Immortal and Martial Dual Cultivation 156 ไอ้เจ้าสารเลวเต็มไปด้วยตัณหา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 156 ไอ้เจ้าสารเลวเต็มไปด้วยตัณหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 156 ไอ้เจ้าสารเลวเต็มไปด้วยตัณหา

 

“หลิวหรูเยว!”

 

ในขณะที่ความคิดของเซี่ยวเฉินกําลังสับสน เขาได้ยินเสียงอันประณีต เขามองตรงไปที่ทิศทางของเสียง และ ก็ตกใจ นั่นคือเหลิ่งหลิวซูเขาซ่อนตนเองอยู่เบื้องหลัง หลิวหรูเยว่อย่างไม่รู้ตัว

 

หลิวหรูเยว่เองก็เห็นเหลิ่งหลิวซู นางขมวดคิ้วเล็กน้อยและท่าทางอันเย็นชาปรากฏบนใบหน้านาง นางมองไปที่เห ลิงหลิวซูผู้ที่อยู่ในชุดกระโปรงสีแดงและยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าคิดว่าเหลิ่งเทียนเยว่สังหารเจ้าไปแล้วเสียอีกข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เห็นเจ้าที่ดูแข็งแกร่งและกระฉับกระเฉง”

 

“ขอโทษที่ทําให้เจ้าผิดหวัง แต่ข้าไม่ได้ตกตาย ข้าก้าวสู่ขอบเขตนักบุญแล้ว” เหลิงหลิวซูโต้กลับอย่างไม่อ่อนข้อให้

 

บรรยากาศดูเหมือนจะระเบิดออกมาได้ง่ายๆ สาวงามทุกนางในศาลากระบี่สวรรค์ต่างผิดใจกันกับหลิวหรูเยว่? เชี่ยวเฉินเริ่มปวดหัวปวดหัวขึ้นมาเมื่อเขามีความรู้สึกที่ไม่ดีขึ้น มาทันที

 

ใช่แล้ว เหลิ่งหลิวซูได้เห็นเซี่ยวเฉินที่หลบอยู่ด้านหลังของ หลิวหรูเยว่นางรู้สึกว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกันเช่นไรก็ไม่รู้และกล่าวออกมา “ใครกําลังแอบซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังเจ้า? ลูกศิษย์คนใหม่ของเจ้า? เขาขี้อายเกินไปที่แสดงตัว?!”

 

เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินเรื่องนี้ นางมองเขาอย่างประหลาดและผลักเขาไปด้านหน้า “มีอะไรที่จะต้องอาย? เจ้ากลัวอะไรกันคือ?”

 

เชี่ยวเฉินอยากจะร้องไห้ แต่เขาไม่สามารถเขากลัวที่จะได้พบนางอย่างแท้จริง ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นพรทีมอบให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงในการพบกับเหลิงเทียนเยว่ เขาไม่เคยตระหนักเลยเขาจะชนเข้ากับใครบางคนที่เขาต้องการ หลีกเลี่ยงยิ่งกว่าใครอื่น – เหลิงหลิวซู

 

“หันหลังกลับมาและให้ข้าเห็นเจ้า!” เหลิ่งหลิวซูมองเชี่ยว เฉินอย่างตั้งใจ นางยิ่งรู้สึกคุ้นเคยเขามากขึ้นอีก

 

ฟวยเอ้ย! ข้าถูกพบตัวแล้วเซียวเฉินหันหลังกลับและ ยิ้มเล็กน้อย “เราเจอกันอีกแล้วแม่นางเหลิง”

 

“มันคือเจ้า…” เหลิงหลิวซูตกใจไปครู่หนึ่งก่อนที่นางจะ สามารถเปล่งคําพูดออกมาได้ เซียวเฉินกําลังถอนหายใจด้วยความโล่งอก.. “เจ้ามันไอ้ชาติชั่วเต็มไปด้วยตัณหา! เจ้ากล้าดีเช่นไรที่มาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ข้าจะฟันเจ้าให้ ตายเลย!”

 

มีเสียงดัง “ฮวบ” ออกมาในขณะที่เหลิ่งหลิวซูชักกระบออกมาจากฝัก และฟันมันไปทางเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็วมี แสงสุกสกาวปรากฏบนกระบีของนางในขณะที่นางยิ่งกระนี่ไปทางเขา

 

เซี่ยวเฉินสะดุ้งและหลบอย่างรวดเร็ว กระบี่ฉียังคงบินต่อไปทางหลิวหรูเยวที่กําลังยืนต่ออยู่เบื้องหลังเขาอยู่ หลิวหรู เยว่พ่นลมหายใจและชักกระบี่สั้นออกมา ด้วยเสียง ถั่ว” นางได้ทําลายกระบี่ฉี

 

เหลิ่งหลิวซูเห็นเชี่ยวเฉินหลบได้ และทําให้กระบี่เกิดเสียงห่ง ก้องกังวาลไปทั่วอากาศ เซียวเฉินรู้สึกราวกับว่ากระบี่เงาจันทร์กําลังหนีออกจากมือเขา

 

“เวิ่ง!” กระบี่สั้นในมือของหลิวหรูเยว่เองก็เริ่มส่งเสียง ซึ่งออกมาไม่หยุดนางพุ่งไปข้างหน้า และยืนอยู่เบื้องหน้าของเซี่ยวเฉินป้องกันการโจมตีของเหลิ่งหลิวซู

 

“ปัง!” กระบี่ทั้งสองปะทะกันและเกิดเสียงโลหะดังก้องหลิวหรูเยว่ยืนอยู่ที่จุดเดิมไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่เหลิ่งหลิวซู ต้องถอยกลับไปถึงสามก้าวก่อนที่นางจะสลายพลังของกระบี่ออกไป

 

กระบี่ทั้งสองของพวกนางส่งเสียงหึงอย่างต่อเนื่องหลิวหรูเย่วและเหลิ่งหลิวซูเข้าสู่สภาวะฟังเสียงดาบและสื่อสารกับมัน ผลของมันทันใดนั้นก็กระจายไปทั่วบริเวณรอบ ข้าง

 

ในรัศมีหนึ่งพันเมตร อาวุธของทุกผู้คนเริ่มสั่น กระบี่ของผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอลอยออกไป และหยุดนิ่งด้วยตนเองบนพื้นเบื้องหน้าของหลิวหรูเยวและเหลิ่งหลิวซู

 

ไม่นาน ก็มีกระบี่นับร้อยที่หยุดนิ่งอยู่บนพื้นดิน ผู้บ่มเพาะที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็เข้ามาดู เนื่องจากสถานะของทั้งสองที่กําลังสู้กันยังไม่ชัดเจน จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปแทรกแซง

 

“หลิวหรูเยว่ เจ้ากําลังปกป้องเจ้าสารเลวมากตัณหาผู้นี้จากการถูกฆ่าสังหาร?” เหลิงหลิวซู มองไปที่หลิวหรูเยว่และกล่าวอย่างดุดัน

 

หลิวหรูเยวยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวโดยไม่คิดที่จะอ่อนข้อให้ “เจ้าบอกว่าลูกศิกษย์ของข้าเป็นพวกสารเลวมากตัณหาเพียงเพราะเจ้ากล่าว หมายความว่าเขาจะต้องเป็นเจ้าสารเลวมากตัณหา? เจ้าสารเลวมากตัณหาเนื่องจากเจ้ ายังคงพูดเช่นนี้ เช่นนั้นก็บอกข้ามาว่าเขาเอาเปรียบเจ้าเช่นไร”

 

“เขา… เขา…”

 

คําพูดของหลิวหรูเยว่ดุร้ายเป็นอย่างมากมันทําให้เหลิงหลิวซูหน้าแดงอับอายเป็นเวลานานอย่างไรก็ตามนางจะกล่าวเรื่องน่าอับอายเช่นนั้นต่อหน้าทุกคนได้เช่นไร

 

เหลิงหลิวซูกระทืบเท้าของนางและกล่าวอย่างเกรียวกราด “อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีก มิฉะนั้น ข้าจะสังหารเจ้าซะ” หลังจากนางกล่าวนางจ้องไปที่เซียวเฉินอย่างโกรธเคืองก่ อนที่จะจากไป

 

เพียงแค่นั้น ความโกลาหลก็สงบลง เมื่อผู้คนโดยรอบตระหนักว่าไม่มีอะไรให้มองอีกแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มเก็บกระบี่ของตนคืนและจากไป ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขา เหลือบมองเซียวเฉินอย่างมีเลศนัย

 

ความหมายที่พวกเขาสื่อชัดเจนแม้ว่าจะไม่ได้ กล่าวออกมาเสียงดัง เจ้ามันช่าง “สุดยอด” ยิ่งนักเจ้าถึงขนาดกล้าลวนลามลูกสาวของท่านเจ้าศาลา เซียวเฉินไม่แม้ แต่จะตอบโต้เรื่องนั้นกลับไปได้ไม่มีทางที่เขาจะแก้ตัวได้เลย ดูเหมือนชื่อ สารเลวมากตัณหา” กําลังจะแพร่กระจายไปทั่วศาลากระบี่สวรรค์

 

หลิวหรูเยว่เก็บกระบกลับเข้าฝึกก่อนที่จะเดินวนรอบตัว เซี่ยวเฉินไม่กี่รอบ กําลังคาดเดาตัวเขามีรอยยิ้มเล็กน้อยบนหน้าของนาง ซึ่งทําให้คนผู้หนึ่งสงสัยว่านางกําลังคิดสิ่งใด

 

เชี่ยวเฉินรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากเมื่อถูกเพ่งพินิศ เขาพยายามอธิบาย “พี่สาวหรูเยว่ที่จริงทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าไม่ได้กระทําอะไรจริงๆ”

 

หลิวหรูเยวยิ้มเล็กน้อยเหมือนดอกไม้ที่กําลังผลิบาน มัน ไม่มีอะไรนอกจากเรื่องสวยงามที่สามารถจินตนาการออกมาได้ นางตบไหล่ของเซียวเฉิน “เจ้าไม่ต้องอธิบายอะไร เยู่เฉินน้อย ข้าเข้าใจเจ้านะ!”

 

“ข้ามองไม่ออกจริงๆ เจ้าดูเรียบร้อยและมีคุณธรรม แต่ เจ้ากลับสามารถทําสิ่งเหล่านี้ลงได้!”

 

เซียวเฉินรู้สึกหดหูอย่างไม่น่าเชื่อในที่สุดเขาก็เข้าใจความ ปวดร้าวของเจ้าหมู ในเมื่อเขากําลังสามารถอธิบายได้เรือสงครามก็บินข้ามออกมาจากขอบฟ้าไปอีกครั้ง

 

มันเป็นเรือสงครามที่ถูกหล่อด้วยเหล็กลึกลับสีดําทั่วทั้ง ลํา ธงที่อยู่บนหัวของเรือมีคําว่า “จง” (H) ปรากฏอยู่

 

ผู้ที่กําลังยืนอยู่บนหัวเรือเป็นชายสวมชุดสีดํา สายตาของ เขาเป็นดั่งสายฟ้าที่กวาดผ่านไปทั่วทั้งลานผู้คนที่ถูกเขามอง รู้สึกเหมือนหัวใจของตนถูกแทงด้วยดาบ มันรุนแรงจนแทบทนไม่ได้

 

“จงเฉียนแห่งยอดเขาเขียนตัวนมาถึงแล้ว อีกไม่นานจะเกิดการแสดงที่ยอดเยี่ยมแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาจะแสดงออกอย่างไรเมื่อเขาพบว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้”

 

“เขาไล่ตามเหลิ่งหลิวซูมาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตามเขา ไม่แม้แต่จะได้สัมผัสมือของนางเรื่องนี้ชักจะน่าสนใจขึ้นมา แล้ว”

 

ผู้คนด้านล่างล้วนพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดล่าสุด มีหลาย คนเหลือบมองไปที่เชี่ยวเฉิ ทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอ ย่างมาก พวกเขาช่างมีความสุขในความโชคร้ายของเซียวเฉิน

 

เรือสงครามคําสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะหยุดลงจงเฉียนค่อยๆนําพาศิษย์ของยอดเขาเขียนตัวนไปอยู่มุมหนึ่ง มีบางคนที่รู้จักกับจงเฉียน และรีบวิ่งเข้าไปหาเขาเพื่อบอกเรื่ องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น

 

จางเฉียนหยุดเคลื่อนไหว และการแสดงออกของเขากลายเป็นบิดเบี้ยวทันที การก้าวเดินของเขาหนักแน่นในขณะที่เขานําเหล่าศิษย์ยอดเขาเขียนต้วนเดินไปทางเหี่ยวเฉิ นพร้อมจิตสังหารที่ท่วมท้น

 

“เจ้าชื่อเย่เฉินใช่หรือไม่?” จงเฉียนหยุดลงและยืนห่างจากเซียวเฉินประมาณสามเมตรขณะกล่าว เขาปลดปล่อยออร่าของตนออกมาสมบูรณ์ มุ่งส่งจิตสังหารไปที่ เซียวเฉิน และทุกคําที่เขากล่าวชัดเจน

 

เขามองไปที่เซียวเฉิน ผู้ที่หลบอยู่เบื้องหลังหลิวหรูเยว่และกล่าวออกมา “เจ้ากล้าก้าวออกมาไหม?”

 

จิตสังหารอยู่ในน้ําเสียงของเขาชัดเจน เขาไม่ได้ปกปิดมันหากเซียวเฉินก้าวออกไป แน่นอนว่าเขาจะต้องต้อนรับเซียวเฉินด้วยการโจมตีที่รุนแรง

 

เขาเยาะเย้ยข้าอย่างเปิดเผย และเขาก้าวออกมาเพื่อจะสังหารข้าให้สิ้นซากโดยไม่รู้เรื่องราวใดๆเลยเซี่ยว เฉินคิดแล้วก็โกรธพร้อมกับค่อยๆขยายจิตสังหารของเขา ออกไป และมือขวาของเขาก็ได้อยู่บนด้ามจับกระบี่เงาจันทร์ เรียบร้อยแล้ว

 

“เจ้ากล้าพูดเช่นนั้นอีกรอบมั้ย?” หลิวหรูเยว่ทันใดนั้นก็ พูดออกมาด้วยท่าทางเย็นชาขณะเดียวกับเชี่ยวเฉินที่กําลังจะเคลื่อนไหว ท่าทางเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย 

 

หน้าอกของจงเฉียนกลายเป็นรัดแน่นในขณะที่เขาคิดถึงความสําเร็จในอดีตของหลิวหรูเยว่ และอดไม่ได้ที่เขาจะสาปแช่งอยู่ในใจ เขาหุนหันเกินไปในวันนี้ ด้วยความ แข็งแกร่งขอตเขตนักบุญขั้นสูงเขาไม่สามารถทําอะไรเบื้อง หน้าหลิวหรูเยวได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม หากเขาถอยกลับไปด้วยท่าทางเสียใจต่อหน้าทุกผู้คน เขาจะกลายเป็นเรื่องน่าขบขันในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีลูกศิษย์ของยอดเขาเขียนต้วนอยู่เบื้องหลังเขา อีกมากมายเช่นกันเขาอาจจะไม่พ่ายแพ้ต่อหลิวหรูเยว่

 

เมื่อคิดได้ จงเฉียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเย็นชา “ทําไมข้า จะไม่กล้า!”

 

“เครั้ง!”

 

หลังจากจงเฉียนกล่าว มีประกายแสงเย็นยะเยือกเกิดขึ้นคมกระบี่ได้มาอยู่เบื้องหน้าสายตาเขาแล้วและเส้นผมบางเส้นของเขาก็ค่อยๆล่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างช้าๆ

 

จงเฉียนประหลาดใจ เขาผลักเท้าออกจากพื้นและถอยไปด้านหลัง อย่างไรก็ตาม หลิวหรูเยวรวดเร็วกว่าเขามาก กระบี่ของนางสับลงไปและรอยแตกก็ปรากฏอยู่บนเก ราะรบบริเวณหน้าอกของเขา มีเลือดไหลออกมาจากรอยแตก

 

ผู้คนรอบข้างต่างหายใจอย่างหนาวเหน็บ หากเกราะรบตัวนี้ไม่ได้ดูดซับแรงปะทะไปบ้าง จงเฉียนอาจจะถูกผ่าเป็นสองส่วน

 

ดวงตาของเซี่ยวเฉินเป็นประกาย การเคลื่อนไหวของหลิวหรูเยวคือ การสับ” ของทักษะกระบี่พื้นฐาน เขาไม่คาดคิดว่ามันจะปลดปล่อยพลังออกมาขนาดนี้เมื่อนางใช้ ออกมัน

 

เลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลของเขา และมันก็เจ็บปวดจนไม่น่าเชื่อ ตอนนี้จงเฉียนโกรธอย่างแท้จริงแล้ว มือขวาของเขาเคลือนถอยหลัง กําลังต้องการวาดกระบีออกไป เกิดเสียง เสี้ยว ขึ้นมาแต่ทว่าเขาวาดกระบออกไปได้แค่ครี่ งทางเท่านั้น ก่อนที่เขาจะถูกผลักกลับไปด้วยมือซ้ายของ หลิวหรูเยว่

 

เกิดลมกรรโชกขณะที่นางใช้ขาขวาของนางกําลังเตะไปที่ หน้าอกของเขาด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด เท้าของนางโดน หน้าอกของเขาและเกิดเสียงบังในทันที

 

หลิวหรูเยว่ควบคุมพละกําลังได้อย่างยอดเยี่ยมจงเฉียน ไม่ได้ถูกเตะแรงพอที่จะลอยขึ้นไปในอากาศ เขาแค่ล้มลงบนพื้นมันมีเสียง แกรก แกรก” ออกมาจากเบื้องหลังของเขาซี่โครงของเขาหักหลายซี่

 

เมื่อจงเฉียนต้องการจะยืนขึ้น หลิวหรูเยว่เหยียบหน้าอกของเขาอย่างไร้ปราณี จงเฉียนตะโกนออกมาด้วยความ เจ็บปวดเลือดซึมออกมาจากมุมปากของเขาในขณะที่เขานอนอยู่บนพื้นอีกครั้ง

 

แม้ว่ามันจะใช้เวลานานในการเล่าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แต่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น พวกเขาทั้งสองเพียงแค่แลกเปลี่ยนกันเพียงแค่การออกตัวคนละครั้งเหล่าศิษย์ของยอดเขาเขียนตัวนทั้งหมดไม่สามารถต อบสนองได้ทันเวลา

 

ตามเวลาที่พวกเขาตอบสนอง จงเฉียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากหลิวหรูเยู่แล้ว เขานอนราบไปกับพื้นไม่สามารถขยับ

 

จงเฉียนเป็นศิษย์ชั้นยอดของยอดเขาเขียนต้วน – เขายอดเยี่ยมเหมือนกับหลานคนแรกของท่านเจ้ายอดเขา – เขายังเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของยอดเขาเชียนต้วนอีกด้วยหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาภายใต้จมูกของทุกคนที่อยู่ที่นี่ พว กเขาทุกคนที่นี้จะไม่จบลงด้วยความสุขอย่างแน่นอน

 

เหล่าศิษย์ของยอดเขาเขียนตัวนทั้งหมดชักกระบี่ออกมาและรีบพุ่งเข้าหาหลิวหรูเยวอย่างรวดเร็วหลิวหรูเยว่หัวเราะ อย่างเย็นยะเยือกและเร่งออร่าของนางขึ้นมา ผู้คนรอบข้างทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทิ้ม

 

“นี่คือออร่าของขอบเขตนักบุญขั้นสูง นางกลายมาเป็นข อบเขตนักบุญขั้นสูงอย่างแท้จริงแล้วช่างน่าหวาดผวาอิ งนัก”

 

“ไม่ประหลาดใจเลยที่นางสามารถเอาชนะจงเฉียนได้ในการออกตัวครั้งเดียว ความแตกต่างของความแข็งแกร่งพวกเขามากเกินไป”

 

ภายใต้ออร่าที่น่าหวาดผวานี้ เหล่าลูกศิษย์ของยอดเขาเซียนต้วนก็หยุดลง พวกเขาทั้งหมดมองหลิวหรูเยวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าแม้ หนึ่งก้าว

 

ใบหน้าของจงเฉียนเองก็เต็มไปด้วยความตกใจ เขา กล่าวอย่างไม่เชื่อ “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? สองเดือนก่อนเจ้าเพิ่งจะเป็นขอบเขตนักบุญขั้นกลาง เจ้าพัฒนาขึ้นอย่าง รวดได้เช่นไร?!”

 

เมื่อผู้บ่มเพาะพลังมาถึงขอบเขตนักบุญ ทุกขั้นย่อ ยจะส่งผลให้ความแข็งแกร่งพัฒนาไปไกลมาก อย่างไรก็ตามการพัฒนาไปข้างหน้าก็เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน สําหรับบางคนที่พวกเขามีพรสวรรค์ไม่เพียงพอ และไม่สามารถก้าวหน้าได้แม้ว่าจะผ่านไปสิบปีที่เป็นช่วงเวลาอันมีค่า

หลิวหรูเยว่อายุเพียง 20 ปี และนางก็ได้เป็นขอบเขตนักบุญขั้นสูงแล้ว มันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ภายในศาลากระบี่สวรรค์

 

หลิวหรูเยว่ก้าวถอยหลังและมองไปที่จงเฉียน ผู้ที่กําลังนอนแผ่อยู่บนพื้น นางกล่าวอย่างเย็นยะเยือก “ไปซะ เลิกวางท่าสูงส่งต่อหน้าข้าได้แล้ว มิเช่นนั้น ข้าจะสังหารเจ้าซะบิดาของเจ้าจะไม่แม้แต่จะกล้ากล่าวสิ่งใด”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivation 156 ไอ้เจ้าสารเลวเต็มไปด้วยตัณหา

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter 156 ไอ้เจ้าสารเลวเต็มไปด้วยตัณหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 156 ไอ้เจ้าสารเลวเต็มไปด้วยตัณหา

 

“หลิวหรูเยว!”

 

ในขณะที่ความคิดของเซี่ยวเฉินกําลังสับสน เขาได้ยินเสียงอันประณีต เขามองตรงไปที่ทิศทางของเสียง และ ก็ตกใจ นั่นคือเหลิ่งหลิวซูเขาซ่อนตนเองอยู่เบื้องหลัง หลิวหรูเยว่อย่างไม่รู้ตัว

 

หลิวหรูเยว่เองก็เห็นเหลิ่งหลิวซู นางขมวดคิ้วเล็กน้อยและท่าทางอันเย็นชาปรากฏบนใบหน้านาง นางมองไปที่เห ลิงหลิวซูผู้ที่อยู่ในชุดกระโปรงสีแดงและยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าคิดว่าเหลิ่งเทียนเยว่สังหารเจ้าไปแล้วเสียอีกข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เห็นเจ้าที่ดูแข็งแกร่งและกระฉับกระเฉง”

 

“ขอโทษที่ทําให้เจ้าผิดหวัง แต่ข้าไม่ได้ตกตาย ข้าก้าวสู่ขอบเขตนักบุญแล้ว” เหลิงหลิวซูโต้กลับอย่างไม่อ่อนข้อให้

 

บรรยากาศดูเหมือนจะระเบิดออกมาได้ง่ายๆ สาวงามทุกนางในศาลากระบี่สวรรค์ต่างผิดใจกันกับหลิวหรูเยว่? เชี่ยวเฉินเริ่มปวดหัวปวดหัวขึ้นมาเมื่อเขามีความรู้สึกที่ไม่ดีขึ้น มาทันที

 

ใช่แล้ว เหลิ่งหลิวซูได้เห็นเซี่ยวเฉินที่หลบอยู่ด้านหลังของ หลิวหรูเยว่นางรู้สึกว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกันเช่นไรก็ไม่รู้และกล่าวออกมา “ใครกําลังแอบซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังเจ้า? ลูกศิษย์คนใหม่ของเจ้า? เขาขี้อายเกินไปที่แสดงตัว?!”

 

เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินเรื่องนี้ นางมองเขาอย่างประหลาดและผลักเขาไปด้านหน้า “มีอะไรที่จะต้องอาย? เจ้ากลัวอะไรกันคือ?”

 

เชี่ยวเฉินอยากจะร้องไห้ แต่เขาไม่สามารถเขากลัวที่จะได้พบนางอย่างแท้จริง ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นพรทีมอบให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงในการพบกับเหลิงเทียนเยว่ เขาไม่เคยตระหนักเลยเขาจะชนเข้ากับใครบางคนที่เขาต้องการ หลีกเลี่ยงยิ่งกว่าใครอื่น – เหลิงหลิวซู

 

“หันหลังกลับมาและให้ข้าเห็นเจ้า!” เหลิ่งหลิวซูมองเชี่ยว เฉินอย่างตั้งใจ นางยิ่งรู้สึกคุ้นเคยเขามากขึ้นอีก

 

ฟวยเอ้ย! ข้าถูกพบตัวแล้วเซียวเฉินหันหลังกลับและ ยิ้มเล็กน้อย “เราเจอกันอีกแล้วแม่นางเหลิง”

 

“มันคือเจ้า…” เหลิงหลิวซูตกใจไปครู่หนึ่งก่อนที่นางจะ สามารถเปล่งคําพูดออกมาได้ เซียวเฉินกําลังถอนหายใจด้วยความโล่งอก.. “เจ้ามันไอ้ชาติชั่วเต็มไปด้วยตัณหา! เจ้ากล้าดีเช่นไรที่มาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก ข้าจะฟันเจ้าให้ ตายเลย!”

 

มีเสียงดัง “ฮวบ” ออกมาในขณะที่เหลิ่งหลิวซูชักกระบออกมาจากฝัก และฟันมันไปทางเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็วมี แสงสุกสกาวปรากฏบนกระบีของนางในขณะที่นางยิ่งกระนี่ไปทางเขา

 

เซี่ยวเฉินสะดุ้งและหลบอย่างรวดเร็ว กระบี่ฉียังคงบินต่อไปทางหลิวหรูเยวที่กําลังยืนต่ออยู่เบื้องหลังเขาอยู่ หลิวหรู เยว่พ่นลมหายใจและชักกระบี่สั้นออกมา ด้วยเสียง ถั่ว” นางได้ทําลายกระบี่ฉี

 

เหลิ่งหลิวซูเห็นเชี่ยวเฉินหลบได้ และทําให้กระบี่เกิดเสียงห่ง ก้องกังวาลไปทั่วอากาศ เซียวเฉินรู้สึกราวกับว่ากระบี่เงาจันทร์กําลังหนีออกจากมือเขา

 

“เวิ่ง!” กระบี่สั้นในมือของหลิวหรูเยว่เองก็เริ่มส่งเสียง ซึ่งออกมาไม่หยุดนางพุ่งไปข้างหน้า และยืนอยู่เบื้องหน้าของเซี่ยวเฉินป้องกันการโจมตีของเหลิ่งหลิวซู

 

“ปัง!” กระบี่ทั้งสองปะทะกันและเกิดเสียงโลหะดังก้องหลิวหรูเยว่ยืนอยู่ที่จุดเดิมไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่เหลิ่งหลิวซู ต้องถอยกลับไปถึงสามก้าวก่อนที่นางจะสลายพลังของกระบี่ออกไป

 

กระบี่ทั้งสองของพวกนางส่งเสียงหึงอย่างต่อเนื่องหลิวหรูเย่วและเหลิ่งหลิวซูเข้าสู่สภาวะฟังเสียงดาบและสื่อสารกับมัน ผลของมันทันใดนั้นก็กระจายไปทั่วบริเวณรอบ ข้าง

 

ในรัศมีหนึ่งพันเมตร อาวุธของทุกผู้คนเริ่มสั่น กระบี่ของผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอลอยออกไป และหยุดนิ่งด้วยตนเองบนพื้นเบื้องหน้าของหลิวหรูเยวและเหลิ่งหลิวซู

 

ไม่นาน ก็มีกระบี่นับร้อยที่หยุดนิ่งอยู่บนพื้นดิน ผู้บ่มเพาะที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็เข้ามาดู เนื่องจากสถานะของทั้งสองที่กําลังสู้กันยังไม่ชัดเจน จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปแทรกแซง

 

“หลิวหรูเยว่ เจ้ากําลังปกป้องเจ้าสารเลวมากตัณหาผู้นี้จากการถูกฆ่าสังหาร?” เหลิงหลิวซู มองไปที่หลิวหรูเยว่และกล่าวอย่างดุดัน

 

หลิวหรูเยวยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวโดยไม่คิดที่จะอ่อนข้อให้ “เจ้าบอกว่าลูกศิกษย์ของข้าเป็นพวกสารเลวมากตัณหาเพียงเพราะเจ้ากล่าว หมายความว่าเขาจะต้องเป็นเจ้าสารเลวมากตัณหา? เจ้าสารเลวมากตัณหาเนื่องจากเจ้ ายังคงพูดเช่นนี้ เช่นนั้นก็บอกข้ามาว่าเขาเอาเปรียบเจ้าเช่นไร”

 

“เขา… เขา…”

 

คําพูดของหลิวหรูเยว่ดุร้ายเป็นอย่างมากมันทําให้เหลิงหลิวซูหน้าแดงอับอายเป็นเวลานานอย่างไรก็ตามนางจะกล่าวเรื่องน่าอับอายเช่นนั้นต่อหน้าทุกคนได้เช่นไร

 

เหลิงหลิวซูกระทืบเท้าของนางและกล่าวอย่างเกรียวกราด “อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีก มิฉะนั้น ข้าจะสังหารเจ้าซะ” หลังจากนางกล่าวนางจ้องไปที่เซียวเฉินอย่างโกรธเคืองก่ อนที่จะจากไป

 

เพียงแค่นั้น ความโกลาหลก็สงบลง เมื่อผู้คนโดยรอบตระหนักว่าไม่มีอะไรให้มองอีกแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มเก็บกระบี่ของตนคืนและจากไป ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขา เหลือบมองเซียวเฉินอย่างมีเลศนัย

 

ความหมายที่พวกเขาสื่อชัดเจนแม้ว่าจะไม่ได้ กล่าวออกมาเสียงดัง เจ้ามันช่าง “สุดยอด” ยิ่งนักเจ้าถึงขนาดกล้าลวนลามลูกสาวของท่านเจ้าศาลา เซียวเฉินไม่แม้ แต่จะตอบโต้เรื่องนั้นกลับไปได้ไม่มีทางที่เขาจะแก้ตัวได้เลย ดูเหมือนชื่อ สารเลวมากตัณหา” กําลังจะแพร่กระจายไปทั่วศาลากระบี่สวรรค์

 

หลิวหรูเยว่เก็บกระบกลับเข้าฝึกก่อนที่จะเดินวนรอบตัว เซี่ยวเฉินไม่กี่รอบ กําลังคาดเดาตัวเขามีรอยยิ้มเล็กน้อยบนหน้าของนาง ซึ่งทําให้คนผู้หนึ่งสงสัยว่านางกําลังคิดสิ่งใด

 

เชี่ยวเฉินรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากเมื่อถูกเพ่งพินิศ เขาพยายามอธิบาย “พี่สาวหรูเยว่ที่จริงทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าไม่ได้กระทําอะไรจริงๆ”

 

หลิวหรูเยวยิ้มเล็กน้อยเหมือนดอกไม้ที่กําลังผลิบาน มัน ไม่มีอะไรนอกจากเรื่องสวยงามที่สามารถจินตนาการออกมาได้ นางตบไหล่ของเซียวเฉิน “เจ้าไม่ต้องอธิบายอะไร เยู่เฉินน้อย ข้าเข้าใจเจ้านะ!”

 

“ข้ามองไม่ออกจริงๆ เจ้าดูเรียบร้อยและมีคุณธรรม แต่ เจ้ากลับสามารถทําสิ่งเหล่านี้ลงได้!”

 

เซียวเฉินรู้สึกหดหูอย่างไม่น่าเชื่อในที่สุดเขาก็เข้าใจความ ปวดร้าวของเจ้าหมู ในเมื่อเขากําลังสามารถอธิบายได้เรือสงครามก็บินข้ามออกมาจากขอบฟ้าไปอีกครั้ง

 

มันเป็นเรือสงครามที่ถูกหล่อด้วยเหล็กลึกลับสีดําทั่วทั้ง ลํา ธงที่อยู่บนหัวของเรือมีคําว่า “จง” (H) ปรากฏอยู่

 

ผู้ที่กําลังยืนอยู่บนหัวเรือเป็นชายสวมชุดสีดํา สายตาของ เขาเป็นดั่งสายฟ้าที่กวาดผ่านไปทั่วทั้งลานผู้คนที่ถูกเขามอง รู้สึกเหมือนหัวใจของตนถูกแทงด้วยดาบ มันรุนแรงจนแทบทนไม่ได้

 

“จงเฉียนแห่งยอดเขาเขียนตัวนมาถึงแล้ว อีกไม่นานจะเกิดการแสดงที่ยอดเยี่ยมแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาจะแสดงออกอย่างไรเมื่อเขาพบว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้”

 

“เขาไล่ตามเหลิ่งหลิวซูมาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตามเขา ไม่แม้แต่จะได้สัมผัสมือของนางเรื่องนี้ชักจะน่าสนใจขึ้นมา แล้ว”

 

ผู้คนด้านล่างล้วนพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดล่าสุด มีหลาย คนเหลือบมองไปที่เชี่ยวเฉิ ทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอ ย่างมาก พวกเขาช่างมีความสุขในความโชคร้ายของเซียวเฉิน

 

เรือสงครามคําสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะหยุดลงจงเฉียนค่อยๆนําพาศิษย์ของยอดเขาเขียนตัวนไปอยู่มุมหนึ่ง มีบางคนที่รู้จักกับจงเฉียน และรีบวิ่งเข้าไปหาเขาเพื่อบอกเรื่ องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น

 

จางเฉียนหยุดเคลื่อนไหว และการแสดงออกของเขากลายเป็นบิดเบี้ยวทันที การก้าวเดินของเขาหนักแน่นในขณะที่เขานําเหล่าศิษย์ยอดเขาเขียนต้วนเดินไปทางเหี่ยวเฉิ นพร้อมจิตสังหารที่ท่วมท้น

 

“เจ้าชื่อเย่เฉินใช่หรือไม่?” จงเฉียนหยุดลงและยืนห่างจากเซียวเฉินประมาณสามเมตรขณะกล่าว เขาปลดปล่อยออร่าของตนออกมาสมบูรณ์ มุ่งส่งจิตสังหารไปที่ เซียวเฉิน และทุกคําที่เขากล่าวชัดเจน

 

เขามองไปที่เซียวเฉิน ผู้ที่หลบอยู่เบื้องหลังหลิวหรูเยว่และกล่าวออกมา “เจ้ากล้าก้าวออกมาไหม?”

 

จิตสังหารอยู่ในน้ําเสียงของเขาชัดเจน เขาไม่ได้ปกปิดมันหากเซียวเฉินก้าวออกไป แน่นอนว่าเขาจะต้องต้อนรับเซียวเฉินด้วยการโจมตีที่รุนแรง

 

เขาเยาะเย้ยข้าอย่างเปิดเผย และเขาก้าวออกมาเพื่อจะสังหารข้าให้สิ้นซากโดยไม่รู้เรื่องราวใดๆเลยเซี่ยว เฉินคิดแล้วก็โกรธพร้อมกับค่อยๆขยายจิตสังหารของเขา ออกไป และมือขวาของเขาก็ได้อยู่บนด้ามจับกระบี่เงาจันทร์ เรียบร้อยแล้ว

 

“เจ้ากล้าพูดเช่นนั้นอีกรอบมั้ย?” หลิวหรูเยว่ทันใดนั้นก็ พูดออกมาด้วยท่าทางเย็นชาขณะเดียวกับเชี่ยวเฉินที่กําลังจะเคลื่อนไหว ท่าทางเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย 

 

หน้าอกของจงเฉียนกลายเป็นรัดแน่นในขณะที่เขาคิดถึงความสําเร็จในอดีตของหลิวหรูเยว่ และอดไม่ได้ที่เขาจะสาปแช่งอยู่ในใจ เขาหุนหันเกินไปในวันนี้ ด้วยความ แข็งแกร่งขอตเขตนักบุญขั้นสูงเขาไม่สามารถทําอะไรเบื้อง หน้าหลิวหรูเยวได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม หากเขาถอยกลับไปด้วยท่าทางเสียใจต่อหน้าทุกผู้คน เขาจะกลายเป็นเรื่องน่าขบขันในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีลูกศิษย์ของยอดเขาเขียนต้วนอยู่เบื้องหลังเขา อีกมากมายเช่นกันเขาอาจจะไม่พ่ายแพ้ต่อหลิวหรูเยว่

 

เมื่อคิดได้ จงเฉียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเย็นชา “ทําไมข้า จะไม่กล้า!”

 

“เครั้ง!”

 

หลังจากจงเฉียนกล่าว มีประกายแสงเย็นยะเยือกเกิดขึ้นคมกระบี่ได้มาอยู่เบื้องหน้าสายตาเขาแล้วและเส้นผมบางเส้นของเขาก็ค่อยๆล่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างช้าๆ

 

จงเฉียนประหลาดใจ เขาผลักเท้าออกจากพื้นและถอยไปด้านหลัง อย่างไรก็ตาม หลิวหรูเยวรวดเร็วกว่าเขามาก กระบี่ของนางสับลงไปและรอยแตกก็ปรากฏอยู่บนเก ราะรบบริเวณหน้าอกของเขา มีเลือดไหลออกมาจากรอยแตก

 

ผู้คนรอบข้างต่างหายใจอย่างหนาวเหน็บ หากเกราะรบตัวนี้ไม่ได้ดูดซับแรงปะทะไปบ้าง จงเฉียนอาจจะถูกผ่าเป็นสองส่วน

 

ดวงตาของเซี่ยวเฉินเป็นประกาย การเคลื่อนไหวของหลิวหรูเยวคือ การสับ” ของทักษะกระบี่พื้นฐาน เขาไม่คาดคิดว่ามันจะปลดปล่อยพลังออกมาขนาดนี้เมื่อนางใช้ ออกมัน

 

เลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลของเขา และมันก็เจ็บปวดจนไม่น่าเชื่อ ตอนนี้จงเฉียนโกรธอย่างแท้จริงแล้ว มือขวาของเขาเคลือนถอยหลัง กําลังต้องการวาดกระบีออกไป เกิดเสียง เสี้ยว ขึ้นมาแต่ทว่าเขาวาดกระบออกไปได้แค่ครี่ งทางเท่านั้น ก่อนที่เขาจะถูกผลักกลับไปด้วยมือซ้ายของ หลิวหรูเยว่

 

เกิดลมกรรโชกขณะที่นางใช้ขาขวาของนางกําลังเตะไปที่ หน้าอกของเขาด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด เท้าของนางโดน หน้าอกของเขาและเกิดเสียงบังในทันที

 

หลิวหรูเยว่ควบคุมพละกําลังได้อย่างยอดเยี่ยมจงเฉียน ไม่ได้ถูกเตะแรงพอที่จะลอยขึ้นไปในอากาศ เขาแค่ล้มลงบนพื้นมันมีเสียง แกรก แกรก” ออกมาจากเบื้องหลังของเขาซี่โครงของเขาหักหลายซี่

 

เมื่อจงเฉียนต้องการจะยืนขึ้น หลิวหรูเยว่เหยียบหน้าอกของเขาอย่างไร้ปราณี จงเฉียนตะโกนออกมาด้วยความ เจ็บปวดเลือดซึมออกมาจากมุมปากของเขาในขณะที่เขานอนอยู่บนพื้นอีกครั้ง

 

แม้ว่ามันจะใช้เวลานานในการเล่าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แต่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น พวกเขาทั้งสองเพียงแค่แลกเปลี่ยนกันเพียงแค่การออกตัวคนละครั้งเหล่าศิษย์ของยอดเขาเขียนตัวนทั้งหมดไม่สามารถต อบสนองได้ทันเวลา

 

ตามเวลาที่พวกเขาตอบสนอง จงเฉียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากหลิวหรูเยู่แล้ว เขานอนราบไปกับพื้นไม่สามารถขยับ

 

จงเฉียนเป็นศิษย์ชั้นยอดของยอดเขาเขียนต้วน – เขายอดเยี่ยมเหมือนกับหลานคนแรกของท่านเจ้ายอดเขา – เขายังเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของยอดเขาเชียนต้วนอีกด้วยหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาภายใต้จมูกของทุกคนที่อยู่ที่นี่ พว กเขาทุกคนที่นี้จะไม่จบลงด้วยความสุขอย่างแน่นอน

 

เหล่าศิษย์ของยอดเขาเขียนตัวนทั้งหมดชักกระบี่ออกมาและรีบพุ่งเข้าหาหลิวหรูเยวอย่างรวดเร็วหลิวหรูเยว่หัวเราะ อย่างเย็นยะเยือกและเร่งออร่าของนางขึ้นมา ผู้คนรอบข้างทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทิ้ม

 

“นี่คือออร่าของขอบเขตนักบุญขั้นสูง นางกลายมาเป็นข อบเขตนักบุญขั้นสูงอย่างแท้จริงแล้วช่างน่าหวาดผวาอิ งนัก”

 

“ไม่ประหลาดใจเลยที่นางสามารถเอาชนะจงเฉียนได้ในการออกตัวครั้งเดียว ความแตกต่างของความแข็งแกร่งพวกเขามากเกินไป”

 

ภายใต้ออร่าที่น่าหวาดผวานี้ เหล่าลูกศิษย์ของยอดเขาเซียนต้วนก็หยุดลง พวกเขาทั้งหมดมองหลิวหรูเยวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าแม้ หนึ่งก้าว

 

ใบหน้าของจงเฉียนเองก็เต็มไปด้วยความตกใจ เขา กล่าวอย่างไม่เชื่อ “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? สองเดือนก่อนเจ้าเพิ่งจะเป็นขอบเขตนักบุญขั้นกลาง เจ้าพัฒนาขึ้นอย่าง รวดได้เช่นไร?!”

 

เมื่อผู้บ่มเพาะพลังมาถึงขอบเขตนักบุญ ทุกขั้นย่อ ยจะส่งผลให้ความแข็งแกร่งพัฒนาไปไกลมาก อย่างไรก็ตามการพัฒนาไปข้างหน้าก็เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน สําหรับบางคนที่พวกเขามีพรสวรรค์ไม่เพียงพอ และไม่สามารถก้าวหน้าได้แม้ว่าจะผ่านไปสิบปีที่เป็นช่วงเวลาอันมีค่า

หลิวหรูเยว่อายุเพียง 20 ปี และนางก็ได้เป็นขอบเขตนักบุญขั้นสูงแล้ว มันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ภายในศาลากระบี่สวรรค์

 

หลิวหรูเยว่ก้าวถอยหลังและมองไปที่จงเฉียน ผู้ที่กําลังนอนแผ่อยู่บนพื้น นางกล่าวอย่างเย็นยะเยือก “ไปซะ เลิกวางท่าสูงส่งต่อหน้าข้าได้แล้ว มิเช่นนั้น ข้าจะสังหารเจ้าซะบิดาของเจ้าจะไม่แม้แต่จะกล้ากล่าวสิ่งใด”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+