Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง

เยว่เฉินซีเหลียวมองมาที่เซี่ยวเย็นก่อนที่จะกระซุบกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของชายชราคนนั้น

หลังจากที่ชายชราได้ฟังนาง,เขามองมาทางเซี่ยวเฉินอย่างสนอกสนใจ มันรู้สึกราวกับสายตาของเขาสามารถมองผ่านความลวงทั้งหมดในโลกใบนี้ขณะที่เขากําลังตรวจสอบเซี่ยวเฉิน

สายตาของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง เขารู้สึกถึงพลังงาจิตอันมหาศาลของอีกฝ่ายและอยากที่จะป้องกันมันด้วยสัมผัสวิญญาณของเขา

อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉันคิดขึ้นได้ว่า หากขอบเขตปราชญ์ยุทธผู้นี้อยากที่จะตรวจสอบตัวเขา,สัมผัสวิญญาณของเขาไม่เพียงพอที่จะหยุดเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะหยุดเอาไว้ได้สําเร็จ,มันจะยิ่งดึงความสนใจของอีกฝ่าย นี่จะเป็นผลให้อีกฝ่ายมองหาวิธีอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์,ไม่มีความจําเป็นที่จะป้องกัน มันยากเกินไปที่จะเก็บความลับจากขอบเขตปราชญ์ยุทธ

“ซิ่ว!”

ชายชราถอนสายตาของเขากลับมาและเผยท่าที่ครุ่นคิด เขาครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง,ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่แปลกประหลาด ข้าไม่สามารถมองเห็นจิตวิญญาณยุทธของเขา

“อาจารย์ลุงหนึ่ง,เขาเป็นอย่างไรไร?” เยว่เฉินซีถามขึ้นอย่างคาดหวัง

ชายชรายิ้มและพยักหน้า “ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นที่อายุสิบแปด ผู้บ่มเพาะพลังเช่นนี้นับได้ว่าอยู่ในระดับทั่วไปในอาณาจักรตาฉัน แต่อย่างไรก็ตาม,เขาได้สําเร็จสองสภาวะในเวลาเดียวกัน นับจากตรงนี้ เขามีคุณสมบัติที่จะนับว่าอัจฉริยะ”

“ฮ่าฮ่า,นั้นยังไม่ใช่ส่วนสําคัญที่สุด”

เยว่เฉินซีถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ “แล้วมันคืออะไร?”

ชายชรากล่าวต่อ “ข้าจะพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวที่หลัง อย่างไรก็เถอะ,เจ้านับว่าตามีแวว เขาเป็นคนที่ผู้เฒ่าคนนี้กําลังมองหา”

เยว่เฉินซีเผยสีหน้ามีความสุข อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นางเผยสีหน้าหมดหนทางออกมา “เจ้าหมอนี่ดูเหมือนจะไม่ขยับไปกับคําโน้มน้าว หลงจากที่ข้าโฆษณานิกายอยู่นาน,เขาไม่มีทีท่าว่าจะตกลงหรือปฏิเสธเลย”

ชายชรายิ้มและกล่าวขึ้นเบาๆ “เขามีความเฉลียวฉลาด ให้ข้าคุยกับเขาเอง”

เซี่ยวเฉินกับเสี่ยวไป๋อยู่ห่างจากชายชราคนนั้นมาสองร้อยเมตร ตามจริง,ด้วยระยะเพียงเท่านี้,พวกเขาควรจะได้ยินการสนทนาระหว่างชายชราและเยว่เฉินซี

อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าทําไมเซี่ยวเฉินถึงไม่อาจได้ยินอะไรเลย นอกจากนั้น ในตอนที่เขามองไปร่างของพวกเขาดูเลือนลาง

ดังนั้น,เซี่ยวเฉินไม่สามารถคาดเดาจากฝีปากได้ว่าพวกเขากําลังพูดคุยอะไร

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังครุ่ยคิดถึงเรื่องนี้,ชายชราและเยว่เฉินซีปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา เขารวบรวมความคิดและคํานับมือ เขากล่าว “ข้าน้อยเซี่ยวเฉินคารวะผู้อาวุโส ผู้อาวุโสให้ข้าทราบนามอันยอดยเยี่ยมของท่านได้หรือไม่?”

ชานชราตรวจดูเซี่ยวเฉินในระยะใกล้ ในตอนที่เขาเห็นว่าอารมณ์ของเซี่ยวเฉินไม่มร ผันผวน,แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับตัวเขา,เขาชื่นชมเซี่ยวเฉินอยู่ในใจ

“ข้าไม่กล้าอ้างตัวเองว่ายอดเยี่ยม,แต่ข้านามว่ากหยิง,เพียงคนต่ําต้อยในนิกายนภาสูง หากสหายน้อยไม่ว่าอะไร,เจ้าสามารถเรียกข้าว่าผู้อาวุโสกู”

เซายวี่เฉินพยักหน้าและกล่าว “ขอบคุณผู้อาวุโสก่มากที่ช่วยเหลือ มิฉะนั้น พวกเราคงติดอยู่ที่เกาะอห่งนี้ถึงหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น”

คู่หยิ่งโบกมืออย่างไม่ถือและกล่าว “นั้นไม่อาจนับได้ว่าช่วยเหลือเพียงแต่เป็นผลประโยชน์ หากข้าคาดเดาไม่ผิด,เจ้าเริ่มบ่มเพาะพลังอย่างจริงจังเพียงสองปีก่อน ใช่หรือไม่?”

ในตอนที่สิ้นเสียงของคู่หยิง,ไม่เพียงแค่เซี่ยวเฉินที่ตกตะลึง,แต่รวมถึงเยว่เฉินซีที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา ปากของนางเปิดค้าง,ไม่อาจหุบกลับได้

หรือนี่จะเป็นเรื่องสําคัญที่สุดที่ท่านอาจารย์ลุงหนึ่งพูดถึง? บ่มเพาะพลังถึงขอบเขตกษัตริย์ภายในสองปี…พรสวรรค์เช่นนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง

เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าสายตาของคู่หยิ่งจะเฉียบคมถึงเพียงนี้ คู่หยิงสามารถเผยข้อมูลนี้ของเขาออกมาได้ เขาทําได้เพียงหยักหน้ารับ

คู่หยิ่งยิ้มเบาๆและกล่าว “เจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาด;ข้าจะไม่อ้อมค้อม ตอนนี้เป็นยุคทองของเหล่าผู้บ่มเพาะพลังที่ไม่ได้ปรากฏให้เห็นมานับพันปีแล้ว มีอัจฉริยะจากขุมอํานาจชั้นยอดต่างๆ ไม่เลือกเข้าร่วมนิกายนภาสูงอย่างหูตามืดบอดนับว่าเป็นการกระทําที่ฉลาด”

“อย่างไรก็ตาม,ข้าเลขอเตือนเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่ง ก่อนที่จะถึงการประลองรุ่นเยาว์หาอาณาจักรครั้งหน้า,เจ้าควรจะเลือกข้างที่จะยืนอยู่ด้วยเสีย นั้นจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า ระบเอาไว้! นี่เป็นของรางวัลสําหรับการช่วยเหลือแม่หนูคนนี้”

คู่หยิ่งโยนเหรียญโลหะแพรวพราวมา เซี่ยวเฉินเพียงรับมันมามองดู มีคําว่า สูง อยู่ที่ด้านหน้า,และด้านหลังมีคําว่า “ฟ้าใส

เหรียญสีทองอันนี้ดูเหมือนจะมีพลังงานลึกลับ ในตอนที่เซี่ยวเฉินถือมันเอาไว้ในมือ,เขารู้สึกถึงความอบอุ่น มีเส้นสายพลังงานอ่อนโยนออกมา นี่มันทําให้เซี่ยวเฉินสงบลงและผ่อนคลาย

มองเห็นเซี่ยวเฉินรับเหรียญเอาไว้ ก่หยิ่งยิ้ม “ข้าขอตัวก่อน หากเจ้ามาที่อาณาจักรต้าฉันในภายภาคหน้า,มาเยี่ยมเยือนที่นิกายนภาสูง ผู้เฒ่าผู้นี้จะต้อนรับเจ้าอย่างดีที่สุด”

เซี่ยวเฉินเก็บเหรียญไปและคํานับมือ “ผู้อาวุโส,เดินทางปลอดภัย!”

ภายในทันที กูหยิงเคลื่อนไปไกลหนึ่งพันเมตรในทุกยาางก้าวขณะที่อุ้มเยว่เฉินซีไปด้วย หลังจากสองสามก้าว,เขาหายลับไปจากสายตาของเซี่ยวเฉิน

ขณะที่เซี่ยวเฉินมองดูทั้งสองจากไป,เขาพึมพํากับตัวเอง “ตามที่ตํานานกล่าวเอาไว้,ทุกการกระทําของขอบเขตปราชญ์ยุทธจะส่งผลต่อกฎแห่งธรรมชาติ จากที่เห็นในวันนี้ ดูเหมือนตํานานจะเป็นจริง”

กูหยิงอุ้มเยว่เฉินซีและเคลื่อนผ่านไปบนท้องฟ้า,เคลื่อนที่ไกลหนึ่งพันเมตรในทุกอย่างก้าว

“อาจารย์ลุงหนึ่ง,ทําไมท่านไม่ชักชวนให้เขาเข้าร่วมนิกายนภาสูง?” เยว่เฉินซีรู้สึกงุนงงพร้อมกับถามขึ้น

คู่หยิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “ไม่เป็นไรตราบใดที่เขารับเหรียญฟ้าใสไป” ผู้อาวุโสถอนหายใจ “ทุกอย่างเกี่ยวกับเข้าล้วนดีเยี่ยม,แต่ความคิดของเจ้าเรียบงาายและบริสุทธิ์เกินไป มิฉะนั้น,เจ้าหนุ่มนั้นคงไม่ทําให้เจ้าหมดท่าเช่นนี้”

เซี่ยวเฉินถอนสายตากลับมาและยิ้มไปที่เสี่ยวไป์ “เสี่ยวไป,ได้เวลาพวกเราออกไปแล้วเหมือนกัน!”

ทั้งสองเคลื่อนไปที่ช่องว่างบนคลื่นยักษ์อย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป,ช่องว่างบนคลื่นยักษ์ก็ปิดลง

คลื่นยักษ์ลงมาปิดผนึกเกาะเชียนเหลิ่นอีกครั้ง มันจะเปิดขึ้นอีกในสองสามปี แต่อย่างไรก็ตาม,คงมีคนเพียงเล็กน้อยที่จะมาเยือนในตอนนั้น

เซี่ยวเฉินและเสี่ยวไป๋พูดคุยกันขณะที่เดินไปบนทะเล ด้วยขอบเขตพลังของพวกเขาในตอนนี้ มันไม่ยากเย็นที่พวกเขาจะเดินบนผิวน้ํา

เสี่ยวไป๋กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล “ข้าบ่มเพาะทักษะดาบแสงไหลที่ท่านมอบให้ถึงชั้นที่ห้าแล้วในอนาคต เสี่ยวไปไม่เกรงกลัวคนไม่ดีอีกต่อไป ดังนั้น พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน,อย่าได้ปฏิบัติกับข้าเหมือนเป็นภาระอีกเลย”

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดวงตาของเสี่ยวไป๋แดงเล็กน้อย,เขานั่งอึ้งไป เสี่ยวไปไม่ใช่จิ้งจอกน้อยที่ไม่เข้าใจโลกอีกต่อไปแล้ว

ความคิดของเสียวไปค่อยๆกลายเป็นผู้ใหญ่ นางมีความคิดเป็นของตัวเองและกระทําตามความตั้งใจของตัวเอง

เซี่ยวเฉินลูบหัวเสี่ยวไปและยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวไปจะเป็นภาระไปได้อย่างไร? เจ้าช่วยข้าเก็บสมุนไพรมากมายและช่วยชีวิตข้ามาก็หลายครั้ง ตอนนี้,เจ้ายังแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้า”

เซี่ยวเฉินหยุดไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ทะเลอันสงบและพึมพํา “อย่างไรก็ตาม,ข้าติดค้างเจ้ มากเกินไป หากข้าปล่อยให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ,ข้าจะรู้สึกผิดอย่างยิ่ง”

ในตอนที่เสี่ยวไปเกิดมา, เซี่ยวเฉินได้พรากนางมาจากแม่ แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้าย,และเขาต้องช่วยนางจากคนตระกูลถัง,เขาก็ได้ทําเรื่องเห็นแก่ตัวลงไป มิฉะนั้น,เขาคงไม่ส่งมอบทักษะบ่มเพาะให้กับแม่ของนางเป็นการตอบแทน

ที่ด้านนอกเมืองไปสู่ย,เจ้าหนูน้อยนช่วยเซาววเฉินเอาไว้ นางไม่ค่นึงถึงความปลอดภัยของนางและช่วยเซี่ยวเฉินจากฮวาหยุนเฟยและตัวนมู่ฉิง

หลังจากนั้น เสี่ยวไปก็พาร่างที่เหนื่อยล้าของนางไปทั่วป่าอ่ามหิต

แม้ว่าจะมีอันตรายมากมายและสัตว์อสูรวิญญาณดีร้ายอยู่ภายในป่า,เสี่ยวไปก็ไปเก็บสมุนไพรมาเพื่อรักษาเซี่ยวเฉิน

ตั้งแต่ตอนนั้น,เซี่ยวเฉินก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่มองเสี่ยวไปเป็นสัตว์เลี้ยง และเขาจะไม่ปล่อยให่นางต้องบาดเจ็บเพื่อเขา

หลังจากที่เสี่ยวไป๋เผลี่ยนร่างเป็นมนุษย์,เซี่ยวเฉินรู้สึกผิด เขาตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้เสี่ยวไป๋ต้องประสบอันตราย

ดังนั้น,เซี่ยวเฉินไม่มีทางมองเสี่ยวไปเป็นภาระ

ดวงตาของเสี่ยวไป๋น้ําตาคลอเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวขึ้นเบาๆ “จริงหรือ, พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน?!”

เซี่ยวเฉินกล่าว “จริงเสียยิ่งกว่าจริง ไปกันเถอะ มาแข่งกันว่าใครจะไปถึงเกาะสายลมขจีก่อนกัน หากเจ้าไปถึงก่อน ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้า”

เสี่ยวไป๋สูดจมูกและยิ้มขึ้น “ได้ เสี่ยวไปวิ่งเร็วมาก พี่ใหญ่เซี่ยวเฉินไม่มีทางไล่ข้าทัน”

“บูม! บูม!”

ในตอนนั้นเอง,มีคลื่นยักษ์สูงฟนึ่งพันเมตรขึ้นมาล้อมรอบทั้งสอง

มีคลื่นใต้น้ําแข็งแกร่งกวาดผ่านท้องทะเลที่เคยนิ่งสงบพุ่งขึ้นไปที่ทคลื่น,ทําให้พวกมันพุ่งสูงขึ้นไปอีกหนึ่งพันเมตรภายในพริบตา

นอกเสียจากขอบเขตปราชญ์ยุทธหรือสูงกว่า,ไม่มีใครที่ทําได้เช่นนี้

เซี่ยวเฉินมีสหน้าช่วยไม่ได้พร้อมกับรู้สึกไร้พลัง เขาเจอเข้ากับขอบเขตปราชญ์ยุทธสองคนในวันเดียว

น่อหนาขอบเขตปราชญ์ยุทธ,พวกเขาทั้งสองไม่มีโอกาสรอด อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือจู่โจม เห็นชัดว่าสถานการณ์สามารถพลิกกลับ

เซี่ยวเฉินเหลียวมองไปทั่วทะเลที่ว่างเปล่า เขาตะโกนขึ้น “ข้าน้อยขอทราบได้หรือไม่ว่าท่านเป็นใคร?! ทําไมถึงได้ขัดขวางทางของข้า?!”

“ฟุ! ฟุ!”

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าบางเบาดังมาจากทะเลด้านหลังของพวกเขา

เซี่ยวเฉินหันกลับไป,และเห็นสองร่างเลือนลางปรากฏขึ้น คนหนึ่งเป็นบุรุษและอีกคนหนึ่งเป็นสตรี,ทั้งคู่แต่งชุดสีขาว

ในตอนที่เซี่ยวเฉินเข้าใกล้,เขาเห็นรูปร่างของพวกเขาได้ชัดเจน บุรุษดูอายุผระมาณสามสิบ และหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง และดวงตาของเขาลึกล้ํานาาหลงไหล

บรุษผู้นี้สามารถทําให้หญิงสาวบ้าคลั่ง เซี่ยวเฉินไม่เคยเห็นใครที่หล่อเหลาเพียงนี้มาก่อน เขาดึงเสน่ห์ของบุรุษออกมาได้อย่างเต็มที่

ทางฝั่งสตรีก็ดูอายุประมาณสามสิบเช่นกัน นางงดงามและผิวพรรณเรียบเนียน นางงดงามเป็นอย่างยิ่ง ในตอนที่นางเดินคู่กันมากับบุรุษ,พวกเขาช่างเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ

เซี่ยวเฉินพบว่าหน้าของสามีภรรยาคู่นี้ช่างดูคุ้นเคย ทันมดนั้น,เขาหันกลับไปมองที่เสี่ยวไป๋,และเขาต้องตกตะลึง

ทั้งคู่ดูคล้ายกับเสี่ยวไปเป็นอย่างยิ่ง เซี่ยวเฉินคาดเดาอยู่ในใจ

เสี่ยวไป๋เกาะแขนของเซี่ยวเฉินแน่นและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของเขา นางกล่าวขึ้นเบาๆ “พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน,ทําไมข้ารู้สึกว่าสองคนนี้ช่างดูคล้ายกับข้า?”

“แน่นอน,พวกเราดูคล้าน กันเจ้าเป็นบุตรสาวของพวกเรา พวกเราจะดูไม่เหมือนกันได้อย่างไร?” บุรุษชุดขาวยิ้มขณะที่เขามองมายังเสี่ยวไป๋

สตรีผู้งดงามด้านข้างยิ้มไปที่เซี่ยวเฉิน “สหายน้อย,ขอบคุณเจ้าที่ส่งต่อทักษะบ่มเพาะพลังให้กับข้า รวมถึงที่เจ้าดูแลเสี่ยวไปมาเป็นเวลานาน”

เสี่ยวไป๋มองไปที่เซี่ยวเฉินและถามขึ้น “พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน ที่พวกเขาพูดเป็นความจริง?”

สีหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง;เขาไม่คาดคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น หลังจากผ่านไปนาน,เขาพยักหน้าและกล่าว “เสี่ยวไป,มันเป็นเรื่องจริง พวกเขาเป็นบิดามารดาของเจ้า”

ในเมื่ออีกฝ่ายได้กล่าวถึงทักษะเก้าร่างมายาสวรรค์และดูคล้ายกันถึงเพียงนี้ มันก็น่าจะต้องเป็นเรื่องจริงแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation บทที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 395 คําชวนจากนิกายนภาสูง

เยว่เฉินซีเหลียวมองมาที่เซี่ยวเย็นก่อนที่จะกระซุบกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของชายชราคนนั้น

หลังจากที่ชายชราได้ฟังนาง,เขามองมาทางเซี่ยวเฉินอย่างสนอกสนใจ มันรู้สึกราวกับสายตาของเขาสามารถมองผ่านความลวงทั้งหมดในโลกใบนี้ขณะที่เขากําลังตรวจสอบเซี่ยวเฉิน

สายตาของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง เขารู้สึกถึงพลังงาจิตอันมหาศาลของอีกฝ่ายและอยากที่จะป้องกันมันด้วยสัมผัสวิญญาณของเขา

อย่างไรก็ตาม,เซี่ยวเฉันคิดขึ้นได้ว่า หากขอบเขตปราชญ์ยุทธผู้นี้อยากที่จะตรวจสอบตัวเขา,สัมผัสวิญญาณของเขาไม่เพียงพอที่จะหยุดเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะหยุดเอาไว้ได้สําเร็จ,มันจะยิ่งดึงความสนใจของอีกฝ่าย นี่จะเป็นผลให้อีกฝ่ายมองหาวิธีอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ในเมื่อมันไม่มีประโยชน์,ไม่มีความจําเป็นที่จะป้องกัน มันยากเกินไปที่จะเก็บความลับจากขอบเขตปราชญ์ยุทธ

“ซิ่ว!”

ชายชราถอนสายตาของเขากลับมาและเผยท่าที่ครุ่นคิด เขาครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง,ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่แปลกประหลาด ข้าไม่สามารถมองเห็นจิตวิญญาณยุทธของเขา

“อาจารย์ลุงหนึ่ง,เขาเป็นอย่างไรไร?” เยว่เฉินซีถามขึ้นอย่างคาดหวัง

ชายชรายิ้มและพยักหน้า “ระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นที่อายุสิบแปด ผู้บ่มเพาะพลังเช่นนี้นับได้ว่าอยู่ในระดับทั่วไปในอาณาจักรตาฉัน แต่อย่างไรก็ตาม,เขาได้สําเร็จสองสภาวะในเวลาเดียวกัน นับจากตรงนี้ เขามีคุณสมบัติที่จะนับว่าอัจฉริยะ”

“ฮ่าฮ่า,นั้นยังไม่ใช่ส่วนสําคัญที่สุด”

เยว่เฉินซีถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ “แล้วมันคืออะไร?”

ชายชรากล่าวต่อ “ข้าจะพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวที่หลัง อย่างไรก็เถอะ,เจ้านับว่าตามีแวว เขาเป็นคนที่ผู้เฒ่าคนนี้กําลังมองหา”

เยว่เฉินซีเผยสีหน้ามีความสุข อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นางเผยสีหน้าหมดหนทางออกมา “เจ้าหมอนี่ดูเหมือนจะไม่ขยับไปกับคําโน้มน้าว หลงจากที่ข้าโฆษณานิกายอยู่นาน,เขาไม่มีทีท่าว่าจะตกลงหรือปฏิเสธเลย”

ชายชรายิ้มและกล่าวขึ้นเบาๆ “เขามีความเฉลียวฉลาด ให้ข้าคุยกับเขาเอง”

เซี่ยวเฉินกับเสี่ยวไป๋อยู่ห่างจากชายชราคนนั้นมาสองร้อยเมตร ตามจริง,ด้วยระยะเพียงเท่านี้,พวกเขาควรจะได้ยินการสนทนาระหว่างชายชราและเยว่เฉินซี

อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าทําไมเซี่ยวเฉินถึงไม่อาจได้ยินอะไรเลย นอกจากนั้น ในตอนที่เขามองไปร่างของพวกเขาดูเลือนลาง

ดังนั้น,เซี่ยวเฉินไม่สามารถคาดเดาจากฝีปากได้ว่าพวกเขากําลังพูดคุยอะไร

ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังครุ่ยคิดถึงเรื่องนี้,ชายชราและเยว่เฉินซีปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา เขารวบรวมความคิดและคํานับมือ เขากล่าว “ข้าน้อยเซี่ยวเฉินคารวะผู้อาวุโส ผู้อาวุโสให้ข้าทราบนามอันยอดยเยี่ยมของท่านได้หรือไม่?”

ชานชราตรวจดูเซี่ยวเฉินในระยะใกล้ ในตอนที่เขาเห็นว่าอารมณ์ของเซี่ยวเฉินไม่มร ผันผวน,แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับตัวเขา,เขาชื่นชมเซี่ยวเฉินอยู่ในใจ

“ข้าไม่กล้าอ้างตัวเองว่ายอดเยี่ยม,แต่ข้านามว่ากหยิง,เพียงคนต่ําต้อยในนิกายนภาสูง หากสหายน้อยไม่ว่าอะไร,เจ้าสามารถเรียกข้าว่าผู้อาวุโสกู”

เซายวี่เฉินพยักหน้าและกล่าว “ขอบคุณผู้อาวุโสก่มากที่ช่วยเหลือ มิฉะนั้น พวกเราคงติดอยู่ที่เกาะอห่งนี้ถึงหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น”

คู่หยิ่งโบกมืออย่างไม่ถือและกล่าว “นั้นไม่อาจนับได้ว่าช่วยเหลือเพียงแต่เป็นผลประโยชน์ หากข้าคาดเดาไม่ผิด,เจ้าเริ่มบ่มเพาะพลังอย่างจริงจังเพียงสองปีก่อน ใช่หรือไม่?”

ในตอนที่สิ้นเสียงของคู่หยิง,ไม่เพียงแค่เซี่ยวเฉินที่ตกตะลึง,แต่รวมถึงเยว่เฉินซีที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา ปากของนางเปิดค้าง,ไม่อาจหุบกลับได้

หรือนี่จะเป็นเรื่องสําคัญที่สุดที่ท่านอาจารย์ลุงหนึ่งพูดถึง? บ่มเพาะพลังถึงขอบเขตกษัตริย์ภายในสองปี…พรสวรรค์เช่นนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง

เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดว่าสายตาของคู่หยิ่งจะเฉียบคมถึงเพียงนี้ คู่หยิงสามารถเผยข้อมูลนี้ของเขาออกมาได้ เขาทําได้เพียงหยักหน้ารับ

คู่หยิ่งยิ้มเบาๆและกล่าว “เจ้าเป็นคนเฉลียวฉลาด;ข้าจะไม่อ้อมค้อม ตอนนี้เป็นยุคทองของเหล่าผู้บ่มเพาะพลังที่ไม่ได้ปรากฏให้เห็นมานับพันปีแล้ว มีอัจฉริยะจากขุมอํานาจชั้นยอดต่างๆ ไม่เลือกเข้าร่วมนิกายนภาสูงอย่างหูตามืดบอดนับว่าเป็นการกระทําที่ฉลาด”

“อย่างไรก็ตาม,ข้าเลขอเตือนเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่ง ก่อนที่จะถึงการประลองรุ่นเยาว์หาอาณาจักรครั้งหน้า,เจ้าควรจะเลือกข้างที่จะยืนอยู่ด้วยเสีย นั้นจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า ระบเอาไว้! นี่เป็นของรางวัลสําหรับการช่วยเหลือแม่หนูคนนี้”

คู่หยิ่งโยนเหรียญโลหะแพรวพราวมา เซี่ยวเฉินเพียงรับมันมามองดู มีคําว่า สูง อยู่ที่ด้านหน้า,และด้านหลังมีคําว่า “ฟ้าใส

เหรียญสีทองอันนี้ดูเหมือนจะมีพลังงานลึกลับ ในตอนที่เซี่ยวเฉินถือมันเอาไว้ในมือ,เขารู้สึกถึงความอบอุ่น มีเส้นสายพลังงานอ่อนโยนออกมา นี่มันทําให้เซี่ยวเฉินสงบลงและผ่อนคลาย

มองเห็นเซี่ยวเฉินรับเหรียญเอาไว้ ก่หยิ่งยิ้ม “ข้าขอตัวก่อน หากเจ้ามาที่อาณาจักรต้าฉันในภายภาคหน้า,มาเยี่ยมเยือนที่นิกายนภาสูง ผู้เฒ่าผู้นี้จะต้อนรับเจ้าอย่างดีที่สุด”

เซี่ยวเฉินเก็บเหรียญไปและคํานับมือ “ผู้อาวุโส,เดินทางปลอดภัย!”

ภายในทันที กูหยิงเคลื่อนไปไกลหนึ่งพันเมตรในทุกยาางก้าวขณะที่อุ้มเยว่เฉินซีไปด้วย หลังจากสองสามก้าว,เขาหายลับไปจากสายตาของเซี่ยวเฉิน

ขณะที่เซี่ยวเฉินมองดูทั้งสองจากไป,เขาพึมพํากับตัวเอง “ตามที่ตํานานกล่าวเอาไว้,ทุกการกระทําของขอบเขตปราชญ์ยุทธจะส่งผลต่อกฎแห่งธรรมชาติ จากที่เห็นในวันนี้ ดูเหมือนตํานานจะเป็นจริง”

กูหยิงอุ้มเยว่เฉินซีและเคลื่อนผ่านไปบนท้องฟ้า,เคลื่อนที่ไกลหนึ่งพันเมตรในทุกอย่างก้าว

“อาจารย์ลุงหนึ่ง,ทําไมท่านไม่ชักชวนให้เขาเข้าร่วมนิกายนภาสูง?” เยว่เฉินซีรู้สึกงุนงงพร้อมกับถามขึ้น

คู่หยิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “ไม่เป็นไรตราบใดที่เขารับเหรียญฟ้าใสไป” ผู้อาวุโสถอนหายใจ “ทุกอย่างเกี่ยวกับเข้าล้วนดีเยี่ยม,แต่ความคิดของเจ้าเรียบงาายและบริสุทธิ์เกินไป มิฉะนั้น,เจ้าหนุ่มนั้นคงไม่ทําให้เจ้าหมดท่าเช่นนี้”

เซี่ยวเฉินถอนสายตากลับมาและยิ้มไปที่เสี่ยวไป์ “เสี่ยวไป,ได้เวลาพวกเราออกไปแล้วเหมือนกัน!”

ทั้งสองเคลื่อนไปที่ช่องว่างบนคลื่นยักษ์อย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป,ช่องว่างบนคลื่นยักษ์ก็ปิดลง

คลื่นยักษ์ลงมาปิดผนึกเกาะเชียนเหลิ่นอีกครั้ง มันจะเปิดขึ้นอีกในสองสามปี แต่อย่างไรก็ตาม,คงมีคนเพียงเล็กน้อยที่จะมาเยือนในตอนนั้น

เซี่ยวเฉินและเสี่ยวไป๋พูดคุยกันขณะที่เดินไปบนทะเล ด้วยขอบเขตพลังของพวกเขาในตอนนี้ มันไม่ยากเย็นที่พวกเขาจะเดินบนผิวน้ํา

เสี่ยวไป๋กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล “ข้าบ่มเพาะทักษะดาบแสงไหลที่ท่านมอบให้ถึงชั้นที่ห้าแล้วในอนาคต เสี่ยวไปไม่เกรงกลัวคนไม่ดีอีกต่อไป ดังนั้น พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน,อย่าได้ปฏิบัติกับข้าเหมือนเป็นภาระอีกเลย”

เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นดวงตาของเสี่ยวไป๋แดงเล็กน้อย,เขานั่งอึ้งไป เสี่ยวไปไม่ใช่จิ้งจอกน้อยที่ไม่เข้าใจโลกอีกต่อไปแล้ว

ความคิดของเสียวไปค่อยๆกลายเป็นผู้ใหญ่ นางมีความคิดเป็นของตัวเองและกระทําตามความตั้งใจของตัวเอง

เซี่ยวเฉินลูบหัวเสี่ยวไปและยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวไปจะเป็นภาระไปได้อย่างไร? เจ้าช่วยข้าเก็บสมุนไพรมากมายและช่วยชีวิตข้ามาก็หลายครั้ง ตอนนี้,เจ้ายังแข็งแกร่งยิ่งกว่าข้า”

เซี่ยวเฉินหยุดไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ทะเลอันสงบและพึมพํา “อย่างไรก็ตาม,ข้าติดค้างเจ้ มากเกินไป หากข้าปล่อยให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ,ข้าจะรู้สึกผิดอย่างยิ่ง”

ในตอนที่เสี่ยวไปเกิดมา, เซี่ยวเฉินได้พรากนางมาจากแม่ แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้าย,และเขาต้องช่วยนางจากคนตระกูลถัง,เขาก็ได้ทําเรื่องเห็นแก่ตัวลงไป มิฉะนั้น,เขาคงไม่ส่งมอบทักษะบ่มเพาะให้กับแม่ของนางเป็นการตอบแทน

ที่ด้านนอกเมืองไปสู่ย,เจ้าหนูน้อยนช่วยเซาววเฉินเอาไว้ นางไม่ค่นึงถึงความปลอดภัยของนางและช่วยเซี่ยวเฉินจากฮวาหยุนเฟยและตัวนมู่ฉิง

หลังจากนั้น เสี่ยวไปก็พาร่างที่เหนื่อยล้าของนางไปทั่วป่าอ่ามหิต

แม้ว่าจะมีอันตรายมากมายและสัตว์อสูรวิญญาณดีร้ายอยู่ภายในป่า,เสี่ยวไปก็ไปเก็บสมุนไพรมาเพื่อรักษาเซี่ยวเฉิน

ตั้งแต่ตอนนั้น,เซี่ยวเฉินก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่มองเสี่ยวไปเป็นสัตว์เลี้ยง และเขาจะไม่ปล่อยให่นางต้องบาดเจ็บเพื่อเขา

หลังจากที่เสี่ยวไป๋เผลี่ยนร่างเป็นมนุษย์,เซี่ยวเฉินรู้สึกผิด เขาตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้เสี่ยวไป๋ต้องประสบอันตราย

ดังนั้น,เซี่ยวเฉินไม่มีทางมองเสี่ยวไปเป็นภาระ

ดวงตาของเสี่ยวไป๋น้ําตาคลอเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวขึ้นเบาๆ “จริงหรือ, พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน?!”

เซี่ยวเฉินกล่าว “จริงเสียยิ่งกว่าจริง ไปกันเถอะ มาแข่งกันว่าใครจะไปถึงเกาะสายลมขจีก่อนกัน หากเจ้าไปถึงก่อน ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้า”

เสี่ยวไป๋สูดจมูกและยิ้มขึ้น “ได้ เสี่ยวไปวิ่งเร็วมาก พี่ใหญ่เซี่ยวเฉินไม่มีทางไล่ข้าทัน”

“บูม! บูม!”

ในตอนนั้นเอง,มีคลื่นยักษ์สูงฟนึ่งพันเมตรขึ้นมาล้อมรอบทั้งสอง

มีคลื่นใต้น้ําแข็งแกร่งกวาดผ่านท้องทะเลที่เคยนิ่งสงบพุ่งขึ้นไปที่ทคลื่น,ทําให้พวกมันพุ่งสูงขึ้นไปอีกหนึ่งพันเมตรภายในพริบตา

นอกเสียจากขอบเขตปราชญ์ยุทธหรือสูงกว่า,ไม่มีใครที่ทําได้เช่นนี้

เซี่ยวเฉินมีสหน้าช่วยไม่ได้พร้อมกับรู้สึกไร้พลัง เขาเจอเข้ากับขอบเขตปราชญ์ยุทธสองคนในวันเดียว

น่อหนาขอบเขตปราชญ์ยุทธ,พวกเขาทั้งสองไม่มีโอกาสรอด อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือจู่โจม เห็นชัดว่าสถานการณ์สามารถพลิกกลับ

เซี่ยวเฉินเหลียวมองไปทั่วทะเลที่ว่างเปล่า เขาตะโกนขึ้น “ข้าน้อยขอทราบได้หรือไม่ว่าท่านเป็นใคร?! ทําไมถึงได้ขัดขวางทางของข้า?!”

“ฟุ! ฟุ!”

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าบางเบาดังมาจากทะเลด้านหลังของพวกเขา

เซี่ยวเฉินหันกลับไป,และเห็นสองร่างเลือนลางปรากฏขึ้น คนหนึ่งเป็นบุรุษและอีกคนหนึ่งเป็นสตรี,ทั้งคู่แต่งชุดสีขาว

ในตอนที่เซี่ยวเฉินเข้าใกล้,เขาเห็นรูปร่างของพวกเขาได้ชัดเจน บุรุษดูอายุผระมาณสามสิบ และหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง และดวงตาของเขาลึกล้ํานาาหลงไหล

บรุษผู้นี้สามารถทําให้หญิงสาวบ้าคลั่ง เซี่ยวเฉินไม่เคยเห็นใครที่หล่อเหลาเพียงนี้มาก่อน เขาดึงเสน่ห์ของบุรุษออกมาได้อย่างเต็มที่

ทางฝั่งสตรีก็ดูอายุประมาณสามสิบเช่นกัน นางงดงามและผิวพรรณเรียบเนียน นางงดงามเป็นอย่างยิ่ง ในตอนที่นางเดินคู่กันมากับบุรุษ,พวกเขาช่างเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ

เซี่ยวเฉินพบว่าหน้าของสามีภรรยาคู่นี้ช่างดูคุ้นเคย ทันมดนั้น,เขาหันกลับไปมองที่เสี่ยวไป๋,และเขาต้องตกตะลึง

ทั้งคู่ดูคล้ายกับเสี่ยวไปเป็นอย่างยิ่ง เซี่ยวเฉินคาดเดาอยู่ในใจ

เสี่ยวไป๋เกาะแขนของเซี่ยวเฉินแน่นและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของเขา นางกล่าวขึ้นเบาๆ “พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน,ทําไมข้ารู้สึกว่าสองคนนี้ช่างดูคล้ายกับข้า?”

“แน่นอน,พวกเราดูคล้าน กันเจ้าเป็นบุตรสาวของพวกเรา พวกเราจะดูไม่เหมือนกันได้อย่างไร?” บุรุษชุดขาวยิ้มขณะที่เขามองมายังเสี่ยวไป๋

สตรีผู้งดงามด้านข้างยิ้มไปที่เซี่ยวเฉิน “สหายน้อย,ขอบคุณเจ้าที่ส่งต่อทักษะบ่มเพาะพลังให้กับข้า รวมถึงที่เจ้าดูแลเสี่ยวไปมาเป็นเวลานาน”

เสี่ยวไป๋มองไปที่เซี่ยวเฉินและถามขึ้น “พี่ใหญ่เซี่ยวเฉิน ที่พวกเขาพูดเป็นความจริง?”

สีหน้าของเซี่ยวเฉินกลายเป็นร้ายแรง;เขาไม่คาดคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น หลังจากผ่านไปนาน,เขาพยักหน้าและกล่าว “เสี่ยวไป,มันเป็นเรื่องจริง พวกเขาเป็นบิดามารดาของเจ้า”

ในเมื่ออีกฝ่ายได้กล่าวถึงทักษะเก้าร่างมายาสวรรค์และดูคล้ายกันถึงเพียงนี้ มันก็น่าจะต้องเป็นเรื่องจริงแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+