The Divine Nine Dragon Cauldron 956 – เอาคืน

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 956 - เอาคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
  จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงแลกแก่นไม้ของกันและกันเรื่องเล็กน้อยนี้ทำเพื่อให้แน่ใจในความโปร่งใสของการแข่งขัน การแข่งเริ่มขึ้นอีกครั้ง วงปีบนแก่นไม้ของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
  ม่อเทียนฉวนชมการแข่งด้วยความเงียบเดิมพันในการแข่งครั้งนี้หาใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่เป็นชื่อเสียงที่สำคัญ
  แก้วร้อยล้านดวงกับเดิมพันร้านค้าในเมืองเทียนหยาเป็นเดิมพันหนักแต่ชื่อเสียงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากพวกเขาแพ้ ตำหนักโลหิตจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน จากสถานการณ์ดินแดนพรสวรรค์ตอนนี้ สัญญาณว่ากำลังจะเกิดความวุ่นวายได้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
  นั่นหมายความว่าทุกเรื่องที่ส่งผลกับภาพลักษณ์ของตำหนักจะต้องถูกจัดการอย่างจริงจัง
  และที่แย่ยิ่งกว่าเมืองเทียนหยาอยู่ในชายแดนของทั้งสองฝ่าย ตำหนักโลหิตพยายามอย่างมากที่จะกำจัดอำนาจของดินแดนมีดสวรรค์ผ่านพิธีเซ่น ถ้าหากดินแดนมีดสวรรค์ได้ร้านค้ากลับไป มันก็ยากมากที่พวกเขาจะได้กลับคืนมาอีกครั้ง
  ความเร็วของการเกิดวงปีในแก่นไม้ทั้งสองฝ่ายแทบจะเท่ากัน
  ซือหยูเหลือบมองแก่นไม้ของอีกฝ่ายและแอบตกใจยิ่งวงปีขึ้นเร็วเท่าใดก็ยิ่งแสดงถึงความแม่นยำในความทรงจำ มันสื่อถึงคำภาษาไม้จำนวนมากที่ถูกเรียนรู้มา ซือหยูนึกคำภาษาไม้มาเกินครึ่งสมองแล้ว แต่ศัตรูนั้นยังคงมีความเร็วเท่ากับเขา
  เวลาผ่านไปสามในสี่ส่วนแล้วสองฝ่ายมาถึงการแข่งขั้นสุดท้าย ซือหยูคิดถึงภาษาไม้แบบทั่วไปจนหมดแล้ว สิ่งที่เหลือคือภาษาโบราณ ซึ่งก็น่าตกใจที่อีกฝ่ายนั้นรวดเร็วไม่แพ้เขาเลย
  โถงหลักเงียบกริบไม่มีใครละสายตาไปจากวงปี ทุกคนกลั้นหายใจ บอกได้เลยว่าผู้เข้าแข่งทั้งสองมีความสามารถพอ ๆ กัน
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวสีหน้าดำมืดตามที่คนชุดหยกบอก ไม่น่าจะมีใครในจิวโจวที่เชี่ยวชาญภาษาไม้ไปมากกว่าเขา แต่ซือหยูไม่ได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเลย เขายังเป็นผู้นำอยู่เล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายเรียกวงปีได้หกสิบวงแล้ว
  สุดท้ายเวลาได้ผ่านไป
  ซือหยูนึกคำภาษาไม้ทั้งหมดในความทรงจำออกมาแล้วมีวงปีหกสิบหกวงเกิดขึ้น
  แต่ซือหยูก็หน้าหมองเมื่อเห็นว่าวงปีของฝ่ายตรงข้ามกำลังขยายอย่างต่อเนื่อง!มันไม่มีเหตุผลเลย ความเร็วนั้นเท่ากัน แต่ดูไม่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะหยุดหลังจากที่ซือหยูนึกคำจนหมดสมอง
  ผู้คนชักสีหน้าซือหยูเซี่ยนเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้! หลายคนคิดเช่นนี้
  ม่อเทียนฉวนเองก็หน้าหมองถ้าหากอีกฝ่ายโกง นางจะประกาศให้การแข่งนี้โมฆะ แต่นางมิอาจทำได้
  ผู้เฒ่าทุกคนในตำหนักในเริ่มใจหายราวกับว่าฟ้าถล่มพวกเขาจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วถ้าพวกมีดสวรรค์กลับไปเมืองเทียนหยาได้อีกครั้ง มันเหมือนกับการโดนตบหน้า พวกเขาปล้นร้านของดินแดนมีดสวรรค์ด้วยภาษาไม้
  แต่พวกเขากำลังจะโดนริบเอาคืนโดยพวกมีดสวรรค์ด้วยวิธีเดียวกันการจงใจดูถูกเช่นนี้ทำให้พวกเขาอัปยศอย่างมาก
  “ท่านเจ้าตำหนักการแข่งนี้แปลก ภาษาไม้ทั้งหมดมีอยู่แค่นี้ ตอนนี้มันกำลังใช้ความทรงจำอื่นที่แก่นไม้ตอบสนองได้แทนภาษาไม้!”
  ซือหยูประสานมือ
  เหล่าผู้ชมการแข่งขันทั้งหมดสับสนเมื่อได้ฟังที่ซือหยูพูด
  แก่นไม้นั้นไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาก็คือผู้ใช้ ชายชุดหยกจะต้องมีความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ได้มากกว่า และเขาใช้มันแสร้งเป็นคำภาษาไม้ เขาอาจจะไม่คิดว่ามีคนที่รู้ภาษาไม้ทุกคำอยู่ มันทำให้วงปีในแก่นไม้ของเขาเพิ่มขึ้นต่อได้ทั้ง ๆ ที่ความทรงจำภาษาไม้หมดลงแล้ว
  ม่อเทียนฉวนเลิกคิ้วนางมองรองเจ้าดินแดนเสี่ยวอยากเยือกเย็น
  “ซือหยูเซี่ยนเจ้าอยากให้ข้าหยุดการแข่งหรือไม่?”
  น้ำเสียงของนางเปี่ยมไปด้วยพลังการแข่งครั้งนี้สามารถประกาศโมฆะได้ทุกเมื่อหากมีการโกงเกิดขึ้น
  ถึงกระนั้นสีหน้าของรองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็เยือกเย็นสุขุมราวกับว่าเตรียมการมา เขายิ้ม
  “เจ้าตำหนักม่อพวกเราพูดเรื่องกฎการแข่งไปแล้ว ใครที่สร้างวงปีได้มากกว่าย่อมมีความเข้าใจภาษาไม้ได้มากกว่า! พวกเราไม่เคยพูดว่าวงปีจะต้องมาจากภาษาไม้ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น…”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนโกรธเกรี้ยว ไอรีนโนเวล
  “เจ้าไม่ละอายใจหรือที่ดินแดนมีดสวรรค์ที่เคยมีเกียรติต้องมาเล่นลิ้นเช่นนี้?”
  อาจารย์พรายพูดเสียงแข็ง
  พวกเขาคิดว่านี่คือการแข่งภาษาไม้แต่สุดท้าย ดินแดนมีดสวรรค์ก็ใช้วิธีสกปรกในการแข่ง ซึ่งเรื่องภาษาไม้กับเรื่องความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ทั้งหมดนั้นต่างกันมาก
  “อะไรอีกเล่า?ตำหนักโลหิตที่มีเกียรติยอมรับแค่ความพ่ายแพ้ไม่ได้หรือ?”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  “อย่างแรกพวกข้าไม่ได้โกง อย่างที่สอง พวกข้าไม่ได้หลอก! เป็นพวกเจ้าที่ไม่ถามเรื่องกฎให้ละเอียด แล้วตอนนี้จะมาโทษพวกข้าอย่างนั้นรึ? พวกเจ้าไม่กลัวจะได้กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนหรือ?”
  ทุกคนโกรธแค้น
  พวกเขาไม่พอใจจากการแข่งขันอันไม่เป็นธรรมม่อเทียนฉวนยกมือแสดงให้ทุกคนเงียบลง
  ใบหน้าของนางไม่ได้อาฆาตเหมือนผู้เฒ่าคนใดความเยือกเย็นปะทุออกมาจากดวงตา ถ้าหากนางผิดสัญญาและประกาศโมฆะ ตำหนักโลหิตจะเสียเกียรติยศและชื่อเสียงทั้งหมดไป ถ้าหากนางรักษาสัญญาและยอมแพ้ ตำหนักโลหิตก็จะจมอยู่ห้วงความอัปยศ จะไม่มีใครนับถืออีก
  ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรตำหนักโลหิตก็จะได้รับผลที่ตามมาอย่างหนัก เขาจะแพ้ทั้งการแข่งและเสียกำลังคน
  ในด้านเหตุผลการยอมรับความพ่ายแพ้ย่อมดีกว่า ชือเสียงสามารถกอบกู้คืนได้ ร้านค้าในเมืองเทียนหยาย่อมชิงกลับคืนได้ แต่การเสียเกียรติยศนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับวิถีของตำหนักโลหิต มันจะทำให้ถูกกลุ่มกำลังอื่นในดินแดนพรสวรรค์ต่อต้านพวกเขา
  ผลที่ตามมานั้นเลวร้ายยิ่งกว่าแค่การเสียร้านในเมืองเทียนหยาดังนั้น ถ้าหากไม่มีทางเลือกอื่นอีก ม่อเทียนฉวนจะเลือกอย่างหลัง ซึ่งก็คือการยอมแพ้
  ความโกรธแค้นของเหล่าผู้เฒ่าไม่ได้รับการระบายเมื่อรู้ว่าม่อเทียนฉวนคิดอ่านอย่างไร
  “น่าละอายนัก!”
  เพลิงในตัวเหล่าผู้เฒ่าชุกโชนพวกเขาทั้งแค้นและเศร้า ควมประมาทเพียงนิดเดียวของพวกเขาทำให้ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวยิ้มอย่างเคย
  “ฮ่าๆ ทุกคนใจเย็นก่อน ก็อย่างที่พูดกันว่าปัญญามักจะมาพร้อมประสบการณ์ พอเสียเปรียบเล็กน้อยในครั้งนี้ ครั้งต่อไปพวกเจ้าก็จะไม่แพ้หมดรูปอย่างนี้อีก มันไม่น่าดีใจหรอกหรือ?”
  คำพูดของเขาเพียงแค่ทำให้ความโกรธแค้นมีมากขึ้นแต่ยิ่งพวกเขาโกรธแค้นเท่าใด รองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็ยิ่งมองด้วยสายตาเยาะเย้ยยิ่งขึ้น
  “รองเจ้าดินแดนเสี่ยวเจ้าจะบอกว่าตราบเท่าที่วงปีเกิดขึ้นได้ ทุกวิธีการย่อมยอมรับได้ ถูกต้องแล้วหรือไม่?”
  ซือหยูพูดขึ้นมา
  เจ้าดินแดนเสี่ยวคิดก่อนจะตอบด้วยความระมัดระวัง
  “แต่ต้องอยู่ในความทรงจำของเจ้าวิธีอื่นนับว่าผิดกฎ”
  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ
  “ดีถ้าอย่างนั้น ข้าจะแข่งต่อ หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจเกินไปนัก”
  ถ้าพูดถึงเรื่องความทรงจำของเผ่าไม้ซือหยูมีความทรงจำต่อเทพไม้ในป่าปีศาจร้างอยู่แล้ว
  และเขายังมีความทรงจำของ‘ตำราสวรรค์แรก’ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นั่นคือคำแรกเริ่มของเผ่าไม้ ต้นกำเนิดของภาษาไม้ทุกคำ สำหรับเผ่าไม้ ความทรงจำทั้งสองอย่างมีอยู่มากและสำคัญากด้วย วงปีที่จะตอบสนองออกมานั้นยากที่จะคาดเดา
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเขาจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยของซือหยู ลางร้ายก่อเกิดในใจ
  ซือหยูวางมือทั้งสองข้างลงบนแก่นไม้อีกครั้งและกล่าวอย่างใจเย็น
  “มาต่อกันเถอะ”
  และจู่ๆ ใบหน้าเศร้าหมองของเหล่าผู้เฒ่าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Divine Nine Dragon Cauldron 956 – เอาคืน

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 956 - เอาคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
  จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงแลกแก่นไม้ของกันและกันเรื่องเล็กน้อยนี้ทำเพื่อให้แน่ใจในความโปร่งใสของการแข่งขัน การแข่งเริ่มขึ้นอีกครั้ง วงปีบนแก่นไม้ของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
  ม่อเทียนฉวนชมการแข่งด้วยความเงียบเดิมพันในการแข่งครั้งนี้หาใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่เป็นชื่อเสียงที่สำคัญ
  แก้วร้อยล้านดวงกับเดิมพันร้านค้าในเมืองเทียนหยาเป็นเดิมพันหนักแต่ชื่อเสียงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากพวกเขาแพ้ ตำหนักโลหิตจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน จากสถานการณ์ดินแดนพรสวรรค์ตอนนี้ สัญญาณว่ากำลังจะเกิดความวุ่นวายได้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
  นั่นหมายความว่าทุกเรื่องที่ส่งผลกับภาพลักษณ์ของตำหนักจะต้องถูกจัดการอย่างจริงจัง
  และที่แย่ยิ่งกว่าเมืองเทียนหยาอยู่ในชายแดนของทั้งสองฝ่าย ตำหนักโลหิตพยายามอย่างมากที่จะกำจัดอำนาจของดินแดนมีดสวรรค์ผ่านพิธีเซ่น ถ้าหากดินแดนมีดสวรรค์ได้ร้านค้ากลับไป มันก็ยากมากที่พวกเขาจะได้กลับคืนมาอีกครั้ง
  ความเร็วของการเกิดวงปีในแก่นไม้ทั้งสองฝ่ายแทบจะเท่ากัน
  ซือหยูเหลือบมองแก่นไม้ของอีกฝ่ายและแอบตกใจยิ่งวงปีขึ้นเร็วเท่าใดก็ยิ่งแสดงถึงความแม่นยำในความทรงจำ มันสื่อถึงคำภาษาไม้จำนวนมากที่ถูกเรียนรู้มา ซือหยูนึกคำภาษาไม้มาเกินครึ่งสมองแล้ว แต่ศัตรูนั้นยังคงมีความเร็วเท่ากับเขา
  เวลาผ่านไปสามในสี่ส่วนแล้วสองฝ่ายมาถึงการแข่งขั้นสุดท้าย ซือหยูคิดถึงภาษาไม้แบบทั่วไปจนหมดแล้ว สิ่งที่เหลือคือภาษาโบราณ ซึ่งก็น่าตกใจที่อีกฝ่ายนั้นรวดเร็วไม่แพ้เขาเลย
  โถงหลักเงียบกริบไม่มีใครละสายตาไปจากวงปี ทุกคนกลั้นหายใจ บอกได้เลยว่าผู้เข้าแข่งทั้งสองมีความสามารถพอ ๆ กัน
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวสีหน้าดำมืดตามที่คนชุดหยกบอก ไม่น่าจะมีใครในจิวโจวที่เชี่ยวชาญภาษาไม้ไปมากกว่าเขา แต่ซือหยูไม่ได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเลย เขายังเป็นผู้นำอยู่เล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายเรียกวงปีได้หกสิบวงแล้ว
  สุดท้ายเวลาได้ผ่านไป
  ซือหยูนึกคำภาษาไม้ทั้งหมดในความทรงจำออกมาแล้วมีวงปีหกสิบหกวงเกิดขึ้น
  แต่ซือหยูก็หน้าหมองเมื่อเห็นว่าวงปีของฝ่ายตรงข้ามกำลังขยายอย่างต่อเนื่อง!มันไม่มีเหตุผลเลย ความเร็วนั้นเท่ากัน แต่ดูไม่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะหยุดหลังจากที่ซือหยูนึกคำจนหมดสมอง
  ผู้คนชักสีหน้าซือหยูเซี่ยนเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้! หลายคนคิดเช่นนี้
  ม่อเทียนฉวนเองก็หน้าหมองถ้าหากอีกฝ่ายโกง นางจะประกาศให้การแข่งนี้โมฆะ แต่นางมิอาจทำได้
  ผู้เฒ่าทุกคนในตำหนักในเริ่มใจหายราวกับว่าฟ้าถล่มพวกเขาจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วถ้าพวกมีดสวรรค์กลับไปเมืองเทียนหยาได้อีกครั้ง มันเหมือนกับการโดนตบหน้า พวกเขาปล้นร้านของดินแดนมีดสวรรค์ด้วยภาษาไม้
  แต่พวกเขากำลังจะโดนริบเอาคืนโดยพวกมีดสวรรค์ด้วยวิธีเดียวกันการจงใจดูถูกเช่นนี้ทำให้พวกเขาอัปยศอย่างมาก
  “ท่านเจ้าตำหนักการแข่งนี้แปลก ภาษาไม้ทั้งหมดมีอยู่แค่นี้ ตอนนี้มันกำลังใช้ความทรงจำอื่นที่แก่นไม้ตอบสนองได้แทนภาษาไม้!”
  ซือหยูประสานมือ
  เหล่าผู้ชมการแข่งขันทั้งหมดสับสนเมื่อได้ฟังที่ซือหยูพูด
  แก่นไม้นั้นไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาก็คือผู้ใช้ ชายชุดหยกจะต้องมีความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ได้มากกว่า และเขาใช้มันแสร้งเป็นคำภาษาไม้ เขาอาจจะไม่คิดว่ามีคนที่รู้ภาษาไม้ทุกคำอยู่ มันทำให้วงปีในแก่นไม้ของเขาเพิ่มขึ้นต่อได้ทั้ง ๆ ที่ความทรงจำภาษาไม้หมดลงแล้ว
  ม่อเทียนฉวนเลิกคิ้วนางมองรองเจ้าดินแดนเสี่ยวอยากเยือกเย็น
  “ซือหยูเซี่ยนเจ้าอยากให้ข้าหยุดการแข่งหรือไม่?”
  น้ำเสียงของนางเปี่ยมไปด้วยพลังการแข่งครั้งนี้สามารถประกาศโมฆะได้ทุกเมื่อหากมีการโกงเกิดขึ้น
  ถึงกระนั้นสีหน้าของรองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็เยือกเย็นสุขุมราวกับว่าเตรียมการมา เขายิ้ม
  “เจ้าตำหนักม่อพวกเราพูดเรื่องกฎการแข่งไปแล้ว ใครที่สร้างวงปีได้มากกว่าย่อมมีความเข้าใจภาษาไม้ได้มากกว่า! พวกเราไม่เคยพูดว่าวงปีจะต้องมาจากภาษาไม้ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น…”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนโกรธเกรี้ยว ไอรีนโนเวล
  “เจ้าไม่ละอายใจหรือที่ดินแดนมีดสวรรค์ที่เคยมีเกียรติต้องมาเล่นลิ้นเช่นนี้?”
  อาจารย์พรายพูดเสียงแข็ง
  พวกเขาคิดว่านี่คือการแข่งภาษาไม้แต่สุดท้าย ดินแดนมีดสวรรค์ก็ใช้วิธีสกปรกในการแข่ง ซึ่งเรื่องภาษาไม้กับเรื่องความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ทั้งหมดนั้นต่างกันมาก
  “อะไรอีกเล่า?ตำหนักโลหิตที่มีเกียรติยอมรับแค่ความพ่ายแพ้ไม่ได้หรือ?”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  “อย่างแรกพวกข้าไม่ได้โกง อย่างที่สอง พวกข้าไม่ได้หลอก! เป็นพวกเจ้าที่ไม่ถามเรื่องกฎให้ละเอียด แล้วตอนนี้จะมาโทษพวกข้าอย่างนั้นรึ? พวกเจ้าไม่กลัวจะได้กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนหรือ?”
  ทุกคนโกรธแค้น
  พวกเขาไม่พอใจจากการแข่งขันอันไม่เป็นธรรมม่อเทียนฉวนยกมือแสดงให้ทุกคนเงียบลง
  ใบหน้าของนางไม่ได้อาฆาตเหมือนผู้เฒ่าคนใดความเยือกเย็นปะทุออกมาจากดวงตา ถ้าหากนางผิดสัญญาและประกาศโมฆะ ตำหนักโลหิตจะเสียเกียรติยศและชื่อเสียงทั้งหมดไป ถ้าหากนางรักษาสัญญาและยอมแพ้ ตำหนักโลหิตก็จะจมอยู่ห้วงความอัปยศ จะไม่มีใครนับถืออีก
  ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรตำหนักโลหิตก็จะได้รับผลที่ตามมาอย่างหนัก เขาจะแพ้ทั้งการแข่งและเสียกำลังคน
  ในด้านเหตุผลการยอมรับความพ่ายแพ้ย่อมดีกว่า ชือเสียงสามารถกอบกู้คืนได้ ร้านค้าในเมืองเทียนหยาย่อมชิงกลับคืนได้ แต่การเสียเกียรติยศนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับวิถีของตำหนักโลหิต มันจะทำให้ถูกกลุ่มกำลังอื่นในดินแดนพรสวรรค์ต่อต้านพวกเขา
  ผลที่ตามมานั้นเลวร้ายยิ่งกว่าแค่การเสียร้านในเมืองเทียนหยาดังนั้น ถ้าหากไม่มีทางเลือกอื่นอีก ม่อเทียนฉวนจะเลือกอย่างหลัง ซึ่งก็คือการยอมแพ้
  ความโกรธแค้นของเหล่าผู้เฒ่าไม่ได้รับการระบายเมื่อรู้ว่าม่อเทียนฉวนคิดอ่านอย่างไร
  “น่าละอายนัก!”
  เพลิงในตัวเหล่าผู้เฒ่าชุกโชนพวกเขาทั้งแค้นและเศร้า ควมประมาทเพียงนิดเดียวของพวกเขาทำให้ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวยิ้มอย่างเคย
  “ฮ่าๆ ทุกคนใจเย็นก่อน ก็อย่างที่พูดกันว่าปัญญามักจะมาพร้อมประสบการณ์ พอเสียเปรียบเล็กน้อยในครั้งนี้ ครั้งต่อไปพวกเจ้าก็จะไม่แพ้หมดรูปอย่างนี้อีก มันไม่น่าดีใจหรอกหรือ?”
  คำพูดของเขาเพียงแค่ทำให้ความโกรธแค้นมีมากขึ้นแต่ยิ่งพวกเขาโกรธแค้นเท่าใด รองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็ยิ่งมองด้วยสายตาเยาะเย้ยยิ่งขึ้น
  “รองเจ้าดินแดนเสี่ยวเจ้าจะบอกว่าตราบเท่าที่วงปีเกิดขึ้นได้ ทุกวิธีการย่อมยอมรับได้ ถูกต้องแล้วหรือไม่?”
  ซือหยูพูดขึ้นมา
  เจ้าดินแดนเสี่ยวคิดก่อนจะตอบด้วยความระมัดระวัง
  “แต่ต้องอยู่ในความทรงจำของเจ้าวิธีอื่นนับว่าผิดกฎ”
  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ
  “ดีถ้าอย่างนั้น ข้าจะแข่งต่อ หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจเกินไปนัก”
  ถ้าพูดถึงเรื่องความทรงจำของเผ่าไม้ซือหยูมีความทรงจำต่อเทพไม้ในป่าปีศาจร้างอยู่แล้ว
  และเขายังมีความทรงจำของ‘ตำราสวรรค์แรก’ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นั่นคือคำแรกเริ่มของเผ่าไม้ ต้นกำเนิดของภาษาไม้ทุกคำ สำหรับเผ่าไม้ ความทรงจำทั้งสองอย่างมีอยู่มากและสำคัญากด้วย วงปีที่จะตอบสนองออกมานั้นยากที่จะคาดเดา
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเขาจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยของซือหยู ลางร้ายก่อเกิดในใจ
  ซือหยูวางมือทั้งสองข้างลงบนแก่นไม้อีกครั้งและกล่าวอย่างใจเย็น
  “มาต่อกันเถอะ”
  และจู่ๆ ใบหน้าเศร้าหมองของเหล่าผู้เฒ่าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Divine Nine Dragon Cauldron 956 – เอาคืน

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 956 - เอาคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
  จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงแลกแก่นไม้ของกันและกันเรื่องเล็กน้อยนี้ทำเพื่อให้แน่ใจในความโปร่งใสของการแข่งขัน การแข่งเริ่มขึ้นอีกครั้ง วงปีบนแก่นไม้ของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
  ม่อเทียนฉวนชมการแข่งด้วยความเงียบเดิมพันในการแข่งครั้งนี้หาใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่เป็นชื่อเสียงที่สำคัญ
  แก้วร้อยล้านดวงกับเดิมพันร้านค้าในเมืองเทียนหยาเป็นเดิมพันหนักแต่ชื่อเสียงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากพวกเขาแพ้ ตำหนักโลหิตจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน จากสถานการณ์ดินแดนพรสวรรค์ตอนนี้ สัญญาณว่ากำลังจะเกิดความวุ่นวายได้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
  นั่นหมายความว่าทุกเรื่องที่ส่งผลกับภาพลักษณ์ของตำหนักจะต้องถูกจัดการอย่างจริงจัง
  และที่แย่ยิ่งกว่าเมืองเทียนหยาอยู่ในชายแดนของทั้งสองฝ่าย ตำหนักโลหิตพยายามอย่างมากที่จะกำจัดอำนาจของดินแดนมีดสวรรค์ผ่านพิธีเซ่น ถ้าหากดินแดนมีดสวรรค์ได้ร้านค้ากลับไป มันก็ยากมากที่พวกเขาจะได้กลับคืนมาอีกครั้ง
  ความเร็วของการเกิดวงปีในแก่นไม้ทั้งสองฝ่ายแทบจะเท่ากัน
  ซือหยูเหลือบมองแก่นไม้ของอีกฝ่ายและแอบตกใจยิ่งวงปีขึ้นเร็วเท่าใดก็ยิ่งแสดงถึงความแม่นยำในความทรงจำ มันสื่อถึงคำภาษาไม้จำนวนมากที่ถูกเรียนรู้มา ซือหยูนึกคำภาษาไม้มาเกินครึ่งสมองแล้ว แต่ศัตรูนั้นยังคงมีความเร็วเท่ากับเขา
  เวลาผ่านไปสามในสี่ส่วนแล้วสองฝ่ายมาถึงการแข่งขั้นสุดท้าย ซือหยูคิดถึงภาษาไม้แบบทั่วไปจนหมดแล้ว สิ่งที่เหลือคือภาษาโบราณ ซึ่งก็น่าตกใจที่อีกฝ่ายนั้นรวดเร็วไม่แพ้เขาเลย
  โถงหลักเงียบกริบไม่มีใครละสายตาไปจากวงปี ทุกคนกลั้นหายใจ บอกได้เลยว่าผู้เข้าแข่งทั้งสองมีความสามารถพอ ๆ กัน
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวสีหน้าดำมืดตามที่คนชุดหยกบอก ไม่น่าจะมีใครในจิวโจวที่เชี่ยวชาญภาษาไม้ไปมากกว่าเขา แต่ซือหยูไม่ได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเลย เขายังเป็นผู้นำอยู่เล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายเรียกวงปีได้หกสิบวงแล้ว
  สุดท้ายเวลาได้ผ่านไป
  ซือหยูนึกคำภาษาไม้ทั้งหมดในความทรงจำออกมาแล้วมีวงปีหกสิบหกวงเกิดขึ้น
  แต่ซือหยูก็หน้าหมองเมื่อเห็นว่าวงปีของฝ่ายตรงข้ามกำลังขยายอย่างต่อเนื่อง!มันไม่มีเหตุผลเลย ความเร็วนั้นเท่ากัน แต่ดูไม่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะหยุดหลังจากที่ซือหยูนึกคำจนหมดสมอง
  ผู้คนชักสีหน้าซือหยูเซี่ยนเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้! หลายคนคิดเช่นนี้
  ม่อเทียนฉวนเองก็หน้าหมองถ้าหากอีกฝ่ายโกง นางจะประกาศให้การแข่งนี้โมฆะ แต่นางมิอาจทำได้
  ผู้เฒ่าทุกคนในตำหนักในเริ่มใจหายราวกับว่าฟ้าถล่มพวกเขาจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วถ้าพวกมีดสวรรค์กลับไปเมืองเทียนหยาได้อีกครั้ง มันเหมือนกับการโดนตบหน้า พวกเขาปล้นร้านของดินแดนมีดสวรรค์ด้วยภาษาไม้
  แต่พวกเขากำลังจะโดนริบเอาคืนโดยพวกมีดสวรรค์ด้วยวิธีเดียวกันการจงใจดูถูกเช่นนี้ทำให้พวกเขาอัปยศอย่างมาก
  “ท่านเจ้าตำหนักการแข่งนี้แปลก ภาษาไม้ทั้งหมดมีอยู่แค่นี้ ตอนนี้มันกำลังใช้ความทรงจำอื่นที่แก่นไม้ตอบสนองได้แทนภาษาไม้!”
  ซือหยูประสานมือ
  เหล่าผู้ชมการแข่งขันทั้งหมดสับสนเมื่อได้ฟังที่ซือหยูพูด
  แก่นไม้นั้นไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาก็คือผู้ใช้ ชายชุดหยกจะต้องมีความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ได้มากกว่า และเขาใช้มันแสร้งเป็นคำภาษาไม้ เขาอาจจะไม่คิดว่ามีคนที่รู้ภาษาไม้ทุกคำอยู่ มันทำให้วงปีในแก่นไม้ของเขาเพิ่มขึ้นต่อได้ทั้ง ๆ ที่ความทรงจำภาษาไม้หมดลงแล้ว
  ม่อเทียนฉวนเลิกคิ้วนางมองรองเจ้าดินแดนเสี่ยวอยากเยือกเย็น
  “ซือหยูเซี่ยนเจ้าอยากให้ข้าหยุดการแข่งหรือไม่?”
  น้ำเสียงของนางเปี่ยมไปด้วยพลังการแข่งครั้งนี้สามารถประกาศโมฆะได้ทุกเมื่อหากมีการโกงเกิดขึ้น
  ถึงกระนั้นสีหน้าของรองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็เยือกเย็นสุขุมราวกับว่าเตรียมการมา เขายิ้ม
  “เจ้าตำหนักม่อพวกเราพูดเรื่องกฎการแข่งไปแล้ว ใครที่สร้างวงปีได้มากกว่าย่อมมีความเข้าใจภาษาไม้ได้มากกว่า! พวกเราไม่เคยพูดว่าวงปีจะต้องมาจากภาษาไม้ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น…”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนโกรธเกรี้ยว ไอรีนโนเวล
  “เจ้าไม่ละอายใจหรือที่ดินแดนมีดสวรรค์ที่เคยมีเกียรติต้องมาเล่นลิ้นเช่นนี้?”
  อาจารย์พรายพูดเสียงแข็ง
  พวกเขาคิดว่านี่คือการแข่งภาษาไม้แต่สุดท้าย ดินแดนมีดสวรรค์ก็ใช้วิธีสกปรกในการแข่ง ซึ่งเรื่องภาษาไม้กับเรื่องความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ทั้งหมดนั้นต่างกันมาก
  “อะไรอีกเล่า?ตำหนักโลหิตที่มีเกียรติยอมรับแค่ความพ่ายแพ้ไม่ได้หรือ?”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  “อย่างแรกพวกข้าไม่ได้โกง อย่างที่สอง พวกข้าไม่ได้หลอก! เป็นพวกเจ้าที่ไม่ถามเรื่องกฎให้ละเอียด แล้วตอนนี้จะมาโทษพวกข้าอย่างนั้นรึ? พวกเจ้าไม่กลัวจะได้กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนหรือ?”
  ทุกคนโกรธแค้น
  พวกเขาไม่พอใจจากการแข่งขันอันไม่เป็นธรรมม่อเทียนฉวนยกมือแสดงให้ทุกคนเงียบลง
  ใบหน้าของนางไม่ได้อาฆาตเหมือนผู้เฒ่าคนใดความเยือกเย็นปะทุออกมาจากดวงตา ถ้าหากนางผิดสัญญาและประกาศโมฆะ ตำหนักโลหิตจะเสียเกียรติยศและชื่อเสียงทั้งหมดไป ถ้าหากนางรักษาสัญญาและยอมแพ้ ตำหนักโลหิตก็จะจมอยู่ห้วงความอัปยศ จะไม่มีใครนับถืออีก
  ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรตำหนักโลหิตก็จะได้รับผลที่ตามมาอย่างหนัก เขาจะแพ้ทั้งการแข่งและเสียกำลังคน
  ในด้านเหตุผลการยอมรับความพ่ายแพ้ย่อมดีกว่า ชือเสียงสามารถกอบกู้คืนได้ ร้านค้าในเมืองเทียนหยาย่อมชิงกลับคืนได้ แต่การเสียเกียรติยศนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับวิถีของตำหนักโลหิต มันจะทำให้ถูกกลุ่มกำลังอื่นในดินแดนพรสวรรค์ต่อต้านพวกเขา
  ผลที่ตามมานั้นเลวร้ายยิ่งกว่าแค่การเสียร้านในเมืองเทียนหยาดังนั้น ถ้าหากไม่มีทางเลือกอื่นอีก ม่อเทียนฉวนจะเลือกอย่างหลัง ซึ่งก็คือการยอมแพ้
  ความโกรธแค้นของเหล่าผู้เฒ่าไม่ได้รับการระบายเมื่อรู้ว่าม่อเทียนฉวนคิดอ่านอย่างไร
  “น่าละอายนัก!”
  เพลิงในตัวเหล่าผู้เฒ่าชุกโชนพวกเขาทั้งแค้นและเศร้า ควมประมาทเพียงนิดเดียวของพวกเขาทำให้ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวยิ้มอย่างเคย
  “ฮ่าๆ ทุกคนใจเย็นก่อน ก็อย่างที่พูดกันว่าปัญญามักจะมาพร้อมประสบการณ์ พอเสียเปรียบเล็กน้อยในครั้งนี้ ครั้งต่อไปพวกเจ้าก็จะไม่แพ้หมดรูปอย่างนี้อีก มันไม่น่าดีใจหรอกหรือ?”
  คำพูดของเขาเพียงแค่ทำให้ความโกรธแค้นมีมากขึ้นแต่ยิ่งพวกเขาโกรธแค้นเท่าใด รองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็ยิ่งมองด้วยสายตาเยาะเย้ยยิ่งขึ้น
  “รองเจ้าดินแดนเสี่ยวเจ้าจะบอกว่าตราบเท่าที่วงปีเกิดขึ้นได้ ทุกวิธีการย่อมยอมรับได้ ถูกต้องแล้วหรือไม่?”
  ซือหยูพูดขึ้นมา
  เจ้าดินแดนเสี่ยวคิดก่อนจะตอบด้วยความระมัดระวัง
  “แต่ต้องอยู่ในความทรงจำของเจ้าวิธีอื่นนับว่าผิดกฎ”
  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ
  “ดีถ้าอย่างนั้น ข้าจะแข่งต่อ หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจเกินไปนัก”
  ถ้าพูดถึงเรื่องความทรงจำของเผ่าไม้ซือหยูมีความทรงจำต่อเทพไม้ในป่าปีศาจร้างอยู่แล้ว
  และเขายังมีความทรงจำของ‘ตำราสวรรค์แรก’ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นั่นคือคำแรกเริ่มของเผ่าไม้ ต้นกำเนิดของภาษาไม้ทุกคำ สำหรับเผ่าไม้ ความทรงจำทั้งสองอย่างมีอยู่มากและสำคัญากด้วย วงปีที่จะตอบสนองออกมานั้นยากที่จะคาดเดา
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเขาจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยของซือหยู ลางร้ายก่อเกิดในใจ
  ซือหยูวางมือทั้งสองข้างลงบนแก่นไม้อีกครั้งและกล่าวอย่างใจเย็น
  “มาต่อกันเถอะ”
  และจู่ๆ ใบหน้าเศร้าหมองของเหล่าผู้เฒ่าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Divine Nine Dragon Cauldron 956 – เอาคืน

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 956 - เอาคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
  จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงแลกแก่นไม้ของกันและกันเรื่องเล็กน้อยนี้ทำเพื่อให้แน่ใจในความโปร่งใสของการแข่งขัน การแข่งเริ่มขึ้นอีกครั้ง วงปีบนแก่นไม้ของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
  ม่อเทียนฉวนชมการแข่งด้วยความเงียบเดิมพันในการแข่งครั้งนี้หาใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่เป็นชื่อเสียงที่สำคัญ
  แก้วร้อยล้านดวงกับเดิมพันร้านค้าในเมืองเทียนหยาเป็นเดิมพันหนักแต่ชื่อเสียงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากพวกเขาแพ้ ตำหนักโลหิตจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน จากสถานการณ์ดินแดนพรสวรรค์ตอนนี้ สัญญาณว่ากำลังจะเกิดความวุ่นวายได้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
  นั่นหมายความว่าทุกเรื่องที่ส่งผลกับภาพลักษณ์ของตำหนักจะต้องถูกจัดการอย่างจริงจัง
  และที่แย่ยิ่งกว่าเมืองเทียนหยาอยู่ในชายแดนของทั้งสองฝ่าย ตำหนักโลหิตพยายามอย่างมากที่จะกำจัดอำนาจของดินแดนมีดสวรรค์ผ่านพิธีเซ่น ถ้าหากดินแดนมีดสวรรค์ได้ร้านค้ากลับไป มันก็ยากมากที่พวกเขาจะได้กลับคืนมาอีกครั้ง
  ความเร็วของการเกิดวงปีในแก่นไม้ทั้งสองฝ่ายแทบจะเท่ากัน
  ซือหยูเหลือบมองแก่นไม้ของอีกฝ่ายและแอบตกใจยิ่งวงปีขึ้นเร็วเท่าใดก็ยิ่งแสดงถึงความแม่นยำในความทรงจำ มันสื่อถึงคำภาษาไม้จำนวนมากที่ถูกเรียนรู้มา ซือหยูนึกคำภาษาไม้มาเกินครึ่งสมองแล้ว แต่ศัตรูนั้นยังคงมีความเร็วเท่ากับเขา
  เวลาผ่านไปสามในสี่ส่วนแล้วสองฝ่ายมาถึงการแข่งขั้นสุดท้าย ซือหยูคิดถึงภาษาไม้แบบทั่วไปจนหมดแล้ว สิ่งที่เหลือคือภาษาโบราณ ซึ่งก็น่าตกใจที่อีกฝ่ายนั้นรวดเร็วไม่แพ้เขาเลย
  โถงหลักเงียบกริบไม่มีใครละสายตาไปจากวงปี ทุกคนกลั้นหายใจ บอกได้เลยว่าผู้เข้าแข่งทั้งสองมีความสามารถพอ ๆ กัน
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวสีหน้าดำมืดตามที่คนชุดหยกบอก ไม่น่าจะมีใครในจิวโจวที่เชี่ยวชาญภาษาไม้ไปมากกว่าเขา แต่ซือหยูไม่ได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเลย เขายังเป็นผู้นำอยู่เล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายเรียกวงปีได้หกสิบวงแล้ว
  สุดท้ายเวลาได้ผ่านไป
  ซือหยูนึกคำภาษาไม้ทั้งหมดในความทรงจำออกมาแล้วมีวงปีหกสิบหกวงเกิดขึ้น
  แต่ซือหยูก็หน้าหมองเมื่อเห็นว่าวงปีของฝ่ายตรงข้ามกำลังขยายอย่างต่อเนื่อง!มันไม่มีเหตุผลเลย ความเร็วนั้นเท่ากัน แต่ดูไม่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะหยุดหลังจากที่ซือหยูนึกคำจนหมดสมอง
  ผู้คนชักสีหน้าซือหยูเซี่ยนเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้! หลายคนคิดเช่นนี้
  ม่อเทียนฉวนเองก็หน้าหมองถ้าหากอีกฝ่ายโกง นางจะประกาศให้การแข่งนี้โมฆะ แต่นางมิอาจทำได้
  ผู้เฒ่าทุกคนในตำหนักในเริ่มใจหายราวกับว่าฟ้าถล่มพวกเขาจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วถ้าพวกมีดสวรรค์กลับไปเมืองเทียนหยาได้อีกครั้ง มันเหมือนกับการโดนตบหน้า พวกเขาปล้นร้านของดินแดนมีดสวรรค์ด้วยภาษาไม้
  แต่พวกเขากำลังจะโดนริบเอาคืนโดยพวกมีดสวรรค์ด้วยวิธีเดียวกันการจงใจดูถูกเช่นนี้ทำให้พวกเขาอัปยศอย่างมาก
  “ท่านเจ้าตำหนักการแข่งนี้แปลก ภาษาไม้ทั้งหมดมีอยู่แค่นี้ ตอนนี้มันกำลังใช้ความทรงจำอื่นที่แก่นไม้ตอบสนองได้แทนภาษาไม้!”
  ซือหยูประสานมือ
  เหล่าผู้ชมการแข่งขันทั้งหมดสับสนเมื่อได้ฟังที่ซือหยูพูด
  แก่นไม้นั้นไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาก็คือผู้ใช้ ชายชุดหยกจะต้องมีความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ได้มากกว่า และเขาใช้มันแสร้งเป็นคำภาษาไม้ เขาอาจจะไม่คิดว่ามีคนที่รู้ภาษาไม้ทุกคำอยู่ มันทำให้วงปีในแก่นไม้ของเขาเพิ่มขึ้นต่อได้ทั้ง ๆ ที่ความทรงจำภาษาไม้หมดลงแล้ว
  ม่อเทียนฉวนเลิกคิ้วนางมองรองเจ้าดินแดนเสี่ยวอยากเยือกเย็น
  “ซือหยูเซี่ยนเจ้าอยากให้ข้าหยุดการแข่งหรือไม่?”
  น้ำเสียงของนางเปี่ยมไปด้วยพลังการแข่งครั้งนี้สามารถประกาศโมฆะได้ทุกเมื่อหากมีการโกงเกิดขึ้น
  ถึงกระนั้นสีหน้าของรองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็เยือกเย็นสุขุมราวกับว่าเตรียมการมา เขายิ้ม
  “เจ้าตำหนักม่อพวกเราพูดเรื่องกฎการแข่งไปแล้ว ใครที่สร้างวงปีได้มากกว่าย่อมมีความเข้าใจภาษาไม้ได้มากกว่า! พวกเราไม่เคยพูดว่าวงปีจะต้องมาจากภาษาไม้ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น…”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนโกรธเกรี้ยว ไอรีนโนเวล
  “เจ้าไม่ละอายใจหรือที่ดินแดนมีดสวรรค์ที่เคยมีเกียรติต้องมาเล่นลิ้นเช่นนี้?”
  อาจารย์พรายพูดเสียงแข็ง
  พวกเขาคิดว่านี่คือการแข่งภาษาไม้แต่สุดท้าย ดินแดนมีดสวรรค์ก็ใช้วิธีสกปรกในการแข่ง ซึ่งเรื่องภาษาไม้กับเรื่องความทรงจำที่ตอบสนองกับแก่นไม้ทั้งหมดนั้นต่างกันมาก
  “อะไรอีกเล่า?ตำหนักโลหิตที่มีเกียรติยอมรับแค่ความพ่ายแพ้ไม่ได้หรือ?”
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกล่าว
  “อย่างแรกพวกข้าไม่ได้โกง อย่างที่สอง พวกข้าไม่ได้หลอก! เป็นพวกเจ้าที่ไม่ถามเรื่องกฎให้ละเอียด แล้วตอนนี้จะมาโทษพวกข้าอย่างนั้นรึ? พวกเจ้าไม่กลัวจะได้กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคนหรือ?”
  ทุกคนโกรธแค้น
  พวกเขาไม่พอใจจากการแข่งขันอันไม่เป็นธรรมม่อเทียนฉวนยกมือแสดงให้ทุกคนเงียบลง
  ใบหน้าของนางไม่ได้อาฆาตเหมือนผู้เฒ่าคนใดความเยือกเย็นปะทุออกมาจากดวงตา ถ้าหากนางผิดสัญญาและประกาศโมฆะ ตำหนักโลหิตจะเสียเกียรติยศและชื่อเสียงทั้งหมดไป ถ้าหากนางรักษาสัญญาและยอมแพ้ ตำหนักโลหิตก็จะจมอยู่ห้วงความอัปยศ จะไม่มีใครนับถืออีก
  ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรตำหนักโลหิตก็จะได้รับผลที่ตามมาอย่างหนัก เขาจะแพ้ทั้งการแข่งและเสียกำลังคน
  ในด้านเหตุผลการยอมรับความพ่ายแพ้ย่อมดีกว่า ชือเสียงสามารถกอบกู้คืนได้ ร้านค้าในเมืองเทียนหยาย่อมชิงกลับคืนได้ แต่การเสียเกียรติยศนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับวิถีของตำหนักโลหิต มันจะทำให้ถูกกลุ่มกำลังอื่นในดินแดนพรสวรรค์ต่อต้านพวกเขา
  ผลที่ตามมานั้นเลวร้ายยิ่งกว่าแค่การเสียร้านในเมืองเทียนหยาดังนั้น ถ้าหากไม่มีทางเลือกอื่นอีก ม่อเทียนฉวนจะเลือกอย่างหลัง ซึ่งก็คือการยอมแพ้
  ความโกรธแค้นของเหล่าผู้เฒ่าไม่ได้รับการระบายเมื่อรู้ว่าม่อเทียนฉวนคิดอ่านอย่างไร
  “น่าละอายนัก!”
  เพลิงในตัวเหล่าผู้เฒ่าชุกโชนพวกเขาทั้งแค้นและเศร้า ควมประมาทเพียงนิดเดียวของพวกเขาทำให้ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวยิ้มอย่างเคย
  “ฮ่าๆ ทุกคนใจเย็นก่อน ก็อย่างที่พูดกันว่าปัญญามักจะมาพร้อมประสบการณ์ พอเสียเปรียบเล็กน้อยในครั้งนี้ ครั้งต่อไปพวกเจ้าก็จะไม่แพ้หมดรูปอย่างนี้อีก มันไม่น่าดีใจหรอกหรือ?”
  คำพูดของเขาเพียงแค่ทำให้ความโกรธแค้นมีมากขึ้นแต่ยิ่งพวกเขาโกรธแค้นเท่าใด รองเจ้าดินแดนเสี่ยวก็ยิ่งมองด้วยสายตาเยาะเย้ยยิ่งขึ้น
  “รองเจ้าดินแดนเสี่ยวเจ้าจะบอกว่าตราบเท่าที่วงปีเกิดขึ้นได้ ทุกวิธีการย่อมยอมรับได้ ถูกต้องแล้วหรือไม่?”
  ซือหยูพูดขึ้นมา
  เจ้าดินแดนเสี่ยวคิดก่อนจะตอบด้วยความระมัดระวัง
  “แต่ต้องอยู่ในความทรงจำของเจ้าวิธีอื่นนับว่าผิดกฎ”
  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ
  “ดีถ้าอย่างนั้น ข้าจะแข่งต่อ หวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจเกินไปนัก”
  ถ้าพูดถึงเรื่องความทรงจำของเผ่าไม้ซือหยูมีความทรงจำต่อเทพไม้ในป่าปีศาจร้างอยู่แล้ว
  และเขายังมีความทรงจำของ‘ตำราสวรรค์แรก’ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นั่นคือคำแรกเริ่มของเผ่าไม้ ต้นกำเนิดของภาษาไม้ทุกคำ สำหรับเผ่าไม้ ความทรงจำทั้งสองอย่างมีอยู่มากและสำคัญากด้วย วงปีที่จะตอบสนองออกมานั้นยากที่จะคาดเดา
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเขาจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยของซือหยู ลางร้ายก่อเกิดในใจ
  ซือหยูวางมือทั้งสองข้างลงบนแก่นไม้อีกครั้งและกล่าวอย่างใจเย็น
  “มาต่อกันเถอะ”
  และจู่ๆ ใบหน้าเศร้าหมองของเหล่าผู้เฒ่าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+