The Divine Nine Dragon Cauldron 618

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 618 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สิ่งเดียวที่ข้าห่วงก็คือหลังจากที่เซี่ยงเอ๋อหนีไปได้ นางจะไม่มีใครให้พึ่งพิง ทวีปตอนนี้กำลังเปลี่ยนแปลง ผู้บุกรุกจากต่างโลกโหดร้ายนัก ถ้าเซี่ยงเอ๋ออยู่คนเดียวจะทำให้ข้ากังวล นางอาจจะถูกทรมานข้างนอกนั่นก็ได้ ดังนั้นแล้ว ข้าเลยหวังให้เจ้าแต่งงาน ดูแลนางในฐานะคู่ครอง”

 

ฉีตงไล่พูดกับซือหยู

 

ซือหยูเงียบไป เขาเงยหน้ามองฉีหยุนเซี่ยง ฉีหยุนเซี่ยงก้มหน้าลงเมื่อเห็นสายตาของซือหยู

 

นางกังวลจนโลหิตขึ้นไปเลี้ยงเต็มสมอง นางรู้สึกว่าทั้งร่างชาไปหมด นางแทบจะหายใจไม่ออก นางรู้สึกราวกับโลกรอบตัวหมุนไปอย่างรวดเร็วและมืดมัวลง

 

ผิวนุ่มๆของนางแดงระเรื่อราวกับอาทิตย์อัสดง นางดูน่ารัก ไม่มีใครจะต้านทานความน่ารักนี้ได้

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉีหยุนเซี่ยงเป็นสตรีที่ยอดเยี่ยมทั้งสติปัญญาและความงาม ทั้งสองอย่างยากที่จะหาได้ในโลกใบนี้ หากชายใดไม่ลุ่มหลงเสน่ห์ของนางก็คงจะหลอกตัวเอง แต่ซือหยูมิอาจยอมรับนางได้ เพราะเขามิอาจทรยศต่อความรักของเซี่ยนเอ๋อและเซี่ยจิงหยู

 

เมื่อเห็นว่าซือหยูเงียบไป ฉีตงไล่พูดต่อ

 

“ซือหยู ฉินเซี่ยนเอ๋อจากไปแล้ว เจ้าควรจะตามหาความสุขของตัวเองในตอนนี้นะ!”

 

ฉีตงไล่มองฉีหยุนเซี่ยงอย่างรู้สึกผิด

 

“หรือบางที ต่อให้เจ้ามีความรู้สึกต่อหญิงอื่นและมิอาจรับเซี่ยงเอ๋อเป็นภรรยาคนแรกได้ นางก็เป็นภรรยาที่สองของเจ้าได้นะ! ข้าแค่หวังให้เจ้าทำหน้าที่คู่ครองที่ดีและดูแลปกป้องนางเท่านั้น”

 

แม้ในฐานะพ่อ เขาจะอยากให้ลูกน้อยของเขาเป็นภรรยาลำดับแรก แต่ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เขาทำได้แค่หวังให้ซือหยูปกป้องดูแลฉีหยุนเซี่ยง

 

ฉีหยุนเซี่ยงเป็นสตรีที่ยอดเยี่ยม ชายทุกคนควรจะคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้แต่งงานและปกป้องนาง! แต่การได้เป็นเพียงแค่ภรรยาที่สองนั้นเป็นเรื่องโหดร้ายมาก คงทำให้คนถอนหายใจอย่างโศกเศร้าเมื่อรู้เรื่องนี้

 

ซือหยูแอบถอนหายใจ เขายังไม่เด็ดขาดกับฉินเซี่ยนเอ๋อและเซี่ยจิงหยู แต่ตอนนี้เขายังต้องเพิ่มผู้หญิงขึ้นมาอีกคนให้ต้องคิดหนัก

 

“ท่านลุง…”

 

ซือหยูเริ่มพูด

 

เมื่อเห็นว่าซือหยูมีเรื่องที่อาจจะพูดไม่ได้ ฉีตงไล่ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของซือหยู เขาเอียงคอถาม

 

“เซี่ยงเอ๋อ เจ้าพูดอะไรหน่อยสิ เจ้ายินดีจะเป็นภรรยาที่สองของซือหยูหรือไม่?”

 

ฉีหยุนเซี่ยงกังวลออกทางสีหน้า คำว่า ‘ภรรยาที่สอง’ ทำให้นางตัวสั่น

 

ถ้าหากเป็นภรรยาที่สอง นางจะต้องแบ่งสามีกับสตรีอีกคน นั่นเป็นอนาคตที่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อน

 

สิ่งที่นางกังวลไม่ใช่ความรักหรือความรู้สึก แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเกียรติมากกว่า และซือหยูเองก็ยังมีอีกคนในใจ เขารักฉินเซี่ยนเอ๋อ มิใช่นาง

 

แต่ก็แปลกมากพอ แม้ฉีหยุนเซี่ยงจะไม่ต้องการเช่นนี้ นางก็มิอาจปฏิเสธมันได้ ราวกับมีพลังอสูรไร้ลักษณ์ก่อเกิดขึ้นมาจนทำให้ยากที่จะปฏิเสธ

 

นางเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มผมสีเงิน เขายิ่งใหญ่ดั่งดวงตะวัน นางมิอาจเห็นความสว่างไสวนี้จากใครอื่นนอกจากซือหยู นอกจากเขาก็ไม่มีใครที่เปล่งประกายถึงเพียงนี้ และไม่มีใครที่จะประทับใจต่อนางมากเท่าเขา

 

“ข้า…ยินดี…”

 

นางพูดเบาๆ

 

นางก้มหน้าอีกครั้ง ความอับอายไม่ได้หนักหนาอย่างที่นางคิดว่ามันจะเป็น นางแค่เสียใจอยู่บ้างเท่านั้น

 

นางยังคงหวังให้เป็นอย่างที่เคย แม้นางจะทำได้แค่มองซือหยูอย่างเงียบๆในแต่ละวัน นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับนาง

 

นางเต็มใจแม้จะเป็นภรรยาที่สองรึ? กังต้าเหล่ยเข้าใจความรู้สึกของฉีหยุนเซี่ยงต่อซือหยูแล้ว มิเช่นนั้นสตรีที่งดงามอย่างนางก็คงจะไม่เต็มใจเป็นภรรยาที่สองของใคร!

 

“ซือหยู เจ้ายังต้องคิดอีกรึ?”

 

ฉีตงไล่แอบถอนหายใจ เขารู้สึกโล่งใจเมื่อลูกสาวเขายอมอ่อนข้อ

 

ซือหยูหวั่นใจเมื่อมองฉีหยุนเซี่ยง เขาไม่เคยคิดเลยสตรีคนหนึ่งจะยอมเป็นภรรยาที่สองของเขา ความรู้สึกนี้ทำให้ยากที่ซือหยูจะปฏิเสธนาง

 

หลังจากที่เขาใจเย็นลง ภาพฉินเซี่ยนเอ๋อกับเซี่ยจิงหยูได้ปรากฏในหัว ซือหยูถอนหายใจเบาๆ เขาคงต้องขอโทษฉีหยุนเซี่ยงและปฏิเสธนางไป

 

“ฮื่ม! นังโสเภณี!”

 

จากนั้นก็มีเสียงก้นด่าดังมาจากนอกคุก

 

ผู้เฒ่าจางกับผู้เฒ่าอีกคนตามฟู่หงซื่อที่ดูโกรธแค้น เขาจ้องฉีหยุนเซี่ยงด้วยความโมโห

 

“เจ้าทำให้ตัวเองอับอาย ยอมเป็นภรรยาที่สองของไอ้เด็กนี่แทนจะแต่งงานกับข้าเรอะ!”

 

ฟู่หงซื่อโกรธจนไม่ฟังเหตุผล จนขอให้ฉีหยุนเซี่ยงแต่งงานและยังขอฉีหยุนเซี่ยงจากฉีตงไล่ แต่เขาก็ถูกทั้งสองคนปฏิเสธ! ไม่ว่าเขาจะพยายามเอาใจทั้งคู่เท่าใด ฉีตงไล่ก็ไม่ประทับใจสักครั้ง

 

ฉีหยุนเซี่ยงไม่เคยแม้จะชายตามองเขา นางไม่เคยอ่อนข้อหรือทำดีตอบ

 

นี่มันอภัยให้ไม่ได้! เพราะเขาคือหลานของฟู่กังซาน เขาคือคนที่ได้รับการนับถือในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ แม้แต่ผู้เฒ่ายังต้องแสดงความนับถือต่อเขา! แต่มิเพียงฉีหยุนเซี่ยงยังไม่อยากจะเป็นภรรยาของเขา นางยังยอมเป็นภรรยาที่สองของเด็กหนุ่มที่ทำไม่ได้แม้จะปกป้องชีวิตตัวเอง!

 

ฉีหยุนเซี่ยงโกรธจะลืมความเขินอาย

 

“เจ้าแอบฟังพวกเรา! ไร้ยางอายนัก!”

 

“ถ้าพูดถึงเรื่องไร้ยางอาย เจ้าที่ยินดีจะเป็นโสเภณีมันไม่น่าละอายกว่าเรอะ? ความน่าละอายของข้ามันเทียบกับเจ้าได้ที่ไหนกัน?”

 

ฟู่หงซื่อเถียงกลับ

 

ฉีหยุนเซี่ยงตัวสั่นด้วยความโกรธ

 

“ใช่แล้ว ข้ายินดีจะเป็นโสเภณี! ไม่สำคัญว่าข้าจะแต่งงานกับใคร ตราบเท่าที่คนที่ข้าแต่งด้วยไม่ใช่คนไร้ยางอายบัดซบอย่างเจ้า!”

 

ดวงตาฟู่หงซื่อเย็นชาลง

 

“ก็ได้! ข้าตั้งใจจะมาขอเจ้าแต่งงานเป็นครั้งสุดท้าย แต่ถ้าเจ้าคิดดีแล้ว ข้าก็หมดความอดทนเหมือนกัน! ถ้าข้าไม่ได้หัวใจเจ้า อย่างน้อยข้าก็จะเอาร่างกายเจ้า! ผู้เฒ่าจาง เอานางออกมา!”

 

ผู้เฒ่าจางยิ้ม

 

“ครับ นายน้อย”

 

“กล้าดียังไง?”

 

ฉีตงไล่โกรธแค้นมากและยืนขึ้นบังลูกสาว

 

แม้แต่หลินหยุนฮีที่เป็นกลางมาตลอดยังต้องโกรธแค้น

 

“เจ้าหนู พอได้แล้ว!”

 

กังต้าเหล่ยโกรธจัด

 

“ไอ้คนชั่ว เอาแต่อยู่ลับหลังคนที่มีอำนาจ! ถ้าเจ้ากล้าก็มาสู้กับข้าอย่างเปิดเผยซะ!”

 

ฟู่หงซื่อเพียงจ้องมองกังต้าเหล่ยและหัวเราะอย่างเยือกเย็น

 

“เจ้าสมองกลวง! นอกจากตะโกนแล้วเจ้าทำอย่างอื่นเป็นหรือไม่? เจ้ามันก็แค่นักโทษ ข้าจะสู้กับเจ้าทำไมกัน?”

 

เอี๊ยด

 

ผู้เฒ่าจางเปิดประตูและหัวเราะ

 

“ท่านเจ้าตำหนักฉี ข้าขออภัยด้วย! นี่เป็นคำสั่งของนายน้อย ข้าก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้หรอก”

 

เขาคว้าตัวฉีหยุนเซี่ยง ฉีตงไล่อยากจะเข้าไปหยุดแต่มือทั้งสองถูกมัดเอาไว้ เขาถูกผู้เฒ่าจางผลักตัวออกไปอย่างง่ายดาย

 

ซือหยูแอบถอนหายใจ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทิ้งแผนการ เขายืนขึ้นช้าๆและอัดพลังลงในนิ้วทั้งห้าเพื่อจะปลดโซ่ตรวน…

 

“หยุดนะ!”

 

ในตอนนั้น มีเสียงตะโกนดังมาจากนอกคุก ทหารสองแถวพร้อมกับหลงจื้อชิงเข้ามาเห็นพอดี

 

เขามองรอบๆและตะโกนอย่างเย็นชา

 

“พวกเจ้าทำอะไรกัน?”

 

ผู้เฒ่าจางแทบจะตาหลุดจากเบ้า เขาหยุดมือทันที เขารีบออกมาจากคุกและโค้งคำนับ

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร ข้ามาเจอพวกมันกำลังวางแผนหนี ข้าเลยมาสืบสวน โปรดตรวจสอบคนเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนด้วยเถอะท่าน”

 

“ใช่แล้ว ท่านเจ้าพันธมิตรหลง ฟู่หงซื่อผู้นี้ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องจริง”

 

ท่าทางเย็นชาของหลงจื้อชิงอ่อนลง

 

“เช่นนั้นก็เอาเถอะ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าสองคนไปเดี๋ยวนี้ ข้าจะสอบสวนพวกมันเดี๋ยวนี้แหละ”

 

ฟู่หงซื่อยิ้ม

 

“ได้เลยท่านเจ้าพันธมิตร!”

 

เขาพูดจบและเดินออกจากคุกไปกับผู้เฒ่าสองคนที่มาด้วยกัน

 

เมื่อไปถึงด้านนอก สีหน้าของฟู่หงซื่อหม่นหมองลง

 

“ไอ้ขยะนั่นมาผิดเวลาจริงๆ!”

 

ไม่ว่าเขาจะชั่วช้าเพียงใด ต่อหน้าหลงจื้อชิง เขายังคงต้องซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ ฟู่หงซื่อมองกลับไปในคุกครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป

 

ภายในคุก

 

หลงจื้อชิงยืนกอดอกอยู่หน้ากรงขัง เขามองห้าคนตรงหน้าอย่างเย็นชา

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร โปรดกำจัดพวกคนไร้ประโยชน์อย่างฟู่หงซื่อไปซะเถอะ เขาจะต้องสร้างปัญหาแน่นอน”

 

หลินหยุนฮีโกรธเป็นอย่างมาก

 

หลงจื้อชิงมองฉีหยุนเซี่ยงที่ยังร่ำไห้

 

“เจ้าไม่ต้องมาสอนว่าข้าจะต้องทำอะไร!”

 

“เอาตัวพวกมันออกมา!”

 

หลงจื้อชิงโบกมือ ทหารทั้งสองแถวกรูเข้าไปในคุกเพื่อจับตัวซือหยูกับคนที่เหลือ

 

ฉีตงไล่ตกใจ

 

“นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”

 

หลงจื้อชิงพูดอย่างไม่แยแส

 

“เจ้าสมคบกับฝ่ายอื่นที่มาจากต่างโลก เรื่องสำคัญเช่นนี้จะคุยกันในที่แบบนี้ได้อย่างไร?”

 

หรือพูดอีกอย่างก็คือ เขาต้องการพาทั้งห้าคนไปยังที่ที่ปลอดภัยเพื่อทำการสืบสวน ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจเลย

 

ด้วยทหารมากมาย พวกเขาถูกพาตัวมายังส่วนใต้สุดของท้องเรือ พวกเขาไม่ได้สวนกับใครเลยในเส้นทางนี้

 

“ท่านเจ้าพันธมิตรจะพาพวกข้าไปไหน? ใต้ท้องเรือเป็นที่เปิดโล่ง มันไม่เหมาะจะทำการสืบสวนนะ”

 

ฉีตงไล่หรี่ตา

 

หลงจื้อชิงสวนกลับ

 

“เดี๋ยวไปถึงเจ้าก็รู้เองนั่นแหละ!”

 

ทุกคนหวาดวิตกยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกไม่ดีเริ่มมีมากขึ้นไปทุกที สุดท้ายพวกเขาก็มาถึงส่วนลึกสุดของเรือรบ

 

ที่นี่ถูกทิ้งร้าง มีหญ้าป่าเติบโตทั่ว มันไม่มีใครอยู่เลย

 

มีบางแห่งที่ถูกเผา ราวกับมันถูกกลบฝังจากโลก บอกได้เลยว่าที่นี่เคยเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่จากโลกภายนอก

 

เรือรบมีช่องว่างขนาดใหญ่ที่ท้องเรือ มันเกิดจากแรงระเบิดของยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง ช่องที่ถูกระเบิดยังคงไม่ได้รับการซ่อมแซมตั้งแต่ตอนนั้น แต่ที่นี่ก็ไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย จึงไม่ได้ใครมาดูแลจัดการที่นี่

 

หลงจื้อชิงพาทั้งห้ามากลางที่โล่ง มันเคยใช้เป็นลานประลอง มีโลหิตที่ถูกกระอักออกมาเป็นคราบตรงนี้!

 

“ที่นี่จะต้องเป็นที่ประหารนักโทษของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์!”

 

ฉีตงไล่ตกตะลึง

 

เขาเคยได้ยินว่าเคยมีสถานที่ที่พันธมิตรผู้คุมสวรรค์ใช้ประหารคนที่ชั่วร้ายโดยแท้จริง แต่ไม่มีใครรู้จักที่นี่นักเพราะว่าการประหารมักจะถูกจัดการโดยมีเจ้าพันธมิตรสังเกตการณ์เท่านั้น

 

คนเดียวที่รู้เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ก็คือหลงจื้อชิงกับคนอารักขาพิเศษของเขา ไม่มีคนนอกคนใดที่รู้เรื่อง มันควรจะเป็นแค่เรื่องเล่า แต่ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีอยู่จริง!

 

ฉีตงไล่โกรธยิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าหลงจื้อชิงอยากจะประหารพวกเขาโดยไม่สืบสวนอย่างที่พูด!

 

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้แล้วสินะ นั่นก็ดี”

 

หลงจื้อชิงพูดอย่างเย็นชา

 

“พาพวกมันขึ้นลานประหาร!”

 

ดวงตาหลินหยุนฮีเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า

 

“เจ้าพันธมิตร นี่เป็นสิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆสินะ?”

 

เขายังมีหวังเล็กๆอยู่ว่าหลงจื้อชิงจะไม่ได้ชั่วร้ายอย่างที่เขาแสดงออกมา แต่ท้ายสุดเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นอยู่ดี

 

“อย่าว่าร้ายข้า ถ้าเจ้าอยากจะโทษใคร เจ้าก็โทษตัวเองที่ไปมีเรื่องกับคนที่มิควรเสียเถอะ!”

 

หลงจื้อชิงหันหลังให้กับพวกเขาทั้งห้า น้ำเสียงของเขาอ่อนลงก่อนจะแข็งกร้าวขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ประหารพวกมัน! อย่าให้ใครสักคนรอดชีวิต!”

 

ทหารทั้งสองแถวเลือกคนที่จะเป็นเพชรฆาต พวกเขาแต่ละคนยืนอยู่หน้าแท่นประหารและชักกระบี่เล่มใหญ่ออกมา ไม่นานพวกเขาจะแกว่งกระบี่ใส่ลำคอของคนทั้งห้า

 

ซือหยูค่อยๆลืมตาอย่างเงียบเชียบ ดวงตาของเขาเปล่งแสงอันเยือกเย็น

 

ถึงเวลาแล้วสินะ เวลานี้แหละที่ข้ารออยู่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด