พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1136 วิวัฒนาการ (1)

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1136 วิวัฒนาการ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>ภายใต้ความร้อนรน เหมียวอี้หันกลับมาถามว่า &#8220;เจ้าแน่ใจนะว่ามันกำลังจะวิวัฒนาการ ไม่ได้ให้กินอะไรผิดไปใช่มั้ย?&#8221;</p>
<p>&#8220;ข้าว่าเจ้าต่างหากที่ไปกินอะไรผิดมา มันจะไปกินอะไรผิดได้ หรือเจ้าคิดว่าข้าให้มันกินของมั่วๆ?&#8221; อวิ๋นจือชิวกลอกตามองบน แล้วบอกว่า &#8220;กินยาเจี๋ยตันมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ทุ่มเงินไปเยอะขนาดนี้ ก็น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างแล้วล่ะ คงมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะวิวัฒนาการ เออใช่ จีเหม่ยลี่เป็นนักพรตปีศาจอยู่แล้ว ฝึกมหาเคล็ดวิชาหมื่นปีศาจ นางคงเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่า&#8221;</p>
<p>&#8220;แล้วทำไม่เรียกจีเหม่ยลี่มาดูล่ะ? ข้าเองก็แทบจะควบคุมไม่ไหวแล้ว พลังของมันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ!&#8221; เหมียวอี้ทั้งโมโหทั้งอยากขำ</p>
<p>&#8220;ควบคุมไม่ไหวงั้นเหรอ! งั้นก็ออกแรงเหมือนตอนที่เจ้าดูดนมสิ ข้าเห็นเจ้าเหนื่อยแล้วข้ามีความสุข&#8221; อวิ๋นจือชิวพูดหยอกล้อ</p>
<p>เชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์เม้มปากกลั้นขำ</p>
<p>เหมียวอี้กัดฟันบอกว่า &#8220;พวกผู้หญิงแสบ เจ้าจงใจวางกับดักข้าใช่มั้ย? ได้! ถึงอย่างไรเจ้าก็นมใหญ่ เดี๋ยวกลับไปก็คอยดูแล้วกันว่าข้าจะออกแรงดูดนมเจ้ายังไง ถึงตอนนั้นอย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!&#8221;</p>
<p>เชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์กลั้นขำแทบแย่แล้ว</p>
<p>&#8220;ลามก!&#8221; อวิ๋นจือชิวมองเหยียด ปากก็ด่าคน แต่มือก็ยังหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อกับจีเหม่ยลี่ จากนั้นก็หันกลับมาสั่งอีกว่า &#8220;เสวี่ยเอ๋อร์ ไปตอนนับหรูฮูหยินท่านนั้นมา&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้าค่ะ!&#8221; เสวี่ยเอ๋อร์เอยรับคำสั่งแล้วออกไป</p>
<p>ส่วนอวิ๋นจือชิวก็ดินมาข้างกายเหมียวอี้ เรียกไม้กระบองมาไว้ในมือด้ามหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับคำพูดลามกของเหมียวอี้ก่อนหน้านี้ นางเคาะขาเหมียวอี้เบาๆ &#8220;หนิวเอ้อร์ ขาเจ้าจะสั่นอะไรนักหนา?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้แยกเขี้ยวด่าว่า &#8220;นางมารร้าย! ข้าแทบจะควบคุมไม่ไหวแล้ว เจ้ายังไม่รีบมาช่วยอีก&#8221;</p>
<p>คำด่าประเภท &#8216;นางมาร&#8217; เขาด่าแค่อวิ๋นจือชิวเท่านั้น ที่สำคัญคือเขาจะด่าอวิ๋นจือชิวอย่างไรก็ได้ อวิ๋นจือชิวจะปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแน่นอน ถ้าไปด่าฉินเวยเวยกับพวกอนุภรรยาแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกนางจะคิดอย่างไร</p>
<p>&#8220;นี่! ยังจะกล้าด่าข้าอีกเหรอ?&#8221; อวิ๋นจือชิวชูไม้กระบองเคาะหน้าผากเหมียวอี้สองครั้งอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นไม้กระบองก็ย้ายไปจ่อหน้าปากเหมียวอี้อีก &#8220;ถ้าด่าอีก เจ้าเชื่อมั้ยว่าข้าจะทำให้ฟันเจ้าร่วง? ข้าสงสัยว่ามือเจ้าจะสั่นทำไม? เป็นชายชาตรี แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ควบคุมไม่ได้เหรอ แล้วเจ้ายังจะไปทำอะไรได้อีก?&#8221; ไม้กระบองเคาะที่แขนเหมียวอี้อีกครั้ง ออกแรงค่อนข้างเยอะ ถือว่าเป็นการตีคนแล้ว</p>
<p>&#8220;พอแล้ว นับว่าเจ้าโหด รีบมาช่วยข้าเร็วๆ!&#8221; เหมียวอี้หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทันที</p>
<p>อวิ๋นจือชิวหลุดขำ &#8220;เจ้าเห็นข้าเป็นอะไร? ใช่คนที่เจ้าคิดจะด่าก็ด่าได้งั้นเหรอ? เอาสิ! เรียกให้เพราะๆ หน่อย เรียกให้ข้าผ่อนคลายแล้ว ไม่แน่ข้าอาจจะไม่ถือสาผู้น้อยอย่างเจ้า&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้า…ช่าง ถือว่าเจ้าโหด! ท่านย่า! ท่านย่าอวิ๋น! เลิกเอาไม้กระบองมาเคาะบนตัวข้าได้มั้ย?&#8221;</p>
<p>&#8220;ท่านย่าเหรอ? ข้าดูแก่ขนาดนั้นรึไง? หนิวเอ้อร์ เจ้ารังเกียจที่ข้าอายุมากกว่าเจ้านี่นา! เชอะ! ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้าคิดแบบนี้!&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้า…สุดที่รัก!&#8221;</p>
<p>ที่จริงอวิ๋นจือชิวแค่อยากจะแกล้งเขาเล่นเฉยๆ แต่พอเห็นเขาแทบจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงได้แสยะยิ้มบอกว่า &#8220;ยังมาพูดลวกๆ อีก!&#8221;</p>
<p>พอเก็บไม้กระบอง ร่ายอิทธิฤทธิ์ยื่นมือไปกดบนตัวเฮยทั่นเช่นกัน เมื่อมีคนออกแรงช่วย สุดท้ายเหมียวอี้ก็โล่งอกแล้ว</p>
<p>อวิ๋นจือชิวเรียกพบด่วน ทางจีเหม่ยลี่ย่อมไม่ชักช้า รีบมาอย่างเร็วไว หลังจากตามเสวี่ยเอ๋อร์เข้ามา นางก็มองดูสภาพในชัยภูมิถ้ำสวรรค์ครู่หนึ่ง แล้วก็จ้องเฮ่ยทั่นที่กำลังถูกเหมียวอี้และฮูหยินควบคุมพลางถามว่า &#8220;นี่มันอะไรกันคะ?&#8221;</p>
<p>&#8220;สัตว์พาหนะเกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ เจ้ามาดูหน่อยว่ามันกำลังจะวิวัฒนาการแล้วรึเปล่า?&#8221; เหมียวอี้ถาม</p>
<p>&#8220;วิวัฒนาการ?&#8221; จีเหม่ยลี่จ้องเฮยทั่นด้วยสายตาประหลาดใจ &#8220;เจ้าบอกว่าอาชามังกรกำลังจะวิวัฒนาการเหรอ?&#8221; คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ แต่นางกลับเข้าใจชัดเจน สัตว์พาหนะที่สามารถวิวัฒนาการได้เป็นสัตว์พาหนะระดับสูงมาก อาชามังกรที่แดนฝึกตนมีมากขนาดนั้น ถ้ามันสามารถวิวัฒนาการได้ ก็นับว่าล้ำค่าหายากเหมือนขนหงส์และเขากิเลนจริงๆ</p>
<p>&#8220;ถ้ารู้คงไม่เรียกเจ้ามาหรอก ข้าเรียกเจ้ามาดูไม่ใช่หรือไม่?&#8221; เหมียวอี้ถาม</p>
<p>จีเหม่ยลี่ก็ไม่เคยเห็นเรื่องวิวัฒนาการมาก่อนเหมือนกัน ไม่มีประสบการณ์อะไรทั้งนั้น ขณะที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเฮยทั่น จู่ๆ ก็พลิกฝ่ามือ ปราณปีศาจที่เข้มข้นกลุ่มหนึ่งถูกตบออกมาจากฝ่ามือ ปราณปีศาจกรอกเข้าไปในรูจมูกของเฮยทั่นแล้ว</p>
<p>ผ่านไปครู่เดียวก็โบกมือเก็บ เก็บปราณปีศาจในร่างกายเฮยทั่นกลับมา แล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า &#8220;สงสัยอาชามังกรตัวนี้จะเป็นอาชามังกรประเภทสายเลือดตื่นรู้ตามที่ตำนานบอกไว้จริงๆ โครงสร้างในร่างกายมันกำลังเปลี่ยนใหม่อย่างรวดเร็วภายใต้พลังงานมหาศาล มีเค้าลางที่จะวิวัฒนาการจริงๆ หาอาชามังกรตัวนี้มาจากไหนเหรอ?&#8221;</p>
<p>ถึงแม้นางจะแต่งงานเข้ามาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่รู้เรื่องเฮยทั่น ที่จริงคนที่ไม่รู้เรื่องเฮยทั่นก็มีไม่น้อยเลย</p>
<p>ตอนนี้ไม่มีเวลามาอธิบายมากเท่าไร พลังงานที่กระจายออกจากตัวเฮยทั่นกำลังเพิ่มขึ้นแบบเร็วมาก อวิ๋นจือชิวจึงถามว่า &#8220;วิวัฒนาการต้องทำยังไง?&#8221;</p>
<p>&#8220;ไม่ต้องทำอะไร ในเมื่อโอกาสของมันมาถึงแล้ว ก็ไม่ต้องไปควบคุมมัน ปล่อยให้มันวิวัฒนาการเองก็พอ จะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูที่โชคของมัน แต่ว่า…&#8221; จีเหม่ยลี่มองไปรอบๆ แล้วขมวดคิ้วบอกว่า &#8220;ว่ากันว่าตอนที่สัตว์เทพวิวัฒนาการ อานุภาพของมันน่ากลัวมาก พลังในช่วงเวลานี้น่ากลัวกว่าหลังจากวิวัฒนาการเสร็จแล้วเสียอีก พลังป้องกันของชัยภูมิถ้ำสวรรค์มีขีดจำกัด เกรงว่าจะทนให้มันรังแกไม่ไหว ถ้าบุกออกไปที่ตลาดสวรรค์ก็จะยุ่งยากแล้ว&#8221;</p>
<p>มีใครไม่รู้บ้างว่าบุกไปที่ตลาดสวรรค์แล้วจะเกิดปัญหายุ่งยาก อวิ๋นจือชิวหันกลับมาบอกว่า &#8220;เชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์ ปิดร้านเลย บอกพนักงานทั้งหมดให้มาที่นี่ มาคุมมันให้ได้ก่อนพามันไปไกลๆ หน่อย&#8221;</p>
<p>&#8220;ช้าก่อน!&#8221; เหมียวอี้ส่งเสียงห้าม ในเมื่อแน่ใจแล้วว่ากำลังจะวิวัฒนาการ แบบนั้นก็จัดการง่ายแล้ว จู่ๆ เขาก็ใช้มือข้างที่ว่างโบกเรียกตั๊กแตนที่ร่างกายใหญ่กำยำเหมือนวัวให้บินออกมา ท่ามกลางลมที่ถูกกระพือขึ้นมา ขาที่เหมือนเคียวเกี่ยวข้าวก็จิ้มบนก้นเฮยทั่น</p>
<p>ในภาพความทรงจำของเขา เฮยทั่นเหมือนจะกลัวตั๊กแตนที่สุด</p>
<p>ผ่านไปไม่นาน เริ่มจากบนก้นของเฮยทั่น น้ำค้างขาวหนึ่งชั้นลุกลามไปทั่วตัวของเฮยทั่นอย่างรวดเร็ว และไม่นานทั้งตัวมันก็ถูกครอบด้วยน้ำแข็งแล้ว ราวกับถูกแช่แข็ง มันยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน</p>
<p>เหมียวอี้กับอวิ๋นจือชิวปล่อยมือและถอนหายใจออกมาพร้อมกัน แต่จีเหม่ยลี่กลับจ้องตั๊กแตนที่กระพือปีกอยู่กลางอากาศตาปริบๆ</p>
<p>เหมียวอี้เก็บตั๊กแตนแล้ว และนำเฮยทั่นเก็บเข้ากระเป๋าสัตว์ทันที บอกอวิ๋นจือชิวว่า&#8221;ข้าจะออกไปหาสถานที่นอกเมือง&#8221;</p>
<p>&#8220;เก็บข้าใส่กระเป๋าสัตว์ไปด้วย  ข้าจะไปคอยดูมันอยู่ข้างใน&#8221; อวิ๋นจือชิวบอก</p>
<p>ใครจะคิดว่าจีเหม่ยลี่จะกล่าวว่า &#8220;ข้ายังไม่เคยเห็นสัตว์เทพวิวัฒนาการมาก่อน พาข้าไปดูด้วยเถอะ&#8221;</p>
<p>เมื่อคิดว่าพานางไปด้วยอาจจะยังช่วยอะไรได้บ้า เหมียวอี้ก็ไม่บ่นอะไรแล้ว เก็บทั้งสองเข้าไปโดยตรง กำชับเชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์ให้เฝ้าบ้าน แล้วออกจากชัยภูมิถ้ำสวรรค์ไปอย่างรวดเร็ว กลับมาที่จวนผู้บัญชาการผ่านทางใต้ดิน แล้วก็ออกจากจวนผู้บัญชาการอีก ก่อนจะเหาะผ่านประตูเมืองออกไปโดยตรง ทหารยามจะขวางเขาได้อย่างไร</p>
<p>หลังจากออกจากเมืองก็เหาะด้วยความเร็วสูง</p>
<p>ทว่าอวิ๋นจือชิวและจีเหม่ยลี่ที่อยู่ในกระเป๋าสัตว์กลับตกใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน น้ำแข็งที่เกาะบนตัวเฮยทั่นมีเสียงกรอบแกรบเล็กน้อย นอกจากน้ำแข็งที่ครอบตัวจะเกิดเป็นรอยแยกแล้ว ยังมีสภาพเหมือนจะละลายด้วย</p>
<p>ทั้งสองยื่นมือไปลูบเฮยทั่นพร้อมกันโดยจิตใต้สำนึก ผลก็คือพบว่าอุณหภูมิร่างกายของเฮยทั่นสูงขึ้นเยอะมาก</p>
<p>อวิ๋นจือชิวร่ายอิทธิฤทธิ์ตะโกนเรียกทันที &#8220;หนิวเอ้อร์ หนิวเอ้อร์!&#8221;</p>
<p>พอสิ้นเสียง ก็ถูกเหมียวอี้เรียกออกมา เมื่อนางเล่าถึงสถานการณ์ข้างใน เหมียวอี้ก็นำกระเป๋าสัตว์ให้นางทันที แล้วตัวเองก็เข้าไปข้างในแทน</p>
<p>เมื่อเข้ามาข้างใน ก็พบว่าน้ำแข็งบนตัวเฮยทั่นละลายไปแล้วพอสมควร เฮยทั่นเริ่มขยับอีกครั้ง จีเหม่ยลี่กำลังพยายามร่ายอิทธิฤทธิ์ควบคุมเฮยทั่นอย่างสุดชีวิต</p>
<p>เหมียวอี้จึงเรียกตั๊กแตนออกมาเสียเลย ใช้ขาที่เหมือน &#8216;เคียวเกี่ยวข้าว&#8217; จิ้มไปอีก จึงเห็นน้ำแข็งปกคลุมทั้งตัวเฮยทั่นอีกครั้ง ควบคุมเฮยทั่นให้สงบลงได้แล้ว</p>
<p>เหมียวอี้กับจีเหม่ยลี่มองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วถอนหายใจพร้อมกัน</p>
<p>ทว่าครั้งนี้ประสิทธิภาพของน้ำแข็งแย่ลงเยอะมาก ทั้งสองยังผ่อนคลายได้ไม่เท่าไร น้ำแข็งก็ละลายอย่างรวดเร็ว</p>
<p>ดังนั้นตั๊กแตนจึงใช้ขาจิ้มลงไปอีก ทำให้ควบคุมเฮยทั่นไว้ได้อีกครั้ง</p>
<p>แต่อุณหภูมิร่างกายของเฮยทั่นยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วในการกำจัดปราณหยินก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน</p>
<p>สุดท้าย ตั๊กแตนก็ทำได้เพียงใช้ขาของตัวเองเสียบไว้บนตัวเฮยทั่นโดยไม่ขยับไปไหนแล้ว</p>
<p>ก่อนหน้านี้เหมียวอี้ยังกลัวว่าทำแบบนี้นานไปจะทำให้เฮยทั่นบาดเจ็บ พอดูจากตอนนี้ก็คิดว่าคงต้องทำแบบนี้เท่านั้น</p>
<p>แต่ทำแบบนี้ต่อไปก็คงไว้ไม่ได้นานเท่าไร ต่อให้ปราณหยินบนตัวตั๊กแตนจะกรอกเข้าร่างกายของเฮยทั่นไม่หยุด แต่เปลือกน้ำแข็งที่ครอบอยู่บนตัวเฮยทั่นก็ยังละลายหายไปไม่หยุด</p>
<p>ดังนั้นเหมียวอี้จึงเรียกตั๊กแตนอีกสี่ตัวออกมาพร้อมกันเสียเลย ตั๊กแตนห้าตัวลงมือพร้อมกัน สุดท้ายก็พอถูไถควบคุมเฮยทั่นไว้ได้</p>
<p>ทว่าหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวเดียว ต่อให้ทำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วเหมือนกัน อุณหภูมิร่างกายเฮยทั่นร้อนจี๋ยิ่งกว่าเตาไฟ เหมือนกับหินหนืดในภูเขาไฟจริงๆ ราวกับจะหลอมสร้างเฮยทั่นขึ้นมาใหม่ เหมียวอี้กับจีเหม่ยลี่คลำจนลวกมือ ปราณหยินของตั๊กแตนห้าตัวไม่มีทางเข้าร่างกายของเฮยทั่นได้เลย พอใกล้จะเข้าก็ถูกอุณหภูมิร่างกายของเฮยทั่นทำให้ละลายไปหมด</p>
<p>เฮยทั่นเริ่มดิ้นรนอย่างรุนแรง เหมือนเป็นบ้าไปแล้ว</p>
<p>เฮยทั่นที่มาถึงขั้นนี้แล้ว พลังเยอะจนน่าตกใจ เหมียวอี้กับจีเหม่ยลี่จะควบคุมได้อย่างไรกัน</p>
<p>เหมียวอี้ร่ายอิทธิฤทธิ์ตะโกนเสียงดัง &#8220;อวิ๋นจือชิว ไม่ไหวแล้ว ปล่อยพวกเราออกไป!&#8221;</p>
<p>กระเป๋าสัตว์ที่สั่นอย่างรุนแรง อวิ๋นจือชิวร่ายอิทธิฤทธิ์ตรวจเห็นแล้ว นางจึงโบกมือเรียกพวกเหมียวอี้ออกมา</p>
<p>พอเห็นแสงสว่าง เฮยทั่นก็ตาแดงก่ำในชั่วพริบตาเดียว แม้แต่แรงควบคุมตัวเองครั้งสุดท้ายก็ไม่มีแล้ว</p>
<p>&#8220;ฮี้ๆๆ…&#8221; เสียงม้าร้องดังแสบแก้วหูอยู่กลางอากาศ เฮยทั่นทะยานเกลือกกลิ้งอุตลุตอยู่บนฟ้า เหมือนอยากจะฝ่าอุปสรรคทุกอย่าง ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้นแล้ว!</p>
<p>เหมียวอี้ อวิ๋นจือชิวและจีเหม่ยลี่ตกใจทันที รีบถลันตัวหลบเฮยทั่นที่ดีดเท้ากระโดดไปทั่ว</p>
<p>เหมียวอี้กับอวิ๋นจือชิวยังดีหน่อย แต่จีเหม่ยลี่กลับตกตะลึงพรึงเพริดแล้วจริงๆ พอไม่ระวังก็แทบจะตกหลุมพราง ไม่น่าเชื่อว่าอาชามังกรตัวนี้จะเตะด้านข้างได้!</p>
<p>ทั้งสามได้แต่มองดูเฮยทั่นตกลงมาจากฟ้าสูง</p>
<p>เหมียวอี้กางแขนสองข้าง เหาะถอยหลังลงข้างล่าง ไล่ตามเฮยทั่นลงไป จากนั้นก็ขยุ้มมือกลางอากาศ อยากจะร่ายอิทธิฤทธิ์ดูดเฮยทั่นเอาไว้ มันจะได้ไม่ตกลงจากที่สูงแล้วบาดเจ็บ</p>
<p>แต่ก็ทำได้เพียงถ่วงความเร็วของเฮยทั่นที่กำลังตกลงมาได้นิดหน่อยเท่านั้น เฮยทั่นในตอนนี้มีพลังมากจนน่าหวาดกลัว มันอาศัยกำลังอันป่าเถื่อนดิ้นรนจนหลุดพ้นจากพลังอิทธิฤทธิ์ของเหมียวอี้ได้ เหมียวอี้ลงมือถ่วงความเร็วอีกหลายครั้งติดต่อกัน แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ พลังอิทธิฤทธิ์ที่ปล่อยออกมาควบคุมการขัดขืนของเฮยทั่นไม่ได้เลย</p>
<p>เหมียวอี้สะบัดแขนเสื้อสองข้างอีกครั้งเสียงดังพรึ่บ เขาพุ่งไปที่ด้านล่างของเฮยทั่น ร่ายอิทธิฤทธิ์โจมตีขึ้นไปหาเฮยทั่นที่กำลังตกลงมาซ้ำๆ อาศัยแรงสะเทือนของพลังอิทธิฤทธิ์ที่โจมตีถ่วงความเร็วของเฮยทั่นที่ตกลงมา แล้วก็ได้ผลอย่างที่คาดไว้จริงๆ</p>
<p>จีเหม่ยลี่ที่เหาะถอยหลังตามลงมาแววตาวูบไหว นางรู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง จากสีหน้าและการกระทำของเหมียวอี้ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหมียวอี้เหมือนจะมีความผูกพันกับอาชามังกรตัวนี้มาก เหมือนไม่อยากให้มันได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย กำลังพยายามปกป้องอาชามังกรตัวนี้อย่างสุดกำลัง</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด