พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1198 ถึงเวลาแล้ว

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1198 ถึงเวลาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>เมื่อโดนข้อหานี้ เซี่ยโห้วหลงเฉิงค่อนข้างพูดไม่ออก</p>
<p>พอพูดจบ เหมียวอี้ก็ไม่ให้เวลาเซี่ยโห้วหลงเฉิงตอบสนอง รีบนำแผ่นหยกออกมา เขียนอะไรบางอย่างลงไป แล้วโยนให้เซี่ยโห้วหลงเฉิงโดยตรง &#8220;นี่คือหนังสือท้ารบ หลังจากการทดสอบจบลงแล้ว เจ้ากับข้าก็มาสู้ตายกันสักตั้ง ข้าเป็นฝ่ายท้าเจ้าเอง ถ้าข้าตายด้วยน้ำมือเจ้า ก็จะไม่ถามหาความรับผิดชอบอะไรจากเจ้าทั้งนั้น ถ้าเจ้าไม่กลัวตาย ก็ต้องกล้าหาญเขียนสัญญาไม่เอาเรื่อง แล้วหลังจากนั้นก็มาสู้ตายกับข้าสักตั้ง!&#8221;</p>
<p>แค่หมีควายเจ้าอารมณ์ที่สมองไม่ค่อยมีรอยหยักอย่างเซี่ยโห้วหลงเฉิง เมื่อโดนเหมียวอี้ปลุกปั่นต่อหน้าคนมากๆ แบบนี้ มีหรือที่จะหลบเลี่ยง มิหนำซ้ำเดิมทีก็ไม่กลัวเหมียวอี้อยู่แล้ว จึงถลึงตาตอบทันที &#8220;ลงนามก็ลงนาม คิดว่าข้ากลัวรึไง?&#8221;</p>
<p>&#8220;พี่เซี่ยโห้ว!&#8221; ต่งอิ้งเกากดแขนเซี่ยโห้วหลงเฉิง บอกใบ้ให้ไตร่ตรองอีกที</p>
<p>แต่ใครจะคิดว่าเซี่ยโห้วหลงเฉิงไม่รับไมตรี ไม่สนว่าจะเป็นคนฝ่ายตัวเองหรือไม่ สะบัดแขนตะคอกว่า &#8220;ไสหัวไป!&#8221;</p>
<p>ต่งอิ้งเกาถูกดุต่อหน้าฝูงชนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองดูเซี่ยโห้วหลงเฉิงหยิบแผ่นหยกออกมาลงนามสัญญาแล้วโยนให้เหมียวอี้ เรียกได้ว่าค่อนข้างพูดไม่ออก อีกฝ่ายจะรอดกลับมาจากการทดสอบได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้เลย ลงนามสัญญาบ้าอะไรล่ะ เขาเอบถอนหายใจ ขนาดนี้ยังถูกปลุกปั่นได้ สมองธรรมดาสามัญจริงๆ</p>
<p>เหมียวอี้อ่านเนื้อหาในแผ่นหยก เมื่อบรรลุเป้าหมาย ในใจก็ปลาบปลื้ม โบกแผ่นหยกในมือพร้อมบอกว่า &#8220;ไม่ไปส่งนะ!&#8221;</p>
<p>&#8220;ไปกัน!&#8221; เซี่ยโห้วหลงเฉิงโบกมืออย่างห้าวหาญมาก นำคนเดินออกไปแล้ว</p>
<p>เหมียวอี้ที่โล่งใจกลับมายังที่นอนของตัวเอง นั่งสมาธิบนไม้กระดานต่อไป</p>
<p>คนที่อยู่ใกล้ๆ พากันมองไปที่เขา ในหัวมีแสงสว่างแห่งปัญญาเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่นถังซานที่อยู่ติดกัน ทำสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิด ส่วนปี้เยว่ฮูหยินที่รู้เรื่องความแค้นระหว่างเหมียวอี้กับเซี่ยโห้วหลงเฉิงก็ถอนหายใจเบาๆ แอบชื่นชมว่าเหมียวอี้มีความสามารถ พูดแค่คำสองคำก็ระงับเซี่ยโห้วหลงเฉิงที่จัดการยากที่สุดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าเซี่ยโห้วหลงเฉิงลงมือขึ้นมา ผู้บัญชาการใหญ่หนิวจะต้องปวดหัวแน่นอน</p>
<p>เพราะสาเหตุนี้เอง ปี้เยว่ฮูหยินจึงเกิดความสงสัยในใจ หรือว่าหนิวโหย่วเต๋อมีความมั่นใจว่ารอดพ้นจากการทดสอบครั้งนี้ไปได้?</p>
<p>ภายใต้คำสั่งของเกาก้วน ได้กำจัดคนที่มาราวีเหมียวอี้แล้วไม่น้อยเลย ถึงแม้ตอนหลังจะมีคนทยอยมายืนยันอีกว่าคนไหนคือหนิวโหย่วเต๋อ แต่กลับไม่มีใครกล้ามาท้าทายอีก</p>
<p>วันฝนตกสลับกันวันฟ้าใสดำเนินไปต่อเนื่องเป็นเวลาครึ่งเดือนกว่า ระหว่างนั้นยังมีคนทยอยมาถึงเรื่อยๆ</p>
<p>ตอนการทดสอบที่สถานที่ไร้ชีวิตครั้งก่อน กลุ่มคนที่มาสายแล้วโดนเกาก้วนประหารก็ได้มีให้เห็นเป็นบทเรียนแล้ว ไม่มีใครกล้าตกค้างอีก สมาชิกผู้เข้าร่วมการทดสอบหนึ่งล้านแปดแสนกว่าคน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ต่างก็มากันครบก่อนจะถึงกำหนดเวลา</p>
<p>ฝนตกอีกครึ่งเดือน ฟ้าใสอีกครึ่งเดือน จากนั้นก็มีฝนตกติด่อกันอีกหลายวัน</p>
<p>ยิ่งเข้าใกล้วันทดสอบ สมาชิกผู้เข้าร่วมทดสอบที่รออยู่ในเพิงมุงจากของพื้นแอ่งก็เรียกได้ว่าเริ่มตึงเครียดขึ้นมาทีละนิด ทุกคนผ่อนคลายไม่ไหวอีกต่อไป แดนอเวจีเชียวนะ! แดนอเวจี! นั่นคือสถานที่อันตรายซึ่งราชันสวรรค์เคยนำทัพใหญ่ไปปราบเองแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้!</p>
<p>ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะใดๆ จากในพื้นแอ่งนั้นอีกแล้ว สมาชิกวิ่งเต้นไปทั่ว ตามหาพันธมิตรอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือกับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พวกจางฮั่นฟางก็ไม่มีอารมณ์มาหาเรื่องเหมียวอี้เช่นกัน ต่างก็กำลังวางแผนสำหรับเข้าแดนอเวจี ส่วนซูลี่ก็ตามติดอยู่หลังก้นพวกจางฮั่นฟาง</p>
<p>แม้แต่ปี้เยว่ฮูหยินที่เป็นคนนอกก็ยังรู้สึกกดดันเพราะตัวอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ สมาชิกหนึ่งล้านแปดแสนกว่าคนที่เข้าร่วมการทดสอบ ไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตกลับมาได้สักกี่คน ตรงหน้ามีคนเดินไปเดินมา นางเอียงหน้ามองไปทางเหมียวอี้ที่นั่งสมาธิฝึกตนอยู่ในมุม มีเพียงเหมียวอี้ที่ไม่ขยับเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้ไปหาพันธมิตร</p>
<p>นางเองก็รู้อย่างแจ่มแจ้ง ว่าเขาคือคนโดดเดี่ยวในการทดสอบครั้งนี้ ทั้งยังเป็นคนโดดเดี่ยวที่ทุกคนอยากจะเหยียบอีกด้วย ต่อให้ไปหาพรรคพวกแต่ก็ไม่มีใครต้องการอยู่ดี ทำได้เพียงโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ในมุม</p>
<p>ในวันที่ฝนห่าใหญ่เทลงมาในแอ่ง ปี้เยว่ฮูหยินและแม่ทัพภาคอีกแปดร้อยกว่าคนรวมตัวกันฟังคำสั่งเกาก้วน หลังจากได้รับคำสั่งแล้วก็กลับมายังที่พักของตัวเองเพื่อแจกจ่ายกฎกติกาในการทดสอบให้ลูกน้องทุกคน</p>
<p>เหมียวอี้และสมาชิกผู้เข้าร่วมทดสอบคนอื่นๆ รับแผ่นหยกมาอ่านเนื้อหาที่อยู่ในนั้นอย่างละเอียด เนื้อหาการทดสอบรวมทั้งวิธีตัดสินคะแนนทดสอบนับว่าถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว</p>
<p>ในเนื้อหาระบุไว้ว่า พื้นที่บริเวณทางเข้าออกของแดนอเวจีไม่รวมอยู่ในขอบเขตการทดสอบ เพราะพื้นที่สองเขตนั้นถูกตำหนักสวรรค์สำรวจจนคุ้ยเคยตั้งนานแล้ว สมาชิกผู้เข้าร่วมทดสอบจะต้องไปสำรวจสถานการณ์ของอาณาเขตอื่น</p>
<p>เกณฑ์การตัดสินคะแนนก็จะอิงตามขนาดอาณาเขตที่สำรวจรวมทั้งรายละเอียดสถานการณ์ที่สำรวจได้ คนเข้าร่วมการทดสอบมากขนาดนี้ เขตพื้นที่ที่สำรวจได้จะต้องมีซ้ำกันอยู่แล้ว แต่ตำหนักสวรรค์ไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น ใครสำรวจเขตพื้นที่ได้ใหญ่กว่า สืบเสาะสถานการณ์ได้ละเอียดกว่า คนนั้นก็จะชนะ ไม่มีเหตุผลอื่นต้องอธิบาย</p>
<p>นอกจากนี้ ถ้าใครสำรวจในเขตที่คนอื่นไม่มีข้อมูล ก็แสดงว่าไปในที่ที่คนอื่นไม่กล้าไป ก็จะถูกเน้นให้อยู่ในกลุ่มผู้ที่มีโอกาสชนะ</p>
<p>ถ้าใครหาประตูดวงดาวบานใหม่ที่ไปแดนอเวจีพบ หรือหาเส้นทางใหม่สำหรับเข้านรกพบ ก็สามารถมารายงานตัวเพื่อจบการทดสอบได้ทุกเมื่อ ต่อให้เจ้าจะเข้าร่วมการทดสอบได้แค่ปีเดียว แต่เจ้าจะไม่เข้าร่วมการทดสอบตอนหลังก็ได้ จะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ชนะโดยตรง ตลาดสวรรค์แปดพันกว่าแห่งของตำหนักสวรรค์ เจ้าจะเลือกเป็นผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าระดับของเจ้าจะสูงหรือต่ำ แต่ก็จะถูกเลื่อนยศให้เป็นแม่ทัพเกราะม่วงหนึ่งแถบโดยตรง จะได้ค่าจ้างเหมือนแม่ทัพเกราะม่วงหนึ่งแถบ ถ้ามียศเดิมระดับนั้นอยู่แล้ว ก็จะถูกเลื่อนให้สูงขึ้นอีกขั้น</p>
<p>เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทางเข้าออกแห่งเดียวถูกคนค้นพบเยอะเกินไป คนที่ค้นพบก่อนจะชนะ ส่วนคนที่เหลือไม่นับ ต้องกลับไปอยู่จนจบเวลาทดสอบที่เหลืออยู่</p>
<p>ทุกจุดที่สำรวจค้นหามาได้ จะต้องมีภาพเส้นทางที่ละเอียดเพื่อให้ตำหนักสวรรค์ตรวจสอบได้ ถ้าพบว่ามีใครหลอกลวง ประหาร!</p>
<p>จุดสิ้นสุดการทดสอบคือทางเข้าแดนอเวจีที่แผนที่ดาวระบุไว้</p>
<p>เวลาของการทดสอบยังคงเป็นหนึ่งร้อยปีเหมือนเดิม!</p>
<p>คำเตือนสุดท้ายก็คือ สมาชิกที่เข้าร่วมทดสอบอย่าเอาแค่คิดจะดักซุ่มอยู่ใกล้ๆ ทางออกแดนอเวจีเพื่อปล้นฆ่าผลงานที่สมาชิกคนอื่นหามาอย่างยากลำบาก โจรกบฏในนรกจะต้องรู้ข่าวเรื่องการทดสอบครั้งนี้แล้วอย่างแน่นอน บริเวณทางออกคือจุดที่อันตรายที่สุด ให้ทุกคนชั่งน้ำหนักผลที่จะตามมาเอาเอง มีแค่ช่วงที่ใกล้จะจบการทดสอบเท่านั้น ตำหนักสวรรค์ถึงจะส่งกองทัพใหญ่ไปกวาดล้างเขตพื้นที่นั้น ควบคุมบริเวณทางออกเพื่อปกป้องให้ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย</p>
<p>ถ้าการทดสอบจบแล้วเข้ามาในบริเวณทางออก ในขอบเขตที่กองทัพใหญ่ควบคุมอยู่จะไม่อนุญาตให้ปล้นฆ่ากันเอง หากใครฝ่าฝืน ก็ไม่ว่าจะมีภูมิหลังเป็นอย่างไร ประหารไม่ละเว้น!</p>
<p>ส่วนเวลาอื่นและสถานที่อื่นในระหว่างที่ทดสอบ ทุกคนจะทำอะไรก็ตามใจ อย่างไรเสียหลังจากที่ทุกคนเข้าไปในนรกแล้ว ตำหนักสวรรค์ก็ไม่มีทางควบคุมการกระทำของทุกคนได้อยู่ดี ที่บอกว่าห้ามทำอย่างนั้นห้ามทำอย่างนี้ก็เป็นเพียงการหลอกตัวเอง</p>
<p>เจตนานี้ชัดเจนมาก ต้องการจะกดดันให้คนหนึ่งล้านแปดแสนกว่าคนนี้ทดสอบอย่างซื่อสัตย์ อย่าคิดที่จะมาชุบมือเปิบในด่านสุดท้าย</p>
<p>เมื่อเนื้อหาคำเตือนประกาศออกมา ก็ไม่รู้ว่ามีคนตั้งเท่าไรที่ร่ำร้องในใจ โดยเฉพาะพวกที่เป็นผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์อยู่แล้ว หรือไม่ก็ลูกหลานผู้มีอำนาจที่สามารถดึงกำลังพลมาช่วยเหลือได้ มีคนไม่น้อยที่เตรียมจะซ่อนตัวอยู่บริเวณทางออกเพื่อรอปล้นผลงานของคนอื่นในตอนสุดท้าย ตอนนี้นับว่าสิ้นหวังโดยสิ้นเชิงแล้ว</p>
<p>ถ้าไม่แย่งชิงตรงทางออก แล้วคิดจะแย่งชิงตรงจุดอื่น นรกกว้างใหญ่ขนาดนั้น เจ้าก็ต้องเจอเป้าหมายเหมือนกัน อย่างน้อยตัวเองก็ต้องวิ่งไปทุกที่ถึงจะได้ ถ้าตัวเองกล้าเพ่นพ่านไปทุกที่ ก็แสดงว่าจริงจังกับการทดสอบแล้ว ยังจะต้องไปปล้นอะไรใครอีกล่ะ</p>
<p>คนที่มีความคิดไม่ซื่ออยู่ในใจคาดไม่ถึงว่ากติกาการทดสอบครั้งนี้จะเด็ดขาดขนาดนี้ นี่คือการบังคับให้ทุกคนสู้สุดชีวิต หรือไม่ก็กดดันให้ผู้บัญชาการใหญ่บางคนที่อยากจะรกษาตำแหน่งไว้เป็นฝ่ายสละตำแหน่งเอง</p>
<p>จาเหรินจวิ้นที่ถือกติกาทดสอบอยู่ในมือเรียกได้ว่าใจแป้วไปครึ่งหนึ่งแล้ว การทดสอบสองครั้งก่อนหน้านี้อนุญาตให้ปล้นฆ่ากันในด่านสุดท้ายไม่ใช่เหรอ? ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?</p>
<p>แล้วแบบนี้เขาจะให้จาหรูเยี่ยนอาหญิงของตัวเองไปบอกกำลังพลของอาเขยเพื่ออะไร เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองมีศักยภาพพอที่จะนำกลุ่มคนฝ่าฟันอยู่ที่แดนอเวจีได้</p>
<p>พอได้อ่านกฎกติกานี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่ามีลูกหลานผู้มีอำนาจตั้งเท่าไรที่อยากจะเอาหัวโขกพื้นให้ตาย อยากจะถอนตัวตอนนี้ก็สายไปแล้ว ถ้าอยากจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ ก็ต้องถามท่านผู้คุมหน้านิ่งคนนั้นก่อนว่าอนุญาตมั้ย!</p>
<p>นี่คือกติกาการทดสอบที่พุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงตลาดสวรรค์อย่างแท้จริง ต้องการจะเตะพวกไร้คามสามารถออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ให้หมด</p>
<p>มีผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์มากมายที่ตัดใจแล้วโดยสิ้นเชิง ความหวังสุดท้ายที่จะรักษาตำแหน่งไว้ถูดตัดทิ้งไปแล้ว ทำได้เพียงละทิ้งตำแหน่งเพื่อรักษาชีวิต</p>
<p>คนบางคนก็เป็นแบบนี้ เวลาสู้ตายปล้นแย่งกับคนของตัวเองหรือต่อสู้กันเองภายใน พวกเขาก็ค่อนข้างมีความกล้าหาญ ทำงานคนเดียวได้ประสิทธิภาพเหมือนทำสองคน แต่พอเจอกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นหรือสิ่งที่ไม่รู้ชัดเจน ก็จะค่อนข้างหวาดกลัว จะเริ่มหดหัวทันที ลักษณะอันน่าเกรงขามตอนอยู่กับหน่วยงานของตัวเองหายไปหมดสิ้น</p>
<p>ทว่ากฎการทดสอบที่เข้มงวดแบบนี้ สำหรับพวกนักพรตที่ไม่มีภูมิหลังและมาสมัครเข้าร่วมทดสอบเพื่ออนาคต หลังจากได้อ่านแล้วก็ดีใจมาก อย่างน้อยตำหนักสวรรค์ก็รับประกันความยุติธรรมให้พวกเขาได้ในระดับหนึ่ง</p>
<p>ถ้ากฎการทดสอบนี้ประกาสไปตั้งแต่แรก เกรงว่าคนที่อยากจะมาเข้าร่วมการทดสอบคงจะไม่ได้มีแค่เท่านี้</p>
<p>สมาชิกที่เข้าร่วมทดสอบแต่ละคนที่ได้รับแจกกฎการทดสอบ ตอนนี้กำลังอ่านเนื้อหาอย่างจริงจริงจังอยู่ในเพิงมุงจาก บางคนก็ดีใจบางคนก็กลุ้มใจ</p>
<p>สำหรับคนส่วนใหญ่ นี่คือหนึ่งวันหนึ่งคืนที่ลำบากเกินทน</p>
<p>วันต่อมา ฝนยังไม่หยุด เมฆดำลอยเต็มฟ้า ละอองฝนโปรยปราย</p>
<p>ในห้องถ้ำบนยอดเขา ท่านผู้คุมที่สีหน้าเย็นชา สวมหมวกทรงสูง สวมผ้าคลุมสีดำ สวมรองเท้ายาวสีดำที่มีพื้นหนาสีขาวเดินก้าวยาวออกมา ทางซ้ายและขวามีกำลังพลสองกลุ่มเดินออกมาและกระจายตัวกัน</p>
<p>เกาก้วนที่ยืนอยู่บนบันไดยื่นฝ่ามือสีขาวข้างหนึ่งจากผ้าคลุมออกมารับเม็ดฝนที่เย็นใส</p>
<p>&#8220;นายท่าน!&#8221; จุยหย่วนที่อยู่ข้างกายกุมหมัดคารวะ &#8220;ถึงเวลาแล้วขอรับ!&#8221;</p>
<p>เกาก้วนสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบอะไร ฝ่ามือที่รับละอองฝนโบกเบาๆ</p>
<p>&#8220;ขอรับ!&#8221; จุยหย่วนหันตัวมา แล้วตะโกนว่า &#8220;ลั่นกลอง!&#8221;</p>
<p>ทหารสวรรค์ด้านล่างที่ยืนตากฝนอยู่ตรงหน้ากลองสะท้านฟ้าโบกไม้กลองตีทันที</p>
<p>ตุ้งๆๆๆๆ&#8230;</p>
<p>เสียงกลองสะท้านฟ้าดังก้องฮึกเหิม ละอองฝนที่โปรบปรายสั่นไหวตามเสียงกลอง เมฆดำที่อยู่บนฟ้าก็สะเทือนขึ้นลงเช่นกัน เสียงกลองดังพอที่จะครอบคลุมทั้งพื้นแอ่ง</p>
<p>น้ำที่ขังอยู่ในแอ่งเล็กแอ่งใหญ่ระหว่างเพิงมุงจากสะเทือนจนเป็นโคลนขุ่นทันที กระเพื่อมเป็นระลอก สมาชิกผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนต่างก็ตกใจ รวมทั้งเหมียวอี้ด้วย คนส่วนใหญ่เพิ่งเคยได้ยินเสียงกลองที่สะท้านใจขนาดนี้เป็นครั้งแรก</p>
<p>ปี้เยว่ฮูหยินกระโดดลงมาจากไม้กระดานที่นั่งสมาธิทันที ตะคอกด้วยน้ำเสียงดุดันว่า &#8220;รวมตัว! ถ้าเสียงกลองดังสามยกแล้วยังไม่ประจำตำแหน่ง ประหาร!&#8221;</p>
<p>เสียงของแม่ทัพภาคแต่ละคนในพื้นแอ่งดังต่อเนื่องเป็นระลอก</p>
<p>ชั่วพริบตาเดียว เงาคนนับไม่ถ้วนก็แฉลบลอยออกมาจากเพิงมุงจาก ต่างคนต่างลอยอยู่บนฟ้าเหนือเพิงมุงจากของตัวเอง ลอยจัดแถวอยู่ในพื้นแอ่งพลางฟังเสียงกลองที่เขย่าใจคน ปี้เยว่ฮูหยินและแม่ทัพภาคคนอื่นๆ รีบนับว่ากำลังพลมากันครบหรือยัง หากจำนวนคนที่เข้าแดนอเวจีผิดพลาด คนที่จะซวยก่อนก็คือพวกเขา</p>
<p>กำลังพลที่ลอยกระจายยุ่งเหยิงอยู่บนพื้นแอ่งเปลี่ยนเป็นมีระเบียบอย่างรวดเร็ว กำลังพลหนึ่งล้านแปดแสนกว่าคนสวมชุดเกราะเรียงแถวอยู่ภายใต้เมฆครึ้มที่พัดม้วน มีพลังอำนาจน่าตกตะลึง</p>
<p>หลังจากเสียงกลองสามยกจบลง ท่ามกลางกองทัพใหญ่เกราะทองที่ยาวเหยียดจนมองไม่เห็นปลายแถวก็ไม่มีช่องว่างแล้ว</p>
<p>เกาก้วนกวาดสายตาเย็นเยียบมองกองทัพใหญ่ที่รวมตัวกัน จู่ๆ ก็โบกมือสะบัดผ้าคลุม เหาะพุ่งขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว</p>
<p>&#8220;ออกเดินทางตามลำดับแถว!&#8221; จุยหย่วนร่ายอิทธิฤทธิ์ตะโกนด้วยเสียงอันดังก้อง</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด