The Divine Nine Dragon Cauldron 320

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 320 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การกลับมาของบุตรชาย

ไม่ว่าจะอย่างไร เขาต้องป้ายความผิดให้ซือหยูก่อน เพื่อคงศักดิ์ศรีของตัวเองเอาไว้

 

เพราะอย่างไรที่นี่ก็เต็มไปด้วยตัวแทนจากขุมกำลังทั้งหมดในทวีป ภาพลักษณ์ของตระกูลตู่จะถูกทำลายไม่ได้

 

ซือหยูนั้นใจเย็น เขายืนมือไพล่หลัง

 

“โอ้? ข้าชิงของคนอื่นมารึ? เจ้ากำลังพูดถึงธนูมังกรฟ้าดินใช่หรือไม่? ท่านตู่ ทำไมไม่พูดต่อหน้าทุกคนที่อยู่ที่นี่ล่ะว่าเป็นข้าหรือเกาคังที่ประมูลได้ธนูคันนั้น?”

 

“ทำไมธนูที่ข้าจ่ายไปมหาศาลกลายเป็นของของเกาคังไปได้ จากที่ท่านพูด? ทำไมของที่เป็นของข้าถึงไปอยู่ในมือเกาคังเล่า?”

 

“เจ้าคิดว่าข้าป่าเถื่อนไร้เหตุผล หรือทุกคนที่นี่ก็ป่าเถื่อนไร้เหตุผลไปด้วย?”

 

ตู้หมิงฮั่วไปหน้าบิดเบี้ยว ต่อหน้าสายตาผู้คนเช่นนี้ การกระทำไร้ยางอายจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของตระกูลตู่

 

แต่ก็โชคร้ายนักที่เหล่าผู้คนเริ่มพูดคุยกันแล้ว

 

พวกเขาล้วนเป็นคนฉลาด มิเช่นนั้นก็เป็นตัวแทนของสำนักหรือตระกูลจากทั้งทวีปไม่ได้

 

แม้พวกเขาจะไม่รู้รายละเอียด แต่พวกเขาก็พอจะเดาเรื่องราวได้

 

“หึหึ แม้แต่การประมูลของตระกูลตู่ก็มีการชิงสมบัติของคนอื่นรึ? แล้วก็ยังทำกับรองเจ้าตำหนักแห่งอาณาจักรทมิฬ ความกล้าของตระกูลตู่นี่น่าตกใจนัก!”

 

“ฮ่าๆๆๆ อย่างที่ข้าคิดเลย ตระกูลตู่คงไม่ส่งสมบัติเทพระดับกลางให้แน่ แต่ข้าไม่คิดเลยว่าพวกนั้นจะกล้าลงมือกับรองเจ้าตำหนักแห่งอาณาจักรทมิฬ ข้าสงสัยนักว่าพวกเขามีความกล้าขนาดนี้ได้ยังไง? นี่ก็หลายร้อยปีมาแล้ว ตระกูลตู่ลืมความเจ็บปวด รอยแผลเป็นหายดีแล้วรึ? พวกเขาไม่กลัวว่าราชาแห่งความมืดจะมาทำลายตระกูลหรอกรึ?”

 

“ข้าว่ามันแปลกเสียยิ่งกว่า ธนูเงินของเจ้าตำหนักหยินหยูไปอยู่ในมือเกาคังได้อย่างไรกัน เรื่องราวจะต้องน่าสนใจแน่”

 

“ถ้าข้าเดาถูก ตระกูลตู่จะต้องมีการตกลงกับฮั่นเจียงหลินไปแล้ว มิเช่นนั้นฮั่นเจียงหลินก็คงจะเตรียมของประมูลมาได้ไม่ถูกเช่นนี้ เรื่องนี้ถูกเตรียมการเอาไว้แล้ว”

 

“แต่เจ้าตำหนักหยินหยูกลับมีสมุนไพรเทพที่ดีกว่าซะได้ ตระกูลตู่เลยต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะได้มอบธนูให้ฮั่นเจียงหลิน”

 

“แต่พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าตำหนักหยินหยูจะลงมืออย่างรวดเร็วจนพวกเราได้เห็นเช่นนี้”

 

ตู่หมิงฮั่วได้ยินเสียงจากเหล่าผู้คนมากมาย

 

เขาต้องรีบกู้สถานการณ์โดยเร็ว มิเช่นนั้นชื่อเสียงของตระกูลตู่จะย่อยยับเพราะคนเหล่านี้

 

แผนเดียวที่เขาใช้ได้ตอนนี้คือจับตัวซือหยูทันทีและอธิบายกับเหล่าผู้คนว่าซือหยูพยายามจะหลอกพวกเขา มิเช่นนั้นเรื่องจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม!

 

“เจ้าตำหนักหยินหยู! ตระกูลตู่อธิบายกับเจ้าไปแล้ว เจ้ามันไร้เหตุผลแล้วยังใส่ร้ายตระกูลตู่ ถึงเจ้าจะเป็นรองเจ้าตำหนักเจ้าก็มิอาจทำเช่นนี้ได้!”

 

“ทำไมไม่ไปกับพวกเราเล่า แล้วพวกเราจะได้สะสางเรื่องราวกัน?”

 

ตู่หมิงฮั่วก้าวยาวๆเข้าไปอย่างเย็นชา

 

เหล่าผู้คนระเบิดเสียงดังก้อง

 

“ตระกูลตู่ไม่สนใจชีวิตตัวเองแล้วหรือไงกัน? ถึงได้กล้าทำกับรองเจ้าตำหนักของอาณาจักรทมิฬเช่นนี้?”

 

“นี่จะต้องเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมแน่ รอดูก่อนเถอะ!”

 

ซือหยูหัวเราะ

 

“จับข้าสิ แล้วก็หาข้ออ้างแบบขอไปทีของเจ้ามาบอกเหล่าผู้คน!”

 

ตู่หมิงฮั่วเดินเข้ามาใกล้ รังสีพลังอำมฤตระดับสองขั้นสูงนั้นหนาและหนักอึ้ง

 

ตู่หมิงฮั่วส่ายหัว

 

“ไม่รู้สำนึก! พวกเรา ตระกูลตู่จะสั่งสอนเจ้าแทนอาณาจักรทมิฬ!”

 

“ผนึกวารีสวรรค์!”

 

ตู่หมิงฮั่วตัวสั่น ร่างของเขาสร้างไอวารีออกมากระจายไปทั่วพื้นที่

 

ด้วยผลของพลังวิญญาณ ไอวารีได้ควบแน่นเป็นผนึกวารีขนาดเท่าฝ่ามือ

 

ซือหยูยิ้มและไม่พูดอะไร มือขวาของเขาสร้างบอลอัสนีขึ้นมา

 

สายฟ้าสีม่วงเปล่งประกายจากบอล ปล่อยพลังทำลายล้างออกมา

 

ตู่หมิงฮั่วส่ายหัว

 

“โชคร้ายนัก เจ้าจะลอบโจมตีเป็นครั้งที่สองไม่ได้แล้ว”

 

แต่ซือหยูก็ยังคงยิ้มและไม่พูดอะไร เขายืนอยู่ที่เดิม

 

แต่ก่อนที่นภาที่เต็มไปด้วยผนึกวารีจะพุ่งเข้าใส่ เขาก็ยกดัชนีขึ้น

 

ในตอนนั้น บอลอัสนีมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเป็นสองเท่า

 

พลังทำลายล้างนั้นเหนือว่าที่ใช้ครั้งแรกมหาศาล!

 

เปรี๊ยะ—

 

ครืน—-

 

ผนึกวารีเข้าปะทะกับอัสนีและกลายเป็นไอในไม่นาน

 

บอลอัสนีพุ่งเข้าใส่ร่างของตู่หมิงฮั่วอย่างไร้สิ่งกั้นขวาง

 

อั่ก—

 

ตู่หมิงฮั่วกระเด็นไปยังม่านที่ขาดและกระแทกเข้ากับกำแพง กำแพงแตกไปด้วยรอยแยกหลายรอย

 

ตู่หมิงฮั่วตาเหลือก ร่างของเขาถูกพลังฉีกกระชากและบาดเจ็บหลายแห่ง

 

เพียงการโจมตีเดียวก็ทำให้เขาบาดเจ็บหนัก เขาอยู่ในสภาพปางตาย!

 

เหล่าผู้คนตกตะลึงอย่างมาก!

 

“ทำให้อำมฤตระดับสองขั้นสูงอยู่ในสภาพนั้นได้ในคราเดียวเลยรึ?”

 

“หา! ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าตำหนักหยินหยูเพิ่งจะอายุสิบหก!”

 

“พรสวรรค์อะไรกันนี่!”

 

“เดี๋ยวก่อนสิ! แล้วฐานพลังของเขาเติบโตจนถึงขั้นนี้ได้ยังไง ที่งานประชุมพันธมิตร ข้าได้ยินมาว่าเขามีพลังแค่มังกรระดับห้าไม่ใช่รึ? เขาสำเร็จขอบเขตอำมฤตระดับหนึ่งขั้นสูงและมีพลังที่ไม่ต่ำกว่าอำมฤตระดับสองขั้นสูงในครึ่งปีได้ยังไงกัน?”

 

“เขานับว่าเป็นมหายอดฝีมือแห่งทวีปได้เลย ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมฮั่นเจียงหลินถึงอยากจะฆ่าเขานักในตอนนั้น!”

 

“ฮ่าๆๆ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร ข้าว่าสีหน้าของฮั่นเจียงหลินต้องน่าเกลียดมากแน่ๆในตอนนี้ คนที่ควรจะเป็นมหายอดฝีมือในพันธมิตรร้อยดินแดนกลับเป็นรองเจ้าตำหนักของอาณาจักรทมิฬไปแล้ว!”

 

 

บนห้องพิเศษ

 

สีหน้าของฮั่นเจียงหลินดุร้ายและอัปลักษณ์

 

มดปลวกที่เขาสังหารได้ด้วยการสะบัดดัชนีในตอนนั้นมีพลังถึงระดับนี้ได้ยังไง?

 

เขาที่อายุแค่สิบหก กลับเอาชนะหนึ่งในสามราชันย์สวรรค์แห่งตำหนักเฉินเทียน เกาคัง!

 

ไม่ว่าจะเหตุผลใด จากมุมมองของคนนอก ฮั่นเจียงหลินได้ส่งมหายอดฝีมือไปอยู่ในมือคนอื่นแล้ว

 

พลังต่อสู้ที่ซือหยูแสดงออกมาได้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

 

ตู่หมิงฮั่วตาเหลือกจากความเจ็บปวดและตกใจ

 

รองเจ้าตำหนักหนึ่งคน คนที่เขาสังหารได้โดยง่าย กลับมีพลังที่สังหารเขาได้!

 

ซือหยูเดินเข้าไปมองอย่างเยือกเย็น

 

“ข้าปะทะกับเจ้าตรงๆและเอาชนะได้โดยไม่ยากเย็น! ทำไมข้าจะต้องลอบโจมตีเล่า?”

 

ในตอนนี้ ตู่หมิงฮั่วเบิกตากว้าง เขาแอบรู้สึกกลัว

 

เขาย้อนกลับไปคิดถึงศิษย์ในตระกูลตัวเอง

 

เมื่อศิษย์ของเขาเอาเปรียบหยินหยู เขาไปบอกว่าศิษย์ของเขานั้นประเมินหยินหยูผิดไป

 

และเขาก็ยังบอกว่าหยินหยูไม่มีค่าใด ความผิดพลาดของศิษย์เขาก็คือการมีจิตใจที่เล็กจ้อย

 

เขาย้อนคิด…มันน่าขันเพียงใดกัน?

 

ตัวจริงที่ตัดสินหยินหยูผิดไปก็คือตัวเขาเอง!

 

ครืน—-

 

ซือหยูเดินไปข้างหน้า ดันฝ่ามือเข้าใส่อกตู่หมิงฮั่วหมายจะเอาชีวิต

 

“ไม่นะ! ข้าจะขอโทษ!”

 

ตู่หมิงฮั่วสีหน้าเปลี่ยนไป เขาพยายามพูดเอาตัวรอด

 

เสียงตะโกนของเขาทำให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

 

ตู่หมิงฮั่วเป็นฝ่ายผิดจริงๆ!

 

แต่ซือหยูนั้นไม่คิดจะอ่อนข้อ

 

“ข้าไม่ต้องการคำขอโทษของเจ้า!”

 

แต่ก่อนที่เขาจะสังหารตู่หมิงฮั่ว ร่างหนึ่งก็บินเข้ามาขวางตู่หมิงฮั่ว เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตู่หลง!

 

ตู่หลงขอร้องอย่างขมขื่น

 

“ท่านเจ้าตำหนักหยินหยู โปรดเมตตาเขาเถอะ เห็นแก่เขาที่เป็นคนตระกูลเดียวกับข้า!”

 

ซือหยูช้าลง เขาสีหน้าเย็นชา

 

“หลีกไป!”

 

เขาจะต้องถูกกำจัด!

 

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าซือหยูมีพลังเหนือศัตรู คนที่ตายในวันนี้ก็คงจะเป็นเขา

 

หากเป็นเช่นนั้น ตู่หมิงฮั่วจะปล่อยซือหยูไปถ้าตู่หลงเข้ามาขอร้องรึ?

 

คำตอบก็คือไม่!

 

“เจ้าควรจะรู้ว่าทำไมเจ้าถึงยังมีชีวิตรอดได้อยู่!”

 

ซือหยูไร้ซึ่งความปรานีใด

 

ความขมขื่นของตู่หลงรุนแรงขึ้น ความผิดในการลอบสังหารรองเจ้าตำหนักนั้นหนักหนาอยู่แล้ว และเขาก็สมควรจะต้องโทษประหาร

 

แต่เป็นซือหยูที่ไว้ชีวิตเขาและให้โอกาสเขาได้กลับมายังเมืองอันยี่

 

สิ่งที่เขาตอบแทนซือหยูไปเล็กน้อยนั้นถูกตอบแทนกลับเป็นร้อยเท่า เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขอร้องซือหยูอีกต่อไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด