The Divine Nine Dragon Cauldron 379

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 379 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เขารู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง ซือหยูก็แข็งแกร่งยิ่งกว่า! ซือหยูคือราชาแห่งทวีปตัวจริง! เขาคือราชาสูงสุดที่ปกครองยอดฝีมือทุกคน!

 

“หยินหยู! มันยังไม่จบหรอก!”

 

คำว่า ‘ปิง’ พุ่งเข้ามาหาเขา จักรวาลเงียบกริบ เสียงทำลายล้างนั้นสูงเกินไปกว่าที่หูของมนุษย์จะได้ยิน!

 

ไม่มีใครได้ยินเสียงทำลายล้าง พวกเขาเห็นแต่ความว่างเปล่า

 

ลานประลองแหลกเป็นเสี่ยงๆราวกับเต้าหู้ด้วยฝีมือของซือหยู จากนั้นมันก็กลายเป็นฝุ่นควันกระจายทั่วฟ้า

 

พื้นใต้ลานประลองพังทลายไปเช่นกัน หลุมลึกปรากฏขึ้น จุดเตรียมประลองที่ทุกคนเคยอยู่ บันได ราวจับ ประตูบานใหญ่ เก้าอี้ศิลาที่พวกเขานั่ง และลานชมการประลองของจ้าววิหคเพลิง ทั้งหมดได้มลายหายไปราวกับหมอกควัน ในสายตาของทุกคน ทุกสิ่งได้หายไปทีละเล็กละน้อยจนไม่เหลืออะไร

 

ในพริบตา พื้นที่กว้างหมื่นศอกได้กลายเป็นหลุมลึกกว้างหมื่นศอกอย่างไร้ขอบเขต! ทุกสิ่งถูกทำลาย ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่เลย!

 

เมื่อเสียงทำลายล้างกระจายออกไป สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือหลุมลึกไร้ขอบเขตและซากปรักหักพังเป็นวงกว้าง มันร่องรอยความเสียหายตลอดระยะห้าหมื่นศอก

 

ที่แสนศอกไกลออกไป ทุกคนคุยกันอย่างเคร่งเครียด ในจิตใจพวกเขาเต็มไปด้วยคลื่นโหมกระหน่ำ พวกเขาหวาดกลัวจนพูดไม่ออก การโจมตีของซือหยูมันอยู่นอกเหนือสามัญสำนักของพวกเขา!

 

ในตอนนั้นเอง ทุกที่เงียบกริบไร้ซุ่มเสียง มีเพียงเสียงฝุ่นสัมผัสพื้นเบาๆ ผ่านไปนานก่อนที่ทุกคนจะอ้าปากค้าง

 

“หยินหยู…”

 

บางคนหายใจแม้จะอ้าปากอยู่

 

“เขาอายุสิบเจ็ดจริงๆเรอะ?”

 

ไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดจากชายหนุ่มที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่!

 

ไม่นานฝุ่นควันทั้งหมดก็ตกลงสู่พื้นดิน ซากที่แผ่วงกว้างปรากฏแก่สายตาทุกคน ภาพอันน่าตกตะลึงทำให้พวกเขาตัวสั่นเทิ้ม

 

เหนือหลุมลึก ชายหนุ่มผมสีเงินลอยนิ่งอยู่กลางนภา

 

ทุกคนจ้องมองแผ่นหลังของชายหนุ่มผู้นั้นด้วยความนับถือจากก้นบึ้งของหัวใจ เทียบกับในอดีต…ตั้งแต่เมื่อใดกันที่งานชุมนุมวิหคเพลิงมีผู้มากพรสวรรค์ผู้ที่สั่นคลอนโลกได้เช่นนี้?

 

ถ้าเช่นฉีหลินกับซงหลวนคือผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในทุกยุคสมัย พวกเขาก็คงจะกลายเป็นราชาแห่งผู้คุมสวรรค์ แต่ในงานชุมนุมวิหคเพลิงครั้งนี้มิได้มีแค่พวกเขา ยังมีตำนานไร้พ่ายเฉินคง เขาคือราชาสูงสุดยืนอยู่เหนือยอดฝีมือทั้งปวง

 

เขาได้สร้างยุคที่เขายืนอยู่บนจุงเหนือสุดขึ้นมา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าจะมีม้ามืดปรากฏตัวขึ้น คนที่ฉีกกระชากตำนานไร้พ่ายของเฉินคง!

 

เขาที่เป็นแค่เด็กหนุ่มได้ไปถึงระดับของผู้คุมสวรรค์และแม้แต่จ้าววิหคเพลิงยังต้องถอยหนี! บุคคลผู้เป็นตำนานนี้ทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนหน้า ไม่ว่าจะกี่ยุคผ่านพ้นก็ไม่มีใครก้าวข้ามได้ และทุกคนที่นี่ยังได้เห็นตำนานที่ก้าวข้ามทุกคนในทวีปด้วยตาตนเอง!

 

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันปี พวกเขาจะไม่มีทางลืมมันเด็ดขาด!

 

ผู้คนทั้งหมื่นคนจ้องมองซือหยู ซือหยูราวกับชายที่เหนือกว่าผู้คนนับร้อยล้านและปกครองทุกสิ่งอย่าง หลังจากวันนี้ไป ชื่อของซือหยูจะเทียบได้กับผู้ปกครองสวรรค์แห่งทวีป เขาจะกลายเป็นตำนานที่คนรุ่นหลังมิอาจก้าวข้ามไปได้

 

“ข้าชนะหรือไม่?”

 

เสียงของซือหยูแหบพร่าและแหลมราวกับโลหะที่เอามาถูกัน มันแสบแก้วหูอย่างมาก

 

เขาเหนื่อยอ่อนราวกับพลังวิญญาณและพลังกายหมดสิ้น เขาบินลงไปยืนเหนือขอบหลุมไร้ขอบเขต

 

เขาไม่ได้สนใจร่างกายตัวเองทันที เขากลับมีแววตาที่เต็มไปด้วยเพลิงแห่งความหวัง เขารีบมองผ่านทุกคนเพื่อหาคนที่เขายอมยากลำบากที่จะได้พบ

 

ราวกับทุกคนเข้าใจสายตานั้น ทุกคนหลีกทางให้กับที่นั่งเมฆาหิมะที่เต็มไปด้วยรังสีอันบริสุทธิ์

 

ข้างในนั้นคือสตรีในฝันของซือหยู!

 

“เซี่ยนเอ๋อ ข้าชนะแล้ว! ออกมาเจอข้าเถอะ!”

 

ซือหยูอดทนความร้อนผ่าวในลำคอและพูดอย่างยากลำบาก

 

เขาเชื่อว่าแม้เขาจะสวมหน้ากาก และแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงไปจนจำไม่ได้ เซี่ยนเอ๋อก็ต้องรู้ว่าหยินหยูคือซือหยู แต่เสียงอันอ่อนโยนนั้นก็ไม่ได้รับคำตอบ ที่นั่งเมฆาหิมะยังคงเงียบกริบอยู่นาน

 

และเสียงที่ดังตามมาก็เป็นเสียงที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงอิสระ มันมีความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ความเศร้า ความโกรธ ความสุข ความรู้สึกทางลบหายไปทั้งหมด เหลือเพียงแต่ความบริสุทธิ์นั้น

 

“ข้าขออภัย”

 

นางพูดออกมา

 

“ข้าจะแต่งงานกับเฉินคงเท่านั้น โปรดไปเถอะ”

 

เสียงนั้นไร้อารมณ์อย่างสิ้นเชิง ความเหินห่างทำให้สีหน้าผู้คนนับไม่ถ้วนเปลี่ยนไป พวกเขามองซือหยูด้วยความเวทนาและรู้สึกว่าที่เขาทำไปนั้นไม่คุ้มค่าอะไรเลย

 

การต่อสู้เอาชีวิตเข้าแลกของเข้านั้นทำลงไปเพราะเซี่ยนเอ๋อเท่านั้น หรือว่าเฟิงเซี่ยนจะไม่ประทับใจแม้แต่น้อย? เหตุใดนางจึงไร้เยื่อใยเช่นนี้?

 

ซือหยูตัวแข็งทื่อ แม้เสียงนั้นจะบางเบา มันก็ดูคล้ายกับเสียงของเซี่ยนเอ๋อ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ดูไม่คล้ายกับเซี่ยนเ๋อ ซือหยูแยกไม่ออกว่าเสียงนั้นเป็นของเซี่ยนเอ๋อจริงหรือไม่

 

“ออกมาเถอะ ข้าอยากจะเจอเจ้าเท่านั้น!”

 

ซือหยูพูดซ้ำ

 

จ้าววิหคเพลิงถอนหายใจและรู้สึกผิดต่อเฉินคง จากนั้นนางก็มองไปยังที่นั่งเมฆาหิมะ

 

“เฟิงเอ๋อ เฉินคงตายแล้ว โปรดคิดอ่านอีกครั้งเถอะ”

 

เสียงอย่างเดิมดังมาจากที่นั่งเมฆาหิมะ

 

“เฉินคงยังไม่ตาย หยินหยูแพ้แล้ว”

 

เอ๋? ทุกคนประหลาดใจ

 

ในคลื่นเสียงนั้น ร่างของเฉินคงแทบไม่มีตัวตน เขาไม่มีทางหนีไปได้

 

ซือหยูหันกลับไปใช้พลังดวงตา เขาชักสีหน้า

 

จ้าววิหคเพลิงหันไปมอง จากนั้นนางก็พูดอย่างจริงจัง

 

“นี่มัน…”

 

เหนือหลุมไร้ขอบเขต หน้ากากสีทองแดงลอยออกมาอย่างช้าๆ แม้พื้นที่ในบริเวณนั้นจะแหลกสลายไม่เหลือสิ่งใด หน้ากากสีทองแดงนั้นก็ยังปลอดภัยดี!

 

ฟึ่บ–

 

เสียงดังออกมาจากหน้ากากทองแดง จากนั้นทุกคนก็ร้องเสียงหลง! แสงสีมรกตเปล่งประกายออกมาจากหน้ากาก ร่างหนึ่งปรากฏออกมา

 

เฉินคง!

 

เฉินคงผู้เป็นตำนานไร้พ่าย! นั่นเป็นเขาอย่างแน่นอน! ความต่างเดียวก็คือเขากำลังสวมหน้ากาก! เขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย!

 

จ้าววิหคเพลิงจ้องมองหน้ากาก นางสีหน้าเปลี่ยนไปมาก

 

“สมบัติเทพระดับกลาง! หน้ากากนิรันดร์!”

 

“อะไรนะ? สมบัติเทพระดับกลางรึ?”

 

ผู้คนนับไม่ถ้วยอ้าปากค้าง

 

หยินหยูครอบครองสมบัติเทพระดับกลางหนึ่งชิ้น แต่เฉินคงก็มีอีกชิ้นเช่นกัน! ความต่างก็คือทุกคนรู้ว่าธนูของหยินหยูนั้นมาจากที่ใด แต่เฉินคงไปเอาสมบัติเทพมาจากที่ไหนกัน?

 

ตำหนักรองของอาณาจักรทมิฬมีสมบัติเทพระดับกลางหนึ่งชิ้นเท่านั้น เฉินคงจะมีอีกหนึ่งได้อย่างไร?

 

ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าในวิชาที่สังหารได้แน่นอนนั้น สมบัติเทพได้ดูดเฉินคงเข้าไป เขาจึงหลบได้อย่างไร้รอยขีดข่วน!

 

หัวใจของพวกเขาแทบหยุดเต้น มิใช่ว่าเพราะสมบัติเทพหรอกรึที่ทำให้เฉินคงนั้นไร้พ่าย? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เขาก็แค่หนีเข้าไปในสมบัติเทพทันที แล้วในโลกใบนี้ใครกันจะแตะต้องเขาได้?

 

เฉินคงมองซือหยูและเห็นว่าพลังวิญญาณและพลังกายของซือหยูหายไปอย่างมาก ลำคอของซือหยูก็ได้รับผลเช่นกัน บอกได้เลยว่าเขาใช้วิชาเดิมไม่ได้อีกแล้ว

 

และในตอนนี้ซือหยูจะต้องสู้กับเฉินคงที่ไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยอีกครั้ง…งั้นรึ?

 

คนที่แพ้คือหยินหยู! เขาพ่ายแพ้การประลองและเสียนางอันเป็นที่รัก และยังต้องเสียชีวิตไปอีกแน่นอน…

 

เฉินคงมองซือหยูด้วยความนับถือและจิตสังหาร

 

“อย่างที่ข้าคิด”

 

“จะปล่อยให้เจ้ารอดออกไปไม่ได้ เจ้าบังคับให้ข้าต้องแสดงตัว! ถ้าข้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องนี้ข้าก็จะฆ่าเจ้าด้วยทุกสิ่งที่มีไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเจ้าแล้ว!”

 

ไม่มีใครหยุดเขาได้อีกแล้ว! ซือหยูจะตายอย่างแน่นอน!

 

แต่คำพูดของเฉินคงนั้นทำให้ทุกคนมีข้อสงสัย หรือว่าเฉินคงกับซือหยูจะมีเรื่องในอดีตต่อกันมาก่อน? ทุกคนมองซือหยูและเห็นว่าซือหยูจ้องมองหน้ากากของเฉินคง ใบหน้าของซือหยูเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

“เป็นเจ้าเองสินะ!”

 

ซือหยูกัดฟัน เขาทั้งตกใจและสับสน

 

หน้ากากทองแดง หน้ากากทองแดง….ซือหยูไม่มีวันลืมหัวหน้าโจรสลัดวารีทมิฬผู้ลึกลับในเขตหยินหยูได้อยู่แล้ว!

 

เขาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัด หลังจากที่ใช้พวกโจรสลัดเสร็จแล้วเขาก็ฆ่าล้างสังหารทุกคน และเขายังไล่ล่าตู่หลงกับซือหยู แต่ในท้ายสุดพวกซือหยูก็หนีรอดมาได้อย่างโชคดี

 

ในตอนนั้น ซือหยูคือมดปลวกต่อหน้าเขา ซือหยูต่อต้านเขาไม่ได้เลย ซือหยูที่หนีรอดออกไปได้นั้นนับว่าโชคดีเป็นอย่างมาก

 

ซือหยูเข้าใจแรงจูงใจของเขาแล้ว เขาต้องการใช้โจรสลัดวารีทมิฬในการขุดซากใต้เขตหยินหยูและหาสิ่งที่เรียกว่า “ประตู!” หรือ “กุญแจ!” จากที่ซือหยูรู้ “ประตู” นั้นคือเป้าหมายของกลุ่มชายในหมวกไผ่ลึกลับ

 

และเบื้องหลังชายในหมวกไผ่พวกนั้นยังเป็นคนที่ไร้ผู้ต่อกรที่เทียบได้กับราชาแห่งความมืด! พวกนั้นคือเก้าศักดิ์สิทธิ์! หัวหน้าของโจรสลัดวารีทมิฬคือคนของเก้าศักดิ์สิทธิ์! และมันก็คือเฉินคง! เขาคือทรราชย์แห่งอาณาจักรทมิฬ!

 

“ดูเหมือนเจ้าจะจำข้าได้นะ!”

 

แววตาเฉินคงเต็มไปด้วยจิตสังหาร!

 

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฉินคงถึงอยากฆ่าซือหยูนัก! และไม่แปลกใจเลยที่เขาส่งคนเข้ามายั่วยุซือหยู!

 

ทุกอย่างชัดเจนแล้วในตอนนี้ เฉินคงคือหัวหน้าที่กำลังมองหาประตูลึกลับ ในสายตาเขา สมบัติใต้ดินนั้นถูกซือหยูเอาไปแล้ว และ “ประตู” นั้นก็อยู่ในมือซือหยูเช่นกัน นั่นคือเหตุผลแท้จริงที่เขาอยากสังหารซือหยู

 

“เจ้ารู้แล้วสินะว่าทำไมเจ้าถึงรอดออกไปไม่ได้!”

 

เฉินคงเต็มไปด้วยจิตสังหารที่พุ่งออกไปยังซือหยู!

 

จ้าววิหคเพลิงชักสีหน้า แต่นางก็อยู่ไกลจากซือหยู นางจะช่วยซือหยูทันได้อย่างไร?

 

ซือหยูเหนื่อยอ่อนอย่างมาก เขาไม่มีพลังวิญญาณหลงเหลือ เขาจะสู้กับเฉินคงที่ยังอยู่ในสภาพเต็มร้อยได้อย่างไร?

 

เขาแพ้แล้ว! เขาแพ้ในการประลองครั้งใหญ่และยังต้องตาย! เขาเสียเซี่ยนเอ๋อไปเช่นกัน…

 

เขามองที่นั่งเมฆาหิมะตรงหน้า เซี่ยนเอ๋อที่เขาตามหาข้ามน้ำข้ามทะเลนั่งอยู่ในนั้นโดยที่เขายังไม่ได้เห็นหน้า

 

เดิมที ทั้งสองมีเรื่องเข้าใจผิดกันที่เทือกเขารัตติกาล ต่อมาพวกเขาก็เจอกันในงานแต่งงาน ต่อมาก็เรื่องในตำหนักดยุคเซี่ยนหยู ต่อมาพวกเขาก็เจอกันอีกครั้งที่หุบเขาเฟิงหวง สุดท้ายพวกเขาก็แยกจากเขตเซี่ยนหยู

 

เขาเคยคิดว่าหากได้เจอกันครั้งนี้ เขาจะต้องพานางหนีไปยังที่อันห่างไกล เขาคิดว่าหลังจากเรื่องนี้จบลง พวกเขาจะไม่มีวันต้องแยกจากกันอีก เขาเคยคิดว่าครั้งนี้เขาจะสัญญาที่จะมอบอนาคตของเซี่ยนเอ๋อไว้ได้

 

แต่ในความจริงแล้วเซี่ยนเอ๋อกลับไปหลงรักกับคนอื่น!

 

และก่อนที่ซือหยูจะตาย นางยังไม่คิดจะออกมาให้เขาเจอหน้า นางเต็มใจที่จะแต่งงานกับเฉินคงเท่านั้น—แต่งงานกับคนที่อยากจะฆ่าซือหยู!

 

ทั้งหมดมันเพื่อสิ่งใดกัน? ทั้งหมดตั้งแต่ที่เขาไล่ตามนางจากเกาะเฉินยี่ตลอดจนถึงทวีปเฉินคง ตั้งแต่สำนักหลิวเซี่ยนจนมาถึงร้อยดินแดน จากอาณาจักรทมิฬมาจนถึงทวีปตอนเหนือ เขาเพิ่มพลังทีละก้าวตลอดมาเช่นกัน ทั้งหมดมันเพื่อสิ่งใดกัน?

 

เขาเพียงหวังจะได้อยู่เหนือโชคชะตาของตัวเองและใช้ชีวิตกับเซี่ยนเอ๋อโดยที่ไม่มีใครมาขัดขวาง! แต่ความจริงโหดร้ายนัก! เขาจะต้องตายด้วยมือเฉินคง และเซี่ยนเอ๋อจะไปอยู่ในอ้อมแขนของเฉินคง!

 

ความไม่พอใจและความโศกเศร้าเป็นดังสายลมแห่งความโกรธแค้น ทำไมกัน? เขาพยายามอย่างหนัก ดิ้นรนอย่างหนัก และต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มี แต่พระเจ้าก็ยังมอบชะตาเช่นนี้ให้กับเขา! สตรีอันเป็นที่รักตกไปอยู่ในอ้อมแขนชายอื่น ส่วนเขากำลังจะตายต่อหน้านาง และก่อนที่เขาจะตาย เขายังไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้พบหน้านางด้วยซ้ำ!

 

ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความหวังอันว่างเปล่าต่อหน้าโชคชะตา! พระเจ้าเล่นตลกกับเขาอย่างไม่เป็นธรรม!

 

ทำไมชะตาจะต้องส่งพันธนาการมาดึงรั้งเขาอย่างยากลำบากเสียทุกครั้ง ทำไมชะตาจะต้องทำให้เขาต้องโศกเศร้าไปตลอด? ตลอดชีวิตนี้ในโลกใบนี้ผ่านมาเพียงสามปี แต่ทุกโชคชะตาที่พบกลับมีเพียงความไม่เป็นธรรม เขาถูกปั่นหัวในทุกช่วงเวลา

 

เพลิงพิโรธแผดเผาในอกของซือหยู มันรู้สึกราวกับจะแผดเผาพันธนาการอันไม่เป็นธรรม โชคชะตาอันไม่เป็นธรรม และสวรรค์อันไร้คุณธรรมให้กลายเป็นเถ้าถ่าน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด