พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1209 พวกหนูต่ำต้อย

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1209 พวกหนูต่ำต้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>เมื่อนางกล่าวแบบนี้ คนที่อยู่ทางซ้ายและขวาก็ด่าในใจอย่างบ้าคลั่ง เกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากจะส่งนางเข้าหอโคมเขียว</p>
<p>แต่ก็ไม่มีทางเลือก ผู้หญิงคนนี้พูดไม่ผิดเช่นกัน ถ้าโดนท้ายทายแบบนี้แล้วไม่ทำอะไรสักหน่อย กลับไปก็จะแก้ตัวไม่สะดวกแล้วจริงๆ ที่สำคัญก็คือ ถ้าปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับท่านนี้ ต่อไปยังอยากจะทำมาหากินอยู่เปล่า พวกเขาล้วนเป็นคนของอ๋องสวรรค์อิ๋ง สี่อ๋องสวรรค์แห่งตำหนักสวรรค์ อยากจะย้ายไปไหนก็คงย้ายไม่สะดวก</p>
<p>&#8220;ฆ่า!&#8221; ทุกคนโบกอาวุธเรียกกำลังพลข้างหลัง กัดฟันติดตามจ้านหรูอี้ไปสังหาร</p>
<p>ชั่วพริบตาเดียว ทหารสวรรค์ที่ขี่สัตว์เทพสามพันกว่าตัวก็ตะโกนว่าฆ่าพร้อมพุ่งโจมตีออกมา</p>
<p>กำลังพลกลุ่มใหญ่ที่อยู่ข้างหลังเชื่องช้านิดหน่อย รวมตัวกันได้หนึ่งแสนกว่าพุ่งออกไป ความคิดของคนพวกนี้ไม่ซับซ้อนเลย นั่นก็คือข้างหน้ามีสามพันคนร่วมมือกัน อย่าว่าแต่หนิวโหย่วเต๋อคนเดียวเลย ต่อให้เป็นนักพรตบงกชรุ้งก็โดนโจมตีจนหมอบได้เหมือนกัน กลัวก็แต่จะไม่สามัคคีกัน แต่ตอนนี้พร้อมใจกันโจมตี เวลาลงมือขึ้นมาก็เกรงว่าคงจะไม่ถึงคราวของพวกเขา</p>
<p>ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือตามไปประสมโรงเฉยๆ</p>
<p>จ้านหรูอี้ที่ขี่สัตว์เกราะทองคำรามฟ้าหันกลับมามองข้างหลัง ทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเยอะมากทันที</p>
<p>นางกลัวแค่คนพวกนี้จะไม่สามัคคีกันและไม่กล้าออกมาต่อสู้ ตอนนี้มีคนมากมายขนาดนี้ติดตามนางออกรบ คนที่มีของวิเศษติดตัวมีไม่น้อย ถ้าใช้ของวิเศษทุ่มไปพร้อมกัน ต่อให้สู้กับนักพรตบงกชรุ้งพวกนางก็ชนะอยู่ดี จะต้องชนะศึกนี้แน่นอน!</p>
<p>&#8220;ฆ่า!&#8221; ท่ามกลางเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราด เหมียวอี้โบกทวนชี้ออกไป</p>
<p>&#8220;อ๋าว…&#8221; เฮยทั่นพุ่งออกไปอย่างกะทันหัน ไม่มีอะไรขวางกั้นได้</p>
<p>นี่คือการบุกโจมตีของคนหนึ่งคนกับกำลังพลนับแสน ชนปะทะกัน!</p>
<p>ถ้ามองจากมุมสูงลงไป ฉากที่ทำให้คนตกตะลึงนี้ปนด้วยความเศร้าสลดและเร้าใจอยู่หลายส่วน</p>
<p>ชายอ้วนกินน่องไก่ไปได้ครึ่งเดียวแล้วก็หยุด หยุดกินตั้งแต่ตอนที่เริ่มสู้รบกัน น่องไก่ที่มันเลี่ยนถูกกำอยู่ในมือ ส่วนมืออีกข้างถือไหสุรา เขากำลังก้มมองท้องฟ้าที่อยู่ข้างล่าง</p>
<p>ชายผอมที่อยู่ข้างกันกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็ยื่นมือไปหยิบไหสุราในมือชายอ้วน เงยหน้ากรอกเข้าปากไปหนึ่งคำ พอเช็ดปากแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวชมว่า &#8220;ช่างเป็นวีรบุรุษ! เกิดมาเป็นลูกผู้ชาย สามารถสละเลือดร้อนๆ ได้สักครั้ง ก็นับว่าไม่เสียชาติเกิดเหมือนกัน!&#8221;</p>
<p>&#8220;ตอนแรกมีข่าวลือ บอกว่าหนิวโหย่วเต๋อโดนเพื่อนร่วมงานด่าทอดูหมิ่น แต่ยอมหดหัวเป็นเต่าไม่กล้าเถียงกลับ ช่างเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดในใต้หล้า เป็นเรื่องน่าขำที่สุดในโลก!&#8221; ชายอ้วนหันกลับมา ทั้งสองสบตากันแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าดูการปะทะข้างล่างต่อไป</p>
<p>ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ที่ก่อนหน้าที่พุ่งใส่ขบวนทัพใหญ่หนึ่งล้าน ก็เป็นเพราะคนส่วนใหญ่หลบเลี่ยงการต่อสู้ ตอนนี้กำลังพลหนึ่งแสนกว่าไม่ได้วางกำลังรบ และไม่ได้หลบหลีกเช่นกัน แต่รวมตัวกันเป็นฝ่ายพุ่งเข้ามาโจมตีก่อน ทหารสวรรค์สามพันกว่าคนที่ขี่สัตว์เทพก็คือกำลังหลัก แค่ลักษณะพลังที่แสดงออกมาก็ไม่เหมือนกันแล้ว เมื่อกำลังแบบนี้รวมตัวกันขึ้นมา ต่อให้เป็นนักพรตบงกชรุ้งก็ยังต้องถอย แต่เหมียวอี้กลับดันทุรังพุ่งเข้าใส่</p>
<p>ฉากนี้ทำให้แม้แต่จอมพลเถิงเฟยก็ยังทำสีหน้าตกตะลึง ยังไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น นี่ต้องใช้ความกล้าหาญขนาดไหนถึงจะทำแบบนี้ได้? ถ้าเปลี่ยนเป็นคนปกติทั่วไปก็คงรีบหนีแล้ว เขายอมรับว่าถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเองในปีที่วรยุทธ์เท่านี้ ก็ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้อยู่ดี</p>
<p>&#8220;ยอมตายดีกว่ายอมแพ้เหรอ? ทำไมต้องลำบากขนาดนี้!&#8221; จอมพลเถิงถอนหายใจ</p>
<p>บรรยากาศอันน่าตกตะลึงที่แฝงไปด้วยความเศร้าโศกเร้าใจทำให้โค่วเหวินชิงเบิกตากว้าง ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง มีแต่ความตกตะลึง ตกตะลึงอยู่ในหัวใจ นางอยู่ในแดนฝึกตนมาหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผู้ชายแบบนี้</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินที่ทำสีหน้าสะเทือนอารมณ์ก็ได้แต่ตาค้างเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น</p>
<p>เกาก้วนกลับขมวดคิ้วมุ่น เหมียวอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่กำลังฝืนประคองตัวเองอยู่ ถึงแม้จะปิดบังคนอื่นได้ แต่กลับปิดบังสายตาของเขากับเถิงเฟยไม่ได้ ในสายตาเขา การกระทำของเหมียวอี้คือการรนหาที่ตาย เขาคิดไม่ตกว่าทำไมเหมียวอี้ต้องทำแบบนี้</p>
<p>หารู้ไม่ว่าสำหรับเหมียวอี้แล้ว ในใจตอนนี้มีอยู่เหตุผลเดียว นั่นก็คือไม่มีเหตุผล!</p>
<p>ถ้าจะให้หาเหตุผลสักข้อหนึ่ง นั่นก็คือยังฆ่าคนได้ไม่มากพอ! ยังฆ่าไม่หนำใจ! ข้าก็แค่อยากจะใจร้อนวู่วามสักรอบ! ไม่อย่างนั้นในใจก็จะเป็นทุกข์เพราะเก็บกด!</p>
<p>ใบหน้าแต่ละหน้าที่ตราตรึงอยู่ในใจเขาก่อนหน้านี้ ตอนแรกเขาอยู่ลำพังแต่กลับมีคนอยากเอาชีวิตเขา การหลบหนีของพวกจางฮั่นฟางได้จุดไฟบางอย่างขึ้นในใจเขาแล้ว ไม่มีใครเข้าใจได้ถึงความรู้สึกที่เขาเก็บกลั้นเงียบๆ ตลอดมาหลังจากโดนหยามหมิ่นที่จวนแม่ทัพภาคตงหัว…</p>
<p>เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้กัน จู่ๆ จ้านหรูอี้ที่ขี่สัตว์พาหนะนำรบอยู่แนวหน้าก็กระทืบเท้า</p>
<p>&#8220;กรรร…&#8221; สัตว์เกราะทองคำรามฟ้าพลันคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ปากที่เหมือนแอ่งเลือดอ้าออก แสงสีทองเรืองรองสายหนึ่งที่เหมือนทั้งคลื่นเมฆทั้งระลอกคลื่นก็โจมตีไปยังเหมียวอี้ที่พุ่งมาตรงหน้า</p>
<p>ปฏิกิริยาแรกของเหมียวอี้ก็คือ สัตว์พาหนะของอีกฝ่ายเป็นประเภทที่สามารถใช้คลื่นเสียงโจมตีได้ คลื่นเสียงสามารถกลายเป็นแสงสีทองที่มีรูปร่างได้ คาดว่าคงจะมีความพิเศษยิ่งกว่าเดิม</p>
<p>ไม่สนใจว่าจะใช่หรือไม่ใช่ เหมียวอี้ไม่สนด้วยว่ารสชาติหลังจากถูกโจมตีจะเป็นอย่างไร รีบใช้เพลิงจิตปกป้องร่างกายอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ปกป้องเฮยทั่นด้วย</p>
<p>แทบจะเป็นชั่วพริบตาเดียว แสงสีทองหลายชั้นที่ถาโถมเข้ามาก็ปกคลุมเขากับเฮยทั่นเอาไว้แล้ว รอบกายทั้งสองมีระลอกคลื่นสาดซัดหนึ่งชั้น รู้สึกได้ถึงพลังโจมตีไร้รูปร่างที่สามารถทำให้คนสะท้านใจ ส่วนความรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างอื่นนั้นไม่มี</p>
<p>คนหนึ่งคนกับสัตว์พาหนะหนึ่งตัวพุ่งไปหาจ้านหรูอี้ต่อ</p>
<p>&#8220;เอ๋! ต้านทานการโจมตีกลืนวิญญาณของสัตว์เกราะทองคำรามฟ้าได้ยังไง&#8221; จอมพลเถิงที่ดูการต่อสู้กล่าวอย่างประหลาดใจ &#8220;สงสัยหนิวโหย่วเต๋อจะฝึกเคล็ดวิชาลับที่ไม่ธรรมดา&#8221;</p>
<p>นี่ก็คือความคิดของจ้านหรูอี้เช่นกัน เห็นเหมียวอี้ยังขี่สัตว์พาหนะอย่างมั่นคงและโจมตีฝ่าแสงสีทองที่สัตว์เกราะทองคำรามฟ้าพ่นเข้ามา ไม่มีปฏิกิริยาผิดปกติเลยแม้แต่น้อย นางตกใจอยู่บ้าง จึงรีบยกมือขึ้น ในกำไลเก็บสมบัติพลันมีกระบี่วิเศษผลึกแดงบริสุทธิ์ยาวประมาณหนึ่งจั้งพ่นออกมา</p>
<p>จ้านหรูอี้ใช้มือข้างหนึ่งจับทวน แล้วใช้มืออีกข้างชี้ควบคุม กระบี่ใหญ่ฟันออกไปอย่างฉับพลัน รอบๆ ตัวกระบี่มีกระแสไฟฟ้าลอยขึ้นมา</p>
<p>เหมียวอี้ใช้ฝ่ามือข้างเดียวยันไว้ ขณะกำลังจะผลักลูกกลมตีไม่พังออกมาต้านทาน คาดไม่ถึงว่าจ้านหรูอี้จะกางนิ้วทั้งห้า กระบี่ใหญ่พลันกลายเป็นกระบี่เล็กยาวเท่าแขนกระจายออกมาร้อยเล่ม ลากเป็นตาข่ายสายฟ้ากระจายออกมา ราวกับมีแหใหญ่ผืนหนึ่งครอบเหมียวอี้กับเฮยทั่นเอาไว้ด้วยกัน</p>
<p>เหมียวอี้ล้มเลิกความคิดที่จะใช้ลูกกลมตีไม่พังทันที ร่างกายของเขาพลิกอย่างรวดเร็ว อ้อมไปหลบอยู่ใต้ท้องเฮยทั่น</p>
<p>กระบี่บินที่มีตาข่ายไฟฟ้ายิงเข้ามาราวกับพายุฝน เฮยทั่นก้มหน้าปกป้องเหมียวอี้ที่อยู่ใต้ท้อง แล้วใช้หัวพุ่งชนเข้าไป</p>
<p>แกร๊งๆๆ! กระบี่บินสิบกว่าเล่มที่ยิงมาตรงหน้าถูกชนจนพลิกปลิวออกไป เฮยทั่นฝ่าออกจากตาข่ายไฟฟ้าได้อย่างห้าวหาญ กระแสไฟฟ้าโจมตีโดนตัวมัน แต่ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับมันเลย มันพุ่งตัวไปข้างหน้าต่อ</p>
<p>จ้านหรูอี้ตระหนกตกใจ สัตว์พาหนะของอีกฝ่ายไม่กลัวสายฟ้างั้นเหรอ?</p>
<p>นางจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าเฮยทั่นสามารถอาบน้ำอยู่ท่ามกลางสายฟ้าตอนเรียกฟ้าเรียกฝนได้ ในจุดนี้เหมียวอี้รู้ดีกว่านาง ถึงได้ให้เฮยทั่นมาเป็นโล่กำบังให้</p>
<p>มือข้างหนึ่งช้อนออกมาใต้ท้องเฮยทั่น คว้ากรวยแหลมแท่งหนึ่งที่อยู่บนเกราะรบเฮยทั่น แล้วพลิกตัวโผล่ออกมาจากใต้ท้องเฮยทั่นโดยตรง</p>
<p>ปฏิกิริยาอันรวดเร็วในการขึ้นลงนี้ทำให้คนที่กำลังดูการต่อสู้รู้สึกทึ่งมาก</p>
<p>พอจ้านหรูอี้โบกมือ กระบี่บินร้อยเล่มที่พุ่งเข้ามาก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เลี้ยวโค้ง กระบี่ใหญ่ที่มีสายฟ้าฟันไปทางแผ่นหลังของเหมียวอี้อย่างเกรี้ยวกราด</p>
<p>เหมียวอี้สาวเท้าเหยียบจากแผ่นหลังเฮยทั่นขึ้นไปบนยอดหัวของเฮยทั่น อาศัยแรงเฉื่อยจากการพุ่งโจมตีของเฮยทั่นเพื่อเหยียดเท้าดีดตัวออกมา รีบดึงระยะห่างระหว่างตัวเองกับจ้านหรูอี้ให้เข้าใกล้กัน แล้วปาดทวนออกมาโดยตรง</p>
<p>แต่ใครจะคาดคิด จ้านหรูอี้ไม่แสดงฝีมืออ่อนด้อยเลยสักนิด สาวเท้ากระโจนตัวขึ้นมาเช่นเดียวกัน ทะยานฟ้าพร้อมกางแขน ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นคนที่มีสามหัวหกแขน ในมือถือทวนสามด้าม โจมตีไปที่เหมียวอี้พร้อมกัน ร้ายกาจถึงขีดสุด ทั้งคู่ทะยานขึ้นฟ้าปะทะกันอย่างคล่องแคล่วแข็งแรง</p>
<p>สองหัวสี่แขนและทวนยาวหนึ่งด้ามของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นภาพมายา ดวงตาอิทธิฤทธิ์ไม่มีทางมองออกได้ และเหมียวอี้ก็ใช้ตาทิพย์ไม่ทันด้วย จึงรีบเอียงหน้าหลับตา พอสะบัดมือ ทวนยาวที่มีจุดดำขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลืองหมุนวนก็เอียงเล็กน้อย</p>
<p>จ้านหรูอี้ที่ใช้ทวนสามด้ามพร้อมกันตกใจมาก เห็นอีกฝ่ายหลับตามองข้ามภาพมายาของนาง แต่ยังสามารถปะทะกับอาวุธจริงของนางได้อย่างแม่นยำ</p>
<p>นางเปลี่ยนท่าไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงโจมตีปะทะกันตรงๆ</p>
<p>ตอนที่ทวนสองด้ามสัมผัสกัน จ้านหรูอี้ก็นึกเสียใจทีหลังทันที พลังที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งทำให้แขนของนางสูญเสียความรู้สึก ความรู้สึกสุดท้ายที่แวบเข้ามาในหัวก็คือเหลือเชื่อ</p>
<p>ปั้ง! ปั้ง!</p>
<p>เสียงสะเทือนดังขึ้นต่อเนื่องสองครั้ง ทวนยาวหลุดมือจ้านหรูอี้กระเด็นออกไปในชั่วพริบตาเดียว แล้วก็ถูกทวนแทงเข้ามาที่หน้าอกหนึ่งครั้ง &#8220;อั้ก!&#8221; นางตาเหลือกพร้อมเงยหน้ากระอักเลือดสดออกมาคำหนึ่ง สะเทือนจนร่างกระเด็นออกไปราวกับผีพุ่งใต้</p>
<p>เถิงเฟยที่หรี่ตามองพึงพำว่า &#8220;วิชาทวนของเจ้าบ้านี่บรรลุถึงความหมายที่ลึกซึ้งของการทำลายความว่างเปล่าแล้ว มิน่าล่ะ&#8221; เมื่อครู่นี้เขาสังเกตเห็นจุดสีดำที่แวบผ่านบนหัวทวนตอนที่เหมียวอี้ออกทวนแล้ว</p>
<p>เหมียวอี้ที่ยังไม่ทันลืมตาสะบัดหลัง ลูกกลมตีไม่พังเม็ดหนึ่งที่แขวนอยู่ข้างหลังพลันลอยออกมาปรากฏตัว กลายเป็นวัตถุขนาดใหญ่กันข้างหลังเขาเอาไว้</p>
<p>ปั้ง! กระบี่ใหญ่สายฟ้าที่ฟันโจมตีเข้ามาโดนลูกกลมสีแดง ชั่วพริบตาเดียวก็โดนแว้งกัด โดนลูกกลมสีแดงกลืนเข้าไปแล้ว</p>
<p>จากนั้นเหมียวอี้ก็ลืตาแล้วหันมาโบกมือเก็บลูกกลมตีไม่พังเอาไว้ เฮยทั่นที่พุ่งตามมาที่หลังแบกเขาสังหารไปข้างหน้าต่อ</p>
<p>ทั้งสองประมือสู้กันเพียงชั่วพริบตาเดียว คนที่ดูอยู่ทอดถอนใจด้วยความทึ่ง ต่างก็พากันชื่นชมอยู่ในใจ สมกับเป็นอันดับหนึ่งที่ราชันสวรรค์แต่งตั้งให้ทั้งคู่</p>
<p>ไม่ว่าใครก็ว่าจ้านหรูอี้ไร้ความสามารถไม่ได้ อย่างน้อยนางรู้ทั้งรู้ว่าหนิวโหย่วเต๋อห้าวหาญขนาดนี้แต่ก็ยังกล้าสู้กันตรงๆ ความกล้าหาญนี้ควรค่าแก่การชื่นชม ที่จริงความสามารถที่จ้านหรูอี้เพิ่งแสดงไปเมื่อครู่นี้ ทุกคนก็ได้เห็นแล้วเช่นกัน เพียงแต่หนิวโหย่วเต๋อมีระดับเหนือกว่าก็เท่านั้นเอง</p>
<p>ตอนนี้หนิวโหย่วเต๋อไม่เพียงแค่ห้าวหาญดุร้ายเท่านั้น แต่ดูจากวิธีการรับมือรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในชั่วพริบตาเดียวนั้น ก็รู้แล้วว่าเขาเชี่ยวชาญเรื่องการรบที่สุด</p>
<p>ทัพใหญ่หลายแสนที่พุ่งเข้ามาโจมตี พอเห็นแม่ทัพที่บุกนำมาโดนเหมียวอี้โจมตีจนกระเด็นออกไป พวกเขาก็ตกใจไม่เบาจริงๆ จ้านหรูอี้มีวรยุทธ์บงกชทองขั้นเก้าเชียวนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะต้านทานการโจมตีของหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว ล้อเล่นอะไรกัน!</p>
<p>ที่จริงในการรบครั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหมียวอี้เอาชนะนักพรตบงกชทองขั้นเก้าได้ภายในท่าเดียว ที่สำคัญคือก่อนหน้านี้ทุกคนไม่เห็นเอง</p>
<p>ก็เป็นเพราะว่าไม่เคยเห็นนี่แหละ พอมาเจออะไรแบบนี้กะทันหัน คนที่พุ่งตามมาข้างหลังถึงได้หวาดกลัวเพราะไม่ได้เตรียมใจ ขนาดนักพรตบงกชทองขั้นเก้ายังต้านไม่ไหวแม้แต่ท่าเดียว แถมอีกฝ่ายยังมีของที่เอาไว้เก็บของวิเศษโดยเฉพาะ ยังจะสู้กันทำบ้าอะไรล่ะ!</p>
<p>เมื่อเห็นจ้านหรูอี้สะเทือนจนกระเด็นถอยหลัง ก็มีคนรีบมาคว้าแขนจ้านหรูอี้เอาไว้ หัวสมองตอบสนองเร็วเหมือนกัน หันเลี้ยวแล้วหนีทันที ทั้งยังไม่ลืมที่จะหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองมีผลงานและไร้ความผิดอย่างสง่าผ่าเผย ตะโกนเสียงดังว่า &#8220;ปกป้องผู้บัญชาการใหญ่จ้าน!&#8221;</p>
<p>เขาปกป้อง ส่วนคนอื่นๆ ก็ลนลานหนีตามหลังไป ตามไปปกป้องแล้ว</p>
<p>พอทำแบบนี้ ทัพใหญ่ก็วุ่นวายไร้ระเบียบทันที กำลังหลักสามพันคนที่ขี่สัตว์เทพอยู่ข้างหน้าหนีไปทางซ้ายและขวา ทำให้กำลังพลที่ตามมาข้างหลังประสบหายนะ เหมียวอี้ที่ควบเฮยทั่นพุ่งมาเข้าไปในกลุ่มคนแล้ว ออกทวนราวกับมังกรสังหารเป็นทางเลือดอีกครั้ง สังหารจนมีเสียงกรีดร้องระงม</p>
<p>พอเถิงเฟยที่ดูการต่อสู้เห็นสภาพการณ์นี้ ก็รีบหยิบระฆังดาราออกมาแล้ว ไม่รู้ว่ากำลังติดต่อไปที่ไหน</p>
<p>กำลังพลแสนกว่าที่รวมตัวกันพุ่งเข้ามาเปลี่ยนเป็นหนีกระเจิดกระเจิงทันที เหมียวอี้ที่ยังสังหารไม่หนำใจพุ่งไปหาทัพใหญ่ที่รวมตัวกันตอนหลัง</p>
<p>คนที่อยู่ข้างหลังไม่กล้าแม้แต่จะบุกโจมตี ย่อมไม่มีใครมีเจตนาจะต่อสู้ ไม่มีใครเล่นกับเขาแล้ว ลนลานหนีกระเจิงอย่างสะบักสะบอมทันที</p>
<p>หลังจากเหมียวอี้สังหารฝ่าออกมาจากทัพใหญ่ ก็เหาะไปยังดาราจักรอันกว้างใหญ่ต่อ ครั้งนี้ไม่ได้กลับไปอีก</p>
<p>หัวหน้าของกำลังพลสายชวดที่อยู่บนฟ้าสูงและทำตัวอยู่นอกเหตุการณ์มาตลอด จู่ๆ ก็ร่ายอิทธิฤทธิ์ถามเสียงดังว่า &#8220;หนิวโหย่วเต๋อ ทำไมไม่มาเป็นพันธมิตรกับข้าเพื่อรับมือการทดสอบล่ะ?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ไม่รู้เลยว่าข้างหลังมีใครกำลังพูดกับเขาอยู่ เพียงตอบกลับเสียงดังว่า &#8220;พวกหนูต่ำต้อย หนิวอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอับอาย! ของที่ข้าไม่เก็บก็ถือว่าเป็นรางวัลให้พวกเจ้าแล้วกัน ใครเก็บได้ก็ถือว่าเป็นของคนนั้น&#8221;</p>
<p>พอพูดจบ จู่ๆ เหมียวอี้ที่หันหลังให้พวกเขาก็ยกมือกดหน้าอก ถ่มเลือดสดออกมาอีกคำ เลือดสดระหว่างปากและจมูกเริ่มไหลซึม แต่กลับดันทุรังไม่ปล่อยให้ร่างกายโอนเอน เพียงให้เฮยทั่นเร่งความเร็วจากไป</p>
<p>&#8220;&#8230;&#8221; คนที่ตะโกนขอเป็นพันธมิตรพูดไม่ออก</p>
<p>เกาก้วนมองตามเหมียวอี้จากไปไกล เหล่ตามองเถิงเฟยแวบหนึ่ง แล้วกล่าวเสียงเรียบว่า &#8220;ถ้าอยากจะรับเขาไว้ ก็ต้องถามผู้บังคับบัญชาของเขาก่อนว่าจะยอมปล่อยตัวมาหรือเปล่า&#8221;</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด