังจากที่หลิวสุยเฟิงจาก ไป,เขาจัดการกับบาดแผลของตัวเองและนั่งลงพยายามฟื้นฟูกลับไปสภาพเต็มร้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะทําเช่นไร,เขาไม่อาจสงบใจลงได้ หากเขายังเป็นเช่นนี้ต่อไป,เขาจะจบที่พลังฉีแตกคลั่ง
เซี่ยวเฉินเพียงช่วยไม่ได้ที่ต้องหยุดการบ่มเพาะพลังและนั่งอยู่ในลานบ้านอย่างโดดเดี่ยว
ภายในลานกว้าง,เซียวเฉินหยิบเอาบุปผาสกัดเอ็นออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของเขา เขายิ้มขึ้นบางเบาทุกสิ่งล้วนลึกลับราวกับสวรรค์ดลบัน ดาล
เซียวเฉินเพิ่งจะได้บุปผาสกัดเย็นมาจากทุ่งหญ้ามารอสูรก่อนที่เขาจะมีโอกาสเอาไว้ใช้ เอง,เขากลับได้ข่าวว่าหลิวหรูเยว่เส้นปราณฉีกขาด มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงๆ?
อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานการณ์ที่บุปผาสกัดเอ็นก็ไม่อาจรักษาได้ยกตัวอย่าง,หากเส้นปราณ สําคัญเก้าเส้นในร่างเกิดฉีกขาดแม้แต่เทพเจ้าเสด็จลงมา,เขาก็ไม่มีทางทําอะไรได้
หลิวสุยเฟิงจากไปอย่างเร่งรีบเขายังไม่ได้ไตร่ตรองถึงสิ่งนี้ในจังหวะนี้,เซี่ยวเฉินไม่อาจทําอะไรได้นอกจากเอาชนะความกังวลนี่จะต้องเป็นเหตุผลที่ว่าเขาไม่อาจสงบสติอารมณ์ลงได้
เมื่อพนะอาทิตย์ตกดิน,เชี่ยวเฉินนั่งอยู่ที่โต๊ะ หินและไตร่ตรอง
ทําไมเขาถึงได้ห่วงใยหลิวหรูเยวนัก ถึงจุดที่ว่าเขารู้สึกใจไม่ดีในตอนที่เขาอยู่ในทุ่งหญ้ามารอสูร,ที่ห่างออกไปจากศาบากระบี่สวรรค์หลายพันกิโลเมตร?
ช่างมันไม่ต้องไปครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน เซียวเฉอนส่ายหัวถอนหายใจ ปัญหาที่ไม่อาจคิดได้ตกก็ควรทิ้งเอาไว้ก่อนสักวันหนึ่งเดียวเขาก็เข้าใจได้ เอง
วิถีของเซี่ยวเฉินคืออย่าไปเสียเวลากับปัญหาที่แก้ไม่ตกอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะบอกกับตัวเองไม่ให้ไปครุ่นคิด,จิตใจของเขาก็ยังว้าวุ่นเขาไม่อาจสงบใจลงได้
ความสงบเยือกเย็นและจิตใจแน่วแน่ของเขาในอดีตได้หายไปหมดสิ้น
เซียวเฉินเพียงนั่งอยู่ที่โต๊ะหินขณะที่ค่ําคืนค่อยๆเข้ามาในที่สุด,เซียวเฉินไม่อาจอดทนได้ อีกต่อไปเขาดีดตัวออกจากพื้นกระโดดข้ามกําแพง,มุ่งหน้าไปที่ลานของหลิวหรูเยว่อย่าง รวดเร็ว
มีแสงจันทร์สาดส่องลงมา,เซียวเฉินในไม่ช้าก็มาถึงลานบ้านของหลิวหรูเยว่เขาลังเลครู่หนึ่งอยู่ที่หน้าประตูก่อนที่จะผลักประตูเปิดออกและเดินเข้าไป
“เย่เฉิน! เจ้ากลับมาเมื่อไหร่?”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังจะก้าวผ่านประตู,เขาเห็นหลิวหรูเยว่อยู่ในลานบ้านนางสวมชุดคลุมสีขาวและนั่งอยู่ที่โต๊ะหินในลานสีหน้าของนางเป็นกังวลอย่างชัดเจนแต่ในตอนที่นางเห็นเซียวเฉิน,ใบหน้าอันซีดขาวของนางเผยรอยยิ้มจางๆ
แสงจันทร์ฉายลงบนร่างอันละเอียดอ่อนของนางรวมกับชุดสีขาวและผิวสีซีดของนางทําให้ นางที่เดิมที่สวยเข้มดูละเอียดละออเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฉินได้เห็นหลิวหรูเยว่สวมชุดคลุมในอดีตที่ผ่านมา,ทุกครั้งที่เขาพบนาง,นางจะสวมชุดผู้บ่มเพาะพลังหญิง
รูปลักษณ์ปกติของหลิวหนชรูเยวที่สง่างามให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและเด็ดขาด เหมือนกับไม่มีปัญหาอะไรที่เกินไปกว่ามือของนางเหมือนกับนางเติมเต็มไปด้วยความหลงไหล
ความแตกต่างจากตอนนี้มหาศาล;เซียวเฉินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาลืมจุดประสงค์ที่มาที่นี่ไปชั่วครู่เขาไม่รู้จะพูดอะไร
“เย่เฉิน, เจ้าบาดเจ็บ?” เมื่อหลิวหรูเยว่เห็นเซี่ยวเฉินที่ยืนอยู่ข้างนอก, ทันใดนั้นสีหน้าของ นางเปลี่ยนนางยืนขึ้นเพื่อเดินไปหาเซียวเฉิน
เซียวเฉินคืนสติและรีบตอบกลับ “แค่บาดแผลเล็กน้อย ไม่มีปัญหา!”
สีหน้าของหลิวหรูเยว่กลายเป็นมืดมัวและกล่าวขึ้น “อย่ามาโกหกข้า แม้ว่าข้าไม่ไร้พลังแล้ว,ข้าก็ ยังคงดูออกเอามาให้ข้าดู”
เซียวเฉินรู้สึกละอาย,และเขารีบเคลื่อตัวถอยหลัง “มันไม่มีอะไรจริงๆ พี่สาวหรูเยว่,ให้ข้าดูอาการบาดเจ็บของเจ้าก่อน”
หลิวหรูเยว่วางมือของนางลงบนหน้าอกของเซี่ยวเฉินและรู้ถึงตําแหน่งของบาดแผลได้ใน ทันทีนางสีหน้าเปลี่ยน,และกล่าวขึ้น “บาดแผล ห่างจากหัวใจไปเพียง 6.6 มิลลิเมตร หากมันใกล้กว่านี้อีกเล็กน้อย,อาจตายได้ทันทีนี่หรือบาดแผลเล็กน้อย? ใครเป็นคนทําเจ้า?”
เซี่ยวเฉินยิ้ม,เซี่ยวเฉินไม่อาจลอกหลิวหรูเยาได้ถึงความจริงเขากล่าว “เป็นกองโจรในทุ่ง หญ้ามารอสูร อย่างไรก็ตาม,ข้ามันดวงดีอยู่เสมอ ข้าไม่ตกตายลงง่ายๆ”
เซี่ยวเฉินเดินไปที่ด้านหลังของหลิวหรูเยว่และวางมือขวาของเขาลงบนไหล่ของนาง หลิวหรูเยวตัวสั่นเล็กน้อยที่จะกลับมาสงบอย่างรวดเร็ว
พลังปราณของเซี่ยวเฉินไหลเข้าไปในร่างของหลิวหรูเยวผ่านจากมือขวาของเขาจากนั้น,พลังปราณของเขาหมุนเวียนในเส้นปราณสําคัญทั้งเก้าของนางครบหนึ่งรอบหลังจากนั้น,เซียวเฉินก็ถอนกลับ,และถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลิวหรูเยว่หันกลับมาและยิ้มขึ้นจางๆ “ตอนนี้ข้ากลายเป็นพิการ ข้าไม่อาจชี้แนะเจ้าได้อีกต่อไป”
เซียวเฉินส่ายหัว เขาหยิบเอาบุปผาสกัดเอ็นออกมาจากแหวนหัวงจักรวาลและกล่าวขึ้น “ก็อาจ จะไม่เป็นเช่นนั้นดูนี่ก่อน”
“บุปผาสกัดเอ็น?” ใบหน้าของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยความตกตะลึง “เจ้าไปได้มาจากไหน?”
ทุกคนรู้ว่าอาการบาดเจ็บของเส้นปราณรักษาได้ยากเย็นที่สุด โดยปกติ, เมื่อเส้นปราณได้รับ ความเสียหายมันจะใช้เวลายาวนานในการรักษา
นอกจากนั้น ในกรณีของหลิวหรูเยว่,เส้นปราณขาดสะบั้น,นอกจากสมุนไพรระดับอมตะ,เม็ดยาทั่วไปไม่อาจรักษาได้
อย่างไรก็ตาม,สมุนไพรระดับอมตะมีให้รู้แต่ไม่มีให้หาในตอนนี้, สิ่งเดียวที่สามารถช่วยนาง ได้ก็คือบุปผาสกัดเอ็นดอกนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระดับขอบบุปผาสกัดเอ็นจะไม่สูงมากแต่หาได้ยากยอ่างมาก มันยังใช้เวลานานในการเติบโตถึงแม้ว่ามันจะปรากฎขึ้นมาใน การประมูล, มันก็เป็นไปได้ยากที่จะได้มาเป็นเพราะมันจะถูกฉวยเอาไปในเวลาอันสั้น
ดังนั้น,หลิวหรูเยว่จึงตกตะลึงที่เซียวเฉินได้รับมันมา
เซี่ยวเฉินไม่ตอบคําถาม เขายิ้มขึ้นอ่อนโยนและกล่าว “เส้นปราณหลักเก้าเส้นของเจ้าไม่เสีย หายด้วยบุปผาสกัดเอ็น,เจ้าน่าจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ภายในหนึ่งเดือนนอกจากนั้น,ความแข็งแกรงของเส้นปราณยังเพิ่มขึ้น”
หลิวหรูเยวรับเอาบุปผาสกัดเย็นมาและเผยสีหน้าเป็นสุขอย่างไรก็ตาม,นางก็เศร้าหมองใน ทันที นางกล่าว “หนึ่งเดือน..ไม่มีทางที่จะทันการประลองกับมู่หลงชง มันก็ยังสายไปอยู่ดี”
เซียวเฉินยิ้มและกล่าว“เจ้าไม่เชื่อใจในความแข็งแกร่งของข้า?”
เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินดังนั้น,นางนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยนางนึกถึงครั้งแรกที่นางได้พบกับเชี่ยวเฉิน,นางเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปไม่ถึงปี เซียวเฉินก้าวขึ้นจากระดับขอบเขตปรมาจารย์สู่ระดับ ขอบเขตนักบุญนอกจากนั้น,พลังต่อสู้ของเขายังไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้น
พรสวรรค์เช่นนี้ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าของมู่หลงชังน่าเสียดาย,เขายังช้ากว่าไปหนึ่งก้าว เขา ไม่มีเวลามากพอให้เติบโต
นอกจากนั้น,การประลองระหว่างพวกเขายังไม่ใช่การประลองทั่วไป:มันเป็นการประลองถึงตาย หลิวหรูเยว่รู้ถึงนิสัยของมู่หลงชงชัดเจนเขาจะไม่ประมาทแม้แต่น้อย เซียวเฉินอยู่ในอันตราย
“พักผ่อนให้สบาย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร,ข้าจะช่วยเจ้าปกป้องยอดเขาฉิงหยุน,ถึง อย่างไรก็ข้าก็มาจากยอดเขาฉิงหยุนข้าขอตัวก่อน” เซี่ยวเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังจากที่เซียวเฉินพูดจบ,เขาหันหลังเตรียมจากไปขณะที่เขากําลังเดินผ่านประตู,หลิวหรูเยว่กล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม“เย่เฉิน,ขอบคุณ”
เซียวเฉินหยุดอยู่ครู่หนึ่ง,และรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็เพิ่ม ความเร็วและออกไปจากตรงนั้น
เซี่ยวเฉินกลับมาที่ลานของเขา เขานั่งลงบนเตียงในท่าขัดสมาธิจากนั้น,เขาหมุนเวียนพลังเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในทันที
ในเวลานี้ เซี่ยวเฉินนิ่งสงบราวกับน้ํานิ่งไม่มีเชคลื่นกระเพื่อมในใจของเขาแม้แต่น้อย จิตใจ ของเขาโล่งสบาย เขาค่อยๆหมุนเวียนพลังปราณและฟื้นฟูบาดแผลบนหน้าอกของเขาซ้ําๆ
พลังกายของเซียวเฉินแข็งแกร่งเป็นอย่างมากหลังจากที่เสริมพลังหลายครั้งและด้วยการช่วยเหลือของบุปผาเจ็ดกลีบ,พลังในการฟื้นฟูของเขานั้นมาถึงระดับที่น่าประทับใจ
ดาบไม่ได้แทงทะลุร่างของเขาโดยสมบูรณ์ หลังจากที่เซียวเฉินสงบลง,มันจะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบชั่วโมงสําหรับการรักษาอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่
สองวันผ่านไป,บาดแผลของเซี่ยวเฉินฟื้นฟูสมบูรณ์ ในตอนนั้นเอง,หลิวสุยเฟิงเข้ามาหาและ นําเอายาฟื้นฟูจํานวนมหาศาลมาจากยอดเขาสตรีหยกเซียวเฉินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ตามจริง,บาดแผลของเขาไม่ได้หนักหนาอะไรเพียงแต่มันใกล้หัวใจ อย่างไรก็ตาม ที่สําคัญคือ มันแค่ “เกือบ เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรรุนแรงเขาต้องหมุนเวียนพลังปราณเพียงช่วงเวลาหนึ่ง และ เขาจะฟื้นตัวกลับมาไม่จําเป็นต้องมียามากมายเช่นนี้
หลังจากอยู่เช่นนี้มาเป็นเวลาสองวัน,เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและผลักประตูออกไป แสงอาทิตย์สาดลงมาที่ใบหน้าของเขา,อากาศสดชื่นเข้ามาที่จมูก เขารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
“วันที่สิบห้า…ยังมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์มู่หลงชงได้เห็นไพ่ตายของข้าหมดแล้วนอกจากนั้น,ข้ายังไม่รู้ถึงไพ่ตายของเขา”
“ข้าจําเป็นต้องเรียนกระบวณท่าปลิดชีพของทักษะกระบหรูขุยและใช้มันเพื่อเป็นไพ่ตาย มิฉะนั้นจะไม่มีโอกาสที่จะชนะ ข้ายังเปลี่ยนไปใช้อัสนี้ฉับพลันคําราม หากข้าเปลี่ยนทักษะต่อสู้ หรับหลายเป้าหมายให้เป็นเป้าหมายเดียว,มันจะกลายเป็นไพ่ตายอีกหนึ่งไพ่ของข้า”
เซียวเฉินพึมพํากับตัวเองพร้อมกับมองไกลออกไป,มองดูแสงอาทิตย์บนท้องฟ้า
เมื่อเซี่ยวเฉินตัดสินใจได้แล้ว เขาก็เริ่มต้นเซียวเฉินเดินผ่านกําแพงลานของเขาและมุ่งหน้า ไปที่ด้านหลังภูเขาฉิงหยุนมีคนไม่มากที่ยอดเขาฉิงหยุน,ดังนั้น,ที่ด้านหลังเขาอันกว้างใหญ่จึงเงียบและสงบมันเหมาะเจาะสําหรับเซียวเฉินที่จะฝึกฝน
เซี่ยวเฉินมาถึงพื้นที่เปิดโล่งและฝึกฝนสามกระบวณท่าแรกของทักษะกระบหรูขุยเป็นอันดับแรก
“หวี่ขุยแพรวพราว!”
กระบวูบไหวในอากาศเก้าครั้ง,และกิ่งหรูขุยเก้าก้านปรากฏขึ้นมาในทันที กิ่งก้านต้นไม้เคลื่อนไปในอากาศอย่างโกลาหลที่ความเร็วระดับสายฟ้าพวกมันทะลวงผ่านมิติและทิ้งภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง
Comments