The Divine Nine Dragon Cauldron 425

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 425 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นางคว้ามือจากกลางอากาศ แก้วพลังชีวิตที่อยู่ข้างจุดกำเนิดพลังของซือหยูถูกดึงกลับมา มันถูกดึงกลับมาพร้อมกับตัวซือหยูเอง เขาหลุดออกจากผลของเหรียญก้นบึ้งมังกรเก้านรก!

 

ซือหยูตกตะลึง วิธีการของพวกขอบเขตภูติเป็นสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายของเขา!

 

เขาหัวใจเต้นแรง ถ้าเขาถูกจางตี๋เก้อรั้งไว้ให้อยู่ที่นี่ เขาก็รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น! และเมื่อเห็นแววตาเยือกเย็นของจางตี๋เก้อก็ยิ่งทำให้เขาตัวสั่น

 

แต่ในตอนนั้นเอง เหนือเวทย์พันธนาการ เสียงหัวเราะประหลาดของชายแก่ดังขึ้น

 

“น่าสนใจดีนี่ ข้าเตรียมจะดูการแสดงดีๆ แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเด็กสองคนนี้จะหลอกเจ้าได้”

 

เขาพูดจบและเอื้อมมือทั้งสองข้างออกไป

 

ทั้งสองมือส่งแสงมรกตส่องผ่านผนึกปิดก้นบึ้ง แสงนั้นสาดใส่ซือหยูกับเซี่ยจิงหยูและดึงเอาทั้งคู่ออกจากก้นบึ้ง!

 

จางตี๋เก้อโกรธแค้น

 

“เจ้าจะไปไหน?”

 

ชายแก่เป่าลมไปทางใต้ผนึก แสงกระบี่ที่เอียงไปอีกด้านเปลี่ยนมุมเข้าใส่จางตี๋เก้อ

 

จางตี๋เก้อตกใจ หลังจากที่คำรามอย่างโกรธแค้น ทั้งร่างของนางโอบล้อมด้วยพลังภูติ พลังภูตินั้นได้กลายเป็นชุดเกราะทมิฬ

 

การโจมตีจากกระบี่ทำให้ชุดเกราะเกิดสะเก็ดไฟ ส่วนจางตี๋เก้อเองนั้นก็ใส่พลังชีวิตลงในชุดเกราะอย่างบ้าคลั่ง! ชุดเกราะของนางอดทนรับกระบี่ได้สามอึดใจก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

จางตี๋เก้อกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด คราบโลหิตดำทิ้งอยู่บนลำตัว นางกระเด็นลอยออกไป นางหน้าซีด พลังภูติในกายเริ่มอ่อนลง แสงเทพในดวงตาอ่อนแอลงไป ทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยสายฟ้า สายฟ้าทำลายร่างของนางจนบาดเจ็บหนัก!

 

ร่างนางตกลงสู่ความมืดมิด สายตาอันเฉียบคมจับจ้องไปยังซือหยูอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความชิงชังไร้ขอบเขต ซือหยูใช้แก้วพลังชีวิตของนางกับกระบี่สายฟ้าที่นางชิงมากับมือทำร้ายนางในท้ายสุด!

 

ตั้งแต่ต้นจนจบ ซือหยูหลอกนางจนหมดคราบ ความชิงชังของจางตี๋เก้อหยั่งรากลึกไปถึงกระดูกดำ! แผนครั้งใหญ่ในการหลบหนีที่นางเตรียมมากว่าพันปีพังทลายลงไปเพราะซือหยู

 

ซือหยูที่ถูกจ้องโดยสายตาคู่นั้นสั่นไปถึงกระดูก แต่ก็อย่างที่คาดไว้ จางตี๋เก้อจะติดอยู่ในก้นบึ้งมังกรไปตลอดกาล เขาไม่ต้องกังวลเรื่องของนางมากนัก

 

เมื่อเห็นทั้งสองออกมาได้อย่างปลอดภัย ผนึกเริ่มฟื้นฟูตัวเอง ซือหยูถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ตลอดหลายวันที่เขาทำตามคำสั่งนางนั้นต่างอยู่ในความเป็นความตาย สุดท้ายเขาก็ได้พบเจอกับแสงสว่างอีกครั้ง และความหนักอึ้งก็ถูกยกออกไปจากอก

 

ในตอนนั้น เสียงหัวเราะของชายแก่หยุดลง เขาก้มลงมองก้นบึ้งมังกรเบื้องล่างอย่างเคร่งเครียด

 

ซือหยูสัมผัสได้ถึงพลังอสูรจากก้นบึ้งมังกรที่ทะยานขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน!

 

โฮก—

 

เสียงมังกรคำรามลั่นจักรวาล ก้นบึ้งมังกรสั่นอย่างรุนแรง! คลื่นสมุทรรอบเกาะซัดใส่ฝั่งอย่างแรง! ทั้งทวีปเฉินหลงได้ยินเสียงมังกรคำรามนี้ มันทะลวงเมฆาไปถึงนภา!

 

ปั้ง—

 

ในก้นบึ้งใังกร หมอกเคลื่อนผ่านพื้นที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว ในบ่อน้ำทมิฬ หางยักษ์ที่เต็มไปด้วยเกล็ดฟาดใส่ขอบนภาอย่างดุร้าย ผนึกของก้นบึ้งมังกรขาดออกจากกัน!

 

ร่างบอบบางร่างหนึ่งพุ่งออกจากก้นบึ้งมังกรจากผลของพลังอันน่าตกตะลึงและออกมายังโลกภายนอก! จางตี๋เก้อตกใจในครั้งแรก จากนั้นจึงดีใจ! ทั้งสองมือของนางทำท่าทางประหลาด ร่างของนางเลือนลางหายไปและปรากฏตัวอีกครั้งในพันศอกห่างจากชายแก่ที่จะซัดฝ่ามือใส่นางในจุดเดิม

 

ฝ่ามือของชายแก่ซัดใส่อากาศอันว่างเปล่า สีหน้าของเขาหม่นหมอง

 

“เจ้าผีน้อย อย่ารนหาที่ตายให้มากนัก!”

 

ในก้นบึ้งมังกร ไม่มีใครทำอะไรนางได้ แต่หากหนีออกมาข้างนอก ยอดฝีมือในทวีปเฉินหลงที่อยู่ในขอบเขตภูติคงไม่ปล่อยให้ภูติสวรรค์ลอยนวลอยู่ในทวีปแน่

 

จางตี๋เก้อพูดอย่างเยือกเย็น

 

“ขอบคุณพวกเจ้าทุกคน ข้าถูกจองจำมาไม่รู้กี่ยุคสมัย ข้าจะชำระหนี้แค้นกับเจ้าในคราอื่น!”

 

ร่างของนางเลือนลางหายไป แต่ก่อนหน้านั้น นางหันมองซือหยูอย่างชั่วร้าย

 

“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ…ข้าจะจำชื่อของเจ้าเอาไว้ ในทวีปเฉินหลงแห่งนี้ ใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้!”

 

นางหายไปพร้อมกับเสียงที่ดังก้องจักรวาล จางตี๋เก้อหนีออกมาด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส

 

ชายแก่าที่เมาเหล้าสีหน้าหม่นหมองลง แม้ว่าเขาอยากจะไล่ตามนาง ก้นบึ้งมังกรนั้นก็คือเรื่องสำคัญกว่า! เขากัดปลายลิ้นคายโลหิตผนึกทางเข้าออกก้นบึ้งมังกร ผนึกฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งด้วยความเร็วสูง ไม่นานมันก็กลับมาสมบูรณ์

 

ชายแก่จ้องมองก้นบึ้งมังกรอันลึกล้ำ สายตาของเขาหม่นหมองลงไปอีก นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองไปยังกระบี่สายฟ้าในมือซือหยูและถอนหายใจออกมา

 

“พลังเนตรเวทย์หายไปแล้วจริงๆ…”

 

“เลวร้ายนัก”

 

เนตรเวทย์รึ? ซือหยูตกใจ เขามองกระบี่สายฟ้าอย่างสับสน

 

“ก้นบึ้งมังกรคือรอยแยกของโลกแห่งทวีปเฉินหลง…”

 

“แต่เดิม มันคือหนทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง! หลายยุคก่อน มันคือเส้นทางที่ผู้คนจากทวีปเฉินหลงใช้เดินทางไปยังโลกนั้น แต่มันก็ดำเนินไปจนเกิดภัยร้ายขึ้นในอดีต ในตอนที่มังกรอสูรยึดเอาเส้นทางเอาไว้เอง! เพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้มังกรอสูรเข้ามายังทวีปเฉินหลง มีภูติสามคนรวมถึงข้าที่สร้างกระบี่สายฟ้าและรวบรวมพลังชีวิตจากจักรวาลสร้างเนตรเวทย์เพื่อผนึกทางเข้าออก และตอนนี้พลังนั้นก็หายไปแล้ว มังกรอสูรขยับตัวได้อยู่บ้าง เมื่อครู่ผนึกก็ถูกมังกรพังออกไป”

 

ซือหยูตกใจ ก้นบึ้งมังกรเก้านรกเคยเป็นเส้นทางที่เชื่อมสองโลกเข้าด้วยกันงั้นรึ? เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย

 

เมื่อคิดถึงบ่อผนึกมังกรที่กว้างแสนศอกและกรงเล็บยักษ์ที่ทิ้งรอยเอาไว้ ซือหยูก็พอจะคาดเดาได้ เพราะนั่นอาจจะเป็นรอยแยกที่เป็นเส้นทางสู่โลกอีกใบ!

 

“ร่างของมังกรอสูรนั้นใหญ่เกินไป…”

 

“ตามปกติ มันไม่ควรจะลอดรอยแยกออกมาได้ แต่หลังจากหลายปีผ่านไป ภายในก้นบึ้งก็ค่อยๆเกิดรอยแยกเล็กๆ บ่อน้ำสีดำนั่นก็คือหนึ่งในรอยแยกนั้น บางส่วนของร่างกายมันถึงมองเห็นได้ผ่านรอยแยกเล็กๆนั่น!”

 

ชายแก่สีหน้าไม่สู้ดีนัก

 

“ก้นบึ้งมังกรจะให้ใครเข้าไปไม่ได้อีกแล้ว ที่นี่กลายเป็นที่หวงห้ามแล้ว”

 

ซือหยูกำกระบี่สายฟ้าและเริ่มคิด เขาควรจะคืนกระบี่สายฟ้าหรือไม่นะ? ชายแก่ไม่มีเหตุผลจะให้ซือหยูต้องเก็บสมบัติเช่นนี้เอาไว้กับตัวอยู่แล้ว สิ่งนี้ใกล้เคียงกับสมบัติวิญญาณอย่างมาก!

 

“เอาล่ะ…”

 

ชายแก่พูดต่อ

 

“เจ้าไม่มีสิทธิ์จะถือครองกระบี่เล่มนี้ คืนมันมาซะ”

 

ชายแก่ยกนิ้วและเรียกกระบี่สายฟ้ากลับคิด กระบี่นั้นลอยไปหาเขาอย่างควบคุมไม่ได้

 

“แล้วก็….ถ้าเจ้ามีเรื่องอื่นใดต้องทำก็ทำโดยเร็ว ที่นี่อาจจะกลับมาอันตรายอีกครั้ง”

 

ซือหยูครุ่นคิดอยู่นาน

 

“ท่านผู้เฒ่า…”

 

“ท่านจะให้ข้ายืมกระบี่เพื่อปกป้องตัวเองสักระยะจะได้หรือไม่?”

 

“หืม?”

 

ชายแก่ส่งเสียงด้วยความตกใจ แต่เขาก็รู้ความตั้งใจของซือหยู ซือหยูอยากจะใช้มันเพื่อป้องกันตัวจากภูติสวรรค์ที่มาล้างแค้น! เขาควรจะปฏิเสธซือหยูในทันที แต่น่าประหลาดที่ชายแก่เริ่มคิดถึงอะไรบางอย่าง

 

ผ่านไปนาน เขามองหน้าซือหยู

 

“กระบี่นี้เป็นของจากจิวโจว ระดับของมันเหนือกว่าสมบัติเทพ ตามปกติเจ้าไม่มีสิทธิ์จะได้แตะต้องมัน แต่ถ้าหากเจ้ารับปากกับข้าหนึ่งสิ่ง ข้าจะให้เจ้าได้ถือครองมัน”

 

ซือหยูตกใจแต่ก็คงสีหน้าใจเย็นเอาไว้

 

“ข้าเป็นเพียงเด็กอำมฤตระดับสี่เท่านั้น…”

 

“ข้าไม่รู้ว่าส่วนใดของข้าที่จะคู่ควรกับการที่ท่านจะบอก แต่ถ้าท่านผู้เฒ่ามีเงื่อนไขอะไรก็โปรดว่ามาเถอะ”

 

ชายแก่แสดงสีหน้าชื่นชม

 

“ไม่ต้องย่อมตัวไป ข้าได้ยืนชื่อเสียงของเจ้ามาแล้ว มีไม่กี่คนเท่านั้นที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า เรื่องที่ข้าพูดถึง…เจ้าจะต้องทำได้แน่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด