Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 399 เสียเปรียบหนัก

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 399 เสียเปรียบหนัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 399 เสียเปรียบหนัก

ด้วยความคิดที่ทั้งสองฝ่ายจะตายไปด้วยกัน ในสถานการณ์เช่นนี้, คนที่จิตใจอ่อนแอกว่าจะเป็นพังทลาย

เมื่อผู้คนภายในโรงเตี้ยมเห็นป่ายหลี่ซีและเซี่ยวเฉินต่อสู้กัน,พวกเขาทั้งหมดรีบถอยออกไป,ไม่มีใครเหลืออยู่

เมื่อพวกเขาเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแปลกประหลาด,พวกเขารีบหนีออกไปให้เร็วที่สุดที่พวกเขาจะทําได้ ชื่อเสียงของป่ายหลี่ซีเป็นที่กว้างขวาง หากเขาอยู่ในอารมณ์ไม่ดี,เขาอาจจะพังโรงเตี้ยมลงมาทั้งหลัง

หากพวกเขายังป้วนเปียนอยู่แถวนี้และติดอยู่ในการต่อสู้,พวกเขาอาจจะพบจุดจบที่ไม่สวยนัก

ท่าทางของเซี่ยวเฉินยังคงอดทน มันราวกับว่าเขาไม่เห็นอันตรายถึงขวานที่จ่ออยู่เหนือของเขา เขากล่าวอย่างเฉยเมย “เรื่องง่ายๆ มันไม่มีทางที่จะแลกเปลี่ยนโสมหิมะพันปีกับทักษะลับเล่มนี้ ไม่แม้แต่เล่มสําเนา”

“คิดด,ข้าเป็นคนที่โยนโสมหิมะพันปีให้กับเจ้า ตามหลักแล้ว,มันเป็นของข้ามาตั้งแต่แรก อย่าคิดที่จะเอาของของข้ามามาหลอกแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”

ป่ายหลี่ซีเดือดดาล เจ้าหมอนี่ยังกล้ากล่าวออกมาเช่นนี้ หากเขาไม่ได้โยนโสมหิมะพันปีมาให้ข้าโดยไม่มีนัยแฝง,ทําไมข้าถึงถูกไล่ต้อนออกมาจากสวนสมุนไพร?

หากข้าไม่ได้ถูกไล่ออกมาจากสวน,ข้าคงจะได้สมุนไพรสําหรับเสริมร่างกายมาไม่น้อย หากโชคดี,ข้าอาจจะได้สมบัติในโลงศพราชาทุ่งหญ้ามาอีก

กระนั้น,เจ้าหมอนี้ยังเล่นลิ้นคิดให้ข้าเป็นคนหลอกลวง ช่างน่าไม่อาย!

ป่ายหลี่ซีกล่าวอย่างหนักแน่น “เจ้าชนะข้าจะให้อีกสองพันหินวิญญาณระดับกลางพอหรือไม่?”

เซี่ยวเฉินยังคงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวขึ้น “หากข้านาทักษะนภาเสริมกายเล่มนี้ไปขึ้นประมูลที่ดินแดนรกร้างโบราณ,ข้าเชื่อว่าข้าจะได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับกลาง”

ป่ายหลี่ซีมือสั่น,ข้าอดทนอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มือลื่นสับลงไปบนหัวของเซี่ยวเฉิน เจ้าหมอนี่ดูเป็นเด็กหนุมละเอียดอ่อน,กระนั้นเขากลับมีไหวพริบถึงเพียงนี้

อย่างไรก็ตาม,ป่ายหลี่ซีจะไปมีถึงหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับกลางได้อย่างไร? สมบัติของเขาทั้งหมดรวมกันก็ยังไม่พอ ปราศจากการเข้าเผชิญโชคหรือสังหารคนอื่นเพื่อแย่งชิงสมบัติ,เขา

ถึงขนาดนั้น จะต้องทํางานอย่างหนักในดินแดนรกร้างโบราณถึงห้าหรือหกปีเพื่อที่จะสะสมได้ถึงขนาดนั้น

ป่ายหลี่ซีสูดหายใจเข้าลึกและพยายามอย่างที่สุดเพื่อกดข่มใจของเขาเอาไว้ “ข้าให้เจ้าได้อีกสองพัน,ไม่มีมากกว่านี้แล้ว”

เซียวเฉินมองดูอย่างสงบและกล่าวอย่างเฉยเมย “เพิ่มอีกอย่างน้อยห้าพัน มิฉะนั้น,ลืมไปได้เลย ข้าจะเอาไปขายด้วยตัวเองหรือไม่,เจ้าสามารถลองเดิมพัน,ดูว่าเจ้าจะสามารถที่โดนข้าก่อน และหลบดาบของข้าไปได้”

“อย่างไรก็ตาม ให้ข้าบอกเจ้าก่อน สมบัติลับของข้าชิ้นนี้เป็นสมบัติระดับต่ําขั้นสูงสุด มันรวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะหลบมันได้”
ป่ายหลซีดูราวกับกําลังจะพ่นไฟออกมาจากดวงตา ตั้งแต่ที่เขากลายมามีชื่อเสียง,เขาไม่เคยถูกไล่ต้อนจนมีสภาพน่าสมเพชถึงเพียงนี้ นอกจากนั้น,ใยตรงข้ามยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม

ป่ายหลี่ซีต้องระวังทุกคําพูดที่จะกล่าว;เขาไม่อาจพูดออกไปอย่างที่ใจคิด เขาไม่อาจอธิบายความอัดอั้นออกมาเป็นคําพูด

อย่างไรก็ตาม,ทักษะนภาเสริมกายเล่มนี้มันสําคัญกับป่ายหลี่ซีมากเกินไป มันเป็นสิ่งที่สามารถเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะสามารถเลื่อนระดับพลังต่อไปได้หรือไม่

การบ่มเพาะพลังกายภาพเป็นเส้นทางที่ยากลําบาก สําหรับป่ายหลี่ซีที่บ่มเพาะพลังจนไปถึง ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดพิสูจน์ถึงพรสวรรค์ของเขา
พรสวรรค์ของป่ายหลี่ซีนับว่ายอดเยี่ยมเขาเพียงขาดตําราลับดีๆก่อนที่เขาจะสามารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้ ตอนนี้,เซี่ยวเฉินจี้ถูกจุดอ่อนของเขา;เขาไม่อาจทําอะไรเซี่ยวเฉินได้แม้แต่น้อย
“ซิว!”

ป่ายหลี่ซีถอนขวานของเขากลับไป ใบหน้าอันหยาบกระด้างของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่ง หลังจากสงบสติอารมณ์ลง,เขาก็กล่าว “เจ้าชนะ ข้าจะเพิ่มอีกหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลาง สําหรับหินวิญญาณที่เหลือ,ข้าจําเป็นต้องเอาไปซื้อสมุนไพรสําหรับบ่มเพาะร่างกายและของอื่นๆอีก ข้าไม่อาจปล่อยพวกมันไปได้ อย่างไรก็ตาม,ขาสามารถให้ข้อมูลกับเจ้าได้

เซียวเฉินถอนดาบจิ๋วออกมา เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,โสมหิมะพันปี,หินวิญญาณระดับกลางห้าพันก้อน,และข้อมูลมีค่าแลกเปลี่ยนกับสําเนาทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์…

นี่เป็นอย่างที่เซียวเฉินคาดเอาไว้ไม่มากไม่น้อย หากเขายังดึงดันต่อไป, ป่ายหลี่ซีอาจจะกลายเป็นบ้าคลั่ง

ทักษะบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์อาจจะล้ําค่าอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม,ที่เซียวเฉินมีเป็นทักษะบ่มเพาะร่างกาย เขาไม่ได้ตีค่ามันเอาไว้สูงนัก

มีผู้บ่มเพาะพลังน้อยคนที่จะเสริมสร้างร่างกายของพวกเขา มันไม่ได้ใช้เป็นที่แพร่หลายนัก มันยากที่จะปั่นราคาให้สูงในการประมูล

ดังนั้น ในตอนที่เซี่ยวเฉินเห็นป่ายหลี่ซี,เขาได้ได้ตัดสินใจตั้งเป้าหมายไปที่คนผู้นี้ เขาสามารถเรียกคาราของตําราลับเล่มนี้ได้สูงที่สุดจากผู้บ่มเพาะพลังผู้หยาบกร้านคนนี้

ทั้งสองหาโต๊ะอีกที่หนึ่งและนั่งลง เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย “พูดมา;ข้อมูลอะไรที่มีค่าถึงสองพันหินวิญญาณระดับกลาง”

ป่ายหลี่ซีกล่าวอย่างมืดมัว “ข้ามีข้อมูลของสมบัติลับระดับกลาง บอกข้ามามันคุ้มแล้วหรือไม่?

หัวใจของเซี่ยวเฉินเต้นรัว ป่ายหลี่ซีดึงความสนใจของเขาเอาไว้ได้ในทันที เขาได้เรียนรู้ถึงผลของสมบัติลับมาแล้ว

เสื้อคลุ่มวายุใสเพิ่มความสามารถโดยรวมของเซียวเฉิน,ตั้งแต่ที่พวกเขามอบมันให้กับเขา,เขาก็มีมันมาตั้งแต่นั้นมา รองเท้ากาววายุทําให้เขารวดเร็วได้เทียบเท่ารชขอบเขตกษัตริย์ตั้งแต่ที่เขายังอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ

จี้หยกป้องกันได้ช่วยเซียวเฉินมาหลายครั้ง สําหรับเกราะในระดับต่ําขั้นสูงสุดที่เขาเพิ่งได้มา,มันช่วยชีวิตของเขามาแล้วครั้งหนึ่ง

ดาบฝ่ามือของเซี่ยวเฉินกดดันให้ป่ายหลี่ซีต้องหยุดนิ่ง ทําให้เขาต้องไขว้เขว

– ปราศจากสมบัติลับเหล่านี้ ความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินจะลดลงไปสิบเปอร์เซ็นต์,ความเร็วของเขาจะลดลงไปอย่างน้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ นี่แสดงให้เห็นถึงความสําคัญของสมบัติลับต่อตัวเขา

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เซียวเฉินเลื่อนสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,สมบัติลับของเขาไม่สามารถเติบโตตามความแข็งแกร่วของเขา ยกตัวอย่างจี้หยก,สามารถปองกันการโจมตีของขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลาง มันไร้ประโยชน์ในตอนที่เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้

สําหรับรองเท้าก้าววาย,ขณะที่เซียวเฉินอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ,พวกมันเพิ่มความเร็วของเขายี่สิบเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พวกมันสามารถเพิ่มความเร็วได้เพียงสิบเปอร์เซ็นต์

หยางเหวินและราชาหมาป่ากลืนฝันทําความเสียหายให้กับเหราะในของเขา เซี่ยวเฉันไม่รู้ว่าเขาจะสามารถใช้มันไปได้ถึงตอนไหน

สมบัติลับที่ยังมีผลมากกับเซี่ยวเฉินก็คือดาบฝ่ามือและเสื้อคลุมวายุใส สมบัติลับระดับกลางดึงความสนใจของเขาไปเต็มๆ

เซียวเฉินวางแก้วชาลงบนโต๊ะเบาๆและกล่าวอย่างสนใจ “บอกข้ามา”

ป่ายหลี่ซีกล่าว “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับสมรภูมิมารอสูรในดินแดนรกร้างมาก่อน,ใช่หรือไม่?,สมบัติลับส่วนใหญ่ในทวีปแห่งนี้ก็มาจากที่นั้น”

เซี่ยวเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับสมรภูมิมารอสูรในตอนที่เขาอยู่ในงานประมูลที่เมืองซีเหอ ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปยังสมรภูมิมารอสูรได้วางประมูลสมบัติลับที่นั้น

ป่ายหลี่ซีกลายต่อ “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,เจ้าน่าจะไม่มีอันตรายใดๆในรอบนอกของสมรภูมิมารอสูร ในพื้นที่ส่วนกลางจะมีปัญหามากยิ่งขึ้น สําหรับพื้นที่ส่วนกลาง…ข้าบอกได้เพียงขอให้โชคดี”

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อยและกล่าว “เจ้าพยายามจะสื่อถึงอะไร? บอกมาตรงๆ”

ป่ายหลี่ซีหัวเราะและหยิบเอาชิ้นกระดาษออกมา เขาเขียนตําแหน่งแผนที่ก่อนที่จะส่งให้กับเซี่ยวเฉิน เขากล่าว “ปกติแล้ว,สมบัติลับระดับกลางจะพบได้ในพื้นที่ส่วนในของสมรภูมิมารอสูร สมบัติลับระดับกลางที่ข้ากล่าวถึงสามารถพบได้ในรอบนอก แน่นอน,มันยังมีอันตรายอยู่บ้าง เจ้าจะสามารถเอามันมาได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”

เซี่ยวเฉินรับกระดาษมาจากป่ายหลี่ซีและมองดู ด้วยตําแหน่งและแผนที่, มันง่ายที่จะตามหาสถานที่แห่งนั้น

หลังจากนั้น, ป่ายหลี่ซีหยิบเอากล่องใส่หินวิญญาณระดับกลางออกมาก่อนที่จะส่งให้เขากล่าว “ห้าพันหินวิญญาณระดับกลาง,โสมหิมะพันปี,และข่าวของสมบัติลับระดับกลาง เพียงพอแล้วใช้หรือไม่?!”

เซียวเฉินเก็บแผนที่ไปและกวาดทุกอย่างเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาลของเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นและกล่าว “พอแล้ว!”

“เช่นนั้นเอาตารามา!” ป่ายหลี่ซีกล่ายอย่างไร้สีหน้า

เซียวเฉินหยิบเอาสําเนาเขียนมือออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น,และจากไป

ป่ายหลี่ซีตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟพร้อมกับรีบหยิบตําราลับขึ้นมาเริ่มอ่านเขาอุทานอย่างตื่นเต้น “มันเป็นของจริง! ของจริง! ทักษะนภาเสริมกาย! ฮ่าฮ่าฮ่า! ข้า,ป่ายหลี่ซี,ในที่สุดก็ได้ทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์มา!”

ในไม่ช้าป่ายหลี่ซีก็พลิกจนไปถึงหน้าสุดท้ายของตําราลับ เมื่อเขาอ่านจนจบ,สีหน้าของเขาเปลี่ยนพร้อมกับหยิบขวานใหญ่ของเขาและวิ่งออกไปมองหาเซี่ยวเฉิน

“สารเลว! เจ้ากล้าโกงข้า! ทําไมมันมีแค่หกชั้น? ทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์ทั้งหมดจะมีอย่างน้อยสิบสองชั้น ที่เหลืออีกครึ่งหายไปไหน?”

เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่เดินไปถึงบันไดแล้ว หันกลับมาและกล่าว, “ก็อยู่กับข้าไง”

ป่ายหลี่ซีกระทืบลงบนพื้นไม้อย่างรุนแรง,ฟันขวานใหญ่ของเขาไปที่เซียวเฉิน ด้วยพลังกายภาพของเขาเพียงอย่างเดียว,ความเร็วของเขาขึ้นไปถึง 3 มัค

“เครั้ง!”

เซียวเฉินชักกระบี่เงาจันทร์ของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและผสานเข้ากับสภาวะคู่ของเขา สภาวะแห่งสายฟ้าและการฆ่าล้างแทรกเป็นแสงสีแดงสลับม่วงบนตัวกระบี่

เซี่ยวเฉินใช้ออกวาดกระบ:ความเร็วของเขาขึ้นไปถึง 3 มัคในทันที เขาป้องกันการโจมตีจากป่ายหลี่ซี

เกิดเสียงทุ้มลึกดังตามมา,และพลังอันน่ากลัวขยายออกจากอาวุธของพวกเขา,ระเบิดหลังคาของโรงเตี้ยมลอยขึ้นไปในอากาศทันที

โชคดี,ผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆฉลาดพอและหนีออกไปกันแล้ว มิฉะนั้น,หากคลื่นกระแทกซัดโดนพวกเขา,พวกเขาอาจจะจบลงที่สภาพไม่น่าดูนัก

เมื่อป่ายหลี่ซีเห็นว่าเซียวเฉินรับการโจมตีของเขาได้,เขาตกตะลึงเล็กน้อย เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “สารเลว! เจ้าต้องการอะไรกันแน่?! ข้าให้ราคากับเจ้าไปแล้ว,กระนั้น,เจ้าเล่นตุกติกกับข้า!”

เซียวเฉินยันไว้ด้วยกระบี่เงาจันทร์ของเขาและกล่าวอย่างใจเย็น “อย่าทําเหมือนข้าอายุสามขวบ แค่เจ้าบอกว่ามีสมบัติลับ,มันจะต้องมีจริงๆ? หากมันได้มาง่ายๆ,เช่นนั้นทําไมเจ้าไม่ไปเอาเองเสีย?”

ป่ายหลี่ซีกล่าว “หากข้าไม่ต้องรีบมาที่เกาะเชียนเหลิ่น,ข้าได้สมบัติลับชิ้นนั้นมานานแล้ว เจ้าไม่มีโอกาสได้เห็นมันด้วยซ้ํา”

เซียวเฉินยังคงสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับกล่าวอย่างไม่แยแส “เจ้าจะพูดอะไรก็พูดไป ข้าจะให้ เจ้าอีกครึ่งหนึ่งหลังจากที่ข้าได้สมบัติลับชิ้นนั้นมาแล้ว”

“ข้าแนะนําว่าอย่าใจร้อน หากข้าอารมณ์เสียขึ้นมา,ข้าอาจจะเผาอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือเสีย หินวิญญาณและโสมหิมะของเจ้าจะเสียเปล่า”

ป่ายหลี่ซีเดือดดาลอยู่ในใจ เซี่ยวเฉินฉีกสัญญาของเขา ที่สําคัญที่สุดคือเขาไม่อาจทําอะไรเจ้าหมอนี่ได้เลย

ไม่ว่าจะตอนไหน,เจ้าหนูนี้ก็จับจุดอ่อนของเขาเอาไว้เสมอ,เอารัดเอาเปรียบข้า!

ให้ตาย!

ป่ายหลี่ซีสาปด่าและแกว่งขวานไปมาอย่างบ้าคลั่ง พลังที่น่ากลัวทําให้โรงเตี้ยมทั้งหลังพังลงมา,กลายเป็นซากปรักหักพัง

เซี่ยวเฉินเดินออกไปบนถนนในเกาะสายลมขจี ป่ายหลี่ซีเดินตามหลังเขาไปด้วยสีหน้าหดหู่

“เห้,นั้นมือกระบี่ชุดขาวมิใช่รึ? คนนั้นก็เหมือนว่าจะเป็นป่ายหลี่ซี เกิดอะไรขึ้น? ทําไมพวกเขาถึงมาอยู่ด้วยกัน”

“ตามจริง,ข้าจําได้ว่าป่ายหลี่ซีถูกเซียวเฉินในหัวหลายต่อหลายครั้งบนเกาะเชียนเหลิน น่าแปลก ด้วยนิสัยของป่ายหลี่ซี, มันน่าแปลกที่ะจเห็นเขาเดินไปเช่นนั้นราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น”

“ก่อนหน้านี้,ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาต่อสู้กันในโรงเตี้ยมเทียนเหอ ข้าคิดว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่ป่ายหลี่ซี่ไม่อาจทําอะไรเซี่ยวเฉินได้”

ตอนนี้,เซี่ยวเฉินเริ่มที่จะมีชื่อเสียงภายในเกาะสายลมขจี สําหรับป่ายหลี่ซี,เขามีชื่อเสียงมานานแล้ว ดังนั้น ในตอนที่พวกเขาเดินอยู่ด้านนอก,มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนจ่าพวกเขาได้ในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Immortal and Martial Dual Cultivationบทที่ 399 เสียเปรียบหนัก

Now you are reading Immortal and Martial Dual Cultivation Chapter บทที่ 399 เสียเปรียบหนัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 399 เสียเปรียบหนัก

ด้วยความคิดที่ทั้งสองฝ่ายจะตายไปด้วยกัน ในสถานการณ์เช่นนี้, คนที่จิตใจอ่อนแอกว่าจะเป็นพังทลาย

เมื่อผู้คนภายในโรงเตี้ยมเห็นป่ายหลี่ซีและเซี่ยวเฉินต่อสู้กัน,พวกเขาทั้งหมดรีบถอยออกไป,ไม่มีใครเหลืออยู่

เมื่อพวกเขาเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแปลกประหลาด,พวกเขารีบหนีออกไปให้เร็วที่สุดที่พวกเขาจะทําได้ ชื่อเสียงของป่ายหลี่ซีเป็นที่กว้างขวาง หากเขาอยู่ในอารมณ์ไม่ดี,เขาอาจจะพังโรงเตี้ยมลงมาทั้งหลัง

หากพวกเขายังป้วนเปียนอยู่แถวนี้และติดอยู่ในการต่อสู้,พวกเขาอาจจะพบจุดจบที่ไม่สวยนัก

ท่าทางของเซี่ยวเฉินยังคงอดทน มันราวกับว่าเขาไม่เห็นอันตรายถึงขวานที่จ่ออยู่เหนือของเขา เขากล่าวอย่างเฉยเมย “เรื่องง่ายๆ มันไม่มีทางที่จะแลกเปลี่ยนโสมหิมะพันปีกับทักษะลับเล่มนี้ ไม่แม้แต่เล่มสําเนา”

“คิดด,ข้าเป็นคนที่โยนโสมหิมะพันปีให้กับเจ้า ตามหลักแล้ว,มันเป็นของข้ามาตั้งแต่แรก อย่าคิดที่จะเอาของของข้ามามาหลอกแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”

ป่ายหลี่ซีเดือดดาล เจ้าหมอนี่ยังกล้ากล่าวออกมาเช่นนี้ หากเขาไม่ได้โยนโสมหิมะพันปีมาให้ข้าโดยไม่มีนัยแฝง,ทําไมข้าถึงถูกไล่ต้อนออกมาจากสวนสมุนไพร?

หากข้าไม่ได้ถูกไล่ออกมาจากสวน,ข้าคงจะได้สมุนไพรสําหรับเสริมร่างกายมาไม่น้อย หากโชคดี,ข้าอาจจะได้สมบัติในโลงศพราชาทุ่งหญ้ามาอีก

กระนั้น,เจ้าหมอนี้ยังเล่นลิ้นคิดให้ข้าเป็นคนหลอกลวง ช่างน่าไม่อาย!

ป่ายหลี่ซีกล่าวอย่างหนักแน่น “เจ้าชนะข้าจะให้อีกสองพันหินวิญญาณระดับกลางพอหรือไม่?”

เซี่ยวเฉินยังคงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวขึ้น “หากข้านาทักษะนภาเสริมกายเล่มนี้ไปขึ้นประมูลที่ดินแดนรกร้างโบราณ,ข้าเชื่อว่าข้าจะได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับกลาง”

ป่ายหลี่ซีมือสั่น,ข้าอดทนอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มือลื่นสับลงไปบนหัวของเซี่ยวเฉิน เจ้าหมอนี่ดูเป็นเด็กหนุมละเอียดอ่อน,กระนั้นเขากลับมีไหวพริบถึงเพียงนี้

อย่างไรก็ตาม,ป่ายหลี่ซีจะไปมีถึงหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับกลางได้อย่างไร? สมบัติของเขาทั้งหมดรวมกันก็ยังไม่พอ ปราศจากการเข้าเผชิญโชคหรือสังหารคนอื่นเพื่อแย่งชิงสมบัติ,เขา

ถึงขนาดนั้น จะต้องทํางานอย่างหนักในดินแดนรกร้างโบราณถึงห้าหรือหกปีเพื่อที่จะสะสมได้ถึงขนาดนั้น

ป่ายหลี่ซีสูดหายใจเข้าลึกและพยายามอย่างที่สุดเพื่อกดข่มใจของเขาเอาไว้ “ข้าให้เจ้าได้อีกสองพัน,ไม่มีมากกว่านี้แล้ว”

เซียวเฉินมองดูอย่างสงบและกล่าวอย่างเฉยเมย “เพิ่มอีกอย่างน้อยห้าพัน มิฉะนั้น,ลืมไปได้เลย ข้าจะเอาไปขายด้วยตัวเองหรือไม่,เจ้าสามารถลองเดิมพัน,ดูว่าเจ้าจะสามารถที่โดนข้าก่อน และหลบดาบของข้าไปได้”

“อย่างไรก็ตาม ให้ข้าบอกเจ้าก่อน สมบัติลับของข้าชิ้นนี้เป็นสมบัติระดับต่ําขั้นสูงสุด มันรวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะหลบมันได้”
ป่ายหลซีดูราวกับกําลังจะพ่นไฟออกมาจากดวงตา ตั้งแต่ที่เขากลายมามีชื่อเสียง,เขาไม่เคยถูกไล่ต้อนจนมีสภาพน่าสมเพชถึงเพียงนี้ นอกจากนั้น,ใยตรงข้ามยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม

ป่ายหลี่ซีต้องระวังทุกคําพูดที่จะกล่าว;เขาไม่อาจพูดออกไปอย่างที่ใจคิด เขาไม่อาจอธิบายความอัดอั้นออกมาเป็นคําพูด

อย่างไรก็ตาม,ทักษะนภาเสริมกายเล่มนี้มันสําคัญกับป่ายหลี่ซีมากเกินไป มันเป็นสิ่งที่สามารถเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะสามารถเลื่อนระดับพลังต่อไปได้หรือไม่

การบ่มเพาะพลังกายภาพเป็นเส้นทางที่ยากลําบาก สําหรับป่ายหลี่ซีที่บ่มเพาะพลังจนไปถึง ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดพิสูจน์ถึงพรสวรรค์ของเขา
พรสวรรค์ของป่ายหลี่ซีนับว่ายอดเยี่ยมเขาเพียงขาดตําราลับดีๆก่อนที่เขาจะสามารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้ ตอนนี้,เซี่ยวเฉินจี้ถูกจุดอ่อนของเขา;เขาไม่อาจทําอะไรเซี่ยวเฉินได้แม้แต่น้อย
“ซิว!”

ป่ายหลี่ซีถอนขวานของเขากลับไป ใบหน้าอันหยาบกระด้างของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่ง หลังจากสงบสติอารมณ์ลง,เขาก็กล่าว “เจ้าชนะ ข้าจะเพิ่มอีกหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลาง สําหรับหินวิญญาณที่เหลือ,ข้าจําเป็นต้องเอาไปซื้อสมุนไพรสําหรับบ่มเพาะร่างกายและของอื่นๆอีก ข้าไม่อาจปล่อยพวกมันไปได้ อย่างไรก็ตาม,ขาสามารถให้ข้อมูลกับเจ้าได้

เซียวเฉินถอนดาบจิ๋วออกมา เขาครุ่นคิดกับตัวเอง,โสมหิมะพันปี,หินวิญญาณระดับกลางห้าพันก้อน,และข้อมูลมีค่าแลกเปลี่ยนกับสําเนาทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์…

นี่เป็นอย่างที่เซียวเฉินคาดเอาไว้ไม่มากไม่น้อย หากเขายังดึงดันต่อไป, ป่ายหลี่ซีอาจจะกลายเป็นบ้าคลั่ง

ทักษะบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์อาจจะล้ําค่าอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม,ที่เซียวเฉินมีเป็นทักษะบ่มเพาะร่างกาย เขาไม่ได้ตีค่ามันเอาไว้สูงนัก

มีผู้บ่มเพาะพลังน้อยคนที่จะเสริมสร้างร่างกายของพวกเขา มันไม่ได้ใช้เป็นที่แพร่หลายนัก มันยากที่จะปั่นราคาให้สูงในการประมูล

ดังนั้น ในตอนที่เซี่ยวเฉินเห็นป่ายหลี่ซี,เขาได้ได้ตัดสินใจตั้งเป้าหมายไปที่คนผู้นี้ เขาสามารถเรียกคาราของตําราลับเล่มนี้ได้สูงที่สุดจากผู้บ่มเพาะพลังผู้หยาบกร้านคนนี้

ทั้งสองหาโต๊ะอีกที่หนึ่งและนั่งลง เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย “พูดมา;ข้อมูลอะไรที่มีค่าถึงสองพันหินวิญญาณระดับกลาง”

ป่ายหลี่ซีกล่าวอย่างมืดมัว “ข้ามีข้อมูลของสมบัติลับระดับกลาง บอกข้ามามันคุ้มแล้วหรือไม่?

หัวใจของเซี่ยวเฉินเต้นรัว ป่ายหลี่ซีดึงความสนใจของเขาเอาไว้ได้ในทันที เขาได้เรียนรู้ถึงผลของสมบัติลับมาแล้ว

เสื้อคลุ่มวายุใสเพิ่มความสามารถโดยรวมของเซียวเฉิน,ตั้งแต่ที่พวกเขามอบมันให้กับเขา,เขาก็มีมันมาตั้งแต่นั้นมา รองเท้ากาววายุทําให้เขารวดเร็วได้เทียบเท่ารชขอบเขตกษัตริย์ตั้งแต่ที่เขายังอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ

จี้หยกป้องกันได้ช่วยเซียวเฉินมาหลายครั้ง สําหรับเกราะในระดับต่ําขั้นสูงสุดที่เขาเพิ่งได้มา,มันช่วยชีวิตของเขามาแล้วครั้งหนึ่ง

ดาบฝ่ามือของเซี่ยวเฉินกดดันให้ป่ายหลี่ซีต้องหยุดนิ่ง ทําให้เขาต้องไขว้เขว

– ปราศจากสมบัติลับเหล่านี้ ความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินจะลดลงไปสิบเปอร์เซ็นต์,ความเร็วของเขาจะลดลงไปอย่างน้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ นี่แสดงให้เห็นถึงความสําคัญของสมบัติลับต่อตัวเขา

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เซียวเฉินเลื่อนสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,สมบัติลับของเขาไม่สามารถเติบโตตามความแข็งแกร่วของเขา ยกตัวอย่างจี้หยก,สามารถปองกันการโจมตีของขอบเขตกษัตริย์ขั้นกลาง มันไร้ประโยชน์ในตอนที่เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้

สําหรับรองเท้าก้าววาย,ขณะที่เซียวเฉินอยู่ระดับขอบเขตนักบุญ,พวกมันเพิ่มความเร็วของเขายี่สิบเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เขาอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ,พวกมันสามารถเพิ่มความเร็วได้เพียงสิบเปอร์เซ็นต์

หยางเหวินและราชาหมาป่ากลืนฝันทําความเสียหายให้กับเหราะในของเขา เซี่ยวเฉันไม่รู้ว่าเขาจะสามารถใช้มันไปได้ถึงตอนไหน

สมบัติลับที่ยังมีผลมากกับเซี่ยวเฉินก็คือดาบฝ่ามือและเสื้อคลุมวายุใส สมบัติลับระดับกลางดึงความสนใจของเขาไปเต็มๆ

เซียวเฉินวางแก้วชาลงบนโต๊ะเบาๆและกล่าวอย่างสนใจ “บอกข้ามา”

ป่ายหลี่ซีกล่าว “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับสมรภูมิมารอสูรในดินแดนรกร้างมาก่อน,ใช่หรือไม่?,สมบัติลับส่วนใหญ่ในทวีปแห่งนี้ก็มาจากที่นั้น”

เซี่ยวเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับสมรภูมิมารอสูรในตอนที่เขาอยู่ในงานประมูลที่เมืองซีเหอ ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปยังสมรภูมิมารอสูรได้วางประมูลสมบัติลับที่นั้น

ป่ายหลี่ซีกลายต่อ “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า,เจ้าน่าจะไม่มีอันตรายใดๆในรอบนอกของสมรภูมิมารอสูร ในพื้นที่ส่วนกลางจะมีปัญหามากยิ่งขึ้น สําหรับพื้นที่ส่วนกลาง…ข้าบอกได้เพียงขอให้โชคดี”

เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดเล็กน้อยและกล่าว “เจ้าพยายามจะสื่อถึงอะไร? บอกมาตรงๆ”

ป่ายหลี่ซีหัวเราะและหยิบเอาชิ้นกระดาษออกมา เขาเขียนตําแหน่งแผนที่ก่อนที่จะส่งให้กับเซี่ยวเฉิน เขากล่าว “ปกติแล้ว,สมบัติลับระดับกลางจะพบได้ในพื้นที่ส่วนในของสมรภูมิมารอสูร สมบัติลับระดับกลางที่ข้ากล่าวถึงสามารถพบได้ในรอบนอก แน่นอน,มันยังมีอันตรายอยู่บ้าง เจ้าจะสามารถเอามันมาได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”

เซี่ยวเฉินรับกระดาษมาจากป่ายหลี่ซีและมองดู ด้วยตําแหน่งและแผนที่, มันง่ายที่จะตามหาสถานที่แห่งนั้น

หลังจากนั้น, ป่ายหลี่ซีหยิบเอากล่องใส่หินวิญญาณระดับกลางออกมาก่อนที่จะส่งให้เขากล่าว “ห้าพันหินวิญญาณระดับกลาง,โสมหิมะพันปี,และข่าวของสมบัติลับระดับกลาง เพียงพอแล้วใช้หรือไม่?!”

เซียวเฉินเก็บแผนที่ไปและกวาดทุกอย่างเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาลของเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นและกล่าว “พอแล้ว!”

“เช่นนั้นเอาตารามา!” ป่ายหลี่ซีกล่ายอย่างไร้สีหน้า

เซียวเฉินหยิบเอาสําเนาเขียนมือออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น,และจากไป

ป่ายหลี่ซีตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาของเขาลุกเป็นไฟพร้อมกับรีบหยิบตําราลับขึ้นมาเริ่มอ่านเขาอุทานอย่างตื่นเต้น “มันเป็นของจริง! ของจริง! ทักษะนภาเสริมกาย! ฮ่าฮ่าฮ่า! ข้า,ป่ายหลี่ซี,ในที่สุดก็ได้ทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์มา!”

ในไม่ช้าป่ายหลี่ซีก็พลิกจนไปถึงหน้าสุดท้ายของตําราลับ เมื่อเขาอ่านจนจบ,สีหน้าของเขาเปลี่ยนพร้อมกับหยิบขวานใหญ่ของเขาและวิ่งออกไปมองหาเซี่ยวเฉิน

“สารเลว! เจ้ากล้าโกงข้า! ทําไมมันมีแค่หกชั้น? ทักษะบ่มเพาะระดับสวรรค์ทั้งหมดจะมีอย่างน้อยสิบสองชั้น ที่เหลืออีกครึ่งหายไปไหน?”

เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่เดินไปถึงบันไดแล้ว หันกลับมาและกล่าว, “ก็อยู่กับข้าไง”

ป่ายหลี่ซีกระทืบลงบนพื้นไม้อย่างรุนแรง,ฟันขวานใหญ่ของเขาไปที่เซียวเฉิน ด้วยพลังกายภาพของเขาเพียงอย่างเดียว,ความเร็วของเขาขึ้นไปถึง 3 มัค

“เครั้ง!”

เซียวเฉินชักกระบี่เงาจันทร์ของเขาออกมาอย่างรวดเร็วและผสานเข้ากับสภาวะคู่ของเขา สภาวะแห่งสายฟ้าและการฆ่าล้างแทรกเป็นแสงสีแดงสลับม่วงบนตัวกระบี่

เซี่ยวเฉินใช้ออกวาดกระบ:ความเร็วของเขาขึ้นไปถึง 3 มัคในทันที เขาป้องกันการโจมตีจากป่ายหลี่ซี

เกิดเสียงทุ้มลึกดังตามมา,และพลังอันน่ากลัวขยายออกจากอาวุธของพวกเขา,ระเบิดหลังคาของโรงเตี้ยมลอยขึ้นไปในอากาศทันที

โชคดี,ผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆฉลาดพอและหนีออกไปกันแล้ว มิฉะนั้น,หากคลื่นกระแทกซัดโดนพวกเขา,พวกเขาอาจจะจบลงที่สภาพไม่น่าดูนัก

เมื่อป่ายหลี่ซีเห็นว่าเซียวเฉินรับการโจมตีของเขาได้,เขาตกตะลึงเล็กน้อย เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “สารเลว! เจ้าต้องการอะไรกันแน่?! ข้าให้ราคากับเจ้าไปแล้ว,กระนั้น,เจ้าเล่นตุกติกกับข้า!”

เซียวเฉินยันไว้ด้วยกระบี่เงาจันทร์ของเขาและกล่าวอย่างใจเย็น “อย่าทําเหมือนข้าอายุสามขวบ แค่เจ้าบอกว่ามีสมบัติลับ,มันจะต้องมีจริงๆ? หากมันได้มาง่ายๆ,เช่นนั้นทําไมเจ้าไม่ไปเอาเองเสีย?”

ป่ายหลี่ซีกล่าว “หากข้าไม่ต้องรีบมาที่เกาะเชียนเหลิ่น,ข้าได้สมบัติลับชิ้นนั้นมานานแล้ว เจ้าไม่มีโอกาสได้เห็นมันด้วยซ้ํา”

เซียวเฉินยังคงสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับกล่าวอย่างไม่แยแส “เจ้าจะพูดอะไรก็พูดไป ข้าจะให้ เจ้าอีกครึ่งหนึ่งหลังจากที่ข้าได้สมบัติลับชิ้นนั้นมาแล้ว”

“ข้าแนะนําว่าอย่าใจร้อน หากข้าอารมณ์เสียขึ้นมา,ข้าอาจจะเผาอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือเสีย หินวิญญาณและโสมหิมะของเจ้าจะเสียเปล่า”

ป่ายหลี่ซีเดือดดาลอยู่ในใจ เซี่ยวเฉินฉีกสัญญาของเขา ที่สําคัญที่สุดคือเขาไม่อาจทําอะไรเจ้าหมอนี่ได้เลย

ไม่ว่าจะตอนไหน,เจ้าหนูนี้ก็จับจุดอ่อนของเขาเอาไว้เสมอ,เอารัดเอาเปรียบข้า!

ให้ตาย!

ป่ายหลี่ซีสาปด่าและแกว่งขวานไปมาอย่างบ้าคลั่ง พลังที่น่ากลัวทําให้โรงเตี้ยมทั้งหลังพังลงมา,กลายเป็นซากปรักหักพัง

เซี่ยวเฉินเดินออกไปบนถนนในเกาะสายลมขจี ป่ายหลี่ซีเดินตามหลังเขาไปด้วยสีหน้าหดหู่

“เห้,นั้นมือกระบี่ชุดขาวมิใช่รึ? คนนั้นก็เหมือนว่าจะเป็นป่ายหลี่ซี เกิดอะไรขึ้น? ทําไมพวกเขาถึงมาอยู่ด้วยกัน”

“ตามจริง,ข้าจําได้ว่าป่ายหลี่ซีถูกเซียวเฉินในหัวหลายต่อหลายครั้งบนเกาะเชียนเหลิน น่าแปลก ด้วยนิสัยของป่ายหลี่ซี, มันน่าแปลกที่ะจเห็นเขาเดินไปเช่นนั้นราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น”

“ก่อนหน้านี้,ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาต่อสู้กันในโรงเตี้ยมเทียนเหอ ข้าคิดว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่ป่ายหลี่ซี่ไม่อาจทําอะไรเซี่ยวเฉินได้”

ตอนนี้,เซี่ยวเฉินเริ่มที่จะมีชื่อเสียงภายในเกาะสายลมขจี สําหรับป่ายหลี่ซี,เขามีชื่อเสียงมานานแล้ว ดังนั้น ในตอนที่พวกเขาเดินอยู่ด้านนอก,มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนจ่าพวกเขาได้ในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+