พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1696 ประนีประนอม

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1696 ประนีประนอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หรือไม่อย่างนั้น!” ถังเฮ่อเหนียนครุ่นคิดพลางชี้แนะ “แม้อวี้หลัวช่าจะไม่คายความจริง แต่พวกเราก็พิสูจน์จากอีกด้านหนึ่งได้ ถ้าไม่ใช่ประมุขชิงกับแดนพุทธะร่วมมือกันก่อเรื่องนี้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าพวกเราเป็นฝ่ายติดต่อไปก่อนว่าต้องการสงบเรื่องนี้ อวี้หลัวช่าก็ย่อมไม่พูดอะไรให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตอีก แบบนี้เรียกว่ากินปูนร้อนท้อง นางเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว ถ้าเรื่องราวลุกลามใหญ่โตก็จะเกิดปัญหากับนางเช่นกัน แอบใช้ยอดฝีมือจำนวนมากที่ฝั่งนี้เพราะคิดจะทำอะไรล่ะ? ประมุขพุทธะไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ ถ้าประมุขชิงกับทางนั้นร่วมมือกัน ใต้สังกัดนางสูญเสียยอดฝีมือไปมากขนาดนั้น อีทั้งยังไม่มีอะไรให้ห่วงหน้าพะวงหลัง นางจะต้องทวงความยุติธรรมแน่นอน อย่างน้อยก็”

“อืม!” โค่วหลิงซวีคิดตามคำพูดเขาพลางพยักหน้าเห็นด้วย “หรือพูดได้อีกอย่างว่า ถ้าอวี้หลัวช่าโวยวาย ก็แสดงว่าไม่มีเรื่องสมบัติลับ แต่ถ้าไม่โวยวายก็แสดงว่าในใจมีความผิด เรื่องสมบัติลับอาจจะเป็นเรื่องจริง”

“สามารถพิสูจน์จากมุมนี้ว่าหนิวโหย่วเต๋อหลอกพวกเราหรือไม่” ถังเฮ่อเหนียนพูดเสริม

โค่วหลิงซวีพยักหน้าช้าๆ

โค่วเจิงที่อยู่ข้างๆ กลับแอบร้อนใจ ตรงหน้ามีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถึงเริ่มถกกันเรื่องสมบัติลับแล้วล่ะ ต่อไปค่อยคุยกันไม่ได้เหรอ?

แน่นอน เขาเองก็ยอมรับว่าผู้อาวุโสสองท่านนี้พูดถูก ถ้าเป็นสมบัติลับที่มีแม้แต่พระปีศาจหนานโปยังอยากได้ ก็จะต้องเป็นของดีอะไรแน่นอน แต่ตอนนี้ลูกชายเขาเป็นตายอย่างไรก็ไม่รู้ชัด เขาคาดหวังให้เรื่องตรงหน้ากระจ่างไวๆ มากกว่า

อดทนได้พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ท่านพ่อ ท่านให้ข้าบอกหนิวโหย่วเต๋อว่าจะช่วยเขาไกล่เกลี่ยความแค้นระหว่างเขากับพวกขุนนางใหญ่ตำหนักสวรรค์ ข้าไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าแก้ไขได้ง่ายขนาดนั้น เหตุใดต้องรอจนถึงตอนนี้?”

โค่วหลิงซวีเข้าใจความรู้สึกของเขา อย่างไรเสียก็ยังไม่รู้ว่าโค่วเหวินไป๋เป็นหรือตาย เขาไม่สะดวกจะพูดอะไรที่สื่อว่าไม่สนใจความเป็นความตายของหลานชาย จึงส่งสายตาให้ถังเฮ่อเหนียน บอกใบให้อธิบายแทน

ถังเฮ่อเหนียนถอนหายใจแล้วบอกว่า “คุณชายใหญ่ คนที่พวกเราส่งไปตรวจสอบที่น้ำพุวังเวงพบพยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุที่น้ำพุวังเวง รู้มาจากปากเขาว่า ในที่เกิดเหตุมีกำลังพลตำหนักสวรรค์จำนวนมากปรากฏตัว”

โค่วเจิงอึ้งเล็กน้อย แล้วถามอย่างตกใจ “กำลังพลตำหนักสวรรค์ปราบปรามคนของตระกูลพวกเราเหรอ?”

ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “เกรงว่าจะเป็นอย่างนี้ ดูจากสถานการณ์ที่ตรวจสอบได้ตอนเกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุมีร่องรอยผ่านการโจมตีจากธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์จำนวนมาก เยอะจนน่าตกใจ มีความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือกำลังพลฝ่ายพวกเราใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์โจมตีหลายครั้งตอนสู้กัน แต่จากข่าวที่ส่งกลับมาตอนสู้กัน ก็ไม่ได้ใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ซ้ำหลายครั้ง เช่นนั้นก็เหลือความเป็นไปได้อีกอย่าง นั่นก็คือกำลังพลกลุ่มใหญ่ของตำหนักสวรรค์ใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์จำนวนมากโจมตี กำจัดกำลังพลของพวกเราในรวดเดียว กำลังพลของสี่อ๋องถึงได้ขาดการติดต่อไปพร้อมกัน”

โค่วเจิงเริ่มเบิกตากว้าง “กองทัพองครักษ์”

“เกรงว่าจะมีความเป็นไปได้” ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “ตอนที่ได้ข่าวจากคุณชายใหญ่ ท่านอ๋องกับอีกสามอ๋องก็กำลังประชุมกันอยู่ พร้อมทั้งเรียกรวมจอมพลกับเทพประจำดาวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาด้วย ให้พยานที่ได้ตัวมาให้การต่อหน้าทุกคน”

โค่วเจิงตกใจอีกครั้ง “เช่นนั้นจอมพลกับเทพประจำดาวใต้สังกัดจะไม่รู้กันหมดเหรอว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ถังเฮ่อเหนียนถอนหายใจ “สี่อ๋องสวรรค์ร่วมกันยอมรับผิดขออภัยต่อจอมพลและเทพประจำดาวทุกคน แต่พอรู้ความจริงก็จัดการได้แล้ว อย่างน้อยก็เข้าใจแล้ว ว่าความผิดไม่ได้อยู่ที่สี่อ๋องสวรรค์ แต่ประมุขชิงจงใจจะใช้วิธีการโหดร้าย อย่างไรเสียผู้ที่ลงมือล้อมโจมตีตอนสุดท้ายก็คือกองทัพองครักษ์ ถ้าไม่มีคำสั่งจากประมุขชิง กองทัพองครักษ์จะกล้าทำอย่างนี้ได้ยังไง!”

โค่วเจิงกล่าวอย่างเดือดดาล “ทำไมประมุขชิงต้องทำอย่างนี้?” กองทัพองครักษ์ลงมือแล้ว เขาเดาว่าลูกชายตัวเองอาจจะไมรอดแล้ว กองทัพองครักษ์ไม่กลัวภูมิหลังตระกูลโค่วของเขา ความโกรธนี้ไม่รู้จะเอาไประบายที่ไหน

ถังเฮ่อเหนียนตอบว่า “ไม่อาจแน่ใจจุดประสงค์ที่ประมุขชิงทำอย่างนี้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แน่ใจได้ นั่นก็คือเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะหนิวโหย่วเต๋อ ในเมื่อประมุขชิงใช้หนิวโหย่วเต๋อเป็นเป็นตัวนำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ประการต่อมาก็กำลังช่วยหนิวโหย่วเต๋อเช่นกัน เพียงเพราะไม่อยากให้ตระกูลอิ๋งวางกับดักสำเร็จ ทั้งยังเก็บหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้ควบคุมท่านอ๋องต่อได้ด้วย ขอเพียงหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้ สามารถกดให้อยู่ที่ตลาดผีต่อไปได้ ตระกูลอื่นๆ ก็จะต้องทรมานต่อไป มีประมุขชิงวางแผนอยู่เบื้องหลัง เกรงว่าสี่อ๋องล้วนไม่ได้อยู่อย่างสงบ”

“แล้วตอนนี้จะทำยังไง ปล่อยไปอย่างนี้น่ะเหรอ?” โค่วเจิงยกมือถาม

ถังเฮ่อเหนียนกล่าวช้าๆ “ประมุขชิงถ่ายทอดคำสั่งให้สี่อ๋องสวรรค์โดยตรงแล้ว บอกว่าสี่อ๋องสวรรค์ทำให้ใต้หล้าวุ่นวายมาก สั่งให้สี่อ๋องสวรรค์หยุดฝึกกำลังพลเดี๋ยวนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนถือว่าเป็นปฏิปักษ์ จะสั่งให้กองทัพองครักษ์ล้างเลือดปราบปราม ประหารเก้าชั่วโคตร! เป็นไปได้สูงว่าประมุขชิงจะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ยโห้วแล้ว ไม่มีความพะว้าพะวงจากศึกใหญ่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะใช้วิธีที่แข็งกร้าวอย่างนี้เหรอ!”

โค่วเจิงอยากจะเคลื่อนทัพใหญ่ยกธงก่อกบฏเสียเลย ในเมื่อประมุขชิงไม่อยากให้ทุกคนอยู่กันดีๆ เช่นนั้นก็อย่าได้คิดจะครองใต้หล้าเลย แต่เขาก็รู้ว่าแบบนี้เป็นเรื่องเพ้อฝัน ถ้าไม่เดินไปจนถึงขั้นสุดท้าย ก็ไม่มีใครอยากดึงตระกูลที่ยิ่งใหญ่และเกียรติยศความร่ำรวยที่ใช้ไม่หมดไปสู้กันจนตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย

แต่ความโกรธแค้นในใจเขายากจะหายไป ยังอดไม่ได้ที่จะกุมหมัดคารวะโค่วหลิงซวีเพื่อถามสิ่งที่ตัวเองเดาคำตอบได้แล้ว “ไม่ทราบว่าท่านพ่อมีความคิดเห็นอย่างไร?”

โค่วหลิงซวีก้มหน้าก้มตา

ถังเฮ่อเหนียนรีบตอบแทน “ประมุขชิงถ่ายทอดคำสั่งอย่างเปิดเผย ตระกูลเซี่ยโห้วก็แอบบอกบางอย่างที่แสดงท่าทีของประมุขชิงอีก ถ้าสี่ทัพถอนกำลังตอนนี้ ประมุขชิงก็จะปล่อยผ่านเรื่องที่แล้วมา จะทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แม้จอมพลและเทพประจำดาวสายต่างๆ เบื้องล่างจะแสดงท่าทีว่าฟังคำสั่งเพียงสี่อ๋องสวรรค์เท่านั้น แต่สี่อ๋องสวรรค์ล้วนดูออก ว่าทุกคนไม่ได้ยินดีจะสละชีวิตทำศึก อย่างไรเสียกองทัพองครักษ์ก็มีอาวุธที่และกำลังรบที่ได้เปรียบ สี่อ๋องร่วมมือกันถึงแม้จะมีกำลังเยอะกว่า แต่ต่อให้ชนะก็เป็นการชนะที่ย่อยยับ ไม่มีความก้าวหน้าอะไรอีก ผลสุดท้ายก็คือทั้งฝ่ายเราและประมุขชิงจะสู้กันจนเจ็บตัวทั้งสองฝ่าย มีแต่จะให้คนอื่นมาชุบมือเปิบตักตวง ผลประโยชน์ ทางฝั่งประมุขพุทธะไม่มีทางนิ่งดูดาย แต่ประมุขชิงก็แอบยื่นบันไดให้ทุกคนลงแล้ว ให้กำลังพลเบื้องล่างยอมรับความเสียหายจากการออกล่าที่น้ำพุวังเวง หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย สี่อ๋องสวรรค์ทำได้เพียงตอบกลับว่ายินดีน้อมรับบัญชาประมุขชิง!”

โค่วเจิงส่ายหน้าช้าๆ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มฝืนทน กล่าวว่า “ครั้งนี้ประมุขชิงลงมือกับลูกหลานของตระกูลต่างๆ แล้ว แสดงเขี้ยวเล็บออกมาบ้างแล้ว คำพูดของเขายังเชื่อได้อีกเหรอ?”

ถังเฮ่อเหนียนบอกว่า “ดังนั้นย่อมต้องแอบมีเงื่อนไขในการถอนกำลัง ตั้งแต่วันนี้ไป เกรงว่าท่านอ๋องคงจะไม่ไปเข้าร่วมประชุมราชสำนักที่วังสรรค์อีกแล้ว ต้องให้คุณชายใหญ่เข้าประชุมแทน”

“หา!” โค่วเจิงหลุดออกมาจากความโกรธทันที ยังนึกว่าตัวเองฟังผิดไป ถามอย่างทำใจเชื่อได้ยากว่า “ให้ข้าเข้าประชุมราชสำนัก? แล้วท่านพ่อล่ะ?”

ถังเฮ่อเหนียนอธิบายว่า “นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลเซี่ยโห้วแอบบอกเป็นการส่วนตัว ส่วนจอมพลและเทพประจำดาวใต้สังกัดก็กลัวแล้วเช่นกัน กังวลว่าจะเกิดสภาพมังกรไร้หัว ทยอยกันขอให้สี่อ๋องสวรรค์รักษากำลังทหารไว้ให้มั่นคง เพราะฉีกหน้ากันไปแล้วรอบหนึ่ง จึงอย่าไปเสี่ยงอันตรายที่วังสรรค์เลย เจตนาของฝูงชนยากจะฝ่าฝืน ดังนั้นตั้งแต่นี้ไป สี่อ๋องสวรรค์จะหาทำเลอื่นสร้างจวนอ๋องสวรรค์ใหม่ในอาณาเขตของสี่ทัพ ออกจากวังสรรค์เพื่อป้องกันเหตุล่วงหน้า ขณะเดียวกันก็เลือกทายาทสักคนให้เป็นตัวแทนเข้าประชุมราชสำนัก ตระกูลโค่วก็ย่อมเป็นคุณชายใหญ่อยู่แล้ว”

“ประมุขชิงจะตอบตกลงเหรอ?” โค่วเจิงปละหลาดใจ

ถังเฮ่อเหนียนตอบว่า “ตอบตกลงแล้ว ในเมื่อตระกูลเซี่ยโห้วแอบบอกมาอย่างนี้ เกรงว่าคงจะมีตระกูลเซี่ยโห้วแอบกดดันวังสรรค์อยู่ เรื่องราววุ่นวายถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าตระกูลเซี่ยโห้วยืนฝั่งสี่อ๋องสวรรค์ ประมุขชิงอาศัยแค่กองทัพองครักษ์ในมือก็นับว่ามีโอกาสชนะมากนัก ดังนั้นเขาจึงต้องตอบตกลง และเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ข้างบนข้างล่างยากจะกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็สอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลเซี่ยโห้วที่สุด ไม่อย่างนั้นตระกูลเซี่ยโห้วจะออกแรงช่วยขนาดนี้ทำไม จิ้งจอกเฒ่าเซี่ยโห้วท่านั่นนั่งอยู่ในที่มืดไม่พูดอะไร ครั้งนี้นับเป็นโอกาสให้ตักตวง แน่นอน สี่อ๋องสวรรค์ก็ไม่พลาดโอกาสลงมือเช่นกัน ต่างคนต่างทวงขอธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์สองล้านคันจากวังสรรค์”

“ประมุขชิงตอบตกลงแล้วเหรอ?” โค่วเจิงถาม

ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “ตอบตกลงว่าจะจัดสรรให้แล้ว การอยากปกครองใต้หล้าก็คือจุดอ่อนใหญ่ที่สุดของประมุขชิง ทว่าในเมื่ออยากจะครองใต้หล้า จะไม่เด็ดขนสักเส้นเลยได้อย่างไรล่ะ? มิหนำซ้ำก็ต้องชดเชยให้พวกจอมพลกับเทพประจำดาวที่สูญเสียที่น้ำพุวังเวง ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ชุดนั้นย่อมเป็นของดีที่สุดในการปลอบประโลมใจคน”

โค่วเจิงถอนหาใจเบาๆ “ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก ประมุขชิงทำไมต้องทำให้วุ่นวายอย่างนี้”

ถังเฮ่อเหนียนบอกว่า “พวกท่านอ๋องเดาว่า ประมุขชิงลงมือแบบนี้เพราะอยากจะทดสอบท่าทีของพวกท่านอ๋อง นี่ก็คือลักษณะการทำงานของเขา ถ้าพวกท่านอ๋องยอมถอย เขาก็จะยอมถอยเช่นกัน พวกท่านอ๋องจึงแข็งใจปล่อยวาง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สูญเสียอะไร เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้สี่อ๋องสวรรค์จะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้”

โค่วเจิงพยักหน้าเงียบๆ จากนั้นก็สงสัยอีก “แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับการแกไขความแค้นระหว่างหนิวโหย่วเต๋อกับทุกคน?”

ถังเฮ่อเหนียนเอามือขยี้เครา “จะว่าไปแล้วก็ได้วิธีการนี้ก็มาเพราะความบังเอิญ มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลในใต้หล้า ทางวังสรรค์คงอยากสอดแนมกองทัพ ฝั่งพวกเราจับตัวสายลับของหน่วยตรวจการขวาได้คนหนึ่ง สายลับคนนั้นจะเป็นจะตายก็ไม่ยอมสารภาพอะไร ในเวลาแบบนี้บ่าวก็ไม่กล้าประมาท เตรียมจะไปดูด้วยตัวเองว่าอะไรเป็นอะไรแล้วค่อยตัดสินชี้ขาด แต่พอไปถึงประตูคุกกลับได้ยินสายลับนั่นพูดจาถากถางโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้จะเป็นคำพูดถากถางหยอกล้อท่านอ๋อง แต่กลับต้องยอมรับว่าคำพูดไม่กี่ประโยคนั่นแทงใจดำ”

พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็กุมหมัดขออภัยโค่วหลิงซวี แล้วพูดต่อไปว่า “หลังจากบ่าวกลับมาบอกท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง จึงถือโอกาสคุยกับอีกสี่อ๋องพอดี เป้าหมายที่ประมุขชิงกดหนิวโหย่วเต๋อไว้ที่ตลาดผี ทุกคนต่างรู้กันหมดแล้ว ตอนหลังก็ยิ่งเกิดเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างที่เห็น จากเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าประมุขชิงช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังหนิวโหย่วเต๋อ ต่อให้ลงมือยังไงแต่ก็ยากที่จะทำอะไรหนิวโหย่วเต๋อได้ ยังจะคิดไม่ได้เชียวเหรอ ยังจะปล่อยให้ประมุขชิงปั่นเล่นอยู่เบื้องหลังอีกเหรอ? ที่จริงพวกเราตกอยู่ในวงจรอุบาทว์แล้วยากจะถอนตัว ดังนั้นตั้งแต่นี้ไปทุกคนก็ไม่ต้องสนใจหนิวโหย่วเต๋อแล้ว ให้เขารับผลกรรมเอาเอง และอย่าไปหาเรื่องเขาด้วย ให้เขาอยู่ที่ตลาดผีตลอดไปเลยก็แล้วกัน ให้ประมุขชิงเล่นไปคนเดียว ทุกคนไม่ต้องสนใจเขา เป็นไปไม่ได้ที่ประมุขชิงจะย้ายหนิวโหย่วเต๋อกลับมากองทัพองครักษ์อีก ถ้าเขายินดีจะย้ายกลับไป อยากจะขึ้นหรืออยากจะลงก็ตามใจเขา หนิวโหย่วเต๋อเคยทรยศประมุขชิงมาก่อน ผ่านเรื่องนั้นจนมีช่องโหว่มาแล้ว อีกทั้งประมุขชิงยังขี้ระแวง เป็นไปไม่ได้ที่คิดจะเลี้ยงหนิวโหย่วเต๋อไว้เป็นลูกน้องคนสนิทอีก

ทุกคนไม่ต้องกังวลแล้วว่าหนิวโหย่วเต๋อจะเติบโตไปมากกว่านี้ จะย้ายหนิวโหย่วเต๋อกลับมาตักตวงผลประโยชน์ที่ตลาดสวรรค์อีกน่ะเหรอ? แบบนั้นจะไม่ทำให้หนิวโหย่วเต๋อได้ประโยชน์หรือไง? ไม่สู้โยนหนิวโหย่วเต๋อไว้ที่ตลาดผีต่อไปดีกว่า ดังนั้นขอเพียงทุกคนวางมือ ชาตินี้หนิวโหย่วเต๋อคงจะต้องเป็นแม่ทัพภาคที่ตลาดผีไปทั้งชีวิตแล้ว พอเป็นแบบนี้ก็จะได้ชื่อว่าสมปรารถนาท่านอ๋องเช่นกัน ทุกคนล้วนได้หลุดพ้นแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าลงมืออีกก็จะเป็นการสู้กับประมุขชิง มีตระกูลอิ๋งเป็นบทเรียนให้เห็นแล้วนี่ ถ้าไม่กลัวเกิดปัญหาก็ลองอีกได้ เหตุผลก็อธิบายไว้ชัดเจนแล้ว เมื่อลองชั่งน้ำหนักดูทุกคนก็ย่อมตอบตกลง แน่นอน นี่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าท่านอ๋องรับประกันกับอีกสามอ๋องว่าจะไม่เลี้ยงหนิวโหย่วเต๋ออีก ถ้าหากทรยศ อีกสามอ๋องก็จะร่วมมือกันบีบให้ตระกูลโค่วต้องจ่าย! เฮ้อ ในที่สุดก็แก้ไขเรื่องหนิวโหย่วเต๋อได้แล้ว!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1696 ประนีประนอม

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1696 ประนีประนอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หรือไม่อย่างนั้น!” ถังเฮ่อเหนียนครุ่นคิดพลางชี้แนะ “แม้อวี้หลัวช่าจะไม่คายความจริง แต่พวกเราก็พิสูจน์จากอีกด้านหนึ่งได้ ถ้าไม่ใช่ประมุขชิงกับแดนพุทธะร่วมมือกันก่อเรื่องนี้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าพวกเราเป็นฝ่ายติดต่อไปก่อนว่าต้องการสงบเรื่องนี้ อวี้หลัวช่าก็ย่อมไม่พูดอะไรให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตอีก แบบนี้เรียกว่ากินปูนร้อนท้อง นางเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว ถ้าเรื่องราวลุกลามใหญ่โตก็จะเกิดปัญหากับนางเช่นกัน แอบใช้ยอดฝีมือจำนวนมากที่ฝั่งนี้เพราะคิดจะทำอะไรล่ะ? ประมุขพุทธะไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ ถ้าประมุขชิงกับทางนั้นร่วมมือกัน ใต้สังกัดนางสูญเสียยอดฝีมือไปมากขนาดนั้น อีทั้งยังไม่มีอะไรให้ห่วงหน้าพะวงหลัง นางจะต้องทวงความยุติธรรมแน่นอน อย่างน้อยก็”

“อืม!” โค่วหลิงซวีคิดตามคำพูดเขาพลางพยักหน้าเห็นด้วย “หรือพูดได้อีกอย่างว่า ถ้าอวี้หลัวช่าโวยวาย ก็แสดงว่าไม่มีเรื่องสมบัติลับ แต่ถ้าไม่โวยวายก็แสดงว่าในใจมีความผิด เรื่องสมบัติลับอาจจะเป็นเรื่องจริง”

“สามารถพิสูจน์จากมุมนี้ว่าหนิวโหย่วเต๋อหลอกพวกเราหรือไม่” ถังเฮ่อเหนียนพูดเสริม

โค่วหลิงซวีพยักหน้าช้าๆ

โค่วเจิงที่อยู่ข้างๆ กลับแอบร้อนใจ ตรงหน้ามีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถึงเริ่มถกกันเรื่องสมบัติลับแล้วล่ะ ต่อไปค่อยคุยกันไม่ได้เหรอ?

แน่นอน เขาเองก็ยอมรับว่าผู้อาวุโสสองท่านนี้พูดถูก ถ้าเป็นสมบัติลับที่มีแม้แต่พระปีศาจหนานโปยังอยากได้ ก็จะต้องเป็นของดีอะไรแน่นอน แต่ตอนนี้ลูกชายเขาเป็นตายอย่างไรก็ไม่รู้ชัด เขาคาดหวังให้เรื่องตรงหน้ากระจ่างไวๆ มากกว่า

อดทนได้พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ท่านพ่อ ท่านให้ข้าบอกหนิวโหย่วเต๋อว่าจะช่วยเขาไกล่เกลี่ยความแค้นระหว่างเขากับพวกขุนนางใหญ่ตำหนักสวรรค์ ข้าไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าแก้ไขได้ง่ายขนาดนั้น เหตุใดต้องรอจนถึงตอนนี้?”

โค่วหลิงซวีเข้าใจความรู้สึกของเขา อย่างไรเสียก็ยังไม่รู้ว่าโค่วเหวินไป๋เป็นหรือตาย เขาไม่สะดวกจะพูดอะไรที่สื่อว่าไม่สนใจความเป็นความตายของหลานชาย จึงส่งสายตาให้ถังเฮ่อเหนียน บอกใบให้อธิบายแทน

ถังเฮ่อเหนียนถอนหายใจแล้วบอกว่า “คุณชายใหญ่ คนที่พวกเราส่งไปตรวจสอบที่น้ำพุวังเวงพบพยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุที่น้ำพุวังเวง รู้มาจากปากเขาว่า ในที่เกิดเหตุมีกำลังพลตำหนักสวรรค์จำนวนมากปรากฏตัว”

โค่วเจิงอึ้งเล็กน้อย แล้วถามอย่างตกใจ “กำลังพลตำหนักสวรรค์ปราบปรามคนของตระกูลพวกเราเหรอ?”

ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “เกรงว่าจะเป็นอย่างนี้ ดูจากสถานการณ์ที่ตรวจสอบได้ตอนเกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุมีร่องรอยผ่านการโจมตีจากธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์จำนวนมาก เยอะจนน่าตกใจ มีความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือกำลังพลฝ่ายพวกเราใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์โจมตีหลายครั้งตอนสู้กัน แต่จากข่าวที่ส่งกลับมาตอนสู้กัน ก็ไม่ได้ใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ซ้ำหลายครั้ง เช่นนั้นก็เหลือความเป็นไปได้อีกอย่าง นั่นก็คือกำลังพลกลุ่มใหญ่ของตำหนักสวรรค์ใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์จำนวนมากโจมตี กำจัดกำลังพลของพวกเราในรวดเดียว กำลังพลของสี่อ๋องถึงได้ขาดการติดต่อไปพร้อมกัน”

โค่วเจิงเริ่มเบิกตากว้าง “กองทัพองครักษ์”

“เกรงว่าจะมีความเป็นไปได้” ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “ตอนที่ได้ข่าวจากคุณชายใหญ่ ท่านอ๋องกับอีกสามอ๋องก็กำลังประชุมกันอยู่ พร้อมทั้งเรียกรวมจอมพลกับเทพประจำดาวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาด้วย ให้พยานที่ได้ตัวมาให้การต่อหน้าทุกคน”

โค่วเจิงตกใจอีกครั้ง “เช่นนั้นจอมพลกับเทพประจำดาวใต้สังกัดจะไม่รู้กันหมดเหรอว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ถังเฮ่อเหนียนถอนหายใจ “สี่อ๋องสวรรค์ร่วมกันยอมรับผิดขออภัยต่อจอมพลและเทพประจำดาวทุกคน แต่พอรู้ความจริงก็จัดการได้แล้ว อย่างน้อยก็เข้าใจแล้ว ว่าความผิดไม่ได้อยู่ที่สี่อ๋องสวรรค์ แต่ประมุขชิงจงใจจะใช้วิธีการโหดร้าย อย่างไรเสียผู้ที่ลงมือล้อมโจมตีตอนสุดท้ายก็คือกองทัพองครักษ์ ถ้าไม่มีคำสั่งจากประมุขชิง กองทัพองครักษ์จะกล้าทำอย่างนี้ได้ยังไง!”

โค่วเจิงกล่าวอย่างเดือดดาล “ทำไมประมุขชิงต้องทำอย่างนี้?” กองทัพองครักษ์ลงมือแล้ว เขาเดาว่าลูกชายตัวเองอาจจะไมรอดแล้ว กองทัพองครักษ์ไม่กลัวภูมิหลังตระกูลโค่วของเขา ความโกรธนี้ไม่รู้จะเอาไประบายที่ไหน

ถังเฮ่อเหนียนตอบว่า “ไม่อาจแน่ใจจุดประสงค์ที่ประมุขชิงทำอย่างนี้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แน่ใจได้ นั่นก็คือเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะหนิวโหย่วเต๋อ ในเมื่อประมุขชิงใช้หนิวโหย่วเต๋อเป็นเป็นตัวนำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ประการต่อมาก็กำลังช่วยหนิวโหย่วเต๋อเช่นกัน เพียงเพราะไม่อยากให้ตระกูลอิ๋งวางกับดักสำเร็จ ทั้งยังเก็บหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้ควบคุมท่านอ๋องต่อได้ด้วย ขอเพียงหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้ สามารถกดให้อยู่ที่ตลาดผีต่อไปได้ ตระกูลอื่นๆ ก็จะต้องทรมานต่อไป มีประมุขชิงวางแผนอยู่เบื้องหลัง เกรงว่าสี่อ๋องล้วนไม่ได้อยู่อย่างสงบ”

“แล้วตอนนี้จะทำยังไง ปล่อยไปอย่างนี้น่ะเหรอ?” โค่วเจิงยกมือถาม

ถังเฮ่อเหนียนกล่าวช้าๆ “ประมุขชิงถ่ายทอดคำสั่งให้สี่อ๋องสวรรค์โดยตรงแล้ว บอกว่าสี่อ๋องสวรรค์ทำให้ใต้หล้าวุ่นวายมาก สั่งให้สี่อ๋องสวรรค์หยุดฝึกกำลังพลเดี๋ยวนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนถือว่าเป็นปฏิปักษ์ จะสั่งให้กองทัพองครักษ์ล้างเลือดปราบปราม ประหารเก้าชั่วโคตร! เป็นไปได้สูงว่าประมุขชิงจะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ยโห้วแล้ว ไม่มีความพะว้าพะวงจากศึกใหญ่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะใช้วิธีที่แข็งกร้าวอย่างนี้เหรอ!”

โค่วเจิงอยากจะเคลื่อนทัพใหญ่ยกธงก่อกบฏเสียเลย ในเมื่อประมุขชิงไม่อยากให้ทุกคนอยู่กันดีๆ เช่นนั้นก็อย่าได้คิดจะครองใต้หล้าเลย แต่เขาก็รู้ว่าแบบนี้เป็นเรื่องเพ้อฝัน ถ้าไม่เดินไปจนถึงขั้นสุดท้าย ก็ไม่มีใครอยากดึงตระกูลที่ยิ่งใหญ่และเกียรติยศความร่ำรวยที่ใช้ไม่หมดไปสู้กันจนตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย

แต่ความโกรธแค้นในใจเขายากจะหายไป ยังอดไม่ได้ที่จะกุมหมัดคารวะโค่วหลิงซวีเพื่อถามสิ่งที่ตัวเองเดาคำตอบได้แล้ว “ไม่ทราบว่าท่านพ่อมีความคิดเห็นอย่างไร?”

โค่วหลิงซวีก้มหน้าก้มตา

ถังเฮ่อเหนียนรีบตอบแทน “ประมุขชิงถ่ายทอดคำสั่งอย่างเปิดเผย ตระกูลเซี่ยโห้วก็แอบบอกบางอย่างที่แสดงท่าทีของประมุขชิงอีก ถ้าสี่ทัพถอนกำลังตอนนี้ ประมุขชิงก็จะปล่อยผ่านเรื่องที่แล้วมา จะทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แม้จอมพลและเทพประจำดาวสายต่างๆ เบื้องล่างจะแสดงท่าทีว่าฟังคำสั่งเพียงสี่อ๋องสวรรค์เท่านั้น แต่สี่อ๋องสวรรค์ล้วนดูออก ว่าทุกคนไม่ได้ยินดีจะสละชีวิตทำศึก อย่างไรเสียกองทัพองครักษ์ก็มีอาวุธที่และกำลังรบที่ได้เปรียบ สี่อ๋องร่วมมือกันถึงแม้จะมีกำลังเยอะกว่า แต่ต่อให้ชนะก็เป็นการชนะที่ย่อยยับ ไม่มีความก้าวหน้าอะไรอีก ผลสุดท้ายก็คือทั้งฝ่ายเราและประมุขชิงจะสู้กันจนเจ็บตัวทั้งสองฝ่าย มีแต่จะให้คนอื่นมาชุบมือเปิบตักตวง ผลประโยชน์ ทางฝั่งประมุขพุทธะไม่มีทางนิ่งดูดาย แต่ประมุขชิงก็แอบยื่นบันไดให้ทุกคนลงแล้ว ให้กำลังพลเบื้องล่างยอมรับความเสียหายจากการออกล่าที่น้ำพุวังเวง หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย สี่อ๋องสวรรค์ทำได้เพียงตอบกลับว่ายินดีน้อมรับบัญชาประมุขชิง!”

โค่วเจิงส่ายหน้าช้าๆ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มฝืนทน กล่าวว่า “ครั้งนี้ประมุขชิงลงมือกับลูกหลานของตระกูลต่างๆ แล้ว แสดงเขี้ยวเล็บออกมาบ้างแล้ว คำพูดของเขายังเชื่อได้อีกเหรอ?”

ถังเฮ่อเหนียนบอกว่า “ดังนั้นย่อมต้องแอบมีเงื่อนไขในการถอนกำลัง ตั้งแต่วันนี้ไป เกรงว่าท่านอ๋องคงจะไม่ไปเข้าร่วมประชุมราชสำนักที่วังสรรค์อีกแล้ว ต้องให้คุณชายใหญ่เข้าประชุมแทน”

“หา!” โค่วเจิงหลุดออกมาจากความโกรธทันที ยังนึกว่าตัวเองฟังผิดไป ถามอย่างทำใจเชื่อได้ยากว่า “ให้ข้าเข้าประชุมราชสำนัก? แล้วท่านพ่อล่ะ?”

ถังเฮ่อเหนียนอธิบายว่า “นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลเซี่ยโห้วแอบบอกเป็นการส่วนตัว ส่วนจอมพลและเทพประจำดาวใต้สังกัดก็กลัวแล้วเช่นกัน กังวลว่าจะเกิดสภาพมังกรไร้หัว ทยอยกันขอให้สี่อ๋องสวรรค์รักษากำลังทหารไว้ให้มั่นคง เพราะฉีกหน้ากันไปแล้วรอบหนึ่ง จึงอย่าไปเสี่ยงอันตรายที่วังสรรค์เลย เจตนาของฝูงชนยากจะฝ่าฝืน ดังนั้นตั้งแต่นี้ไป สี่อ๋องสวรรค์จะหาทำเลอื่นสร้างจวนอ๋องสวรรค์ใหม่ในอาณาเขตของสี่ทัพ ออกจากวังสรรค์เพื่อป้องกันเหตุล่วงหน้า ขณะเดียวกันก็เลือกทายาทสักคนให้เป็นตัวแทนเข้าประชุมราชสำนัก ตระกูลโค่วก็ย่อมเป็นคุณชายใหญ่อยู่แล้ว”

“ประมุขชิงจะตอบตกลงเหรอ?” โค่วเจิงปละหลาดใจ

ถังเฮ่อเหนียนตอบว่า “ตอบตกลงแล้ว ในเมื่อตระกูลเซี่ยโห้วแอบบอกมาอย่างนี้ เกรงว่าคงจะมีตระกูลเซี่ยโห้วแอบกดดันวังสรรค์อยู่ เรื่องราววุ่นวายถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าตระกูลเซี่ยโห้วยืนฝั่งสี่อ๋องสวรรค์ ประมุขชิงอาศัยแค่กองทัพองครักษ์ในมือก็นับว่ามีโอกาสชนะมากนัก ดังนั้นเขาจึงต้องตอบตกลง และเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ข้างบนข้างล่างยากจะกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็สอดคล้องกับผลประโยชน์ของตระกูลเซี่ยโห้วที่สุด ไม่อย่างนั้นตระกูลเซี่ยโห้วจะออกแรงช่วยขนาดนี้ทำไม จิ้งจอกเฒ่าเซี่ยโห้วท่านั่นนั่งอยู่ในที่มืดไม่พูดอะไร ครั้งนี้นับเป็นโอกาสให้ตักตวง แน่นอน สี่อ๋องสวรรค์ก็ไม่พลาดโอกาสลงมือเช่นกัน ต่างคนต่างทวงขอธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์สองล้านคันจากวังสรรค์”

“ประมุขชิงตอบตกลงแล้วเหรอ?” โค่วเจิงถาม

ถังเฮ่อเหนียนพยักหน้า “ตอบตกลงว่าจะจัดสรรให้แล้ว การอยากปกครองใต้หล้าก็คือจุดอ่อนใหญ่ที่สุดของประมุขชิง ทว่าในเมื่ออยากจะครองใต้หล้า จะไม่เด็ดขนสักเส้นเลยได้อย่างไรล่ะ? มิหนำซ้ำก็ต้องชดเชยให้พวกจอมพลกับเทพประจำดาวที่สูญเสียที่น้ำพุวังเวง ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ชุดนั้นย่อมเป็นของดีที่สุดในการปลอบประโลมใจคน”

โค่วเจิงถอนหาใจเบาๆ “ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก ประมุขชิงทำไมต้องทำให้วุ่นวายอย่างนี้”

ถังเฮ่อเหนียนบอกว่า “พวกท่านอ๋องเดาว่า ประมุขชิงลงมือแบบนี้เพราะอยากจะทดสอบท่าทีของพวกท่านอ๋อง นี่ก็คือลักษณะการทำงานของเขา ถ้าพวกท่านอ๋องยอมถอย เขาก็จะยอมถอยเช่นกัน พวกท่านอ๋องจึงแข็งใจปล่อยวาง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สูญเสียอะไร เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้สี่อ๋องสวรรค์จะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้”

โค่วเจิงพยักหน้าเงียบๆ จากนั้นก็สงสัยอีก “แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับการแกไขความแค้นระหว่างหนิวโหย่วเต๋อกับทุกคน?”

ถังเฮ่อเหนียนเอามือขยี้เครา “จะว่าไปแล้วก็ได้วิธีการนี้ก็มาเพราะความบังเอิญ มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลในใต้หล้า ทางวังสรรค์คงอยากสอดแนมกองทัพ ฝั่งพวกเราจับตัวสายลับของหน่วยตรวจการขวาได้คนหนึ่ง สายลับคนนั้นจะเป็นจะตายก็ไม่ยอมสารภาพอะไร ในเวลาแบบนี้บ่าวก็ไม่กล้าประมาท เตรียมจะไปดูด้วยตัวเองว่าอะไรเป็นอะไรแล้วค่อยตัดสินชี้ขาด แต่พอไปถึงประตูคุกกลับได้ยินสายลับนั่นพูดจาถากถางโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้จะเป็นคำพูดถากถางหยอกล้อท่านอ๋อง แต่กลับต้องยอมรับว่าคำพูดไม่กี่ประโยคนั่นแทงใจดำ”

พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็กุมหมัดขออภัยโค่วหลิงซวี แล้วพูดต่อไปว่า “หลังจากบ่าวกลับมาบอกท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง จึงถือโอกาสคุยกับอีกสี่อ๋องพอดี เป้าหมายที่ประมุขชิงกดหนิวโหย่วเต๋อไว้ที่ตลาดผี ทุกคนต่างรู้กันหมดแล้ว ตอนหลังก็ยิ่งเกิดเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างที่เห็น จากเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าประมุขชิงช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังหนิวโหย่วเต๋อ ต่อให้ลงมือยังไงแต่ก็ยากที่จะทำอะไรหนิวโหย่วเต๋อได้ ยังจะคิดไม่ได้เชียวเหรอ ยังจะปล่อยให้ประมุขชิงปั่นเล่นอยู่เบื้องหลังอีกเหรอ? ที่จริงพวกเราตกอยู่ในวงจรอุบาทว์แล้วยากจะถอนตัว ดังนั้นตั้งแต่นี้ไปทุกคนก็ไม่ต้องสนใจหนิวโหย่วเต๋อแล้ว ให้เขารับผลกรรมเอาเอง และอย่าไปหาเรื่องเขาด้วย ให้เขาอยู่ที่ตลาดผีตลอดไปเลยก็แล้วกัน ให้ประมุขชิงเล่นไปคนเดียว ทุกคนไม่ต้องสนใจเขา เป็นไปไม่ได้ที่ประมุขชิงจะย้ายหนิวโหย่วเต๋อกลับมากองทัพองครักษ์อีก ถ้าเขายินดีจะย้ายกลับไป อยากจะขึ้นหรืออยากจะลงก็ตามใจเขา หนิวโหย่วเต๋อเคยทรยศประมุขชิงมาก่อน ผ่านเรื่องนั้นจนมีช่องโหว่มาแล้ว อีกทั้งประมุขชิงยังขี้ระแวง เป็นไปไม่ได้ที่คิดจะเลี้ยงหนิวโหย่วเต๋อไว้เป็นลูกน้องคนสนิทอีก

ทุกคนไม่ต้องกังวลแล้วว่าหนิวโหย่วเต๋อจะเติบโตไปมากกว่านี้ จะย้ายหนิวโหย่วเต๋อกลับมาตักตวงผลประโยชน์ที่ตลาดสวรรค์อีกน่ะเหรอ? แบบนั้นจะไม่ทำให้หนิวโหย่วเต๋อได้ประโยชน์หรือไง? ไม่สู้โยนหนิวโหย่วเต๋อไว้ที่ตลาดผีต่อไปดีกว่า ดังนั้นขอเพียงทุกคนวางมือ ชาตินี้หนิวโหย่วเต๋อคงจะต้องเป็นแม่ทัพภาคที่ตลาดผีไปทั้งชีวิตแล้ว พอเป็นแบบนี้ก็จะได้ชื่อว่าสมปรารถนาท่านอ๋องเช่นกัน ทุกคนล้วนได้หลุดพ้นแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าลงมืออีกก็จะเป็นการสู้กับประมุขชิง มีตระกูลอิ๋งเป็นบทเรียนให้เห็นแล้วนี่ ถ้าไม่กลัวเกิดปัญหาก็ลองอีกได้ เหตุผลก็อธิบายไว้ชัดเจนแล้ว เมื่อลองชั่งน้ำหนักดูทุกคนก็ย่อมตอบตกลง แน่นอน นี่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าท่านอ๋องรับประกันกับอีกสามอ๋องว่าจะไม่เลี้ยงหนิวโหย่วเต๋ออีก ถ้าหากทรยศ อีกสามอ๋องก็จะร่วมมือกันบีบให้ตระกูลโค่วต้องจ่าย! เฮ้อ ในที่สุดก็แก้ไขเรื่องหนิวโหย่วเต๋อได้แล้ว!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+