พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1197 เจ้าเวรที่ทำให้ปวดหัว

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1197 เจ้าเวรที่ทำให้ปวดหัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>พอได้ยินเสียงนี้ ยังไม่ทันจะได้เห็นตัว เหมียวอี้ก็เริ่มปวดหัวแล้ว อย่าบอกนะว่าเจ้าเวรนั่นมาแล้ว?</p>
<p>เดาถูกแล้ว ผู้ที่มาคือเซี่ยโห้วหลงเฉิง!</p>
<p>ที่นี่คนเบียดกันเต็ม เซี่ยโห้วหลงเฉิงนำกลุ่มคนเหาะเบียดเข้ามาอย่างไม่สนใจใยดี แขนใหญ่ผลักคนออกไปสองฝั่ง บังเอิญเจอกับจ้านหรูอี้ที่โดนคนข้างนอกอุดไว้จนแทบจะออกไปไม่ได้พอดี พอเจอหน้ากันก็พูดหยอกล้อ เห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายเป็นคนรู้จักกันมานานแล้ว</p>
<p>เห็นได้ชัดว่าจ้านหรูอี้ไม่อยากสนใจเขา จึงอาศัยช่องว่างตอนกลุ่มคนแยกออกจากกันถลันตัวเหาะออกไป</p>
<p>&#8220;จ้านคนสวย ไปดีๆ นะ ส่งตรงนี้!&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงโบกมือไปบนฟ้าอย่างร่าเริง พอหันกลับมาก็โบกแขนสองข้างอย่างเผด็จการมาก ผลักคนที่ขวางทางให้ออกไป บุกเข้าไปใต้เพลิงแล้วพลางกวาดมองทุกคนของจวนแม่ทัพภาคตงหัวด้วยแววตาที่ดุร้ายเหมือนเสือ ลักษณะท่าทางดูวางอำนาจบาตรใหญ่</p>
<p>ตอนแรกสบตากับปี้เยว่ฮูหยินที่เป็นคนรู้จักเก่า จากนั้นเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็หัวเราะหึหึ แล้วเบนสายตาออกไป ไม่สนใจใยดีอีก</p>
<p>เมื่อเห็นเขาแล้ว ปี้เยว่ฮูหยินก็ปวดหัวเช่นกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังดีหน่อย แต่ตอนนี้ตลาดสวรรค์ถูกแยกจากสังกัดเดิมแล้ว แยกออกมามีระบบของตัวเองและถูกควบคุมอยู่ในมือราชินีสวรรค์เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ควบคุมปี้เยว่โดยตรง แถมเจ้าบ้านี่ก็เป็นหลานชายแท้ๆ ของเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ ตอนนี้นางไม่กล้าไปขัดใจคนของตระกูลเซี่ยโห้ว</p>
<p>แต่พอเอียงหน้ามองโค่วเหวินชิงที่อยู่ข้างกายเหมียวอี้ นางก็โล่งใจอีกครั้ง มีโค่วเหวินชิงอยู่ด้วยนางก็ไม่น่าจะเป็นอะไร</p>
<p>&#8220;หึหึ! หนิวโหย่วเต๋อ เราเจอกันอีกแล้วนะ!&#8221; สายตาของเซี่ยโห้วหลงเฉิงหยุดอยู่บนตัวเหมียวอี้ นำคนแทรกเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์</p>
<p>พอได้เจอเขา เหมียวอี้ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลยจริงๆ ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ถ้ายังคิดจะทำมาหากินอยู่ในระบบของตลาดสวรรค์ ก็ไม่ใช่เรื่องดีหากจะจะไปมีเรื่องกับคนตระกูลเซี่ยโห้ว</p>
<p>ที่เขากังวลแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ในสายตาของคนส่วนใหญ่ ราชินีสวรรค์ก็คือตัวแทนของตระกูลเซี่ยโห้ว</p>
<p>พอเห็นเซี่ยโห้วหลงเฉิงเดินเข้ามา โค่วเหวินชิงก็เตือนก่อนเลยว่า &#8220;เซี่ยโห้วหลงเฉิง ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้นะ อย่ามาก่อเรื่องที่นี่!&#8221;</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงกวาดสายตามองบนเรือนร่างของนาง แล้วถามอย่างต่ำทรามว่า &#8220;หึหึ! โค่วเหวินชิง ทำไมเจ้าเอาแต่ปกป้องมัน ข้าว่าพวกเจ้าสองคนคงได้กันแล้วล่ะมั้ง?&#8221;</p>
<p>โค่วเหวินชิงเดือดดาลทันที ปลดป้ายคำสั่งที่ปรึกษาตรงเอวออกมาโดยตรง แล้วเผยตรงหน้าเซี่ยโห้วหลงเฉิงพร้อมถามว่า &#8220;บังอาจพูดใส่ร้ายที่ปรึกษาของการทดสอบ ควรจะโดนข้อหาอะไรดีล่ะ?&#8221;</p>
<p>ใบหน้ายิ้มของเซี่ยโห้วหลงเฉิงชะงักค้าง มุมปากกระตุกเล็กน้อย เขาเองก็กลัวข้อหานี้เหมือนกัน คนอื่นไม่กล้าแตะต้องเขา แต่ทูตขวาหน้าตายนั่นคงไม่เห็นว่าศีรษะของเขาสำคัญสักเท่าไร จึงไอแห้งๆ แล้วบอกทันทีว่า &#8220;โค่วเหวินชิง เราเป็นคนรู้จักกันมานานแล้ว พูดล้อเล่นกันก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่เหรอ เจ้าวางใจเถอะ ตอนนี้ข้าไม่หาเรื่องเจ้าเวรนี่หรอก เดี๋ยวพอเข้าไปในนรกแล้วข้าค่อยเล่นงานมันให้ตายก็ได้&#8221;</p>
<p>เมือ่เมียบกับจ้านหรูอี้ คำพูดนี้จัดว่าตรงไปตรงมาพอสมควร จริงใจใช้ได้เลย</p>
<p>เพียงแต่เหมียวอี้แปลกใจนิดหน่อย จึงถามว่า &#8220;มีควาย เจ้าก็เข้าร่วมการทดสอบเหมือนกันเหรอ?&#8221; เขานึกว่าเซี่ยโห้วหลงเฉิงจะมาเป็นพวกที่ปรึกษาเสียอีก ถึงอย่างไรครั้งก่อนก็เป็นแบบนี้</p>
<p>&#8220;ว่ะฮ่าๆๆ!&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงเงยหน้าขึ้นฟ้าพลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จ้องเหมียวอี้ด้วยแววตาดุร้ายพร้อมบอกว่า &#8220;ถูกต้องแล้ว! ไอ้แซ่หนิว ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วสินะ? ทั้งบัญชีใหม่ทั้งบัญชีเก่าของพวกเรา ควรจะมาสะสางกันดีๆ ได้แล้ว ข้าอยากจะเห็นว่าครั้งนี้เจ้าจะไปหลบที่ไหนได้!&#8221;</p>
<p>ที่เขามาเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อมาแก้แค้นเหมียวอี้ แต่ที่จริงมาเพื่อเข้าร่วมการทดสอบ เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว เขาหมดความหวังในตระกูลเซี่ยโห้วโดยสิ้นเชิง ไม่มีอนาคตอีกแล้ว จู่ๆ ก็มีการทดสอบโผล่มา แล้วเขาก็มีคุณสมบัติถึงที่จะเข้าร่วมการทดสอบด้วย ย่อมต้องคว้าฟางเส้นสุดท้ายสำหรับช่วยชีวิตเอาไว้อยู่แล้ว จึงรีบมาประสมโรง ตระกูลเซี่ยโห้วไม่ให้คนที่เกี่ยวข้องตระกูลเข้ามาแทรกแซงเรื่องในตลาดสวรรค์ เขาจึงไม่อาศัยเส้นสายของตระกูลเซี่ยโห้ว หาตำแหน่งผู้บัญชาการที่ตลาดสวรรค์ด้วยตัวเองก็น่าจะได้อยู่กระมัง?</p>
<p>ในบรรดาผู้มีอำนาจของตำหนักสวรรค์ คนที่มีสถานการณ์แบบเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็มีไม่น้อยเลย อย่าไปนึกว่าคนในตระกูลของผู้มีอำนาจจะไม่มีใครกล้ามาสู้ตายในนรก เพียงแต่ส่วนใหญ่มาต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีเท่านั้น ถ้าไม่มีตำแหน่งฐานะในตระกูล ทุกคนก็จะมองไม่เห็นความสำคัญ การโดนเมินใส่แบบนั้น การโดนมองข้ามแบบนั้น คนที่ไม่เคยลิ้มลองรสชาติไม่มีทางรู้ว่าทรมานขนาดไหน บางครั้งน่ากลัวยิ่งกว่าตายเสียอีก เพียงแต่ถ้าไม่มีโอกาส ต่อให้เจ้าตายไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสแล้ว คนส่วนใหญ่จึงไม่อยากพลาดไป จาเหรินจวิ้นเป็นตัวแทนของสถานการณ์แบบหนึ่งท่ามกลางผู้มีอำนาจ จ้านหรูอี้ก็เป็นตัวแทนของสถานการณ์แบบหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นลูกหลานของผู้มีอำนาจในตำหนักสวรรค์จึงมาเข้าร่วมการทดสอบไม่น้อยเลย อย่างน้อยการที่พวกได้อาศัยภูมิหลังของตัวเอง ก็ยังทำให้มีโอกาสชนะอยู่บ้าง</p>
<p>พอได้ยินว่าเขาจะเข้าร่วมการทดสอบจริงๆ เหมียวอี้ก็เริ่มปวดหัวแล้ว สัตว์เดรัจฉานอย่างเซี่ยโห้วหลงเฉิง เจ้าจะซ้อมสักยกก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่จะไปฆ่าทิ้งไม่ได้ อย่าว่าแต่เหมียวอี้เลย แม้แต่คนที่มีภูมิหลังแบบโค่วเหวินหลาน ตอนแรกก็ไม่กล้าเล่นงานเซี่ยโห้วหลงเฉิงจนถึงตายเหมือนกัน</p>
<p>ถ้าจะพูดให้ชัดก็คือ ไม่ว่าราชินีสวรรค์จะได้กุมอำนาจหรือไม่ ไม่ว่าราชินีสวรรค์มีไว้ประดับตำแหน่งเฉยๆ หรือไม่ แต่ตราบใดที่ตำแหน่งราชินีสวรรค์ของเซี่ยโห้วเฉิงอวี่ยังอยู่ ชีวิตของคนในตระกูลเซี่ยโห้วก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะกล้ามาเอาไปส่งเดช อย่าลืมนะว่าราชินีสวรรค์เป็นฮูหยินของราชันสวรรค์ ตบหน้าราชินีสวรรค์ก็เท่ากับตบหน้าราชันสวรรค์</p>
<p>เหมียวอี้เองก็เคยได้ยินข่าวลือนี้มาบ้างเหมือนกัน ประมาณว่าราชินีสวรรค์ทำให้อำนาจของตระกูลเซี่ยโห้วเสียหาย แต่ผลประโยชน์ที่ราชินีสวรรค์นำมาให้ตระกูลเซี่ยโห้วก็ประจักษ์ชัดแจ้งเช่นกัน ตระกูลเซี่ยโห้วมีรัศมีอย่างราชินีสวรรค์ห่อหุ้มอยู่หนึ่งชั้น ชีวิตลูกหลานของตระกูลเซี่ยโห้ว นอกจากราชันสวรรค์กับราชินีสวรรค์ก็ไม่มีใครจะกล้าแตะต้องแล้ว</p>
<p>ตระกูลอื่นอาจจะมีช่วงที่รุ่งเรืองและตกต่ำสลับกัน แต่ตราบใดที่ราชินีสวรรค์ยังนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ตระกูลเซี่ยโห้วก็ไม่มีวันล้มลง ใต้หล้านี้จะมีที่ยืนสำหรับตระกูลเซี่ยโห้วตลอดไป นี่ก็เป็นเหตุผลที่ตระกูลเซี่ยโห้วสนับสนุนเซี่ยโห้วเฉิงอวี่อย่างเต็มที่</p>
<p>แต่สำหรับเหมียวอี้ นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่แล้ว เขาไม่อยากฆ่าเซี่ยโห้วหลงเฉิง แต่ประเด็นคือเซี่ยโห้วหลงเฉิงอยากฆ่าเขา เมื่อเจอกับคนหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้ เจ้าจะทำอย่างไรได้ล่ะ?</p>
<p>ตอนให้นอนฝันเหมียวอี้ก็นึกไม่ถึงว่าเจ้าเวรนี่จะมาเข้าร่วมการทดสอบ จึงถามอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกว่า &#8220;มีควาย พวกเราไม่สู้มาเป็นพันธมิตรกันดีกว่ามั้ย?&#8221;</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงยิ้มชั่วร้ายทันที &#8220;อยากจะเป็นพันธมิตรกับข้าเหรอ ได้สิ ใช่ว่าจะไม่ได้…&#8221;</p>
<p>&#8220;แค่กๆ!&#8221; คนที่อยู่ข้างกายเขาเริ่มจะกลัวนิดหน่อย รีบตีที่ข้อศอกของเขา กลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา แอบถ่ายทอดเสียงพึมพำอะไรบางอย่าง</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงสีหน้าเปลี่ยนทันที ถลึงตาคำรามใส่เหมียวอี้ &#8220;ช่างมีความคิดชั่วร้ายนัก บังอาจจะดึงข้าไปซวย&#8230;&#8221;</p>
<p>บนยอดเขาที่สูงที่สุดรอบๆ พื้นแอ่ง เกาก้วนยืนอยู่บนบันไดนอกห้องถ้ำอีกแล้ว กำลังใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์กวาดมองสถานการณ์ในพื้นแอ่ง สายตาไปหยุดอยู่ตรงจุดที่มีกลุ่มคนรวมตัวกันโดยตรง เขาถามเสียงเรียบว่า &#8220;คนพวกนั้นไปร่วมตัวกันทำอะไรตรงนั้น?&#8221;</p>
<p>&#8220;ข้านอยจะไปดูสักหน่อย&#8221; จุยหย่วนที่อยู่ข้างกายตอบ</p>
<p>&#8220;ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ถ้าอยากจะมีเรื่องกันก็รอไปมีในนรก ไม่มีใครยุ่ง ถ้ากล้าก่อเรื่องที่นี่ ฆ่าไม่ละเว้น!&#8221; เกาก้วนกล่าวพร้อมแววตาที่วูบไหว</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221; จุยหย่วนกุมหมัดเอ่ยรับคำสั่ง จากนั้นก็เหาะไปยังจุดที่คนรวมตัวกัน แล้วตะโกนอยู่บนฟ้าทันที &#8220;แยกย้าย!&#8221;</p>
<p>ทุกคนเงยหน้ามอง เมื่อเห็นว่าท่านพ่อบ้านมาแล้ว ก็รีบกระจัดกระจายเหมือนผึ้งแตกรัง</p>
<p>จุยหย่วนเหยียบลงพื้น ใช้สายตาเย็นเยียบกวาดมองในเพิงพักทางซ้ายและขวา &#8220;โค่วเหวินชิง ที่นี่เกิดเรื่องอะไรกันแน่?&#8221;</p>
<p>โค่วเหวินชิงรายงานสถานการณ์ให้ฟังคร่าวๆ ทันที สายตาจุยหย่วนหยุดอยู่บนตัวเหมียวอี้ครู่หนึ่ง เขาพอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว เกรงว่าท่านนี้คงจะมีเคราะห์มากกว่ามีโชค จากนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่บนตัวเซี่ยโห้วหลงเฉิง พร้อมร่ายอิทธิฤทธิ์ตะโกนบอกเสียงดัง &#8220;ท่านผู้คุมสั่งมา ถ้าอยากจะมีเรื่องกันก็ไปมีในนรก ไม่มีใครยุ่ง แต่ถ้ากล้าก่อเรื่องที่นี่ ฆ่าไม่ละเว้น!&#8221; เสียงนี้ดังกังวานอยู่ในพื้นแอ่ง</p>
<p>เมื่อโดนสายตาของเขาจ้อง เซี่ยโห้วหลงเฉิงก็จำเป็นต้องหดคอ ไม่ใช่ว่ากลัวจุยหย่วน แต่กลัวท่านนั้นที่อยู่เบื้องหลังจุยหย่วน ท่านนั้นสามารถฆ่าคนแทนราชันสวรรค์ได้ ภาพที่อิ๋งเหย้าตายตอนนั้นยังคงชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น</p>
<p>หลังจากประกาศคำสั่งแล้ว จุยหย่วนก็ถลันตัวจากไป เมื่อมีคำพูดของเกาก้วนคอยข่ม ที่นี่ก็ไม่มีทางเกิดเรื่อง โค่วเหวินชิงก็ออกไปจากตรงนั้นแล้วเช่นกัน นางไม่สะดวกที่จะเฝ้าอยู่ข้างกายเหมียวอี้ตลอดเวลา</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงไม่กล้าแม้แต่จะผายลม เป็นเพราะทูตขวาตรวจการเกาก้วนมีอิทธิพลมากเกินไป เป็นคนที่ทำให้ผู้มีอำนาจในราชสำนักของตำหนักสวรรค์หนาวสั่นในใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกหลานของู้มีอำนาจพวกนั้นเลย</p>
<p>&#8220;ไป!&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงท่าทางอ่อแอลงจนถึงขีดสุด กำลังจะพาตัวลูกน้องออกไปจากตรงนั้นแล้ว</p>
<p>แต่เหมียวอี้กลับไม่ทำแบบนั้น ถ้าไม่สะสางปัญหากับเจ้าเวรนี่ พอไปถึงนรกจะต้องโดนอีกฝ่ายวางกับดักจนตายแน่นอน ถ้าเจ้าบ้านี่ไล่ตามไม่หยุดขึ้นมา แถมตัวเองก็ไม่กล้าฆ่าเขาอีก ไม่กล้าลงมือเต็มที่แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับคนมากมายที่ต้องการให้ตัวเองตาย แบบนั้นตนต้องตายแน่นอน</p>
<p>&#8220;หมีควาย หยุดเดี๋ยวนี้นะ!&#8221;</p>
<p>หากลังเลไม่เด็ดขาด ภัยพิบัติจะตามมา เหมียวอี้กระโดดขึ้นมาจากไม้กระดานอย่างเด็ดเดี่ยว มาขวางตรงหน้าเซี่ยโห้วหลงเฉิง</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงถูกเขาทำให้ตกใจ กังวลว่าเจ้าบ้านี่จะยอมพังพินาศลงไปพร้อมตน จงใจดึงตนให้โดนเกาก้วนทำโทษด้วยกัน จึงรีบมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นคนคุมการทดสอบ ก็แยกเขี้ยวยิงฟันถามว่า &#8220;หนิวโหย่วเต๋อ เจ้าคิดจะทำอะไร?&#8221;</p>
<p>&#8220;หนีทำไม เจ้ากลัวข้าเหรอ?&#8221; เหมียวอี้เลิกคิ้วถาม</p>
<p>พวกจางฮั่นฟางที่อยู่ในเพิงแอบรู้สึกแปลกใจ พบว่าหลังจากมาถึงที่นี่ เหมือนเหมียวอี้จะกล้าหาญขึ้นเยอะมาก ไม่กลัวแม้แต่คนที่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่กว่าพวกเขา เหมือนเป็นคนละคนกับตอนโดนสร้างความอัปยศที่จวนแม่ทัพภาคตงหัวแล้วไม่กล้าเถียง</p>
<p>&#8220;หนีอะไร? ปู่คนนี้น่ะเหรอจะกลัวเจ้า?&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงถลึงตาถาม</p>
<p>&#8220;ไม่กลัวก็ดีแล้ว กล้ารับคำท้าของข้ามั้ยล่ะ?&#8221; เหมียวอี้ถาม</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงอึ้งไปชั่วขณะ แล้วมองไปรอบๆ ถามอย่างกังวลนิดหน่อยว่า &#8220;คำท้าอะไร!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ตอบว่า &#8220;สู้ตายกับข้าสักตั้ง! เจ้าอยากจะคิดบัญชีกับข้ามาตลอดไม่ใช่เหรอ ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว&#8221;</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงอ้าปากค้างไปครู่หนึ่ง เจ้าอยากจะดึงข้าให้ซวยไปด้วยกันอย่จริงๆ ด้วย! จึงตอบด้วยสีหน้าบูดบึ้ง &#8220;แบบนั้นสมองข้าคงมีปัญหาแล้วล่ะ ถ้าอยู่ที่นี่ ต่อให้เอาชนะเจ้าได้ข้าก็ซวยอยู่ดี ไสหัวไป อย่ามาขวาง&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ยื่นมือขวาง &#8220;ถ้าเจ้ากลัวที่จะสู้ที่นี่ งั้นเราก็นัดสู้กันหลังจากการทดสอบจบแล้วสิ!&#8221;</p>
<p>&#8220;ถุยสิ!&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงรู้สึกอยากขำ &#8220;เจ้าคิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดจนถึงการทดสอบจบเหรอ? พอการทดสอบเริ่มขึ้น ข้าก็จะเล่นงานเจ้าให้ตายแล้ว!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ส่ายหน้า &#8220;หลังจากการทดสอบเริ่มต้น ข้าก็ยุ่งมาก ไม่มีเวลามาสนใจเจ้าหรอก ถ้าไม่สู้ตายกันตอนนี้ ก็รอสู้ตายหลังจากการทดสอบจบ!&#8221;</p>
<p>&#8220;ทำไม?&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงแปลกใจ</p>
<p>ทหารเลวห้าแถบคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ กล่าวกลั้วหัวเราะทันที &#8220;พี่เซี่ยโห้ว เจ้าบ้านี่กลัวว่าเมื่อถึงเวลาท่านกับคนอื่นจะร่วมมือกันเล่นงานจนเขาตาย ตอนนี้จึงอยากกำจัดท่านก่อน พอตัวเองเข้าไปในนรกแล้วจะได้กดดันน้อยลง&#8221;</p>
<p>เซี่ยโห้วหลงเฉิงเข้าใจในทันที จึงยิ้มชั่วร้ายพร้อมบอกว่า &#8220;เจ้าฝันหวานเกินไปจริงๆ!&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้าชื่ออะไร?&#8221; เหมียวอี้พลันชี้ไปยังคนที่เพิ่งพูดแทรก สีหน้าฉายแววมุ่งสังหาร</p>
<p>คนคนนั้นเชิดหน้าเล็กน้อย ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า &#8220;ผู้น้อยต่งอิ้งเกา ทำไม เจ้าอยากจะท้าสู้กับข้ารึไง? ข้าไม่ตกหลุมพรางเจ้าหรอก&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้แสยะยิ้ม &#8220;เจ้าไม่ต้องลดความกดดันให้ข้าหรอก หลังจากไปที่นรกแล้ว เจ้าก็ปล่อยของออกมาเต็มที่ได้เลย&#8221; จากนั้นก็ชี้ไปยังคนอื่นๆ ที่อยู่ทางซ้ายและขวาของเซี่ยโห้วหลงเฉิงอีก &#8220;พวกเจ้าก็ด้วย อย่าหดหัวเชียวนะ เมื่อเข้าไปในนรกแล้ว ถ้าเก่งนักก็เข้ามาเลย มาเท่าไรข้าก็รับไว้เท่านั้น!&#8221;</p>
<p>แล้วก็ชี้ไปที่เซี่ยโห้วหลงเฉิงพร้อมบอกว่า &#8220;คนที่อยากสังหารข้ามีเป็นหมื่นเป็นพัน เจ้าคิดว่าข้าแยแสหมีควายอย่างเจ้าตัวเดียวเหรอ? ข้าแค่รู้สึกว่าความแค้นระหว่างเราไม่เหมือนคนอื่น ระหว่างเราเป็นความแค้นส่วนตัว และการทดสอบครั้งนี้ราชินีสวรรค์ก็เป็นคนจัดขึ้นมา เจ้ารู้สึกว่าการกำจัดศัตรูคู่แค้นส่วนตัวของเซี่ยโห้วหลงเฉิงในการทดสอบที่ราชินีสวรรค์จัดขึ้นนั้นเหมาะสมแล้วเหรอ? หรือว่าเจ้าอยากจะพังงานของราชินีสวรรค์?&#8221;</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด