The Divine Nine Dragon Cauldron 604

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 604 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“รังสีพลังของเจ้าหนักแน่นเพียงพอ แต่พลังของเจ้าอ่อนแอเกินไป เจ้ามันไร้ค่าเหมือนเดิมนั่นแหละ”

 

จางซื่อเหลียนใจเย็นทางใบหน้า นางขี้คร้ายเกินกว่าจะคาดหวังผลที่จะออกมา

 

“จิงหยู เขาอ้อนวอนให้ถูกสังหารเช่นนี้ อย่าพูดว่าข้าไม่ให้โอกาสเขาก็แล้วกัน”

 

เซี่ยจิงหยูแววตาว่างเปล่า นางที่เห็นว่าซือหยูตายไปแล้วนั้นมิอาจรับความจริงได้! คนคนเดียวที่นางได้รักสุดหัวใจได้ตายไปแล้ว!

 

ความเยือกเย็นฉาบดวงตานางในทันที

 

“เจ้าฆ่าเขา!”

 

“มันอ่อนแอเกินไป ไม่มีอะไรให้เสียใจกับความตายแบบนั้นหรอก”

 

จางซื่อเหลียนพูดอย่างเย็นชา

 

ดวงตาของเซี่ยจิงหยูเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

“งั้นก็ฆ่าข้าเลย! ถ้าเจ้าไม่ทำ วันหนึ่งข้าจะเอาชีวิตเจ้า!”

 

จางซื่อเหลียนไม่ได้กังวลกับคำขู่ของนางนัก

 

“หึหึ งั้นเจ้าก็เป็นองค์หญิงที่ดีซะ ตอนที่เจ้ามีอำนาจมากพอ บางทีเจ้าอาจจะแก้แค้นให้เขาไ…”

 

ปั้ง!

 

ในตอนนั้นเอง ภูเขาพลังวิญญาณลูกยักษ์ได้ระเบิดออก พลังอันน่ากลัวเอ่อล้นออกมาจากข้างใต้ภูเขาราวกับภูเขาไฟระเบิด!

 

พลังวิญญาณที่สะท้อนคืนนั้นแปรเปลี่ยนเป็นศรคมกริบพุ่งตรงเข้าใส่จางซื่อเหลียน จางซื่อเหลียนชักสีหน้าเมื่อเห็นพลังที่กำลังพุ่งเข้ามา นางสะบัดแขนเรียกสายลมกรรโชกแรงเข้ามาสลายพลังวิญญาณนั้น

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

จางซื่อเหลียนตกใจและสงสัย ตอนนี้ยังมีพลังชั่วร้ายที่สัมผัสได้จากเบื้องล่างจนทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ นี่เป็นพลังชั่วร้ายที่แข็งแกร่งมาก!

 

ปั้ง!

 

พื้นแยกออก แสงโลหิตพุ่งตรงขึ้นมา และมันยังตรงเข้าใส่จางซื่อเหลียน นั่นทำให้จางซือหยูต้องเรียกสายลมแรงเข้ามาปะทะอย่างต่อเนื่อง แต่แสงสีแดงก็เร็วปานสายฟ้าและมิอาจหยุดยั้งได้!

 

สายลมที่นางเรียกมากลับถูกทะลวงผ่าน แสงสีแดงไปถึงตัวของจางซื่อเหลียน

 

แต่นางก็ยังเป็นอสูรเนรมิตร ในความปั่นป่วน นางได้เห็นดวงตาคู่หนึ่งอย่างชัดเจน! นัยน์ตานั้นเป็นสีแดงเข้มและมีแต่พลังชั่วร้าย นี่จะต้องไม่ใช่พลังจากมนุษย์อย่างแน่นอน

 

ปั้ง!

 

หมัดโลหิตได้พุ่งเข้าใส่อกของนาง มันตั้งใจจะเอาหัวใจนางไป! จางซื่อเหลียนตะโกนและใช้หมัดเข้ารับ

 

แกร๊ง

 

จางซื่อเหลียนตกใจมากเมื่อหมัดของนางถูกต้านมาข้างหลัง! พลังทะลวงผ่านแขนไปถึงตัวของนางทำให้กระดูกเริ่มแตก

 

ร่างของนางร่วงหล่น นางกำลังจะนองเลือด!

 

การโจมตีอันน่ากลัวทำให้จางซื่อเหลียนต้องกลับมาสนใจชีวิตตัวเอง นางทำแม้แต่ปล่อยเซี่ยจิงหยูไป

 

“เจ้าเป็นใคร?”

 

จางซื่อเหลียนเริ่มกลัวและมองชายในร่างโลหิตตรงหน้า

 

เขาคือซือหยู…แต่ก็ไม่ใช่ซือหยูเหมือนกัน! ในด้านรูปลักษณ์ เขาคือซือหยูอย่างแน่นอน แต่ดวงตาของเขามืดหมองลง ที่นัยน์ตายังเป็นสีแดงเข้ม!

 

จากประสบการณ์ในฐานะอสูรเนรมิตร นางไม่เคยเห็นความชั่วร้ายเช่นนี้มาก่อน นี่มันเกินขอบเขตของมนุษย์ไปแล้ว!

 

นางก้มลงมองพื้นและเห็นว่ามือขวาของซือหยูกำลังถือน้ำเต้าสีเลือดเอาไว้!

 

“น้ำเต้าปีศาจ! นั่นมันน้ำเต้าปีศาจที่ไป่หยีเจี้ยนฆ่าคนทั้งตระกูลมาเพิ่มฐานพลัง!”

 

จางซื่อเหลียนบอกได้ทันทีแค่ตามอง

 

“เจ้า…เจ้าใช้โลหิตและฐานพลังของตระกูลนั้นได้ยังไง?”

 

สิ่งเดียวที่จะอธิบายรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของซือหยูได้ก็คือเขา ใช้พลังจากน้ำเต้าปีศาจ เขาเปิดสายเลือดปีศาจของตัวเองและดูดกลืนเลือดเนื้อจากน้ำเต้า ดังนั้นพลังของเขาจึงเพิ่มขึ้นมหาศาล!

 

แต่นี่เป็นสิ่งที่จะทำได้จากคนตระกูลไป่เท่านั้น ดังนั้นนางจึงสงสัยถึงวิธีที่ซือหยูใช้

 

“คนตายอย่างเจ้าจะรู้ไปทำไม…”

 

ซือหยูพูดด้วยเสียงแหบพร่า มันชั่วร้ายเหมือนกับอสูร มันทำให้คนรู้สึกเย็นยะเยือกได้โดยไร้ซึ่งความหนาวเย็น

 

“ฮื่ม! คิดว่าข้ากลัวเจ้าเรอะ?”

 

จางซื่อเหลียนตะโกนตอบ นางดึงกระบี่แก้วครามออกมาจากความว่างเปล่า

 

ก่อนที่นางจะตวัดกระบี่ อากาศรอบกระบี่แก้วได้กลายเป็นแก้วสีคราม! นี่เป็นวิชาที่ฉีเทียนโจวได้ใช้หลายครั้งจากหุ่นเชิด!

 

“ตายซะ!”

 

จางซื่อเหลียนซัดกระบี่ ไม่ว่ากระบี่จะผ่านไปที่ใดที่นั่นก็จะเป็นแก้วสีคราม ทุกอย่างล้วนพบเจอกับการทำลายล้าง!

 

แกร๊ง

 

แต่ซือหยูร่างมืดเพียงแค่ใช้มือที่เต็มไปด้วยโลหิตจับพลังกระบี่เอาไว้! นิ้วทั้งห้าบดขยี้พลังกระบี่จนแหลกละเอียด!

 

“ก็ไม่ได้มากมายอะไรนี่!”

 

ซือหยูหัวเราะอย่างชั่วร้าย เสียงหัวเราะของเขาทำให้จางซื่อเหลียนสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง นางไม่เข้าใจว่านางกำลังต่อสู้อยู่กับอะไรกันแน่!

 

นี่มันมนุษย์หรือว่าอสูร? หรือเป็นอะไรที่ชั่วร้ายและไม่ใช่มนุษย์?

 

ซูม

 

จางซื่อเหลียนเบิกตากว้างกว่าเดิมขณะที่เขาร่างของซือหยูพุ่งใส่นางอีกครั้ง!

 

“ออกไปให้พ้น!”

 

จางซื่อเหลียนยกกระบี่ฟันออกไปอีกครั้ง

 

ปั้ง!

 

แต่ซือหยูร่างมืดไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาใช้ฝ่ามือรับกระบี่ของนาง! กระบี่ของนางถูกฝ่ามือซือหยูสะท้อนกลับไปที่ร่างของตัวเอง!

 

“อ๊ากกก!”

 

เสียงกรีดร้องดังลั่น กระบี่ของจางซื่อเหลียนได้ตัดแขนขวาของนางเองไป!

 

แขนขวาได้กลายเป็นแก้วสีครามในไม่นาน จากนั้นก็กลายเป็นผงแก้ว จางซื่อเหลียนเจ็บปวดจนกัดฟันแน่น นางใจเต้นระรัวยิ่งกว่าเดิม

 

เขาแข็งแกร่ง!

 

จางซื่อเหลียนไม่พูดอะไรอีก นางรีบหนีอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อนางกำลังจะก้าวเดิน นางก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกในอก!

 

เป็นเวลาเดียวกับที่นางพบว่ามีรูโลหิตขนาดเท่ากำปั้นเกิดขึ้นที่อกของนาง รูปนี้เปิดทะลุข้างหลังมาถึงข้างหน้า หัวใจของนางหายไป!

 

ฉั่วะ!

 

เสียงบดขยี้ทำให้จางซื่อเหลียนต้องหันไปมอง นางเห็นหัวใจของนางถูกฉีกเป็นชิ้นๆพร้อมกับซือหยูที่หัวเราะอย่างชั่วร้าย

 

เขา…เขาเอาหัวใจข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

ปั้ง!

 

ร่างของนางระเบิดออกขณะที่กำลังสงสัย! มีร่างโปร่งใสที่ไม่คุ้นตาบินออกมาจากกายเนื้อ!

 

มันคือสตรีที่ดูน่ามอง นางยิ้มอย่างน่าหลงใหลและดูยั่วยวนเป็นอย่างยิ่ง

 

นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฮงหลวน วิญญาณของอสูรเนรมิตร! ใบหน้ายั่วยวนของนางเต็มไปด้วยความกลัวขณะที่พยายามหนี!

 

“หึหึหึ…”

 

ซือหยูร่างมืดแสยะยิ้มและหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาหายตัวไปในพริบตา

 

ฮงหลวนเบิกตากว้าง

 

“เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกได้ยังไง?”

 

นางหันไปมองรอบๆขณะที่ตกใจ แต่นางก็ไม่เห็นตัวซือหยูเลย

 

“หาข้าอยู่รึ?”

 

นางได้หินเสียงหัวเราะจากนรก

 

ฮงหลวนที่หวาดกลัวรีบถอยโดยไม่คิดชีวิต แต่ในตอนนั้นนางก็รู้สึกถึงความอัดแน่นที่รอบคอ!

 

ณ ความว่างเปล่าตรงหน้า มือโลหิตได้ยื่นมาบีบคอของนางไว้! ร่างโลหิตเดินออกมาจากความว่างเปล่า ใบหน้าชั่วร้ายปรากฏอีกครั้ง!

 

“เจ้าวิญญาณน้อย เวลาของเจ้าหมดลงแล้ว…”

 

ซือหยูพูดด้วยเสียงแหบพร่า

 

เมื่อเขาพูด สายลมพัดผ่านเข้ามา เมื่อร่างวิญญาณของฮงหลวนสัมผัสกับสายลมนั้น ร่างก็เริ่มถูกกัดกร่อน

 

วิญญาณของนางได้รับผลเช่นกัน มันเป็นการทรมานที่เจ็บปวดจนน่ากลัว

 

ร่างวิญญาณของฮงหลวนมิอาจหยุดสั่นได้เมื่อนางตะโกนร้อง

 

“หยุดนะ! เจ้าคิดจะทำอะไร?”

 

“หึหึหึหึหึ….”

 

ซือหยูเพียงแค่หัวเราะอย่างชั่วร้าย เสียงหัวเราะชั่วร้ายของเขาดังก้องไปทั่วชั้นแปดของกระโจมเทพสวรรค์ มันดังไปถึงลานประลองลับสวรรค์ของจิวโจวด้วยซ้ำ

 

 

“นั่นมันวิญญาณอะไรกัน? พลังชั่วร้ายกล้าแกร่งนัก! หรือว่าจะมีวิญญาณปีศาจกำเนิดขึ้นในกระโจมเทพสวรรค์?”

 

ลู่จือยี่เป็นกังวลอย่างมาก

 

“เกิดอะไรขึ้นที่นั่น? หรือว่าลูกหลานของผู้เฒ่าฮงหลวนจะทำให้ปีศาจบางตนตื่นขึ้นมา?”

 

กู้ไทซูเองก็เป็นกังวลอย่างมาก พลังชั่วร้ายนี้แข็งแกร่งเกินไป

 

ไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็นซือหยู ไม่ว่าซือหยูจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็รู้ว่าเขามิอาจปล่อยพลังชั่วร้ายมาได้ถึงขั้นนี้

 

เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายที่ทำให้คนสั่นไปถึงกระดูกยังคงได้ยินต่อไป ทุกคนเริ่มเคร่งเครียด พวกเขากังวลกับสิ่งมีชีวิตอันชั่วร้ายนี้

 

ผู้เฒ่าฮงหลวนไปปลุกสัตว์ประหลาดน่ากลัวตนใดขึ้นมา? ทุกคนมีเพียงความคิดนี้อยู่ในหัว

 

 

“เจ้าคิดจะทำอะไรกับข้า? ข้าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของวิญญาณ ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายข้าก็รอให้ร่างจริงของข้ามาที่นี่แล้วกัน! ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นอสูรตนใด แต่ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างทรมาน!”

 

ฮงหลวนตื่นตระหนกอย่างรุนแรงเมื่อเผชิญหน้ากับซือหยู น่าหวาดกลัวมาก

 

“หึหึหึ….”

 

ซือหยูร่างมือเพียงแค่อ้าปากหัวเราะ

 

จากนั้น เขาก็จับวิญญาณฮงหลวนยัดใส่ปาก! ซือหยูร่างมืดคิดจะกินวิญญาณของฮงหลวนทั้งเป็น!

 

“อ๊ากก! ไม่นะ! เจ้ามันตัวอะไรกัน?

 

จางซื่อเหลียนตะโกนด้วยความกลัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด